ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] Known..แค่รู้ว่ารัก - Lumin, Krisyeol - EXO

    ลำดับตอนที่ #2 : Known..แค่รู้ว่ารัก ________ เหตุผล

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.ค. 60





    Known..แค่รู้ว่ารัก  ตอนที่ 1
    By :: เบบี้เยลโล่








    #FicKnown

    - เหตุผล 



     


                “อื้อ...ซิ่วหมินลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า พร้อมกับบิดตัวไปมา  ตากลมโตกวาดตามองไปรอบๆ ห้อง พลางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ นี่มันห้องของเขาเองเขาจำได้ สงสัยว่าชานยอลคงหิ้วเขามาส่งไว้ที่ห้องแน่ๆ

     

                “ปวดหัวชะมัดคนตัวเล็กพูดพรางนวดขมับแก้ปวดหัวให้ตัวเองเบาๆ

     

                แกรก


                ตื่นแล้วรึไง เมาเป็นหมาเลยนะเมื่อคืน ซิ่วหมินหันไปมองตามเสียงก่อนจะเห็นเพื่อนรักยืนกอดอกอยู่หน้าประตูและกำลังเดินเข้ามาหาเขา เลยส่งยิ้มจางๆ ไปให้ชานยอล



     

                “เห็นหลับอยู่รึไงล่ะซิ่วหมินกวนกลับด้วยเสียงไม่จริงจังนัก แล้วค่อยๆ ก้าวลงจากเตียง

     

                “อ๊ะ // เห้ย!

     
     

                ในจังหวะที่ซิ่วหมินลุกขึ้น เขาเสียการทรงตัวทำให้เสียหลักเซไปหาชานยอล  ชานยอลเองก็รีบเข้ามารับเขาไว้ทำให้ตอนนี้ทั้งสองคนล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น โดยที่ซิ่วหมินนอนทับอยู่บนตัวชานยอล

                                                                

                เอ่อ แหะๆ โทษทีว่ะหลังจากสบตากันอยู่สักพัก ซิ่วหมินเป็นฝ่ายตั้งสติได้ก่อนรีบลุกออกจากตัวชานยอลทันที เมื่อคืนเขาแอบดื่มหนักไปเหมือนกันไม่รู้หลับไปตั้งแต่ตอนไหน เช้านี้จึงทำให้เขายังมีอาการมึนๆ อยู่บ้าง

     

                อืม กูเตรียมโจ๊กไว้ให้ มึงจะกินเลยมั้ยชานยอลลุกขึ้นช่วยพยุงซิ่วหมิน แล้วเอ่ยถามเพื่อนสนิท เมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอนเพราะไอ้เพื่อนสนิทของเขามันดันนอนเพ้อเพราะพิษน้ำเมา เปลืองแรงไม่น้อยเลย

     

                อืม เออ ชานยอล...มึงเห็นลู่หานบ้างรึเปล่า” ซิ่วหมินเอ่ยถาม เขาไม่รู้ว่าเมื่อคืนลู่หานกลับบ้านหรือเปล่า แถมยังเมากลับมาอีกกลัวลู่หานเห็นแล้วจะรู้สึกไม่ดีที่เขาทำตัวแบบนี้


     

                ไม่ต้องห่วงหรอก มันยังไม่กลับ” ชานยอลตอบกลับเมื่อเห็นท่าทางไม่สบายใจของซิ่วหมิน แล้วเอื้อมมือไปจับศีรษะทุยของซิ่วหมินโยกไปมาเบาๆ

     

                มันคงมีประชุม เลยไม่กลับ อย่าคิดมากสิ ตีนกาขึ้นอย่าหาว่ากูไม่เตือนนะชานยอลยิ้มแซวเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ เขารู้สึกไม่ดีเลยเวลาที่เห็นซิ่วหมินทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเรื่องไอ้ลู่หาน เวลาเขาเห็นนัยน์ตากลมใสนั่นสั่นไหวแล้วใจกระตุกวูบ ทำไมจะไม่รู้ว่าซิ่วหมินเจ็บ 

     

    ซิ่วหมินเจ็บ เขาเจ็บยิ่งกว่า...

     
             ดูแลก็ไม่ได้ ปกป้องก็ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลย...



