ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] SiLLy Game,, (WonCin, KyuMin)

    ลำดับตอนที่ #8 : SiLLy Game 04 (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ค. 52


    SiLLy Game 04

     

     

     

     

     

     

                    เช้าวันนี้คยูฮยอนมีสอบเข้ามหาวิทยาลัย... ซึ่งเป็นการสอบครั้งที่สำคัญกับพี่ชายทั้งสองมากกว่าคนที่จะไปสอบด้วยซ้ำ... เพราะความจนเป็นเหตุทั้งฮีชอลและฮันชอลจึงหยุดการศึกษาของตัวเองไว้ที่มัธยมปลายเท่านั้น..

     

                    แน่นอนว่าการเข้ามหาวิทยาลัยถือเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมาก... สำหรับคนที่ไม่มีโอกาสจะได้เรียนสูงขนาดนั้น..

     

                    จึงกลายเป็นหน้าที่ของฮีชอลที่ต้องลุกขึ้นมาทำอาหารเช้าแทน เพราะไม่อยากให้น้องชายคนเล็กเหนื่อย กลัวจะทำข้อสอบไม่ได้...

     

                    “อ๊ะ... กี้มานั่งตรงนี้ๆ” ฮีชอลตบพื้นโต๊ะฝั่งที่นั่งติดกับตัวเอง

     

                    “วันนี้พิเศษ... แต่นแตนแต๊น... พุลโกกี* จ้า... ^^ (*เนื้อย่างเกาหลีสุดหรูเริด...)

     

              “โห... ไม่ต้องถึงขนาดนี้ก็ได้ครับ” คยูฮยอนมองอาหารบนโต๊ะด้วยความตะลึงงัน ดูๆแล้วมื้อนี้คงไม่ต่ำกว่า 6-7 พันวอนแน่ T__T

     

              “ได้ไงกัน... เดี๋ยวตอนทำข้อสอบสมองไม่วิ่งกันพอดี ^________^

     

                    ฮินชอลแอบแบะปากกับคำพูดของฮีชอล

     

                    แหงล่ะ... นี่มันเงินของฉันนี่... แกออกแค่ค่าถ่านย่าง 500 วอนเท่านั้นแหละชอล!!  -*-

     

     

     

     

     

              หลังจากที่กินอาหารเช้าเสร็จ ฮีชอลก็ทำพิธีที่เรียกว่า ให้กำลังใจนักรบก่อนออกศึกโดยการร่ายรำท่าพิศดารประกอบกับฮัมเพลงทำนองประหลาด... เพื่อเป็นการเรียกขวัญและกำลังใจให้น้องคนเล็ก...

     

                    แต่ดูเหมือนมันจะกลายเป็นการเรียกเสียงหัวเราะจากน้องทั้งสองคนเสียมากกว่า

     

                    “คุณพ่อคุณแม่ครับ... ผมจะพยายาม... ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะ” คยูฮยอนพนมมือไหว้รูปถ่ายของคนทั้งสองก่อนจะหยิบกระเป๋าเตรียมตัวออกจากบ้าน

     

                    “งั้น... ผมไปก่อนนะครับพี่ชอล...” คยูฮยอนหันมาบอกลา

     

                    “พยายามเข้านะ... สู้ๆ” ฮีชอลบอก “ชอลจิ.. แกไปส่งกี้ดีๆล่ะ” หันไปกำชับน้องชายตัวดี

     

                    “เออน่า... ไปเหอะเดี๋ยวสาย” ฮินชอลขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปพร้อมกับคยูฮยอน

     

                    ฮีชอลหันกลับมามองรูปถ่ายของพ่อแม่...

     

                    “พ่อครับ.. แม่ครับ.. ช่วยให้กี้ทำข้อสอบได้ด้วยนะครับ...”

