ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ❥iKON '#ฟิคลั่น - bobyun bjin junhyuk♦

    ลำดับตอนที่ #9 : .eighth

    • อัปเดตล่าสุด 29 มิ.ย. 58







    ชายร่างสูงเจ้าของใบหน้านิ่งขรึม คิ้วหนาขมวดอย่างใช้ความคิด สายตาคมกวาดมองรอบตัวก่อนจะยกมือหนาขยี้หัวตัวเองแล้วถอนหายใจออกมาแบบเซงๆ




     

    กูจุนฮเวใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงตั้งแต่เลิกเรียนเดินวนเวียนไปมาอยู่ในห้างดังย่านฮงแด เขาเดินวนไปวนมาตั้งแต่ชั้นล่างสุดยันชั้นบนสุดโดยที่ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือมาสักอย่างนอกจากไอกระดาษการ์ดสีฟ้ากากๆลายหมีนั่งกินเค้กประดับประดาไปด้วยตัวอักษรแฮปปี้เบิดเดย์สีรุ้งที่ดูยังไงก็ไม่เหมาะกับผู้ชายแมนๆอย่างเขา




     

    ให้ตายเถอะ เผลอซื้อมาได้ยังไงกัน!




     

    ชายหนุ่มในชุดนักเรียนเบ้หน้าให้กับถุงกระดาษในมือก่อนจะยกนาฬิกาขึ้นดูแล้วต้องถอนหายใจแรงๆออกมาอีกครั้ง




     

    "มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าคะ?" พนักงานหญิงหน้าบูธกิ๊ฟช็อปคนนึงเอ่ยถามขึ้น อาจเป็นเพราะเขาเห็นจุนฮเวเดินวนไปวนมาผ่านหน้าร้านเขาหลายต่อหลายครั้งจึงตัดสินใจถามออกไป




     

    เด็กหนุ่มตัวสูงสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วผ่อนมา วินาทีนี้ควรที่จะพึ่งใครสักคนไม่ใช่มาเดินโง่ๆ วนไปวนมาแบบนี้ นอกจากไม่ได้อะไรแถมยังเมื่อยขาอีกด้วย



     

    "คือผม…มาหาซื้อของขวัญวันเกิดครับ ….แต่ไม่รู้จะซื้ออะไรดี" จุนฮเวค่อยๆตอบ เขารู้สึกประหม่าแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อคืนก็ใช้เวลาเกือบทั้งคืนในการเสิตอินเตอร์เน็ตหาของขวัญวันเกิดแต่ก็ไม่มีอะไรที่เหมาะกับดงฮยอกสักอย่าง




     

    "ให้แฟนหรอคะ"




     

    "ไม่…ไม่ใช่ครับ…เพื่อนครับ" จุนฮเวปฎิเสธรัวๆ พร้อมยกมือสะบัดไปมา เขาไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ตัวเองแสดงท่าทางและสีหน้ายังไงออกไปอาจจะดูตลกมากสำหรับพนักงานหญิงข้างหน้า ถึงได้ทำหน้ากลั้นหัวเราะแบบนั้น




     

    "คงเป็นเพื่อนที่สำคัญมากเลยนะคะ เห็นเดินวนไปวนมาหลายครั้งแถมยังทำหน้าเครียดอีกด้วย" ประโยคที่เอ่ยจากปากของพนักงานหญิงเรียกคิ้วหนาๆของจุนฮเวให้ขมวดเข้ากันมุ่ย





     

    สำคัญ.. สำคัญ.. สำคัญงั้นหรอ? เขาก็แค่ไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรให้ ให้มันดูโอเค ก็แบบ.. ครั้งแรกนี่หว่า.. ก็แค่..คิดว่าควรจะซื้ออะไรดีๆ อะไรก็ได้ที่คนรับเห็นแล้วต้องยิ้มออกมา…




     

    ก็เท่านั้นเอง




     

    "…."




     

    "…แล้วทุกปีให้อะไรหรือคะ"




     

    คนตัวสูงครุ่นคิดก่อนจะส่ายหน้าปฎิเสธเบาๆ "ไม่เคยให้เลยครับ…" เสียงทุ้มเอ่ยตอบ ปกติเคยให้ที่ไหนล่ะ ถึงจะเป็นเพื่อนกันมาหลายต่อหลายปีแต่ไอการซื้อของขวัญวันเกิดให้มันก็ไม่ใช่วิสัยทัศน์ของเขาสะหน่อย




     

    ส่วนมากก็แค่ส่งข้อความแฮปปี้เบิดเดย์ไปตอนเที่ยงคืนเป๊ะๆก็เท่านั้น แต่ที่ปีนี้เขามาอยู่ที่นี่ อยู่ตรงนี้ มายืนทำหน้าเครียดอยู่แบบนี้ ก็เพราะไอบินนั่นแหละ เพราะมันคนเดียว!






     

    'พรุ่งนี้วันเกิดดงฮยอกนิไปป้ะ'


     

    '…ไป..มั้ง'


     

    'มึงมีอะไรให้เขายัง'


     

    'ทำไมต้องให้วะ'



     

    'เอ้า วันเกิดเพื่อนสนิททั้งที'


     

    'ไม่จำเป็น..'



