ลำดับตอนที่ #20
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : [Carnivore Host Club2]
CRY
.q
Carnivore Host Club
before story
NOIRE
<นัวร์>
"ว้ายเธอ ดูนั่นสิ ลูกชายของบ้าน..แหละ"
"ไหนๆ จริงเหรอ ต้องเป็นพวกหัวกระทิแบบพ่อแม่แน่เลย"
"อุ้ย หน้าตาก็ดี โตไปต้องหล่อแน่ๆเลย ลูกสาวฉันก็อายุใกล้ๆกัน น่าพามาทำความรู้จักเนอะ"
เสียงกระซิบกระซาบจากบรรดาแขกเหรื่อเมื่อพ่อแม่พาเขาไปออกงานครั้งแรก เพียงแค่รู้ว่าผมเป็นใคร ทุกคนก็คาดหวังอะไรหลายๆอย่างจากผมทันที คุณพ่อคุณแม่เองก็ดูมีความสุขที่มันเป็นอย่างนั้น เด็กชายวัย 3 ขวบอย่างผมจีงยิิ้มและตอบรับความคาดหวังของทุกๆคน
ในตอนนั้น ผมช่างมีความสุขเหลือเกิน...
--------------------------------------------------------------------------
"ทำไมโจทย์ง่ายๆแค่นี้ถึงคิดไม่ออกห๊ะ!! เธอนี่มันโง่จริงๆ!!"
ครูตบโต๊ะพร้อมกับตวาดผมอย่างแรง ก่อนจะหันหลังและโบกมือไล่
"จะไปไหนก็ไป เธอไม่เหมาะกับโครงการเด็กพิเศษหรอก"
ผมคอตก เก็บกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องช้าๆท่ามกลางสายตานับสิบที่จับจ้องอย่างเหยียดหยาม แน่สิ ผมเป็นแค่คนธรรมดา โครงการนี่พ่อแม่ก็ยัดเงินเข้า ผมไม่ได้พิเศษไปกว่าใครเขาเลยสักนิด..
ก่อนจะพ้นขอบประตู เสียงแว่วก็ลอยมา
"ดูท่าลูกไม้จะหล่นไกลต้นไปเยอะเลยสิน่า น่าเสียดายแทนจริงๆ"
.....
ในตอนนั้น ผมรู้สึกไร้ค่าเหลือเกิน...
--------------------------------------------------------------------------
"ฝากเขาด้วยนะคะ"
เสียงคุณแม่พูดกับหญิงสาวอีกคนหนึ่งในสถานที่ที่ไม่รู้จัก ก่อนจะกลับขึ้นรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีแม้แต่คำลา..
หญิงสาวคนนั้นพาผมเข้าไปในบ้าน มีคนอื่นอยู่มากมายแต่ผมก็ไม่ได้สนใจพวกเขาเลย
วันแล้ววันเล่าที่ผมรอให้คุณแม่มารับ แต่ว่าเธอก็ไม่เคยมา แน่นอนผมรู้ว่านี่หมายถึงอะไร ผมได้เพียงแต่ยอมรับ ว่าตัวเองเป็น"ข้อบกพร่อง"ก็เท่านั้น
ในตอนนั้น ผม..ไม่รู้สึกอะไรเลย...
--------------------------------------------------------------------------
"เอาแต่หลบแบบนี้ เมื่อไหร่จะหาคุณพ่อคุณแม่ได้กันล่ะคะ"
หญิงสาวคนเดิมทักเมื่อเห็นผมมาหลบอยู่หหลังตึกทั้งๆที่วันนี้มีคนมาดูเพื่อรับลูกบุญธรรมหลายคน
"ผมไม่ต้องการพ่อแม่"
ผมตอบโดยไม่มองหน้าคนถาม ก่อนจะได้ยินเสียงถอนหายใจและเสียงฝีเท้าเดินห่างไป
สายตาผมจับจ้องไปยังฟ้าคราม
สักวันผมจะไปจากที่แห่งนี้ จะไปโลดแล่นอยู่บนท้องฟ้า แต่ทว่าคำว่า"ข้อบกพร่อง"ยังคงเป็นพันธนาการ
เมื่อไรนะ ที่ผมที่หลุดพ้นโซ่ตรวนนี้เสียที....
--------------------------------------------------------------------------
"หมายความว่ายังไงที่ที่นี่กำลังจะถูกทุบ!!??"
