NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภาวินทร์ภคนางค์

    ลำดับตอนที่ #34 : บทที่ 12 (2) หลอกล่อ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.01K
      31
      21 เม.ย. 67




    “ฉันไม่เคยมีใคร มีแค่เธอคนเดียว”

    ภาวินทร์กระซิบบอกแล้วจุมพิตแก้มนวลเบาๆ ซ้ำๆ กันหลายครั้ง ตั้งแต่หย่ากับภคนางค์ เขาก็ไม่เคยให้ความสนใจกับผู้หญิงคนไหนเลย เรียกว่าหมดความสนใจไปเลยก็ว่าได้ แล้วจะให้มีผู้หญิงคนใหม่ได้อย่างไร ให้สาบานก็ยังได้ว่าเขาไม่ได้มีใครจริงๆ

    เสียงกระซิบผะแผ่วนั้นทำให้ใจคนฟังฟูฟ่องคับอก กระนั้นเธอก็ยังพยายามหักห้ามความรู้สึกของตัวเองอย่างสุดความสามารถไม่ให้หลงระเริงคารมชาย

    “ผู้หญิงคนนั้นไงคะ...” คนที่เพื่อนเธอเคยส่งรูปถ่ายมาให้ดู คนที่ดูสนิทสนมกับเขาเหมือนกับคนรัก

    “คนไหนกัน”

    เสียงทุ้มที่ทอดถามมีแววหยอกล้อ ริมฝีปากหยักแต้มด้วยรอยยิ้มบางเบา ผู้หญิงคนใหม่ที่ว่ามานั้นคือใครกัน ทำไมเขาถึงไม่เคยรู้เลย แล้วถ้ามีจริงๆ ภาวินทร์คงไม่พยายามรบเร้าอยากจะให้เธอกลับมาเป็นเมียแบบนี้หรอก เล่นตัวก็เก่งแถมยังดื้อรั้นจนน่าตีอีกต่างหาก

    “ตอบฉันมาหน่อยซินางค์ ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”

    คาดคั้นเสียงนุ่มอยู่กับแก้มนวลหอมกรุ่น ขณะปลายนิ้วแกร่งนั้นค่อยๆ ดึงสายชุดคลุมที่หญิงสาวผูกเป็นปมให้คลายออกจากกันอย่างนุ่มนวล แล้วใช้ท่อนแขนแกร่งสอดเข้าไปใต้เรือนกายอรชรเพื่อตระกองกอดไว้ ริมฝีปากยังคงวนเวียนจุมพิตแก้มเนียนพลางคลอเคลียลมหายใจร้อนรุ่มอย่างอ้อยอิ่ง กรุ่นกลิ่นหอมอ่อนๆ อันคุ้นเคยนี้ได้ดมดอมคราใดก็ยิ่งรู้สึกลุ่มหลงคลั่งไคล้

    “สงสัยมีหลายคนคุณเลยจำไม่ได้สินะคะว่าคนไหน”

    ภคนางค์เริ่มตีรวนด้วยใบหน้างอง้ำ ไม่ยอมเปิดปากพูดออกไปว่าเป็นใคร ขณะที่พวงแก้มเนียนใสนั้นร้อนผ่าวจากการรุกรานของปากร้อน การอยู่ชิดใกล้เขาแล้วถูกนัวเนียแบบนี้ทำให้สติของเธอไม่ครบถ้วนนัก อีกทั้งอุณหภูมิในกายก็สูงขึ้นเรื่อยๆ เรี่ยวแรงจะต่อต้านผลักไสก็เริ่มไม่มีเลยได้แต่นอนนิ่งๆ ให้เขารังแกราวกับคนไร้ทางสู้ หรือแท้จริงแล้วมันคือการสมยอม…

    “ใครจะไปมีทีละหลายคนกัน” แสร้งว่าเพื่อให้กลั่นแกล้งคนขี้หึง

    “ก็คุณไงคะ!”

