ประสบกาณ์ผีอำ - ประสบกาณ์ผีอำ นิยาย ประสบกาณ์ผีอำ : Dek-D.com - Writer

    ประสบกาณ์ผีอำ

    การเจอเรื่องลี้ลับลึกลับ หลายคนอาจจะไม่เชื่อ เห็นว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล แต่พนันได้เลยว่า ไม่มีใครไม่เคยเจอ หรือไม่เคยรู้สึกแปลกใจกับเหตุการณ์บางสิ่งบางอย่าง อย่าว่าแต่คนไทยเลยที่มีความเชื่อแบบนี้ ฝรั่งเองที่ไม่ได้มีความความเชื่อรเองผี ยังโดนผีอำ ยังมีเหต

    ผู้เข้าชมรวม

    221

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    221

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 ก.ย. 54 / 11:44 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผีอำ

       

      เป็นประสบการณ์ที่หาคำอธิบายไม่ได้อย่างหนึ่ง และก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลมากๆ ประมาณว่าใครไม่เจอด้วยตัวเอง อาจจะไม่ค่อยเชื่อนะ

       

      ที่จิงก็ไม่ค่อยอยากเรียกว่าผีอำมากนัก  เพราะมันฟังดูแล้วจะเหมือนกับอาการหลับ ฝันครึ่งหลับครึ่งตื่น เส้นยึด ขยับแขนขาไม้ได้ แล้วรู้สึกผวากลายเป็นเรื่องที่น่ากลัวไป

       

      พจนานุกรม ได้นิยามคำว่า ผีอำไว้ว่า ก. อาการที่ปรากฏเมื่อเวลานอนเคลิ้มไปว่ามีคนปลุกปลํ้า หรือยึดให้มีอาการเหนื่อยหอบจนตื่นขึ้น ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า incubus แต่สำหรับเรา ขอเรียกเหตุการณ์ ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นแบบนี้ว่า ภาวะคุกคามและไม่เป็นมิตร

       

      ถ้าใครชอบดูรายการผี อ่านหรือฟังเรื่องรามเกียวกับผีๆ หรือประสบการณ์ตรงจากตัวเอง เคยสงสัยบ้างมั้ยว่า รู้แบบของการเจอผีมันจะคล้ายๆกัน คือ เสียงนู้นนี่หล่น ห้องน้ำ บานประตู เสียงต่างๆ หรือจะมาปรากฏเป็นเงา เป็นตัวๆ แว๊บๆ หรือในภาพถ่ายบ้าง คลิปบ้าง  และอาการของการอำหรือที่เรามักรู้กัว่านั่งทับ นอนทับ กดทับ กดแขนกดขา 

       

      จากตำราในหลายเค้าก้พยายามอธิบายว่า การมาปรากฎหรือสร้างภัยคุกคามให้เรากลัวในรูปแบบในรูปแบบนึง (อันนี้ไม่รวมการเข้าฝันนะ เพราะมันแปรผลยากอย่างมีนัยสำคัญ สมองเราอาจสร้างเรื่องราว เชื่อมโยงความสัมพันธ์เอาเองได้) จะมาเพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน เบสิคเลยคือ

      1. การมาขอส่วนบุญ

      2.ถัดมาสำหรับคนที่เดินทางบ่อยมักเจอคือ เจ้าที่แรงต้องแย่งซีน (ผีมักชอบคนที่มาใหม่ อืม หรือบางที่คนที่มีบ้านมีผีอยู่แล้วอาจรู้วิธีที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข) ในรูปแบบนี้อาจจะไม่เป็นมิตรมากเท่าไหร่ ประมาณว่าเรมานอนมาอยู่ในที่ของเค้า ก็หลอกหลอนเราซักเลย

      3. ผีที่ตามตัวเราเอง หรือเป็นเจ้ากรรมนายเวร ผีพวกนี้อยู่กับตัวเราอยู่แล้ว รอวัน รอเวลาที่จะแก้แค้น ส่วนรูปแบบการแก้แค้นนั้นไม่แน่ใจว่าการมาอำ นี่เข้าข่ายรึป่าว เพราะว่าการคุกคามแบบนี้น่าจะเป็นขาจรมากกว่า ..... และก็มีคำอธิบายนึงสำหรับเจ้ากรรมนายเวร บางคนสงสัยว่าเราอยู่ที่นึงมีชีวิตสุขสบายดี แต่ทำไม่เราย้ายที่แล้วทำไมถึงเจอแต่เรื่องไม่ดี นั่นเป็นเพราะว่าบางทีวาระของกรรม มันจะเป็นตัวนำเป็นตัวชักพาให้เราไปพบไปเจอกับเจ้ากรรมนายเวรที่ยังไม่ได้เจอ (หมายถึงทั้งที่เป็นคนและไม่ใช่คนนะ)

