ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UF Online

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 1 ส.ค. 53


    ทุ่งหญ้าสีเขียวอ่อนแซมไปด้วยใบหญ้าสีเหลืองลมอ่อนๆพัดเอาปลายใบหญ้าพลิ้วไสวไปมาเป็นแถวแสงอาทิตย์ในตอนกลางวันที่ไม่แรงมากนักส่องสะท้อนใบหญ้าเป็นประกายท่ามกลางทุ่งหญ้านั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ลมเบาๆที่พัดทำให้ปลายชุดสีเทาอ่อนและปลายผมที่ยาวประบ่าปลิวตามแรงลมนิดๆ เบื้องหน้าเขาปรากฏเป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งที่ลำตัวเป็นแพะแต่ตั้งแต่โคนหางของมันลงมาปรากฏเป็นตัวอสรพิษส่วนหัวของมันกลับเป็นราชสีห์ ไคมิร่า

     

    นัยน์ตาสีอำพันของมันจ้องชายหนุ่มเบื้องหน้าเช่นเดียวชายหนุ่มที่จ้องตอบมันมาอย่างไม่เกรงกลัว ฉับพลันที่ลมอ่อนนั้นเริ่มจ่งหายประกายของมันก็แข็งกร้าวขึ้นมันอ้าปากออกทำให้เห็นเขียวอันแหลมคมที่ซ่อนอยู่ภายในแต่ไม่น่าตกใจเท่ามีก้อนลูกไฟขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากลำคอของมัน ตรงไปยังชายหนุ่ม อย่างรวดเร็ว

     

    ทันทีที่ลูกไปจะไปถึงชายหนุ่มเขากลับเอี้ยวตัวหลบทันได้รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อลูกไฟที่ไม่ถูกเป้าหมายตรงไปยังต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไกลๆเมื่อปะทะกันเกิดเป็นเสียงระเบิดอันดังขึ้นมาทันทีบอกถึงอานุภาพของลูกไฟนั้น แต่เสียงระเบิดไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มเกรงกลัวแต่อย่างใดเขากลับมาอยู่ในท่าเตรียมสู้ในมือปรากฏเป็นดาบขนาดเหมาะมือของเขาก่อนที่เขาจะเงื้อมือฟันไปใส่ไคมิร่า

     

    แต่อสูรอย่างมันหรือจะอยู่เฉยมันกระโดดถอยหลังออกจากวิถีของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วก่อนจะกระโจนเข้าใส่ชายหนุ่มอีกครั้งอุ้งเท้าที่เต็มไปด้วยเล็บแหลมคมตะปบลงบนตัวของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว แต่มันง่ายดายทีจะหลบสำหรับชายหนุ่มเขากลับยกดาบขึ้นบังไว้

     

    ปึก!

     

    เสียงกระทบดังขึ้นทันทีที่อุ้งเท้าของไคมิร่าสัมผัสกับดาบ อสรพิษหางของเจ้าสัตว์ร้ายที่รอท่าอยู่แล้วฉกลงบนร่างของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วเป็นเวลาเดียวกับที่ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาและกางฝ่ามือไปที่หัวของอสรพิษในมือบังเกิดเป็นออร่าสีน้ำเงินขึ้นมาทันที

     

    "ฟรีส"

     

    ถ้อยคำเบาๆดังออกมาจากปากของชายหนุ่มออร่าสีน้ำเงินเข้มกลายเป็นน้ำแข็งเข้าปะทะกับหัวอสรพิษทันที ในทันทีหัวของอสรพิษสัมผัสกับออร่าน้ำแข็งของชายหนุ่มออร่าน้ำแข็งก็ขยายไปสู่ตัวของมันอย่างรวดเร็ว เสียงคำรามดังออกมาจากหัวราชสีห์ของไคมิร่าในทันทีลูกไฟก้อนใหญ่ออกมาตามเสียงเข้าสู่ใบหน้าของชายหนุ่ม เขาร้องออกมาแทบไม่ทัน

     

    เฮ้ย!

     

    ตูม!!

     

    โอ๊ย!!

     

    เสียงร่างของเด็กหนุ่มตกกระทบกับพื้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงร้องอย่างเจ็บปวด เด็กหนุ่มกระเด้งลุกขึ้นนั่งลูบไปตามเนื้อตัวในทันที ตามมาด้วยเสียงครวญครางและเสียงบ่น

     

    "โอย ไรวะเนี่ย เจ็บชิบเลย อูย"

     

    เด็กหนุ่มคลำไปตามเนื้อตามตัวซักพักก่อนจะลุกขึ้นมามองไปรอบๆ

     

    ห้องสีขาวออกเทานิดๆทีวีที่ยังเปิดอยู่ปลายเตียงที่อยู่ข้างหลังของเขา ภายในจอมีหนังแฟนตาซีเรื่องหนึ่งกำลังเล่นอยู่เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งกำลังกระโจนเข้าใส่สัตว์ประหลาดอะไรซักอย่าง ที่เด็กหนุ่มคิดว่าเป็นสิงโตสองหัว

