lie - นิยาย lie : Dek-D.com - Writer
×

    lie

    โดย pomelo39

    เมื่อมันเป็นคำขอร้องจากคุณตา การหมั้นครั้งนี้มันก็ต้องเกิดขึ้นสินะ...แต่ใครจะไปเปิดเผยตัวเองล่ะ แล้วเราจะได้เจอกัน...พายนัท

    ผู้เข้าชมรวม

    444

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    444

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  12 ม.ค. 58 / 00:00 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูรายการอีบุ๊กทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ คำขอของคุณตา

    วันพฤหัสบดี เวลา 12.30 น. ที่สนามบินประเทศญี่ปุ่น

    ชั้นเดินทางจากเมืองไทยเพราะคำขอร้องของคุณตา เพราะเป็นสิ่งที่ท่านต้องการก่อนที่ท่านจะจากไป แต่ท่านยังไม่ตายนะ ชั้นนั่งเครื่องจากเมืองไทยขอบอกว่านี่คือครั้งแรกที่ชั้นมาญี่ปุ่นคนเดียว อันที่จริงชั้นก็มาที่นี่หลายครั้งแล้วล่ะ แต่ทุกครั้งคนในครอบครัวของชั้นก็จะมาด้วย แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา เพราะชั้นมาเพื่อส่งสารของคุณตากับทายาทเพื่อนรักของท่าน เฮ้อ ถ้ามาเพราะแค่ส่งสารอย่างที่ว่าอย่างเดียวก็คงจะดีสินะ

    “ข้าวปั้น  คุณหนูข้าวปั้น” เสียงใครคนหนึ่งเรียกชั้นจากทางด้านหลัง ชั้นเลยหันกลับไปมอง 

    “อ้าว!!ลุงเติม” ลุงเติมน่ะ ที่เป็นคนเรียกชั้น เพราะคุณแม่ฝากให้ชั้นมาอยู่กับลุงเติมที่นี้

    “เหม่ออะไรอยู่ครับ เดินผ่านลุงไปเฉยเลย ลุงเรียกตั้งนานแน่ะ”

    “อ๋อ พอดีคิดอะไรเพลินๆนะค่ะ ขอโทษด้วยนะค่ะ มารอนานแล้วเหรอค่ะ แล้วไหนบอกว่าจะให้คนที่ร้านมารับแทน”

    “พอดีผมเคลียร์งานที่ร้านเสร็จพอดีน่ะครับเลยมารับคุณหนูเอง ไปกันได้รึยังครับ”

    “ค่ะ” แล้วลุงเติมก็มาช่วยลากกระเป๋าของชั้นไปที่รถ แล้วออกรถไปที่บ้านสวนทันที  คงจะสงสัยใช่มั้ยว่าทำไมลุงเติมถึงเรียกชั้นว่าคุณหนู  ก็เพราะคุณตากับคุณยายของชั้นมีพระคุณต่อลุงเติมอย่างมาก ท่านเก็บลุงเติมมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็เลี้ยงดูลุงเติมจนเติบโตขึ้นมา จนถึงตอนนี้คุณตายกที่ดินที่ท่านมีอยู่ที่ญี่ปุ่นเกือบทั้งหมดให้กับลุงเติม จนเมื่อสิบปีที่แล้วลุงเติมย้ายมาอยู่ที่ญี่ปุ่นโดยปริยาย แล้วก็เปิดร้านขายขนมไทยในตัวเมืองได้เกือบจะสี่ปีแล้วด้วย เพราะคุณยายเป็นคนสอนให้  บ้านสวนก็เหมือนกันมันเป็นของคุณตาของชั้นแล้วก็ยกให้คุณลุงเติม คุณตาของชั้นเป็นทหารญี่ปุ่นส่วนคุณยายของชั้นเป็นคนไทย ท่านสองคนเจอกันตอนที่คุณตาของชั้นไปประจำหน่วยรบญี่ปุ่นที่เมืองไทยน่ะ แล้วตกหลุมรักกัน  แม่ชั้นเป็นลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นส่วนคุณพ่อของชั้นเป็นเสี้ยวญี่ปุ่น บ้านของชั้นเปิดเป็นบริษัทนำเข้ารถชั้นนำของประเทศลำดับต้นๆเชี่ยวนะ มันเป็นบริษัทของพ่อของชั้นน่ะ แต่แม่ขอชั้นเป็นคนคุมกิจการทั้งหมด หรือเรียกง่ายว่าคนเก็บเงินนั่นแหล่ะ พ่อบริหารบริษัท ส่วนแม่เก็บตังค์ แฟร์ๆ คุณพ่อของชั้นน่าสงสารนะ แม่ของชั้นท่านรวยนะ  แต่พ่อรวยกว่าจนถึงขั้นรวยเวอร์เลยล่ะเพราะเป็นมรดกตกทอดมาจากคุณปู่ แต่พวกท่านก็รักกันดีโชว์หวานให้ชั้นเห็นแทบจะทุกๆชั่วโมงที่อยู่ด้วยกัน  มาเข้าเรื่องของชั้นกันดีกว่านะเพราะว่าถ้าได้เล่าเรื่องของครอบครัวของชั้นชั้นคิดว่าอีกสิบหน้ากระดาษก็คงจะไม่จบ