     

                ไอ้บ้า” ซิ่วหมินพูดแล้วหัวเราะให้ชานยอล ทำให้ชานยอลพลอยยิ้มไปด้วย ซิ่วหมินขอตัวเข้าไปอาบน้ำ ชานยอลเลยลงไปรอที่ห้องอาหาร ทั้งสองคนทานข้าวเช้าด้วยกันก่อนที่ชานยอลจะขอตัวไปทำงาน

     

     
                วันนี้ซิ่วหมินตั้งใจจะไปหาลู่หานที่ทำงาน เขาลงมือเข้าครัวทำอาหารด้วยตนเองหวังว่าจะทำเมนูโปรดไปให้ลู่หานกินในมื้อเที่ยง ซิ่วหมินทำอาหารไปพลางจดสูตรไป เขามีความสุขที่สุดยามได้เข้าครัวและยิ่งได้ทำอาหารให้คนรักด้วยแล้ว เขาก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นไปอีก

     

                สวัสดีครับคุณซิ่วหมิน มาหาคุณลู่หานเหรอครับ” 


                   สียงพนักงานต้อนรับเอ่ยทักซิ่วหมิน ครับ ซิ่วหมินหันไปยิ้มให้แล้วพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่จะเดินเข้าลิฟท์แล้วกดหมายเลขชั้นที่ลู่หานนั่งทำงานอยู่

     

                เจ้าของร่างเล็กเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องทำงานของลู่หาน  เขามองหาโดคยองซูเลขาคนเก่งของคนรัก แต่ที่โต๊ะทำงานของเจ้าตัวกลับไม่มีคนอยู่ ซิ่วหมินอมยิ้มน้อยๆ  สงสัยลู่หานคงให้คยองซูออกไปติดต่องานกับลูกค้าแทนอีกแล้วแน่ๆ

     

                 คุณกลับไปเถอะ ผมมีงานต้องเคลียคงไปไหนกับคุณตอนนี้ไม่ได้” ซิ่วหมินได้ยินเสียงแว่วๆ ดังออกมาจากห้องทำงานของลู่หานเขาเลยเลือกที่จะหยุดฟังอยู่หน้าห้องเกรงว่าหากก้าวเข้าไปในห้องตอนนี้อาจจะรบกวนการทำงานของคนรักได้

     

                โธ่...ลู่หานคะ แทอุตส่าห์มาหาคุณถึงนี่เลยนะคะ จะใจร้ายกับแทได้ลงคอเหรอ อีกอย่างคุณป๋าเอ่ยปากมาเองเลยนะคะว่าอยากทานข้าวกับคุณ แต่พอได้ยินประโยคต่อมาของคู่สนทนา ซิ่วหมินก็เผลอกำมือแน่น เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก พยายามเตือนตัวเองว่าอย่าคิดมาก เพราะยังไงซะทั้งสองคนด้านในห้องก็เคยเป็นคนรักกัน หากจะติดต่อกันบ้างก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก

     

                 เฮ้อ คุณนี่ดื้อจริงๆ เลยนะ โอเคครับ ผมขอเวลาห้านาที โอเคมั้ย ซิ่วหมินสะดุดกึกกับคำตอบตกลงของคนรัก  วันนี้เขาอุตส่าห์ทำอาหารที่ลู่หานชอบทานมาให้ แต่พอคิดว่าคนรักอาจจะไม่ได้กินมันแล้ว น้ำตาเริ่มคลอใสขึ้นมาเต็มหน่วย เขาเตรียมจะหันหลังกลับแต่ก็เจอกับโดคยองซูเลขาของลู่หานซะก่อน ซิ่วหมินรีบปรับสีหน้าก่อนจะยิ้มทักทายคนตัวเล็กกว่า

     

     

                อ้าวคุณซิ่วหมิน มาหาเจ้านายเหรอครับ คยองซูทักทายซิ่วหมินอย่างอารมณ์ดี เขาค่อนข้างสนิทสนมกับคนรักของเจ้านายคนนี้พอสมควร เพราะทำงานด้วยกันมานาน บางทีต้องไปติดต่องานถึงที่บ้าน ทำให้เจอกับซิ่วหมินบ่อยๆ บวกกับที่ซิ่วหมินเป็นคนยิ้มง่าย ทำให้เขากล้าที่จะเข้าไปทำความรู้จัก

     

     

                ครับ” ซิ่วหมินก้มหน้าหลบสายตาของคยองซู  ถ้าเขาเงยหน้าขึ้นไปคยองซูต้องเห็นแน่ๆ ว่าตอนนี้เขากำลังร้องไห้ ไม่อยากให้ใครเห็น ไม่อยากให้ใครสงสาร

