คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 6
“หาอะไรหรือพิมพ์” ชายหนุ่มถามอย่างใจเย็น เมื่อเห็นร่างบางกำลังค้นหาอะไรสักอย่างในกระเป๋าสตางค์ของเขา
“ไม่มีของที่คุณหากรอก” เขาบอกยิ้มๆ รู้ดีว่าเธอหาอะไร และหญิงสาวเองก็ไม่คิดที่จะหาต่อไปให้เสียเวลา เธอโยนกระเป๋าสตางค์ในมือทิ้ง แล้วลุกเดินไปยังกระเป๋าสะพายของตัวเอง
“อยู่ไหนนะ จำได้ว่าใส่ไว้ในนี้นี่นา” หญิงสาวพึมพำเบาๆ กับตัวเอง มือบางยังรื้อค้นกระเป๋าใบโปรดไม่หยุด
ชายหนุ่มนอนดูคนตัวเล็กกว่าค้นหาของสำคัญอย่างสำราญใจ ดวงตาคมกล้า ยังคงเพ่งมองใบหน้านวลเนียนที่เริ่มหงุดหงิดเพราะหาสิ่งนั้นไม่เจอเสียที จะเจอได้อย่างไรกัน ก็ในเมื่อเขาจัดการโยนมันทิ้งถังขยะไปหมดแล้ว หาจนกระเป๋าฉีกก็หาไม่เจอหรอกพิมพ์ ชายหนุ่มกระหยิ่มยิ้มอย่างใจเย็น
“ไม่ต้องหาหรอก ผมโยนมันทิ้งถังขยะไปแล้วล่ะ” เขาบอกน้ำเสียงเนิบๆ ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับสายตาน่ากลัวของหล่อนที่มองมายังเขา
ร่างบางเดินตรงไปยังถังขยะทันที คงไม่เป็นไรหรอก เพราะถ้ายายังไม่ได้แกะออกจากแผง นั่นแสดงว่ามันยังใช้ได้ หล่อนพยายามปลอบตัวเอง ไม่ให้วิตกกังวลจนเกินเหตุ แต่เมื่อเปิดถึงขยะหล่อนถังกับอ้าปากค้าง เพราะเม็ดยาทั้งหลายที่คิดว่ามันน่าจะอยู่ในแผงกลับกระจายเต็มไปหมด แถมไอ้แผงยานั่นยังว่างเปล่า มันมีถึงสองแผงเลยทีเดียว แผงหนึ่งเป็นยาที่เธอลงทุนซื้อมาส่วนอีกอันหนึ่งไม่ต้องสงสัย มันมาจากกระเป๋าของเขาแน่นอน ความโกรธพุ่งทะยานขึ้นราวกับจรวดที่พร้อมจะทะยานออกสู่อวกาศก็ไม่ปาน
“คุณทำแบบนี้ทำไมกันคุณตริณ” เธอถามเสียงเย็น พยายามสะกดกลั้นอารมณ์โกรธไว้อย่างยากเย็น
“..................” ไม่มีคำตอบ มีเพียงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ จากผู้ชายตรงหน้าหล่อน
เพล้ง!!!
แจกันใบสวยลอยมาตกอยู่แทบเท้าผู้ชายเจ้าเล่ห์อย่างตริณ แต่มันไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้านได้เลย เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นเขาคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าหมดแล้ว จึงไม่รู้สึกตกใจอะไรกับสิ่งที่เห็น รู้แต่ว่าตอนนี้หล่อนกำลังจะคลั่งถ้าเขายังอารมณ์ดีไม่ตอบโต้อะไร
แจกันที่แตกแทบเท้าของตริณ พิมพ์ประภาตั้งใจจะให้มันตกแตกตรงหน้าเขาเพราะต้องการบอกให้เขารู้ว่าเธอไม่พอใจ แต่ชายหนุ่มยังอารมณ์ดีได้อีก ไม่ต้องเสียเวลาคิดให้มันมากความ แจกันใบที่สองลอยละลิ่วไปจากมือหญิงสาวทันที
“โอ๊ย!!” ชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมศีรษะ ด้วยความเจ็บปวด ของเหลวสีแดงเข้มไหลลงมาทันที หากแต่ร่างบางยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง ไม่ใช่ตกใจเสียจนทำอะไรไม่ถูก แต่ตั้งใจให้มันโดนหัวเขาต่างหาก
“เอาเลือดเลวๆ ออกบ้างมันคงจะทำให้คุณคิดทำเรื่องดีๆ ได้มากขึ้นนะคะ” เธอยืนกอดอก บอกเขาด้วยท่าทีเย็นชา นัยน์ตาคู่สวยยังมองไปที่เลือดสีแดงเข้มของเขา ก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากห้องนอน