     

    "ไอ้ ทีวีบ้านี่สินะทำเอาฝันเป็นเรื่องเป็นราวไปเลย"

     

    ว่าพลางลูบหัวไปมา

     

    "แถมทำให้ตกเตียงอีก"

     

    เด็กหนุ่มมีชื่อว่าเทมส์ ขณะนี้อยู่ในช่วงปิดเทอมกำลังจะเลื่อนชั้นขึ้นไปมัธยมหก เขาอาศัยอยู่เพียงคนเดียวภายในบ้านหลังไม่เล็กไม่ใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ในเขตตัวเมืองของจังหวัดใหญ่แห่งหนึ่ง ในช่วงปิดเทอมนี้เป็นช่วงที่น่าเบื่อของเด็กหนุ่มมากนอกเสียจากจะได้สนุกตอนเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา เขาก็ได้แต่ปล่อยตัวไปเรื่อยเปื่อยไปวันๆ

     

    เทมส์นั่งลงบนเตียงก่อนจะยื่นมือไปหยิบรีโมทที่อยู่ว่างอยู่ข้างๆหมอนเขากดปิดทีวีก่อนจะลุกขึ้นพลางบิดตัวไปมาสะดุ้งเป็นครั้งๆเนื่องจากยังปวดตัวจากการตกเตียงเมื่อกี้อยู่

     

    "เปิดทีวีทิ้งไว้แล้วนะเรา ฮ้าวว.." เขาเอ่ยเบาๆก่อนยกมือปิดปาก "อาบน้ำหาไรกินดีกว่า"

     

    เด็กหนุ่มเดินไปที่ประตูห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆประตูห้องของเขาแล้วเปิดประตูเข้าไปทำธุระส่วนตัว

     

    หลังจากเสร็จแล้วเขาเดินออกจากประตูห้องไปตอนนี้เขาอยู่ชุดธรรมดา เสื้อยืดขาวกางเกงยีนส์และรองเท้าแตะ คนอื่นอาจจะมองว่าแต่งตัวไม่เข้ากับฐานะของตัวเขาเองเลย เพราะเขาเป็นถึงลูกชายของเจ้าของนักธุรกิจชื่อดัง สกุล โชติยะวรรณ์ ตระกูลนักธุรกิจที่ขึ้นชื่อเรื่องการค้าขายเกี่ยวกับพวกเพชรทองเครื่องประดับต่างๆ เหตุที่เขาต้องอยู่ตัวคนเดียวก็เพราะต้องการใช้ชีวิตแบบผู้ใหญ่ที่ไม่มีพ่อแม่มาปกครอง และโชคยิ่งเป็นใจให้เขาเมื่อพ่อแม่ของเขาต้องไปทำงานที่ต่างประเทศอีก เขาจึงขอย้ายมาอยู่คนเดียวซึ่งตอนแรกพ่อแม่ของเขาก็ไม่ยอมจะให้เขาไปเรียนต่อด้วย แต่ด้วยความช่วยเหลือจากพี่ชายสุดที่รักของเขาที่เอาเหตุผลต่างๆนาๆมาอ้างพ่อแม่ เขาจึงได้อยู่เป็นอิสระเช่นนี้

     

    แต่ก็ไม่วายมีข้อตกลงมาให้เขาอยู่ตลอดคือต้องให้ติดต่อทางโทรศัพท์กับพ่อแม่ของเขาทุกวัน แต่ก็พี่ชายที่รักของเขาอีกนั่นแหละที่ยกเหตุผลมาอ้างให้

     

    "โถ่ พ่อแม่ เทมส์มันโตแล้วนะ ให้เวลาเป็นส่วนตัวมันหน่อย จะให้โทรหาทุกวันมันยังไงอยู่นะ"

     

    ประโยคนี้ของพี่ชายเขาทำให้เขารอดพ้นมาได้แต่ต้องโทรไปหาอาทิตย์ละครั้งแทน เป็นพี่ชายที่ใจดีซะจริง

     

    ด้วยหน้าตาทีจัดว่าหล่อเหลาเอาการของเทมส์ประกอบด้วยผิวพรรณดูดีมีชาติตระกูลจึงถูกสายตาคนรอบข้างอยู่เสมอๆประกอบกับเขาเป็นคนขี้อายนิดหน่อย จึงต้องหาแว่นสายตาปกติมาปิดบังใบหน้าไว้แต่ก็เหมือนไม่ได้ปิดอยู่ดีแหละ ยิ่งรุ่นน้องในโรงเรียนเห็นใส่แว่นตาแบบนี้ยิ่งกริ๊ดกร๊าดเข้าไปใหญ่

     