     

                เอ่อ คุณซิ่วหมินเป็นอะไรรึเปล่าครับ แล้วนั่น...เตรียมอะไรมาให้เจ้านายครับ มีหรือจะรอดพ้นสายตาของเลขาคนเก่งอย่างเขา เฮ้อ ไม่เข้าใจเจ้านายจริงๆ เลย มีของล้ำค่าอยู่ในมือแท้ๆ ทำไมไม่รู้จักดูแล คยองซูได้แต่คิดในใจ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคนรักของเจ้านายไปเห็นอะไรเข้า เขาว่าเขาพอจะเดาออกล่ะนะ

     

                ไม่มีอะไรหรอก คุณคยองซูทานอะไรมาหรือยังครับ ถ้ายัง...เอาของผมไปทานไหม พอดีมันเหลือน่ะ” ซิ่วหมินเลี่ยงตอบคำถามของคยองซู แล้วยื่นตะกร้ากล่องข้าวไปข้างหน้า คยองซูขมวดคิ้วสงสัยแต่ก็ยื่นมือไปรับกล่องข้าวจากมือซิ่วหมิน

     

                ไม่อยู่ทานด้วยกันก่อนล่ะครับ แล้วนี่เข้าไปหาเจ้านายหรือยังครับ”  คยองซูเอ่ยถาม  เมื่อกี้ตอนเขาออกมาจากลิฟท์เห็นคนรักของเจ้านายยืนทำหน้าจะร้องไห้อยู่หน้าห้อง ท่าทางคงยังไม่ได้เข้าไปหาเจ้านายของเขาแน่ๆ



     

    จริงๆ แล้วคยองซูไม่ได้เป็นเพียงเลขาส่วนตัวของลู่หาน แต่เขายังเป็นรุ่นน้องคนสนิทของลู่หานด้วย ในเวลางานเขาจะเรียกลู่หานว่าเจ้านายทุกคำ แต่นอกเวลางานเขาจะแทนตัวเองว่าคยองแล้วเรียกลู่หานว่า “พี่”  เมื่อก่อนเขาไม่ค่อยสนิทกับคนรักของเจ้านายเท่าไหร่แต่เพราะต้องไปติดต่องาน ด้วยกันบ่อยๆ ทำให้คุ้นเคยกับซิ่วหมินไปด้วย

     
     

    ไม่ดีกว่าครับ ลู่หานคงมีธุระ ผมกลับไปรอเขาที่บ้านดีกว่า” ซิ่วหมินฝืนยิ้มให้กับคยองซูก่อนจะขอตัวกลับ  ถ้าขืนอยู่นานกว่านี้ซิ่วหมินคงได้เจอกับลู่หาน เขาคงทำหน้าไม่ถูกถ้าต้องเห็นลู่หานเดินเคียงคู่ออกมากับใครอีกคน...ที่ไม่ใช่เขา

               


                เสียงเปิดประตูบานใหญ่ เผยให้เห็นร่างสูงบุคลิกโดดเด่น ที่ใครเห็นเป็นต้องเหลียวหลังมอง บวกกับใบหน้าหล่อเหลายิ้มเก่งที่ทำให้ใครต่อใครต่างหลงใหล เดินเคียงคู่ออกมากับหญิงสาวสวยสง่าที่มีชื่อเสียงทางสังคมในวงกว้างเพราะเป็นลูกของนักการเมืองดัง

     


                กึก!


     

                คนร่างสูงเดินออกมาจากห้องทำงานด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม  แต่พอสายตาคมเหลือบไปเห็นซิ่วหมินคนรักของตนยืนอยู่กับคยองซูเท่านั้นทำให้ลู่หานสะดุดกึก 


                ...ภาพของคนรักตรงหน้าที่มองตรงมาที่เขาเช่นกัน สายตาที่เต็มไปด้วยความตัดพ้อน้อยใจ ทำให้ลู่หานหัวใจหล่นวูบ...

