คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : กลับสู่ปราสาทวาเรีย
"...นี่ฉันเพิ่งจะไปโรงเรียนวันแรกเองนะ"
เสียงใสบ่นเรียบๆแม้จะโผนทะยานอยู่ท่ามกลางน่านฟ้า ชุดนักเรียนนามิโมริถูกเปลี่ยนเป็นสูทของวาเรีย เบลที่ตามมาหันมาเอ่ยด้วยเล็กน้อย
"ชิชิชิ เอาน่า ถือว่าเจ๊ากันที่อู้งานวาเรียนะ ชิชิชิชิ"
"จะถึงรึยัง"
"อยู่หลังตึกนู่นน่ะ ที่มีที่ว่างๆโล่งๆ"
เครื่องบินขนาดกะทัดรัดจอดอยู่กลางสนามโล่ง เส้นผมสีเงินปลิวไสวด้วยแรงลมจากเครื่อง ใบหน้าบ่งบอกความอารมณ์เสียถึงขีดสุด
"วร๊อยยยยยยยยยยยยยยยยยย!! แค่ไปเอาเด็กผู้หญิงคนนึงทำไมมันช้านักหนาวะ!!!!!"
เสียงแปดหลอดเข้มห้าวดังขัดเสียงเครื่องที่ดังจนน่าหนวกหูไปถนัด สองร่างที่กระโดดไปมาบนหลังคาของนามิโมริด้วยความสามารถเหนือมนุษย์ที่ผ่านการฝึกฝนมากระโดดลงมาอยู่หน้าเขา
"..หมอนี่เสียงน่าหนวกหูออก ฉันต้องทำงานให้พวกนายจริงๆเหรอเนี่ย"
"ห๊าาาา!! ว่าไงนะ!!!!!"
"ชิชิชิ ใจเย็นน่าสควอลโล Thanks แล้วกันที่อุตส่าห์มารับตามคำขอ ว่าแต่โฟล ถามซะอย่างกับไม่ได้สมัครเองเลยนะ ชิชิชิ"
"นายไม่มีสิทธิ์มาเรียกชื่อเล่นฉันนะ"
คิ้วเรียวของสาวน้อยขมวดมุ่น อารมณ์ขี้เล่นจางหายวับไปกับตาตั้งแต่เธอเหยียบเข้ามาที่นามิโมริ แต่ดูท่าคำพูดของเธอก็ไม่เข้าหูของคนเป็นเจ้าชายที่เธอดูยังไงก็เป็นเจ้าชายเก๊อยู่ดี เพราะเขาหัวเราะด้วยเสียงประหลาดๆเหมือนเดิมราวกับไม่หยี่ระใดๆ
"เฮ้อ.."
เมื่อทั้งสามนั่งลงประจำที่ในเครื่องแล้ว ประตูถูกปิดโดยอัติโนมัติพร้อมกับตัวเครื่องที่เริ่มแลนดิงช้าๆ ก่อนจะเร็วขึ้นเรื่อยๆพร้อมทะยานข้ามมหาสมุทร ฟลอเรนซ์นึกถึงเหตุการณ์ตอนเช้าที่ยังคาใจไม่หาย
"เอ้า! โฟลลล กลับปราสาทวาเรียกันเถอะ"
"ฮะ..เฮ้ยย!!"
เบลจับข้อมือเล็กของฟลอเรนซ์เอาไว้ก่อนจะออกแรงดึงไปตาม แน่นอนว่าสาวเจ้าเป็นต้องร้องออกมาอย่างตกใจ ดวงตาสีนภานั้นมองกรรมการคุมกฎที่มองตามเธออย่างงงๆปนด้วยอารมณ์เสีย
ซึ่งไอ้อันหลังไม่ต้องพูดถึงใครๆก็คงรู้..
ที่แน่ๆ เอาเป็นว่าทั้งเธอและฮิบาริอารมณ์เสียสุดขีดด้วยอารมณ์ค้างที่อยากจะสู้กันเสียเดี๋ยวนั้น ต่างคนต่างก็ได้แต่ทำใจพลางส่งสายตาให้กันประมาณว่า ' เจอกันคราวหน้าแกตายแน่ '
ครืด!!
"ไหนๆๆ นักเรียนคนไหนจะสู้กัน!!!!"