“โอ๊ย!!!!! เบาๆ หน่อยสิไอ้พิสุทธิ์ เจ็บนะโว้ย เป็นหมอประสาอะไรกันมือหนักยังกะช้าง อย่างนี้คนไข้แกไม่ขาดใจตายเวลาแกผ่าตัดหรือไงกันวะ” ตริณ โอดครวญพลางต่อว่าเพื่อนซึ่งกำลังทำแผลให้
“ไม่ต้องมาโอดครวญฉันรำคาญ เบื่อจริงไอ้พวกนานๆ ทีจะเจอหมอเนี่ย เป็นแบบนี้ทุกราย แล้วนี่ไปโดนอะไรมาล่ะถึงได้กบาลแยกมาขนาดนี้น่ะ”
“โดนแจกันเขวี้ยงใส่” ชายหนุ่มบอกไปอย่างเสียไม่ได้
“ใครกันวะจะกล้าเขวี้ยงแจกันใส่นายตริณ ชายหนุ่มรูปงามเปี่ยมเสน่ห์อย่างแก” พิสุทธิถามยิ้มๆ นึกแปลกใจไม่น้อยว่าใครกันช่างกล้าหาญถึงเพียงนี้ แต่ตอนนี้สภาพจองคนๆ นั้นจะเป็นยังไง เขาก็นึกไม่ออก สงสัยโดนไอ้หมาบ้าตริณหักคอไปแล้วกระมัง
“พิมพ์”
“พิมพ์ไหนวะ หนึ่งในคู่ขาแกรึไงกัน ไปทำอะไรไว้ล่ะเขาถึงโกรธขนาดเอาแจกันแพ่งกบาลแกมาเนี่ย ดูแล้วมันคงไม่ใช่เรื่องสร้างสรรค์สักเท่าไหร่”มาเนี่ย ดูแล้วมันคงไม่ใช่เรื่องสร้างสรรค์สักเท่าไหร่”
“แกรู้จักผู้หญิงที่ชื่อพิมพ์ที่ไหนบ้างล่ะ ถามอยู่ได้ทำอย่างกับนึกไม่ออก”
“นี่แกอย่าบอกนะว่าด็อกเตอร์พิมพ์ประภา น่ะ”
“เออ นั่นแหละ” คำตอบของตริณทำเอาพิสุทธิตกใจจนลืมตัว
“โอ๊ย!!!”
“เออ โทษที ลืมตัวไปหน่อย แล้วแกไปทำอะไรให้เขากันเขาถึงได้มอบบาดแผลเป็นที่ระลึกให้แกแบบนี้น่ะ”
“ก็...แค่เอายาคุมทิ้งถังขยะเท่านั้นเอง”
“ห๊า ... แกว่าอะไรนะ เล่ามาให้ฉันฟังทั้งหมดเดี๋ยวนี้เลย” พิสุทธิ์เองตกใจไม่น้อยกับถ้อยคำที่มาจากปากเพื่อน เพราะเขารู้จักนิสัยของตริณดี
เมื่อถูกคาดคั้นจากเพื่อนซึ่งตอนนี้ยังทำหน้าที่หมอรักษาแผลให้เขาอีกตำแหน่ง จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้เอาเสียเลยที่จะไม่พูดความจริง ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องราวต่างๆ ระหว่างเขาและพิมพ์ประภาให้พิสุทธิ์ฟัง โดยไม่คิดปกปิดอีกต่อไป แต่กระนั้นเขาก็ยังขอร้องให้เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นรู้กันเพียงแค่คนสามคนเท่านั้น นั่นคือ พิมพ์ประภา ตัวเขาและพิสุทธิ์เท่านั้น
“เป็นฉันหน่อยไม่ได้ ฉันจะไม่แค่เขวี้ยงแจกันใส่แกหรอก ฉันจะทำให้แกไม่กล้าไปที่นั่นอีกเลย” พิสุทธิ์บอกยิ้มๆ สงสัยตอนนี้เพื่อนเขาคงเจอของจริงเข้าให้แล้ว
“นี่ตกลงแกเป็นเพื่อนฉันรึเปล่า”
“ฉันเป็นเพื่อนแกอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ แต่ฉันเข้าข้างคุณพิมพ์เต็มตัว สมน้ำหน้าไหนว่าคาดการณ์ไว้แล้วไง ทำไมโดนซะหลายเข็มเลย”
“ก็ไม่คิดว่าเขาจะกล้าเอาแจกันปาหัวฉันนี่หว่า” เขาตอบเสียงอ่อยๆ
“แล้วแกว่าเขาจะท้องมั้ยวะ” ตริณหันมาถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ทำไม แกตั้งใจจะให้เขาท้องจริงๆ หรือวะ ถ้าเขาท้องจริงๆ แกจะรับผิดชอบเขาอย่างนั้นหรือ”
“ฉันทนไม่ได้กับความเย็นชาที่เขามีให้ฉันตลอดเวลา แล้วถ้าเกิดฉันทำให้เขาท้องขึ้นมาได้ล่ะก็เขาก็จะต้องเป็นของฉันคนเดียว”
“โดยที่แกไม่สนใจความรู้สึกเขาเลยเนี่ยนะ” หมอพิสุทธิ์อดที่จะส่ายหน้าเหนื่อยหน่ายใจกับพฤติกรรมเพื่อนไม่ได้
“ก็.....แคร์เหมือนกันแหละ แต่ฉันทนเห็นเขาจี๋จ๋ากับคนอื่นไม่ได้นี่หว่า มันหงุดหงิด”