                                                                                                                              

                 เมื่อคืนลู่หานไม่ได้กลับบ้านเพราะต้องเตรียมเอกสารสำคัญอยู่ที่บริษัท เพราะบริษัทของเขากำลังจะลงทุนครั้งใหญ่ที่จะทำกำไรให้อย่างมหาศาลในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมให้งานนี้เกิดความผิดพลาดแม้แต่นิดเดียวเลยต้องอยู่ทำด้วยตนเอง และแน่นอนว่าหุ้นส่วนในการร่วมลงทุนครั้งนี้ก็คือบิดาของคิมแทยอนที่เป็นนักการเมืองใหญ่มีคนนับหน้าถือตามากมาย

     


                 ในอดีต...


                ครอบครัวของลู่หานเป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่โตในโซล เขาเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านที่กำลังอยู่ในวัยเรียน ตอนนั้นเขาเพิ่งจะเข้ามหาวิทยาลัยในคณะบริหารธุรกิจ เขาตั้งใจที่จะมาสานต่อธุรกิจของครอบครัว แต่เพราะพ่อกับแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกระทันหันทั้งคู่ ทำให้ชีวิตของเขาเริ่มเข้าสู่วิกฤติ 


                ธุรกิจมากมายของครอบครัวเขาต้องการผู้นำเพื่อเดินหน้าต่อไปแต่เพราะเขาเองยังไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้   จึงทำให้โดนคนใกล้ชิดที่เขาไว้ใจอย่างน้าชายแท้ๆ ของเขาที่อาสาเข้ามาช่วยบริหารบริษัทในระหว่างที่เขายังเรียนอยู่แอบถ่ายโอนหุ้นในส่วนของพ่อแม่ลู่หานไปเป็นของตัวเอง จนเขาแทบไม่เหลืออะไร

     


                โชคยังดีที่ตอนนั้นลู่หานพอจะเล่นหุ้นเป็นอยู่บ้างเลยแอบเล่นหุ้นลับๆ เป็นงานอดิเรก แล้วโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวโดยไม่มีใครรู้ ทำให้เขาพอจะมีเงินส่งเสียตัวเองเรียนและออกมาใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกโดยลำพังได้ 

     


                ในชีวิตนี้ลู่หานไม่คิดจะไว้ใจใครอีกเลย...


                จนกระทั่งได้มาเจอกับซิ่วหมิน ผู้ชายตัวเล็กๆ นิสัยโผงผาง ขี้โวยวาย แต่ยิ้มสวยที่สุดในสายตาเขา ดวงตาของซิ่วหมินทำให้เขาหลงใหล และสิ่งที่ทำให้เขารักซิ่วหมินมากที่สุดก็คือความดี ความน่ารัก และความจริงใจที่หาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน

     


                 ซิ่วหมินเป็นคุณหนูคนเล็กของตระกูลคิม เป็นตระกูลเก่าแก่ที่ทำธุรกิจด้านการค้าเพชรและพลอยรายใหญ่ที่สุดในประเทศ แน่นอนว่ารวยติดอันดับเอเชีย...


                ซิ่วหมินไม่เคยโอ้อวดว่าตัวเองร่ำรวย แต่กลับใช้รอยยิ้มและความจริงใจในการสร้างมิตรภาพกับคนอื่น เหตุการณ์ที่ทำให้ลู่หานได้รู้จักกับซิ่วหมิน ก็เนื่องจากลู่หานเคยช่วยซิ่วหมินไว้จากพวกอันธพาลตอนเรียนปีสามและหลังจากนั้นซิ่วหมินก็คอยเดินตามลู่หานตลอดมา

      

                วันเวลาจากวันเป็นเดือน จากเดือนกลายเป็นปี

               ...ในที่สุดลู่หานก็ตกหลุมรักซิ่วหมิน...


     

                ครอบครัวของซิ่วหมินไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของลู่หานกับซิ่วหมินในตอนแรก โดยเฉพาะเพื่อนสนิทของซิ่วหมินอย่างปาร์คชานยอล โปรดิวเซอร์มือทองที่สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองได้ตั้งแต่อายุยังน้อยและเป็นทายาทของบริษัทผลิตสื่อโฆษณาและผลิตภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่างมีเดียอินเตอร์ฟิล์ม แต่ลู่หานก็พยายามอดทนเพื่อพิสูจน์ตนเองจนคนรอบข้างยอมรับ

     

     

                ลู่หานจึงสามารถยืนเคียงข้างเป็นคู่ชีวิตของซิ่วหมินได้ตั้งแต่เมื่อสามปีที่แล้ว และที่เขาต้องกลับมาสนิทสนมกับคิมแทยอนก็เพื่องาน เพื่อบริษัทที่เขาก่อตั้งขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรง

     

    ตอนนี้ลู่หานกำลังจะลงทุนเพื่อขยายสาขาโรงแรมในเครือ ‘Luxia Group’ ไปทั่วประเทศ เขาต้องทำงานอย่างหนัก เหนื่อยสายตัวแทบขาดแต่เพื่อความมั่นคงของชีวิตเขาและคนรัก...เขายอมเหนื่อยดีกว่าต้องให้ซิ่วหมินลำบาก และเพื่อพิสูจน์ให้ทางบ้านซิ่วหมินได้เห็นว่าตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกเขาเป็นลูกเขย

     
     

                ลู่หานรู้ดีว่าคิมแทยอนกลับมาสนใจในตัวเขาอีกครั้งเพราะตอนนี้เขาแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก ทั้งชื่อเสียงเงินทอง ตอนนี้เขามีมันทุกอย่าง...ต่างจากในอดีตที่ต้องหมดสิ้นทุกอย่าง แม้กระทั่งคนรักอย่าง
    คิมแทยอนก็ยังหันหลังให้เขา

     
     

                อ้าวหมิน วันนี้ทำไมมาหาผมถึงนี่ได้ครับ ลู่หานรีบแกะมือแทยอนออกจากแขนก่อนจะเดินไปหาคนตัวเล็กที่ตอนนี้ยืนเบือนหน้าหนีไปอีกทาง

     

                “ผมกลับมาแล้วนะครับเจ้านายคยองซูค่อมหัวให้กับลู่หาน ก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้กับหญิงสาวด้านหลัง แต่ก็ต้องรีบหุบยิ้มเพราะหญิงสาวสะบัดหน้าหนีการทักทายของเขา

           

               พ...พอดีผ่านมาน่ะ เลยแวะมาหา แต่เห็นว่าคุณมีแขกเลยไม่อยากเข้าไปกวนซิ่วหมินเอ่ยตอบคนรัก ถึงแม้ในใจเขาตอนนี้อยากจะโวยวายมากแค่ไหนแต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ ที่นี่เป็นบริษัทของลู่หาน เขาไม่อยากให้คนอื่นเอาไปพูดได้ว่าภรรยาของเจ้าของบริษัทเสียมารยาทกับแขก                    

       

                 “รบกวนอะไรกันครับ พูดอย่างกับเราเป็นคนอื่นคนไกลกันลู่หานแกล้งเย้าคนรัก เขาไม่อยากให้ซิ่วหมินไม่สบายใจโดยมีเขาเป็นต้นเหตุ เรื่องของซิ่วหมินแทยอนเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจแต่ก็ยังมายุ่งกับเขาโดยใช้ข้ออ้างในการร่วมธุรกิจมาผูกมัดเขา

     

                 “ลู่หานคะ คุณป๋ารออยู่นะคะ ให้ผู้ใหญ่รอมันเสียมารยาทรู้ไหมแทยอนเดินมาควงแขนลู่หานพลางดึงให้ออกห่างจากซิ่วหมิน

     
     

                “เอ่อ..จะ// หุบปาก!!” คยองซูกำลังจะเอ่ยค้าน แต่แทยอนกลับหันไปสั่งคยองซูแล้วส่งสายตาเชือดเฉือนไปเตือนว่าอาจจะโดนดีถ้ายังไม่ยอมหุบปากจนคนตัวเล็กต้องเก็บคำพูดเอาไว้

     

                 “คือ...ลู่หานทำเสียงลำบากใจ

     

                 ไม่เป็นไรหรอก คุณนัดผู้ใหญ่ไว้ถ้าไปสายจะเสียงานเอา เดี๋ยวหมินกลับเองได้ หมินแค่แวะมาหาคุณเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอกซิ่วหมินเอ่ยบอกคนรัก แล้วยิ้มเพื่อให้ลู่หานสบายใจ

     


                 เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ คยองซูนายไปส่งซิ่วหมินให้ฉันด้วยนะ ถึงบ้านแล้วโทรหาผมด้วยนะลู่หานถอนหายใจน้อยๆ พลางหันไปสั่งเลขาคนสนิท ก่อนจะหันไปพูดกับคนรัก ใจจริงเขาอยากเป็นคนไปส่งคนรักด้วยตัวเองด้วยซ้ำ แต่วันนี้เขามีนัดกับบิดาของคิมแทยอนเรื่องการขยายสาขา พอจะเบาใจได้บ้างที่ซิ่วหมินยังยิ้มตอบ เขาเลยรีบขอตัวออกไปกับหญิงสาวข้างๆ ทันที