    ภาวินทร์อมยิ้มเมื่อรู้ว่าคนปากแข็งกำลังหึงจนเริ่มพาล ในสมองของเขามันเอาแต่เฝ้าคิดถึงเธอ จะให้ไปมีผู้หญิงคนใหม่ได้อย่างไรกัน แล้วถ้าคิดจะมีชายหนุ่มคงไม่คิดอยากจะได้เมียกลับคืน เขาคงเอาแค่ลูกเพียงเท่านั้นละ

    “เธอก็น่าจะรู้ว่าฉันมีลูกค้าผู้หญิงเยอะแยะ ไม่เห็นต้องคิดมากเลย

    เขาว่าด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายอย่างรู้ทันคนหน้างอ ไม่รู้ว่าภคนางค์ไปรู้เรื่องราวพวกนี้มาจากใครที่ไหนกัน มันไม่มีความเป็นจริงเลยสักนิด และหญิงสาวก็น่าจะรู้ดีว่าเขามีคู่ค้าทางธุรกิจเป็นผู้หญิงตั้งมากมาย ก็ต้องมีบ้างที่อาจเห็นอยู่ด้วยกันตามลำพัง หรือว่าเธอหึงจนมองข้ามไป

    “นางค์ก็ไม่ได้คิดอะไรนี่คะ คนปากแข็งทำเป็นเฉไฉเมื่อโดนต้อนให้เข้ามุมมากขึ้นเรื่อยๆ จนหมดหนทางหนี

    “จริงเหรอ”

    “ค่ะ” ย้ำเสียงสะบัด ใบหน้าแดงระเรื่ององ้ำเสียยิ่งกว่าเดิม

    ภาวินทร์คลี่ยิ้มกรุ้มกริ่ม แล้วฝังจมูกและริมฝีปากลงหาแก้มนุ่มของคนปากแข็งหนักๆ ราวกับจะลงโทษ แล้วจับปลายคางเรียวสวยให้หันมาเผชิญหน้าตรงๆ

    “แล้วทำไมถึงไม่อยากกลับมาเป็นเมียฉัน...”

    ถามเสียงทุ้มนุ่มด้วยความอยากรู้เหลือเกิน มองจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่งามขณะรอคอยคำตอบ ปลายนิ้วแกร่งตรึงคางเรียวเอาไว้ไม่ให้หลบหนีไปไหน อยากให้ภคนางค์รับรู้ถึงความชัดเจนที่เขามีมาตั้งแต่แรกแล้วว่าต้องการทั้งลูกและแม่ของลูก และไม่เคยคิดเลยว่าที่อยากจะได้เธอกลับมาเป็นเมียอีกครั้งเพราะมีลูก

    ภคนางค์เม้มเรียวปากแล้วกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ ขอบตาร้อนผ่าว ดวงตาคู่งามไหววูบ หากการกลับไปเป็นภรรยาของภาวินทร์มันเป็นเพียงแค่หน้าที่หนึ่งเท่านั้น เธอคงไม่อาจกลับไปอยู่ในตำแหน่งนั้นได้อีกแล้ว เพราะไม่อยากกลายเป็นคนไร้ค่าในสายตาเขา…

    “เรื่องมันจบไปแล้วก็ให้มันจบไปเถอะค่ะ คุณเคยรับปากแล้วว่าจะเหลือไว้แค่สถานะพ่อกับแม่ของยายหนู...”

    การควบคุมน้ำเสียงไม่ให้เครือสั่นนั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นเหลือเกิน ไม่ต่างจากการพยายามซุกซ่อนความเศร้าสร้อยจากสายตาของภาวินทร์ ภคนางค์เลยทำได้แต่เสมองไปทางอื่นด้วยแววตาไหวระริก

    “ถึงฉันจะรับปากแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะทำได้นะนางค์

    ภาวินทร์เอ่ยพลางส่ายหน้าเบาๆ ปกติเขาเป็นคนรักษาคำพูดของตัวเองเสมอ แต่กับเรื่องนี้คงทำเช่นนั้นไม่ได้หรอก เขายอมเป็นคนไม่รักษาคำพูดเพื่อให้ได้เธอกลับคืนมา

    “ปล่อยนางค์ค่ะ”

    หญิงสาวเบี่ยงประเด็นด้วยการออกคำสั่งและพยายามขืนตัวออกจากอ้อมแขนอุ่นที่รัดแน่น เพราะการอยู่ใกล้ชิดเขามันจะทำให้เธอห้ามความรู้สึกของตัวเองไม่ได้

    “ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง ปล่อยไม่ได้หรอก”

    ยิ่งคนในอ้อมแขนพยายามดันตัวออกห่าง ภาวินทร์ก็ยิ่งรัดแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ ครั้งหนึ่งเขาเคยปล่อยเธอไปจากชีวิตอย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้มันจะไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว ต่อให้ต้องกักขัง เขาก็พร้อมจะทำ

    “คุณจะเอายังไงกับนางค์กันแน่คะ คุณภาวินทร์” โพล่งออกมาอย่างสุดจะทน

    “จะเอาเมียกลับคืน!” ภาวินทร์ประกาศกร้าวเสียงหนักแน่น แววตาแน่วนิ่งจริงจัง ต้องการลบคำว่า ‘อดีต’ ออกไปให้เหลือเพียงคำว่า ‘เมีย’ เท่านั้น!

