คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 3
ทันทีที่ปล่อยมือจากตัวหญิงสาวชายหนุ่มก็หันกลับมาขับรถต่อไปแต่คราวนี้มันเร็วมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ความเร็วของรถที่เพิ่มขึ้นทำให้คนที่นั่งอยู่นิ่งๆ รู้สึกถึงความกลัวภายในใจของตัวเอง เธอไม่เคยขับรถเร็วขนาดนี้ ทั้งเขาและเธอไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลย
ติ๊ด ติ๊ด/// เสียงโทรศัพท์ของหญิงสาวดังขึ้นจังหวะเดียวกันกับที่เธอกำลังจะเปิดประตูรถลงไป เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ของใคร เธอจึงกดรับ
“ค่ะคุณนาธาน”
“ถึงแล้วค่ะ เพิ่งมาถึงค่ะแล้วคุณนาธานถึงบ้านแล้วหรือคะ”
“ได้ค่ะถ้างั้นพบกันพรุ่งนี้ค่ะ” หญิงสาวกดวางสายโทรศัพท์ ก่อนจะเดินเข้าไปภายในโดยไม่หันมาขอบคุณคนที่มาส่งแม้แต่คำเดียว
สายตาคมกริบมองหญิงสาวซึ่งกำลังเดินกลับขึ้นไปยังคอนโดพร้อมรอยยิ้มขณะคุยโทรศัพท์กับเพื่อนเขา ด้วยความหงุดหงิดที่ทบทวีขึ้น บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าหงุดหงิดทำไม จะใช่หวงของรึเปล่า ชายหนุ่มก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ คือเขาไม่ชอบเอาเสียเลย มือหนาหักเลี้ยวรถยนต์คันโปรดเข้ามาจอดภายในที่จอดรถของคอนโดที่หญิงสาวอยู่
มือเรียวบางทำหน้าที่ไขกุญแจห้องด้วยความเคยชิน ทว่ากลับต้องหยุดมือลงเพราะมีมือของใครอีกคนจับมันไว้ ทำให้หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของห้องต้องเงยหน้าขึ้นมอง และเมื่อรู้ว่ามือหนาที่จับมือของเธอไว้แน่นเป็นใคร ใบหน้าสวยก็บึ้งตึงขึ้นมาทันที
“คุณตริณ มีอะไรหรือคะ” เธอถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับว่าไม่รู้สึกอะไรเลย ทั้งที่ความจริงตกใจแทบแย่
“คุณลืมอะไรไปอย่างหนึ่งน่ะ ผมเลยต้องตามคุณมา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลราวกับต้องการหว่านเสน่ห์ใส่หญิงสาวตรงหน้า นัยน์ตาระยิบระยับอย่างคนเจ้าชู้ ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านมาสักกี่ปี ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงมันได้เลย
“ดิฉันมั่นใจว่าไม่ได้ลืมอะไร ปล่อยมือดิฉันเถอะนะคะ” โดยไม่รอคำตอบเธอดึงรั้งมือของตัวเองออกจากอุ้งมือหนาของเขาทันที แต่มันเหมือนกับถูกเชื่อมติดกันไว้ก็ไม่ปาน ไม่ว่าจะดึงสักเท่าไหร่ก็ไม่ออกสักที
“ลืมสิครับ คำขอบคุณไง ผมอยากได้ยินมันออกมาจากริมฝีปากสวยๆ ของคุณ” เขาก้มหน้าเข้ามาใกล้เธอกว่าเดิมจนจมูกโด่งคมของเขาแทบจะชนกับจมูกของเธอ
“ขอบคุณค่ะ” คำขอบคุณเรียบๆ ทำให้มือที่แข็งแรงราวกับคีมเหล็กของเขาคลายออกจากมือเรียวบางของเธอ ยิ้มบางๆ ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตร เมื่อได้ยินสิ่งที่อยากฟัง
