คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : .second
"อันนี้เป็นงบคณะสี ส่วนอันนี้ตารางเข้าค่ายของเกรดสิบเอ็ดกับเกรดสิบสอง และอันนี้ก็งบที่เราเก็บมาได้ ฉันว่ามันไม่น่าจะพอ ฉันอยากให้นายลองไปขอพ่อนายเพิ่มอีก หรือไม่ก็จัดอะไรสักอย่างที่จะทำให้งบเราเพิ่มขึ้น ส่วนอันนี้.."
"พอ! วางวันนั้นแหละเดี๋ยวค่อยจัดการ"
"เออ อย่าลืมล่ะ เอกสารส่งพรุ่งนี้นะ.."
ประธานนักเรียนหน้าสวยถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะ เอกสารมากมายขนาดนี้ให้อ่านวันเดียว ตลกเถอะ! นี่ถ้าไม่ติดว่าตัวเองเป็นลูกชายผอ.โรงเรียนพ่วงตำแหน่งประธานนักเรียน ก็คงไม่ต้องมารับงานบ้าๆพวกนี้หรอก โอ้ยยย เหนื่อย!
"เยอะอ่ะ" เงยหน้าขึ้นมองสองมือพลิกเอกสารไปมาและก็ต้องถอนหายใจพร้อมบ่นพรึมพรัมกับตัวเองเบาๆ เอกสารเมื่อวานยังไม่เครียร์ นี่มาใหม่อีกแล้ว คิมดงฮยอกปวดหัว! ยกมือกุมขมับก่อนจะต้องสะดุ้งเพราะเสียงโทรศัพท์ของตัวเองดังขึ้น ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นรายชื่อว่าใครโทรมา
"โทรมาทำไมแต่เช้านะ.." บ่นงุบงิบก่อนจะสไลค์หน้าจอกดรับ
[ดงฮยอก..]
"อือ ฉันเอง มาถึงโรงเรียนแล้วหรอ"
[มาหาหน่อยสิ..อะโอ้ยเจ็บซี๊ด!]
"นายเป็นไรเนี่ย! อยู่ไหนเดี๋ยวรีบไปหา!" เผลอขึ้นเสียงเล็กน้อยทันทีที่ได้ยินเสียงร้องแปลกๆ ของคนต้นสาย อย่าบอกนะไปมีเรื่องอีกแล้ว!
[ซอย x ข้างรร…ตี๊ดด]
หลังจากวางสายเสร็จดงฮยอกก็ตรงรี่หอบกล่องปฐมพยาบาลที่ซื้อเก็บไว้ทำแผลให้คนคนนึงที่มักจะเรื่องเป็นประจำ ก็จะใครสะอีกล่ะ ถ้าไม่ใช่กูจุนฮเว เพื่อนสนิทตั้งแต่วัยเด็กของเขา เกิดมาก็เจอหมอนี่อยู่ข้างๆ คอยกวนประสาทและแกล้งเขาตั้งแต่เด็ก
พ่อของเขาสองคนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยมัธยมต้น แถมบ้านยังอยู่หมู่บ้านเดียวกันอีกก็เลยทำให้สองครอบครัวไปมาหาสู่กันบ่อยๆ จนสนิทกัน
ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็มาถึง ดงฮยอกกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็พลันสะดุดกับผู้ชายร่างสูงที่เขาคุ้นตาเป็นประจำ สองขาก้าวยาวๆไปนั่งข้างๆ พร้อมใช้มือจับช้อนหน้าคนตัวสูงให้หันมา ให้ตายเถอะ หางคิ้วมีรอยแผล มุมปากเลือดออก โหนกแก้มเขียวเป็นจ้ำ
"เฮ้อ" ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะหยิบสำลีชุบแอลกอฮอล จิ้มไปบริเวณแผล จุนฮเวสะดุ้งเล็กน้อย ปากหนาซี๊ดเจ็บเป็นระยะ
"ทำไมถึงมีเรื่องอีกแล้วล่ะ รู้มั้ยว่าฉันเหนื่อยจะทำแผลให้นายแล้วนะ! ผ้าพลาสเตอร์ก็จะหมดแล้วเนี่ย ไหนจะยาแดงนี่อีกดูสิ แอลกอฮอลก็จะหมด รู้มั้ยมันเปลืองตังค์แค่ไหนน่ะ ห้ะ! ทำไมถึงชอบมีเรื่องก็ไม่รู้ เจ็บตัวเปล่าๆ นายนี่จริงๆเลยน้า คนบ้า"
ถึงปากจะบ่นยังไง สองมือก็ยังทำหน้าที่ได้ดี จุนฮเวลอบยิ้มออกมาน้อยๆอย่างอดไม่ได้ เขาชอบที่ดงฮยอกเป็นคนแบบนี้ ถึงจะบ่นจะว่าจนน่ารำคาญแค่ไหน แต่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าดงฮยอกน่ะเป็นห่วงเขามากกว่าใคร
"ยิ้มอะไรของนาย"
"เปล่านี่.." จุนฮเวตีหน้าขรึมพร้อมตอบเสียงเรียบ
"ก็เมื่อกี้นายยิ้ม" คนตัวเล็กฟึดฟัดโมโหพร้อมหยิบพลาสเตอร์หมีน้อยสีชมพูขึ้นมาติดบริเวณมุมปากและหางคิ้ว จุนฮเวทำถ้าอี๋เล็กน้อยกับลายพลาสเตอร์แต่ก็ต้องยอมเมื่อคนตัวเล็กส่งสายตาดุๆมาให้
