ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Woman of History

    ลำดับตอนที่ #2 : [เนเฟอร์ตีติ:อียิปต์]

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ย. 53







    เนเฟอร์ตีติ ชื่อนี้ หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นกันสักเท่าไร เพราะ เอาแต่คอยอยู่หลังม่านบงการผ่านสามี(อเมนโฮเทปที่ 4) 
         เนเฟอร์ตีตินั้น เป็นถึงราชินีของแผ่นดินอียิปต์สมัย 3,300 ปีที่ผ่านมา แถมยังเป็นราชินีที่ขึ้นชื่อได้ว่า 'สวยที่สุดในประวัติศาสตร์' ของอียิปต์ ไม่เชื่อดูที่รูปปั้นของเนเฟอร์ตีติที่อยู่ข้างบน(ชาวอียิปต์สมัยก่อนมักปั้นรูปปั้นให้รูปลักษณ์ใกล้เคียงกับความจริง)
         ชื่อของพระนางนั้น ก็เป็นชื่อที่บอกถึงความงามอยู่แล้ว เพราะ ชื่อของพระนางนั้นแปลว่า'โฉมงามผู้หยาดฟ้ามาเดินดิน' 
         อันพระนางเนเฟอร์ตีตินั้น ไม่ใช่ชาวอียิปต์แท้หรอก แต่กลับมีเชื้อสายไมแทนนี่ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของชนเผ่าซีเรีย ด้วยเชื้อสายที่แตกต่างนี่ละ ที่ทำให้ความงามของนางต่างไปจากรูปโฉมของชาวอียิปต์โบราณ ใบหน้าเรียวได้ส่วน จมูกโด่งเป็นสัน ปากอิ่มรับกับคางมนงาม จุดเด่นที่เห็นจากรูปปั้นของพระนางคือลำคอยาวระหงนั่นล่ะ เนเฟอร์ตีติก้าวสู่ราชสำนักอียิปต์ด้วยแรกรุ่นชันษา ในฐานะเครื่องบรรณาการมีชีวิตจากพระเจ้ากรุงไมเทนนี่ พระราชบิดาของเธอ พร้อมๆกับเจ้าชายเจ้าหญิงอื่นๆของพระองค์
         แม้ว่าเนเฟอร์ตีติจะยังอยู่เพียงวัยแรกสาว หากความงามของนางในวัยนั้น สามารถรัดรึงใจบุรุษในราชสำนักอียิปต์ในสมัยของฟาโรห์อเมนโฮเทปที่3 หลายคนเลยทีเดียว หนึ่งในจำนวนนั้นคือคนสำคัญซะด้วย คือเจ้าชายอเมนโฮเทป(อเมนโฮเทปที่ 4) ผู้ไม่อาจละเสน่ห์หาในตัวเธอลงได้เลย ไม่ว่าเนเฟอร์ติจะย่างก้าวไปทางไหน ย่อมมีเจ้าชายน้อยติดตามจนแทบเป็นเงาตามตัว
         แต่ว่าทั้งสองไม่ได้สมหวังดั่งใจง่ายๆหรอกค่ะ เพราะตามกฏการสืบสันตติวงศ์ของอียิปต์ ผู้จะขึ้นเป็นฟาห์โรจะมีมเหสีเป็นพี่น้องสายโลหิตเดียวกัน ประมาณว่าพ่อแต่งงานกะลูก ปู่แต่งงานกะหลานงี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย = =" อเมนโฮเทปเองก็ถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะต้องอภิเษกกับเจ้าหญิงสตามันผู้เป็นพระขนิษฐาร่วมชนนี อเมนโฮเทปเองก็รู้เรื่องนี้ดีอยู่หรอก แรกๆตัวพระองค์เองก็ไม่มีข้อข้องใจที่จะต้องขัดขวางอะไรแต่อย่างใด แต่ครั้นเมื่อได้พบประสบพักตร์เนเฟอร์ตีติเข้าแล้วสิ เรื่องที่ไม่เคยเป็นปัญหาก็เลยกลายเป็นปัญหาใหญ่เลยทีนี้ - -; พระองค์ทรงพยายามที่จะหน่วงเหนี่ยวพิธีอภิเษกสมรสระหว่างพระองค์กับเจ้าหญิงสตามันออกไปให้นานที่สุด
