ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ความผิดปกติ
เสียงฝีเท้าดังกึกก้องท่ามกลางความมืดอันน่าพิศวง เด็กหนุ่มคนหนึ่ง วิ่ง วิ่งไปเพื่อที่จะหาทางออกจากความมืดมึดนี้เขาเหนื่อยเหลือเกิน ท้อแท้เหลือเกิน แต่ก็ยังคงฝืนวิ่งต่อไป ถึงแม้จะไม่มีแต่แห่งความหวังที่จะนำทางให้เขาสามารถออกไปจากความมืดนี้ได้เลย
มันเป็นความที่น่าขยะแขยงยิ่งนัก ไม่มีแม้แต่เสียงของสิ่งมีชีวิตรอบกาย ไม่มีแม้แต่ลมที่พัดผ่าน ไม่มีอะไรทั้งนั้น มีแต่เพียงความมืดที่แสดว่างเปล่า ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาในชีวิตของเขา ล่วงแล้วแต่เป็นเรื่องโกหกหลอกลวง ความมืดนี้แหละคือความเป็นจริงของชีวิตของเขา
ทันใดนั้นเองสายตาของเด็กหนุ่มก็มองไปเห็น แสงจุดหนึ่ง ริบหรี่เหมือนแสงของหิ่งห้อย แต่นั้นก็ทำให้รอยยิ้มแห่งความหวังของเขา ปรากกฎขึ้นมาบนใบหน้าที่เหน็ดเหนื่อย
เด็กหนุ่มไม่รอช้าใช้พลังที่เหลืออยู่ทั้งหมดของเขาทนกันฟันวิ่งไปหาเสียงนั้น
จากแสงเหล็กๆค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น แต่ไม่ว่าแสงนั้นจะขยายขึ้นมากแค่ไหนระยะของของเด็กหนุ่มก็ยิ่งห่างกันกันมากขึ้นเท่านั้น
ทันใดนั้นเองก็มีเด็กผู้ชายอีกคนนึงเดินออกมาจากแสงสว่างนั้นแล้วตรงมายังเด็กหนุ่มทันที
เด็กผู้ชายที่เดินออกมานี้ดูจากรูปร่างแล้วก็น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขา แต่เพราะความมืดเลยไม่สามารถมองเห็นหน้าตาได้ และสิ่งที่ทำให้เด็กหนุ่มคนนี้แตกต่างออกไปจากทุกคนที่เขาเคยพบเจอนั้นก็คือปีกทั้งสองที่งอกออกมาจากกันหลังนั้นเอง
“ตื่นได้แล้วอะตอม”
เสียงตะโกนของหญิงสาวตะโกนขึ้นมาข้างหูของเด็กหนุ่มผู้กำลังหลับใหลอยู่ในห่วงแห่งนิทรา และเป็นเจ้าของนาวว่าอะตอมนั้นเอง
อะตอมสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่ารวดเร็ว มองไปยังรอบรอบห้องเช่าของโรงแรมที่เขาพักอยู่ ก่อนที่จะมองไปยังใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังหงุดหงินกับการนอนอันแสนยาวนานของตัวเขา ด้วนใบหน้าที่คุ่นเคยกับชุดนักเรียนที่เธอกำลังใส่อยู่ ทำให้รู้ได้เลยโดยไม่ต้องใช้สมองคิดก็รู้ว่าเธอคนนิ้คือใคร
“อ้าว หวานสวัสดีตอนใจนะ”
อะตอมยิ้มหวานๆให้กันหญิงสาวเพื่อหลีกหนีความผิดที่ตนเองก่อเอาไว้
หวานถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนที่จะยื่นชุดนักเรียนที่เธอถืออยู่ในมือให้กับอะตอม
“รีบๆอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียนซะ”
“คราบ.........ผม”
สิ้นเสียงตอบรับอะตอมก็ใช้มือทั้งสองข้างตบหน้าของตัวเองเบาๆเพื่อที่จะได้เรียกสติของตนเองที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในโลกแห่งความฝันกลับมาให้ครบ แล้วค่อยพาร่างกายของตนเองไปชำระความสกปรกในห้องอาบน้ำ
เด็กหนุ่มผู้ได้รับนามว่าอะตอม หนุ่มน้อยวัยสิบห้า นัยน์ตาสีดำสนิดสีเดียวกับท้องนภายามค่ำซึ่งไรแสงจากดวงดาราหรือจันทรา กับเรือนผมสั้นยุ่งเหยิงสีขาวที่ย้อมด้วยสีดำจากร้านซารอนถูกๆเพื่อที่จะได้เรียนต่อไปโดยไม่มีปัญหากับอาจารย์