      4. เป็นเรื่องของ ลมเพลมพัด ที่ทำให้เราต้องมาอยู่ผิดที่ผิดทาง และก็อาจเจอเรื่องไม่ดี หรือมีภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆได้

       

      การเจอเรื่องลี้ลับลึกลับ หลายคนอาจจะไม่เชื่อ เห็นว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล แต่พนันได้เลยว่า ไม่มีใครไม่เคยเจอ หรือไม่เคยรู้สึกแปลกใจกับเหตุการณ์บางสิ่งบางอย่าง อย่าว่าแต่คนไทยเลยที่มีความเชื่อแบบนี้ ฝรั่งเองที่ไม่ได้มีความความเชื่อรเองผี ยังโดนผีอำ ยังมีเหตุการณ์ผีหลอกวิญญาณหลอนได้เหมือนกัน อันนี้ไม่ได้บังคับใครให้เชื่อ แต่เราของโหวตและบอกว่า เรื่องลึกหลับ สิ่งเหนือธรรมชาติ ความแต่กต่างของมิติในโลกนี้มีจริง

       

      จากที่เขียนเล่าเรื่องราวประสบการณ์ของสิ่งเหนืออำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ไปบ้างแล้วในซีรีส์”ในมื่อผีมีจริง”  วันนี้ก็ขอเล่าข้อมูลของสิ่งที่เรียกว่าผีอำ ที่ได้เจอมากับตัวเอง ชัดเจน ไม่ได้ฝัน ไม่ได้ละเมอ และไม่ได้เส้นยึดให้ฟังกันบ้าง

       

      เริ่มจากเรื่องแรก เมื่อประมาณ 7-8 ปีก่อน สมัยเรียนปีหนึ่งอยู่ที่ ศาลายา (ตอนนั้นยังไม่ค่อยเชื่อว่าผีมีจิงเท่าไหร่นัก บวกกับคิดว่าเด้กบ้านนอกธรรมดา unknown people คนธรรมดาอย่างเรา คงไม่ได้เจอผีหรอก เหอๆ คิดว่าขนาดผียังไม่ให้ความสำคัญ) ก็เลยท้าทายและไม่คิดว่าผีจะมีจิง จนเมื่อมีเมทซึ่งเรียนพยาบาล ได้เรียนวิชาอนาโตมี ที่ต้องเรียนกะอาจารย์ใหญ่ ก็โดดเรียนวิชา music appliciation ของตัวเองเพื่อที่จะไปดูอาจารย์ใหญ่ด้วย

       

      เด็กพยาบาลเค้าเข้าไปก็ยกมือไหว้ ให้ความเคารพอาจารย์ใหญ่ บางคนก็เอาพวงมาลัยไปไหว้ แต่เราก็ไปก็เดินอาดๆ ไม่คิดว่าเป็นศพหรืออะไร คิดว่าเป็นแค่สื่อการเรียนการสอนอย่างหนึ่ง ถามกลิ่นฟอร์มาลีน และสภาพของร่างก็ทำให้เอาเกิดอาการรังเกียจ เดินๆไป ก็รีบๆดูเร็วๆ ว่าเป็นยังไงมีอะไรบ้าง และก็พูดด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ ออกมาดังๆว่า “เฮ้ออออ ไม่เห็นมีไรเลย” แล้วก็บอกลาเพื่อน กลับมานั่งเรียนวิชาของตัวเอง

       