คนตัวเล็กยกยิ้มพอใจในผลงาน พลาสเตอร์ลายนี้นี่มันเหมาะกับนายจริงๆ จัดการเก็บของใส่กล่องเสร็จสรรพปากบางก็บ่นงุบงิบไปเรื่อยเปื่อย
"กินข้าวเช้ายัง" จุนฮเวเอ่ยปากถามระหว่างเดินกลับโรงเรียน ดงฮยอกส่ายหัวน้อยๆเป็นคำตอบ
เขาสองคนแวะร้านอาหารเล็กๆข้างทางที่ไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก จุนฮเวนั่งมองคนตัวเล็กที่นั่งกินข้าวกับซุปอย่างไม่หยุดปาก ปากบางบ่นพรึมพรำว่าอันนั้นอร่อย อันนี้ก็อร่อยไปหมด จนคนที่นั่งมองอดที่ยิ้มตามไม่ได้
เมื่อก่อนจุนฮเวเป็นเด็กร่าเริง เขาเข้ากับคนได้ง่าย แต่พอพ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เขาอยู่เกรดหก ตามกฎหมายถ้าเกิดมีการหย่า คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องแบ่งกันเลี้ยงดูบุตร พี่สาวก็เลยได้อยู่กับแม่ ส่วนจุนฮเวได้อยู่กับพ่อ
มันจะดีกว่านี้ถ้าพ่อไม่แต่งงานใหม่ ใช่.. พ่อของเขาแต่งงานใหม่ เกือบจะทันทีที่หย่าขาดจากแม่ นั่นแหละคือสาเหตุที่ทำเขาก็ยิ่งเปลี่ยนไป จากเด็กที่ยิ้มง่ายหัวเราะง่าย ก็กลายเป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยพูดค่อยจา ไม่ร่าเริงสดใสเหมือนเมื่อก่อน
แต่ก็มีอยู่สองอย่างนะที่ทำให้จุนฮเวยิ้มได้อย่างไม่ต้องฝืน นั่นคือ เพื่อนและก็
ผู้ชายร่างเล็กที่นั่งตรงข้ามเขาตอนนี้
"ว่าแต่นายไปมีเรื่องกับใครมาหรอ" ดงฮยอกเปิดประเด็นถามทั้งที่ข้าวยังเต็มปาก จุนฮเวเห็นดังนั้นจึงส่ายหัวน้อยๆก่อนจะเอื้อมมือไปเกลี่ยข้าวที่ติดอยู่บนข้างแก้มออก
"อ๊ะ" คนตัวเล็กเผลออุธานเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นทาบแก้มตัวเองเบาๆ
"ไม่รู้สิ โรงเรียนข้างๆมั้ง" เอ่ยตอบอย่างไม่ใส่ใจ ก็อย่างที่บอกเขามีเรื่องมานับไม่ถ้วน ครั้นจะให้นั่งจำหน้า หรือจำชื่อของคนที่มีปัญหากับเขาก็คงจะรกสมองไปหน่อย ก็ได้ปล่อยเลยผ่าน อยากซัดก็เข้ามาเขาไม่เคยกลัว
"เฮ้ออ" คนตัวเล็กถอนหายใจยาวๆอีกครั้ง เมื่อได้ฟังคำตอบ เมื่อไหร่จุนฮเวจะเลิกเป็นแบบนี้นะ รู้มั้ย ฉันห่วงนายจะตายอยู่แล้วนะ!
"นี่จุนฮเว..ฉันขออะไรนายได้มั้ย" ร่างเล็กละจากชามข้าว พร้อมเงยหน้ามองหน้าคนตรงข้าม สานตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง ทำให้คนถูกขอชะงักไปเล็กน้อย
"ได้สิ แต่ถ้าเป็นเรื่องนี้ ฉันไม่รับปากนะ.." จุนฮเวยักไหล่พลางยกมือชี้มุมปากของตัวเอง
ดงฮยอกหายใจหนักๆอย่างอดไม่ได้ คำโบราณที่เคยบอกว่าถอนหายใจแล้วอายุจะสั้นลง ถ้ามันเป็นจริงชีวิตเขาก็คงเหลือไม่กี่ปีแน่ๆ
"นี่ฮันบิน บ็อบบี้ล่ะ เขาไม่มาโรงเรียนหรอ" เมื่อเช้าทักไลน์ไปก็ไม่อ่านไม่ตอบ โทรหาก็ปิดเครื่องติดต่อไม่ได้ตั้งแต่เช้าจนตอนนี้พักเที่ยงแล้วก็ไม่เห็นวี่แววของร่างสูงเลยสักนิด
เฮ้อ..
"มา แต่เห็นบอกว่าอาจารย์เรียกไปคุยเรื่องเอกสารอ่ะ เดี๋ยวก็คงตามมามั้ง" ฮันบินตอบเสียงเรียบ ใบหน้าน้องชายดูไม่สดใสเหมือนทุกวัน ยุนฮยองเลิกคิ้วเล็กน้อยหันไปมองเพื่อนสนิทของตนเองที่นั่งเคี้ยวข้างตุ้ยๆอย่างไม่สบอารมณ์ ไม่พูดไม่จา รังสีอัมหิตแผ่ซ่านสีดำออกมาจนน่ากลัว ทะเลาะกันอีกแล้วหรอ
…นี่ขนาดยังไม่คบกันนะ
"อ่ะเอ่อแล้วจุนฮเวล่ะ เดี๋ยวนี้ไม่เห็นเลย" ยุนฮยองหาเรื่องคุยไปเรื่อยเพื่อไม่อยากให้สถานการณ์มันตึงเครียดไปมากกว่านี้ มองน้องชายตัวเองสลับกับเพื่อนสนิทแล้วก็ต้องลอบหายใจออกมา
"ไม่รู้มัน หาดงฮยอกมั้ง" ฮันบินตอบปัดๆก่อนนะตักข้าวคำโตเข้าปาก
"ล่ะหรอ..แล้วจิน.."