“หมาหวงก้างไม่เปลี่ยนเลยนะ ทีตัวแกยังมีอีหนูคนนั้นคนนี้ได้ไม่หยุดหย่อน มันจะผิดอะไรถ้าคุณพิมพ์เขาอยากคบหากับคนอื่นบ้าง แล้วที่สำคัญแกอย่าลืมนะว่าได้เขามาด้วยวิธีไหน คิดซะมั่งว่าตัวเองน่ะผิดเต็มประตู” พิสุทธิ์ต่อว่าเพื่อนเพราะอดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้
ตริณเดินลอยชายออกไปจากห้องทำแผลเรียบร้อยแล้วเหลือไว้แต่คนที่ต้องกลุ้มใจเพราะดันตกกระไดพลอยโจนไปด้วยอย่างหมอพิสุทธิ์ ที่ตอนนี้ยังคงหนักใจกับเรื่องราวที่รับรู้ และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปเขายังคิดไม่ออกเลยว่าหากวันหนึ่งนาธานรู้เรื่องนี้ขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้นกับมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่บ่มเพาะมาหลายปีมิต้องพังทลายลงเพราะความมักง่ายของตริณหรอกหรือ แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อตริณก็เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิท และเขาก็มั่นใจว่าเมื่อถึงวันนั้นตริณคงจะมีทางออกที่ดีสำหรับทุกคน เมื่อเรื่องของเพื่อนอย่างตริณผ่านไป เรื่องความรู้สึกของพิมพ์ประภาเริ่มเข้ามาแทนที่ พิสุทธิ์อดที่จะทอดถอนลมหายใจแรงๆ ไม่ได้ เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าทั้งพิมพ์ประภาและตริณเคยคบหากัน และเป็นเพื่อนเขาทีทำให้เธอต้องเจ็บช้ำและในวันนี้เพื่อนของเขายังเป็นฝ่ายหมุนตัวกลับไปหาเธอซึ่งกำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่ สร้างความหนักใจให้เธอโดยไม่สนใจความรู้สึกของผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างหล่อนเลยสักนิด แม้ว่าหล่อนจะมีดีกรีเป็นถึงด็อกเตอร์ก็ตาม แต่ความอดทนของคนเราย่อมมีขีดจำกัดทั้งนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างพิมพ์ประภาจะเก็บอะไรไว้ในใจได้มากขนาดนี้ และยิ่งไม่น่าเชื่อว่าพิมพ์ประภาจะกล้าถึงขนาดทำให้เพื่อนของเขาเลือดตกยางออกได้ แต่นั่นแหละทุกอย่างย่อมมีวิถีของมัน ในเมื่อเพื่อนของเขาหันกลับไปหาคนเคยคบกันอย่างพิมพ์ประภา เขาก็ภาวนาขอให้ตริณค้นพบความรู้สึกที่แท้จริงของหัวใจให้เจอโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นตริณเองจะเป็นฝ่ายสูญเสียอัญมณีล้ำค่าไปเสียเอง
เพล้ง!!!
อะไรสักอย่างแตกกระจายทันทีที่ตริณก้าวเท้าเข้ามาในคอนโดของพิมพ์ประภา
“กลับมาทำไม ออกไปจากห้องของฉันเดี๋ยวนี้เลย” หล่อนไม่รอช้าที่จะไล่เขาทันทีที่เห็นหน้า
“เราจะคุยกันหน่อยไม่ได้หรือพิมพ์” ตริณมองเธอนิ่ง เขารู้ดีว่าพิมพ์ประภากำลังโกรธจนถึงขีดสุด ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่อาละวาดเขาถึงเพียงนี้
“ฟังถ้อยคำที่ไม่มีประโยชน์จากคุณสู้ไม่ฟังเลยยังมีประโยชน์เสียกว่า เชิญคุณออกไปจากห้องของฉันได้แล้ว และจำไว้ด้วยว่าฉันไม่เคยต้อนรับคุณเลย ไปให้พ้น” เธอยังคงออกปากไล่เขา น้ำเสียงเกรี้ยวกราดอย่างที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน แม้แต่ตริณเอง
“ฟังผมก่อ....”
