คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter2
Chapter2
“สวัสดีค่ะเมื่อคืนหลับสบายดีไหมคะ” คุณหมอสาวทักทายคนไข้ที่กำลังเดินเข้ามา
“ก็ดีมั้งคะ” น้ำตอบอย่างเขินอายเพราะเมื่อคืนเธอเผลอหลับคาโทรศัพท์ทั้งๆที่ยังถือสายอยู่นะสิ
“วันนี้เราไปนั่งเล่นที่ระเบียงกันดีกว่าค่ะ น้ำจะดื่มอะไรไหมคะ” คุณหมอสาวเดินไปตรงเคาเตอร์เพื่องชงเครื่องดื่ม
“ชาร้อนสักถ้วยก็ดีค่ะ” เพื่อไม่เป็นการเสียน้ำใจคนไข้จึงตอบรับไป
ลมเย็นๆริมระเบียงทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ได้ยืนมองตึกราวบ้านช่องและท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ทำให้ทอดสายตาไปไม่สุดนั้นรู้สึกดีจริง
“หมอเอมคะ” อยู่คนนไข้ก็เรียกคุณหมอที่อยู่ข้างกายขึ้น
“คะ” คุณหมอหันไปตามเสียงเรียก
“ฉันคิดว่าฉันขาดช่วงชีวิตหนึ่งไป เหมือนเวลามันผ่านไปเร็วจนฉันจำไม่ได้และฉันก็คิดว่าช่วงชีวิตที่ขาดหายของฉันช่วงนั้นมันเกี่ยวข้องกับความฝันฉันค่ะ” สายตายังคงทอดยาวไปบนท้องฟ้าไม่ได้หันมาสบตากับคู่สนทนา
“คุณเคยเกิดอุบัติเหตุไหม” คุณหมอให้ความสนใจกับข้อมูลใหม่ที่ได้รับ
“ฉันคิดว่าฉันไม่เคยนะคะ” คนไข้หันมาสบตากับคุณหมอสาว
“มันมีความเป็นไปได้ค่ะที่คนเราจะลืมช่วงหนึ่งของชีวิตไป แต่การที่จะเกิดอาการแบบนั้นคือการที่จิตใจของเราไม่อยากจะเก็บเรื่องนั้นไว้แล้วฝังมันไว้ให้ลึกที่สุดของความทรงจำ” คุณหมออธิบายถึงความเป็นไปได้
“เมื่อคืน...ในฝันของฉันไม่ได้มีเค้าคนนั้นกับฉันแค่สองคนแต่มีผู้ชายอีกคนเข้ามาด้วย” เมื่อถึงอาการของเธอแล้วน้ำจึงเล่าถึงความฝันของเธอเมื่อคืน
“หมอไม่อยากรีบเร่งน้ำนะ หมออยากให้มันค่อยๆเป็นไป ผ่อนคลายแล้วมันจะดีเองเชื่อหมอนะ” เมื่อเห็นสีหน้ากังวลของคนไข้คุณหมอจึงไม่อยากจะให้เธอขุดจิตใต้สำนึกวันนี้สักเท่าไร
“วันนี้หมอไม่อยากทำงานเลย เราไปเที่ยวกันดีกว่าน้ำปิดเทอมอยู่ใช่ไหม” เมื่อสีหน้าของคนยังดูไม่คลายกังวลคุณหมอจึงตัดสินใจชวนคนไข้ไปหากิจกรรมทำกันเพื่อผ่อนคลาย
“ทะเลลลลลลลล~” คนไข้ที่ดูเครียดไม่สดใสตอนนี้กับเหมือนเด็กน้อยผู้ที่หลงใหลทะเล
“คุณดูชอบทะเลจังนะ” เมื่อเห็นคนไข้ของตนเองสดใสคุณหมอก็รู้สึกดีไปด้วย
“ใช่ค่ะฉันชอบทะเลมากกกกก เออ...หมอคะฉันมีเรื่องที่ยังไม่ได้บอกคุณอีกเรื่องหนึ่ง” คุณหมอหันมาทางคนไข้ด้วยความสงสัย