"นี่ยุน ฝากบอกเพื่อนสนิทยุนด้วยนะ ว่างอลอยู่ง้อด้วย" เด็กหัวแดงยกมือกอดอกพลางทำหน้ามุ่ย หวังเรียกให้คนตัวเล็กสนใจ แต่เปล่าเลย จินฮวานเบ้หน้าพร้อมยกนิ้วกลางสองข้างก่อนจะหันไปสนใจข้าวในชามต่อ
"อ่ะเอ่อ..จิน.." ยุนฮยองตะกุกตะกักพูด
"ยุน ฝากบอกไอเด็กหัวแดงทีว่าฉันไม่ผิด!" จินฮวานแพรดเสียงลั่น สองแขนยกขึ้นท้าวเอว ใบหน้าน่ารักกำลังขมึงตึง คิ้วขมวดกันเป็นปม ไอนิสัยไม่ยอมคนของจินฮวานนี่แหละที่ถือเป็นข้อเสียชั้นดีเลย
"…."
"ยุน เพื่อนยุนอ่ะปล่อยให้ผมรอหน้าบ้านตั้งหนึ่งชั่วโมงโดยที่ไม่บอกสักนิดว่าไปแล้ว โครตใจร้ายอ้ะ" คนเด็กสุดตีหน้าเศร้าเล่าความจริง วันนี้เขาไปรอจินฮวานเวลาเดิมที่เดิมเหมือนทุกที แต่รอแล้วรออีกก็ไม่เห็นวี่แววของคนตัวเล็ก โทรหาก็ไม่รับ ไลน์หาก็ไม่ตอบ ติดต่อไม่ได้เลย ตอนแรกก็ใจหายคิดว่าคนตัวเล็กไม่สบายแต่ที่ไหนได้ ส่งรูปเซลฟี่สองนิ้วตัวเองกับอาจารย์หน้าประตูมาเยาะเย้ยเขาสะงั้น
พี่จินแม่ งใจร้าย!
"นี่ยุน นายก็รู้ฉันไม่เคยบอกไอเด็กกากนี่ว่าให้ไปรอ สะเออะไปรอเองป้ะ สมน้ำหน้า" แลบลิ้นปิ้นตาเยาะเย้ย พฤติกรรมเด็กๆของจินฮวานเรียกให้เพื่อนสนิทถึงกับหลุดขำ
เฮ้อ จินนะจิน
"เอ่อ.."
"ก็ผมอยากไปโรงเรียนพร้อมพี่นี่!"
"แต่ฉันไม่ได้อยากไปโรงเรียนพร้อมนาย!"
"ถ้าผมไม่ได้เห็นหน้าพี่ทุกเช้า ผมจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ กระสับกระส่ายหัวใจพิการ อาหารไม่ย่อย ลิ้นกร่อยไม่ทำงานนะพี่" ฮันบินทำท่าโอเว่อร์แอกติ้งสองมือกุมหัวกุมท้อง พร้อมทำท่าไอแค่กๆจนจินฮวานแทบจะลุกขึ้นยันหน้า ดีนะที่ยุนฮยองห้ามทัพไว้ก่อน
"มึงอย่ามาทำโอเว่อร์ แล้วที่มึงแดกอยู่ตอนนี้เรียกว่าแดกไม่ได้หรอสัส อย่ามาทำเป็นพูด!"
"นี่ยุน ช่วย.."
"โอ๊ยยยยพอ! จะทะเลาะอะไรกันนักหนาเนี่ย อุ้ย บ็อบบี้มาแล้วว" ยุนฮยอกยกมือทำท่าปรางห้ามญาติก่อนจะสะดิ้งตัวเองขึ้นไปเกาะแขนบุคคลหน้าใหม่ที่ยืนนิ่งไม่ไหวติง มือนึงถือข้าว อีกมือนึงถือน้ำ ใบหน้าคมยังคงสวมแว่นกรอบหน้าที่ใครมองว่าเห่ยนักเห่ยหนา แต่ไม่ใช่กับยุนฮยอง เขามองว่ามันเป็นสเหน์แปลกๆอย่างหนึ่งที่เขาไม่เคยพบเจอ
"ชิท.." จินฮวานสบถคำหยาบเบาๆอย่างหงุดหงิด หงุดหงิดที่ต้องมานั่งทะเลาะกับไอเด็กกากๆหัวแดงๆ แถมยังต้องมาเจอไอเด็กเอ๋อหน้ามึนที่เพื่อนสนิทตัวเองหลงนักหลงหนา ถ้าจะถามว่าหวงเพื่อนตัวเองมั้ยก็คงตอบว่าหวง จินฮวานมีเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่รับนิสัยและรับขอเสียของเขาได้ เขาจึงห่วงยุนฮยองเป็นพิเศษ ถึงจะมั่นใจเกินร้อยว่าเพื่อนของเขาฉลาดทันคน แต่บางทีเขาก็อดห่วงเพื่อนคนนี้ไม่ได้อยู่ดี
"อ่ะเอ่อ คุยเรื่องอะไรอยู่หรอครับ ท่าทางสนุกเชียว" คนมาใหม่เอ่ยถามอย่างเป็นมิตร
"สนุกกับผีแกสิ" เป็นจินฮวานที่ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
"จินอ่า อย่าว่าบ็อบบี้สิ นี่บ็อบบี้ทำไมติดต่อไม่ได้เลยล่ะ" ออกตัวแทนคนข้างหน้าก่อนจะเอ่ยถามพร้อมใช้มือท้าวคางมอง