    ย้อนกลับไปเมื่อสามวันที่แล้ว

    ชั้นถูกเรียกตัวจากโรงเรียนให้ไปที่โรงพยาบาลเอกชนลำดับต้นๆของเมืองไทย เพราะคุณแม่โทรมาบอกว่าคุณตาของชั้นลื่นล้มในห้องน้ำ แล้วกระดูกขาและแขนหัก ท่านต้องการที่จะพบชั้นด่วน  ภาพที่ชั้นเห็นครั้งแรกคือคุณตาของชั้นนอนอยู่บนเตียงโดยใส่เฝือกที่แขนแล้วก็ขา มันทำให้น้ำตาของชั้นไหลมาโดยอัตโนมัติ แล้วชั้นก็รีบตรงไปที่เตียงทันที

    “คุณตา เป็นอะไรมากมั้ยค่ะ เจ็บมากมั้ย ฮือ” ชั้นพูดกับท่านเป็นภาษาญี่ปุ่นกับท่าน เพราะเราสองคนจะพูดคุยกันเป็นภาษาญี่ปุ่นกันตลอดแต่สำเนียงของชั้นมันจะแปลกๆหน่อยไม่รู้ว่าทำไม  แล้วขอบอกว่าตอนนั้นสติชั้นเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว น้ำตาก็ไหลลงมาไม่หยุด ชั้นห่วงคุณตามากเพราะชั้นสนิทกับคุณตามากที่สุด

    “เจ็บมากไอจัง ตาเจ็บมากเลย ไม่รู้ว่าจะทนอยู่ได้นานมั้ย อาจจะตายวันนี้พรุ่งนี้เลยก็ได้ ใครจะไปรู้ ” ไอจังคือชื่อที่คุณตาเรียกชั้น เพราะท่านพูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด แล้วก็ออกเสียงชื่อของชั้นได้ยากมาก

    “ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะค่ะ คุณตาจะต้องอยู่กับปั้นไปอีกนาน อย่าพูดแบบนี้อีกนะ ปั้นใจไม่ดีเลย ที่นี่หมอเก่งจะตาย ยังไงคุณตาจะต้องหาย ฮึก ยังไงก็ต้องหาย”

    “ไอจัง นี่เป็นคำขอสุดท้ายจากตานะ ไอจังจะทำให้ตาได้มั้ย เพราะตาไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกนานมั้ย” คุณตาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

    “ปั้นยอมทุกอย่าง แต่คุณตาอย่าพูดแบบนี้อีกนะคะ คุณตาอยากให้ปั้นทำอะไรบอกมาเถอะค่ะ ปั้นจะทำให้ แต่อย่าพูดแบบนั้นอีกนะ”

    “ก็ได้ตาจะไม่พูดแบบนั้น แต่สิ่งที่ตาจะขอคือ ขอให้หนูหมั้นกับหลานของเพื่อนรักของตาที่อยู่ที่ญี่ปุ่น จะได้มั้ยนี่คือคำขอครั้งสุดท้ายที่ตาจะขอจากไอจัง”

