คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Known..แค่รู้ว่ารัก ________ แฟนเก่า
By :: เบบี้เยลโล่
“วันนี้ต้องขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมแสดงความยินดีกับการเปิดตัวโรงแรมในเครือ ‘Luxia Group’ ทั้งสี่แห่งนะครับ ผมในฐานะประธานกรรมการรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทุกท่านให้ความสนใจและคอยให้การสนับสนุน Luxia Group เรื่อยมา ทานอาหารให้อร่อยนะครับ ขอบคุณครับ”
ลู่หานกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานเปิดตัวโรงแรมสาขาใหม่ของเครือ Luxia Group พิธีกรเชิญเขาขึ้นไปบนเวทีรวมถึงหุ้นส่วนคนสำคัญของเขาด้วย สิ้นสุดคำกล่าวของลู่หานเสียงปรบมือของแขกร่วมงานก็ดังกึกก้อง
วันนี้นอกจากจะมีพนักงานระดับหัวหน้าของทุกแผนกในบริษัทรวมไปถึงผู้ถือหุ้นมาร่วมงานแล้ว ลู่หานยังได้เชิญสื่อเข้ามาทำข่าวจากทุกสำนัก ทำให้งานเปิดตัวสาขาใหม่ของเครือ Luxia Group ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
“เชิญคุณคิมยองมินครับ” พิธีกรยื่นไมค์ให้กับคิมยองมิน ลู่หานจึงยืนเลี่ยงมาอีกด้าน เขากำลังกวาดสายตาหาร่างเล็กของคนรัก วันนี้เขาต้องรีบมาเตรียมงานก่อนแต่เช้าจึงไม่ได้มาพร้อมกับซิ่วหมิน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเขาจึงโทรบอกให้คนรักเตรียมตัวเพราะเขาจะส่งคนขับรถส่วนตัวของเขาไปรับซิ่วหมินมาที่งานแห่งนี้
'หมินมากับชานยอลสะดวกกว่านะลู่หาน ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก'
นี่คือคำขอของซิ่วหมิน เขาอยากเอ่ยขัดคนรักใจจะขาด แต่ก็รู้ว่าคงก็ไม่เป็นผลในเมื่อซิ่วหมินยืนยันที่จะมากับชานยอล เขาเลยต้องปล่อยเลยตามเลย แต่จนป่านนี้เขายังไม่เห็นร่างบางของคนรักปรากฎตัวในงาน
“ต้องขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงาน ขอบคุณที่ไว้วางใจและให้การสนับสนุนธุรกิจในเครือ Luxia Group ถึงแม้ว่าผมเพิ่งจะเข้ามาเป็นหุ้นส่วนกับลู่หานเขาได้ไม่นาน แต่ผมก็มั่นใจในตัวเขามาก หวังว่าทุกคนจะรู้สึกเหมือนกันกับผมเช่นกัน” คิมยองมินกล่าวออกมาพร้อมกับหันไปบีบไหล่ลู่หานเป็นการยืนยันว่าเขาไว้ใจคนๆ นี้ ลู่หานหันมายิ้มให้คิมยองมิน แสงแฟรชจากกองทัพนักข่าวสร้างความลำบากให้กับเขาไม่น้อย แต่ลู่หานก็ยังคงยืนนิ่งให้นักข่าวได้ถ่ายรูป
“ไม่ทราบว่ามีนักข่าวท่านใด มีข้อสงสัยอะไรมั้ยครับ” เสียงพิธีกรบนเวทียังทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่องเอ่ยกับกองทัพนักข่าวที่ยืนรวมกันอยู่ด้านหน้าเวที
“ขอถามคุณคิมยองมินครับ ไม่ทราบว่าท่านกับคุณลู่หานมาร่วมลงทุนกันได้ยังไงครับ” เสียงนักข่าวชายถามขึ้น ทุกคนจึงหันไมค์ไปทางคิมยองมิน เขาหันไปสบตากับลู่หานครู่หนึ่งก่อนจะหันไปตอบนักข่าว
