NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภาวินทร์ภคนางค์

    ลำดับตอนที่ #20 : บทที่ 7 (3) อยู่เป็น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 67.37K
      303
      20 เม.ย. 67


         กลับมาอัปน้องพลินทร์อีกรอบเพื่อติดเหรียญนะคะ จะเริ่มทยอยติดเมื่ออัปถึงประมาณตอนที่ 12 เป็นต้นไปค่ะ แม่ยกรีบเข้ามาอ่านกันนะคะ เดี๋ยวจะรีบลงรัวๆ เลยค่ะ ฝากติดตามขนุนน้อยอีกรอบด้วยนะคะ เริ้ปปปปป



     


     ภคนางค์ละสายตาจากลูกสาวที่ดูเหมือนจะชอบคุณทวดมาก พอท่านคุยด้วยก็คุยอ้อแอ้โต้ตอบไม่หยุดราวกับรู้เรื่องนัก แล้วมองไปยังคุณรวิตาที่หันมาคลี่ยิ้มให้พอดี จึงขยับเข้าไปหาแล้วกราบลงที่ตักของท่าน เงยหน้าขึ้นมองตาเศร้าด้วยความรู้สึกผิด

    “นางขอโทษอีกครั้งนะคะที่ผิดสัญญากับคุณท่าน”

    หญิงสาวเอ่ยเสียงเศร้าขณะจับมือของคุณรวิตามากุมเอาไว้ ยิ่งผู้มีพระคุณทั้งสองไม่มีคำพูดต่อว่าเธอยิ่งรู้สึกผิดเหลือเกิน เพราะไม่ใช่แค่ไม่ติดต่อหรือส่งข่าวให้ทราบ แต่เธอยังปิดบังเรื่องทายาทอีกต่างหาก สมควรที่จะต้องโดนโกรธโดนต่อว่า ทว่าพวกท่านกลับดีกับเธอจนอดละอายใจไม่ได้

    คุณรัมภาเหลือบมองแล้วยิ้มน้อยๆ ก่อนจะดึงสายตากลับไปหาเหลนที่นั่งทำตาแป๋วอยู่บนตัก ภคนางค์คงรู้ว่ารวิตายังคงน้อยใจ เพราะมีสัญญาใจกันเอาไว้ ถึงต้องเข้าไปขอโทษเพื่อง้องอนอีกรอบ

    คนฟังถอนหายใจเบาๆ เมื่อเห็นแววตาเศร้าๆ ใจก็อ่อนยวบลง ใครเล่าจะโกรธจะขุ่นเคืองใจได้ลงคอ กลับมาพร้อมกับหลานหน้าตาน่ารักน่าชังขนาดนี้ แต่ถึงแม้ภคนางค์จะกลับมาคนเดียวนางก็โกรธไม่ลงหรอก แค่ได้เห็นหน้า ได้รู้ว่าสบายดีก็หายห่วงแล้ว

    “เด็กใจดำ ทำให้ฉันเป็นห่วงไม่พอแถมยังมีหลานแล้วไม่ยอมบอกกันอีก”

    แม้ไม่โกรธแต่ก็อดตัดพ้อด้วยความน้อยใจไม่ได้ ไม่รู้เรื่องเป็นมาอย่างไรภาวินทร์ถึงได้กลับบ้านมาพร้อมกับภคนางค์และลูก เดี๋ยวคงได้ซักไซ้กันยาวๆ ให้รู้เรื่อง แล้วทำไมกันนะ ทำไมนางถึงไม่เอะใจเลยสักนิดตอนที่ลูกชายโทรศัพท์มารบกวนให้ไปเลือกซื้อเตียง คอกกั้น และของจำเป็นที่ต้องใช้สำหรับเด็ก แถมยังให้เอามาไว้ที่บ้านเมื่อวันก่อน ในตอนนั้นคุณรวิตาคิดว่าคงจะซื้อไว้ให้ลูกของเพื่อนหรือคนรู้จัก แต่ไม่มีเวลาไปเองเลยให้นางเป็นธุระให้ ที่แท้ก็ให้ซื้อไว้รอต้อนรับสมาชิกใหม่ของบ้านนี่เอง พ่อตัวดีช่างร้ายกาจเหลือเกิน น่าจะบอกกันสักนิด นางจะได้หาของไว้รับขวัญหลานด้วย

