ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fan ' Love รักวุ่นวายของยัยพัดลม

    ลำดับตอนที่ #5 : ความรู้สึกลึกๆที่อยู่ข้างใน

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 55


    บทที่ 5

    ความรู้สึกลึกๆที่อยู่ข้างใน

     

    (ข้าวเจ้า)

    ไม่ได้หรอก...ยังไงอีตาข้าวเจ้าก็ต้องมาสยบแทบเท้าฉันคนเดียวเท่านั้น....นายนั่นรักฉันจะตายไป  พี่ไม่ได้แอ้มของที่มันเป็นของฉันหรอก....อิอิ

    เธอ...เธอมันคนใจร้ายที่สุด...ฉันไม่มีค่าในสายตาเธอเลยใช่มั้ย?เธอรักพี่โอ๊ตมากเลยใช่มั้ย?แล้วเธอเห็นฉันเป็นตัวอะไรในสายตากันแน่ ยัยแม่มด!!!

    ตอนนี้ผมเร่งสปีดความเร็วของรถขึ้นเรื่อยๆตอนนี้เที่ยงคืนกว่าๆไม่ค่อยมีรถสักเท่าไหร่ ผมจึงเร่งความเร็วที่มีล้นทะลักออกมาเพราะความโกรธและความเจ็บปวดที่อยู่ข้างใน....เสียงหัวเราะและคำพูดของยัยนั่น ทำให้ผมแทบคลั่ง!!ถึงผมจะไร้สติแค่ไหน แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะคาดเข็มขัดนิรภัย...ผมไม่ยอมตายเพราะคนใจร้ายแบบนี้แน่!!!

    บรืน.....บรืน.....

    เสียงเครื่องยนต์ที่เต็มไปด้วยแรงเหยียบคันเร่งจนสุดกู่ของผม....ถ้าตำรวจอยู่แถวนี้คงเรียกผมไปเข้าคุกเป็นแน่....อารมณ์ของผมยังปะทุอยู่ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนได้ระบายความอัดอั้นออกไปบ้างแล้ว  จึงรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย เมื่อผมผ่อนเท้าออกจากคันเร่ง สิ่งที่ผมต้องตกตะลึงจนถึงกับตาโตเป็นไข่ห่าน คือ....เครื่องมันไม่ผ่อนตามไปด้วย!!!ตายแล้วๆๆๆอกของกระผมจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ผมพยายามมีสติให้มากที่สุด(ถึงตอนนี้มันจะเหลือน้อยแล้วก็ตามที)ผมเหยียบเบรกจนมิดเท้า...แต่รถก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดสักนิด เพราะเธอคนเดียวเลยยัยพัดลม ฉันจะรอดมั้ยเนี่ย???พ่อแก้วแม่แก้วจ๋าช่วยข้าวเจ้าด้วยเถิดคร้าบ....แงๆๆผมเป็นผู้ชายก็จริงนะแต่ผมน่ะไม่ได้เป็นยอดมนุษย์นะ....

    เอี๊ยด..........

    เสียงยางรถยนต์เสียดสีกับพื้นถนนเป็นรอยยาวตามทาง ฟังแล้วน่าขนลุกยิ่งนัก....รถเริ่มชะลอตัวลง...แล้วสิ่งที่ผมเห็นตรงหน้ามันทำให้เลือดพุ่งปรี๊ด....เพราะเป็นต้นไม่ใหญ่ถึงแม้รถจะชะลอเรื่อยๆ...เรื่อยๆ....เรื่อยๆ...แต่มันก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เสียงที่ผมได้ยินต่อมาจากนั้นก่อนหลับไปคือ

    ตูม!

    “ป๊า....เฮียเจ้าฟื้นแล้ว ป๊า....”เสียงที่ผมได้ยินเป็นเสียงหญิงสาวสำเนียงจีนที่คุ้นเคย  นั่นคือ...น้องสาวสุดที่รักของผม  ผมปรือตามองรอบห้องสี่เหลี่ยมสีขาว ถ้าเป็นพระเอกนางเอกในหนังจะต้องถามว่า ที่นี่ที่ไหน?ซึ่งไม่รู้จะถามไปทำไมเพราะผมรู้อยู่แล้วว่าที่นี่คือโรงพยาบาล....แต่ในเมื่อผมเป็นพระเอกผมก็ต้องถามสินะ...