“ผมกับลู่หานเรารู้จักกันมานาน คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ผมเองลงเล่นการเมืองมาระยะหนึ่ง จึงอยากจะลองหันมาทำธุรกิจกับเขาบ้าง พอดีกับลู่หานเขาจะขยายธุรกิจ ผมจึงเข้ามาร่วมลงทุนจะเรียกว่าเป็นผมเองก็คงจะไม่ถูกนัก เพราะเท่าที่ทุกคนรู้กันดีคือผมเป็นนักการเมือง ตามกฎหมายผมไม่สามารถถือหุ้นส่วนในบริษัทได้มากเท่าไหร่ หุ้นส่วนที่ลงทุนครั้งนี้ส่วนใหญ่จึงเป็นของลูกสาวผมที่เพิ่งกลับมาจากอเมริกา” คิมยองมินเอ่ยอย่างเป็นกันเอง ลู่หานหันมามองแต่ไม่ได้เอ่ยขัดอะไรออกไป เขาไม่อยากมีข้อโต้แย้งกับคิมยองมินต่อหน้านักข่าว
“ท่านหมายถึงคุณคิมแทยอนใช่มั้ยครับ” นักข่าวคนเดิมเอ่ยถามอีกครั้ง คิมยองมินจึงพยักหน้าให้เบาๆ
“ที่เคยเป็นข่าวใหญ่กับคุณลู่หานใช่มั้ยคะ” นักข่าวอีกสำนักหนึ่งเอ่ยถามไปที่ร่างสูง ลู่หานชะงักไปนิดแต่ก็ยังคงไว้ซึ่งสีหน้าราบเรียบตามแบบฉบับของตน
“เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันครับ” ลู่หานเลี่ยงตอบคำถาม แต่ก็ยิ้มมุมปากให้กับนักข่าวอย่างเป็นกันเอง แขกสาวๆ บางคนที่อยู่ในงานถึงกับกรี๊ดเบาๆ ตอนที่เห็นร่างสูงยิ้มให้นักข่าว
“นั่นคุณคิมแทยอนรึเปล่าคะ รบกวนให้สัมภาษณ์กับพวกเราสักครู่ได้มั้ยคะ” นักข่าวคนเดิมเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นบุคคลคุ้นหน้ายืนยิ้มสวยอยู่ด้านข้างเวที ซึ่งถ้าหากสังเกตอีกด้านจะเห็นร่างเล็กของผู้ชายหน้าหวานยืนอยู่กับผู้ชายหน้าตาหล่อเหลา ต่างมองมาที่เวทีเช่นเดียวกัน
“นักข่าวมันเป็นบ้าอะไรวะ” ชานยอลเอ่ยขึ้นอย่างหัวเสีย
“ใจเย็นๆ สิ” ซิ่วหมินเอ่ยว่าเพื่อนเสียงไม่จริงจัง เขากับเพื่อนรักเดินเข้ามาในงานได้สักพักแล้ว แต่เมื่อกี้ตอนลู่หานเดินขึ้นเวทีชานยอลชวนเขาไปเข้าห้องน้ำ เขาจึงตามเพื่อนไป กลับมาอีกครั้งก็ตอนนักข่าวรุมถามคิมยองมินแล้ว
“แทนที่นักข่าวมันจะเชิญมึงที่เป็นเมียไอ้ลู่หานขึ้นไปสัมภาษณ์ แต่นี่อะไรเชิญผู้หญิงที่เป็นลูกหุ้นส่วนใหม่แถมยังเคยเป็นแฟนเก่าไอ้นั่นขึ้นไปบนเวที ใช้ได้ที่ไหน” ชานยอลเอ่ยอย่างหงุดหงิด เขาไม่ชอบใจนักที่คนที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุดโดนลดความสำคัญ
“เขาก็คงอยากจะสัมภาษณ์เรื่องลงทุนแหละมั้ง” ซิ่วหมินเอ่ยเสียงอ่อย ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกอะไรกับเหตุการณ์ตรงหน้า แต่เป็นเพราะเรื่องธุรกิจของลู่หานเขาไม่เคยเข้าไปยุ่งด้วยตั้งแต่แรก ส่วนใหญ่ลู่หานจะเป็นคนออกหน้าซะมากกว่า เขาจึงคอยยืนให้กำลังใจลู่หานอยู่ข้างๆ เสมอมา ไม่ได้ออกหน้าหรือแสดงตัว อย่างที่คู่สามีภรรยาควรกระทำ และเรื่องที่เขาแต่งงานใช้ชีวิตคู่กับลู่หานมาเกือบสามปีมีแค่คนวงในเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นถ้านักข่าวจะไม่รู้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“มึงจะใจเย็นไปไหมเนี่ย” ชานยอลเอ่ยพาล เขาหงุดหงิดไอ้เพื่อนตัวเล็กคนนี้ทั้งๆ ที่สีหน้าก็บ่งบอกว่าไม่พอใจเหมือนกัน แต่มันไม่เคยจะเรียกร้องสิทธิที่ควรพึงจะได้จากไอ้ลู่หานนั่นเลยสักครั้ง เห็นหน้าหงอยๆ ของมันแล้วพาลอารมณ์เสียไปด้วย ใช่! เขาเจ็บที่ซิ่วหมินแคร์ไอ้นั่นมากกว่าแคร์ตัวเอง!...
