ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟรานเซร่าห์

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่2 45%

    • อัปเดตล่าสุด 2 เม.ย. 52


    ท่ามกลางซากเศษหินเศษดินทรายร่างบางนอนหายใจอย่างเป็นจังหวะใบหน้ามีเหงื่อผุดมาเล็กน้อยตามเนื้อตัวมีเศษดินทรายปกคลุมอยู่เป็นบางแห่ง

     

    อืมม์..” เสียงเบาเล็ดลอดออกจากลำคอหญิงสาวเริ่มสู้สึกตัวเพราะแสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาทางปล่องพื้นดินที่ถล่มลงมาเปลือกตาที่มีขนตางอนรายล้อมอยู่ค่อยๆขยับก่อนจะลืมตาขึ้นมาทีละนิด

     

    ที่... ที่ นี่มัน.”เสียงขาดหายไปเป็นช่วงๆเพราะพึ่งตื่นจากอาการสลบ หญิงสาวค่อยๆดันตัวขึ้นทีละน้อยใบหน้าใสที่เลอะด้วยคราบเศษดินทรายค่อยๆหันไปดูรอบๆตัวตาโตหรี่ลงก่อนจะเบิกโพลงเพราะคิดออกว่าทำไมตนจึงมาอยู่ที่นี่

     

    หญิงสาวลุกขึ้นช้าๆเพราะยังอ่อนแรงอยู่เมื่อทรงตัวได้จึงค่อยหันไปดูภูมิประเทศรอบตัว

     

    ....มืดไปหมดนอกจากตรงโพลงที่เราตกลงมานี้ที่อื่นมืดไปหมดเลย....

     

    หญิงสาวคิดพลางก้มลงมองดูสภาพตัวเอง เมื่อพบว่ามีสิ่งหนึ่งที่นำติดตัวมาด้วยหายไปจึงหันไปสำรวจรอบๆเพื่อหาสิ่งของนั้นหญิงสาวล้วงมือเข้าไปในเป้ที่ห้อยอยู่ข้างตัวก่อนจะนำสิ่งนั้นออกมา

     

    คทาสีขาวล้วนไม่มีลวดลายอะไรเพียงแต่ส่วนหัวของคทามีลูกแก้วสีฟ้าติดขนาดเท่าครึ่งของกำปั้นอยู่ภายในลูกแก้วสีฟ้านั้นเหมือนเป็นเมฆหมอกหมุนวนอยู่ในนั้นบางครั้งก็หยุดนิ่งแล้วกลับมาหมุนมีวนภายในลูกแก้วต่อไปคล้ายกับเป็นสิงมีชีวิตอาศัยอยู่ภายในนั้น

     

    ร่างบางเดินฝ่าความมืดเข้าไปฉับพลันที่คทาพ้นความมืดเข้าไปก็เปล่งแสงสีฟ้านวลตาออกมาพอทีจะเห็นหนทางข้างหน้าได้ เมื่อแสงส่องกระทบสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าร่างบางก็มองเห็นหนทางที่ลึกเข้าไป

     

    ....คงเป็นถ้ำหรือทางลับสินะ....

     

    ร่างบางคิดก่อนสายตาจะไปสะดุดที่ของสิ่งหนึ่ง สะท้อนแสงนิดๆอยู่พื้นไม่ห่างจากตัวเธอมากนัก รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าก่อนจะรีบเดินไปหยิบสิ่งนั้น

     

    เป็นจี้ขนาดพอกำหลวมๆในกำมือได้ภายในจี้เป็นรูปของสตรีและบุรุษคู่หนึ่งยืนคู่กันและเด็กสาวตัวเล็กยืนจับมือทั้งสองไว้ใบหน้ายิ้มแฉ่ง รูปครอบครัวของเธอ

     

    ร่างบางหยิบสิ่งของใส่กระเป๋าด้วยใบหน้าโล่งใจพลางหันไปมองทางข้างหน้ามันเป็นหนยาวลึกเข้าไปหญิงสาวตัดสินใจเดินตามทางเข้าไปเพื่อลองสำรวจดู ในระหว่างที่เดินลึกเข้าไปเรื่อยหญิงสาวสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายบางอย่าง ทำให้หญิงสาวเกิดความอยากรู้อยากเห็นเพิ่มมากขึ้น ร่างบางรีบเร่งฝีท้าวเดินเร็วขึ้น และเริ่มสัมผัสกลิ่นอายได้มากขึ้นเรื่อยๆ

     

    มันเหมือนเป็นกลิ่นอายสองอย่างปะปนกันมาอย่างหนึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดและพร้อมๆกันอีกอย่างก็ให้ความรู้สึกกลัวเหมือนถูกดูดเข้าไปสู่ความมืดมิด ทำให้ร่างบางต้องหยุดชะงักชั่งใจว่าจะเดินต่อไปดีหรือไม่

     

    แต่แล้วความอยากรู้อยากเห็นก็ชนะต่อความกลัวหญิงสาวเดินต่อแต่ลดระดับความเร็วของฝีท้าวลงหญิงเดินเข้าไปสัมผัสของกลิ่นอายยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆก่อนจะมาหยุดตรงที่ที่เหมือนเป็นปากทางเข้าสถานที่กว้าง ซึ่งบริเวณนั้นมีกลิ่นอายคละคลุ้งไปทั่ว สัมผัสกลิ่นอายต่างขั้วแต่ปะปนกันทำให้หญิงสาวเริ่มคลื่นไส้

     

    มีคนมาหรือนั่น

     

    เสียงๆหนึ่งดังขึ้นทำให้หญิงสาวสะดุ้งพลางเงี่ยหูฟังดีๆเผื่อตนจะได้ยินเสียงแว่วไปเองเมื่อไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกหญิงสาวก็ก้าวเท้ามายังที่ๆคิดว่าเป็นตรงกลางสถานทีนั้นแสงไฟจากคทาส่องไปทั่วทิศแต่ก็ไม่เห็นอะไรมากนักเพราะเหมือนจะเป็นห้องกว้างมีเพียงพื้นเดินเท่านั้นที่หญิงสาวมองเห็น

     

    เจ้ามาทำอะไรที่นี่หน่ะ

     

    เสียงเดิมดังขึ้นอีกครั้งคราวนี้ร่างบางแน่ใจเลยว่าไม่ใช่เสียงแว่วแขนเล็กยกคทาส่องไปทั่วทิศเพื่อมองหาต้นตอของเสียงนั้น

     

    ข้าถามแล้วยังไม่ตอบอีกนะเจ้าหน่ะ ไม่มีปากรึไงเสียงดังมาจากด้านหน้าทำให้ร่างบางเดินหันไปดูรอบข้าง หันควับกลับมาอย่างรวดเร็ว

     

    นะ..นั่นใครนะเสียงตะกุกตะกักของร่างบางเอ่ยออกมาค่อยๆเดินเข้าไปในที่ๆตนได้ยินเสียงมาแสงไฟส่องไปด้านหน้าตอนแรกกเห็นเพียงแต่พื้นดินรอบๆแต่เมื่อเดินไปเรื่อยก็เห็นเป็นท้าวคู่หนึ่ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×