      ตอนนั้น ไม่คิดไร ไม่รู้สึกไร จนกลับมานอนคืนนั้น ฝันว่าว่าเห็นผู้หญิงยืนอยู่ที่เตียง และเห็นป้ายชื่อที่เตียงแล้วก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา ในทางที่นอนหงาย มือนึงวางอยู่ที่ท้อง และก็รู้สึกว่ามืออะไรพาดอยู่ที่คอ ก็นึกว่าเป็นผ้าห่ม รู้สึกอึดอัด ก็พยายามจะเอาผ้าห่มออก ก็รู้สึกว่าเป็นแขนมาพาดอยู่ ก็เลยดึงออกมา แล้วก็รู้สึกว่า มือตัวเองอีกข้างนึงยังอยู๋ที่ข้างตัว ..... แล้วไอ่แขนที่พาดอยู่ที่คอเมื่อกี่มันแขนใคร?????  เลยลุกพรวดจากเตียงสองชั้น กระโดดเพียงก้าวเดียวถึงชั้นล่าง แล้วรีบเปิดไป และก็ไปนอนเบียดกับเมทอยู่เป็นอาทิตย์โดยที่ไม่กล้าไปนอนเตียงตัวเอง

       

      ตอนเช้าก็เลยบอกเพื่อน แล้วก็ถามว่าอาจารย์ใหญ่เพียงที่เพื่อนเรียนเป็นผู้หญิงมั้ยเค้าก็บอกว่าใช่  ก็กล่าวขอขมาเค้า และก็เจอเหตุการณ์อย่างนั้นเพียงครั้งเดียว

       

       

       

      เรื่องแรกผ่านไป เค้าคงไม่อะไรมาก แค่อยากจะมาเตือน มาสั่งสอนไอ่เด็กคะนองคนนึง ให้รู้จักมีสัมมาคารวะบ้าง เรื่องนี้สองนี่ก็ เป็นการเตือนการทักทาย ฉันมิตร(มั้ง) อื้ม แต่เรื่องนี้มันจะเกี่ยวกันกับอีกหลายเรื่อง เกี่ยวกับสิ่งแย่ๆในชีวิตเราอีกหลายอย่างด้วย  อาจจะเข้าข่ายของวาระกรรม ที่นำให้ได้มาพบมาเจอพอดี  แต่อย่างที่บอกว่าเรื่องมันยาว ขอเล่าจะเรื่องของ ผีอำ อย่างเดียวก่อนล่ะกัน

       

      เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ 4 ปีกว่ามาแล้ว ช่วงงานกาชาดของปี 2550 ก็ได้ไปเที่ยวงานกาชาดกะเพื่อนคนนึงจนกลับมาดึกดื่นเที่ยงคืน ก็เลยนอนค้างคืนที่ห้องเพื่อนคนนั้น ซึ่งเพื่อนมันก้เล่าให้ฟังอยู่ว่าที่ห้องของมันมักมีเรื่องอะไรแปลกๆ เหอๆ บอกแล้วว่าตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยเชื่อ ไม่ค่อยคิดว่าผีจะมีจริง หรือคนอย่างเราจะโดนผีหลอก ก็ไม่ได้อะไร ไม่ได้คิดไรเหมือนเดิม และอีกอย่างก็เคยไปนอนหลายครั้งแล้วก็ไม่เคยเจออะไร

       

      ห้องเพื่อนห้องนี้มันอยู่กันสามคน มีสองคนนอนบนเตียง อีกคนนึงปูฟูกนอนข้างล่าง ปกติถ้าไปนอนก็จะนอนข้างล่างกับคนที่ปูฟูกนอน ก็นอนหลับสบายดี แต่พอดีวันนั้น เมทคนนึงที่นอนบนเตียงไม่อยู่ เราเลยขึ้นไปนอนบนเตียงแทน และก็แปลกมาก ที่คืนนั้นทั้งคืนนอนไม่หลับเลย ทั้งที่ไปเดินช๊อปมาทั้งคืนเหนื่อยมาก  

       

      ก็นอนพลิกไปพลิกมาจนถึงราวตีห้า เพื่อนคนที่นอนข้างล่างต้องลุกไปทธุระตั้งแต่เช้า พอเพื่อนมันลุกไปอาบน้ำเราเลยลงมานอนข้างล่างแทน ก็ลงมานอนยังไม่ทันหลับ ได้ยินเสียงว่าเพื่อนออกจากห้องไป ซักพัก ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงหัวเราะอยู่ข้างหู หัวเราะเสียงแหลม น้ำสียงประมาณว่าสะใจ เยาะเย้ย แล้วตัวเราก็ขยับไม่ได้ ตกใจกลัวมาก ก็พยายามดิ้น สวดมนต์นู้นนี้นั้นเท่านี่นึกออก แล้วก็พยายามคุยกับเค้าให้ปล่อยๆ จำได้ว่าพยายามดิ้นนานมาก แล้วในที่สุดก็หลุด แล้วก็ลุกขึ้นมานั่ง