“คือว่า...เดี๋ยวครอบครัวฉันจะตามมาด้วยนะคะ คือเขาไม่ยอมให้ฉันไปค้างที่อื่นคนเดียวน่ะค่ะ” น้ำพูดด้วยท่าทีติดขัดด้วยความอายเพราะครอบครัวของเธอยังคิดว่าเธอยังเด็กเสมอ
“อืมมม ได้สิคะไม่มีปัญหาอยู่แล้วว่าแต่มากี่คนคะ” หมอเอมไม่ติดขัด
“แค่พ่อแม่ฉันสองคนค่ะ” น้ำหันไปตอบหมอเอม
“ฉันจะได้จองห้องถูก มีคุณพ่อคุณแม่น้ำด้วยงั้นเราพักพูลวิลล่ากันดีกว่า” หมอเอมออกความคิดเห็น
“หมอเอมจองเป็นห้องธรรมดาก็ได้นะคะ พูลวิลล่ามันแพงไป” น้ำมีความเห็นที่ไม่ตรงกับหมอเอม
“ไม่เป็นไรหรอกคุณพ่อคุณแม่จะได้สบาย แล้วอีกอย่างนะตอนนี้ฉันอยู่นอกหน้าที่แล้วค่ะเรียกว่าเอมก็พอ” หมอเอมยังยืนยันกับความคิดเดิมและยังบอกให้น้ำเรียกเธอด้วยชื่อเล่นธรรมดา
“งั้นก็ได้ค่ะ...เอม” น้ำจำใจยอม
“เอมพ่อแม่ฉันมาถึงแล้วค่ะ เดี๋ยวฉันลงไปรับพ่อแม่ก่อนนะคะ” น้ำตะโกนบอกเอมที่อยู่ในห้องนอน
“น้ำเดี๋ยวเอมลงไปด้วย” ยังไม่ทันที่พูดจบเจ้าตัวก็เดินออกมา
“พ่อแม่นี่หมอเอม” เอมสวัสดีพ่อแม่น้ำ
“สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่” เอมเดินเข้าไปช่วยพ่อแม่ถือของ
“ขอบใจจ้ะหมอเอม” แม่น้ำกล่าวเมื่อเอมเดินมาช่วยถือของ
“เรียกเอมก็ได้ค่ะ” เอมกล่าวอย่างเป็นกันเอง
“น้ำจะนอนบ้านเดียวกับคุณพ่อคุณแม่รึป่าว” หลังจากเอาของของพ่อแม่น้ำไปเก็บที่ห้องนอน เอมจึงถามน้ำเพราะพูลวิลล่าจะแบ่งเป็นบ้านสองหลัง หลังหนึ่งมี2ห้องนอน ทั้งสองหลังหันหน้าเข้าหาสระว่ายน้ำ
“ค่ะฉันนอนบ้านนี้ก็ได้” น้ำจึงเดินเอาของเข้าไปเก็บ
โต๊ะอาหารขนาดกลางถูกจัดตั้งริมระเบียงพร้อมเตาย่างบาร์บีคิว
“มีอะไรเยอะแยะเลยเนี่ย พ่อชักหิวแล้วสิ” พ่อน้ำเดินออกมายังโต๊ะอาหาร
“นั่งก่อนเลยค่ะคุณพ่อ เดี๋ยวเอมย่างกุ้งให้นะคะ” เอมที่กำลังยืนย่างอาหารอยู่หันมาหาพ่อน้ำที่กำลังเดินดูอาหาร
“พ่อนั่งเร็วๆเดี๋ยวน้ำตักให้” น้ำที่เพิ่งเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารเดินหยิบจานมาตักอาหารให้ผู้เป็นพ่อ
“ให้ไวเลยให้ไว พ่อหิวแล้ว” พ่อลูกหยอกล้อกัน
“อ่ะนี่ค่ะ อ้าวแม่มานั่งเร็ว” น้ำเรียกแม่ที่กำลังเดินมา น้ำเดินไปตักอาหารให้แม่รอเอาไว้
“วันนี้บริการดีจริงนะ” แม่หยอกลูกสาว
“เอมน้ำช่วย” น้ำเดินมาช่วยเอมหน้าเตาย่าง
