ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fan ' Love รักวุ่นวายของยัยพัดลม

    ลำดับตอนที่ #6 : เธอ...เขา...เรา...ฉัน

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 55


    บทที่ 6

    เธอ...เขา...เรา...ฉัน!!!

     

    เลิกเรียน

    (พัดลม)

    “เอาล่ะ!!รีบไปสู้กับยัยนั่นแล้วค่อยไปหานายข้าวเจ้าแล้วกัน.....”

    หลังห้องน้ำหญิง

    “มาแล้วเหรอยะ?”เสียงแจ๋นขนาดนี้ มาแล้วล่ะสิ

    “ก็เห็นอยู่...”กวนไปซะเลย อิอิ

    “ปากเก่งไปเถอะย่ะ...วันนี้ แก-ไม่-รอด-แน่ อิอิ”ยัยบ๊องสามคนนี้เป็นอะไรกันนักกันหนา???

    ย้าก!!!!!!! การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นทันที ยัยสามคนนั้นมั่นใจมากที่จะชนะฉัน...คิดว่ารุมแล้วฉันจะสู้แกไม่ได้เหรอไง???

    ปั่ก!

    โอ๊ย!!หลังฉัน....เป็นไปไม่ได้ที่ยัยสามคนนี้จะใช้มือเปล่า...ฉันเห็นไม้กอล์ฟน่าจะประมาณเบอร์แปดอยู่ในมือของยัยเชอร์รี่!

    นี่แกกะจะเอาฉันตายเลยรึไง???!!!

    “ทำไมเล่นแรงแบบนี้ล่ะ?”

    “คิดว่าพวกฉันมาเล่นรึไง?!! ฉันชอบพี่โอ๊ตแกก็มาแย่งพี่โอ๊ตไปจากฉัน!! ยัยแคทตี้ชอบนายข้าวเจ้าแต่ข้าวเจ้าก็ชอบแก!! ส่วนยัยข้าวหอมก็มาแย่งพี่ใจเดียวไปจากยัยจีจี้อีก...พวกแกสองคนแย่งคนรักของพวกฉันไป!!!

    ครืด...ครืด...

    เสียงสั่นของโทรศัพท์ของฉันดัง ครืด...ครืด... ฉันรู้สึกสำนึกในบุญคุณของการปิดเสียงโทรศัพท์ในการเรียน มันทำให้ฉันกดเปิดรับสายปลายทางทันที ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเป็นใครโทรมา ฉันได้แต่หวังว่า ให้เขามาช่วยฉันทีเถอะ!!!

    “เธอนัดฉันมาเพื่อทำร้ายหลังห้องน้ำหญิงทำไม?!!!!!”ฉันตะโกนเสียงดังเพื่อหวังลึกๆว่าจะให้เสียงเล็ดลอดเข้าไปในสายบ้าง เพื่อให้คนปลายทางรู้ว่าฉันตกอยู่ในอันตราย....

    “แกจะตะโกน ทำไม!!!”ยัยแคทตี้ ตะโกนถามฉันอย่างน่ากลัว

    “ฉันกลัวนี่นา...ฉันอยากกลับบ้านแล้ว ปล่อยฉันไปเถอะนะ”ฉันเริ่มอ้อนวอนยัยสามคน

    “ปล่อย?!!!เฮอะๆตลกสิ้นดีวันนี้แกต้องผมสั้นไปกว่าเดิม ฉันจะทำไม่ห้แกเหลือคราบผู้หญิงในตัวเลย...แคทตี้ จีจี้ไปหยิบกรรไกรมาสิ!!”ยัยเชอร์รี่จอมโหดเริ่มสั่งการ

    “อย่านะ!!!อย่า!!!!~”ฉันตะโกนสุดฤทธิ์เพื่อให้ชะนีสามตัวที่บ้าผู้ชายถึงขนาดทำร้ายเพื่อนได้ หยุดการกระทำอันชั่วร้ายนี้ สามคนนี้เอาไม้กอล์ฟมาตีหลังฉันอย่างแรงเป็นครั้งที่สอง ฉันได้แต่หวังลึกๆว่าอย่าให้มันตีหัวฉันเลย....จากนั้นอีกสองคนก็ไปหยิบเชือกมารัดมือ แขน ขา และปิดปากฉันไว้

    ฉับๆๆ...ฉับๆๆ...ฉับๆๆๆ

    เสียงกรรไกรที่ตัดผมสีน้ำตาลเข้มที่เคยประบ่า ตอนนี้กลับถูกตัดออกไปเรื่อยๆๆๆ ฉันสัญญาเมื่อฉันมีแรงฉันจะฆ่าแก  จิกหัวแกมาตบๆๆๆแล้วโกนหัวแก!!!

    “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!ยัยพวกปิศาจ!!!!!!!!!!”เสียงเจ้าชายมาช่วยฉันอีกแล้วเหรอ???

    “ข้าวเจ้า!!!นายมายุ่งอะไรด้วย??”ข้าวเจ้านายมาช่วยฉันอีกแล้วใช่มั้ย???ทำไมถึงดีกับฉันขนาดนี้ ???นายรักฉันจริงๆเหรอ??