เวลาผ่านไปประมาณห้านาทีอะตอมก็เดินออกมาจากห้องอาบน้ำซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของห้องของเขา
“ดีมาก”
เสียงชมพร้อมกับเสียงตบมือดังขึ้นมาจากหวานที่กำลังนั้งมองเขาเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดนักเรียนที่เธอเป็นคนยืนให้
และทั้งสองก็เดินออกมาจากห้องเล็กๆของเด็กหนุ่ม
ทันทีที่อะตอมเปิดประตูก็พบกับผู้คนหน้าคุ้นตามากมายยืนรอการเปิดออกมาจากห้องของเขาด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความอบอุ่มมากมาย
และใจกลางของผู้คนเหล่านี้ก็มีเค้กก้อนโตพอๆกับเค้กแต่งงานตั้งอยู่เป็นที่สะดุดตาที่สุด
อะตอมหันหลังกลับไปมองหน้าหวานที่กำลังยิ้มให้เขาอยู่
“สุขสันต์วันเกิดครบรอบสิบห้าปี”
ใบหน้าของอะตอมในตอนนี้เต็มเปี่ยนไปด้วยความสุขจนไม่รู้จะอธิบายยังไง น้ำตาของเขาเริ่มไหลออกมาด้วยความยินดี
“ขอบคุณมากนะทุกคน”
เสียงเพลงวันเกินเริ่มดังขึ้นมาจากผู้คนที่มายืนรอเขา แล้วเมื่อเพลงจบลงก็ได้เริ่มพิธีการตัดเค้กวันเกินอย่างสนุกสนาน
และช่วงเวลาแห่งความสุขก็ผ่ายพ้นไป ผู้คนทยอยกันเดินออกไปทำงานตามหน้าที่ของตน และอะตอมกับหวานก็เริ่มออกเดินทางมุ้งหน้าไปโรงเรียนกันทันที
“นายว่าพ่อแม่ของนายจะมารึเปล่า”หวานเริ่มเปิดประเด็นถาม
“เราก็ไม่รู้”อะตอมตอบกลับไปด้วยเสียงเศร้าๆ “แต่อย่าพูดถึงเลยดีกว่าพวกท่านคงจะยุ้งจริงๆนั้นแหละ ถึงได้ทั้งผมเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ยังจำอะไรไม่ได้”
“ขอโทษนะที่พูดถึงนะ”
อะตอมนำมือของเขาไปแตะไหล่ของหวานเบาๆพร้อมกับยิ้มให้ เมื่อเห็นหน้าของเธอต้องเศร้าหมองไปเพราะเรื่องของเขา
“เราไม่เป็นไรหรอกแต่ขอบใจมากนะ”
หลังจากนั้นการเดินทางไปโรงเรียนของพวกเขาทั้งสองก็กลายเป็นกลางเดินทางที่ไม่มีการพูดคุยกันอีกเลย
เพราะทั้งหวานและอะตอมการที่ทั้งสองรู้จักกันได้นั้นเหมือนเป็นการเล่นตลกของโชคชะตา ถ้าไม่ได้พ่อของหวานไปพบเขาที่ยังเป็นทารกอยู่กลางถนนแล้วให้ทั้งการศึกษา ที่อยู่ อาหารหละก็ เขาคงไม่ได้มายืนอยู่ในที่นี้เป็นแน่
“ว้าว!” เสียงของเด็กหนุ่มร่างท้วมตัวเล็กๆคนนึงกำลังยืนรออะตอมและหวานอยู่หน้าประตูโรงเรียนร้องขึ้นมา “คู่รักคู่นี้มากันแล้ว”
“บ้าแล้วบอล พวกเรายังไม่ได้เป็นคู่รักกันที่ไหนเล่า”
หวานพยายามใช้คำพูดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเอง แตอะตอมกับไม่มีท่าทีอะไรเลย เขาทำแค่เพียงยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากเท่านั้น
“เราเข้าไปข้างในโรงเรียนกันดีกว่า ยืนอยู่หน้าโรงเรียนไปก็ไม่มีสาวไหนมาเข้าตา”
แล้วบอลก็เดินนำเข้าไปในโรงเรียนเป็นคนแรกพรางใช้สายมองมองไปยังนักเรียนหญิงคนโน่นที คนนี้ที
“นายนี้นะบอลจะเหล่สาวก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่ช่วยดูหนังหน้าตัวเองก่อนที่จะพูดว่าไม่มีสาวไหนเข้าตาดีกว่า”
แล้วหวานก็เดินตามบอลเข้าไปในโรงเรียน
อะตอมยืนมองทั้งสองคนที่ชอบทะเยาะกันเป็นประจำอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆไปด้วย