     

    'มึงก็ให้พวกกุญแจคู่ไปดิ'


     

    '!!!!!?'



     

    'ไม่ต้องมาทำหน้าตาตื่นไอสัสกูเห็นนะ เอ่อ ส่วนสีฟ้า….คิม..ดงฮยอก..ละกันครับ...'


     

    'ไอห่าหุบปาก!!! กู..กูก็แค่ไม่รู้จะใส่ชื่อใครก็แค่นั้นเอง'



     

    'แหมๆ จ้าเชื่อจ้า…กูว่ามึงควรซื้อของขวัญให้ดงฮยอกมั่งนะ เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานวันเกิดมันด้วยปีนึงมีครั้ง กูเห็นวันเกิดมึงดงฮยอกซื้อให้ตลอดไม่ใช่ไง'



     

    'เออใช่…แต่….กู…ควรทำงั้นหรอวะ'



     

    'เออ!เชื่อกูดิ ไม่มึงก็คิดซะว่าตอบแทนค่าทำแผล ค่ายาให้มัน'



     

    '….กู..จะลองคิดดู..'



     

    บทสนทนาข้างต้นเป็นของจุนฮเวและฮันบินเมื่อวานในคาบศิลปะที่จริงมันไม่ใช่กงการอะไรของฮันบินที่ต้องมายั่งยุแหย่ให้เพื่อนซื้อของขวัญให้ดงฮยอก  แต่เพราะถูกจินฮวานรบเร้าให้พูดเห็นบอกว่าอยากจะ เห็นนักว่าคนนิ่งๆอย่างจุนฮเวจะซื้ออะไรให้ดงฮยอกและอีกอย่างอยากจะเห็นใบหน้าของคนตัวเล็กที่ได้ของขวัญวันเกิดจากจุนฮเวก็แค่นั้น




     

    "อ่า งั้นหรอคะ นั้นลองเป็นของใช้มั้ย อย่างเช่นพวกเสื้อ กระเป๋าตังค์ หรือไม่ก็สิ่งของที่คิดว่าเขาน่าจะได้ใช้"




     

    "ของที่น่าจะได้ใช้หรอครับ?"




     

    "ใช่ค่ะ ให้ของที่คิดว่าน่าจะจำเป็นต่อเขา หรือไม่ก็ของที่เขาชอบอะไรประมาณนี้ก็โอเคนะคะ" จุนฮเวขมวดคิ้วอีกครั้งในหัวพลันคิดตามคำแนะนำของพนักงานสาวข้างหน้า "….ของที่ชอบ….ของที่จำเป็น…." ปากหนาพัมพำก่อนจะคิดอะไรขึ้นได้




     

    'กระเป๋าตังค์นายหายไปไหนอ่ะ'


     

    'อ๋อ มันขาดอ่ะ ยังไม่มีเวลาไปซื้อใหม่เลย'




     

    "ขอบคุณมากนะครับ!" จุนฮเวเอ่ยขอบคุณพร้อมก้มโค้งให้กับพนักงานข้างหน้าก่อนจะเดินหายไปในโซนเครื่องแต่งกายผู้ชาย
















     

    กระเป๋าสตางค์หนังสีดำดีไซน์เรียบง่ายถูกวางลงในกล่องของขวัญแบบสำเร็จรูปสีฟ้า โบว์สีน้ำเงินอย่างเบามือที่สุด จุนฮเวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วผ่อนออกมาอย่างโล่งอก กว่าเขาจะเดินหากระเป๋าสตางค์ที่ถูกใจได้ก็กินเวลาไปเป็นชั่วโมง เมื่อกี้ฮันบินก็โทรมาตามถามว่าอยู่ไหนแล้ว ก็ได้แต่ตอบกลับไปว่าอยู่บนรถอีกสิบนาทีถึง




     

    คนตัวสูงลอบมองการ์ดลายหมีก่อนจะเปิดกระเป๋าของตัวเองเพื่อค้นหาปากกามาเขียน สายตาคมมองหมีถือเค้กแล้วก็ต้องขยี้หัวแรงๆ "ตุ๊ดชิบ" ปากหนาสบถเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ เปิดการ์ดด้านในสำรวจ 





    เสียงเพลงแฮปปี้เบิดเดย์เวอร์ชั่นถาษาอังกฤษดังขึ้นทันทีที่เปิดการ์ดด้านใน นั่นยิ่งทำให้จุนฮเวยิ่งหงุดหงิด ตอนซื้อมาเขาไม่รู้ว่ามันเป็นการ์ดเพลง




     

    ให้ตายเถอะ! วิ่งไปปาหัวคนขายตอนนี้ทันไหม คิดสภาพตอนให้ดิ คนอย่างกูจุนฮเวเกิดมาครั้งแรกพึ่งเคยให้ของขวัญวันเกิดเพื่อนไม่พอ ยังซื้อการ์ดหมีร้องเพลงลายตุ๊ดนี้มาอีก คิดแล้วเสียเซลฟ์ชะมัด




     