ประตูห้องปิดไปนานแล้วพร้อมกับเจ้าของที่เดินเข้าไปอย่างไม่คิดจะชวนเขาดื่มน้ำเย็นๆ สักแก้ว แต่บุรุษหนุ่มผู้ทำหน้าที่เป็นสารถียังคงยืนนิ่งอยู่หน้าห้องของหญิงสาวด้วยท่าทีถูกใจ ต้องยอมรับว่ากลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ของเธอสร้างแรงดึงดูดเขาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่สิ ไม่ใช่เขาคนเดียวหรอก ยังมีกลุ่มเพื่อนสนิทของเขาทั้งหลายอีกที่สนใจในตัวเธอ ขอโทษด้วยนะเพื่อน บังเอิญฉันมาก่อน แล้วตอนนี้ฉันก็เริ่มรู้สึกอยากเล่นของเล่นที่เคยโยนทิ้งไปฉันก็แค่อยากรู้ว่าของเล่นที่เคยคุ้นมือมันยังมีสภาพดีอยู่เหมือนเดิมรึเปล่าก็เท่านั้น ไว้ฉันพิสูจน์แล้ว ค่อยว่ากัน นายคงไม่ว่าอะไรฉันหรอกนะนาธาน รอยยิ้มเย็นประกอบแววตาเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นพร้อมๆกับบางสิ่งที่มือหนาหยิบออกมาจากกระเป๋า
การอาบน้ำอุ่นในเวลากลางดึก เป็นสิ่งที่พิมพ์ประภาทำเสมอหลังจากเลิกราจากกองเอกสาร เพราะเธอชื่นชอบที่จะอาบน้ำอุ่นๆ ท่ามกลางกลิ่นหอมของเทียนหอม ที่มักจุดขึ้นทุกครั้งที่เธออาบน้ำกลางดึก วันนี้ก็เช่นกัน หญิงสาวใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานกว่าครึ่งชั่วโมง กลิ่นเทียนหอมอ่อนๆ กระแสน้ำอุ่นๆ ไหลผ่านร่างกายไป ทำให้หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลาย ชุดนอนกระโปรงยาว แขนยาวลายดอกไม้เล็กๆ ถูกหยิบขึ้นมาสวมใส่หลังอาบน้ำเสร็จ ผมสั้นนิ่มสลวยถูกเป่าจนแห้ง มือบางเอื้อมปิดสวิทซ์โคมไฟที่หัวเตียงเป็นที่สุดท้ายก่อนจะซุกกายเข้าไปในผ้าห่มผืนสวยอย่างปกติทุกวัน โดยไม่ทันได้สังเกตบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติไป หรืออาจเพราะเหนื่อยล้าและความง่วงงุน จึงไม่ทันได้สังเกตสิ่งใดรอบกาย
ทันทีที่ร่างบางบนเตียงนอนหายใจสม่ำเสมออันแสดงให้รู้ว่าเจ้าตัวได้หลับไปแล้ว บุรุษร่างสูงใหญ่จึงปรากฏตัวออกมาจากมุมมืด พร้อมด้วยนัยตาเจ้าเล่ห์ ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏรอยยิ้มถูกใจ ก่อนจะเดินเข้ามาซุกกายใต้ผ้าห่มผืนสวย บนเตียงกว้างของหญิงสาว มือหนาเอื้อมคว้าร่างเล็กใต้ผ้าห่มเข้ามากอด
ความเคยชินของร่างกายที่จะต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำทุกๆวัน ในเวลารุ่งสาง ทำให้หญิงสาวต้องบังคับร่างกายให้ลุกจากที่นอนอันแสนอบอุ่นเพื่อเข้าไปทำธุระในห้องน้ำ โดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครนอนอยู่ข้างๆ รู้เพียงแต่ว่าต้องรีบแล้วไม่อย่างนั้นเธอจะต้องแย่แน่ๆ