    “ที่นี่ที่ไหน?” ผมพูดเสียงอ่อยตามบทที่ควรจะพูดในฐานะพระเอก(สุดหล่อ)

    “อ้าว...อาเจ้า!ลื้อจำห้องตัวเองไม่ได้รึไงกัน?...”เสียงสำเนียงปนจีนมาขนาดนี้จะเป็นใครไม่ได้นอกจากป๊าของผมเอง...เวลาอยู่ที่บ้านทุกคนต้องพูดสำเนียงจีนแบบนี้เสมอ เพราะป๊าสอนว่าอย่าลืมชาติกำเนิดที่แท้จริงของตัวเอง...พูดแล้วซึ้งจัง!ว่าแต่...เมื่อกี๊ ป๊าบอกว่า ผมจำห้องตัวเองไม่ได้รึไง? เอ้า!แปลว่าผิดบทล่ะสิ....ลืมไปเลยว่าห้องผมก็เป็นสีขาวเหมือนกัน  ผมอยากเปลี่ยนห้องกับพี่โอ๊ตใจจะขาด เพราะห้องพี่โอ๊ตเป็นสีขาวแต่ไม่มีผ้าม่านลูกไม้สีแดงแบบห้องของผม พอผมจะเอาออกป๊าก็ห้าม....ผมล่ะเบื่อจริงๆที่ห้องตัวเองเหมือนกับห้องของข้าวหอมเปี๊ยบเลย....

    “หรือว่าสมองจะได้รับความกระทบกระเทือนครับ ป๊า....”เสียงนี้จะเป็นใครไม่ได้ นอกจากพี่ชาย(ที่คิดว่าตัวเองหล่อ)ของผม

    “จริงด้วย!เฮียเป็นอะไรรึเปล่าคะ?”

    “อั๊วไม่ตายง่ายๆหรอก!!”ผมพูดกึ่งตะคอกเพื่อประชดใครบางคน

    “เฮียทำไมพูดกับอั๊วแบบนี้ล่ะคะ...ฮือๆ”เฮ้ย!ฉันไม่ได้จะว่าเธอซะหน่อยยัยข้าวหอม

    “อั๊วไม่ได้ว่าลื้อนะ!!” ผมรีบแก้ตัวทันควัน

    “แล้วนายว่าใครล่ะ?บอกไว้ก่อนนะห้ามว่าฉันล่ะ รู้มั้ย?^^สวัสดีค่ะคุณอา...”เสียงคุ้นๆนี้จะเป็นใครล่ะ?ต้นเหตุที่ทำให้ผมมานอนเจ็บอยู่แบบนี้ไงล่ะ....ผมจำเสียงได้และผมก็ไม่มองหน้าเธอด้วย!!ผมไม่อยากเห็นหน้าเธอ...คนใจร้าย!!!

    “อ้าว...สวัสดี....ว่าแต่หนูเป็นใครกัน?”ป๊าจะถามทำไม?ป๊าก็เคยเจอแล้วไง วันที่ 12 เมษายน ที่ผมพายัยนี่มาทำรายงานที่บ้านเป็นวันแรกไง  พอทำรายงานเสร็จยัยนี่ยังช่วยล้างชามที่กินข้าวด้วยกันอยู่เลย...ผมยังจำรอยยิ้มนั้นได้ติดตา(นี่ขนาด...ไม่ค่อยสนใจแล้วนะ!!)

    “หนูชื่อแอร์ค่ะ เป็นพี่สาวของพัดลมเพื่อนของข้าวเจ้ากับข้าวหอมน่ะค่ะ” พี่แอร์??แปลว่าไม่ใช่คนที่ผมคิดไว้น่ะสิ...ผมรีบชะเง้อคอมองหาคนที่คิดว่าจะมาหาผมบ้างทันที แต่...ก็ไร้วี่แววหรือว่าจะไม่รู้!!แต่ถ้าพี่แอร์รู้ พัดลมจะไม่รู้ได้ไง?