"ขอโทษนะครับ พอดีเมื่อคืนผมลืมชาตแบตไว้น่ะครับ" เมื่อคืนหลังจากคุยกับร่างเล็กเสร็จก็เผลอหลับทันที ความง่วงที่สั่งสมมาทั้งวันบวกกับความเหนื่อยจากการทำงาน(?) ทำให้เขาทั้งล้าและทั้งเพลีย แต่ก็พยายามถ่างตาเพื่อคุยกับยุนฮยองตามคำขอ
"อ๋ออ มีลืมด้วย น่ารักอ่ะ"
"แค่กๆ ลืมชาตแบตนี่มันน่ารักตรงไหนเนี่ยยุน!" จินฮวานเบิกตาโพลงแทบสำลักน้ำส้มในแก้ว ลืมชาตแบต=น่ารัก โอ้ววววเพื่อนกูไปหมดแล้วสมงสมอง
"จินอ่า อย่าว่ายุนสิ" หันไปตีไหล่เพื่อนเบาๆพลางทำปากพองลมน่ารักอย่างที่ชอบทำ ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นรอยยิ้มเล็กๆของบ็อบบี้ที่เผลอยิ้มออกมา
"บ็อบบี้ เจอกันบนห้องนะ กูไปก่อนว่าจะไปหาไอเน่" ฮันบินพูดแทรกเขาสะบัดหน้าหนีทำเป็นไม่มองจินฮวาน พยายามเรียกร้องความสนใจประมาณนั้น แต่มีหรือที่คนอย่างคิมจินฮวานจะสนใจ นู่น พี่แกแกะขนมกินหน้าตาเฉย
"ได้ครับ" บ็อบบี้ยิ้มตอบ
"ชิ ฉันก็ต้องไปหาอาจารย์คณะสีอีก ให้ตาย! เจอกันบนห้องนะยุน" จินฮวานคิดได้พร้อมเก็บขนมเข้ากระเป๋าก่อนจะเอ่ยบอกเพื่อนรักและลุกพรวดไปทันที
จินฮวานถูกมอบหมายให้เป็นประธานคณะสีในปีนี้โดยที่ไม่ต้องมีการเลือก เพราะทั้งอาจารย์ เพื่อนๆ แม้กระทั่งรุ่นน้องต่างเห็นดีเห็นงามให้เขาดูแล ด้วยความโหดสรรถเนี่ยแหละ เมื่อปีที่แล้วทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่ของเขา กลับถูกรุ่นพี่ตามให้ไปช่วยคุมน้องเพราะน้องไม่ยอมฟังพร้อมโดดไม่ขึ้นเชียร์ เจอจินฮวานจัดการตะหวาดพร้อมด่าแว๊ดๆทีเดียว
รุ่นน้องนี่..กริบเลย
"อื้อๆ" ยุนฮยองครางตอบในลำคอพลางพยักหน้ารัวๆ ก่อนจะหยิบแซนวิชพร้อมนมถั่วเหลืองขึ้นมาแกะกิน
"ยุนฮยองไม่ทานข้าวหรอครับ"
"ไดเอ็ทอยู่อ่ะ เฮียบอกอ้วนขึ้นแล้วหน้าบวม"
"ผมว่าแบบนี้ก็ดีออกนะครับ อย่าลดไปกว่านี้เลย" บ็อบบี้พูดยิ้มๆ แก้มขึ้นสีเล็กน้อยด้วยความเขินคำพูดคำจาซื่อๆที่ดูไร้ความนัยต์แฝง เรียกให้คนหน้าหวานตอนนี้บิดเกลียวเป็นเครื่องซักผ้า
แบบนี้ก็ดีออก แบบนี้ก็ดีออก แบบนี้ก็ดีออก แบบนี้ก็ดีออก แบบนี้ก็ดีออก แบบนี้ก็ดีออก แบบนี้ก็ดีออก
แบบนี้ก็ดีออก แบบนี้ก็ดีออก แบบนี้ก็ดีออก แบบนี้ก็ดีออก แบบนี้ก็ดีออก แบบนี้ก็ดีออก แบบนี้ก็ดีออก
แบบนี้ก็ดีออก แบบนี้ก็ดีออก แบบนี้ก็ดีออก แบบนี้ก็ดีออก แบบนี้ก็ดีออก แบบนี้ก็ดีออก แบบนี้ก็ดีออก
โอเคยุนไม่ลดแล้วก็ได้ .///.
50per.
สองวันมานี่ที่ยุนฮยองออกตัวแรงว่าตามจีบเด็กใหม่ที่ชื่อ 'คิมจีวอน' หรือที่ใครๆก็พาเรียกว่า บ็อบบี้ เด็กใหม่มอปลายปีสองห้องซี ใบหน้าเฉิ่มๆเชยๆใส่แว่นหนาตึบสะพายกระเป๋าทรงฮิปฮอปชอบสวมหูฟังตลอดเวลา แถมยังอยู่กับฮันบินและจุนฮเว
เรียกได้ว่าใครหลายคนต่างเอาไปซุบซิบนินทากันจนหนาหู ต่างคนต่างพูดไปว่ายุนฮยองโดนมนต์ดำครอบงำบ้างไม่มีใครเอาแล้วบ้างหรือไม่ก็ชอบของแปลกบางทีถึงขั้นว่ายุนยองอาจติดใจอย่างอื่นที่ไม่ใช่หน้าตา
คำนินทาลอยเข้าหูยุนฮยองเป็นระยะ มีหรือที่คนอย่าง ซงยุนฮยอง จะสนใจเขาคิดแค่ว่าไอคำนินทาก็คือคำอิจฉาพวกไม่มีก็ได้แต่ดิ้นรนนินทาเขาอย่างเดียว เอาจริงๆเขาชินและปลงมากกว่าไม่ว่าจะใครที่คอยตามจีบเขาก็พากันนินทาแบบนี้เสมอๆ แล้วไงทำไมต้องแคร์?