ดวงตาสวย ที่มักสุกใส เบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่อพบว่ามีใครอีกคนที่นอนอยู่บนเตียง และดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยี่หระเลยด้วยซ้ำ ชายหนุ่มนอนแผ่หราอยู่บนเตียงกว้าง ยิ้มน้อยๆ ให้เธอ เมื่อสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เจ้าหล่อนจะตกใจจนพูดไม่ออก สิ่งแรกที่ทำคือกวาดสายตาไปรอบๆห้องที่ตัวเองอยู่ เธอแน่ใจว่านี่เป็นห้องนอนของเธอแล้วผู้ชายคนนี้เข้ามาได้ยังไงกันล่ะ นี่แหละที่เธอตกใจ เธอไม่เคยให้กุญแจห้องกับใครนี่นา จะว่าเคยทำกุญแจหายก็ไม่เคย แล้วเขาเข้ามาได้อย่างไรกัน
“ไม่ต้องแปลกใจไปหรอกพิมพ์ ผมเข้ามาได้ก็แล้วกัน” เขาบอกพร้อมกับส่งยิ้มน้อยๆ ให้เธอ นัยน์ตาส่องประกายวับวาว
“ที่นี่ห้องส่วนตัวของฉัน เชิญคุณตริณ ออกไปจากที่นี่ด้วยค่ะ” หญิงสาวออกปากไล่เขาไปจากห้อง ในใจเริ่มกรุ่นโกรธ
“ไม่ได้เจอกันตั้ง 5 ปี ไม่คิดถึงผมหรือ” เขาลุกจากเตียงนอนเดินมาหาเธอช้าๆ
“5 ปี ที่ไม่ได้พบคุณ มันทำให้ชีวิตฉันพบเจอแต่สิ่งที่ดีๆ อย่างน้อยมันก็ดีกว่าตอนที่ตัวเองเป็นของเล่นแก้ขัดให้คุณ” เธอไม่ลดละเช่นกัน ดวงตาสวยเปล่งประกายแข็งกร้าวขึ้นทันที
“แล้วไม่รู้สึกอืมม์............เหงาบ้างหรอ ตอนนี้ผมช่วยคุณได้นะ” เขาก้มหน้าเข้ามาใกล้เธอแต่หญิงสาวกลับนิ่งเฉยราวกับว่าไม่รู้สึกอะไรเลย
“ฉันมีความสุขดี ฉันมีผู้ช่วยให้ฉันคลายเหงา และฉันก็ไม่เคยเห็นความจำเป็นที่จะต้องคิดถึงหรือต้องการให้คุณเป็นเพื่อนคลายเหงาเลยสักนิด” เธอบอกเขา นัยน์ตาเริ่มดุดัน อย่างชัดเจน ราวกับแม่เสือที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อทันที
“ใคร?” คำเดียวที่ออกจากริมฝีปากหยักหนาได้รูป ของบุรุษเบื้องหน้าหญิงสาว มันเป็นคำเดียวที่หลุดออกมาจริงๆ เสียงดังแข็งกร้าวบอกให้คนฟังรับรู้ว่าเขาเริ่มโมโห
“คุณหมายถึงคนไหนล่ะ” เธอถามเขากลับนัยน์ตาใสแจ๋ว ราวกับถามออกมาเพราะสงสัยจริงๆ หากแต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย เธอเพียงอยากแกล้งเขาเล่นเท่านั้นเอง นอกจากจะได้ปั่นประสาทเขาแล้วเธอยังจะได้รู้ด้วยว่าเขาคิดอะไรอยู่
“ผมถามว่าใคร? ทำไม มีหลายคนนักหรือไง ถึงต้องย้อนถามผมว่าไอ้เพื่อนคลายเหงานั่นมันเป็นคนไหน” เขาเริ่มเสียงดังขึ้นกว่าเดิม ใบหูทั้งสองข้างเป็นสีแดงเข้มบ่งบอกอารมณ์ของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี
“แล้วแต่คุณจะคิดแล้วกัน” เธอบอกพร้อมส่งยิ้มน้อยๆ ให้เขา
“ทำไม ไอ้พนักงานบริษัทที่ชื่อนทีนั่นน่ะหรอ ที่เป็นเพื่อคลายเหงาให้คุณ ผู้หญิงอะไรไร้ยางอายสิ้นดี”