“ไอ้บ้านี่ แขกอยู่เยอะแยะมาพูดกูมึงเสียงดัง เดี๋ยวตบเหม่งแตกเลยนี่!” ซิ่วหมินทำท่าหาเรื่องเพื่อนรักเพื่อเบี่ยงประเด็น เขารู้ว่าเพื่อนเป็นห่วง แต่เขาไม่อยากให้เพื่อนมากังวลในเรื่องของเขา
“สวัสดีครับคุณซิ่วหมิน” เสียงของคยองซูเอ่ยทักขึ้นเสียงใสจากด้านหลัง ซิ่วหมินกับชานยอลจึงหยุดบทสนทนากันไว้แค่นั้นก่อนทั้งคู่จะหันไปหาผู้มาใหม่
“สวัสดีครับคุณคยองซู” ซิ่วหมินเอ่ยตอบเลขาของคนรัก วันนี้คยองซูแต่งตัวอย่างเป็นทางการใส่สูทผูกไทด์ เนียบทั้งตัว ส่วนชานยอลแค่ยิ้มทักทายอีกฝ่ายไม่ได้เอ่ยทักอะไร
“ทำไมมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะครับ เจ้านายถามหาคุณซิ่วหมินตั้งแต่ก่อนจะเริ่มงานอีกนะครับ แต่เพราะยุ่งๆ กับการต้อนรับแขกผมเลยไม่ได้โทรหาคุณซิ่วหมิน ขอโทษนะครับ” คยองซูพูดกับซิ่วหมินอย่างรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่อยากรบกวนทั้งลู่หานแล้วก็คุณคยองซู แค่นี้ทุกคนก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว” ซิ่วหมินเอ่ยออกมา พลางมองไปที่ร่างสูงของลู่หาน ทุกคนจึงหันไปสนใจเวทีอีกครั้ง
“กลับมาร่วมงานกันแบบนี้มีสิทธิ์จะรีเทิร์นไหมคะคุณแทยอน” นักข่าวสาวคนเดิมยังคงพยายามถามคำถามในเชิงที่ไม่เกี่ยวกับการร่วมลงทุน ลู่หานชักสีหน้าไม่พอใจนิดๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร เพราะคิดว่าคิมแทยอนคงไม่โดดลงไปเล่นกับข่าวแบบนี้
“เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับลู่หานแล้วล่ะค่ะ” หญิงสาวกล่าวเสียงใส พร้อมมองลู่หานด้วยสีหน้าเอียงอาย ลู่หานขมวดคิ้วเข้ม
“ผมมีคนรักอยู่แล้วครับ ถ้าทุกคนหมดคำถามแล้วผมต้องขอตัว” ลู่หานเอ่ยตัดปัญหา และเดินลงเวทีทันที พอก้าวลงเวทีได้ไม่เท่าไหร่แขนของเขาก็ถูกฉุดไว้เพราะใครอีกคน
“คุณโกรธแทเหรอคะ” ร่างของหญิงสาวเอ่ยขึ้นก่อนจะช้อนตามองร่างสูงของอดีตคนรัก