     


                ไปกันเถอะครับคุณซิ่วหมิน พอเจ้านายออกไปแล้ว คยองซูเลยหันไปเอ่ยชวนคนรักของเจ้านาย  ได้เงินค่าจ้างเขามาก็ไม่น้อยต้องทำให้เต็มหน้าที่กันหน่อย

     

     

                ไม่เป็นไรดีกว่าครับ คุณคยองซูอยู่เคลียร์งานเถอะ ผมกลับเองได้ คุณอย่าบอกลู่หานนะครับว่าผมขอกลับเอง พอดีผมว่าจะแวะเดินเล่นสักหน่อยแล้วค่อยกลับ อย่าลืมทานอาหารด้วยนะครับผมตั้งใจทำสุดฝีมือเลย ซิ่วหมินส่ายหัวน้อยๆ แล้วบอกความต้องการของตนเอง เพราะไม่อยากเป็นภาระของใคร






                 เอ๋ อย่างนั้นจะดีเหรอครับ ถ้าทำแบบนั้นเจ้านายจะเป็นห่วงเอานะครับ คยองซูเอ่ยทัก เขาเองก็เป็นห่วงคนรักของเจ้านายไม่น้อย นอกจากจะเป็นคนรักของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอย่างเจ้านายเขาแล้วซิ่วหมินยังเป็นทายาทคนเล็กของตระกูลคิม ถึงจะเป็นแค่นายน้อยแต่ก็มีความสำคัญถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้น คงกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ค่อยรู้ตัวเลยว่าคนอื่นเขาเป็นห่วงกันแค่ไหน

     

                 โดยเฉพาะเจ้านายของเขาอ่ะนะ...

     


                 ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมจะไปกับเพื่อนไม่ได้ไปคนเดียว สบายมากหายห่วง ผมไปนะครับซิ่วหมินหันไปเอ่ยลาเลขาคนเก่ง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรออกหาเพื่อนสนิท


     
                “ว่าไงซิ่วหมินเสียงปลายสายตอบรับ

     
                 “ไปหาไรกินกัน” ซิ่วหมินเอ่ยชวน

     

                “ได้ ตอนนี้มึงอยู่ไหนล่ะ ให้กูไปรับมั้ยซิ่วหมินอมยิ้ม ไม่ว่ายังไงเพื่อนสนิทของเขาก็นึกถึงเขาเป็นคนแรกเสมอ

               


                อืม กูรออยู่สวนสาธารณะข้างๆ บริษัทลู่หานนะ” ซิ่วหมินเอ่ยตอบเพื่อน ก่อนจะเดินออกจากลิฟท์แล้วพยักหน้าทักทายพนักงานของลู่หานที่ยกมือไหว้เขา

     

                 “โอเค งั้นรอกูสิบห้านาที

     

                “อืม

               

               ซิ่วหมินออกมานั่งรอชานยอลอยู่ที่สวนสาธารณะข้างๆ บริษัทของลู่หาน เขามองไปรอบๆ แล้วนึกถึงบรรยากาศเก่าๆ สวนสาธารณะแห่งนี้เขาเคยมาเดินเล่นกับลู่หานบ่อยๆ ในช่วงแรกที่ลู่หานเริ่มเปิดบริษัท ที่ม้านั่งตรงนั้นเป็นที่ที่ลู่หานเคยขอเขาแต่งงาน ซิ่วหมินยิ้มกับตัวเอง

     
     

    วันนั้นสวนแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยแสงไฟใหญ่น้อยประดับประดามากมาย ลู่หานนัดเขาไว้บอกเขาว่าจะพาไปทานข้าว เขานั่งรออยู่สักพักไฟก็ดับพรึ่บ ทำให้เขาตกใจไม่น้อยเตรียมจะวิ่งหนีอยู่แล้ว ยังไม่ทันได้ก้าวขาไฟก็สว่างขึ้นตรงประตูทางเข้า ปรากฏให้เห็นร่างสูงแสนคุ้นเคยที่ยืนยิ้มกว้างพร้อมถือดอกไม้ช่อใหญ่ในมือ ลู่หานเดินเข้ามาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา แล้วเอ่ยประโยคหนึ่งที่เขาจำได้จนถึงทุกวันนี้