    “พวกเธอติดคุกหัวโตแน่!!

    แชะ!

    ถ้าเดาไม่ผิด มันน่าจะเป็นเสียงกล้องถ่ายรูป...นายจะถ่ายรูปทำไม?

    ปั่ก       

    “อย่ามายุ่งเรื่องของฉัน จำไว้!!

    “อ้าวเอ้า!!”ฉันพูดเรียกนายข้าวเจ้าเสียงอู้อี้  ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกโกรธคนทำมากเลยนะ!!!มันคือใคร?ยังมีน่ามาแอบอยู่ในมุมมืดอีก....แน่จริงก็โผล่ออกมาสิยะ!!!

    “ว่าไง?นังตัวดี....”พี่ลูกกวาด!!!!ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ

    “พี่ลูกกวาดคะ จะให้พวกเราทำอะไรมันอีกคะ?”เสียงยัยเชอร์รี่และท่าทางของมันทำให้ฉันอยากกระชากแกมาถีบแล้วถีบอีก....

    “ไม่ต้องแล้วล่ะ!!!ฉันขอบอกแกนะ...นังทอม...อยู่ดีไม่ว่าดีมาแย่งคนที่ฉันรักไป แกกล้าดียังไง!!!ฉันจะดูซิ ถ้าแกไม่เหลือคราบผู้หญิงเลย โอ๊ตจะยังรักแกอยู่มั้ย?!!!แล้วถ้าแกคิดจะเอาเรื่องนี้ไปบอกใครล่ะก็คนรอบตัวแกต้องตายทุกคน...เพราะพ่อฉันเป็นมือปืนไงล่ะ...ฮ่าๆๆๆๆๆ”ร้ายกาจที่สุด!!!ยัยพี่ลูกเหม็น แก...แก...ยัยคนเลว!!!!

    ครืด...ครืด... เสียงโทรศัพท์ของฉันสั่นขึ้นอีก...โชคร้ายที่พี่ลูกกวาด ไม่สิ!นังพี่ลูกกวาดมันไม่โง่เหมือนยัยสามสาว ฉันเลยอดที่จะขอความช่วยเหลือ...จากนั้นก็เป็นเสียงข้อความตามมาอีกสองข้อความ....ฉันอยากหยิบมาอ่านใจจะขาดและอยากตะโกนขอความช่วยเหลือแต่ฉันแทบจะขยับตัวไม่ได้เลย.....

    “แกอยากอ่านข้อความล่ะสิ...ฉันจะสงเคราะห์ให้!!!”จากนั้นพี่ลูกกวาดก็เอื้มมือแล้วสอดเข้ามาในกระเป๋ากระโปรงนักเรียนของฉัน....แล้วเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความของฉันทันที...ยัยคนไร้มารยาท!!!

    “เฮอะ!นึกว่าใครส่งมาที่แท้ก็เป็นพี่จอร์จบ้าจอร์จบออะไรของแกนี่เอง...อยากรู้มั้ยว่าเขาส่งอะไรมาหาแก...พัด...ทำไมไม่มาจัดรายการตั้งสองสามวันแล้วเนี่ย...แฟนคลับ โทรถามเต็มเลย ไอ้เจ้าก็คน...ฉันปวดหัวกับพวกแกจริงๆใช่!ลืมไปเลย....ทีนี้ฉันก็ไปไม่ถึงใฝ่ฝันแล้วล่ะสิ แง.......... เอ๊ะ!แล้วอีกข้อความล่ะ?

    “อี้ๆๆๆๆๆ” ฉันเรียกยัยสี่คนให้หันมา

    “ปวดขี้เหรอยะ?ฝันไปเถอะ!!มุกตื้นๆ”ฉันเรียกพวกเธอต่างย่ะ...นี่ๆๆๆๆๆ  ไม่ใช่ ขี้ๆๆๆๆๆ ยัยพวกประสาทเสีย!!!

    “ปล่อยมันไปได้ละ....เห็นหน้ามันแล้วอารมณ์เสีย เอ้อ!แล้วอย่าลืมล่ะ ถ้าแกบอกใครคนแรกที่ตายก็คือพี่สาวแก!!!” พี่แอร์เหรอ?จะทำอะไรก็ทำเถอะ!ไม่ได้ๆยังไงก็พี่....เฮ้อ~ฉันอยากฆ่ายัยสี่คนนี้จัง….

    “อ่อย...พัดลมช่วยฉันหน่อยสิ”ใช่ๆฉันต้องช่วยนายข้าวเจ้านี่นา....ไอ้บ้า!!!ฉันโดนมัดอยู่เนี่ย...ยังมีหน้ามาพูดอีก....

    “ไอ้อ้า...อายอ้องอ้วยอั๊น!!!” แปล:ไอ้บ้า...นายต้องช่วยฉัน!!! เฮ้อ...เมื่อไหร่จะพูดปกติได้สักที

    “พูดบ้าอะไรของเธอ?อ้าว...แล้วห่อตัวไว้อย่างนั้นทำไม?”ดูอีตานี่พูดเข้าสิ...รีบมาช่วยฉันเร็ว!!!