    “แต่นางค์จะไม่กลับไปเป็นเมียคุณอีกแล้ว”

    ภคนางค์ยืนยันความต้องการของตัวเองน้ำเสียงเครือ เม้มปากสั่นระริกเข้าหากันจนเจ็บแปลบขณะเบือนใบหน้าหนีเขา ทว่าภาวินทร์กลับบงการให้หันกลับไปหาเขาดังเดิม

    “ฉันคิดว่าฉันทำให้เธอกลับมาได้นะ…”

    ชายหนุ่มสบตาคู่หวานที่พราวระยับด้วยน้ำตาในยามเอื้อนเอ่ยคำพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน ค่อยๆ ผ่อนเรือนกายลงทาบทับกายอรชรจนแนบชิดกันมากขึ้น กายนุ่มแสนหอมกรุ่นนั้นช่างปลุกปั่นอารมณ์ได้ง่ายดายจนเริ่มรุ่มร้อน ในเมื่อคุยกันด้วยภาษาปากแล้วไม่รู้เรื่องก็คงต้องใช้ภาษากายแทน…

    เพราะโบราณว่าผัวเมียนอนคุยกันถึงจะรู้เรื่อง เห็นทีเขาคงต้องทำเช่นนั้นโดยด่วน ครั้งก่อนๆ มีลูกอยู่ด้วยเลยคุยไม่ถนัด คราวนี้อยู่ตามลำพังหวังว่าจะคุยกันให้เคลียร์เสียที…

    “คะ…คุณวินทร์ ลุกออกไปจากตัวนางค์นะคะ”

    ภคนางค์ออกแรงดิ้นและผลักไสร่างกายกำยำที่ไม่ต่างจากกำแพงหินหนักๆ ดวงหน้าหวานร้อนเห่อเมื่อสัมผัสได้ถึงบางอย่างรุ่มร้อนที่นาบอยู่บริเวณต้นขา พลันทำให้ใจสั่นสะท้านด้วยความหวาดหวั่น

    “ปล่อยยย”

    “ปล่อยได้ไง ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย”

    ริมฝีปากหยักได้รูปของภาวินทร์กระตุกยิ้มร้าย ทอดสายตาที่อัดแน่นด้วยแรงปรารถนามองเรียวหน้างดงามแดงเปล่งปลั่งใต้แสงสีนวล ยิ่งภคนางค์พยายามดิ้นรน เสื้อคลุมที่ถูกคลายปมออกจากกันเริ่มหลุดลุ่ยจนเผยให้เห็นอกกลมกลึงที่โผล่พ้นขอบชุดนอนออกมาวับๆ แวมๆ พลันทำให้ลำคอของเขาแห้งผากอยากจะซุกซบใบหน้าลงหา…

    “นางค์ไม่มีอะไรจะคุยกับคุณแล้ว”

    เสียงของภคนางค์เริ่มแผ่ว เริ่มหอบหายใจหนักขึ้นจนอกอวบสะท้านขึ้นลงล่อตาล่อใจคนมอง ขณะเรียวหน้าหวานนั้นก็แดงซ่าน แววตากลมโตแทบไม่กล้ามองสบตาคมที่แฝงเร้นไปด้วยแรงพิศวาส

    “ไม่คุยก็ไม่คุย…

    เขานัวเนียริมฝีปากกับแก้มหอมเรื่อยลงมาถึงซอกคอขาวผ่อง จรดจุมพิตลงหาแผ่วเบาอย่างหยอกเย้าจนสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะท้านและเสียงหอบหายใจของคนใต้ร่าง ช่างกระตุ้นให้เลือดร้อนแล่นพล่านในกายดีนัก ภาวินทร์กดจูบลงบนแอ่งชีพจรหนักๆ แล้วช้อนร่างอ้อนแอ้นมีน้ำมีนวลขึ้นจากโซฟาอย่างง่ายดาย

    “คุณวินทร์ ปล่อยนางค์ลงนะ!”

