คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : CONTIG 4 : มายา
“ เครื่องเพชรชุดสุดท้ายที่ทางเราจะแสดงให้ท่านได้ชม เป็นผลงานชิ้นเอกจากพารากอนจิวเวอร์รี่ มูลค่ากว่าร้อยล้านเหรียญ โดยนางแบบที่จะโชว์งานชิ้นโบแดงชิ้นนี้ คือคุณเอมม่า ดาราและนางแบบดาวรุ่งของยุคนี้ค่ะ”
เสียงปรบมือดังกึกก้องลั่นฮอล์ หญิงสาวหน้าตาสวยสดมาในชุดราตรีสีทองยาวถึงพื้น เส้นผมสีดำขลับสลวยของเธอปล่อยยาวถึงกลางหลัง เธอดูงามสง่าและส่องประกายเจิดจรัสกว่าใครในงานนี้ เจิดจรัสพอๆกับสร้อยเพชรและสร้อยข้อมือเพชรมูลค่าหลายร้อยล้านที่เธอสวมใส่ ประกายแสงจากเพชรส่องสว่างสู้กับแสงแฟลชจากกล้องกว่าห้าสิบตัวของบรรดานักข่าวที่กระหน่ำถ่ายเพื่อเก็บภาพสำคัญ เอมม่าโพส เธอยิ้มบางๆอย่างมีมาด ยืนค้างอยู่ประมาณนาทีกว่าๆ ก็หันหลังแล้วเดินกลับไปยังหลังเวที
“เลิศมากค่ะเอมม่า รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะค่ะ อีกชั่วโมงนึงมีคิวถ่ายละครนะคะ”
เจ๊มากาเลต(ชื่อเดิมคือ มาร์ค) ผู้จัดการส่วนตัวของเอมม่ากล่าวชม ในมือ ถือสมุดบันทึกคิวงานสีแดง แดงพอๆกับปากของเธอ
“ได้เลยค่ะ เดี๋ยวเอมม่าขอเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บนึงนะคะ”
“เดี๋ยวเจ๊ไปรอข้างนอกนะจ๊ะ”
เอมม่าพยักหน้า เธอเดินไปหน้ากระจกเงาบานใหญ่ ที่นี่คือห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าส่วนตัวของเธอ ทางทีมงานจัดไว้เฉพาะพิเศษ ให้เธอได้ใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียว ให้สมกับชื่อเสียงของดาวรุ่งพุ่งแรงอย่างเธอ
เอมม่าส่องกระจก แล้วเธอก็พบว่าห้องนี้ไม่ใช่ห้องส่วนตัวของเธออีกต่อไป มีดแหลมยาวส่องประกายน่ากลัวพุ่งมาสู่กลางหลังของเธอ เอมม่าย่อตัวลงเพื่อหลบหลีกคมมีด มีดนั่นเปลี่ยนทิศทางพุ่งลงแทน เอมม่ากระโดดขึ้นบนโต๊ะเครื่องแป้ง ประจันหน้ากับผู้มาเยือน
“ ต้องการอะไร แมดแมส”
ชายนิรนามผมยาวดำสลวย ภายใต้หน้ากากแลดูเป็นปริศนา สวมชุดสีขาว รยางค์ส่วนบนด้านขวานั้นไม่ใช่แขน แต่เป็นมีดท่อนยาวใหญ่ กระซิบตอบด้วยน้ำเสียงบางเบา
“ส่งเครื่องเพชรมา”
“ตายจริง เดี๋ยวนี้นอกจากค้ายาเสพติดกับปล้นธนาคาร นายของเธอยังจะขโมยอัญมณีอีกเหรอเนี่ย? จะเอาไปใส่ออกงานใหญ่ของบริษัทรึไง”
แมดแมสไม่ต่อปากต่อคำกับเธอ เขาพุ่งมือมีดไปยังเอมม่าอีกครั้ง เธอทิ้งตัวไปด้านหลังทำสะพานโค้งหลบอาวุธร้าย แมดแมสยังคงพุ่งมีดอย่างน่ากลัวมาที่เธออีกหลายครั้ง
“กรี๊ด”
เอมม่ากรีดเสียงตกใจ มีดนั่นปักลงที่คอเสื้อของเธอ แม้ไม่โดนเนื้อกายของเธอ แต่ก็ยึดเธอไว้กับผนังห้อง แมดแมสยื่นมือซ้ายมากระชากสร้อยเพชรจากคอของเธอ ในฉับพลันนั้นเอง เอมม่าก็พ่นบางอย่างออกมาจากปาก
“ไม่มีทางหรอกย่ะ”
เกล็ดน้ำแข็งเย็นถูกปล่อยออกมาจากปากของเธอ มันแช่แข็งมือมีดขวานั่นไป เขาเสียหลักทันที เอมม่าคว้าสร้อยเพชรกลับมาไว้ในมือเธอ เธอกระโดดเตะเข้าที่คางของแมดแมส ลูกเตะโดนเข้าอย่างจัง เธอปล่อยหมัดตามไปอีกลูก แต่ทว่าแมดแมสหลบได้ เขาฟาดมือซ้ายอย่างแรงไปที่หน้าของเธอ แรงตบทำให้เธอถึงกับหน้าหัน แมดแมสเตรียมส่งแรงอีกรอบหนึ่ง เอมม่าพ่นเกล็ดน้ำแข็งอีกระลอก คราวนี้เข้าไปยังลูกตาของแมดแมสผ่านทางรูหน้ากาก แมดแมสรีบเอามือกุมตาไว้ แต่สายไปเสียแล้ว เมื่อการมองเห็นเสียไป ความเสี่ยงในการพ่ายแพ้ก็มีสูงนัก แมดแมสรีบวิ่งหนีออกจากห้องไป ด้วยดวงตาคู่ที่มองไม่เห็น ก็นับว่าทักษะของเขาสูงมากทีเดียว เอมม่าหอบ เธอเหนื่อยมาก ริมฝีปากยังมีเกล็ดน้ำแข็งเคลือบเป็นประกายส่งไอเย็นออกมา เธอคิดว่าต้องรีบรายงานเรื่องนี้ให้คุณแม่ทราบโดยด่วน เอมม่าคว้ากระเป๋าสะพาย แล้วเดินออกจากห้อง
“ทำไมช้าจังล่ะคะเอมม่าขา ว้าย แล้วทำไมยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าอีกคะเนี่ย”
“ขอโทษนะคะเจ๊ วันนี้เอมม่าขอแคนเซิลค่ะ พอดีงานเข้า ฝากเจ๊คืนสร้อยให้เจ้าของงานด้วยนะคะ”
เอมม่ายัดสร้อยเพชรใส่มือบาร์บาร่า ที่มีสีหน้างงงวย
“เจ๊ล่ะเพลียจริงๆกับซุปตาร์ คราวหน้าห้ามเบี้ยวเจ๊นะคะ”
เอมม่าพยักหน้า เธอก้าวเดินฉับๆอย่างรวดเร็วออกจากงานไป
“ ตายแล้ว แล้วฉันจะบอกผู้กำกับยังไงเนี่ย โอ๊ย เป็นผู้จัดการเซเลปนี่มันเหนื่อยมวากกก ไม่ไหวจะเคลียร์ค่ะ!”
บาร์บาร่าบ่นงึมงำ
ความคิดเห็น