เขาถามเสียงดังจนเรียกความสนใจคนแถวนั้นไม่น้อยให้หันมามองร่างชายหนุ่มกับหญิงสาววัยใกล้กลางคน
"ขอโทษด้วยนะ แต่ว่าเราไม่มีเงินพอที่จะยื้อบ้านหลังนี้ไว้อีกแล้ว แต่ว่าไม่ต้องห่วงนะ เราจะหาบ้านใหม่ให้เธอเอง"
เธอพูดด้วยสีหน้าอมทุกข์ โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย ซึ่งเขาเองก็เข้าใจดี เขาอายุเยอะเกินกว่าจะหาใครมารับเลี้ยงดู แถมเขายังหนีไปซ่อนเวลามีคนมาประจำ ไม่มีบ้านเด็กกำพร้าที่ไหนอยากจะเลี้ยงเขาไปเรื่อยๆหรอก
--------------------------------------------------------------------------
"เดี๋ยวสิ จะไปไหนน่ะ"
เสียงหญิงสาวเรียกเขาจากไกลๆแต่เขาก็ไม่สนใจกระโดดข้ามกำแพงและวิ่งออกไปในตรอกมืด ก่อนจะหันมามองบ้านเด็กกำพร้าที่เขาอยู่มานับสิบปีเป็นครั้งสุดท้าย
เขาเกลียดที่นี่.. เกลียดทุกคนที่นี่ที่เอาแต่โทษโชคชะตาที่พรากพ่อแม่ของพวกเขาไป.. เกลียดการต้องเป็นเด็กกำพร้าทั้งๆที่พ่อแม่ยังอยู่แต่ไม่ต้องการเขา..
แต่ถึงอย่างนั้นที่นี่ก็เป็น "บ้าน" สำหรับเขามานาน นานพอที่เขาจะผูกพันธ์...
--------------------------------------------------------------------------
"อีกแก้ว"
ผมพูดเสียงเรียบๆพร้อมวางแก้วไวน์แดงเปล่าลงหน้าบาร์เป็นรอบที่สาม
"เฮ้ย ไอ้น้อง หน่วยก้านดีนี่หว่า สนใจไปด้วยกันไหม"
เสียงห้าวทักพร้อมกับมือหนักที่ตบลงบนบ่า
"ไม่ละ ผมไม่ชอบยุ่งยาก"
ผมชายตามองคนทักที่เป็นชายร่างบึกบึนสามคน ก่อนจะปัดมือลงบ่าออก
--------------------------------------------------------------------------
ตุบ ตึ้บ
เสียงอะไรหนักๆกระทบกันดังมาจากตรอกมืดสลัว
"มีทางดีๆให้ไปไม่เอา งั้นก็ตายซะเถอะแก"
ชายร่างบึกบึนสามคนรุมเตะรุมกระทืบผม โดยที่ผมทำได้แค่ยกแขนกันใบหน้าและงอตัวเท่านั้น
หลังจากกระทืบผมจนปางตายแล้ว ผมก็โดนปล่อยนอนอยู่ตรงนั้น ก่อนจะหมดสติไปในไม่ช้า
--------------------------------------------------------------------------
แอ็ดด
เสียงบานประตูลั่นดึงสติผมกลับมา สายตาพร่ามัวมองเห็นเงารางๆของชายร่างสูงคนหนึ่ง
"สภาพเละยิ่งกว่าหมาขี้เรื้อนอีกนะครับ"
นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ผมได้ยิน ก่อนทุกอย่างจะดำมืดอีกครั้ง
--------------------------------------------------------------------------
"ไปดูแลลูกค้าได้แล้ว อย่ามัวแต่อู้"
เสียงเจ้าของคลับหรือเรียกง่ายๆว่าเจ้านายผมสั่ง ทำให้ผมต้องลุกขึ้นมาแต่งตัวออกไปหน้าร้าน
"ให้ตายสิ นี่เรามาเป็นโฮสต์ได้ยังไงกันนี่ ตอนเซ็นส์สัญญาโดนมอมยาแหงๆ"
ผมบ่นในใจแต่ก็ยังออกไปรับลูกค้า
บางที.. ที่นี่อาจจะมีอะไรที่ทำลายโซ่ตรวนนี้ได้ก็ได้..