เหล่าคณะอาจารย์ขนาดย่อมเดินเข้ามาในห้องเรียนอย่างร้อนรน ทว่าภาพตรงหน้ากลับเป็นแค่นักเรียนทั้งหลายไปหลบอยู่มุมห้องกันหมด มีกลุ่มซาวาดะจับกันอยู่แถวหน้าห้อง และกลางห้องที่ทุกคนต่างพร้อมใจกันตีตัวออกห่างให้มากที่สุด...คือฮิบาริ เคียวยะที่กำทอนฟาแน่นเสียจนทอนฟาแทบจะบุบเสียให้ได้
"เว้ยยยยย!! เจ็บใจ!!!!"
หญิงสาวอดสบถออกมาไม่ได้เมื่อนึกถึงตอนนี้ เบลและสควอลโลที่นั่งอยู่ข้างหน้าหันมามองด้วยสีหน้าฉงนๆ ก่อนจะมองหน้ากันเอง
'มันเป็นอะไรของมันวะ'
"เฮ้ย..ใครก็ได้ บอกฉันทีดิ้ว่าข้างหน้าฉันนี่มันเป็นปราสาทโกโรโกโสที่ฉันอยู่มาหลายปีดีดัก..."
สควอลโลเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เหมือนทำใจยาก ใบหน้าบ่งบอกความเหลือเชื่อเต็มประดา ซึ่งทั้งสองคนที่เดินตามมาก็ทำสีหน้าไม่ต่างกันเท่าใดนัก
"..ฉันว่าคราวนี้มันโกโรโกโสของแท้เลยล่ะ ผบ.สควอลโล"
ฟลอเรนซ์เอ่ยพลางมองซีกหนึ่งของปราสาท เบลที่เห็นภาพนี้แม้จะไม่เห็นสีหน้าชัดเจนนักเนื่องจากเส้นผมสีทองที่ปกปิดใบหน้าของเขาเอาไว้ครึ่งหน้า แต่ความตกใจที่มีก็คงไม่แพ้ทั้งสควอลโลและฟลอเรนซ์ที่ดูเหมือนจะเก็บอาการ..หน่อยๆ
ปราสาทซีกหนึ่งถูกเผาทำลายไปจนเหลือแต่เป็นซากอิฐเท่านั้น เหล่าวาเรียชั้นล่างของแต่ละหน่วยพยายามตรวจเช็คความเสียหายตามคำบัญชาของหัวหน้าหน่วยที่มีอยู่เพียงไม่กี่คนในตอนนี้ แม้แต่แซนซัส ผู้ได้ชื่อว่าไม่สนใจอะไรทั้งนั้นยังออกมามองปราสาทตนเองด้านหน้าด้วยใบหน้าไม่ชอบใจ
"บอส!?"
เบลอุทานออกมาเมื่อพบแซนซัสยืนอยู่นอกปราสาท ฟลอเรนซ์สะกิดจึกๆอย่างสงสัย
"..มันน่าแปลกใจขนาดนั้นเลยเหรอ"
"หน้าเจ้าชายมันแสดงออกขนาดนั้นเลยเหรอ"
หญิงสาวแยกเขี้ยวใส่เข้าให้ อารมณ์เสียหงุดหงิดที่มาขัดจังหวะสู้เธอยิ่งพลุ่งพล่านเมื่อชายตรงหน้ามาทำ 'ซึนเดเระ' ใส่อีก
"เออ!!"
"ไม่ไหวน้า เป็นผู้หญิงพูดเออพูดออห้วนๆแบบนี้ได้ไง ชิชิชิ"
"เออค่ะ! หยุดนอกเรื่องซะที ผบ.เบลเฟกอล"
"ไม่มีอะไรนักหรอกน่า แค่ไอ้บอสเวรนั่นมันไม่เคยลุกจากเก้าอี้ราชาของมันซักที มีก็คราวนี้ลุกมายืนนิ่งๆแบบนี้"
สควอลโลตอบเสียงดังฟังชัดแทนเบลหลังจากรำคาญทั้งคู่มาพักหนึ่ง แต่คงดังเกินไปเลยไปเข้าหู'ไอ้บอสเวร'ที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลซะนี่
"ไอ้สวะ หยุดโวยวายแล้วมาซ่อมซะที"
คำสั่งไร้ที่มาดังขึ้นอย่างไม่เจาะจงว่าเป็นใครในสามคน แต่ทว่าสควอลโลกลับปรี๊ดพร้อมชี้ดาบไปหาผู้เป็นนายเสียแล้ว
"ซ่อม!!? นั่นมันหน้าที่พวกลูกกระจ๊อกโว้ย!!"