       

      ตอนนั้นเป็นเวลาหกโมงเช้า ฟ้าเริ่มสว่างเล็กน้อย เพื่อนที่ยังนอนอยู่บนเตียงก็ยังไม่ตื่น จะกลับหอก็กลับไม่ได้ จะนอนต่อก็ไม่กล้า ก็เลยเดินไปเดินมา อยู่พักนึง พอเริ่มมีแสงบ้างเลยตัดสินใจนอนอีกครั้ง เพราะง่วงมาก ไม่ได้นอนมาทั้งคืน กลัวก็กลัวแต่ก็ง่วง ทีนี้ก่อนนอนเลยพูดในใจบอกเค้าว่า ไม่ได้มีเจตนาไม่ได้ มาดี แค่มาขอนอน เด่วพอเช้าก็จะกลับแล้ว ทันทีที่พูดเสร็จหลับตานอน ก็หลับสนิทไปทันที แล้วก็ฝันเห็น ผู้หญิงสวย ผมยาว (หน้าคล้ายๆกับเพื่อนคนที่ออกไปเมื่อตอนเช้ามาก) ฝันว่านอนอยู่ แล้วเค้าก้มหน้ามาคุย เห็นแต่หน้าเค้าไม่เห็นตัว และหน้าเค้ากับหน้าเราห่างกันแค่คืบกว่าๆ  เค้ามาแบบสวยและยิ้มแย้ม ถามว่ามานอนเป็นไงบ้าง สะดวกสะบายดีมั้ย กางเกงเลยที่ในนอนโอเคมั้ย ถามประมาณเจ้าบ้านถามสารทุกข์สุขดิบของแขก เราก็ตอบไปว่าโอเค สะดวกสบายดี  เรากินง่ายอยู่ง่าย คุยกันพักนึง เราก็บอกเค้าว่า เช้าแล้วเราจะกลับแล้ว พอพูดเสร็จปั๊บก็ลืมตาตื่นขึ้นมาทั้นที แล้วก็เห็นว่าเพื่อนมันตื่นแล้ว อาบน้ำสร็จแล้วกำกลังเดินไปเดินมาอยู่ในห้อง

       

       

      อื้ม ทีนี้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วหละ ว่า ผีมีจริง เจอมาจะๆ เจอมากับตัว ทั้งเสียง สัมผัส แถมได้เห็นหน้าได้คุยกันอีกต่างหาก อื้ม แต่ก็ดีที่สุดท้ายก็เข้าใจกันได้ คุยกันด้วยมิตรไมตรี (แต่ไม่รู้เค้าติดใจอะไรกับเรา หรือสื่ออะไรกับเราได้รึป่าว ยังมีเหตุการณ์ที่ตามมาอีกเยอะเลย)

       

       

       

      มาถึงเรื่องสุดท้าย แต่มีสองครั้ง ในระยะเวลาสองเดือน ณ ที่แห่งเดียวกัน ไม่แน่ใจว่าเกิดจากการกระทำของผีตนเดียวกันหรือป่าว แต่อย่างแรกต้องบอกก่อนเลยว่า เราไม่ค่อยหรือแทบไม่เคยสวดมนต์ก่อนนอนมาก่อนเลย ที่จริงมาจากสองสาเหตุหลักที่สำคัญพอๆกันคือ ความขี้เกียจ ม่ใส่ใจ ไม่ให้ความสำคัญ เนื่องจากไม่เชื่อว่าผีมีจริง กับพอสวดมนต์ แผ่เมตตาทีไรมักจะนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย เหมือนมีอะไรมาวุ่นวาย ก่อกวนอยู่ตลอดเวลา หรือไม่เวลากหลับก็จะฝันร้าย ผวาตื่น หรือรู้สึกไม่ดีเสมอ จึงไม่ค่อยสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนเหมือนอย่างชาวบ้านเค้า

       

      แต่เนื่องด้วยต้องมาทำงานต่างถิ่นและอยู่คนเดียว และช่วงหลังมานี่เริ่มเชื่อในเรื่องลี้ลับทางวิญญาณมากขึ้น การสวดมนต์ สร้างบารมีและแผ่เมตตาก็ถือเป็นเรื่องที่สร้างกำลังใจ ให้ความสบายใจได้อย่างนึงว่าเราจะอยู่รอดปลอดภัยในต่างถิ่นนี้คนเดียวได้ ก็เลยเริ่มสวดมนต์ตั้งแต่วันแรกที่มาอยู่