    “ห๊ะ!! ” ชั้นตกใจกับคำขอร้องที่คุณตาเอ่ยขอมา ชั้นหันไปมองหน้าคุณแม่และคุณยายซึ่งทำหน้ายิ้มๆออกมาไม่ได้มีท่าทางเป็นห่วงคุณตาเลยซักนิด แต่คุณพ่อของชั้นน่ะสิ ทำหน้าบอกบุญไม่รับเลย

    “ว่าไงไอจัง จะทำตามคำขอของตาได้มั้ย” แล้วทำหน้าสลด “หรือว่าไม่ได้ แต่ก็ชั่งเถอะนะ คำขอร้องจากคนแก่ๆกำลังจะตายวันตายพรุ่งมันคงไม่ได้มีความหมายกับหลานสาวที่รักมากเท่าไรหรอก ถือซะว่าไม่เคยได้ยินสิ่งที่ตาขอร้องอ้อนวอนไปเมื่อกี้ก็แล้วกันนะ แต่ถ้าตาตายไปคงไม่กล้าไปสู้หน้าเพื่อนของตาที่รออยู่เป็นแน่ เพราะตาผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเค้าว่าเราจะเป็นดองกัน รู้มั้ยว่าเค้าเป็นเพื่อนที่ร่วมเป็นร่วมตายกับตาตอนที่เราออกรบกัน แต่ก็ชั่งมันเถอะถ้ามันทำให้เราลำบากใจน่ะ” แล้วคุณตาก็หันไปพูดกับคุณยายเป็นภาษาไทย “เมริณผมอยากนอนรอความตายเงียบๆอย่างนี้คนเดียว คุณช่วยบอกให้พวกเค้ากลับบ้านไปใช้ชีวิตตามปกติ แล้วปล่อยให้คนแก่ๆอย่างผมอยู่ที่นี่คนเดียวเถอะนะ” แล้วก็ล่ำลาคุณแม่ “ยัยหนูพ่อรักหนูนะลูก ฝากดูแลหลานสาวที่พ่อรักสุดดวงใจด้วยนะลูก พ่อคงจะทนไม่ไหวก่อนที่จะถึงวันพรุ่งนี้แน่นอน โอ๊ยเจ็บเหลือเกิน ทำไมมันถึงทรมานอย่างนี้นะ ” แล้วก็ทำท่าเจ็บปวดเหลือเกินจนชั้นเริ่มทนไม่ไหว

    “หนูยอมแล้ว หยูยอมหมั้นกับเค้าก็ได้”

    “ข้าวปั้น” เป็นคุณพ่อที่พูดออกมา “คุณพ่อทำ..” ยังไม่ทันที่คุณพ่อจะพูดจบคุณตาก็แทรกขึ้น

    “เฮ้อ รู้อย่างนี้ไม่น่าให้ยัยหนูแต่งงานก็ดีนะ ว่ามั้ยเมริณ” คำพูดของคุณตาทำให้คุณพ่อไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก

    “แต่หนูมีอย่างหนึ่งที่จะเป็นข้อขอร้องและต่อรอง”

    “ว่ามาไอจัง หลานรัก” คุณตาพูดแล้วยิ้มหวาน

    “หนูขอไปที่นั้นคนเดียวโดยที่หนูจะไม่บอกว่าหนูเป็นใคร คือใคร มาจากไหน เพื่อที่หนูจะได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของเค้า ถ้าเค้าเป็นคนดีหนูจะยอมทำตามที่คุณตาขอ แต่ถ้าไม่หนูคงจะทำตามที่คุณตาขอร้องไม่ได้นะคะ ตกลงตามนั้นนะคะ” ชั้นพูดแล้วรู้ทันว่าที่ท่านทำทั้งหมดเป็นแผนเพื่อตบตาชั้นแต่หน้าของคุณพ่อตอนนี้เป็นรู้สึกว่าเป็นห่วงชั้นมาก

    “ตามนั้น หลานรัก” แล้วยิ้มให้ชั้น “ตาเชื่อว่าเค้าจะต้องเป็นคนดีแล้วชนะใจหลาน แล้วหลานจะต้องได้หมั้นกับเค้าอย่างแน่นอน”