ปล. มันยาวเกินคาดไปหลายเท่า เสียใจ ; w ;
before story
NOIRE
<นัวร์>
"ว้ายเธอ ดูนั่นสิ ลูกชายของบ้าน..แหละ"
"ไหนๆ จริงเหรอ ต้องเป็นพวกหัวกระทิแบบพ่อแม่แน่เลย"
"อุ้ย หน้าตาก็ดี โตไปต้องหล่อแน่ๆเลย ลูกสาวฉันก็อายุใกล้ๆกัน น่าพามาทำความรู้จักเนอะ"
เสียงกระซิบกระซาบจากบรรดาแขกเหรื่อเมื่อพ่อแม่พาเขาไปออกงานครั้งแรก เพียงแค่รู้ว่าผมเป็นใคร ทุกคนก็คาดหวังอะไรหลายๆอย่างจากผมทันที คุณพ่อคุณแม่เองก็ดูมีความสุขที่มันเป็นอย่างนั้น เด็กชายวัย 3 ขวบอย่างผมจีงยิิ้มและตอบรับความคาดหวังของทุกๆคน
ในตอนนั้น ผมช่างมีความสุขเหลือเกิน...
--------------------------------------------------------------------------
"ทำไมโจทย์ง่ายๆแค่นี้ถึงคิดไม่ออกห๊ะ!! เธอนี่มันโง่จริงๆ!!"
ครูตบโต๊ะพร้อมกับตวาดผมอย่างแรง ก่อนจะหันหลังและโบกมือไล่
"จะไปไหนก็ไป เธอไม่เหมาะกับโครงการเด็กพิเศษหรอก"
ผมคอตก เก็บกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องช้าๆท่ามกลางสายตานับสิบที่จับจ้องอย่างเหยียดหยาม แน่สิ ผมเป็นแค่คนธรรมดา โครงการนี่พ่อแม่ก็ยัดเงินเข้า ผมไม่ได้พิเศษไปกว่าใครเขาเลยสักนิด..
ก่อนจะพ้นขอบประตู เสียงแว่วก็ลอยมา
"ดูท่าลูกไม้จะหล่นไกลต้นไปเยอะเลยสิน่า น่าเสียดายแทนจริงๆ"
.....
ในตอนนั้น ผมรู้สึกไร้ค่าเหลือเกิน...
--------------------------------------------------------------------------
"ฝากเขาด้วยนะคะ"
เสียงคุณแม่พูดกับหญิงสาวอีกคนหนึ่งในสถานที่ที่ไม่รู้จัก ก่อนจะกลับขึ้นรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีแม้แต่คำลา..
หญิงสาวคนนั้นพาผมเข้าไปในบ้าน มีคนอื่นอยู่มากมายแต่ผมก็ไม่ได้สนใจพวกเขาเลย
วันแล้ววันเล่าที่ผมรอให้คุณแม่มารับ แต่ว่าเธอก็ไม่เคยมา แน่นอนผมรู้ว่านี่หมายถึงอะไร ผมได้เพียงแต่ยอมรับ ว่าตัวเองเป็น"ข้อบกพร่อง"ก็เท่านั้น
ในตอนนั้น ผม..ไม่รู้สึกอะไรเลย...
--------------------------------------------------------------------------
"เอาแต่หลบแบบนี้ เมื่อไหร่จะหาคุณพ่อคุณแม่ได้กันล่ะคะ"
หญิงสาวคนเดิมทักเมื่อเห็นผมมาหลบอยู่หหลังตึกทั้งๆที่วันนี้มีคนมาดูเพื่อรับลูกบุญธรรมหลายคน
"ผมไม่ต้องการพ่อแม่"
ผมตอบโดยไม่มองหน้าคนถาม ก่อนจะได้ยินเสียงถอนหายใจและเสียงฝีเท้าเดินห่างไป
สายตาผมจับจ้องไปยังฟ้าคราม
สักวันผมจะไปจากที่แห่งนี้ จะไปโลดแล่นอยู่บนท้องฟ้า แต่ทว่าคำว่า"ข้อบกพร่อง"ยังคงเป็นพันธนาการ
เมื่อไรนะ ที่ผมที่หลุดพ้นโซ่ตรวนนี้เสียที....
--------------------------------------------------------------------------
"หมายความว่ายังไงที่ที่นี่กำลังจะถูกทุบ!!??"