“ไม่หรอกอย่าคิดมาก แต่คราวหลังจะให้สัมภาษณ์อะไรก็ขอให้ระวังหน่อยนะ คุณก็รู้ว่าตอนนี้ผมมีภรรยาแล้ว” ลู่หานตอบเสียงเรียบ
“ถ้างั้นก็ยิ้มหน่อยสิคะ ทำหน้าอย่างกับยักษ์แน่ะ” คิมแทยอนเอ่ยพูดกับร่างสูงอย่างเคยชินเหมือนตอนที่เคยคบกับลู่หานพร้อมกับยกมือ ขึ้นหยิกแก้มอีกคนเบาๆ ร่างสูงชะงักไปนิดก่อนจะเดินถอยห่างออกมาหนึ่งก้าว ถ้าเขาไม่คิดมากไป เมื่อกี้เหมือนเขาจะเห็นเสียงแฟรชจากกล้องถ่ายมาที่เขาสองคน ก่อนจะได้พูดอะไรเสียงของเลขาเขาก็เอ่ยขัดขึ้นมาซะก่อน
“เจ้านายครับ ตัวแทนจากอเมริกาขอพบกับเจ้านายเป็นการส่วนตัวที่ห้องพักรับรองแขก เจ้านายสะดวกมั้ยครับ” เสียงคยองซูทักขึ้นจากทางด้านหลัง ลู่หานยกข้อมือดูนาฬิกาก่อนจะพยักหน้าให้เลขาส่วนตัว
“ผมขอตัวนะ” ร่างสูงหันมาพูดกับหญิงสาว
คิมแทยอนหันมายิ้มหวานแต่จิกตาให้กับคยองซู เพราะคยองซูเข้ามาขัดจังหวะที่ตนจะได้สานสัมพันธ์กับลู่หาน ‘ต่อหน้ากล้อง’ ไม่ผิดหรอกต่อหน้ากล้องจริงๆ หญิงสาวยิ้มก่อนจะหันไปหานักข่าวสาวที่ตนจ้างมาทำข่าว 'ส่วนตัว' พอเห็นว่าลู่หานกับเลขาเดินออกไปแล้ว คิมแทยอนจึงเดินเลี่ยงไปหานักข่าวที่ตนจ้างไว้ทันที
“เป็นยังไงบ้าง” คิมแทยอนเอ่ยถามนักข่าวสายบันเทิงที่รู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี
“เรียบร้อยค่ะ พรุ่งนี้เตรียมอ่านข่าวได้เลย” นักข่าวสาวตอบ ก่อนจะส่งกล้องที่มีรูปของลู่หานกับคิมแทยอนยืนคุยกันโดยเฉพาะฉากสำคัญที่คิมแทยอนเอื้อมมือไปหยิกแก้มของลู่หาน ซึ่งดูเหมือนคนสองคนกำลังหยอกล้อกันเหมือนคู่รัก คิมแทยอนยกยิ้มร้าย
“อย่าดีแต่คุยล่ะ ฉันจะรอดูพรุ่งนี้ นี่ค่าจ้าง ปิดปากของเธอให้สนิท ถ้าไม่อยากให้ตัวเองเดือดร้อน” คิมแทยอนเอ่ยเตือน หญิงสาวอีกคนรับเช็คจากมือของคิมแทยอนก่อนจะพยักหน้าเข้าใจกับคำพูดของเธอ เมื่อเสร็จเรียบร้อยคิมแทยอนจึงก้าวเข้าไปในงาน ก่อนจะสะดุดกับร่างเล็กของใครบางคน
ใครบางคนที่เธอควรจะเข้าไปทำความรู้จัก...