    ภาวินทร์ที่ขยับมาช่วยประคองลูกสาวที่นั่งอยู่บนตักคุณรัมภามองอดีตภรรยาอยู่เงียบๆ ภคนางค์คงกลัวว่ามารดาของเขาและคุณรัมภาจะโกรธจะตำหนิ เขารู้ว่าท่านทั้งสองไม่มีทางที่จะทำอย่างนั้นเพราะบ่นหาเธอให้ได้ยินตลอด มีเพียงหญิงสาวที่คิดมากไปเอง ซึ่งก็ไม่แปลกที่คนผิดจะกลัวในสิ่งที่ตัวเองก่อเอาไว้

    “นางค์ขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆ นะคะ คุณท่านจะตีนางค์ก็ได้นะคะ คนทำผิดยอมรับโทษแต่โดยดี อย่างน้อยมันก็น่าจะทำให้ความรู้สึกผิดในใจของเธอลดลงไปบ้าง

    ได้ยินเช่นนั้นแล้วคุณรวิตาถึงกับยิ้มขัน ดีเลย แบบนี้ต้องตีมือเจ็บๆ ให้จำ จะได้ไม่หนีฉันไปไหนอีก”

    แสร้งทำเป็นดุและทำหน้าขึงขัง จับมือบอบบางหงายขึ้นแล้วตีเบาๆ เพื่อทำโทษ ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาในขณะที่ดวงตาสีนิลมองคนตรงหน้าอย่างรักใคร่เอ็นดูไม่ต่างจากเดิม ตอนเป็นเด็กเวลาที่ภคนางค์ทำตัวดื้อแล้วโดนนางดุ ซึ่งก็ไม่บ่อยนักหรอก เด็กน้อยมักจะมองตาละห้อยอย่างน่าสงสารแล้วยื่นมือมาให้ตีแต่โดยดี ถามว่านางกล้าตีแรงๆ ไหมก็ไม่ เลี้ยงมาอย่างถนอมราวกับไข่ในหินจะกล้าตีให้เจ็บได้อย่างไรกันล่ะ

    แม้จะถูกตีทว่าภคนางค์กลับระบายยิ้มออกมาทั้งน้ำตาคลอเบ้า โดนตีแค่นี้ยังน้อยเมื่อเทียบกับความผิดร้ายแรงที่เธอก่อขึ้น รู้สึกซาบซึ้งใจเหลือเกินที่คุณรัมภาและคุณรวิตาไม่มีความขุ่นเคืองต่อเธอเลยสักนิด

    “แอะ!”

    ทว่าเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนทวดส่งเสียงประท้วงในลำคอทั้งโน้มตัวและยื่นมือออกมาราวจะห้ามเมื่อเห็นแม่โดนตี มิหนำซ้ำยังง้ำปากทำหน้าจริงจัง ดวงตากลมโตนั้นก็มองคุณย่าอย่างไม่เกรงกลัวเลยสักนิด

    คุณรวิตาทำหน้าประหลาดใจก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ด้วยความขบขันปนมันเขี้ยวยายตัวน้อยที่พยายามปกป้องแม่

    “แน่ะ รู้จักปกป้องแม่ด้วยเหรอเราน่ะ รู้ไหมว่าแม่เราน่ะน่าตีแค่ไหน หนีย่าไปไม่พอยังไม่ยอมติดต่อหาเลย พอมีเด็กน้อยแก้มกลมๆ ตาแป๋วๆ แบบนี้ก็ไม่ยอมบอก น่าตีทั้งแม่ทั้งลูกเลยนะเนี่ย” ว่าเสียงนุ่มแล้วใช้ปลายนิ้วเคาะที่จมูกโด่งเล็กเบาๆ อย่างหยอกเย้าด้วยความเอ็นดู ตัวแค่นี้ก็รู้จักปกป้องแม่เป็นด้วย น่ามันเขี้ยวเหลือเกินหลานสาวนาง

    “แอ๊!” หนูน้อยแผดเสียงใส่คุณย่าราวกับกำลังโต้เถียง

    “พลินทร์จ๊ะ หนูดื้อกับคุณย่าไม่ได้นะลูก” ภคนางค์รีบปรามลูกด้วยความตกใจพลางส่ายหน้าขณะมองตาดุ เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นลูกทำแบบนี้ ไม่คิดว่ายายหนูจะรักแม่ขนาดนี้