หาให้กูแดรกหรอ?
ก็ไม่นิ
ยุนฮยองคิดเสมอว่าถ้าเรามัวแต่แคร์คำพูดของคนทั้งโลกที่เอาแต่นินทาเขาแล้วเขาจะมีความสุขได้ยังไง? บรรทัดฐานการตัดสินคนเรามันไม่เหมือนกันไม่มีอะไรที่สามารถวัดว่าคนไหนดีคนไหนไม่ดีได้จริงๆหรอก
ฉะนั้นอย่าไปใส่ใจกับคนที่ไม่รู้จักเราดีพอ
ซงยุนฮยองมานั่งเปื่อยรอดูบ็อบบี้เล่นฟุตบอลตอนเย็นหลังเลิกเรียน ฮันบินเป็นคนไลน์มาบอกเขา ว่าเขาสามคน (ฮันบิน บ้อบบี้ จุนฮเว) จะเล่นฟุตบอลในเย็นนี้พร้อมกำชับนักกำชับหนาว่าให้ลากจินฮวานมาดูด้วย
เขาจึงตั้งหน้าตั้งรอให้เลิกเรียนไวไวอยากจะเห็นบ้อบบี้ในสภาพเหงื่อไหลท่วมตัวจนต้องถอดเสื้อโชว์ซิกแพคเล่นกีฬาเหมือนผู้ชายคนอื่นๆที่เขาชอบทำกัน
ไม่หื่นนะ แค่อยากเห็นเฉยๆ
คนตัวเล็กลากเพื่อนสนิทตัวเองให้มาดูด้วย เนื่องจากฮันบินขอมา ตอนแรกจินฮวานฮึดฮัดไม่อยากมาท่าเดียวบอกไม่อยากเจอไอเด็กหัวแดง ยุนฮยองเลยใช้ลูกอ้อนตามฉบับเพื่อนซี้มาอ้อนจินฮวานก็เลยใจอ่อนแถมบอกให้ โทรตามรุ่นน้องคนสนิทที่ชื่อ 'คิมดงฮยอก' มาด้วยแต่เด็กนั่นปฎิเสธเสียงแข็งบอกมีเอกสารมากมายต้องจัดการอีกเยอะปลีกตัวไปไม่ได้ แต่พอบอกว่ามีรุ่นน้องผู้หญิงน่ารักมากเอาน้ำไปให้จุนฮเว ก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที
'ห้ะอะไรนะ เอกสารส่งเมื่อไหร่ก็ได้ โอเคเลยพี่ปะกี้เพื่อนผมบอกส่งวันอื่นได้เดี๋ยวผมไปรอแปปนะ'
ให้ตายเถอะไอเด็กบ้า! /มองแรง
"ผมมาแล้วฮ่ะ แฮ่กๆ..ไหนๆผู้หญิงคนไหนพี่ น่ารักป้ะไหนๆ" ดงฮยอกวิ่งหน้าตาตื่นก่อนจะมาหยุดหอบหายใจแฮ่กๆอยู่ตรงหน้ารุ่นพี่ที่สนิททั้งสอง คนรุ่นน้องเอ่ยถามทันทีพร้อมกวาดสายตามองหาทั่วสนามบอล ไหนวะ ไหนรุ่นน้องผู้หญิงน่ารักๆเห็นมีแต่พวกเด็กผู้ชายร่างควายแย่งบอลไปมาอยู่ในสนาม
"นี่หรอที่บอกฉันว่าไม่ชอบ ไม่สนใจนี่หรอ หรอออออออ?" ยุนฮยองลากเสียงยาวเชิงล้อเลียนพร้อมทำหน้าตากระลิ้มกระเลี่ยจับผิดเด็กปากแข็ง
"กะก็ไม่ชอบไง แค่อยากเห็นเฉยๆว่า..คนอย่างหมอนั่นมีคนมาสนใจด้วยหรอ..แค่นั้นเอง" ชักแม่น้ำทั้งห้ามาแถก็ไม่ทันแล้วน้องเอ้ย
"หรออออออออจ๊ะ" คนขี้แกล้งยังคงสนุกกับการแกล้งคนอื่น เห็นไอเด็กนี่แล้วหมันไส้ตะหงิดๆแถออกมาได้ว่า 'อยากเห็นเฉยๆว่าคนอย่างหมอนั่นจะมีคนมาสนใจด้วยหรอ'
แล้วไอที่วิ่งหน้าต่าตื่นอย่างกะผัวมีชู้พร้อมสีหน้าท่าทางเหมือนคนโดนจับไต๋ได้ขนาดนั้นมันคืออะไร?