    จากนั้นเหมือนนายข้าวเจ้าเริ่มหายมึน ประมาณครึ่งนาทีได้กว่าจะมาแก้มัดฉัน....

    “เป็นอะไรมากมั้ย?”นายข้าวเจ้าถามฉัน...ถึงแสงไฟจะสลัวๆแต่ฉันก็เห็นแววตาความเป็นห่วงของนายข้าวเจ้าที่มีต่อฉัน....

    “อื้ม...นายล่ะ?”ฉันถามกลับไปบ้าง

    “โอ๊ย....เจ็บจนใจจะขาดอยู่แล้วเนี่ย!!!”เว่อร์ซะไม่มีใครเกิน  อย่าทำสายตาออดอ้อนแบบนั้นนะ!!!

    “แหะๆ...กลับบ้านกันเถอะ!^^’”ใช่แล้ว...ฉันต้องกลับบ้านแล้วนี่นา นายพาฉันไปส่งเถอะนะ...ฉันได้แต่ขอร้องอยู่ในใจ

    “งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งนะ!!!”นั่นไง!นายได้ยินที่ฉันขอร้องในใจด้วยเหรอ???ดีใจจัง^^

    “ว่าแต่ว่าแวะไปจัดรายการกันหน่อยมั้ย?”ฉันลองถามนายข้าวเจ้าดู...ถึงฉันจะเส้นใหญ่แค่ไหน...แต่ถ้าไร้ความรับผิดชอบก็คงถูกไล่ออกได้ง่ายๆ

    “อื้ม...ไปสิ!พี่จอร์จก็โทรมาหาฉันแล้วคุยเรื่องนี้เหมือนกัน...ฉันก็เลยโทรไปหาเธอแล้วได้ยิน...ก็เลยมาช่วย”

    กึก....

    “ขอบใจนะ....”ฉันพูดและน้ำอุ่นๆก็ไหลรินออกมาจากตาทั้งสองข้าง...ตอนนี้ฉันกำลังเอาแขนเรียวเล็กของฉันที่มีรอยแดงจ้ำไปหมด(จากฝีมือยัยพวกปิศาจ)โอบกอดนายข้าวเจ้าอยู่...

    “ฉันไม่น่าใจดีกับคนใจร้ายแบบเธอเลยนะ...”นายข้าวเจ้าพูดขึ้นมาฉันจึงคลายกอดออกและพูดอะไรไม่ออกเลย...

    “....แต่ ฉันก็ตัดใจจากเธอไม่ได้อยู่ดี...จะว่าอะไรมั้ย ถ้าวันนี้เธอจะเป็นแฟนฉัน...”แฟน?!วันนี้เหรอ???

    “อือ...ได้สิ”เห็นกับที่นายมาช่วยฉันไว้หรอกนะ

    “ถามอะไรหน่อยสิ...เธอไปทำอะไรยัยพวกนั้นเหรอ...ทำไมยัยพวกนั้นถึงทำร้ายเธอ ต้องตัดผมเธอด้วย???”

    “เพราะ เพราะยัยพวกนั้น...พวกมันแค้นฉันกับน้องสาวของนาย...”

     (ข้าวเจ้า)

    แค้นเหรอ???แค้นข้าวหอมเรื่องอะไรเหรอ? แค้นเธอเพราะเรื่องพี่โอ๊ต  อันนี้ฉันพอเข้าใจ...แต่เรื่องแค้นข้าวหอมคิดยังไงก็ไม่เข้าใจเลย.....

    “แค้นข้าวหอม เรื่องอะไรเหรอจ๊ะ...ที่รัก^^”อุ๊ย...อายจัง>///<

    “แหม...เอาเชียวนะ^^เอ่อ...ที่รักคะ...ยัยพวกนั้นแค้นข้าวหอมเรื่องพี่ใจเดียวน่ะค่ะ”ประชดซะ!!!เอ..พี่ใจเดียวเหรอ?แค้นเพราะเพื่อนพี่โอ๊ตเนี่ยนะ!!!

    “เพราะอะไรเหรอ?”ผมลองถามดู

    “เพราะพี่ใจเดียวจีบข้าวหอมน่ะสิ...นี่ๆ...”หนี้อะไร? ฉันไปเป็นหนี้เธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน????

    “หนี้อะไรเหรอจ๊ะ?ฉันไปเป็นหนี้ที่รักตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ?แล้วเท่าไหร่ กี่บาทเอ่ย???”แหะๆผมแกล้งถามหรอก...จำได้ว่าไม่เคยยืมเงินพัดลมเลยนะ...

    “ตลกใหญ่แล้ว เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยวเลย...น.หนู สระอี ไม้เอก รวมกัน เป็น นี่...ไม่ใช่ หนี้เงินทองย่ะ...คือฉันจะถามว่าแผลรถชนเป็นยังไงบ้าง?คงหายดีแล้วสินะ เพราะมีพี่สาวแสนสวย มหาลัย ปี 2 มาคอยประคบประหงมขนาดนั้นไม่หายได้ยังไง แถมนายยังได้กินโจ๊กแต่เช้าอีก...คงไม่เป็นอะไรแล้วสินะ ฉันนี่โง่จริงๆ”

    หมับ....ฟืด.......