     

     

     

     

     

                    หลังจากที่จัดการงานบ้านจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฮีชอลกำลังเตรียมตัวออกจากบ้านไปทำงานตามปกติ แต่เจอกับคุณลุงปาร์คที่หน้าหอซะก่อน

     

                    “อรุณสวัสดิ์ครับคุณลุง^^” ฮีชอลทักทายตามปกติ

     

                    “ไปทำงานแล้วเหรอฮีชอล ^^” ชายชราทักตอบ

     

                    “ครับ!! ผมไปก่อนนะครับ” ฮีชอลตอบก่อนจะเดินออกไป... ใครจะไปนึกว่านั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ฮีชอลจะได้เจอกับคุณลุงปาร์คที่แสนใจดี

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              ..RRrr..Sorry Sorry Sorry Sorry 내가 내가 내가 먼저 네게 네게 네게 빠져 빠져 빠져 버려 baby...RRrr...

    (Sorry Sorry – Super Junior the 3rd album)

     

     

                    เสียงริงโทนโทรศัพท์มือถือดังขึ้นปลุกเจ้าของขึ้นมาจากห้วงนิทราในทันที...

     

                    “ฮัลโหล...” น้ำเสียงบ่งบอกได้ว่าเจ้าของยังตื่นไม่เต็มตา

     

                    “เฮ้ย... ตื่นได้แล้วเว้ย! อีก 20 นาทีเจอกันที่บ้านฮงกิ” โดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายได้โต้แย้ง คนโทรมาก็วางสายหนีทันที

     

                    “อะไรวะ? วุ่นวายชิบ - -* ” ถึงปากจะบ่นแต่เจ้าตัวก็เดินเข้าห้องน้ำทันที

     

     

     

     

     

     

     

     

    20 นาทีผ่านไป.. (ไวยิ่งกว่าสายลมพัด~ by ไรท์เตอร์)

                   

     

     

                    ชีวอนมาถึงบ้านของฮงกิตรงตามเวลาที่ฮันเกิงบอกไว้พอดีไม่ขาดไม่เกิน... มาถึงเจ้าตัวก็โวยเพื่อนทันที

     

                    “อะไรวะ? ตามมาตั้งแต่เช้าอย่างนี้น่ะ -*-” ชีวอนหย่อนตัวลงบนโซฟาอีกตัวหนึ่ง

     

                    “เอาน่าๆ ก็มานี่หว่า... จะบ่นทำไม...” ฮันเกิงพูดพลางส่งกระดาษกองหนึ่งให้ชีวอน

     

                    “อะไร?” ชีวอนถาม

     

                    “เปิดดูซะก่อน..” ฮันเกิงบอกเสียงเรียบ

     

                    ชีวอนพลิกกระดาษดูแผ่นแล้วแผ่นเล่าจนหมดทั้งกอง... มือด้านที่ถือกระดาษอยู่กำกระดาษซะจนแน่น

     

                    “ในที่สุด...” ชีวอนพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ในที่สุดฉันก็หามันเจอ!!” แววตาที่เต็มไปด้วยความแค้นลุกโชติ... คำสาบานที่เคยให้ไว้กับใครบางคนใกล้จะเป็นจริงแล้ว

     

                    “แล้วนายจะเอาไงต่อล่ะ?” ฮงกิถาม

     

                    “หึ...” กระตุกยิ้มที่มุมปากก่อนจะบอกว่า “คงต้องไปเยี่ยมมันสักหน่อย...” ชีวอนพูดพลางมองหน้าเพื่อนรักทั้งสองคน

     

                   

     

                   

     

     

     

                   

     

     

     

                   

     

                    ชายชรากำลังรดน้ำต้นไม้บริเวณหน้าหอตามปกติที่เคยเป็นอยู่ทุกวัน... ด้วยอายุที่เกิน 60 ปีแล้ว ทำให้งานต่างๆต้องยกให้ลูกหลานช่วยดูแลแทน ส่วนตัวเองก็ขอมารับผิดชอบหอพักที่นี่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