“แล้วทำไมฉันต้องอายด้วยล่ะ ในเมื่อฉันไม่ได้เป็นภรรยาใคร หรือเป็นคนรักของใคร แล้วนทีเองเขาก็ยังโสด หากเราสองคนคิดที่จะคบหากันหรือสนิทสนมเป็นเพื่อนคลายเหงาให้แก่กันและกันมันจะเสียหายตรงไหนกันคะ หรือว่าคุณเดือดร้อนคะคุณตริณ แต่เอ.....ฉันจำได้ว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อยแล้วอย่างนี้คุณจะมาโกรธแค้นหรือคาดคั้นดิฉันเพื่ออะไรกันคะ ดิฉันยังมองไม่เห็นประโยชน์อะไรเลย” เธอลอยหน้าลอยตาถามเขา ยิ้มน้อยๆ ยังคงปรากฏบนใบหน้าเรียวรูปไข่ ต่างจากคนฟังที่ตอนนี้หน้าบึ้งตึง เพราะคำพูดของคนตัวเล็กที่ยืนอยู่เบื้องหน้า
“พูดมาได้ว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ยักกะรู้ว่าด็อกเตอร์สาวอย่างคุณความจำเสื่อม งั้นผมจะช่วยฟื้นฟูความจำให้ก็แล้วกันเผื่อว่าจะจำได้บ้างว่าเคยเป็นอะไรกัน” จบคำมือหนาก็จับร่างบางเหวี่ยงลงบนที่นอนกว้างทันที แล้วโถมร่างกายสูงใหญ่ของตัวเองทับเจ้าหล่อนไว้ทันที ไม่ปล่อยให้หล่อนหนีไปได้
“ปล่อยฉัน อย่ามายุ่งกับฉัน เอาร่างกายอันสกปรกของคุณออกไปเดี๋ยวนี้นะ” หญิงสาวตะโกนต่อว่าด้วยความโกรธกรุ่น ดิ้นรนขัดขืนสุดกำลัง แต่ก็ได้ทำแค่นี้เท่านั้น เพราะทันทีที่เธอเปิดปากจะต่อว่าเขาอีกรอบ ริมฝีปากหยักหนาก็กดทับริมฝีปากบางอวบอิ่มของเธอเข้าเสียก่อน เพราะไม่ต้องการได้ยินคำด่าทอที่แสนจะเจ็บแสบจากริมฝีปากอวบอิ่มนี้
มือบางซึ่งยังเป็นอิสระทั้งสองข้างทำหน้าที่ทำร้ายชายหนุ่มด้วยการใช้เล็บจิกข่วน เขา ในทุกๆ ที่ ที่เธอสัมผัสมัน จนชายหนุ่มรู้สึกเจ็บ มือหนาจึงทำหน้าที่รวบมือทั้งสองข้างไว้ในอุ้งมือ เมื่อริมฝีปากหยักหนาถอนออกจากริมฝีปากอวบอิ่มที่ตอนนี้เริ่มบวมเจ่อ หญิงสาวไม่รอช้าทันที เธอผงกศีรษะกัดเข้าที่ไหล่ของเขา จนชายหนุ่มต้องส่งเสียงร้องออกมาเพราะความเจ็บปวด กระนั้นมือหนาทั้งสองข้างก็ยังไม่ปล่อยเธอ แต่กลับรวบข้อมือบางของหญิงสาวให้ไปอยู่ในอุ้งมือเดียวกัน ส่วนอีกมือที่เหลือทำหน้าที่ปลดเปลื้องอาภรณ์ ที่หญิงสาวสวมใส่ ริมฝีปากหนากดทับเข้าที่ริมฝีปากอวบอิ่มนั้นอีกครั้ง และครั้งนี้เขาระวังตัวยิ่งกว่าเดิม แต่คนอย่างพิมพ์ประภาหรือจะยอมใครง่ายๆ ยิ่งคนที่เคยทำให้เธอเจ็บเจียนตายด้วยแล้วยิ่งไม่มีทาง หญิงสาวพยายามกัดลิ้นเขา แต่เหมือนเขาจะรู้ว่าเธอกำลังพยายามทำอะไรอยู่ ชายหนุ่มใช้มืออีกข้างทำหน้าที่เล้าโลมเธอแทน เมื่อเห็นว่ารสจูบของเขาใช้กับเธอไม่ได้ผลเหมือนก่อน