..ไม่เนียนเลยนะเด็กน้อย
ถ้าจะให้บอกตามตรงเขากับจินฮวานรู้ตั้งนานแล้วแหละ ว่าไอเด็กปากแข็งนี่มันคิดไม่ซื่อกับเพื่อนสนิทตัวเอง ถถถถถ คิดว่าโง่นักไงเล่นทำแผลดูแลเยียวยารักษาทุกครั้ง ออกตัวแทนเวลาจุนฮเวจะโดนพักการเรียน จุนฮเวไม่สบายก็เฝ้าไข้ไม่เป็นอันทำห่าอะไร นี่ถ้าเป็นเขานะป่านนี้จุนฮเวเลิกตีราฆ่าฟันหันมาฟันเขาแทนแล้ว
ไอเด็กนี่มันกากจริงๆ ซักวันจุนฮเวโดนคาบไปกินแล้วอย่ามานั่งร้องไห้ร้องห่มนะแม่จะยำให้เละเลย
หมันไส้!
"ผมไม่ได้ชอบก็คือไม่ได้ชอบสิ โถ่วพวกพี่อ้ะ แล้วไหนอ่ะผู้หญิงที่พี่ว่า" คนเด็กสุดก็ยังคงปฎิเสธเสียงแข็ง จ้า ไม่ชอบก็ไม่ชอบ จ้า เชื่อจ้า= =
"ไม่มีอ่ะ ยุนมันหลอกนาย" จินฮวานพูดขึ้นหลังจากที่นั่งฟังอยู่นาน เอาจริงๆป้ะไอเด็กสามตัวนั้นมันยังไม่เลิกเรียนเลยโว้ย!! ก่อนที่จะถามหาเด็กผู้หญิงคนนั้นควรจะสังเกตให้ดีก่อนนะ ว่าที่พวกเขานั่งหัวโด่กันตอนนี้ นี่รอพวกมันอยู่เว้ย!
"อ่าว พี่ยุนอ่า แกล้งผมอีกแล้วนะ!" ประธานนักเรียนทำท่างอลตุ๊บป่องเชิดหน้าหนีกอดอกทำตัวแบ๊ว พี่ยุนฮยองนี่ชอบแกล้งอยู่เรื่อย! โดยเฉพาะเรื่องจุนฮเวแกล้งได้แกล้งดิจริงๆ
"นี่ฉันจะบอกอะไรให้ฟังนะดงฮยอก.."
"..อะอะไรหรอครับ"
"สามคนนั้นยังไม่เลิกเรียนเลย คริคริ" ยกมือขึ้นปิดปากกลั้นขำ แกล้งเด็กนี่สนุกชิบหาย
"พี่ยุนอ่า!!!" ดงฮยอกอยากจะกรีดร้อง มัวแต่อยากรู้ว่าใครกัน มาสนใจหมอนั่นจนต้องทิ้งเอกสารที่ต้องส่งพรุ่งนี้! ส่วนตอนคุยโทรศัพท์อ่ะพูดเองเออเองทั้งนั้นแหละไม่มีใครอยู่ในห้องกับเขาหรอกคนอุตส่าละทิ้งหน้าที่วิ่งหน้าตั้งลงมาให้ทันเห็นจนลืมคิดไปเลยว่าวันนี้หมอนั่นเรียนคาบเก้า ให้ตายเถอะ เสียท่าให้พี่ยุนอีกแล้ว T T ฮืออออออออ
ยุนฮยองกับจินฮวานแท็กมือกัน หัวเราะคิกคักจนดงฮยอกโมโหจนต้องถลึงตาใส่รุ่นพี่ขี้แกล้ง ทั้งสามสายเคะนั่งคุยนั่งเล่นฆ่าเวลารอสามหนุ่มเลิกเรียน ต่างคนต่างเม้าส์มอยเรื่องของตนเองดงฮยอกพูดถึงงานกีฬาสีที่ใกล้จะถึงนี้ว่างบแต่ละสีมีเท่าไหร่ แต่ละสายชั้นควรไปทำอะไรเพื่อหาเงินเข้าสีจบจากงานกีฬาสีก็จะมีเข้าค่ายปีนี้จัดต่างจากทุกปี โดยการแบ่งเป็นกลุ่มห้องเอ บี ซี ดี กล่าวคือปีสองห้องเอกับปีสามห้องเอไปด้วยกันประมาณนั้น ปีหนึ่งส่วนปีหนึ่งไม่รวมกันงานนี้ให้คิดสถานที่เที่ยวเองโดยให้ปีสามเป็นฝ่ายตัดสินใจเพราะเป็นปีสุดท้ายแล้ว
จินฮวานได้ฟังอย่างนั้นถึงกับยกมือกุมขมับพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่แทบอยากจะย้ายห้องหนี เออใช่.. เขากับยุนฮยองก็ปีสามห้องซีไง ไอเด็กบ้าหัวแดงก็ปีสองห้องซีนี่ต้องเห็นหน้าหมอนั่นตลอดทั้งสามวันสองคืนเลยหรอ
เฮ้อ อยากจิคราย
ต่างจากยุนฮยองรายนั้นนั่งยิ้มกริ่มเริ่มมโนไปไกล อีกตั้งเดือนนึงกว่าจะได้ไปป่านนั้นคงจีบบ็อบบี้ติดแล้วแน่ๆ ไปทะเลดีมั้ยน้า… นอนอาบแดดริมหาดให้บ็อบบี้ทาครีมกันแดดให้เหมือนในหนังที่ตัวร้ายชอบอ่อยพระเอก แต่ไม่สิ ยุนต้องเป็นนางเอกแกล้งจมน้ำแล้วให้บ็อบบี้ผายปอด โอ้ยยย ดีเลิศอ่ะปรบมือ หรือจะไปน้ำตกดีน้า… อยากนอนเต็นท์ใช้ชีวิตใต้ร่มไม้กับบ็อบบี้นอนหนุนตักดูดาวด้วยกันสองคนเหมือนพระเอกนางเอกซีรี่ย์
