คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #161 : ใบสมัคร Dornröschen
REGISTER
Part I : ข้อมูลตัวละคร
บท : นักเรียน
รูป :
ลักษณะภายนอก : หญิงสาวรูปร่างสูง เรือนผมยาวสีแดงเข้มมัดเปียด้านหน้าข้างขวา ดวงตาสีเขียวซีดแลดูไม่เป็นมิตร ใบหน้าสวยได้รูปแต่ไร้ซึ่งรอยยิ้มประดับ ใส่ชุดฝึกสีขาวไว้ข้างในก่อนทับด้วยเสื้อนอกสีดำอีกทีนึง สูง 164 ซม หนัก 49 กก
จุดเด่น : เรือนผมยาวสีแดงเข้ม
ชื่อ - สกุล : หยาง หลิน || Yang Lin
ชื่อเล่น : หลิน || Lin
ฉายา : -
เพศ : หญิง
อายุ : 19 ปี
บ้านเกิด : จงกั๋ว
อุปนิสัย :
หลินเป็นคนที่พูดน้อย เวลาพูดอะไรก็มักจะพูดสั้นกระชับ และ น้ำเสียงนิ่งพอสมควร ไม่ค่อยพูดเรื่องไร้สาระ หรือ ออกความเห็นลอยๆเท่าไหร่หากไม่โดนถาม เวลาอยู่กับเพื่อนที่สนิท หรือ คนที่ไว้ใจด้วยจะพูดมากกว่าปกติเล็กน้อย ไม่ค่อยเปิดเผยเรื่องของตัวเองนักยกเว้นแต่จะโดนตื้อแบบสุดๆจริงๆ
ช่างสังเกต ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กน้อยๆอยู่เสมอ รับรู้อยู่ตลอดเวลาว่าสิ่งของ / คนรอบกายตัวเป็นอย่างไร มีอะไรผิดปกติบ้าง ซึ่งบางครั้งก็ทำให้รู้ถึงพฤติกรรมนิสัยเสียของคนอื่นที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่ทราบ นานๆเข้าก็ทำให้สามารถอ่านนิสัยใจคอบางส่วนจากพฤติกรรมของอีกฝ่ายได้อีกด้วย
มีระเบียบวินัย และ กฎของตัวเอง ถึงแม้จะเป็นคนที่เข้าถึงยากเพราะหน้าตาบอกบุญไม่รับ(?) แต่ด้วยการที่มีความรับผิดชอบสูง และ เป็นที่พึ่งพาได้ในยามจำเป็นทำให้ได้รับความเชื่อใจจากคนรอบข้าง ให้ความสำคัญกับคำพูดคำจาจึงไม่รับปากอะไรพร่ำเพรื่อ ชอบที่จะเข้านอนเร็ว และ ตื่นตั้งแต่เช้ามืดขึ้นมาฝึกคนเดียวเป็นระยะๆ
มองโลกตามความเป็นจริง … ค่อนไปทางแง่ร้ายเสียด้วยซ้ำ เวลาลงมือจะไม่ประมาท ฟุ้งซ่าน และ เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด สำหรับเธอแล้วความตายถือเป็นเรื่องปกติ หากรู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย หรือ ไม่มีโอกาสรอดก็คงพยุงตัวหาไปที่นั่งรอคอยความตายอย่างสงบ และ ที่สำคัญคือเธอจะไม่โทษใครทั้งนั้น
ไม่ค่อยทะนุถนอมร่างกายตัวเองเท่าไหร่ หากตัดสินใจทำอะไรแล้วเธอก็จะทุ่มเทให้กับมันถึงที่สุด ความมุ่งมันนั้นมักจะทำให้เธอฝืนขีดจำกัดของตัวเองอยู่เป็นประจำ ช่วงวัยเด็กเองก็มีหลายครั้งที่ฝึกวิชาหมัดจนถึงขั้นล้มหมอนนอนป่วย และ ถ้าหากเพื่อเป้าหมายแล้วเธอก็กล้าที่จะโยนตัวเองเข้าเสี่ยงอย่างไม่ลังเล