       

      อยู่ๆไปก็ไม่มีไรเกิดขึ้น เหอๆ ไอ่กิ่งเริ่มขี้เกียจเหมือนเดิม ประกอบกับเหนื่อยมากแต่ละวัน หัวถึงหมอนก็หลับสนิทศิษญ์ส่ายหน้ากันเลยที่เดียว ก็สวดบ้างไม่สวดบ้าง จนไม่ได้สวดมาหลายวัน จนวันนั้น เป็นอะไรไม่รู้ปกติ 4-5 ทุ่มก็หลับแล้ว แต่วันนั้นนอนไม่หลับเลย รู้สึกร้อนๆกระวนกระวายแปลกๆ ก็เลยนอนดูทีวีคุยกะเพื่อนไป แล้วก็ถามเพื่อนว่าพรุ่งนี้วันหยุดจะไปไหน เพื่อนบอกว่าวันพระจะไปทำบุญ ก็ไม่ได้คิดอะไร ที่จริงก็อยากทำแต่มาอยู่นี้เดินทางไม่สะดวกก็ไม่รู้จะไปยังไง พอวางสายจากเพื่อนประมาณตี 3  ก็คิดว่าจะเริ่มนอนละ (แต่ยังเปิดไปเปิดทีวีอยู่)

       

      ยังไม่ทันหลับ ก็ได้ยินเสียงอู้อี้ๆอยู่ข้างหู ก็เริ่มพลิกตัว ส่ายหัว เราเป็นอะไร นอนดึกแล้วหูอื้อ หรืออะไร หรือกำลังโดยมนุษย์ต่างดาวลักพาตัว ระหว่างที่พลิกตัวและพยายามลืมตาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นเงาสีดำยืนอยู่ข้างเตียงกระโดดพาดลงกลางตัว อืม ทีนี้รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น process หลังจากนั้นก็เหมือนเดิม สวดมนต์ แผ่เมตตา บอกให้ออก รอบนี้ดิ้นมาก โกธรมา ถึงขั้นตะโกนเป็นภาษาอังกฤษว่า leave me alone, get out of my room และที่แน่ใจมากว่าไม่ได้ฝันไปคือ ทีวียังเปิดยังได้ยินเสียงหนังที่กำลังเล่น ทุกบททุกตอน

       

      หลังจากเหตุการณ์คืนนั้น ก็สวดมนต์ชุดใหญ่มาตลอด จนนานๆเข้า งานเข้าเยอะๆ ก็เริ่มลดบางบทที่มันยาวๆออก แต่ก็ยังสวดชินบัญชรและแผ่เมตตาตาตลอด จนเมื่อวันก่อน ตากแดดตากแอร์มาทั้งวันเลยทำให้ปวดหัว กินยาไป ก็เหนื่อยๆ ก็เลยนอนเลย แต่ก็กราบหมอนสามที โดยที่ไม่ได้สวดต์มนต์ใดๆ นอนประมาณเที่ยงคืน ราวตีสองก็รู้สึกตัว ว่าทำไมที่นอนที่มันอยู่หัวนอนยุบไปสองที (เราเป็นคนตื่นง่าย ใครพลิกตัว หรืออะไรก็จะตื่น) อืม ที่นอนยุบ ถ้าคิดในทางสร้างสรรหน่อย ใครเลี้ยงหมา นอนหมาอาจขึ้นมานอนบนหัวเรา  หรือนอนๆอยู่อยู่นี้ อาจจะมีหนูขึ้นมาบนที่นอน แต่ในระหว่างที่รู้สึกว่าที่นอนยุบ ยังสงสัยวามันเกิดอะไรขึ้น คำตอบมันก็ตามมาทันที

       

      อันนี้มองไม่เห็นนะ แต่ความรู้สึกคือ มีมวล มีพลังงานอยู่ด้านหัวนอน แล้วส่งผ่านข้ามหัวเรามาจับแขนสองข้างเราไว้ จินตนาการว่าถ้าเราเป็นคนตาบอด เป็นเวลากลางวัน อยู่ด้วยกันหลายคน เราคงคิดว่ามีใครมานั่งที่หัวนอนแล้วเอามือมากดแขนเราไว้

       