หึ่ยย แค่คิดก็ฟินน
"ยิ้มอะไรอ่ะยุน คิดไรลากมกอยู่รึไง" ภาพความคิดของยุนฮยองพังสลายลงทันตาจินฮวานมองเพื่อนรักอย่างระหวาดระแวง ไปเข้าค่าย? ต้องทำหน้าฟินจินตนาการอะไรขนาดนั้นเลยหรอ ไม่ใช่ว่าแอบคิดอะไรลามกอีกอ้ะไอเด็กบ็อบบี้ก็ห้องซีนี่หว่า ยุนนะยุน นี่อย่าบอกว่าคิดจะรวบหัวรวบหางไอเด็กนั่นอ่ะ
…ฟังไม่ผิดหรอก
ถ้าจะบอกไอเด็กบ็อบบี้เป็นฝ่ายรวบหัวรอบหางยุนฮยองเพื่อนเขา คงจะบาปไปดูท่าทางจะเข้าวัดสามเวลาหลังอาหารมากกว่าจะคิดเรื่องลามกพรรณนั้น แต่กับยุนฮยองนี่สิ.. ไม่ใช่ว่าเพื่อนเข้าง่ายหรืออะไรนะ ยุนอ่ะไม่เคยมีแฟนด้วยซ้ำ! ไม่เคยคบใครจริงๆจังๆสักทีเห็นแค่คุยๆและก็เบื่อเลิกคุยซ้ำไปซ้ำมาอย่างนี้แต่ก็ไม่ใช่ไม่รู้หรอกนะว่ายุนฮยองเพื่อนเขาน่ะแอบลามกขนาดไหนพูดแล้วอยากจับมาตีก้นซะให้เข็ด!
"เปล่าสะหน่อย ยุนไม่ได้คิด" ยุนฮยองส่ายหัวปฎิเสธก่อนจะก้มมองนาฬิกาข้อมือตัวเอง
อีกยี่สิบนาที
"เออพี่ยุน เพื่อนในห้องผมลือกันให้แซ่ดว่าพี่โดนมนต์ดำเด็กแว่นที่ชื่อบ็อบบี้อะไรสักอย่าง นี่จริงป้ะ" คนเป็นน้องถามขึ้นมาอย่างสงสัย ช่วงนี้ในห้องของเขาลือกันหนาหูว่ารุ่นพี่ยุนฮยองคนสวยโดนมนต์ดำจากเด็กใหม่ห้องซีไม่รู้อะไรดลใจให้พี่ยุนฮยองตามติดแจแถมประกาศกร้าวว่าชอบจะจีบเล่นทำรุ่นน้องอกหักกันเป็นแถว
ได้ยินมาอีกว่าอยู่กับฮันบินและจุนฮเวด้วย ยังคิดอยู่เลยว่าจุนฮเวยอมรับเพื่อนใหม่แล้วงั้นหรอ? ถ้าเป็นงั้นจริงคนที่ชื่อบ็อบบี้ต้องมีอะไรที่พิเศษแน่ๆ จุนฮเวถึงคบด้วย หรือเพราะแค่สองวัน ยังไม่รู้จักกันดีพอ หรือไง? ก็น่าคิดแฮะ
"มนต์ดงมนต์ดำอะไร้สาระ ฉันก็แค่ชอบแบบนี้แปลกตรงไหน ทำไมมีแต่คนพูดแบบนี้…" น้ำเสียงของยุนฮยองตัดพ้อนิดๆ ดงฮยอกหันมองหน้าคนน่าสวยอย่างสงสัยนี่เขาพูดอะไรผิดหรือเปล่าพี่ยุนได้ทำน้ำเสียงแบบนั้น
ปกติพี่แกมีรุ่นพี่รุ่นน้องที่หล่อรวยตามจีบตั้งเยอะ แต่ไม่เห็นสนใจสักคนถึงเขายังไม่เห็นหน้าบ็อบบี้อะไรนั่นก็เถอะแต่พอได้ยินมาอยู่หรอกว่าเฉยๆใส่แว่นดูติ๋มๆ
นี่ชักอยากเห็นหน้าแล้วแฮะ
ยุนฮยองฟุบหน้าลงกับโต๊ะพร้อมหายใจเฮือกใหญ่ ไม่ชอบเลย ทำไมมีแต่คนพูดถึงบ็อบบี้แบบนี้ถึงเขาจะรู้จักบ็อบบี้ได้ไม่นานไม่รู้จักนิสัยใจคอ แต่ไอเรื่องแบบนี้มันต้องพึ่งเวลาสิ เมื่อก่อนคนเรามักจะมองหน้าตากันเป็นหลักก่อนเสมอ แต่พอนานๆไปเราจะรู้เลยว่าหน้าตามันแค่เศษหนึ่งส่วนสี่เท่านั้นที่เหลือคือนิสัย ความเข้าใจกันต่างหากที่จะทำให้ชีวิตคู่อยู่รอด ถึงยุนฮยองจะไม่เคยคบใครแต่การที่มีคนเข้ามาและผ่านไปก็ทำให้เขารู้อะไรได้เยอะแยะเหมือนกัน
ถ้าจะถามว่ายุนฮยองชอบบ็อบบี้ตรงไหนเข้าใจความสปาร์คมั้ย เข้าใจคำว่าน่าสนใจมั้ย และอีกอย่างเข้าใจคำว่าหน้าค้นหามั้ย
ก็นั่นแหละ
อ้อ..อีกอย่างคนเรามีนิสัยใจคอและวิธีการที่แตกต่างกันนะ บางคนมันรอให้เขาหันมาสนใจไง ชาติหน้าอ่ะถึงจะได้เขาเป็นผัว บางคนก็แอบรักข้างเดียวจนเขามีแฟนเป็นสิบก็ยังแอบรักเขาอยู่ บางคนก็ใช้วิธีการเนิบนาบค่อยๆเป็นค่อยๆไปแบบนั้นก็ดีนะแต่ช้าอ่ะ โดนคนอื่นคาบไปก่อน
ถ้าชอบใครแล้วไม่พูดว่าชอบก็ศูนย์เปอร์เซน แต่ถ้าบอกว่าชอบมันก็ยังมีโอกาสห้าสิบห้าสิบ จริงมั้ย?