    ผมจับมือยัยพัดลมที่พูดพร้อมทำหน้าทำตาตามอารมณ์แถมยังทำหน้าบูดหน้าบึ้งประกอบอีก...เห็นแล้วมันน่าหมั่นเขี้ยวอะไรอย่างนี้นะ!!จากนั้นผมก็ยกมือน้อยๆของพัดลมขึ้นมาแนบที่จมูก...ลมหายใจของผมปะทะกับกลิ่นสบู่อ่อนๆของหลังมือของเธอ...จากนั้นผมก็สูดหายใจเฮือกใหญ่  เพื่อจดจำกลิ่นหอมจากตัวมือของเธอ...ยัยพัดลมหน้าแดงอย่างกับตูดลิง แต่เธอก็บ่นๆๆแก้ขัดเขิน ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ผมตกหลุมรักเธอตั้งแต่ ม.1 และเมื่อรู้ว่าเธอเลือกเรียนต่อ ม.4 สายไหน...ผมก็ไปสอบตาม ผมพยายามจนถึงที่สุดเพื่อให้ได้อยู่ใกล้เธอ...ผมรักเธอมากจริงๆ

    “นายข้าวเจ้า ปล่อยมือได้แล้ว ป้ายหน้าก็ถึงสถานีแล้วนะ!!!” จะถึงแล้วเหรอ?ผมรู้สึกว่าเวลาแห่งความสุขนี้มันผ่านไปไวเหลือเกิน ผมอยากกด Pause  เหมือนเวลากดหยุดเพลงจัง...ยังไงก็ตามวันนี้เธอก็เป็นแฟนผมนี่นา....ถึงจะเป็นแค่วันนี้ก็เถอะ!!.....

    “พี่จอร์จ!!พัดขอโทษนะพี่....พัดsorryนะ...ใจจริงพัดไม่ได้อยาก...เอ่อ...”พัดลมพยายามหาข้อแก้ตัวมากมาย ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มและยืนพิงประตูห้องจัดรายการ(คนอะไรช่างเท่ได้ปานนี้ โฮะๆ)

    “แกไปทำอะไรมาพัด!!!เปลี่ยนทรงผมแบบนี้ทำไม...ไม่สวยนะเว้ย!!!”ผมก็ไม่เห็นว่าจะไม่สวยตรงไหน เอาเป็นว่าหลังจากเสร็จจากการจัดรายการวิทยุเสร็จ ผมจะพาเธอไปทำผมที่ร้านหรูๆแล้วกัน^^

    “พี่จอร์จครับ พวกผมขอโทษนะพี่...แต่ว่าป๊าให้ผมไปทำธุระกับพัดลมน่ะ พี่มีอะไรก็ไปเคลียร์กับป๊าแล้วกัน...”ผมจำต้องมุสาไป เพื่อการรอดตัวของผมและพัดลม พัดลมก็ได้แต่ทำหน้าอึ้งๆ ทึ่งๆและตกตะลึงในความฉลาดของผม อิอิ เริ่มปลื้มฉันแล้วล่ะสิ(หลงตัวเองได้อีก...)

    “งั้นเหรอ?เอ่อ...งั้นหมดช่วงนี้ข้าวเจ้าก็เข้าไปได้เลย...นี่มันรอบทุ่มนึงของข้าวเจ้าพอดี...”

    “เอ่อ...แล้วพัดอ่ะพี่?”พัดลมเริ่มพูดบ้างหลังจากที่ใบ้รับประทานมานานนม

    “แก...ก็รอไว้พรุ่งนี้แล้วกัน อ้าว...ซูซี่มาพอดีเลย...ตรงเวลาดีมากครับ”พี่จอร์จพูดพร้อมเหล่สายตาไปทางพัดลม เพื่อให้รู้ว่าพี่ซูซี่เจ๋งกว่าเธอแค่ไหน....

    “ใครบอกว่าผมจะจัดรายการกับพี่ซูซี่??”ผมถามพี่จอร์จ

    “แล้วนายจะจัดกับใคร?”หึหึ ถามมาได้!!!

    “ผมจะจัดกับคนที่เป็นแฟนผมวันนี้...”

    “ใครแฟนแก?”ถามอีกแล้ว...มีกันอยู่นอกห้องจัด 4 คนรวมคนในห้องจัดอีก 2 คนเป็น 6 คน...พี่จอร์จคิดว่าผมจะเป็นแฟนกับผู้ชายหรือพี่ซูซี่เหรอ?บ้าจริง!!

    “อย่าบอกนะว่าเป็น....ซูซี่!!~”บ้าจริงด้วย!!!