    “แอ...แอแอ้”

    เมื่อโดนแม่ดุน้องพลินทร์ก็อ้อแอ้โต้ตอบราวกับกำลังอธิบายสิ่งที่ตัวเองทำ ภคนางค์เลยได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ อย่างอ่อนใจ ตั้งแต่มีพ่อคอยให้ท้ายก็เริ่มดื้อกับแม่ซะแล้ว ดุหรือปรามไม่ได้เลยสินะ

    “ช่างเถียงเหมือนใครกันล่ะหือ ไหนเอามือมาให้ย่าตีซิ” จับมือน้อยๆ แล้วทำท่าจะตี ทว่าปากจิ้มลิ้มน่ารักนั้นกลับเริ่มเบะออกแถมน้ำตาก็คลออย่างรวดเร็ว ทั้งยังมองตาละห้อยทำเอาคุณรวิตาใจอ่อนยวบในทันใด มองแล้วได้แต่ยิ้มอย่างเอ็นดู

    “ดูซิ ยังไม่ทำอะไรก็เบะซะแล้ว” คนเป็นย่ายิ้มอย่างอ่อนใจระคนขบขัน เด็กอะไรก็ไม่รู้ ขนาดเบะยังน่ารักน่าเอ็นดู แก้มย้วยเป็นพวงนั้นกลมไปหมด ใครไม่รักไม่หลงก็แปลกแล้ว

    “แอ้...” พอคุณย่าพูด น้องพลินทร์ก็ยิ่งเบะมากขึ้นเรื่อยๆ จนหน้าเริ่มแดง ทั้งยังสะอื้นเบาๆ อย่างน่าเอ็นดู คงเพราะคิดว่าโดนดุ

    “โอ๋ๆ ย่าไม่ตีหนูหรอกลูก ย่าแค่พูดเล่น ไม่ร้องนะคนดี” รับหลานเข้ามาอุ้มแนบอกแล้วโยกตัวไปมาเบาๆ เพื่อปลอบโยน ก่อนจะก้มลงหอมแก้มแดงระเรื่อฟอดใหญ่แล้วยิ้มอ่อนโยน ยายตัวน้อยจึงซุกเข้าหาอกคุณย่าแล้วบ่นอืออาทั้งที่ยังเบะราวกับน้อยใจนักหนา โดยมีคุณรัมภาลูบขาอวบๆ ช่วยปลอบอีกแรงด้วยความเอ็นดู

    คนเป็นแม่อย่างภคนางค์ที่นั่งมองอยู่นั้นยิ้มแล้วถอนหายใจเบาๆ รู้ทันว่าน้องพลินทร์กำลังเรียกร้องความสนใจให้คุณทวดและคุณย่าเอ็นดู ทั้งเบะทั้งน้ำตาคลออย่างน่าสงสาร พอโดนรุมโอ๋ก็เริ่มออดอ้อนให้เอาใจ ดวงตากลมโตที่ล้อมด้วยแพขนตางอนยาวนั้นมองทั้งคุณรวิตาและคุณรัมภาตาละห้อยอย่างน่าหมั่นไส้ คงกะจะทำให้รักให้หลงเหมือนตอนที่ทำให้พ่อหลงจนหัวปักหัวปำ พอพวกท่านยิ้มและคุยหยอกล้อก็กลับมายิ้มร่าเหมือนเดิม แม้เดินทางมาหลายชั่วโมงและยังไม่ได้นอนกลางวัน หมาน้อยของแม่นางค์ก็ยังอารมณ์ดี

    ภาวินทร์เห็นแม่และยายรุมล้อมรักลูกสาวตัวน้อยก็ได้แต่นั่งคลี่ยิ้มอบอุ่น ความน่ารักของยายหนูทำให้พวกท่านหลงรักได้อย่างรวดเร็วไม่ต่างจากเขาเลยสักนิด อีกหน่อยก็คงหลงกันจนไปไหนไม่รอดแน่ๆ ขนาดเขายังหลงลูกจนโงหัวไม่ขึ้นเหมือนกับที่เคยหลงแม่ของแกเลย