ยุนฮยองก็แค่เลือกพูดออกไปว่าชอบ จะจีบ แค่นั้นแต่ไอวิธีการของเขาไปหนักหัวใครมากมายก็ไม่รู้หรอกนะ ถึงได้พูดจาหมาๆหาว่าโดนมนต์ดำอะไรบ้างต่อมิอะไรบ้างบอกไปแล้วนะว่าไม่แคร์
แต่บางทีบ็อบบี้ล่ะ? เขาจะแคร์มันมั้ย? นี่แค่สองวันด้วยซ้ำยังเป็นเรื่องขนาดนี้
…เบื่ออ่ะ
จินฮวานกับดงฮยอกมองหน้ากันก่อนจะลอบหายใจออกมาเบาๆ ดงฮยอกได้แต่ลูบไหล่รุ่นพี่ที่นอนฟุบอยู่ พร้อมเอ่ยคำขอโทษออกมายุนฮยองส่ายหัวไปมาเชิงไม่เป็นไรหรอกแต่รุ่นน้องกับเพื่อนสนิทก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
"…ถ้ายุนชอบใครฉันก็จะชอบด้วยนะ ถึงตอนนี้ฉันจะยังไม่ไว้ใจไอเด็กบ็อบบี้อะไรนั่นก็เถอะ แต่ถ้ายุนมั่นใจ…ฉันก็จะช่วยเชียร์ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มันทำนายเสียใจ ฉันไม่ไว้หน้าใครแน่.." จินฮวานพูดด้วยน้ำเสียงจริงจรังถึงจะยังไม่ชอบไอเด็กบ็อบบี้นั่นเท่าไหร่ แต่การเป็นเพื่อนที่ดีก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของเพื่อนพร้อมช่วยเชียร์และดูแลเป็นห่วงอยู่ห่างๆ
"ผมก็เหมือนกันนะ สู้ๆ" ดงฮยอกย้ำอีกครั้ง เรียกรอยยิ้มจากคนน่าสวยให้ยิ้มกริ่มทั้งๆที่คงยังฟุบหน้าอยู่
มีเพื่อนที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง~
"อื้อขอบใจมากๆเลยนะ รักที่สุดม๊ว..บ็อบบี้!~ ทางนี้ๆ ยุนอยู่ทางนี้เห็นยุนมั้ยยยยยยยยย ยุนอยู่นี่" ลุกขึ้นเอ่ยขอบใจเพื่อนกับน้องรัก ก่อนจะหันไปสนใจร่างสูงทั้งสามที่เดินเรียงหน้าเป็นบอยแบนด์เกาหลี ยุนฮยองกระโดดโรดเต้นโหยงๆ เสียงหวานตะโกนเรียกบ็อบบี้ลั่นสนามโดยไม่สนในสายตาใคร บ็อบบี้เดินเขินๆ ก่อนจะวางกระเป๋าที่โต๊ะข้างๆพร้อมหย่อนตัวนั่ง ยุนฮยองเห็นงั้นเลยลุกขึ้นไปนั่งข้างๆ พร้อมถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ
ส่วนกูจุนฮเวก็เดินหน้านิ่งบนิเวณหางคิ้วปละมุมปากยังคงติดพลาสเตอร์ลายหมีสีชมพูเมื่อเช้าอยู่ ดงฮยอกหัวเราะคิกคักก่อนจะส่งมือเรียวของตัวเองขึ้นไปจิ้มบริเวณแผล จุนฮเวสะดุ้งพร้อมถลึงตาใส่ร่างเล็กข้างๆ เรียกเสียงหัวเราะอารมณ์ดีของดงฮยอกจนจุนฮเวอดที่จะยิ้มตามไม่ได้
ทางด้านฮันบินกับจินฮวานก็ไม่รู้ไปง้อหายงอลกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ฮันบินตรงรี่นั่งซบออเซาะจินฮวาน พร้อมพ่นมุกคิดถึงเสี่ยวๆ อีกสองสามมุกจนจินฮวานทนฟังไม่ได้ลุกขึ้นเดินหนี ฮันบินจึงรีบสาวเท้าก้าวตามคนตัวเล็กไปทันที
"นี่บ็อบบี้"
"ครับ"
"ยังไม่มีแฟนใช่มั้ย…ถ้ายัง…"
"…."
"…ฉันจองนะ"
TBC <3
\(•ิ_•ิ\) (/•ิ_•ิ)/
ใครเข้าใจน้องยุนบ้าง ที่จริงยุนก็ไม่ได้แรดนะ5555555555555
แต่ค่อนข้างแรงและแซ่บ ก็แรดแหละเออ-*-
555555555555555
อย่าลืมเม้นให้เราด้วยนะเออ เงาเราโกรธ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะะ
ส่วนบ็อบใสรึเปล่าไม่รู้สิ อาจใสก็ได้
5555555555555555555555555555
♡
ความคิดเห็น