    “ไม่ใช่...วันนี้แฟนผมคือพัดลม”ยัยพัดลมหน้าแดงแจ๋...พูดอ้ำอึ้ง ผมล่ะตลกยัยนี่สุดๆ

    “เอ่อ...งั้นเหรอ?งั้นแกสองคนก็ไปจัดรายการกันได้แล้ว”

    “นายไปบอกแบบนั้นได้ไง?”พัดลมรีบกระซิบถามทันทีเมื่อเข้าห้องจัดรายการ

    “ก็เรื่องจริง...”ผมทำหน้ายียวนกวนประสาทแบบเท่ๆใส่(เข้าข้างตัวเองอีกแล้ว)

    “เออๆ...งั้นไปจัดรายการกันเถอะค่ะ...ที่รัก!!!”พัดลมพูดเสียงประชดทันที ฮ่าๆเห็นหน้าแล้วสะใจอะไรเช่นนี้....

    สวีดัส สวัสดีคร้าบ...มาพบกันอีกครั้งหลังจากหายหน้าหายหายตากันไปน้านนาน ผมsorryแฟนๆทุกคนครับ...กระผมดีเจข้าวเจ้าสุดหล่อน่าทานแห่งคลื่นเมโลดี้ ฟอร์แฟนมาประจำที่พร้อมกับสาวแสนสวยข้างกาย ให้ทายใครเอ่ย???

    สวัสดีค่ะ...พัดลมมาแล้วคร่า....หลังจากหายหน้าไปนานเช่นกัน ขอโทษแฟนคลับทุกคนด้วยนะคะ...วันนี้เราสองคนจะอยู่คุยกันกับแฟนๆ เพื่อให้หายคิดถึงกันไปเลย...

    ครับ...แล้ววันนี้เราจะอยู่คุยกันถึง 3 ทุ่มเลยนะครับ เราจะขอเบียดเสียดกระแซะเวลาของดีเจในเวลาต่อจากนี้ไปด้วยครับ^^เอาเป็นว่า ไปฟังเพลงแรกจากเราสองคนเลยดีกว่าครับผมพูดไปทั้งๆที่ไม่ถามทีมงานหรือแม้แต่ดีเจสาวข้างๆผมเลยสักนิด...ก็ทำไงได้ ผมมันเส้นใหญ่ถึงใหญ่มากด้วยน่ะสิครับ หุหุ

    เอาล่ะค่ะ...ผ่านไปแล้วนะคะสำหรับเพลงแรกของเรา ต่อไปเราจะมาเปิดสายคุยกับคุณผู้ฟังหน่อยดีกว่าค่ะยังไงพัดลมก็ยังเป็นพัดลม พูดเก่งเหมือนเดิม และ...น่ารักเหมือนเดิมด้วย อิอิ  ><

    ครับ...สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณอะไร?มาจากที่ไหนครับ?ผมถามไปตามที่เคยชิน

    [สวัสดีค่ะ หนูชื่อก้านฝนไงคะ...พี่เจ้าเป็นยังไงบ้างคะ?หายไปไหนมาตั้งนาน ก้านฝนคิดถึงมากเลยค่ะ]น้องคนนี้คงเป็นน้องสาวก้านฟ้าที่เป็นแฟนคลับของพัดลมแน่ๆ...ลองดูหน่อยมั้ย ว่าพัดลมจะหึงเรารึเปล่า??

    น้องก้านฝนนี่น่ารักจังเลยนะครับ อิอิ ถ้าเป็นแฟนพี่ พี่คงรักตายเลย...

    [กรี๊ด!!!!!!!!!!!!!] เสียงจากปลายสายกรีดร้องออกมาจนน่าแสบแก้วหู...ผมไม่ชอบเลยผู้หญิงที่วันๆเอาแต่กรี๊ดๆๆๆๆโชคดีมากที่พัดลมไม่เป็นแบบนั้นและนี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผมชอบเธอเข้าไปอีก....

    เอ่อ...ใจเย็นๆค่ะน้องก้านฟ้า...ไม่ทราบว่าวันนี้จะขอเพลงอะไรดีคะ?พัดลมปฏิบัติหน้าที่ต่ออย่างแข็งขัน นี่ก็คืออีกเหตุผลที่ทำให้ผมชอบเธอเหมือนกัน ไม่ว่าเวลาไหน ทุกข์ใจหรือไม่?ก็จะทำงานต่อได้เสมอ....

    [ขอเพลง คนที่ใช่ก็ไม่รัก คนที่รักก็ไม่ใช่ ค่ะ หนูชอบเพลงนี้มากๆๆๆๆ] น้องชอบเพลงนี้มากๆแต่ผมสะเทือนใจมากเลยครับ คนที่ใช่เธอก็ไม่รักผม ส่วนคนที่รักผมอย่างยัยแคทตี้ก็ไม่ใช่....เฮ้อ~ชีวิต!!!

    ถ้าเลือกดีเจในคลื่นเมโลดี้ฟอร์แฟนไปเดทด้วย น้องอยากออกเดทกับใครเหรอคะ?พัดลมถาม(ถามทำไม???)...ตั้งแต่วินาทีแรกที่ผมลองใจเธอจนมาถึงวินาทีนี้ เธอก็ไม่มีทีท่าจะหึงผมสักนิด!!!