    ถึงจะไม่พอใจยังไง แต่เวลาก็ไม่มีแล้ว คิดได้อย่างนั้นก็หยิบปากกาขึ้นมาเขียนข้างใน จุนฮเวนิ่งอยู่สะพักก่อนจะตัดสินใจเขียนคำว่าแฮปปี้เบิดเดย์ลงไป แล้วก็ลบใหม่เพราะมันเบี้ยวไม่เท่ากัน "แม่.งง" เด็กหนุ่มตัวสูงเขียนและลบใหม่อยู่แบบนี้ประมาณสามสี่ครั้ง ก่อนจะสะดุ้งเมื่อไลน์ดังขึ้น ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้คงเป็นฮันบินไลน์มาตาม





     

    โอเค ต้องเร่งมือเขียนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น คิ้วหนาก็ขมวดมุ่น ใบหน้าบึ้งเมื่อไม่รู้จะเขียนอะไรต่อดี ทุกปีก็แค่ 'แฮปปี้เบิดเดย์นะ' ส่งไปแต่นี่ดิ.. การ์ดแม่.งเสือ.กใหญ่เหลือพื้นที่เยอะมาก แล้วทำไงดีวะ เขียนอะไรต่อดี มีความสุขมากๆนะ งี้หรอ หรือ ร่างกายแข็งแรง ไม่เอาอ่ะ ดูซ้ำๆ ยังไงก็ไม่รู้





     

    "ทำไมมันยากงี้วะ!" บ่นอย่างหัวเสีย ถ้าเขียนแค่นี้จะโอเคไหม ถ้าเกิดดงฮยอกไม่พอใจอ่ะ ไม่ได้ๆ ว่าแล้วก็ต้องกูเกิล พิมพ์แม่.งเลย 'คำอวยพรวันเกิด..'

























    -- Donghyuk part --


     

    ปาร์ตี้วันเกิดผมถูกจัดขึ้นเล็กๆ ภายในบ้านสองชั้นขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ขนม ของกิน ถูกเสิร์ฟมากมายจากพี่จินฮวานและพี่ยุนฮยอง เขาสองคนอาสาไปซื้อของมาทำให้ผมกิน โดยสั่งผมไว้ว่าให้นั่งอยู่เฉยๆ รอกินอย่างเดียว นั่นก็เป็นเรื่องที่ดี




     

    ปีนี้ผมชวน จุนฮเว พี่ยุนฮยอง พี่จินฮวาน ฮันบิน บ็อบบี้ และพี่มินโฮ แต่พี่เขาติดงานที่มหาลัยทำให้มาไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรครับ




     

    แต่... จุนฮเวนี่สิ นัดไว้ตอนทุ่มนึงป่านนี้สองทุ่มแล้ว ยังไม่มาเลย ตอนแรกผมก็ร้อนใจกลัวว่าจะไปมีเรื่องกับใครที่ไหนอีก แต่ฮันบินบอกว่า จุนฮเวกำลังมานั่นก็ทำให้ผมโล่งอกขึ้นมาหน่อย




     

    ปีนี้ผมได้เสื้อจากพี่ยุนฮยอง และหมวกจากพี่จินฮวาน ฮันบิน บ็อบบี้ก็ช่วยกันออกเงินค่าขนม และของกิน ส่วนจุนฮเวรายนั้นไม่ต้องพูดถึงครับ ไม่เคยมี..




     

    แต่แปลกอยู่อย่างนึงครับ ทุกปีจุนฮเวจะส่งข้อความมาแฮปปี้เบิดเดย์ผมตอนเที่ยงคืน แต่ปีนี้ยังไม่มีข้อความส่งมาเลยอ่ะ แต่ก็ชั่งมันเถอะ... มันไม่ใช่ปัจจัยหลักสะหน่อย แค่ยังจำได้ว่าวันนี้วันเกิดผม และมาร่วมงานผมก็โอเคแล้วล่ะครับ




     

    หลุดจากความคิดหันมองตามกลิ่นหอมของอาหาร เฟรนฟราย ไก่ทอด ลูกชิ้น และขนมอีกสองสามอย่าง ถูกเสริฟโดยพี่จินฮวาน ส่วนพี่ยุนฮยองรายนั้นล้มเลิกการทำมานอนกลิ้นคุยกับบ็อบบี้โดยปล่อยให้ฮันบินไปทำแทนแล้วล่ะครับ




     

    เห็นอ้างว่าอยากให้ฮันบินมีเวลาอยู่กับพี่จินนานๆ แต่ผมคิดนะพี่เขาไม่ถนัดทำอาหารมากว่า เพราะผมได้ยินพี่จินบ่นงุบงิบเรื่องไส้กรอกไหม้เอ่ย ปอกไข่เปลือกตกลงไปเอยแล้วก็อะไรอีกไม่รู้สารพัด




     

    "จุนฮเวยังไม่มาอีกหรอเนี่ย" พี่ยุนบ่นกระปอดกระแปด สายตากลมมองไปยังนาฬิกาบนฝาผนัง นั่นทำให้ผมถอนหายใจออกมาอย่างห้ามไม่ได้ อยากโทรไปหานะแต่ว่า ไม่ดีกว่า.. อีกสักพักคงมามั้ง




     

    เวลายังคงดำเนินไปเรื่อยๆ พร้อมกับอาหารที่ทยอยหมดลงๆ อย่างรวดเร็ว เสียงหัวเราะ เสียงพูดคุย เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผมไม่คิดมาในเวลานี้ เงยหน้ามองนาฬิกาสีขาวบนฝาผนังที่ยังคงเดินไปเรื่อยๆ แล้วก็ต้องถอนหายใจออกมารอบที่เท่าไหร่ไม่รู้…