    ภคนางค์ประท้วงพร้อมดิ้นด้วยสีหน้าตื่นตระหนกเมื่อจู่ๆ ร่างกายก็ถูกอุ้มลอยหวือจากโซฟา กำปั้นเล็กๆ ยกขึ้นประทุษร้ายอกแกร่งทว่ากลับไม่ได้ทำให้ภาวินทร์สะทกสะท้านแต่อย่างใด กระนั้นก็ยังไม่ละความพยายามที่จะดิ้นให้หลุดจากวงแขนแข็งแรง

    “อย่าดิ้น เดี๋ยวตก”

    ภาวินทร์ปรามเสียงเข้มขณะสาวเท้าไปยังประตู หลุบสายตาลงมองคนดื้อรั้นในอ้อมแขนเล็กน้อย แววตาขุ่นขวางนั่นไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด มันน่ามันเขี้ยวปนเอ็นดูมากกว่า เพราะลูกแมวต่อให้แยกเขี้ยวขู่ยังไงก็ดูเป็นลูกแมว ไม่มีทางเป็นแม่เสือได้หรอก

    “ก็ปล่อยสิคะ” กระเง้ากระงอดบอกด้วยใบหน้าแดงปลั่งที่ง้ำงอ ยกแขนขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งอย่างไม่อาจเลี่ยงเพราะกลัวจะตก

    “ถึงห้องแล้วจะปล่อย” ว่าด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายในยามก้าวขึ้นบันไดอย่างมั่นคง แม้ภคนางค์จะมีน้ำมีนวลขึ้นกว่าแต่ก่อน ทว่าก็ยังตัวเบาสำหรับเขาอยู่ดี

    “ปล่อยตรงนี้ก็ได้ เดี๋ยวนางค์กลับห้องเอง”

    เธอช้อนใบหน้าขึ้นมองขณะต่อรอง ไม่กล้าดิ้นเพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุ แต่ดูเหมือนภาวินทร์จะทำเป็นหูทวนลม ไม่สนใจคำพูดของเธอเลยสักนิด ทำไมเขาถึงได้เป็นคนเอาแต่ใจถึงเพียงนี้นะ ได้แต่ค่อนขอดอยู่ในใจด้วยความเคืองขุ่น

    “ใครว่าจะให้กลับห้องนั้น ฉันหมายถึงห้องของเราต่างหาก”

    พอก้าวพ้นบันไดขั้นสุดท้ายภาวินทร์ก็กระซิบบอกด้วยน้ำเสียงติดจะพร่าชิดใบหูขาวผ่องก่อนจุมพิตเบาๆ อย่างหยอกเย้า

    คำว่า ‘ห้องของเรา’ ทำเอาใจของคนฟังเต้นกระหน่ำรัวแรง หันขวับขึ้นไปมองเจ้าของอ้อมแขนที่กำลังเดินไปอีกฝั่งของคฤหาสน์ด้วยท่าทีตื่นตกใจ แววตาเลิ่กลั่ก เริ่มดิ้นรนหาทางเอาตัวรอดราวกับหนูติดจั่น

    “ไม่…”

    ยังไม่ทันที่จะได้พูดให้ครบประโยค ริมฝีปากร้อนก็ประกบลงหาอย่างนุ่มนวล พอได้สติภคนางค์ก็เบือนใบหน้าหนีการรุกราน ทว่าภาวินทร์กลับขยับตามอย่างไม่ลดละ ประทับจูบลงบนกลีบปากนุ่มด้วยสัมผัสแผ่วเบา ไม่จาบจ้วงแม้หญิงสาวพยายามต่อต้าน ขณะสองเท้าก็ก้าวเข้าใกล้ห้องนอนใหญ่ของเขามากขึ้นเรื่อยๆ

    “ฮื้อ…”

    ภคนางค์ประท้วงในลำคอเมื่อหลบหนีอย่างไรก็ไม่พ้นปากร้อนที่ตามมาประกบจูบอย่างแม่นยำ มือบอบบางเผลอขยุ้มเสื้อคลุมของเขาแน่นขณะซุกใบหน้าเข้าหาอกแกร่งเพื่อให้รอดพ้นจากปากแสนร้ายที่กำลังทำให้สั่นสะท้านในอกเพราะสัมผัสอันนุ่มนวล

     

     +++++

    มีความคิดเห็นยังไง ฝากคอมเม้นให้กำลังใจด้วยนะคะ

    ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ / อิงธารา

    e-book >> https://goo.gl/K5N86N

    หรือ get it now ค่ะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×