    “ไม่ต้องมองหายัยพัดลมหรอก...น้องฉันไม่มาด้วยหรอกนะ^^เอ้อ!พี่ทำโจ๊กมาฝากด้วยนะ...วันนี้พี่ขออาสาดูแลนายแล้วกันนะ^^” พูดแทงใจดำเชียว

    “เอ่อ...”พูดไม่ออกเลยสิครับ

    “ป๊าครับ...เมื่ออาเจ้าฟื้นแล้ว อั๊วไปก่อนนะ จะรีบไปหาแฟน....ตัวเอง”แหม...ทำไมต้องเน้นเสียงตรงคำว่า แฟนตัวเองด้วย

    โรงเรียน

    (พัดลม)

    ทำไมวันนี้ นายข้าวเจ้าไม่มาโรงเรียนนะ หรือว่าจะโกรธฉัน?แล้วข้าวหอมก็ไม่มา  พี่โอ๊ตก็ไม่เห็น....ไปไหนกันหมดนะ  ปกติตอน 7 โมงจะมากันแล้วนี่นา....นี่เวลาปาไปต้อง 8โมงครึ่งแล้วนะ! หงุดหงิดแต่เช้าเลย.....

    วันนี้แปลกๆหลายอย่างเลยนะ...ตั้งแต่หลังฉันอาบน้ำเสร็จพี่แอร์ก็ลุกลี้ลุกลนไปทำอะไรในครัวแต่เช้า...แถมยังบอกว่าวันนี้ให้ฉันไปโรงเรียนเองอีกต่างหาก....เฮ้อ~แล้ววันนี้ทุกคนหายไปไหนกันหมดนะ!!!

    ตอนนี้ฉันกำลังนั่งทำหน้าบูดหน้าบึ้งอยู่คนเดียวที่โรงอาหาร ปกติต้องมากินข้าวเช้ากับนายข้าวเจ้าแล้วก็ข้าวหอม แต่วันนี้สองคนนั้นหายไปทั้งคู่เลย....ฉันเหงาจนใจจะขาดอยู่แล้วนะ!!!

    “อุ๊ยตายว้ายกรี๊ด!!!ดูซิว่าใครมานั่งทำหน้าตาอัปลักษณ์อยู่คนเดียวแบบนี้!!!”เสียงแจ๋นมาแต่ไกลขนาดนี้....เป็นใครไปไม่ได้นอกจากยัยเชอร์รี่จองสตรอว์เบอร์รี่!!!

    “มีอะไร?”ฉันถามกลับไปเสียงห้วนๆ

    “ก็เปล่า....แค่มาดูหน้าตาคนที่กำลังเป็นแฟนกับพี่โอ๊ตแล้วบอกว่าจะไม่โดนทิ้งอ่ะ...น่าสงสารเนอะ!!” ยัย...ยัยเชอร์รี่!!!!!!ฉันกำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่นะ....บังอาจ!!!!

    “อยากมีเรื่องแต่เช้าเลยใช่มั้ย?งั้นลองดูกันหน่อยมั้ยล่ะว่าฉันแตกต่างจากสวะ เอ็ย! สตรอว์ แบบพวกเธอตรงไหน?ฉันดียังไงพี่โอ๊ตถึงเลือฉันไม่เป็นพวกเธอ!!!”ฉันตะคอกบวกตะโกนใส่หน้ายัยเชอร์รี่ และผองเพื่อนสตรอว์ ซึ่งมียัยแคทตี้และจีจี้(แต่ละคนชื่อหน้าหมั่นไส้สุดๆ)เสียงของฉันทำให้แก๊งสตรอว์หน้าซีดเผือดไม่ต้องพูดถึงคนที่นั่งกินข้าวอยู่ในโรงอาหารกำลังมองฉันที่ยืนชี้หน้ายัยสามสาวอยู่....

    “ดะ...ได้!!”ยัยเชอร์รี่พูดออกมา พร้อมความปากสั่น ยอมรับว่าเธอเก่งมากที่รักษาหน้าตัวเองได้ในวันนี้แต่ถ้าสู้กับฉันหน้าเธอเละแน่ๆ หุหุ

    “งั้นจะเอาที่ไหน?เมื่อไหร่?วันไหน?รูปแบบอะไร?”ฉันยิ้มมุมปาก

    “ฮึ!ดูสิว่าเธอจะเก่งสักแค่ไหน...วันนี้ ตอน 5 โมงเย็น ที่หลังห้องน้ำหญิง ส่วนรูปแบบที่ฉันเลือกคือ...คิตตี้หมู่”ยัยเชอร์รี่พูดไม่หยุด...พร้อมหน้าตาที่บดบังมิดด้วยเครื่องสำอางที่คิดว่าน่าจะแพงอยู่แต่พอมาเข้ากับใบหน้าของยัยนี่แล้ว เหมือนเอากระทะก้นไหม้มาทาแป้งแล้วราดด้วยน้ำหวานสีแดง....คิดแล้วขำ!!!