    “ตัวแค่นี้รู้จักอ้อนก็เป็นเหรอลูก หนูน่ารักเหลือเกินรู้ไหมหลานสาวย่า

    เอ่ยเสียงนุ่มนวลแล้วลดใบหน้าลงหอมแก้มป่องๆ ของคนช่างประจบด้วยความมันเขี้ยว ไม่ทันไรนางก็เกิดอาการหลงหลานสาวเสียแล้ว ทำไงได้ล่ะ ก็คนไม่เคยมีนี่นา การมีหลานมาอยู่ใกล้ๆ แบบนี้มีแต่พลังบวกที่ทำให้หัวใจเปี่ยมไปด้วยความสุข ได้กอดเนื้อตัวอวบๆ ได้หอมแก้มนุ่มๆ ที่เจือด้วยกลิ่นนมก็แสนจะชื่นใจ

    “แอ้ แอ้”

    “อ้อนเก่งแล้วยังโม้เก่งอีกนะเราน่ะ รู้ด้วยเหรอว่าย่าพูดอะไร…”

    “แอ้” ปากสีชมพูจิ้มลิ้มที่มีรอยยิ้มตลอดเวลา ทั้งยังพยายามตอบกลับเวลาคุยด้วย แม้ไม่เป็นภาษาทว่าน่ารักจนทำให้คุณย่าและคุณทวดต่างยิ้มและใจละลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    “ดูสิคะคุณแม่ พูดแล้วยังมายิ้มให้อีก แบบนี้จะไม่ให้ย่ารัก ย่าหลงได้ยังไงกันล่ะลูก

    คุณรวิตาใช้ปลายนิ้วเขี่ยแก้มย้วยๆ ของหลานด้วยความเอ็นดูแล้วหันไปยิ้มกับมารดา สุขใจเหลือเกินในยามที่ได้โอบกอด ได้หอมหลานสาวตัวน้อยให้ชื่นใจ ถ้าสามีที่อยู่ต่างประเทศรู้ว่ามีหลานสาวแล้วคงจะดีใจไม่ต่างจากนาง อาจจะรีบหาไฟลต์ที่เร็วที่สุดเพื่อบินมาเมืองไทยเป็นแน่ แถมน้องพลินทร์นั้นนอกจากจะเหมือนพ่อแล้ว ยังเหมือนกับคุณปู่อีกต่างหาก ถ้าจับมาอยู่ด้วยกันก็คงคล้ายกับแฝดสาม

    “เรานี่มันรู้ความเกินไปแล้วนะ ใครสั่งใครสอนมาฮึ

    “มา ม่ะ” น้องพลินทร์ก็ยังอุตส่าห์ตอบคุณทวดด้วยความไร้เดียงสา

    “แม่สอนเหรอลูก แม่นางค์สอนหนูใช่ไหมจ๊ะ”

    คุณรัมภาเอ่ยหยอกเย้าด้วยสีหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขใจ ในยามที่ได้เห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงคุยอ้อแอ้อย่างไร้เดียงสาของเหลน คนแก่ก็รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจไม่น้อย มีกำลังใจอยู่ต่อไปอีกหลายปีเลยละ ที่นางชอบฝันว่ามีคนเอาหีบใส่แก้วแหวนเงินทองมาให้ก็เพราะภคนางค์จะพาเหลนมาหานี่เองสินะ

    พ่อกับแม่ของเด็กหญิงภควรินทร์ต่างมองลูกสาวตัวน้อยที่กำลังหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเพราะถูกคุณย่าและคุณทวดรุมหยอกล้อ มีจังหวะที่ทั้งสองหันไปสบตากันทั้งที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มโดยไม่ได้นัดหมาย คนที่เป็นฝ่ายหุบยิ้มแล้วรีบเบือนใบหน้าหลบหนีด้วยความเอียงอายก็คือภคนางค์ เพียงแค่แว่บเดียวพวงแก้มของเธอก็ร้อนผ่าว ใจเต้นรัวเมื่อเห็นรอยยิ้มกระชากใจบนใบหน้าทรงเสน่ห์ของภาวินทร์ เขาช่างเป็นบุคคลที่อันตรายต่อหัวใจของเธอเหลือเกิน


    +++++

    มีความคิดเห็นยังไง ฝากคอมเม้นให้กำลังใจด้วยนะคะ

    ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ / อิงธารา

    e-book >> https://goo.gl/K5N86N

    หรือ get it now ค่ะ

     

     

     


     


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×