แต่พอเข้าจะเดินตามเขาเหล่าเพื่อนของเขาเข้าไปในโรงเรียน สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ซ้ายมือของเขาออกไปไม่ไกลเท่าไรนัก
ชายคนนี้ดูจากสภาพแล้วไม่ได้ใส่เสื้อหรือกางเกงเลย แต่เขาใช้ผ้าหลากสีมาพันรอบตัวและใส่หมวกเอาไว้ทำให้ไม่สามารถเห็นใบหน้าหรือรูปร่างได้ชัดเจน ขนาดและส่วนสูงก็ใกล้เคียงหรืออาจเท่ากับตัวของเขาเลยก็ได้
ยิ่งอะตอมมองชายคนนี้นานเท่าไร ความรู้สึกแปลกประหลาดในร่างกายก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าทำไมความรู้สึกประหลาดๆแบบนี้ถึงเกินขึ้นได้ และความรู้สึกนี้คืออะไร สิ่งที่เขารู้ก็มีเพียงมันเป็นอะไรที่ทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
“อะตอมนายจะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานแค่ไหนกัน”บอลตะโกนเรียก
อะตอมหันกลับไปมองที่เพื่อนของเขาแป๊บนึง แต่พอเมื่อเขาหันกลับไปหาชายคนนั้น ชายคนนั้นก็ได้หายไปพร้อมๆกับความรู้สึกประหลาดนั้นเสียแล้ว
เหตุการณ์เมื่อครู่ได้สร้างความสงสัยในใจให้กับอะตอมเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ต้องทนเก็บเอาไว้ เพื่อไม่ให้ใครต้องมาเป็นห่วง
ออด
เสียงเข้าแถวดังขึ้นมาตามด้วยเหล่านักเรียนที่ทยอยเข้ามาราวกับฝูงลิง มายืนเรียงลำดับสูงไปเตี้ยตามที่อาจารย์ได้สั้งให้ทำ แต่ก็ไม่ใช่นักเรียนทุกคนจะทำตามหรอก เพราะคำสั้งของอาจารย์สำหรับนักเรียนส่วนมากมีเอาไว้เพื่อแหก
“เอาละนักเรียนทุกคน”เสียงของอาจารย์หญิงแก่คนนึงยืนถือไมโครโฟนพูดอยู่หน้าแถวกับเหล่าอาจารย์หลายๆท่านดังขึ้นมา ทำให้เสียงคุยของนักเรียนเงียบลงไป
หลังจากนั้นอาจารย์ก็ได้เริ่มบ่นอะไรต่อมิอะไรมากมายให้กับนักเรียนทุกคนได้รับฟังกัน ซึ่งนั้นก็ทำให้อะตอมเปลืองตาเกิดสนามแม่เหล็กดึงดูดเข้าหากันทันที
“ง่วงอีกแล้วนะอะตอม”เสียงพูดเบาๆจากเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาดังขึ้นมา
“ก็นิดหน่อยนะเบส”
“เมื่อคืนดูหนังโป๊ดึงละสิ”
อะตอมยิ้มเล็กน้อยเป็นการรับอารมณ์กับคำถามที่เขารำคาญเป็นที่สุด
“ถ้าเราดูนะหวานได้ฟาดเราตายแน่”
ขณะที่อะตอมกำลังคุยกับเบสอยู่นั้นจู่ๆเขาก็เกิดอาการเสียววาบที่แผ่นหลังของเขา อะตอมค่อยๆซุดตัวลงไปคุกเข่าลงกับพื้น เนื้อตัวสั้นระลิกไม่ยอมหยุด
“นี้มันอะไรกันเนี้ย”เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง
สายตาของอะตอมในตอนนี้เบลอจนมองอะไรไม่ชัดอีกแล้ว สติของเขากำลังจะหลิดออกไปจากร่างกายของเขา แต่ก่อนที่สติของเขาจะสลบไป เขาก็ได้เห็นชายที่ใส่หมวกและพันผ้าเอาไว้ทั้งตัวคนเดียวกับที่เขาพบก่อนที่จะเข้ามาในโรงเรียนอีกครั้ง
ชายคนนั้นเดินผ่านฝูงนักเรียนที่แห่กันเขามามุงดูอาการของอะตอมอย่างไม่สนใจอะไร เขาเดินตรงเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของอะตอม ยื่นมือเขาไปสัมผัสใบหน้าของอะตอมได้ซักพัก ชายคนนี้ก็ยื่นหน้าเขาไปใกล้ๆหูของอะตอม
“สุขสันต์วันเกิดครบร้อยปีนะ ฮาเดส”
พูดจบอะตอมก็สลบไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น