เขาถามเสียงดังจนเรียกความสนใจคนแถวนั้นไม่น้อยให้หันมามองร่างชายหนุ่มกับหญิงสาววัยใกล้กลางคน
"ขอโทษด้วยนะ แต่ว่าเราไม่มีเงินพอที่จะยื้อบ้านหลังนี้ไว้อีกแล้ว แต่ว่าไม่ต้องห่วงนะ เราจะหาบ้านใหม่ให้เธอเอง"
เธอพูดด้วยสีหน้าอมทุกข์ โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย ซึ่งเขาเองก็เข้าใจดี เขาอายุเยอะเกินกว่าจะหาใครมารับเลี้ยงดู แถมเขายังหนีไปซ่อนเวลามีคนมาประจำ ไม่มีบ้านเด็กกำพร้าที่ไหนอยากจะเลี้ยงเขาไปเรื่อยๆหรอก
--------------------------------------------------------------------------
"เดี๋ยวสิ จะไปไหนน่ะ"
เสียงหญิงสาวเรียกเขาจากไกลๆแต่เขาก็ไม่สนใจกระโดดข้ามกำแพงและวิ่งออกไปในตรอกมืด ก่อนจะหันมามองบ้านเด็กกำพร้าที่เขาอยู่มานับสิบปีเป็นครั้งสุดท้าย
เขาเกลียดที่นี่.. เกลียดทุกคนที่นี่ที่เอาแต่โทษโชคชะตาที่พรากพ่อแม่ของพวกเขาไป.. เกลียดการต้องเป็นเด็กกำพร้าทั้งๆที่พ่อแม่ยังอยู่แต่ไม่ต้องการเขา..
แต่ถึงอย่างนั้นที่นี่ก็เป็น "บ้าน" สำหรับเขามานาน นานพอที่เขาจะผูกพันธ์...
--------------------------------------------------------------------------
"อีกแก้ว"
ผมพูดเสียงเรียบๆพร้อมวางแก้วไวน์แดงเปล่าลงหน้าบาร์เป็นรอบที่สาม
"เฮ้ย ไอ้น้อง หน่วยก้านดีนี่หว่า สนใจไปด้วยกันไหม"
เสียงห้าวทักพร้อมกับมือหนักที่ตบลงบนบ่า
"ไม่ละ ผมไม่ชอบยุ่งยาก"
ผมชายตามองคนทักที่เป็นชายร่างบึกบึนสามคน ก่อนจะปัดมือลงบ่าออก
--------------------------------------------------------------------------
ตุบ ตึ้บ
เสียงอะไรหนักๆกระทบกันดังมาจากตรอกมืดสลัว
"มีทางดีๆให้ไปไม่เอา งั้นก็ตายซะเถอะแก"
ชายร่างบึกบึนสามคนรุมเตะรุมกระทืบผม โดยที่ผมทำได้แค่ยกแขนกันใบหน้าและงอตัวเท่านั้น
หลังจากกระทืบผมจนปางตายแล้ว ผมก็โดนปล่อยนอนอยู่ตรงนั้น ก่อนจะหมดสติไปในไม่ช้า
--------------------------------------------------------------------------
แอ็ดด
เสียงบานประตูลั่นดึงสติผมกลับมา สายตาพร่ามัวมองเห็นเงารางๆของชายร่างสูงคนหนึ่ง
"สภาพเละยิ่งกว่าหมาขี้เรื้อนอีกนะครับ"
นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ผมได้ยิน ก่อนทุกอย่างจะดำมืดอีกครั้ง
--------------------------------------------------------------------------
"ไปดูแลลูกค้าได้แล้ว อย่ามัวแต่อู้"
เสียงเจ้าของคลับหรือเรียกง่ายๆว่าเจ้านายผมสั่ง ทำให้ผมต้องลุกขึ้นมาแต่งตัวออกไปหน้าร้าน
"ให้ตายสิ นี่เรามาเป็นโฮสต์ได้ยังไงกันนี่ ตอนเซ็นส์สัญญาโดนมอมยาแหงๆ"
ผมบ่นในใจแต่ก็ยังออกไปรับลูกค้า
บางที.. ที่นี่อาจจะมีอะไรที่ทำลายโซ่ตรวนนี้ได้ก็ได้..
ปล. มันยาวเกินคาดไปหลายเท่า เสียใจ ; w ;
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น