      อื้ม ที่นี้ก้ไม่ต้องสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เอาอีกแล้วกรู โดนอีกแล้ว ไม่ได้สวดมนต์แค่วันเดียว มาทันทีทันควันเลย สิ่งแรกที่บอกคือ อย่าเบียนเบียนอย่ามีเวรมีกรรมซึ่งกันและกันเลย ก็ไม่ยอมปล่อย อย่างที่สองคือ นึกถึงพระพุทธองค์ด้วยการสวดอิติปิโส ก็ไม่ยอมปล่อยอีก สุดท้ายก็มาที่บนสวดชินบัญชร ชินบัญชร มาจากคำว่า ชิน ซึ่งแปลว่า ผู้ชนะ อันหมายถึงพระชินเจ้าหรือพระพุทธเจ้า และคำว่า บัญชร ซึ่งแปลว่า กรง ลูกกรง ซี่กรง รวมกันเป็นชินบัญชร ซึ่งเป็นประดุจแผงเหล็กหรือเกราะเพชรที่แข็งแรง สามารถปกป้องคุ้มกันอุบัติภัย อันตรายและศัตรูหมู่มารทั้งปวงได้  ถ้าใครดูหนังเรื่องแฮรรี่ ก็ประมาณ “เอกเปกโตร ปาโตรนุม”  หรือคาถาผู้พิทักษ์ เป็นคาถาแห่งการป้องกัน (การสวดก่อนนอนทุกวันทำให้เราจำได้ไปเองโดยอัตโนมัติ)  อืม คราวนี้ไม่ดิ้น ไม่พยายาม นอนสวดนิ่งๆไป (เพราะวันนี้ไม่สบาย เหนื่อยมาก) ในที่สุดก็รู้สึกว่าสิ่งที่มากดแขนเราอยู่ค่อยๆแคลายทีละแขน และในที่สุดก็ลุกขึ้นมานั่ง แล้วก็เล่นเฟสบุค เล่นเกม ไม่กล้านอนทั้งคืนจนถึง ตีสี่กว่าจึงนอนอีกครั้ง

       

      อื้ม สองครั้งในที่เดียวกันเวลาห่างกันไม่ถึงเดือน แถมเกิดขึ้นในวันที่ไม่ได้สวดมนต์ใดๆ ไม่รู้จะตีความหมายว่ายังไง เค้าอยากได้ส่วนบุญวันไหนเราไม่ได้แผ่ให้เราเลยมาทำให้เรากลัว มาทำร้าย มาคุกคามเรา หรืออีกอย่างคือ เค้าเราเวลาที่จะทำร้ายจะคุกคามเราอยู่แล้ว แต่ตราบใดที่เรายังสวดมนต์ กำหนดจิตชินบัญชร ไปรอบๆตัว รอบๆห้อง เค้าเลยยังทำไรเราไม่ได้ 

      ที่แปลกกว่านั้นคือ เพิ่งจะมาเป็นที่นี่ ทั้งที่หอนี้เป็นหอใหม่สดๆร้อนๆไม่เคยมีประวัติอะไร และที่แปลกกว่านั้น คือตลอดเวลาสองเดือนกว่าที่มาอยู่ที่นี่ ทุกครั้งที่เราเริ่มสวดมนต์จะได้ยินเสียงคนเดินและมาเปิดประตูห้องไหนซักห้องตลอด ทั้งที่เรานอนไม่เป็นเวลา ตั้งแค่สองสามทุ่ม จนบางทีก็ดีสองตีสาม เป็นแบบนี้ทุกวันจนเริ่มแปลกใจว่าทำไมมันต้องกลับตรงเวลาที่เราสวดมนต์ทุกครั้ง แต่ก็ไม่เคยออกไปดูเลย (กลัวออกไปดูแล้วไม่เจอคน เหอๆ)

       

      เรื่องราวของการถูกผีอำ สองครั้งแรกมีบทสรุปและคำตอบในตัวของมัน แต่สองครั้งสุดท้ายที่ไม่รู้ว่า what do u want? เราต่างคนต่างอยู่ เกื้อกูลกัน อย่าเบียดเบียนกันได้มั้ย มีอะไรก็คุยกันตรงๆ แต่อย่ามาปรากฎให้เห็น อย่าทำร้าย อย่าคุกคาม เข้าฝันมาดีๆ หรือสื่อมาทางคนอื่นที่รับร็ได้ให้เข้าใจตรงกัน ขอให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ถ้าทำอะไรไม่ดีหรือผิดพลาดไปก็ขออภัย ขอขมามา ณ ที่นี้ด้วย

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×