“สวัสดีค่ะคุณซิ่วหมิน” คิมแทยอนก้าวเข้าไปทักทายร่างบาง ซิ่วหมินชะงักเล็กน้อยก่อนหันไปสบตากับเพื่อนรัก
“เอ่อ...สวัสดีครับคุณคิมแทยอน” ซิ่วหมินเอ่ยทักตอบ พลางยิ้มให้เพื่อไม่ให้เสียมารยาท
“ไม่ทราบว่าคุณ...” คิมแทยอนหันไปเอ่ยทักคนข้างๆ ซิ่วหมิน โดยไม่สนใจคำทักทายและรอยยิ้มของซิ่วหมิน ทำให้ซิ่วหมินยิ้มเจื่อน ส่วนชานยอลเมื่อเห็นกิริยาที่ไม่ให้เกียรติเพื่อนรักของตนแบบนั้นถึงกับคิ้วกระตุก
“ผมปาร์คชานยอล เป็นเพื่อนของซิ่วหมิน” ชานยอลตอบเสียงเรียบ พลางขมวดคิ้วยุ่งเมื่อหญิงสาวตรงหน้ายื่นมือมาหาเขา
“ดิฉันคิมแทยอนเป็นหุ้นส่วนคน ‘สำคัญ’ ของ Luxia Group และเป็นลูกสาวคนเล็กของท่านคิมยองมินเพิ่งจบมาจากอเมริกาค่ะ” หญิงสาวแนะนำตัวเอง พลางยื่นมือไปข้างหน้าหวังจะให้คนหล่อตรงหน้าเอื้อมมือมาจับมือเธอเช่นกัน เจ้าของร่างสูงโปร่งจึงยื่นมือไปจับมือกับหญิงสาวเพื่อไม่ให้เสียมารยาท ก่อนจะรีบชักมือกลับอย่างเสียไม่ได้ เมื่อหญิงสาวร่างเล็กใช้นิ้วหัวแม่มือลูบหลังมือเขาเบาๆ
ผู้หญิงคนนี้นี่...
เสียงโทรศัพท์ของชานยอลสั่นครืด เขาล้วงมือเข้าไปหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเบอร์ก่อนจะขมวดคิ้วยุ่ง เมื่อเลขาคนสนิทโทรเข้ามา
“ว่ายังไง” ชานยอลกดรับ
“...”
“รอแป็บ...” ชานยอลพูดบอกปลายสายก่อนหันมาส่งสายตาเชิงขอตัวกับเพื่อนสนิทร่างเล็ก ซิ่วหมินพยักหน้าให้เพื่อน
“น่าอิจฉานะคะ มีเพื่อนรักดีๆ แบบนี้” คิมแทยอนเอ่ยพูดกับซิ่วหมิน
“ครับ มะ...เอ่อ ชานยอลเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ” ซิ่วหมินเกือบหลุดสรรพนามที่ใช้เรียกชานยอลในเวลาปกติออกมา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเรียกชื่อเพื่อนสนิทเฉยๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าหญิงสาว เขาค่อนข้างแปลกใจที่อยู่ๆ คิมแทยอนก็เข้ามาทักเขาแบบนี้
“แล้วระหว่างเพื่อนสนิทคนนี้กับลู่หานใครดีกว่ากันล่ะคะ” ซิ่วหมินเลิกคิ้วแปลกใจกับคำถามของคิมแทยอน แต่เอ่ยตอบไปอย่างที่ใจคิด “มันไม่เหมือนกันหรอกครับเพื่อนก็คือเพื่อนคนรักก็คือคนรัก”
“นั่นสินะคะ โดยเฉพาะลู่หาน...ผู้ชายที่เพอร์เฟ็คอย่างเขา ฉันยังเสียใจมาจนถึงทุกวันนี้เลยค่ะที่เป็นฝ่ายบอกเลิกเขา ฉันมันโง่เองที่มัวหลงงมงายคิดว่าปีเตอร์ เอ่อ แฟนคนเก่าของฉันนะค่ะ จะรักฉันจริง...แต่สุดท้ายเขากลับทำร้ายฉัน ตบตีฉัน ยังไม่พอนะคะ ยังขู่จะเอาคลิปของฉันไปปล่อยถ้าฉันแจ้งตำรวจ พอฉันเรียนจบเลยหนีกลับมาที่เกาหลี ไม่เหมือนกับลู่หานนะคะ ตอนที่คบกับฉันเขาตามใจฉันทุกอย่าง ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้เลยล่ะค่ะ เขาจะโทรบอกรักฉันก่อนนอนทุกวัน ลู่หานเขาน่ารักจริงๆ คุณว่ามั้ยคะ เอ่อ...ขอโทษนะคะที่พูดถึงเรื่องเก่าๆ” คิมแทยอนเอ่ยพูดกับซิ่วหมินเสียงใส พอเห็นซิ่วหมินเริ่มหน้าซีดเธอจึงหยุด แล้วทำเป็นตกใจที่เผลอพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดออกมา ก่อนจะยกยิ้มกับตัวเองที่ทำให้ซิ่วหมินหวั่นไหวในสิ่งที่เธอพูดได้
ยังหรอก...ยังมีเวลาให้ฉันได้จัดการอีกเยอะ
“ไม่เป็นไรครับ” ซิ่วหมินพยายามควบคุมอารมณ์ของตนเองให้เป็นปกติ เขาพยายามที่จะไม่ใส่ใจคำพูดของคนตรงหน้าและพยายามที่จะย้ำกับตนเองว่าตอนนี้เขาต่างหากที่เป็นคนรักของลู่หาน แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่าลู่หานกับคิมแทยอนเคยรักกันมามากแค่ไหน
มันเป็นอดีตไปแล้วซิ่วหมินอย่าคิดมากสิ
เราต้องเชื่อใจลู่หานไม่ใช่เหรอ...