    [แหม...ก็ต้องพี่ข้าวเจ้าแน่นอนค่ะ แต่พี่สาวหนูอยากออกเดทกับพี่พัดลมนะคะ]

    แหะๆ^^เหรอคะ? ไปฟังเพลงกันดีกว่าค่ะเมื่อได้ยินคำพูดของปลายสาย พัดลมก็มุ่ยหน้าทันที ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าเธอหึงผม หรือว่าโกรธน้องที่บอกว่าพี่สาวของเจ้าหล่อนอยากเดทกับเธอกันแน่!?แต่ที่เป็นไปได้น่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่านะ

    หลายเพลง หลายการสนทนาได้จบลงไป....ขณะนี้เวลา 21.00 น.แล้ว เป็นเวลาที่ผมและพัดลมต้องกลับบ้านแล้วล่ะ

    สำหรับวันนี้ก็หมดเวลาของเราสองคนแล้วนะคะ ไปฟังเพลงปิดท้ายของช่วงนี้กันได้เลยค่ะ สวัสดีค่ะ

    สวัสดีครับ บ๊ายบาย...ผมคงยืดเวลาที่จะได้อยู่ใกล้เธอได้แค่นี้...งั้นผมคงต้องต่อเวลาอีกหน่อยแล้วล่ะ...

    หน้าสถานี

    “พัด...ผมแบบนี้กล้ากลับไปบ้านเหรอ?”ผมแกล้งถามแล้วทำสายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า...

    “เอ่อ...แล้วนายจะให้ฉันทำยังไงล่ะ?”หึหึ เข้าแผน...

    “ก็...ไปร้านทำผมน่ะสิ^^” ผมจูงกึ่งลากเธอมาที่ร้านทำผมในย่านสุดหรู...เส้นผมของพัดลมถูกตัดออกเป็นแหว่งๆแบบนี้ ร้านจะซ่อมได้รึเปล่านะ?

    ร้านทำผม

    “สวัสดีครับ..ผมพาแฟนมาแก้ทรงน่ะครับ”ฮ่าๆ แก้ทรง พูดอย่างกับผมของพัดลมเป็นกางเกงเลย....

    “งั้นเหรอฮะ?เดี๋ยวเจ้จัดให้นะเคอะ!โอ้โห...ไปทำอะไรมาคะเนี่ย?หนูแทะมาเหรอคะ?!!!”พัดลมถึงกับหน้าเสียไปเลย....

    “เอ่อ..พอจะแก้ทรงแล้วได้เป็นทรงไหนบ้างครับ?”

    “นี่เค่อะ สมุดสำหรับสาวผมสั้น”สาวประเภทสองประจำร้านทำผม รูปร่างใหญ่ผิวคล้ำส่งสมุดสีขาวเขียนว่า ผมสั้นให้กับผม...ผมเลือกเปิดไปทีละหน้าๆผมรู้ว่าพัดลมไม่สามารถรู้ได้หรอกว่าผมทรงไหนจะเหมาะกับตัวเองที่สภาพผมตอนนี้เหมือนโดนหนูแทะมาจริงๆ...เฮ้อ~หนักใจจังเลย...เอ๊ะ!ทรงนี้...น่ารักเหมือนกันนะ ดูๆไปก็เข้ากับพัดลมเหมือนกัน เป็นทรงซอยๆแต่ทำเหมือนผมบ๊อบทรงสั้น คิดแล้วก็น่ารักดี...

    “พี่ครับเอาทรงนี้ครับ...”

    “นี่ๆๆๆ เลือกทรงตามใจชอบเลยนะ ขอความเห็นเจ้าของหัวหน่อย...”พัดลมเริ่มโวยวาย

    “พูดเหมือนกับว่าตัวเองรู้เรื่องแฟชั่นดีอย่างนั้นแหละ^^”ผมเย้ยเธอ

    “ก็ขอดูหน่อยสิ...อือๆแค่นี้แหละ ก็โอเคนะ  จัดการเลยค่ะพี่”พัดลมเริ่มสั่งการ ฮ่าๆมองแล้วก็น่าขำเข้าไปอีก ทำเป็นรู้ดี ฮ่าๆ

    จากนั้นพนักงานทำผมต่างก็มาทำผมให้พัดลม จากผมสีน้ำตาลประบ่าตอนนี้กลายเป็นผมซอยสั้นเหมือนผมนักเรียนมัธยมต้น ผมคิดว่านี่คือทรงผมที่ดีที่สุดของเธอแล้ว...ยัยสี่คนนั้นทำเกินไปแล้วจริงๆ ถ้าเมื่อไหร่ที่เธอจะแก้แค้นพวกนั้น ผมจะห้ามเธอ...เพราะผมไม่อยากให้เธอทำสิ่งไม่ดี   ผมจะเป็นคนทำเอง...

    “ว้าว....very good ค่ะคุณน้อง สวยมากก”จริงครับ

    “เอ่อ...แฟนผมสวยขนาดนี้เพราะพี่ ว่าแต่เท่าไหร่ครับ?”

    “ซอย ตัด สระ ไดร์ อบไอน้ำทั้งหมด1100บาท เจ๊ลดให้เหลือ 1000 บาทขาดตัวเค่อะ”

    “หา!!!!!!!!”ทั้งผมและพัดลมอุทานออกมาพร้อมกัน ทำไมค่าทำผมของผู้หญิงถึงได้แพงขนาดนี้นะ!!!~

    “จ่ายไปสิ ข้าวเจ้า!