     

    ตอนนี้ทั้งรู้สึกโมโหนิดๆ รู้สึกน้อยใจก็น้อยใจ แต่เอาจริงๆ ผมรู้สึกเป็นห่วงมากกว่า กลัวว่าจะไปมีปัญหาที่ไหนอีก รายนั้นศัตรูรอบด้านใครๆก็รู้




     

    "ฮันบินโทรตามจุนฮเวอีกดิ้"พี่จินฮวานกระซิบฮันบินที่นั่งอยู่ข้างๆ เหมือนพยายามไม่อยากให้ผมรู้แต่ถึงอย่างนั้นผมก็แอบได้ยิน




     

    "ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวคงมาแล้วแหละ.." ผมพูดเบาๆ ก่อนจะหยิบขนมใส่ปากและหาเรื่องอื่นคุยเรื่องอื่นเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกในตอนนี้ส่วนพี่จินฮวานส่ายหัวเบาๆอย่างหน่ายๆ ให้กับท่าทีของผมพร้อมเดินเลี่ยงออกไปทางห้องครัว




     

    ไฟในห้องนั่งเล่นดับลงพร้อมเสียงเพลงแฮปปี้เบิดเดย์ดังขึ้น ผมหวังในใจลึกๆว่าคนที่ถือเค้กอาจจะเป็นคนหน้าโหดที่คอยเคียงข้างผม แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ ในเมื่อห้องนั่งเล่นถัดไปทางซ้ายก็เป็นประตูเข้าบ้าน ซึ่งผมก็นั่งอยู่ตรงนี้มาตลอด แต่ก็ไม่มีวี่แวว ถ้านั่นอาจเป็นสิ่งที่ผมหวังมากเกินไป นั้นขอเปลี่ยน เปลี่ยนเป็นร่างหนาๆของจุนฮเวกำลังเปิดประตูเข้ามาพอดี..




     

    จะได้ไหม..




     

    แต่มันก็เป็นเพียงความคิด ความหวังของผมคนเดียว.. เมื่อคนที่ถือเค้กเป็นพี่จินฮวานพี่ชายที่แสนดีของผม ส่วนทางประตูก็คงปิดสนิทเหมือนเดิม.. โอเค ไม่เป็นไร ผมคิดอย่างนั้นก่อนจะพยายามยิ้มออกมา ผมว่าผมไม่ควรมาคิดมากสิ ทั้งๆ ที่พี่จินฮวานและทุกคนตั้งใจทำให้ผมขนาดนี้ ผมควรสนุกและทำตัวให้ปกติ ถึงจะไม่มีจุนฮเวก็ไม่เป็นไรนี่




     

    ก็แค่เพื่อนวัยเด็กที่ผมคิดว่าเราอาจสนิทที่สุดเท่านั้นเอง..




     

    ไฟถูกเปิดอีกครั้งพร้อมเค้กช็อกโกแลตบนมือคนตัวเล็กที่สุด ผมยกมืออธิฐานก่อนจะลืมตาและยิ้มให้กับคนรอบข้าง "หึ่ย น่ากินจัง ฉันกับบ็อบบี้เป็นคนเลือกเลยน้าาา" พี่ยุนฮยองพูดขึ้นหลังจากที่ผมจัดการตัดเค้กแบ่งให้เท่าๆกันโดยที่ไม่ลืมเก็บส่วนนึงเอาไว้ให้จุนฮเว





     

    "ขอบคุณมากๆนะครับพี่" ผมเอ่ยขอบคุณพร้อมยิ้มหวาน ก่อนจะเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นเมื่อสายตาพลันไปเห็นนาฬิกาเรือนเก่าบนฝาผนังโดยที่ไม่ได้ตั้งใจจะดู




     

    อืม.. สามทุ่มกว่าแล้ว




     

    เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาที่ทุกคนต้องแยกย้ายกันกลับ บ็อบบี้อาสาไปส่งพี่ยุนฮยอง ส่วนฮันบินก็อาสาไปส่งพี่จินฮวาน "ฉันกลับก่อนนะ มีอะไรไลน์มาหาฉันได้ล่ะ" พี่จินฮวานพูดขึ้นพลางยกมือตบไหล่ผมเบาๆ




     

    "ฉันไปแล้วนะ" ฮันบินโบกมือลา




     

    "อยู่บ้านคนเดียวระวังๆด้วยล่ะ" พี่ยุนฮยองเสริมขึ้น




     

    "สุขสันต์วันเกิดอีกครั้งนะครับ" บ็อบบี้ยิ้มให้ผม




     

    "ขอบคุณทุกคนมากนะ กลับกันดีๆนะครับ" ผมตอบพลางพยักหน้าเข้าใจพร้อมโบกมือลาไปมาก่อนจะยืนนิ่งมองแผ่นหลังคนทั้งสี่ที่เดินออกไปเรื่อยๆจนสุดสายตา 





