NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภาวินทร์ภคนางค์

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1 (2) ยังคงนึกถึง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 54.67K
      289
      20 เม.ย. 67




    “เขามากับผู้หญิงคนเดียวกันกับวันนั้นปะบุ้ง ดูสนิทกันเนอะ”

    อรอุมาเอนตัวเข้าไปป้องปากกระซิบกระซาบถามขณะตามองไปยังชายหญิงคู่หนึ่งที่อยู่อีกมุมของร้านอาหาร เพราะผู้หญิงคนนั้นนั่งหันข้างอยู่เลยทำให้เห็นหน้าไม่ค่อยชัด

    คนถูกถามละสายตาจากเมนูอาหารแล้วทำหน้าครุ่นคิดขณะมองอย่างพิจารณา “น่าจะใช่นะ”

    “แกว่าเป็นแฟนกันมะ ผู้หญิงดูไฮโซมากเลยอะ แต่ฉันว่ายายนางค์สวยกว่าเยอะ”

    “ดูสนิทสนมกันขนาดนี้ จะเหลือเหรอ” บุญญาดาตอบอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก เขาเป็นแค่อดีตของเพื่อน ไม่จำเป็นที่เธอจะให้ความสนใจ

    “เฮ้อ น่าเสียดายที่เขาไม่รู้ว่าตัวเองมีลูกสาวหน้าตาน่ารักมาก”

    ว่าแล้วอรอุมาก็นึกเสียดายแทนผู้ชายคนนั้น ขนาดเธอเป็นแค่น้ายังรักยังหลงหลานสาวขนาดนี้ ถ้าคนเป็นพ่ออย่างเขารู้จะขนาดไหนกันล่ะ เพราะเด็กหญิงภควรินทร์นั้นหน้าเหมือนพ่อของแกมากเหลือเกิน แทบจะเรียกว่าโขกออกมาจากพิมพ์เดียวกันเลยละ

    “ไม่รู้น่ะดีแล้ว เพราะยายนางค์มันก็ไม่ได้อยากให้เขารู้”

    เมื่อภคนางค์ตัดสินใจที่จะไม่บอกอดีตสามีเรื่องลูก พวกเธอก็เคารพการตัดสินใจของเพื่อน แม้เคยพยายามเกลี้ยกล่อมไปหลายครั้ง ทว่าภคนางค์กลับใจแข็งและยืนยันหนักแน่นว่าจะเลี้ยงลูกเอง และการที่น้องพลินทร์เติบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่น่ารัก อารมณ์ดี มีพัฒนาการที่สมวัยนั้นบ่งบอกว่าภคนางค์ทำหน้าที่แม่ของตัวเองได้ดีมากเพียงใด แม้จะต้องอุ้มท้องและเลี้ยงลูกโดยไร้เงาของสามี

    “ฉันก็ไม่เข้าใจมันว่าทำไมถึงไม่ยอมบอกเขา”

    อรอุมาเอ่ยอย่างอ่อนใจขณะมองอดีตสามีของภคนางค์ที่ไม่มีโอกาสได้รับรู้ว่าตัวเองมีลูก ความจริงเขาก็ไม่ได้มีความผิดอะไร เธอคิดว่าเขาก็มีสิทธิ์ที่จะรู้เรื่องลูก แต่ภคนางค์กลับยืนกรานที่จะไม่บอก ทั้งที่ตอนหย่าก็หย่ากันด้วยดี ไม่ได้มีปัญหาหรือบาดหมางใจกันเลยสักนิด

    “ยายนางค์มันก็มีเหตุผลของมัน แกนี่จะสงสัยอะไรนักหนา”