    “ได้...”ฉันตอบรับ...ทีนี้วันนี้ฉันก็มีอะไรสนุกๆทำแล้วสินะ^^

    บนห้อง

    “อ้าว...ข้าวหอมมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

    “........”เงียบกริบ

    “ข้าวหอมๆๆได้ยินรึเปล่า?”

    “...............”เงียบฉี่...และเมินหน้าหนี

    “ข้าวหอม!!!!”ฉันตัดสินใจตะโกนออกไปจนคนในห้องทั้งหมดหันมามองเป็นตาเดียว แต่ยังไงฉันก็ Don’t Care

    “จะตะโกนทำไม?!!!!”ข้าวหอมตะโกนกลับมาบ้าง ซึ่งฉันก็ไม่เคยเห็นมาก่อน.....

    “ข้าวหอมโกรธอะไรฉันเหรอ?”

    “ใช่!!!”ข้าวหอมยังคงตะคอกฉันอยู่....

    “เอ่อ...ฉันไปทำอะไรให้เธอโกรธเหรอ?” นั่นสิ...ฉันไปทำอะไรให้ข้าวหอมโกรธ???

    “ไม่รู้เลยรึไง?” รู้แล้วจะถามเรอะ?

    “ไม่อ่ะ”

    “ก็ข้อความที่ส่งให้ตอน 6โมงเช้าไง...ทำไมใจร้ายแบบนี้นะ ทำไมต้องหลอกกันด้วยไม่เห็นต้องส่งพี่มาเลยนี่นา...”ส่งพี่?

    “ข้อความอะไร?แล้วฉันส่งพี่ไปตอนไหน?ไม่มีนะ ฉันไม่รู้เรื่อง!!!

    “ก็ฉันส่งไปกับมือเลยนะ เธอเช็คดูก็ได้!!”ท้าฉันเหรอ?บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้สิ...

    ฉันรีบยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วเข้าไปที่ข้อความทันที แต่ก็ไม่มีข้อความของวันนี้เลยแม้แต่ข้อความเดียว

    “อ่ะ...ดูซะ!!!

    “ไม่จริงน่ะ!!!เธอยังส่งข้อความกลับมาอยู่เลยว่า ได้ๆแล้วทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ?”ข้าวหอมถึงกับตาโต และทำหน้าตกใจสุดขีดไปเลย....มองดีๆหน้าข้าวหอมกเวลาทำหน้าแบบนี้ก็ตลกดีเหมือนกันนะ!!เดี๋ยวสิ...นี่ไม่ใช่เวลามาพินิจหน้าเพื่อนนะ....เมื่อกี๊ข้าวหอมบอกว่าส่งไปตอน 6 โมงเช้า...แล้วตอนนั้นฉันทำอะไรอยู่????

    “อาบน้ำ!!!!”ฉันตะโกนออกมาลั่นห้อง จนคนในห้องที่บางคนกำลังอ่านหนังสือรอเวลาอาจารย์เข้าถึงกับทำหนังสือตกพื้น  บางคนที่แอบกินขนมอยู่ก็พ่นขนมออกมาจนโดนคนข้างหน้า....ก็มันตกใจนี่นา....

    “อาบน้ำเกี่ยวอะไรด้วยเหรอ?”ข้าวหอมทำหน้ามุ่ย ถามทันทีที่ฉันโพล่งคำพูดนี้ออกมา

    “ตอนที่เธอส่งข้อความมาน่ะ ฉันกำลังอาบน้ำอยู่แล้วคนที่เปิดอ่านต้องเป็นพี่แอร์แน่ๆ เลย...ฉันไม่ได้เป็นคนอ่านและก็ไม่ได้เป็นคนส่งพี่แอร์ไปด้วย!!!

    “แล้วแบบนี้ จะเกิดอะไรขึ้นกับพี่ข้าวเจ้ารึเปล่านะ?”หมายความว่ายังไง?เกิดอะไรกับนายข้าวเจ้า?!!!