    เงยหน้ามองฟ้าสีดำด้วยใจที่รู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่รู้จักกับจุนฮเวมา ปีนี้ปีแรกที่เขาฉลองวันเกิดโดยไม่มีร่างสูง ถึงจะพยายามบอกตัวเองว่าไม่เป็นไงยังไงก็รู้สึกแย่อยู่ดี



     

    อาจจะเพราะผมหวังมากเกินไปล่ะมั้ง หรือไม่ก็สำคัญตัวเองมากเกินไปถึงได้รู้สึกแย่มากมายขนาดนี้ ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะยกมือปาดน้ำตาที่หางตาเบาๆ ผมไม่ได้ตั้งใจจะร้องไห้นะ แต่อยู่ๆน้ำตามันก็พาลไหลออกมาเอง




     

    ให้ตายสิ โครตแย่เลย ผมรู้สึกแย่มาก แย่จริงๆ อย่างน้อยไม่มาควรจะบอกกันไม่ใช่หรอ ส่งข้อความมาแฮปปี้เบิดเดย์เหมือนทุกปีก็ได้ ไม่ใช่เงียบหายไปแบบนี้ และที่บอกฮันบินว่ากำลังมานั่นคืออะไร.. โกหกกันงั้นหรอ?




     

    ผมถอนหายใจหนักๆออกมาอีกครั้งก่อนจะหันหลังเข้าบ้านโดยไม่ลืมที่จะหันหลังมองไปทางปากซอยเข้าบ้านอีกครั้ง โอเค ผมควรเลิกหวังและไปเก็บของพาตัวเองอาบน้ำและเข้านอนได้แล้ว




     

    "เห้อ.." ผมจัดการล็อกประตูบ้านพร้อมพาร่างตัวเองมานั่งในห้องรับแขกโดยปล่อยให้ความเงียบครอบงำตัวผมอยู่สักพักก่อนจะคิดอะไรได้มือบางรีบคว้าโทรศัพท์และกดโทรออกไปยังเลขหมายปลายทางทันที




     

    ผมโทรหาจุนเน่..




     

    อือ.. ฟังไม่ผิดหรอกผมกำลังโทรหาคนที่ทำให้ผมรอ ถึงผมจะน้อยใจหรือโกรธยังไงแต่ผมปฎิเสธตัวเองไม่ได้เลยว่าความเป็นห่วงมันมีมากกว่า เอาจริงๆผมอยากรู้ด้วยแหละ ว่าจุนฮเวทำอะไรอยู่ ถ้าโทรไปแล้วหลับอยู่หรือได้ยินเสียงว่าอยู่ที่ไหนสักแห่งที่ไม่ใช่บ้าน ถ้าเป็นงั้นจริงผมจะโกรธจนไม่มองหน้าเลย คอยดู!




     

    'เลขหมายปลายทางไม่สามารถ…….'




     

    โอเค…






    อาบน้ำนอนเถอะคิมดงฮยอก…
     








    50per.



     





     

    "ชิท!เสียเวลาชิบหาย" จุนฮเวสบถใส่คนสามคนที่นอนอยู่กลางถนนก่อนจะถ่มน้ำลายใส่พร้อมใช้เท้าอัดเข้าที่กลางลำตัวอีกสองสามที "แม่ งเอ้ย!!" คนตัวสูงยกมือหนาขยี้หัวแรงๆ ก่อนจะต้องจิ้ปากขัดใจเมื่อความเจ็บส่วนต่างๆในร่างกายกำลังแล่นเข้ามา




     

    คิ้วแตก แก้มถลอก ปากแตก แขนกับลำตัวโดนไม้ฟาด…




     

    ร่างกายเขาจะเป็นยังไงตอนนี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญที่สุดคือกล่องของขวัญสีฟ้าพร้อมการ์ดลายหมีนอนกระจัดกระจายอยู่กลางถนน ซ้ำยังมีรอยรองเท้าของไอพวกเศษสวะประทับไว้เป็นของกำนัลอีกด้วย




     

    แม่ ง!




     

    กูจุนฮเวใช้มือลูบมุมปากตัวเองเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ ย่อตัวเก็บกล่องของขวัญขึ้นมาแล้วหันไปหยิบการ์ดลายหมีที่นอนเปิดอ้าเล่นเพลงแฮปปี้เบิดเดย์ไว้แทงใจเขาเล่น




     

    ยิ่งเห็นลอยเท้าที่มุมการ์ดแล้วอยากจะบีบคอไอพวกนี้ให้ตาย รู้ไหมว่ามันใช้เวลานานแค่ไหนในการเขียนคำอวยพรแสนตลกพวกนี้!!