ประวัติความเป็นมา : ทายาทผู้ฝึกวิชาหมัดสังหารที่สืบทอดให้กันเฉพาะคนในตระกูล ตระกูลของเธอคอยรับใช้องค์จักรพรรดิในฐานะมือสังหารส่วนตัวของราชวงศ์มาหลายชั่วอายุคน พ่อเสียชีวิตตั้งแต่ช่วงที่เธอยังเป็นเด็ก และ หลังจากนั้นไม่นานแม่ก็หนีไปอยู่กับชายอื่นทำให้เธอต้องอาศัยอยู่กับปู่เพียงลำพัง
ในช่วงอายุ 15 ปี หลังบรรลุเพลงหมัดขั้นสูงไปบางส่วน ปู่ก็บอกให้ทราบว่าตัวเธอนั้นมีพรสวรรค์ทางเวทมนตร์พร้อมแนะนำให้ลองไปเรียนที่ Dornröschen โดยให้เธอเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะไปลองเรียนดูหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวใช้เวลาคิดอยู่สองวันสองคืนก่อนที่จะตัดสินใจออกเดินทางไปโรงเรียนเพื่อหาความรู้ใหม่ๆ และ เปิดโลกของตัวเองให้กว้างขึ้น
ชอบ/เกลียด/กลัว :
ชอบ : ชาจืดๆ, ธรรมชาติ และ ความเรียบง่าย
เกลียด : ความฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย และ ของหวานจัด
กลัว : การไปพบแม่แท้ๆของตัวเอง
เลือกมา 2 อย่างจากในนี้ : ต่อสู้แบบประชิดตัว และ ลอบโจมตี
จากข้อด้านบนอธิบายทักษะมาเพิ่มเติม :
การต่อสู้แบบประชิดตัว : ถึงแม้เจ้าตัวจะฝึกแต่วิชาหมัด แต่ด้วยตำแหน่งของตระกูล และ การฝึกของปู่ทำให้ได้เรียนรู้วิธีการรับมืออาวุธชนิดต่างๆมากพอสมควร หลังเข้าเรียนก็ได้เรียนเวทจำพวกเสริมสมรรถภาพทางกายภาพช่วยเสริม ถ้าหากอยู่ในระยะ 10 ก้าว และ อีกฝ่ายไม่ช่ำชองเรื่องการต่อสู้ระยะประชิดล่ะก็ เธอมั่นใจว่าหมัดของเธอนั้นถึงตัวก่อนแน่นอน
ลอบโจมตี : เพราะเกิดมาในตระกูล และ ถูกฝึกให้เป็นมือสังหารตั้งแต่ยังเด็กทำให้เธอมีพรสรรค์ทางด้านนี้พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นทักษะตีนเบา หรือ กลบจิตเจ้าตัวก็สามารถทำได้แทบจะเกือบสมบูรณ์แบบ
อาวุธประจำตัว : ไม่มี
ความสามารถพิเศษอื่นๆ : กระเพาะเหล็กไหล – ทานอะไรลงไปท้องก็มิเสีย
เพิ่มเติม :
สวมน้ำหนักถ่วงไว้ที่ข้อมือ และ ข้อเท้าข้างละ 1 กิโลไว้แทบจะตลอดเวลา
มีพลังเวทไม่เยอะ เน้นใช้เสริมสมรรถภาพร่างกายตัวเองเสียเป็นส่วนใหญ่
เป้าหมายปัจจุบันของเธอคือเอาชนะปู่ในการซ้อมกันให้ได้ซักครั้งหนึ่ง
Part II : โรลเพลย์