    “เธอคิดอะไรของเธอ?”

    “พี่แอร์ทำโจ๊กไปฝากพี่เจ้าแล้วก็อาสาดูแลพี่เจ้าด้วย....”

    “ไม่นะ!!

    “ตกใจอะไร?”นั่นสิ!ฉันตกใจอะไร?

    “เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอก”

    “งั้นเย็นนี้ไปหาพี่เจ้ากันนะ”

    “อื้ม...”ใจจริงฉันอยากไปหาข้าวเจ้าตอนนี้เลยด้วยซ้ำ....น่าเป็นห่วงจัง!!

    พักกลางวัน

    “กินอะไรดีนะ?”ข้าวหอมถามฉันพลางมองไปทั่วบริเวณโรงอาหาร ตาสีน้ำตาลของข้าวหอม มองร้านอาหารด้วยสายตาหยาดเยิ้ม และท่าทางน้ำลายจะไหลออกมาแล้วด้วย....

    “ไม่รู้สิ...ราดหน้าดีมั้ย?”

    “กินราดหน้าอีกแล้วเหรอคะ?หวังว่าคงไม่ได้จะเอามาราดหัวใครอีกนะ!!^^”ใครมาแซวฉันเนี่ย????

    “พี่ลูกกวาด!!~

    “ตกใจอะไรจ๊ะ?^^”พี่ลูกกวาดส่งยิ้มหวานมาให้กับฉัน  มันทำให้ฉันรู้สึกผิดนิดหน่อยแต่ก็ส่งยิ้มกลับไปให้

    “เอ่อ...เปล่าค่ะ มากินข้าวด้วยกันมั้ยคะ?” ฉันถามตามมารยาท

    “คงจะไม่ได้หรอกนะ  จะให้แฟนเก่ากับแฟนใหม่มานั่งด้วยกันได้ยังไง?จริงมั้ยลูกกวาด?”พี่โอ๊ตมาจากไหนเนี่ย???

    “นั่นสิ...อีกอย่างพี่ก็ต้องไปนั่งกับแฟนใหม่ที่ดีกว่าของพี่เหมือนกัน....”เน้นคำว่า แฟนใหม่ที่ดีกว่าคงอยากจะว่ากระทบ  พี่โอ๊ตแน่ๆเลย...

    “พี่ลูกกวาดเปลี่ยนไปเยอะเลยนะคะ”ข้าวหอมพูดมาได้โดนใจฉันอย่างแรง....

    “อื้อ”ฉันตอบไปสั้นๆ

    “ไม่เห็นเปลี่ยนเลย....ก็ยังไล่ตามผู้ชายเหมือนเดิมแหละ”พี่โอ๊ตพูดได้แรงอีกเลยครับท่าน...

    “ไม่แรงไปเหรอคะ?”ฉันถามพร้อมทำหน้ามุ่ยใส่พี่โอ๊ต

    “พี่พูดตามที่เห็นนี่นา...พัดลมก็เห็นว่ายังคอยตามแฟนเหมือนเดิม...โชคดีที่แฟนของพี่ไม่ทำแบบนั้น^^”พี่โอ๊ตพูดพลางขยี้ผมฉันเบาๆอย่างเอ็นดู....ทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมาจนได้...ความโกรธที่เคยมีพลันจางหายไปด้วย....ทำไมน่ารักแบบนี้นะ^^

    “เอ่อ...โทษนะคะ หอมหิวข้าวแล้วล่ะค่ะ”ข้าวหอมพูดขึ้นมาขัดความฝันกลางวันของฉัน

    “อื้อๆ...ไปกินข้าวกันเถอะค่ะ”

    “อ้าว...พี่โอ๊ต สวัสดีค่ะ...จำเชอร์รี่ได้มั้ยคะ?”เสียงยัยเชอร์รี่คงต้นคงปลายอะไรเช่นนี้....เอ๊ะ!กอดแขนแฟนฉันได้ยังไง???

    “อ่ะแฮ่ม!”ฉันรีบกระแอมออกมาดัง

    “เป็นอะไรเหรอพัด?”ข้าวหอมถามฉัน ทั้งๆที่มือยังกุมท้องอยู่....

    “เปล่าๆ”ยัง....ยัง...ยังไม่รู้ตัวอีก....