     

    โชคดีที่กระเป๋าสตางค์ไม่มีอะไรเสียหาย แต่ทั้งกล่องและการ์ดนี่สิ แม่ งไม่ต่างอะไรกับกล่องเน่าๆ กับการ์ดเละๆที่เก็บมาจากทั้งขยะ แค่คิดถึงหน้าตอนดงฮยอกรับของขวัญพวกนี้คงจะรู้สึกแย่น่าดู



     

    และเขาควรทำยังไง? อีกชั่วโมงกว่าๆก็จะถึงเที่ยงคืน นั่นหมายถึงเวลาเลยวันเกิดคนตัวเล็กมาแล้ว ถ้าจะให้เขาซื้อกล่องใหม่ ซื้อการ์ดและเขียนใหม่ ก็คงไม่ทันพอดี ซ้ำร้ายที่สุดก็โทรศัพท์เสื อกแบตหมด ให้ตายอะไรจะซวยขนาดนี้





     

    ขายาวๆก้าวเดินต่อโดยไม่สนใจคนรอบข้างที่มองมาเหมือนเขาเป็นศพเดินได้ เวลานี้ควรรีบไปหาเจ้าของวันเกิดไม่ใช่หรอ? สภาพเขาตอนนี้แปปเดียวเดี๋ยวก็หาย ไม่ตายหรอก จุนฮเวยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ ในมือถือกล่องของขวัญสีฟ้าและการ์ดเอาไว้อย่างแน่น





     

    ใช้เวลาไม่นานนักร่างของจุนฮเวก็มาหยุดอยู่รั้วบ้านตะกูลคิม ไฟในห้องนั่งเล่นดับแล้วนั่นหมายถึงเขามาไม่ทันเลี้ยงฉลอง ก็แหงแหละกว่าจะเขียนการ์ด กว่าจะเดินออกมา กว่าจะมีเรื่องเสร็จ และกว่าจะมาถึงนี่ก็ปาไปเกือบห้าทุ่มแล้ว เงยหน้ามองห้องนอนฝั่งซ้าย นั่นถือเป็นโชคดีที่ไฟในห้องนอนของดงอยอกยังเปิดอยู่




     

    จังหวะที่จุนฮเวกำลังจะกดออด ไฟในห้องนอนก็ดับลงทันที นั่นแปลว่าดงฮยอกเข้านอนแล้วงั้นหรอ? เขามาไม่ทันงั้นหรอ? ดงฮยอกไม่รอเขาแล้วงั้นหรอ? คนตัวสูงเม้มปากเป็นเส้นตรง เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ยืนนิ่งมองห้องนอนที่ยังคงไม่มีแสงไฟด้วยความรู้สึกที่หลายหลาย




     

    เจอหน้ากันจะพูดยังไง เขามั่นใจแน่ๆว่าดงฮยอกต้องโกรธเขาแน่ๆ เมื่อตอนเด็กเคยเกิดเรื่องแบบนี้อยู่ครั้งนึงแต่เป็นงานเทศกาลปีใหม่ เขาไปไม่ทันดูพลุเพราะมัวแต่มีเรื่องกับเด็กข้างบ้าน ดงฮยอกทั้งโกรธ ทั้งงอลแถมไม่พูดด้วย หาว่าเขาเป็นคนโกหกอีก




     

    จุนฮเวยืนนิ่งอยู่สักห้านาทีก่อนจะตัดสินใจหันหลังและเดินถอยออกมา "จุนเน่.." เสียงเล็กดังขึ้นตามหลังพร้อมเสียงกลอนประตูที่ถูกไขออก จุนฮเวค่อยๆหันหลังกลับ คนตัวเล็กในชุดนอนลายสป๊อนบ๊อบสีเหลืองยืนทำหน้าตกใจก่อนจะรีบเดินเข้ามาใกล้แล้วใช้มือบางลูบไปมาที่บริเวณโหนกแก้ม




     

    "นายไปทำไรมา ทำไมหน้าถึงมีเลือดออกแบบนั้น มีเรื่องอีกแล้วงั้นหรอ เจ็บมากไหม ทำแผลก่อนนะ" ดงฮยอกรัวคำถาม สีหน้าคนตัวเล็กแสดงออกว่าเป็นห่วงร่างสูงมาจนคนตรงหน้ารู้สึกผิดขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ทั้งๆที่น่าจะโกรธ แต่กลับเป็นห่วงเขา




     

    นี่แหละนะ..ดงฮยอก




     

    แอลกอฮอลสีฟ้าถูกเทใส่สำลีก่อนจะจิ้มลงมาบนแผลที่ใบหน้าเบาๆ คนตัวสูงซี๊ดปากเป็นระยะ เขาลอบมองคนตัวเล็กที่ยังคงจริงจังกับการทำแผล คิ้วเล็กขมวดกันเป็นปมแถมเอ่ยขอโทษทุกครั้งที่ร่ายสูงบอกเจ็บ




     

    "ทนนิดนึงนะ จะเสร็จแล้ว" ดงฮยอกพูดเบาๆสายตากลมจับจ้องอยู่ที่พลาสเตอร์สีสวยก่อนะค่อยๆแปะมันลงไปโหนกแก้มและหางคิ้ว




     

    "ดูสิที่คิ้วนี่รอยแผลเก่ายังไม่หายเลย ได้แผลใหม่มาอีกละ.. เจ็บตรงไหนอีกไหม"




     

    "แขน" ร่างสูงถกแขนเสื้อขึ้นรอยเขียวที่ถูกไม้ตีเด่นชัดจนดงฮยอกส่ายหัวหน่าย "เดี๋ยวมันจะปวดแย่เลย นายต้องกินยาแก้ปวดก่อนนอนด้วยนะ รู้ไหม"




     

    "…."