    บุญญาดาถอนหายใจใส่เพื่อนที่ทำตัวเป็นคนขี้สงสัยเกินเหตุ วันก่อนก็ก่อเรื่องมาทีหนึ่งแล้ว มีที่ไหนไปเจออดีตสามีของเพื่อนอยู่กับผู้หญิงแล้วแอบถ่ายส่งมาให้เพื่อนดู ดีเท่าไรที่ไม่โดนภคนางค์โกรธเอา เพราะรายนั้นน่ะไม่ใช่คนที่จะโกรธใครง่ายๆ

    “เออ ไม่สงสัยแล้วก็ได้”

    “ไปนั่งฝั่งนู้นเลยไป แล้วก็รีบสั่งอาหารได้แล้ว ฉันรอแกตั้งนาน หิวจนไส้จะขาดแล้ว”

    “ย่ะ!”

    ทำท่าเง้างอนใส่เพื่อนก่อนจะย้ายไปนั่งอีกฝั่งพร้อมหยิบเมนูอาหารขึ้นมาเปิดดู แต่ตาก็ยังไม่วายชำเลืองมองไปยังอดีตสามีของเพื่อน วันนั้นที่อรอุมาส่งรูปเข้าไปในไลน์กลุ่มพร้อมกับข้อความบอกว่าตัวเองเจออดีตสามีของภคนางค์ เธอไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่นแอบแฝงเลย ไม่ได้อยากทำร้ายจิตใจภคนางค์ด้วย หญิงสาวยอมรับว่าตัวเองทำไปโดยไม่ทันคิดจริงๆ พอโดนบุญญาดาและสรศักดิ์ตำหนิก็รีบลบออกทันที แล้วรีบโทรศัพท์ไปขอโทษภคนางค์เพราะกลัวเพื่อนจะโกรธ

     

    **********

     

    ธีรากรุ๊ป กรุงเทพมหานคร

    ภาวินทร์ แม็กเคลเลน ธีระธนภัทร นักธุรกิจหนุ่มวัยสามสิบเจ็ดปีก้าวออกมาจากลิฟต์สำหรับผู้บริหารด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าทรงเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างหลายเชื้อชาตินั้นเรียบขรึม ดวงตาคมเปี่ยมอำนาจเข้มขึ้นราวกับสีน้ำทะเลลึก กรามแกร่งบดเบียดเข้าหากันแน่นจนเป็นสันนูนน่าเกรงขาม บ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์หลังจากผ่านการประชุมอันแสนเคร่งเครียดที่ยาวนานเกือบสามชั่วโมง จนคมกริชที่ถือแฟ้มเอกสารเดินตามหลังออกมาต้องเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้เป็นนาย เพราะเกรงว่าจะเข้าไปกวนตะกอนขุ่นมัวให้ปะทุเป็นความคุกรุ่น

    “คุณวินทร์คะ อาทิตย์หน้ามีบินไปเชียงใหม่ จะให้นิ่มหรือพี่คมไปด้วยคะ”

    เลขานุการสาวรีบลุกขึ้นเอ่ยถามอย่างสุภาพก่อนที่เจ้านายจะเดินผ่านหน้าไปยังห้องทำงาน นวพรเพิ่งเช็กตารางงานของผู้เป็นนายอย่างละเอียด เนื่องจากเธอเพิ่งกลับมาทำงานวันแรกหลังจากลาคลอด มีตารางงานที่ต้องเดินทางไปพบลูกค้าที่ต่างจังหวัดปลายสัปดาห์หน้าหลายวัน แต่ยังไม่ได้ลงรายละเอียดและจองตั๋วเครื่องบินรวมถึงที่พัก จึงต้องสอบถามเจ้านายก่อนเพื่อที่จะได้จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนถึงวันเดินทาง

    เจ้าของเรือนกายสูงกำยำในชุดสูทสีเข้มชะงักแล้วหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับเลขาฯ สาว สอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงสแล็กก่อนตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมทว่าฟังแล้วดูผ่อนคลาย

    “ให้คมไปดีกว่า คุณนิ่มอยู่ดูแลทางนี้เถอะครับ”