         นี่เป็นปัญหาที่น่าขบคิดนะ เพราะอันที่จริงการแต่งงานกับน้องสาวอย่างที่อเมนโฮเทปจะต้องทรงทำก็เป็นเพียงหน้าที่ที่จะต้องรักษาตำแหน่งอันสูงส่งของราชินีไอยคุปต์ไว้เท่านั้น พออภิเษกสตามันเป็นเอกอัครมเหสีแล้ว พระองค์อาจแต่งตั้งเนเฟอร์ตีติให้เป็นมเหสีรอง หรือชายาได้อย่างสบายๆ
         แต่พระองค์กลับอยากจะอภิเษกกับเธอและแต่งตั้งให้เป็นเอกอัครมเหสีมากกว่า ทั้งๆที่รู้ว่าต้องฝ่าด่านม่านประเพณีอย่างหนัก ก็โอเคนะ ถ้าเรามองเรื่องนี้ในแง่บวก เพราะเราคงเห็นว่าอเมนโฮเทปรักเนเฟอร์ตีติมากซะจนอยากให้คุณเธอรับตำแหน่งใหญ่เบ้งคับอียิปต์เลยเสียทีเดียว แต่ถ้ามองในแง่ลบ มองแบบกลับกันดู คิดมั้ยล่ะว่าเนเฟอร์ตีติเองน่ะแหละที่ดิ้นรนอยากได้ตำแหน่งนี้จนใจจะขาด ก็เธอรู้นี่ ว่าอเมนโฮเทปลุ่มหลงในความงามของเธอมากเพียงใด ทำไมเธอจะไม่สามารถยื่นคำขาดกับเจ้าชายรัชทายาทได้ล่ะ และเจ้าชายก็ทำท่าเห็นคล้อยตามคนรักซะด้วยสิ พระองค์จึงหาทางบ่ายเบี่ยงจากการอภิเษกสมรสตามโบราณราชประเพณีทุกทางที่จะทำได้
         เหตุผลหลังดูเหมือนจะเป็นเหตุผลที่น่าจะเป็นไปได้ซะด้วยสิเพราะนอกจากเนเฟอร์ตีติมีความงามเป็นเอก เธอน่าจะมีอำนาจและความลึกลับพอๆกัน นักอียิปต์ศาสตร์ยังไม่ค่อยเข้าใจพฤติกรรมปริศนาเท่าไรนัก ตราบจนกระทั่งปี 1956(พ.ศ.2499)นี่เองละ ความลับบางส่วนของเนเฟอร์ตีติก็เปิดเผยออกมา
         ที่เคยเข้าใจกันว่าเธอน่าจะเป็นผู้หญิงอ่อนหวานสมกับความงามนั่นมันไม่จริงเลย กลับกลายเป็นว่าเธอเป็นผู้หญิงเข้มแข็ง แน่วแน่ มีความทะเยอทะยานสูง และเหนือสิ่งอื่นใดก็คือ เธอยืนอยู่เบื้องหลังฟาโรห์ผู้เป็นพระสวามีและเป็นผู้ชักใยสำคัญที่สุดที่ทำใหเกิดการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปศาสนาซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มากในสมัยนั้น ถ้าเธอทำให้พระสวามีคิดอะไรตามเธอได้ เรื่องที่เธอพยายามจะขึ้นดำรงตำแหน่งราชินีไอยคุปต์แม้ว่าจะต้องฝ่าขวากหนามมากมายก็เป็นเพียงแค่ปฐมบทเท่านั้น...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×