     

    "บอกอ่ะ ฟังอยู่หรือเปล่า"




     

    "ฟัง"




     

    "ฟังก็ตอบสิ"




     

    "ขอโทษ.." คำขอโทษจากปากจุนฮเวทำให้ดงฮยอกเลิกคิ้วสูงอย่างสงสัย ปกติเคยได้ยินสะที่ไหน แต่นี่อะไร โดนต่อยจนสมองกระทบกระเทือนหรือเปล่า




     

    "หืม.. ขอโทษนายขอโทษฉัน?"




     

    "อือ ขอโทษที่มาไม่ทันแต่…"




     

    "…."




     

    "ฉันเอ่อ…." จุนฮเวถอนหายใจก่อนจะหยิบกล่องของขวัญสีฟ้าขึ้นมาจากด้านหลังแล้วยื่นให้คนข้างหน้า ดงฮยอกมีท่าทางไม่เชื่อหูตัวเอง มือเล็กชี้เข้าที่ตัวเอง





    "ให้ฉัน" ตัดสินใจถามซ้ำอีกครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นกล่องของขวัญสีฟ้าก็อยู่ในมือคนตัวเล็กเรัยบร้อยดงฮยอกมีสีหน้ายิ้มแย้มถึงแม้กล่องมันจะดูถูลู่ถูกังมากแค่ไหนก็ตาม



     

    "อือ มันเละเทะหน่อยนะ แต่…ฉันตั้งใจซื้อให้นาย" คนตัวสูงพูดเบาๆโดยที่ไม่มองหน้า ตาคมมองนู่นมองนี่ไปเรื่อยเพื่อกลบเกลื่อนอาการแปลกๆ อยู่ๆแก้มมันร้อนขึ้นมาเสียดื้อๆ แถมยังรู้สึกเหมือนเขิลๆ ยังไงก็ไม่รู้อีกด้วย




     

    "แล้วการ์ดนั่นล่ะ ของฉันด้วยหรือเปล่า" ตากลมมองไปยังการ์ดลายหมีที่สภาพไม่ต่างจากล่องสีฟ้าซักเท่าไหร่ แต่ก็นะ.. ปฎิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีมากขนาดไหน นับเป็นครั้งแรกที่ได้ของขวัญวันเกิดจากจุนฮเว แถมยังมีการ์ดให้สะด้วย




     

    "อือตะแต่.. นายอย่าพึ่งอ่านนะ เอาไว้ค่อยอ่าน"




     

    "ทำไมล่ะ ฉันอยากอ่านแล้วนี่หน่า" ดงฮยอกบุ่ยหน้าใส่ก่อนจะค่อยๆแง้มการ์ดเปิดอ่าน เสียงเพลงแฮปปี้เบิดเดย์ดังขึ้นนั่นยิ่งทำให้คนตัวเล็กยิ้มออกมาพร้อมเอ่ยปากอ่านออกเสียง




     

    "แฮปปี้เบิดเดย์ คิมดงฮยอก….."




     

    "เห้ยอย่าพึ่งอ่า!!…"




     

    "ขออำนวยอวยพร พูนพิพัฒน์ ให้ปราโมชโสติสวัสดิ์นิรัติศัย
    จงปราศทุกข์ ปราศโศก ปราศโรคภัย 
    อายุให้ ยาวยืน ถึงหมื่นปี
     

    เกียรติ ลาภยศ เงินทอง กองล้นตู้ 
    พรพรั่งพรู อยู่ล้อม พร้อมศักดิ์ศรี
    ปรารถนา สิ่งใด ได้ทันที 
    คนภักดี ชูเชิด วันเกิดเธอ
     

    จากกูจุนฮเว" (cr.rakjung.com)



     

    ดงฮยอกระเบิดขำทันทีที่อ่านจบ ส่วนจุนฮเวก็นั่งนิ่งทำหน้าบึ้งตึงใส่ "อะไรเนี่ยจุนฮเวฮ่าาาาา นี่นายไปเอาคำอวยพรวันเกิดนี้มาจากไหนฮ่าาาา" คนตัวเล็กหัวเราะดังลั่นยกมือกุมท้องตัวเองก่อนจะล้มลงนอนบนโซฟาแล้วขดไปมาเหมือนกุ้ง นั่นยิ่งให้ให้คนตัวสูงอายจนแทบอยากจะหนีกลับบ้าน




     

    เขาใช้เวลาตั้งนานกว่าจะเลือกคำอวยพรที่คิดว่าดีที่สุดนะ ทำไมอ่ะ มันไม่ดีตรงไหน ถึงมันจะน่าตลกแต่ความหมายมันดีนะเว้ย




     

    'จงปราศทุกข์ ปราศโศก ปราศโรคภัย ก็อยากให้ไม่มีทุกข์' อยากให้ยิ้มอยู่ตลอด รอยยิ้มของนายมันพิเศษ ไม่ชอบให้ร้องไห้ อยากให้ร่างกายแข็งแรงไม่มีโรค ไม่ชอบหรอกเวลาดงฮยอกป่วย



     

    'อายุให้ ยาวยืน ถึงหมื่นปี' มันอาจเว่อร์ไปแต่ก็อยากให้อยู่เป็นเพื่อนกันไปนานๆนี่หว่า อยู่คอยบ่นจู้จี้แบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็ดีนะ..