    ภาวินทร์รู้ว่านวพรมีลูกเล็ก คงไม่สะดวกไปนอนค้างที่อื่นเท่าไรนัก จึงคิดว่าให้อยู่ดูแลงานทางนี้ดีกว่าจะได้ไม่ต้องคอยห่วงหน้าพะวงหลัง อีกทั้งผู้บริหารหนุ่มก็รู้อยู่แล้วว่างานของเขาต้องมีการเดินทางอยู่ตลอดจึงมีเลขาฯ สองคนเพื่อช่วยกันทำงาน

    “ได้ค่ะ เดี๋ยวนิ่มจะรีบจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินและที่พักให้นะคะ”

    “ผมว่าจะแวะเข้าไปพักที่บ้าน คุณนิ่มจัดการแค่ตั๋วเครื่องบินก็พอแล้วครับ

    ชายหนุ่มกล่าวถึงบ้านพักตากอากาศที่สร้างเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน บนที่ดินที่คุณตาซื้อไว้เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ปกติแล้วภาวินทร์จะพาครอบครัวขึ้นไปพักผ่อนที่นั่นปีละครั้งในช่วงที่บิดาเดินทางมาจากต่างประเทศ ระยะหลังมานี้งานค่อนข้างรัดตัวจึงไม่ค่อยได้ไป แต่มีคนสวนและแม่บ้านคอยดูแลตลอด ไปติดต่อธุรกิจครั้งนี้ไม่ได้รีบร้อนนักจึงคิดว่าจะแวะเข้าไปดูบ้านด้วย

    “ได้ค่ะคุณวินทร์เลขาฯ สาวรับคำพร้อมยิ้ม ผู้เป็นนายจึงพยักหน้ารับและทำท่าจะเดินจากไป ทว่านวพรกลับเพิ่งคิดบางอย่างขึ้นได้จึงเอ่ยขึ้นอีกรอบ…

    “เอ่อ…นิ่มอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่าคุณวินทร์จะว่าอะไรไหมอะค่ะ”

    หญิงสาวส่งยิ้มแห้งๆ ให้ด้วยความเกรงใจ เพราะว่าภาวินทร์เป็นคนค่อนข้างดุและจริงจัง แม้ทำงานด้วยมาหลายปี ทว่าความกลัวของนวพรก็ไม่ได้ลดลงเลยสักนิด

    ภาวินทร์ชะงักแล้วเลิกคิ้วเชิงถาม มองเลขาฯ สาวที่ทำหน้ากระอักกระอ่วนแล้วพยักหน้าเบาๆ เชิงอนุญาต

    “เรื่องคุณนางค์น่ะค่ะ”

    เธอเอ่ยด้วยสีหน้าติดจะกังวลเนื่องจากเกรงว่าการเอ่ยถึงอดีตภรรยาจะสร้างความไม่พอใจให้เจ้านาย ถึงกับกลั้นหายใจเมื่ออีกฝ่ายหันมาเผชิญหน้าเต็มๆ ทำเอาใจของเลขาฯ แม่ลูกอ่อนหายแว้บ เตรียมจะยกมือไหว้ขอโทษเพราะคิดว่าภาวินทร์จะตำหนิ

    “ทำไมเหรอครับ”

    ผู้บริหารหนุ่มแห่งธีรากรุ๊ปนึกตำหนิปากไม่รักดีที่รีบถามออกไปราวกับอยากจะรู้เรื่องอดีตภรรยาจนตัวสั่น ให้ตาย…ปกติแทบจะไม่ยอมขยับเอื้อนเอ่ยคำพูดหากไม่จำเป็น คิดพลางพ่นลมหายใจออกมาอย่างนึกฉุนตัวเอง

    นวพรค่อนข้างงุนงงที่ภาวินทร์มีท่าทีปกติต่างจากที่คิดเอาไว้ แต่การที่ถามเช่นนี้ก็ไม่ต่างจากเป็นการอนุญาตให้เธอเอ่ยถึงเรื่องที่เกริ่นมาได้…