ดวงตาสีเขียวซีดค่อยๆลืมตาขึ้นจากความสลึมสลือก่อนค่อยๆเลื่อนไปยังรูมเมทของตนที่ยังคงหลับอย่างสงบ ร่างผอมค่อยๆลุกขึ้นแต่งตัว จัดการผมสีแดงยาวเข้มให้เข้าทรง จากนั้นจึงเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบงัน
ยามเช้ามืดประมาณตีห้าของทุกวันเธอจะลงมาฝึกฝนร่างกายเพียงลำพัง ดวงตาแสดงออกถึงความมุ่งมั่น สองหมัดต่อยก่อเสียงดังชัด สองขาเตะแหวกว่ายไปในอากาศรวดเร็ว ควบคุมการไหลเวียนของพลังเวทให้เป็นระเบียบไม่สูญเปล่า เสียงเปล่งออกมาเป็นจังหวะพร้อมกับกระบวนท่า พลางนึกไปถึงคำสั่งสอนหลักที่ปู่พร่ำย้ำนักย่ำหนา
“จำไว้นะ หลิน อาวุธที่เราสามารถไว้ใจได้มากที่สุดก็คือร่างกายของเราเองนี่แหละ”
“อย่าลืมที่จะหมั่นฝึกฝน แม้เจ้าจะไม่รู้สึกแต่ร่างกายมันจดจำได้ และ การเคลื่อนไหวต่างๆจะเฉียบคมขึ้นโดยที่เจ้าไม่รู้ตัว”
ริมฝีปากของเจ้าตัวยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย พลันนึกไปถึงช่วงแรกๆที่เจ้าตัวย้ายไปอยู่กับปู่ก่อนที่จะพร่ำฝึกไม่เว้นวันที่ฝนตกจนล้มป่วยทำเอาในบ้านวุ่นกันไปใหญ่ หรือ ตอนปีหนึ่งที่ยังควบคุมพลังเวทได้ไม่ค่อยดีทำให้ไม่มีเรี่ยวแรงจนล้มทั้งยืนระหว่างเรียน
ร่างบางยังคงฝึกไปเรื่อยๆจนกระทั่งได้ยินเสียงทักทายของอาจาร์ยประจำบ้านที่ตื่นตรงเวลาเดิมทุกวัน
“อรุณสวัสดิ์ หลิน ยังฟิตแต่เช้าเหมือนเดิมเลยนะ”
สายตาค่อยเลื่อนไปทางต้นเสียง พลางสังเกตเห็นถึงใต้ตาคล้ำพร้อมท่าทางอิดโอยของอีกฝ่ายก่อนขยับปากเอ่ยตอบ
“ค่ะ … อาจาร์ยเองก็เหมือนกันนะคะ ทั้งๆที่นอนไม่พอแท้ๆ เมื่อวานมีประชุมใหญ่หรือคะ?”
“เฮ้อ ทำไงได้ล่ะ เป็นผู้ใหญ่แล้วภาระมันก็เยอะรัดตัวแบบนี้แหละ” อีกฝ่ายกล่าวขึ้นเชิงบ่นเล็กน้อยก่อนที่จะสาวเท้าไปยังโรงอาหารพร้อมส่งท้ายว่า “ฝากปลุกพวกเด็กๆปีหนึ่งด้วยล่ะ ถ้าบ้านเรามีคนไปสายตั้งแต่วันแรกท่าคงไม่สวยเท่าไหร่”
“ค่ะ” หลินตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่ง เธอปิดการฝึกช่วงเช้าด้วยกระบวนท่าต่อเนื่องที่เสริมแกร่งด้วยพลังเวทโดยหมัดสุดท้ายที่ปล่อยออกไปนั้นสร้างแรงสั่นสะเทือนในอากาศมิใช่น้อย หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ปล่อยให้ร่างกายคูลดาว์นลงเล็กน้อยก่อนที่สองเท้าจะก้าวไปจัดการปลุกเหล่าเด็กปีหนึ่งตามคำไหว้วานที่ได้รับมอบมา
ความคิดเห็น