“คิๆ คุณซิ่วหมินอย่าถือสาแทเลยนะคะ แทก็พูดไปเรื่อยเปื่อยแต่อยากกระซิบบอกอะไรคุณซิ่วหมินหน่อยได้มั้ยคะ คือ...แทเป็นห่วงนะค่ะในฐานะที่เคยเป็น ‘คนรัก’ ของลู่หาน ‘มาก่อน’ ลู่หานเขาเสน่ห์แรงนะคะ ใครๆ ก็อยากได้เขามาเป็นคนรัก คนดีๆ อย่างเขาคุณซิ่วหมินต้องรักษาไว้ให้ดีๆ นะคะ ไม่งั้นโดนแย่งคนรักขึ้นมาจะหาว่าแทไม่เตือน อ่า แทขอตัวไปต้อนรับแขกทางด้านโน่นก่อนนะคะ ถ้าอยากรู้อะไรเกี่ยวกับลู่หาน ถามแทได้นะคะแทยินดี” คิมแทยอนเอ่ยกระซิบข้างหูกับซิ่วหมิน ก่อนจะเอ่ยขอตัวเมื่อเห็นร่างสูงของลู่หานเดินมาทางที่เธอกับซิ่วหมินยืนอยู่ คิมแทยอนยกยิ้มร้ายเมื่อเห็นซิ่วหมินกำมือแน่น ก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง
“คุยอะไรกันเหรอครับซิ่วหมิน” ลู่หานเดินมายืนเคียงข้างคนรัก เขาเอ่ยอย่างแปลกใจเมื่อเห็นซิ่วหมินทำหน้าเสีย ขณะสนทนาอยู่กับคิมแทยอน
“ไม่มีอะไรหรอก คุณแทยอนเขาแค่เข้ามาทักทายหมินเท่านั้นแหละ” ซิ่วหมินเอ่ยตอบคนรักปัดๆ พลางฉีกยิ้มอย่างเอาใจ เรื่องนี้เขาต้องไว้ใจลู่หาน เขาไม่อยากตีตนไปก่อนไข้
“หื้ม...แค่นี้จริงๆ เหรอ” ลู่หานเลิกคิ้วแปลกใจ อย่างคิมแทยอนน่ะหรอจะเข้ามาทักทายคนรักของเขาเฉยๆ
“ก็แค่นี้นะสิ จะให้แค่ไหนละ” ซิ่วหมินย่นจมูกใส่คนรัก ทำให้ลู่หานหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู
“น่ารักใหญ่แล้วนะ” ลู่หานเอ่ยขำๆ ก่อนจะยื่นมือไปขยี้หัวคนรักเบาๆ
“หึ๋ย หัวยุ่งหมดแล้วนะลู่หาน เดี๋ยวก็หมดหล่อกันพอดี” ซิ่วหมินทำหน้ายุ่งพลางจับมือคนรักไว้
“แบบนี้เขาไม่เรียกหล่อแล้วครับ สวยต่างหาก” ลู่หานเอ่ยเย้าคนรัก ทำให้คนที่โดนชมถึงกับชะงักใบหน้าขาวเริ่มขึ้นสีระเรื่อ ก่อนจะตีไปที่แขนคนรักแก้เขิน
“บ้า!”