    “หลายคืนก่อนนิ่มฝันถึงเธอน่ะค่ะ คุณนางค์อุ้มลูกสาวเข้ามาทักทายนิ่ม ในฝันลูกสาวของเธอน่ารักมากเลยนะคะ หน้าตาเหมือนลูกครึ่งเชียวค่ะ

    เลขาฯ สาวเอ่ยถึงความฝันของตัวเองด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและผ่อนคลาย แม้จำหน้าเด็กน้อยในฝันไม่ค่อยได้ เพราะในฝันมันเลือนราง แต่รู้ว่าน่ารักมาก เธอรู้จักกับอดีตภรรยาของภาวินทร์เป็นอย่างดี ภคนางค์เป็นผู้หญิงที่น่ารักและเพียบพร้อมมาก ยังอดเสียดายไม่ได้เลยที่หย่ากับเจ้านายของเธอทั้งที่อยู่กินกันได้แค่ปีเดียว ทำให้ตั้งแต่นั้นมานวพรก็ไม่ทราบข่าวคราวของภคนางค์เลย เพราะอีกฝ่ายย้ายออกไปจากคฤหาสน์ธีระธนภัทร ส่วนภาวินทร์ก็ไม่ได้มีใครหลังจากเลิกกับอดีตภรรยา มิหนำซ้ำยังโหมทำงานหนักมากกว่าเดิมเสียอีก

    ภาวินทร์ตัวชาวาบ นิ่งขรึม สมองอื้ออึง คล้ายว่างเปล่าไปชั่วขณะ คิ้วหนาขมวดมุ่นครุ่นคิด…

    ภคนางค์กับลูกสาวหน้าตาเหมือนลูกครึ่งงั้นเหรอ

    รำพึงรำพันถามตัวเองในใจราวกับคนละเมอด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แม้เป็นเพียงแค่ความฝันของนวพร ทว่าทำไมเขาถึงได้ใจสั่นในยามที่รับฟัง ความรู้สึกที่เหมือนบางอย่างขาดหายไปจากชีวิตย้อนกลับเข้ามาอีกครั้งจนรู้สึกโหวงหวิวในอกข้างซ้าย…

    ทำไมเขาต้องรู้สึกแบบนี้ทั้งที่ไม่ควรจะรู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ…

    “คุณวินทร์คะ…”

    นวพรกระซิบเรียก เนื่องจากเจ้านายเงียบไปหลังจากได้รับฟัง อีกทั้งยังมีสีหน้าเรียบขรึมจนเธอเริ่มใจไม่ดี จึงหันไปหาคมกริชด้วยสีหน้าเลิ่กลั่กเพื่อขอความช่วยเหลือ อีกฝ่ายจึงส่งสัญญาณบอกว่าเจ้านายกำลังอารมณ์ไม่ดี ทำเอาเธอถึงกับหน้าเสียยิ่งกว่าเดิม

    “เอ่อ…นิ่มขอโทษค่ะถ้าพูดอะไรออกมาให้คุณวินทร์ไม่พอใจ”

    เอ่ยเสียงอ่อยด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เธอไม่น่าพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเลยจริงๆ ทั้งที่มันเป็นเพียงแค่ความฝัน

    ภาวินทร์หลุดจากภวังค์แล้วปรับสีหน้าให้เป็นปกติด้วยท่าทีที่เป็นธรรมชาติ ทั้งยังอนุญาตให้นวพรเล่าความฝันของเธอต่อ เพราะมันก็เป็นแค่ความฝัน ทำไมเขาจะต้องไม่พอใจด้วยล่ะ

    “ไม่หรอกครับ เล่าต่อสิ”