     


              ชีวิตของผมเจออะไรแย่ๆ มาเยอะ

              จนคิดว่าชีวิตนี้จะไม่มีใครอีก

              แต่พอวันหนึ่งผมได้เจอกับแสงสว่างเล็กๆ ที่เดินเข้ามาในชีวิต

              แสงสว่างดวงนั้นค่อยๆ เข้ามามีบทบาทในชีวิต

             ทำให้ผมได้รู้ว่าแสงสว่างดวงนั้นมีค่ากับชีวิตของผมมากแค่ไหน

             วันนี้ผมอยากจะขอดูแลแสงสว่างดวงนั้น...

             ให้ลู่หานคนนี้ได้ตอบแทนความรัก...

    ได้ดูแลเขาไปตลอดชีวิตจนกว่าจะตายจากกัน

            และคุณก็คือแสงสว่างดวงนั้นของผม




            "แต่งงานกับผมนะครับซิ่วหมิน"





             ซิ่วหมินแทบจะตอบตกลงไปในทันที ลู่หานหยิบแหวนเกลี้ยงทองคำขาวออกมา แล้วยื่นมือมาจับมือของเขาเอาไว้ ซิ่วหมินยิ้มให้ลู่หาน ดวงตากลมสวยสั่นระริกด้วยความตื้นตันพลางฉีกยิ้มกว้าง

     

                ลู่หานยิ้มมุมปากก่อนจะสวมแหวนเข้าที่นิ้วนางข้างซ้ายของซิ่วหมิน แล้วยื่นแหวนอีกวงไปให้คนตรงหน้า ขณะเดียวกันก็ยื่นมือซ้ายของตนไปให้ซิ่วหมินเช่นกัน ซิ่วหมินรับแหวนไว้อย่างรู้งานแล้วสวมเข้าที่นิ้วนางข้างซ้ายของลู่หานพร้อมกับยิ้มเขินๆ

     

               “ตอนนี้เรากลายเป็นคนๆ เดียวกันแล้วนะครับ ไม่สิ...เรียกว่าอย่างเป็นทางการจะดีกว่าเพราะพวกเรา..."


                ซิ่วหมินเลิกคิ้วรอฟัง “...เป็นคนเดียวกันมาตั้งนานแล้วลู่หานเย้าทำให้ซิ่วหมินทั้งฉิวทั้งขัน

     

              “บ้า...เดี๋ยวเหอะลู่หานซิ่วหมินตีแขนคนรักไม่จริงจัง

     

               นึกมาถึงตอนนี้ขอบตาใสเริ่มร้อนผ่าว ซิ่วหมินไม่รู้ว่าตอนนี้ลู่หานคิดอะไรอยู่ เขาไม่อยากเอ่ยถาม ไม่อยากให้ลู่หานไม่สบายใจ กว่าที่พวกเขาจะมีวันนี้ได้ต้องผ่านอะไรมามากมาย เสียน้ำตาไปก็ไม่น้อย 


               เมื่อก่อนเวลาจะไปไหนมาไหนเขาต้องมีบอดี้การ์ดค่อยเดินตามอยู่ห่างๆ แต่พอแต่งงานซิ่วหมินเลยเอ่ยปากขอทางบ้านว่าให้ลดจำนวนลงบ้างเขาไม่อยากให้ลู่หานอึดอัด...

     

                “อ๊ะ

     

     ซิ่วหมินร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อมีขวดน้ำแร่ยื่นมาตรงหน้าเขา

     

                “สวัสดีครับ” ร่างสูงในชุดสูทสีดำเอ่ยทักซิ่วหมิน แล้วส่งยิ้มอบอุ่นมาให้

     

                เอ่อ ขอบคุณครับ แต่เราไม่รู้จักกันนี่ คุณ... ซิ่วหมินเอ่ยถามอย่างสงสัยเขาแน่ใจว่าไม่เคยพบคนๆ นี้มาก่อนพลางมองสำรวจด้วยความใคร่รู้ ใบหน้าหล่อเหลา ร่างสูงโปร่ง ใส่สูทสีเข้ม ดูจากลักษณะภายนอกคนๆ นี้คงอายุมากกว่าเขา ตอนนี้เขาอายุย่างเข้ายี่สิบห้าแล้วส่วนอีกคนก็น่าจะสักยี่สิบแปด แต่ดูยังไงคงไม่น่าจะเกินสามสิบ