“โผล่หัวออกมาได้แล้วรึไง!?!” เสียงของผู้มาใหม่ทำให้ซิ่วหมินกับลู่หานหันไปมองพร้อมกัน แต่ที่จริงไม่ต้องหันไปก็พอจะรู้ล่ะนะว่าเป็นเสียงของใคร ลู่หานหันไปมองอย่างปลงๆ ไม่ว่ายังไงเพื่อนสนิทของคนรักเขาคนนี้ก็ไม่เคยชอบใจเขาสักครั้ง
“ไอ้ชานยอล มึงจะบ้ารึไงห๊ะ” ซิ่วหมินโวยวายใส่เพื่อนเบาๆ เพราะตอนนี้เขายังอยู่ในงานหากเสียงดังไปคนจะว่าสงสัยเอาได้
“อะไร กูก็ถามของกูดีๆ อย่ามาหาเรื่องกูนะ” ชานยอลเอ่ยอย่างหงุดหงิด เมื่อกี้ที่เขาออกไปคุยธุระกับเลขา เขาอดจะเป็นห่วงเพื่อนตัวเล็กไม่ได้แต่เพราะธุระสำคัญเขาจึงต้องเลี่ยงออกไป คุยข้างนอก พอกลับมาเห็นซิ่วหมินยืนอยู่กับลู่หานเขาก็อุ่นใจ แต่อดที่จะเหน็บคนรักของเพื่อนไม่ได้
“มึงถามคำถามได้เหมือนกับปัญญาชนที่เขาเรียนจบมาสูงมากเลยนะไอ้คุณชานยอล” ซิ่วหมินเหน็บเพื่อนเบาๆ ลู่หานได้แต่ส่ายหัวให้กับความรั้นของเพื่อนสนิทของคนรัก
“ก็ไม่ได้ไปไหนไกล ที่ไม่ได้อยู่กับซิ่วหมินก็เพราะมีงานต้องทำ” ลู่หานตอบ ชานยอลออกอาการฟึดฟัดใส่ลู่หาน ก่อนจะส่งเสียงฮึดฮัดหันไปทางอื่นเมื่อซิ่วหมินส่งสายตาดุๆ มาให้
“ผมว่าเราไปหาอะไรกินกันดีไหม หิวรึยัง” ลู่หานหันมาเอ่ยชวนคนรัก ตอนนี้เขาเองก็เริ่มหิวเพราะยังไม่ได้กินอะไรเลยเหมือนกันตั้งแต่เช้า
“ไปสิ”
“ไปข้างนอกกันนะ ตอนนี้ในงานคงไม่มีอะไรแล้วล่ะ ไปด้วยกันไหมชานยอล” ลู่หานพูดกับคนรัก ก่อนจะเอ่ยชวนอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ คนรักตน
“ถ้ากูบอกจะไปด้วย มึงจะให้กูไปด้วยรึไง” ชานยอลเอ่ยถาม
“ไม่”
“เอ่อ...” ซิ่วหมินหันซ้ายหันขวา มองสลับระหว่างเพื่อนสนิทกับคนรัก
ให้ตายเถอะสองคนนี้อยู่ด้วยกันไม่เคยได้!
“มึงไปเถอะซิ่วหมิน นานๆ มันจะมีเวลาว่างให้มึงสักที กูจะเข้าไปเคลียร์งานที่บริษัทพอดี” ชานยอลหันไปพูดกับเพื่อน พลางส่งสายตาหงุดหงิดไปหาลู่หาน อดจะเคืองไม่ได้ที่ลู่หานชอบปล่อยให้ซิ่วหมินอยู่คนเดียว
เมื่อได้ข้อสรุปทุกคนจึงแยกย้ายกันไป ถึงแม้ว่าในงานจะยังไม่เลิกแต่ลู่หานเองก็ให้เลขาคนเก่งคอยประสานงานอยู่แล้ว อย่างที่เพื่อนสนิทของคนรักเขาพูดมาก็ถูกเขาเองไม่ค่อยมีเวลาให้กับซิ่วหมินเท่าไหร่
ลู่หานจูงมือคนรักให้เดินเลี่ยงมาอีกทางที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านก่อนจะพาคนตัวเล็กก้าวขึ้นรถคู่ใจมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่เขาให้เลขาไปจัดการไว้ ก่อนหน้านี้เพื่อเซอร์ไพร้สคนรัก
วันนี้ไม่ใช่แค่เป็นเพียงวันเปิดตัวโรงแรมสาขาใหม่ของบริษัท...
แต่ยังเป็นวันครบรอบแต่งงานสามปีเต็มของเขากับซิ่วหมินอีกด้วย
___________________________________
Talk :: EDIT 30/01/60
ความคิดเห็น