    เด็กหนุ่มออกจากบ้านเดินมายังหน้าปากซอยตลอดทางเจอกับคนรู้จัก ป้าข้างบ้านที่เขาเคยช่วยคนของ หรือลุงบ้านเยื้องกันที่ยังเคยดวลเหล้ากับเขา(การดื่มสุราไม่ดีต่อสุขภาพ)ต่างทักทายเขาไปตลอดทาง บวกกับที่เขาเป็นมีน้ำใจและอัธยาศัยจึงเป็นที่รู้จักในหมู่ระแวกนั้น เพราะในช่วงที่เขาย้ายมาใหม่ได้ไปทำความรู้จักผู้คนไปทั่วซอย

     

    บ้านของเขาตั้งอยู่ในซอยไม่ใหญ่มากและไม่ห่างจากถนนใหญ่มากเท่าไหร่เดินไม่นานก็พ้นซอยมาเป็นถนนใหญ่บริเวณรอบมีร้านค้าสถานที่บริการต่างๆรายล้อมอยู่ตามฉบับเมืองใหญ่ เทมส์เดินไปที่ร้านอาหารเล็กๆไม่ห่างจากปากซอยนักเมื่อแม่ค้าที่กำลังทำอาหารหันมาเจอเขาก็ยิ้มให้อย่างเอ็นดู

     

    "เอ้า วันนี้เอาข้าวมันไก่เหมือนเดิมรึเปล่า เทมส์"

     

    แม่ค้าเอ่ยระหว่างที่เทมส์กำลังจะเดินไปนั่งที่โต๊ะ "ครับ เหมือนเดิมเลยป้า"

     

    "ไม่เปลี่ยนเลยนะ กินอย่างอื่นบ้างก็ดีนะ จะได้ทานให้ครบห้าหมู่"

     

    ในระหว่างที่นั่งรอข้าวมันไก่อยู่นั้นเขาก็พบว่าเขาตกเป็นเป้าสายตาจากลูกค้าสาวๆภายในร้านนั้นทั้งหมด เขาได้แต่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือพิมพ์ที่หยิบมาระหว่างที่เดินมานั่งโต๊ะบางครั้งก็เงยขึ้นไปดูทีวีที่ตั้งอยู่กลางร้าน

     

    "หล่ออ๊ะ หล่อกว่าดาราบางคนอีกเนอะ"

     

    "ใช่ๆ"

     

    "หล่ออย่างนี้อยากได้มาเป็นแฟนจังเลยเนอะ"

     

    "บ้านอยู่แถวไหนเนี่ยถ้ารู้จะย้ายไปอยู่ข้างๆเลย"

     

    บลาๆ ซุบซิบๆๆ

     

    เสียงซุบซิบดังเข้าหูเขาเป็นระยะเทมส์จำต้องกลั้นใจนั่งอยู่ เพื่อปากท้องของตัว

     

    ปกติร้านป้าก็ไม่มีสาวเยอะขนาดนี้นี่หว่า

     

    ในระหว่างที่คิดเสียงของป้าก็ดังอยู่ด้านหน้าเขาแล้ว

     

    "เอ้า ข้าวมันไก่ อย่าพึ่งรีบกินหล่ะ นั่งอยู่นานๆก่อนก็ได้ ลูกค้าป้าจะได้เยอะๆ หึหึ"

     

    ตามด้วยเสียงแซวของป้าเจ้าของร้านทำให้เทมส์ต้องยิ้มแหยออกไปก่อนจะลงมือทานข้าวมันไก่ ในขณะที่ทานไปด้วยนั้นสายตาของเทมส์ก็เหลือบไปดูทีวีไปด้วย ทีวีตอนนั้นกำลังโฆษณาถึงเกมส์ๆหนึ่งอยู่เป็นเกมส์ออนไลน์ทั่วไปที่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากเนื้อหาในทีวีก็มีแค่ วิวทิวทัศน์ต่างๆภายในเกมส์เสียงดนตรีที่เข้ากับภาพ ก่อนจะตัดเป็นภาพตัวละครในเกมส์ที่ต่อสู้กับมอนเตอร์ แต่ที่ทำให้เทมส์สนใจคือระบบเกมส์ที่อธิบายออกมาว่าคือระบบเสมือนจริงที่ทำให้ผู้เล่นเข้าถึงภายในตัวเกมส์ และNPCที่นำระบบคนจริงมาทำหน้าที่แทน ต่างจากเกมส์อื่นๆที่NPCก็ใช้ระบบAI ที่ไม่ค่อยมีความสามารถมากเท่าไหร่ ไม่เข้าถึงตัวผู้เล่น

     

    Unlimited Fantasy Online เกมส์ที่ไม่มีวันสิ้นสุดกับระบบเสมือนจริงคุณจะรู้สึกและสัมผัสกับคำว่าแฟนตาซี ระบบเกมส์ใหม่ ที่ตามทันความต้องการของผู้เล่นเสมอ กับความฉลาดของมอนสแตอร์ภายในเกมส์ที่ไม่ได้แข็งทื่อเช่นเกมส์ทั่วไป NPC ใช้คนจริงทำงานถึง80%เกมส์ลองเข้ามาสิแล้วคุณจะรู้สึกถึงจินตนาการที่ไม่สิ้นสุด

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×