     

                ผมอู๋อี้ฟานครับ หรือจะเรียกว่าอู๋ฟานก็ได้ ร่างสูงของผู้มาใหม่ยิ้มให้กับซิ่วหมิน เขารู้ว่าอีกคนมองสำรวจเขาอย่างไม่ไว้ใจ เลยจำต้องเอ่ยแนะนำตัวเองกับอีกคน แล้วทิ้งตัวนั่งลงที่ว่างด้านข้าง

     

    วันนี้เขาอู๋อี้ฟานตั้งใจแค่จะมาทำความรู้จักกับคนข้างๆ นี้เท่านั้น เขาเคยเห็นอีกคนแต่ในรูป ได้จังหวะเลยชิงมาพบตัวจริงเพื่อทำความรู้จักเอาไว้ก่อน

     
     

                “เห้ย มึงเป็นใครวะ! กูแน่ใจว่าไม่รู้จักมึงนะ และแน่นอนว่าเพื่อนกูก็ต้องไม่รู้จักมึงด้วย ถอยไปเลยไป๊” เสียงห้าวของอีกคนโวยวายมาแต่ไกล ก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาใกล้แล้วหยุดยืนอยู่ตรงหน้าร่างสูง จ้องหน้าคนแปลกหน้าอย่างเอาเรื่อง

     

                 “ไอ้ชานยอล ใจเย็นๆ ดิวะ เขาแค่เข้ามาทักกูเอง อาจจะรู้จักกับคุณป๊ากูก็ได้ซิ่วหมินรีบเอ่ยบอกเพื่อนสนิท พลางส่ายหน้าเป็นเชิงห้าม

     

                 แล้วทำไมถึงต้องหวงขนาดนั้น เป็นอะไรกันงั้นเหรอคนสูงกว่าเอ่ยพูด เขาแค่อยากจะทำความรู้จักกับซิ่วหมินเอาไว้เพราะวันข้างหน้ายังไงก็ต้องได้พบกัน แต่อีกคนที่เพิ่งเข้ามาถึงก็โวยวายเสียงดังจนแสบแก้วหู มันน่าจะจับตีก้นซะให้เข็ด อู๋ฟานลุกขึ้นยืนก่อนจะเพ่งมองคนโวยวายชัดๆ แล้วต้องสะดุดกึก!

     


               น่ารัก!



                “ยุ่งปะซิ่วหมินกูว่าแถวนี้อากาศมันไม่บริสุทธิ์แล้วว่ะ อยู่นานๆ อาจจะเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจเพราะมันมีแต่มลพิษ!” ชานยอลพูดด้วยเสียงหงุดหงิด ก่อนจะหันไปลากเพื่อนสนิทของตนเดินออกไปอีกทาง ไม่รู้ทำไมถึงต้องขนลุกกับนสายตาของอีกคนที่จ้องมองเขา แถมยังเข้ามาทำความรู้จักกับเพื่อนของเขาอีก มันไม่น่าไว้ใจ 

     

             อู๋ฟานยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเอ่ยพูดกับตัวเอง หึๆ แล้วเราจะได้เจอกันอีกแน่...ฉันแน่ใจ” ร่างสูงใหญ่ยืนล้วงกระเป๋า จ้องมองไปยังร่างโปร่งของคนสองคนที่เพิ่งเดินออกไปอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเลี่ยงไปขึ้นรถหรูที่จอดรออยู่อีกฝั่ง











     


    ___________________________________
    Talk :: EDIT 30/01/60
         
              หวังว่าจะชอบกันนะ
              ชอบรึไม่ชอบบอกกันบ้างเน้อ

               สุดท้ายนี้ไม่ "เม้น" ไม่เป็นไร ขอแค่กด Fav. เราก็พอ มันก็ปฏิเสธไม่ได้เน๊าะว่าคอมเม้นท์มันเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนแต่งนิยายตาดำๆ อย่างเราๆ มีกำลังใจในการแต่งนิยายต่อไป ถ้าชอบก็ฝากแชร์ต่อด้วยนะคะ

               ขอบคุณทุกๆ กำลังใจ ทุกๆ คอมเม้นท์ที่มีให้เบบี้เยลโล่ รักรีดเดอร์ทุกคนนะค้าบ...
               อีกนิด...ฝากเพจ FB :: เบบี้เยลโล่  TWT :: @Baby_Yellowza 


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×