    “อ่ะค่อกอ่ะแค่ก....”ฉันแกล้งไออีกครั้งดังกว่าเดิม

    “สงสัยจะไม่สบายนะเนี่ย...เวลาไอปิดปากด้วยสิพัด!”โถ่...ข้าวหอมเพื่อนรัก ช่วยรักเพื่อนคนนี้บ้างได้มั้ย???แล้วทำไมพวกแก๊งสตรอว์ยังไม่ปล่อยอีกนะ แล้วพี่โอ๊ตยิ้มอะไรของเขาล่ะเนี่ย??

    “เอ่อ...ขอโทษแล้วกันนะ เผอิญมีอะไรขัดหูขัดตาขัดแข้งขัดขาขัดคอ!!!”พูดถึงขนาดนี้จะรู้กันรึยัง???(ฉันก็ขี้หึงเหมือนกัน)

    “ไม่ต้องหึงหรอกพัด พี่รักพัดคนเดียวแหละ^^”ยังมีหน้ามาพูดอีกนะ  ชิ!! แต่ทำไมวันนี้มันรู้สึกโหวงๆนะแปลกๆ มันดูเหมือนอะไรหายไปจากชีวิตเลย

    “แหะๆ ไม่ต้องหรอกค่ะพี่โอ๊ต  พัดใจกว้างงงง”ฉันพูดพร้อมลากเสียงยาวๆให้รู้ว่ากว้างจริงๆ

    “นั่นกว้างแล้วเหรอยะ??อิอิ เล็กนิดเดียวเอง”ยัยแคทตี้พูดพลางมองมาทางหน้าอกของฉัน

    “.........”เงียบกันทุกคน ทั้งฉัน ข้าวหอมและพี่ข้าวโอ๊ต เว้นแต่ยัยแก๊งสตรอว์ทั้งสาม....ที่ระริกระรี้อยู่ได้!!!

    “หอม...หอมหิวค่ะ”

    วูบ!

    “ข้าวหอม!!”ฉันกับพี่โอ๊ตอุทานมาพร้อมกันและช่วยกันพยุงข้าวหอมขึ้นเพื่อพาไปที่ห้องพยาบาล....

    “อย่าลืมนะ 5โมงเย็น เรามีนัดกัน หึหึ”ยัยจีจี้พูดขึ้นมา ก่อนที่ฉันจะพาข้าวหอมไปที่ห้องพยาบาล

    ห้องพยาบาล

    “เอ่อ...อาจารย์ครับช่วยน้องผมด้วย อยู่ๆก็วูบลงไปเลย”พี่โอ๊ตเว่อร์มากๆ

    “มานี่...พามานอนบนเตียงนี่....เอายาดมไป รอฟื้นแล้วค่อยกินยา”อาจารย์กันจิราพูดพร้อมทำทุกอย่างอย่างคล่องแคล่ว

    พอมาที่ห้องพยาบาลอีกครั้งเป้นต้องนึกถึงภาพที่เป็นลมแล้วพี่โอ๊ตพามาที่นี่^///^เขินจัง~

    “เป็นอะไรเหรอพัด?แก้มแดงเชียว....”

    “เอ่อ....เอ่อ....”ทำตัวไม่ถูกเลย

    “เขินอะไรเหรอ?”

    “เปล๊า!!!ไม่มี๊ไม่มีค่ะ แหะๆ^^อุ๊ย!ข้าวหอมฟื้นแล้วค่ะอาจารย์”ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องทันที

    “หอมหิว....หอมหิว....”โธ่!ขอโทษนะข้าวหอม....เธอยังไม่ได้กินข้าวเลยนี่นา

    “เธออยากกินอะไรล่ะ เดี๋ยวฉันไปซื้อมาให้”

    “ที่นี่ไม่ให้นำอาหารเข้ามานะจ๊ะ...”

    “งั้นข้าวหอมไหวมั้ย?ลุกไปกินตรงม้านั่งข้างนอกกันเถอะเนอะ!!!”แหะๆ^^บทจะดุก๊ดุ๊ดุเนอะ....

    “ไหวๆแต่หอมหิวมากๆๆๆๆๆๆๆๆ”รู้แล้วๆเดี๋ยวจะเอามาให้เสวยบัดดลเลยนะ....