เป็นเวลานานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ทั้งสองต่างประหัตประหารกัน แต่สุดท้ายแล้วชายหนุ่มก็เป็นผู้ชนะอยู่ดีด้วยพละกำลังและประสบการณ์เชิงชายที่มากกว่า ดวงตาคมกล้ามองหญิงสาวที่นอนอยู่ข้างกายด้วยความรู้สึกที่แตกต่างออกไปจากเมื่อห้าปีก่อน นอกเหนือจากนั้นคือมันแตกต่างจากสายตาที่มองหญิงสาวคู่นอนทุกคน เขาเริ่มรู้สึกถึงอารมณ์บางอย่างในตัวเองที่เกิดขึ้นหลังจากเรื่องราวทุกอย่างสงบลง 'หวง' ความรู้สึกแรกที่เขารู้ แต่นั่นไม่เทียบเท่ากับความอยากเอาชนะที่เขามี รอยแผลบนหัวไหล่หนายังคงมีรอยฟันของหญิงสาวปรากฏอยู่ชัดเจน แถมตามตัวของเขายังมีรอยเล็บที่ไม่รู้จะนับอย่างไรให้มันถ้วนทั่ว เพราะว่ามากมายเหลือเกิน หลังความสุขสมผ่านไป ความเจ็บแสบแผลจากการถูกหญิงสาวกัดที่หัวไหล่และถูกเล็บของเธอข่วนอย่างเอาเป็นเอาตายนั้น ทำให้เขาคิดถึงยาใส่แผลขึ้นมา แต่ก็เพียงแค่คิดเท่านั้น เมื่อสายตาคมกล้าหันไปเห็นรอยแดง ตามตัวหญิงสาวที่นอนหลับอยู่ขณะนี้ มันมากมายเหลือเกิน เขาคงทำกับเธอเกินไป แต่เขาไม่ได้ตั้งใจจะให้มันมากมายขนาดนี้ เขาเพียงแต่คิดจะทำให้หญิงสาวยอมรับว่าเธอกับเขาเคยเป็นอะไรกันมาก่อน และแค่ต้องการแสดงหลักฐานว่าเธอเป็นของเขา และจะต้องเป็นของเขาเพียงผู้เดียวเท่านั้น ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายเธอเลย ร่างหนาทิ้งกายลงบนเตียงนอนอีกครั้ง มือหนาคว้าร่างบางมาโอบกอดปิดเปลือกตาลง ฟังเสียงหายใจของคนที่นอนหันหลังให้
ทันทีที่ร่างหนาปิดเปลือกตาลง คนที่นอนหลับกลับตื่นลืมตาขึ้นอย่างคนที่เพิ่งนึกอะไรออก เธอเข้าใจว่าเขาหลับไปแล้ว ดวงตาสวยมองหากระเป๋าสตางค์ของชายหนุ่ม ในนั้นจะต้องมีสิ่งที่เธอต้องการแน่นอน เท่าทันความคิด มือบางคว้ากระเป๋าสตางค์ราคาหลายหมื่นขึ้นมาเปิดดู หญิงสาวไล่ดูทุกซอกทุกมุมของกระเป๋าสตางค์ จนในที่สุดก็พบมัน เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจ คิดไม่ผิดจริงๆ ว่าเขาจะต้องพกมันติดไว้เสมอ เธอรู้นิสัยเขาดีในเรื่องนี้ ไม่รอให้เสียเวลา หญิงสาวก้าวเท้าออกไปยังตู้เย็นในห้องครัวทันที รีบแกะยาหนึ่งในสองเม็ดขึ้นมากิน และ ไม่ลืมที่จะเก็บอีกเม็ดที่เหลือใส่กระเป๋าสะพายไว้ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน
หลังจากที่พิมพ์ประภาปิดประตูห้องน้ำ ร่างหนาลุกขึ้นหยิบกระเป๋าสตางค์ตัวเองเปิดออกทันที ด้วยความอยากรู้ว่าเธอหยิบอะไรไป เงินอยู่ครบ บัตรเครดิต และทุกๆ อย่างยังอยู่ที่เดิมครบถ้วน ขาดแต่...ยาคุมกำเนิด ริมฝีปากหยักยกขึ้นรู้สึกขบขัน เพราะปกติแล้วเขาจะเป็นคนบังคับคู่นอนทั้งหลายของเขาเสียมากกว่าให้กินยาพวกนี้หากเป็นกรณีฉุกเฉิน แต่กับหล่อน มันช่างตรงกันข้ามกันเสียเหลือเกิน เพราะเขาตั้งใจที่จะไม่ป้องกัน กลัวว่าจะท้องเสียจริงนะแม่ด็อกเตอร์สาว
ท้อง ! ใช่แล้วท้อง!
ชายหนุ่มเริ่มคิดอะไรบางอย่างออก ใช่สิถ้าหล่อนท้องเขาก็จะมีสิทธิในตัวหล่อนเต็มที่ อย่างนั้นต้องทำให้ท้อง แต่ครั้งนี้มันไม่ได้ผลแล้ว เอาไว้คราวหน้าแล้วกัน
ความคิดเห็น