"ก็แล้วไอ้สวะที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ใช่ลูกกระจ๊อกรึไง"
แซนซัสพยักเพยิดมาทางฟลอเรนซ์ผู้ตกอยู่ในฐานะ'ลูกกระจ๊อก'ไปโดยปริยาย เธอมองรอบข้างอย่างงงๆก่อนจะส่ายศีรษะเดินไปทางซากปราสาท สงสัยในใจพร้อมสรุปไปเองว่าใครที่ไม่มียศเป็นหัวหน้าหน่วยคือลูกกระจ๊อกหมดในวาเรีย
"เฮ้ๆ บอส! นี่เป็นเบ๊ของเจ้าชายไม่ใช่เหรอ"
เบลท้วงพลางดึงคอเสื้อฟลอเรนซ์เอาไว้ เล่นเอาเธอแทบจะสำลัก พอไอค่อกแค่กให้หายเจ็บก็หันมาแยกเขี้ยวใส่อีกรอบ แต่แซนซัสกลับขมวดคิ้วมุ่นเหมือนเชิงว่าไม่เข้าใจ
"ที่แกบอกให้รับเข้ามาในวาเรียนี่เพื่อให้มาเป็นเบ๊แกรึไง"
"ชิชิชิ ก็ใช่น่ะสิบอส ตอนนั้นก็บอกไปแล้วนี่นาว่าถ้าทุกคนเฉยๆงั้นเจ้าชายจะเอามาทรมานเล่น อุชิชิชิชิ"
'ทรมานเล่น'
คำๆนี้สะกิดใจของฟลอเรนซ์จนน่ากลัว คิ้วเริ่มขมวดมุ่นหนักกว่าทุกทีและมองชายผู้ยังกำคอเสื้อเธออยู่อย่างหวาดระแวง
ไอ้เจ้าชายเก๊นี่มันจะเอาเธอไปทรมานเล่นเนี่ยนะ
วิปริต!!
"เหอะ ตามใจแก ขาดไอ้สวะไปซักคนคงไม่ทำให้งานพรรค์นี้แย่ลงหรอก ไหนๆก็มีแต่พวกสวะ"
...ก็คุณท่านเคยเห็นใครนอกจากตัวเองไม่ใช่สวะมั้ยล่ะ
"ชิชิชิ งั้นเจ้าชายไปล่ะน้าาาา"
"ไอ้เบล! แกรับหน้าที่สืบเรื่องคนโจมตีปราสาทด้วยนะโว้ยยยย!"
เบลไม่รอช้า ได้โอกาสรีบลากฟลอเรนซ์เข้าไปทางฝั่งปราสาทที่ยังปลอดภัยอยู่ดีทันที ไม่วายสควอลโลจะตะโกนทิ้งท้ายมา เขาได้แต่เออออรับปากไปอย่างนั้น มาถึงที่หลังก็พึ่งจะรู้ว่างานมันหนักแค่ไหน...
"แค่ก! อ่อกๆ!"
เสียงแหบแห้งดังขัดความคิด เบลทำท่าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้จึงปล่อยคอเสื้อที่กำมาตลอดลง ฟลอเรนซ์ไออย่างหนัก ไม่ลืมที่จะหันไปส่งสายตาอาฆาตให้คนต้นเรื่องที่ตอนนี้กำลังเดินสบายๆอยู่ที่โถงทางเดินปราสาท
"ว้าา บอสให้งานเร็วจังแฮะ พึ่งจะได้ของเล่นมาใหม่เอง"
ร่างสูงบ่นงึมงำ แต่ดังพอให้คนที่เดินตามมาได้ยินแล้วเอาไปนึกตะหงิดใจเล่นกับคำว่า'ของเล่น' มือเผลอไปจับด้ามดาบเงินลวดลายสลักที่อยู่ในฝักซึ่งถูกเหน็บไว้ข้างตัวอย่างไม่ทันตั้งสติ
"โอ๊ะ..."
"อะ...! อะไร!!?"
ฟลอเรนซ์สะดุ้งทันทีเมื่อจู่ๆคนตรงหน้าก็หยุดเดินและหันมาหาเธออย่างเร็ว สัญชาตญาณบอกถึงความ'ซวย'ที่กำลังจะมาเยือนเมื่อเห็นรอยยิ้มโรคจิตของเบลเฟกอล
"ได้เวลาสนุกแล้วสิ~"
ความคิดเห็น