    “อะไรนะ!!หัวเธอแล้วฉันต้องจ่ายให้อีกเหรอ?บ้าไปแล้วววว!!”ยัยพัดลมตัวแสบถึงฉันจะชอบเธอแค่ไหนไม่ได้แปลว่าฉันรวยขนาดเป็นป๋านะ!!!ก็แค่พ่อเป็นเจ้าของสถานีวิทยุแค่เนี้ย!!

    ผมควักกระเป๋าสตางค์ออกมาเตรียมจ่ายเงินให้พี่พนักงาน แต่เมื่อเปิดดูผมมีติดตัวแค่ 500 บาทเอง ก็ไม่เห็นต้องพกเงินติดตัวเยอะเลยนี่นา...แล้วผมก็ไม่มีเงินในรถด้วยน่ะสิ ทำไงดี???

    “พัดๆ ฉันมีแค่ 500 อ่ะ” ผมกระซิบพัดลมให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้

    “ห๊ะ!!!อย่าล้อเล่นสิ ฉันก็ไม่ได้เอาเงินติดตัวมานะ”

    “ไม่มีเงินอย่างนั้นเหรอ?งั้นพวกแกจะเอายังไง?!!!”จากเจ๊แสนหวานกลายเป็นดั่งลูกพี่มาเฟียแถวตรอกซอยเซี่ยงไฮ้เลย

    “เอ่อ...พี่รอสักครู่นะครับ ผมจะโทรเรียกคนให้เอาเงินมาให้เดี๋ยวนี้เลยครับ นะครับๆ”ผมส่งสายตาวิงวอนไป

    “ก็ได้ๆๆๆเจ๊เห็นว่าหล่อหรอกนะ...อย่าช้านักล่ะ”เจ๊รีบฉวยโอกาสกับผมทันที เขาเอื้อมมือมาจับก้นกบน้อยน่ารักของผม...แงๆๆๆเพราะเธอคนเดียวเลย!!!

    “ฮัลโหลๆพี่จอร์จเหรอครับ...พี่ๆมาหาผมที่ร้านทำผมซอยตรงข้าสถานีเราหน่อยดิ...”

    [อะไรของแกวะ ไอ้เจ้า!!พี่กำลังทำงานอยู่นะเว้ย!!]

    “ได้โปรดเถอะพี่...เอาเงินติดตัวมาด้วยนะ พันนึง!

    [เอาไปทำไม?]

    “เลิกสงสัยซะทีเถอะครับ!รีบมาเลย ชื่อร้านมา สระตังค์ ครับ มาด่วนๆๆๆๆๆ”ผมรีบกรอกเสียงลงไปย้ำแล้วย้ำอีกเพื่อให้รู้ว่ามันด่วนจริงๆ

    อีกห้านาทีต่อมาพี่จอร์จมายืนด้อมๆมองๆอยู่หน้าร้าน ผมรีบวิ่งออกไปรับหน้าทันที...

    “พี่จอร์จ!!!พระเจ้าจอร์จ!!!โอ้ พี่อันเป็นที่รัก!!!^O^”ผมรีบเข้าไปกอดและไม่แคร์สายตาคนที่มองมา เขาอาจจะคิดว่าผมเป็นเกย์ กระเทย หรืออะไรก็ตามแต่....แต่ตอนนี้ I don’t care!!! ผมต้องการเงิน!!!!

    “พี่จอร์จ เงินล่ะครับ?”ผมรีบถามทันที

    “แหม...แกนี่มันเป็นลูกเจ้าของสถานีประสาอะไร...ไม่มีเงินติดตัวถึงพัน เอ้า!เอาไป!”พี่จอร์จยื่นเงินมาให้ผม...ผมส่งยิ้มหวานหน้าบานจนถึงหู.....

    “ขอบคุณครับ/ค่ะ”พัดลมพูดขอบคุณ ตั้งแต่ที่รู้ว่าผมไม่มีเงินจ่ายพัดลมก็นั่งเงียบกริบ....เฮ้อ!อะไรของเธอเนี่ย???  เมื่อขอบคุณเสร็จผมก็รีบเอาไปให้เจ้าของร้าน....ก่อนที่ผมจะผละออกมาเขาก็พูดพร้อมสายตาเหล่ลงไปที่ก้นน้อยกลอยใจของผม...

    “ระวังไว้ด้วยล่ะ คนใกล้ตัว อาจเป็นภัย!” อะไรของพี่เนี่ย??งงจริงๆเลยคร้าบ...

    ผมทำได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก แล้วรีบเดินออกมาจากร้านอันน่าสะพรึงกลัวแห่งนี้...

    “ผมสวยขึ้นแล้วนี่...พัดลม^^”พี่จอร์จพูดพร้อมยิ้มให้กับพัดลม...ผมหึงนะ!ก็พี่จอร์จออกจะหน้าตาดี สูงโปร่ง หล่อหน้าคม ถ้าผมเป็นผู้หญิงผมจะมารุมล้อมเลยนะนั่น!!!