    “แล้วหอมจะกินอะไรล่ะครับ เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้?”

    “ไม่ต้องหรอกค่ะพี่โอ๊ต เดี๋ยวพัดซื้อให้เองดีกว่า แล้วข้าวหอมอยากกินอะไรล่ะ?”

    “เอาโจ๊กแล้วกัน เห็นที่พี่แอร์เอาไปให้พี่เจ้าก็เลยอยากกินตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ”จริงด้วยพูดถึงนายข้าวเจ้าเย็นนี้ต้องไปเยี่ยมนี่ แต่เย็นนี้ฉันมีนัดกับยัยแก๊งสตรอว์นี่นา....แล้วสรุปฉันจะทำยังไงดี?แล้วฉันชอบนายข้าวเจ้าจริงๆรึเปล่า?แล้วฉันคิดอะไร?

    “พัดๆ...พัดลม...”

    “........”

    “พัด!!!เราหิวแล้วนะ!!!เราจะกินโจ๊ก!!!!

    “เฮ้ย!ตกใจหมดเลย ตะโกนทำไม?”

    “เราบอกว่าเราจะกินโจ๊ก!!”จริงด้วยลืมเลย

    “เอาโจ๊กใส่อะไรบ้าง?”

    “โจ๊กหมูไม่ใส่ผัก ใส่ไข่2ฟอง พิเศษ!!”โอ้โห....กินหรือทำอะไรกันแน่!!

    “ชามนึงใช่มั้ย?ฮ่าๆ”ฉันแกล้งแซวข้าวหอมเล่นๆ

    “2 ชามย่ะ!!”โอ้มายก็อด!!!OoO

    “ได้ๆ รอแป๊บนึงนะ”

    (ข้าวหอม)

    “พูดอะไรน่ะยัยหอม?”

    “เอ่อ...อะไรเหรอคะ?”ฉันไปพูดอะไรที่ไม่ถูกใจพี่โอ๊ตเข้าเหรอ?

    “ไปพูดถึงไอ้ข้าวเจ้าต่อหน้าพัดลมทำไม?”

    “แล้ว...มันเป็นยังไงเหรอคะ?”ฉันกลัวพี่โอ๊ตจัง...ไม่เคยเห็นทำหน้าดุแบบนี้มาก่อนเลย...

    “ทำไมถึงโง่แบบนี้นะ!!!”หา!!พี่โอ๊ตตะคอกฉันเหรอ?ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ???

    “ฉัน...ฉันทำ...อะ...อะไรผิด...เหรอคะ?”เสียงฉันสั่นเครือพร้อมน้ำตาที่คลอเอ่ออยู่ที่ขอบตา...แค่พูดถึงพี่ข้าวเจ้าแล้วทำไมถึงต้องมาว่าฉันแบบนี้ด้วยล่ะ???

    “ผิดที่เธอพูดถึงไอ้ข้าวเจ้า!!!!”ตะคอกใส่ฉันอีกแล้วเหรอ?เมื่อไหร่จะมีคนมาช่วยฉันให้หลุดพ้นจากที่นี่ซะที

    “แล้วก็ผิดที่ฉันไม่ใช่น้องแท้ๆของพี่ด้วยใช่มั้ยคะ?!!”ฉันเผลอตะคอกพี่โอ๊ตออกไปพร้อมน้ำตา ฉันทำผิดอย่างมากที่เผลอไปรักพี่ชายของตัวเอง...ถึงเป็นพี่ไม่แท้แต่ก็ไม่ควรจะรักกัน  มันดูผิด...ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าการรักคนๆนึงจะมีเรื่องวุ่นวายมากขนาดนี้.....ฉันเจ็บปวดมากพออยู่แล้วที่พี่โอ๊ตกับพัดลมเพื่อนรักของฉันเป็นแฟนกัน...ฉันคิดว่าแค่ฉันได้อยู่ใกล้พี่โอ๊ตแบบเดิมก็ดีมากพอแล้ว....แต่ยิ่งใกล้มากเท่าไหร่ ฉันเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนเลวที่ไปรักคนที่เขามีแฟนอยู่แล้ว

    “เอ่อ...พี่ขอโทษนะ”

    “พี่โอ๊ตคะ...ฉันรักพี่นะคะ รักที่ไม่ใช่แบบพี่น้องน่ะค่ะ ฮือๆ”ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันจะร้องไห้ไปทำไมกัน  ทั้งๆที่ได้บอกความรู้สึกของตัวเองไปแท้ๆแทนที่จะดีใจที่ได้บอกความรู้สึกลึกๆข้างในออกไปกลับเอาแต่นั่งร้องไห้ออกมา....