“อ่ะนี่จานนี้เสร็จแล้วเอาไปให้คุณพ่อคุณแม่น้ำก่อน” เอมยื่นจานที่มีบาร์บีคิวและอาหารทะเลให้น้ำแล้วตัวเองก็ยืนย่างต่อ
“พ่อแม่บาร์บีคิวมาแล้ว” น้ำวางจานลงบนโต๊ะ
“ไปเรียกหนูเอมมากินด้วยกันสิ” พ่อบอกกับน้ำ น้ำพยักหน้ารับแล้วเดินกลับไปหาเอม
“เอมพ่อบอกให้ไปนั่งกินได้แล้ว” น้ำเดินไปยืนข้างเอมเหมือนเดิม
“ค่ะๆๆอีกแปบเดียวจะเสร็จแล้วน้ำไปนั่งก่อนก็ได้” เอมบอกกับน้ำ
“ดูสิเนี่ยอยู่หน้าเตาเหงื่อออกเต็มเลย” น้ำเอาแขนเสื้อแขนยาวของตัวเองซับเหงื่อให้เอม
“ขอบคุณค่ะ อ่ะเสร็จแล้วไปนั่งกันดีกว่า” เอมยิ้มขอบคุณแล้วยกจานอาหารไปที่โต๊ะ
“อาหารอร่อยไหมคะคุณพ่อคุณแม่” เอมนั่งลงข้างน้ำตรงข้ามกับแม่น้ำ
“อร่อยมากเลยจ้ะ” แม่น้ำตอบ
“อ่ะเอมน้ำให้ ค่าเหนื่อยหน้าเตา” น้ำยื่นกุ้งที่แกะแล้วให้เอม
“ขอบคุณค่ะ อร่อยอ่ะน้ำ” เอมกินกุ้งที่น้ำให้อย่างเอร็ดอร่อย
“เอมอายุเท่าไรแล้วลูก” แม่น้ำถามขึ้น
“22ค่ะคุณแม่” เอมตอบ
“อายุ22เองเรียนจบเร็วนะเนี่ยแถมเป็นหมออีก เก่งจริงๆ” แม่น้ำชื่นชมทำให้เจ้าตัวเขินอาย
“แม่ลูกนี่พูดเหมือนกันเลยนะคะ” น้ำเคยถามคำถามนี้กับเธอแล้วและเธอก็ให้คำตอบไปและก็ได้ยินคำชมที่เหมือนกันของสองแม่ลูก
“น้ำเรียนให้ได้แบบหนูเอมบ้างสิ” พ่อเหน็บแนมลูกสาวตัวเอง
“พ่อน้ำก็ตั้งใจเรียนอยู่” น้ำอดที่จะพูดอย่างน้อยใจไม่ได้
“พอๆเลิกทะเลาะกันได้แล้วพ่อลูก” แม่น้ำเป็นฝ่ายยุติบทสนทนา
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณพ่อคุณแม่” หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จแล้วใช้เวลานั่งคุยกันเล็กน้อยก็ถึงเวลาเข้านอน
“ราตรีสวัสดิ์จ้ะหนูเอม” พ่อแม่น้ำกล่าวแล้วเดินเข้าห้องไป
“ฝันดีนะน้ำ” เอมลูบหัวน้ำเบาพร้อมโบกมือลา
“ฝันดีเอม” น้ำโบกมือให้เอมแล้วเข้าไปห้องนอนตัวเอง
“...ไปเที่ยวกัน” เสียงห้าวจากสาวหมวยชวนคนที่กำลังนั่งอยู่ข้างกาย
“ไปไหนอ่ะ” คนถูกชวนหันมาถาม
“ไปสยาม ไปกับเพื่อนน้ำ” น้ำตอบ
“เพื่อนน้ำคนไหนแล้ว...รู้จักไหม” คนถูกชวนถามอย่างสงสัย
“ก็นี่ไงก็จะพาไปรู้จัก นะไปกันนะ” น้ำอ้อนคนข้างกาย
“ไหนเอารูปมาดูดิ” คนถูกชวนแบมือรอรูป
น้ำเอารูปในโทรศัพท์มือถือให้คนข้างกายดู
“ชื่อไร” คนที่กำลังดูรูปอยู่ถามเสียงนิ่ง
“อาร์ม” น้ำตอบอย่างกล้าๆกลัวๆ
“จะพาเค้าไปด้วยแม่จะได้ไม่สงสัยมากกว่ามั้ง” คนถูกชวนประชด