     

    'เกียรติ ลาภยศ เงินทอง กองล้นตู้' 
    รวยไงรวยอ่ะ มีชื่อเสียง ร่ำรวยไม่ดีหรือไง



     

    'ปรารถนา สิ่งใด ได้ทันที' 
    ก็อยากได้อะไรก็ได้ คิดสิ่งใดก็สมปราถนา




     

    โถ่!!




     

    "ฮ่าาาาาอย่าบอกนะเสิตกูเกิลอ่ะ นายนี่นะ.." คิมดงฮยอกยังคงขำอยู่ คนตัวเล็กนอนดิ้นไปดิ้นมาบนโซฟาก่อนจะหยัดตัวขึ้นคว้าแขนร่างสูงทันทีที่ทำท่าจะลุกหนี "เห้ย จะไปไหน โอเคขอโทษไม่ขำแล้ว"



     

    จุนฮเวเปรยตามองพร้อมถอนหายใจและเบือนหน้าหนีไปอีกทาง เขาค่อยๆหย่อนตัวนั่งลงที่เดิม "ไหนดูสิ้ในกล่องมีอะไร" คนตัวเล็กทำเสียงหยอกล้อก่อนจะแง้มกล่องออกอย่างช้าๆ แล้วเผยยิ้มออกมาทันทีที่เห็นของขวัญด้านใน




     

    "นายจำได้ด้วยหรอว่ากระเป๋าฉันขาด" ร่างบางหยิบกระเป๋าหนังยี่ห้องดังขึ้นมาสำรวจ ใบหน้าเล็กยิ้มมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน




     

    "อือ" จุนฮเวตอบห้วนๆสั้นๆ พลางเผลอยิ้มเล็กออกมาเมื่อเห็นว่าคนข้างๆ ดูจะชอบของที่เขาให้เหลือเกิน




     

    "แพงอ่ะ นายซื้อของแพงขนาดนี้ให้ฉันเลยหรอ" ดงฮยอกมุ่ยหน้าติเบาๆ ก็กระเป๋าใบนี้มันยี่ห้องดังแถมราคาเกือบแสนวอน จะไม่ให้บ่นได้ยังไง "นายมีเงินเก็บเยอะหรือไง ถึงซื้อของแพงขนาดนี้ให้ฉัน"




     

    "ก็พอมี เงียบเถอะน่า มีอะไรให้กินไหม" ท้องเจ้ากรรมดันร้องขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ คิมดงฮยอกลอบยิ้มก่อนจะหายตัวเข้าไปในครัวแล้วกลับมาพร้อมข้าวกล่องและเค้ก




    "นี่เค้ก ฉันเก็บไว้ให้"




     

    "อือ นายอยู่คนเดียวหรอ"




     

    "ช่าย พ่อกับแม่ไปสัมนา"




     

    "นั้นคืนนี้ฉันค้างที่นี่นะ"




     

    "หืม จะค้าง?"




     

    "อือ ทำไมทำอย่างกับไม่เคยค้าง"




    "ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยนั้นนายกินไปเดี๋ยวฉันเอาของขึ้นไปเก็บแล้วจะเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้นะ" สิ้นประโยคคนตัวเล็กก็สาวเท้าก้าวขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้คนที่นั่งกินข้าวเผลอยิ้มกว้างออกมา






     

     













     

    ภายในห้องนอนสี่เหลี่ยมขนาดกลางคนตัวเล็กนอนยิ้มมองเพดานก่อนจะหันซ้ายลอบมองชายร่างสูงที่นอนหลับพริ้มอยู่บนฟูกที่พื้นผ่านแสงไฟด้านนอก รูปถ่ายวัยเด็กของเขาและจุนฮเวบนหัวเตียงเป็นสิ่งหนึ่งที่คอยย้ำเตือนเสมอว่าเราสองคนรู้จักและสนิทกันมานานแค่ไหน




     

    นานเท่าไหร่แล้วนะที่เราสองคนอยู่ด้วยกันแบบนี้…




     

    ชุดนอนลายหมีพูห์สีแดงที่อยู่บนตัวจุนฮเวมันทำให้เขาดูน่ารักเป็นพิเศษ ไหนจะขนตาแพรหนาที่เรียงตัวสวยนั่นอีก จมูกโด่งเป็นสัน ปากหนาเผยอเล็กน้อย ดงฮยอกสะบัดหัวไปมาไล่ความคิดพร้อมมุดลงไปใต้ผ้าห่ม




     

    มีหลายครั้งที่คิดว่าตัวเองแอบชอบเพื่อนสนิทคนนี้หรือเปล่า ตอนนี้พอจะเริ่มรู้แล้วล่ะ…




     

    เงยหน้าออกจากผ้าห่มก่อนเอื้อมมือเขี่ยปอยผมหน้าม้าที่ปกลงมา จุนฮเวครางฮือพร้อมพลิกตัวหนีไปอีกด้าน "ฝันดีนะ ขอบคุณสำหรับของขวัญวันเกิดและการ์ดนะจุนเน่…" พูดจบก็คว้าหมีหน้าบึ้งบนหัวนอนมากอดแล้วค่อยๆปิดเปลือกตาลงช้าๆ


     

     








    100per.






    มาต่อและไวป่ะะะะะะะะะะะะคึคึ
    เม้นและแท็กฟิคลั่นให้ด้วยนะคร้าบบบ







    .



     








     

     



    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×