“อยากได้อีกแผลมั้ย” มือบางถือกล่องกำมะหยี่ขนาดใหญ่กว่ามือตัวเอง ไว้มั่น แน่นอนว่ามันได้บินไปหาเขาแน่หากกล้าก้าวเท้าเข้ามาอีกก้าว
“แต่คุณเป็นเมียผม” ตริณยังแย้ง ยืนอยู่ที่เดิมไม่กล้าก้าวเท้าไปข้างหน้า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเริ่มรู้สึกกลัวผู้หญิง มันยากที่จะทำใจยอมรับ แต่มันคือความจริง
“ฉันไม่เคยเป็นเมียคุณ ที่ผ่านมาฉันจะถือว่าหมามันฉี่รด” เธอสวนกลับทันที เพราะทนไม่ได้กับการที่เขามาอ้างสิทธิในตัวเธอโดยที่เธอไม่เคยยินยอมสักครั้ง
ปัง !!!
กล่องกำมะหยี่ในมือหญิงสาวลอยละลิ่วไปกระทบกับประตูห้อง แน่นอนว่าหากเขาไม่หลบ จะต้องได้อีกแผลแน่นอน แม้จะโกรธกับคำพูดของเธอ แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ ร่างหนาถอยตัวออกจากประตู และปิดมัน ตามคำไล่ของหญิงสาว
ทันทีที่เขาพ้นประตูไป ร่างบางก็ทรุดกายลงกับพื้น น้ำตาพรั่งพรูออกมาเป็นสาย รู้สึกเสียใจเป็นที่สุด แน่นอนว่าเธอยังรักเขาอยู่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่เธอรับไม่ได้หากจะกลับไปเป็นเพียงของเล่นของเขาอีก ไม่ใช่ไม่เจ็บปวดที่เห็นคนที่รักยืนเลือดไหลต่อหน้าต่อตา เพราะฝีมือตัวเอง แต่เธอจะต้องใจแข็งและไม่กลับไปเป็นแค่ของเล่นของเขาอีก ทำไมกันทั้งๆ ที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงเขาทุกอย่าง เริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่เขากลับเดินกลับมาทำร้ายเธอ และครั้งนี้มันเจ็บปวดกว่าเดิมเป็นร้อยเป็นพันเท่า เขาทำแบบนี้เพื่ออะไรกัน
เสียงสะอื้นเบาๆ ดังผ่านประตูมากระทบกับโสตประสาทรับรู้ของคนที่ยืนอยู่หน้าประตู แน่นอนว่าเธอกำลังร้องไห้ นี่เขากำลังทำให้เธอร้องไห้หรือนี่ เขาทำให้เธอร้องไห้อีกแล้วหรือ ยิ่งรับรู้ เขาก็ยิ่งเสียใจ อารมณ์กรุ่นโกรธหายไปหมดแล้วเหลือไว้เพียงจิตใต้สำนึกของตัวเองที่เตือนว่า เขาทำเกินไป หากแต่หัวใจกลับบอกว่า เธอจะต้องกลับมาเป็นของเขาและต้องเป็นของเขาเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น จะเป็นของใครอื่นไม่ได้เด็ดขาด ความรู้สึกทุกอย่างประดังปะเดเข้ามาอย่างที่เจ้าตัวเองไม่อาจจะสลัดสิ่งไหนออกไปได้เลย ชายหนุ่มรู้สึกสับสนกับความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง ร่างหนาทรุดกายลงที่หน้าประตู นิ่งคิดหาทางออกที่ดีที่สุด และตัดสินใจแล้วว่าจะเดินหน้าทำให้เธอเป็นของเขาเพียงคนเดียว ไม่ว่ามันจะต้องแลกกับน้ำตาสักกี่หยดของเธอ หรือแลกกับอะไรก็ตาม ถ้าเธอกลับมารักเขาอีกครั้งไม่ได้ ก็เกลียดเขาไปตลอดชีวิตแล้วกัน ยังไงเขาก็จะไม่ปล่อยเธอไปเด็ดขาด
*******************************
อ่านแล้วอย่าลืมเม้นเป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น