“ป่าวซะหน่อย เค้าอยากพาตัวเองไปด้วยไงนะไปกับเค้านะ” น้ำอ้อนอย่างเอาเป็นเอาตายจนคนถูกอ้อนต้องพยักหน้าตอบรับ
และคิดทบทวนเรื่องราวในความฝันที่มีเธอ ผู้หญิงที่อายุเท่ากับเธอและผู้ชายอีกคนนึง
“เลิกคิดได้แล้ว” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังเธอ เธอจึงหันไปมองก็พบกับเอมที่กำลังเดินมาทางเธอ
“เลิกคิดได้แล้วนะเดี๋ยวปวดหัวนะรู้ไหม” คุณหมอนอกเครื่องแบบนั่งลงข้างคนไข้ของเธอ
“มันเลิกไม่ได้อ่ะน้ำจะเลิกได้ยังไงในเมื่อน้ำต้องนอนฝันถึงมันทุกคืน” คนไข้พูดระบาย
“ฝันอีกแล้วหรอ” คนไข้พยักหน้าตอบ
“วันนี้น้ำฝันแบบเมื่อคืนเลย น้ำชวนเขาไปเที่ยวและไปกับผู้ชายอีกคนชื่ออาร์ม” คุณหมอนั่งฟังเงียบๆ
“ในฝันเขาไม่รู้จักกับผู้ชายคนนั้น แต่น้ำเป็นคนพาไปรู้จักแล้วเราก็ไปเที่ยวกันดูเหมือนน้ำจะสนิทกับผู้ชายคนนั้น” เมื่อเล่าจบคนไข้ก็เงียบไป
“วันนี้เอมคงให้น้ำขุดจิตใต้สำนึกไม่ได้ ตอนนี้น้ำเครียดเกินไปแต่เอมจะน้ำพักผ่อน” พูดจบคุณหมอก็ลุกขึ้นพร้อมฉุดให้คนไข้ลุกตาม
“วันนี้เอมจะส่งน้ำเข้านอนเอง” คุณหมอเดินจูงคนไข้เข้าไปในห้องนอนของคนไข้
“เอมจะเฝ้าน้ำจนกว่าจะหลับ” เอมลากเก้าอี้มาข้างเตียงแล้วนั่งลง
“ขึ้นมานอนบนเตียงก็ได้นะ” คนไข้เป็นฝ่ายชวน
“จะดีหรอ” คุณหมอถามอย่างลังเล
“เตียงตั้งกว้าง ถ้าเอมไม่นอนบนเตียงน้ำจะไม่หลับ” คนไข้ยืนยันเสียงแข็ง
ในเมื่อทำอะไรไม่ได้คุณหมอจึงลงไปนอนบนเตียงในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน
“หลับสิ” คุณหมอพูดแก้เขินเมื่อคนไข้เอาแต่นอนมองเธอ คนไข้ทำตามอย่างว่าง่ายหลับตาลงแต่ยังไม่หลับจริง คุณหมอมองดูคนไข้ตัวเองยามหลับ
เอมลูบหัวน้ำอย่างอ่อนโยนยามหลับอีกคนเหมือนเด็กน้อย ดูผ่อนคลายสบายๆไม่มีเรื่องให้เครียด
น้ำที่ยังไม่หลับก็รับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนที่เอมทำ
“ฝันดีนะ” เอมพูดเบาแต่ก็ดังพอที่น้ำจะได้ยิน
____________________________________________________
มาส่งตอนที่สองค่ะ
เพลงพี่เอมออกแล้วไรท์คิดว่าทุกคนฟังหลายรอบแล้วล่ะใช่ไหมล่ะ
ตอนนี้มาเริ่มทายกันดีกว่าคนในฝันน้ำคือใคร
ในตอนนี้เอมน้ำเริ่มสนิทกันมากขึ้นแล้วค่ะ
ฟิคเรื่องนี้ไม่น่าเกิน10ตอน(มั้งคะ)
ฝากติกตามด้วยค่ะ
ความคิดเห็น