    เพล้ง!

    “เอ่อ...เดี๋ยวฉันไปซื้อให้ใหม่นะ แหะๆ^^

    “พัดลม!!รอพี่ด้วย!! อยู่คนเดียวได้ใช่มั้ย?”พี่โอ๊ตหันมาถามฉัน....

    “ค่ะ”ฉันตอบพร้อมปาดคราบน้ำตาที่อาบแก้ม เพื่อแสดงให้พี่โอ๊ตรู้ว่า ฉันไม่ได้อ่อนแออย่างที่เห็นหรอกนะ...

    เมื่อพี่โอ๊ตวิ่งตามพัดลมไปแล้ว  ฉันก็กลับมานั่งคุกเข่าร้องไห้เหมือนเดิม...ฉันมันอ่อนแอเกินเยียวยาแล้วล่ะ....

    “มานั่งร้องไห้อะไรตรงนี้ล่ะครับน้อง?”มีพี่ ม.6 หน้าตาดีคนนึง เดินเข้ามาถามฉัน พลางยิ้มหวานๆให้ ทำให้ใจของฉันเต้นตึกตักขึ้นมา...ฉันรู้สึกว่าฉันเป็น ผู้หญิงใจง่ายมากเลย...

    “เอ่อ...ไม่เป็นไรหรอกค่ะ^^”ฉันพูดพร้อมเช็ดคราบน้ำตาไปด้วย

    “เช็ดแบบนั้นเมื่อไหร่จะออกล่ะ...อ่ะ เอาผ้าเช็ดหน้าไป...ถ้าไม่รับกับมือพี่จะเช็ดให้เลยนะ^o^”เมื่อสิ้นประโยค ฉันรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าจากมือพี่คนนี้ทันที รอยยิ้มของพี่เขาเหมือนเป็นพลาสเตอร์มาปิดรอยแผลในใจฉัน ฉันรู้สึกดีจัง^^

    “น้องชื่ออะไรเหรอ?”เขาถามชื่อฉันด้วย...เอาไงดีล่ะ?

    “ข้าวหอมค่ะ”ตอบไปแล้ว ใจจริงอยากถามชื่อพี่เขากลับจัง^///^

    “พี่ชื่อ ใจเดียว ครับ” ชื่อน่ารักจังเลย>///<

    “ชื่อแปลกดีนะคะ”แหะๆ กล้าพูดแบบนี้ด้วยเหรอยัยข้าวหอม???

    “แม่พี่ตั้งให้บอกว่าอยากให้ลูกรักเดียวใจเดียวน่ะ...พี่เคยมีรักครั้งนึงแล้วรักครั้งนั้นเพื่อนพี่เป็นคนแย่งมันไปจากพี่...”

    “น่าสงสารจังเลย...พี่ ใจเดียว ต้องสู้ๆนะคะ” ฉันพูดออกไปด้วยแววตาจริงจัง จนทำให้พี่ใจเดียวหัวเราะออกมา

    “ไอ้เดียว เอ็งมาทำอะไร?”พี่โอ๊ตรู้จักพี่ใจเดียวด้วยเหรอ??

    “มาหาคนที่ข้าชอบอ่ะ^^”หา!!คนที่ชอบ?ฉันเหรอ?อ๊าย~เขินจังเลยอ่ะ><

    “ไม่ได้หรอกว่ะ...นี่มันน้องข้า”อย่ามาหวงก้างแบบนี้นะคะพี่โอ๊ต....

    “แต่ถ้าหอมจะรักใคร...มันก็เรื่องของหอมนี่คะ!!ไปกันเถอะค่ะพี่ใจเดียว...”ฉันเดินกึ่งลากพี่ใจเดียวออกมาจากที่ตรงนั้น

    “ข้าวหอม!!แล้วโจ๊กล่ะ?”

    “ช่างเถอะ...เด็กเรียกร้องความสนใจแบบนั้นอย่าไปใส่ใจเลย...” ใจร้ายที่สุดเลย!!!TOT

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×