    “ก็สวยสิพี่...แฟนผมนี่นา...^^”ผมพูดพร้อมเอามือโอบเอวพัดลมไว้ เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ...หุหุ

    “ปล่อยเลยๆชักจะเอาใหญ่แล้วนะ”พัดลมพูดขึ้นทันที

    “พี่ไปก่อนนะ”พี่จอร์จพูดพร้อมทำท่าหงุดหงิดๆ หรือว่าพี่จอร์จจะชอบพัดลม พอรู้ว่าพัดลมเป็นแฟนผมก็เลยหึง!!ไม่ได้นะ!!

    เมื่อพี่จอร์จเดินออกไป ผมก็ลากพัดลมไปที่ร้านสะดวกซื้อมีชื่อเป็นตัวเลขที่โด่งดังของไทย...จากนั้นก็ไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่แสนน่ากินมา 2 ถ้วย และนำมันทั้งสองไปกดน้ำร้อนและซื้อน้ำอัดลมมาสองกระป๋อง ผมหยิบแบงก์ห้าร้อยในกระเป๋าสตางค์ใบสุดท้ายให้กับพนักงานไป...จากนั้นผมก็ถือถ้วยบะหมี่ส่วนพัดลมที่ทำหน้างงเป็นไก่ตาแตกว่าผมจะทำอะไรกันแน่!ก็เดินถือถุงน้ำอัดลมกระป๋องเดินตามมาที่สวนสาธารณะใกล้ๆสถานีนี้เอง ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้ว...เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน หน้าของพัดลมดูกังวลมาก คงกลัวพ่อแม่ว่าแน่ๆ แต่วันนี้ผมขอเห็นแก่ตัวสักวันเถอะนะ

    “อ่ะ...บะหมี่รสหมูสับของเธอส่วนต้มยำกุ้งของฉัน^^”ผมรู้ว่าพัดลมชอบกินรสต้มยำกุ้ง ผมเลยแกล้งเธอเล่นๆ

    “อืม”เธอหน้าดูเครียดมากๆ เธอคงอึดอัดใจที่ต้องอยู่กับผมสินะ

    “เธออึดอัดใช่มั้ย?อยากกลับบ้านแล้วใช่มั้ย?”

    “เปล่า”เธอตอบมาสั้นๆ ทำให้ผมยิ่งเจ็บปวดหนักเข้าไปอีก

    “กลับบ้านกันเถอะ  ไม่ต้องกินแล้ว...”ผมตัดสินใจพูดออกไป

    “นายรักฉันจริงๆรึเปล่า?”ถามตรงๆแบบนี้เลยใช่มั้ย?

    “ใช่...รักมากรักมานานแล้ว”ว้าย...เขิน!(แต๋วแตกซะงั้น)

    “นายรู้ได้ยังไงว่าที่นายคิดกับฉันมันคือความรัก...ฉันเองยังไม่แน่ใจเลยที่พูดว่าชอบนายแล้วก็พูดว่าชอบพี่โอ๊ต” เธอเป็นอะไรไป?

    “เพราะเธอรักพี่โอ๊ตไง ไม่ใช่ฉัน!” ผมพูดทั้งๆที่มันเจ็บมากๆ

    “ไม่ใช่นะ!!ฉันไม่ได้รักพี่โอ๊ตแบบนั้น...นาย...นายเป็นคนทำให้ฉันลังเล”ฉันเหรอ?ฉันเนี่ยนะ!!

    “ลังเลอะไรของเธอ?”ตอนนี้พัดลมเริ่มมีน้ำคลออยู่ที่ตาแล้ว ผมไม่ไหวแล้วนะ ผมจะไม่พูดเรื่องนี้อีกเด็ดขาด ผมจะไม่พูด ไม่ทำอะไรทั้งนั้น ผมจะแกล้งเป็นคนโง่ อย่าร้องนะพัดลม!!!ขอร้องล่ะนะ อย่าร้อง...ไม่อย่างนั้น ฉันคงไม่กล้าสู้หน้าเธอแน่ๆ

    “ฉันลังเลว่าฉันรักใครกันแน่?ฉันต้องการเป็นแฟนกับใครกันแน่?ฉัน...ฉันไม่รู้ว่าฉันรักพี่โอ๊ตหรือนาย...”

     “เธอ...เป็นแฟนฉันวันนี้   เขา....เป็นแฟนเธอในวันพรุ่งนี้   เรา...จะเลิกกันเมื่อจบวันนี้...”

    “ฉัน...จะเป็นแบบนี้ เป็นยัยบ๊อง  ยัยต๊อง ยัยทอม คนเดิมแบบนี้...ขอโทษที่ฉันไม่รู้หัวใจตัวเอง ขอโทษที่ฉันทำให้นายเสียใจ ฉันจะยังไม่เป็นแฟนกับใครทั้งนั้น...ฉันจะให้โอกาสนาย  นายต้องสู้!!สู้เพื่อฉันนะ!!ถ้านายบอกรักฉันจริง นายต้องทำให้ฉันรู้หัวใจตัวเองให้ได้นะ!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×