    “คะ” แล้วชั้นก็เข้าไปใกล้ท่าน กระซิบที่ข้างหูเป็นภาษาไทย “คราวหลังจะเล่นอะไร ดูวัยด้วยนะคะคุณตา เจ็ดสิบกว่าแล้ว ไม่น่ามาเล่นอะไรเป็นเด็กๆอย่างนี้เลย บอกดีๆก็ได้ แล้วไม่ต้องมาทำหน้างอนเป็นเป็นเด็กเลยนะคะ มันไม่เวิร์ค” แล้วชั้นก็ลุกขึ้น คุณแม่กับคุณยายหัวเราะกันใหญ่เลย “หนูจะต้องเดินทางไปญี่ปุ่นใช่มั้ยค่ะ วันไหน” ชั้นถามอย่างรู้ทัน

    “ช้าที่สุดก็พรุ่งนี้ตอนเย็น ตาจัดการให้เรียบร้อยแล้วเรื่องโรงเรียนของเราก็ด้วย เราต้องไปเรียนที่นั่น ตาเตรียมทุกอย่างให้แล้ว ถือซะว่าเราไปพักผ่อนที่ญี่ปุ่นก็แล้วกันนะ แถมที่นั่นมีการแข่งดริ๊พรถอย่างที่เราชอบด้วยนะ ตาอนุญาตให้เราไปดูได้ แต่ห้ามทำอะไรสุ้มเสี่ยงเข้าใจใช่มั้ย”

    “ค่ะ ถ้าไม่มีใครมาหยามน่ะนะ หนูจะไม่ทำเด็ดขาด สัญญา”

    “หึ”

    “งั้นหนูขอตัวนะค่ะ”

    ตามที่เล่ามานั่นแหล่ะเป็นไงบ้างล่ะความแสบของคุณตาชั้นมีมากเกินไปจริงๆ ส่วนคุณพ่อของชั้นน่ะเหรอ ห่วงชั้นจนอยากจะตามมาอยู่กับชั้นที่นี่ด้วยเลยแหล่ะ แต่ติดอยู่ที่ท่านต้องบริหารงานที่บริษัทเลยตามมาด้วยไม่ได้ ความจริงการมาที่ญี่ปุ่นมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายอะไรมากมาย คิดซะว่ามาเปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนที่เรียน มีเพื่อนใหม่ก็แล้วกัน

    ตอนนี้ลุงเติมขับรถมาถึงบ้านสวนเรียบร้อยแล้ว

    “คุณหนูหิวรึเปล่าครับ เดี๋ยวลุงให้คนเตรียมอาหารไว้ให้” ลุงเติมถามขึ้นขณะที่เรากำลังเดินเข้าไปในบ้าน

    “ไม่ค่ะ รู้สึกมวนท้องหน่อยๆ ขอพักดีกว่าคะ”

    “ครับ งั้นคุณหนูขึ้นไปพักก่อนเถอะ เดี๋ยวเย็นๆลุงจะไปตามมาทานข้าวนะ”

    “คะ ขอตัวนะคะ”  แล้วชั้นก็เดินขึ้นห้องไปไปอาบน้ำแล้วก็นอนพักเอาแรงซะหน่อย ขึ้นเครื่องที่ไรเป็นอย่างนี้ทุกที

    ชั้นตื่นขึ้นมาอีกครั้งตอนที่ได้ยินเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ชั้นเดินงัวเงียจาเตียงลุกขึ้นไปเปิดประตูห้อง

    “คุณหนูลงไปทานอาหารเย็นกันครับ” ลุงเติมเป็นคนมาเรียกชั้น

    “เย็นแล้วเหรอค่ะ โทษทีนะคะหนูหลับยาวไปหน่อย  รอแป๊บนะคะ หนูขอล้างหน้าล้างตาก่อน”

    “ครับ” แล้วท่านก็เดินลงไปชั้นล่าง

    ที่โต๊ะอาหาร

    “ว้าว อาหารน่าทานจังนะคะ”

    “ถ้าน่าทานก็ทานเยอะๆนะครับ ลุงทำเองทั้งหมดเลนนะ นี่หมูปั้นของโปรดของคุณหนู”

    “ขอบคุณค่ะ”

    ฝากด้วยนะคะ^^

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น