    “เราทักทายกันตามปกติค่ะ แต่นิ่มยังไม่ทันได้ถามเลยว่าคุณนางค์ไปอยู่ที่ไหน สบายดีไหม ตาหนูร้องนิ่มเลยสะดุ้งตื่นซะก่อนค่ะ” น้ำเสียงของนวพรเต็มไปด้วยความเสียดาย เพราะไม่ได้เจอภคนางค์เกือบสองปีแล้ว

    “จะว่าไปก็คิดถึงคุณนางค์เหมือนกันนะคะ…” นวพรรำพึงรำพันด้วยรอยยิ้มโดยไม่ทันได้สังเกตว่าสีหน้าของผู้เป็นนายนั้นเคร่งขรึมยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

    “ขอบคุณครับ ผมขอตัวไปทำงานต่อก่อน”

    ภาวินทร์กล่าวเสียงราบเรียบคล้ายตัดบทก่อนเดินตัวปลิวไปยังห้องทำงาน นวพรได้แต่มองประตูที่ติดป้ายผู้บริหารปิดลงด้วยสีหน้าสลด ก่อนทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างหมดแรง

    “ไม่น่าพูดต่อเลยยายนิ่ม คุณวินทร์เหมือนจะโกรธเลย จะโดนไล่ออกไหมเนี่ย” นวพรบ่นกับตัวเองแล้วทำหน้าจะร้องไห้ ท่าทีขุ่นมัวของภาวินทร์ทำให้เธอใจเสียไปหมดแล้วตอนนี้

    “เมื่อครู่คุณนิ่มเล่าอะไรให้เจ้านายฟังเหรอครับ

    คมกริชเดินเข้ามาถามเพราะเห็นเจ้านายรีบเดินเข้าห้องทำงานไปราวกับพายุ แม้ทันเห็นแค่เสี้ยวหน้าคม แต่ก็รู้ว่ามีความคุกรุ่นมากเพียงใด ดูเย็นเยือกน่ากลัวเสียยิ่งกว่าตอนอยู่ในห้องประชุมเสียอีก

    “นิ่มฝันถึงคุณนางค์ค่ะ เลยเล่าให้คุณวินทร์ฟัง แต่นิ่มขออนุญาตแล้วนะคะ”

    คนฟังเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนทำทีเป็นกระซิบกระซาบ “วันนี้อารมณ์ไม่ดีตั้งแต่อยู่ในห้องประชุมแล้วครับ โครงการใหม่มีปัญหานิดหน่อยเพราะคนทำขาดความรับผิดชอบ ดีนะที่ระเบิดไม่ลงกลางห้องประชุม”

    นั่นจึงเป็นสาเหตุให้คนที่จริงจังกับงานอย่างภาวินทร์ไม่สบอารมณ์มากๆ เลยแก้ปัญหาด้วยการให้ทีมใหม่ที่มีความรับผิดชอบมากกว่าเข้ามาทำงานแทน

    “อ้าว จริงเหรอคะ นิ่มไม่น่าพูดเลย” นวพรถอนหายใจเบาๆ เธอน่าจะสังเกตอารมณ์ของเจ้านายก่อนจะพูดเรื่องนี้ออกไป วันนี้ทั้งวันคงทำงานด้วยความผวาแน่ๆ

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่ว่าคุณวินทร์น่าจะอยากรู้”

    คมกริชเผยรอยยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย เชื่อเถอะว่าที่มีโทสะนั้นไม่ใช่เพราะเรื่องที่นวพรเล่า แต่เจ้านายของเขากำลังโกรธตัวเองต่างหากที่ไม่สามารถลบอดีตภรรยาออกไปจากใจได้ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีกรอบรูปถ่ายของเธอวางไว้บนโต๊ะทำงานทั้งที่หย่ากันได้เกือบสองปีแล้วหรอก

     

    +++++

    มีความคิดเห็นยังไง ฝากคอมเม้นให้กำลังใจด้วยนะคะ

    ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ / อิงธารา

    e-book >> https://goo.gl/K5N86N

    หรือ get it now ค่ะ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×