     

                    คุณลุงปาร์คผู้แสนใจดีของฮีชอลทำท่าจะเก็บสายยางไว้ที่เดิม... พลันก็มีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งมาจอดที่หน้าหอพัก

     

                    ชายหนุ่มสามคนลงมาจากรถ... แต่คนที่ดูดวงตาแข็งกร้าวที่สุดเดินเข้ามาหาเป็นคนแรก

     

                    “คุณคือปาร์ค ฮยองซูสินะ...” ชายหนุ่มถาม

     

                    “ใช่...” ชายชราตอบด้วยความซื่อ.... โดยไม่คิดว่าภัยร้ายกำลังมาถึงตัว

     

                    “งั้นเราก็มาถูกที่แล้วล่ะ...” ชายหนุ่มล้วงอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อ “หวังว่า... คุณคงยังไม่ลืมสิ่งนี้...” รูปถ่ายเก่าๆใบหนึ่งถูกส่งมาให้ชายชรา

     

                    เมื่อลุงปาร์ครับรูปถ่ายใบนั้นมาดู ถึงกับหน้าซีดเผือด...

     

                    “เธอ... มีรูปใบนี้ได้ยังไง?!” ชายชรากำลังสั่นผวาอย่างเห็นได้ชัด

     

                    “แสดงว่าคุณยังจำได้...” ชายหนุ่มยิ้มให้โดยไร้ความจริงใจ “สงสัยเราต้องคุยกันหน่อย...”

     

                    ชีวอนเดินนำลิ่วเข้าไปในตัวอาคารหอพัก โดยมีฮันเกิงและฮงกิคอยควบคุมให้ชายชราเดินตามเข้าไป... ประตูห้องถูกปิดลง... ชายชราโดนบังคับให้นั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของตัวเอง

     

                    “อย่าเข้าใจผิดนะ...” ชีวอนพูด “ผมมันไม่เลวเหมือนอย่างคุณ... แต่ที่มาวันนี้... ผมต้องการรู้ว่าคนๆนี้อยู่ที่ไหน?!” ชีวอนชี้ไปที่ผู้ชายที่อยู่ด้านซ้ายสุดในภาพ

     

                    “เธอไม่มีวันหาเขาเจอ!!!” ชายชราตะโกนลั่น

     

                    “อา.... สมกับพี่เป็นเพื่อนรักกันจริงๆ” ชีวอนปรบมือพลางยิ้มเยาะ “อันที่จริงผมไม่อยากทำร้ายคนแก่ไม่มีทางสู้เลยนะ”

     

                    “งั้นฉันทำเอง” ฮันเกิงไม่พูดเปล่า เดินเข้ามาใกล้ชายชรามากขึ้น

     

                    “หยะ... อย่า...!!!” ชายชรายกแขนทั้งสองข้างขึ้นมากันตัวเองไว้
    href="file:///C:\DOCUME~1\USSER0~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_filelist.xml" />

     

    100% FULL UP


                    “นี่!!!” ฮงกิแทรกขึ้นมา

     

                    “ฉันว่านะ... ลองรื้อๆห้องนี้ดู.... บางทีอาจเจออะไรดีๆก็ได้” ฮงกิเสนอความเห็น

     

                    “มะ...ไม่!!!” ชายชราร้องเสียงหลง พลางวิ่งไปยืนขวางตู้ใบหนึ่งไว้

     

                    “โง่ชะมัดเลยไอ้แก่นี่!!” ฮันเกิงพูด แล้วเดินไปกระชากตัวชายชราออกมาจากตู้ใบนั้น

     

                    ฮงกิสบโอกาสเดินเข้าไปเปิดตู้ดังกล่าว เห็นมีเพียงกล่องไม้ใบหนึ่งก็หยิบออกมา

     

                    “นี่คงสำคัญใช่มั้ยครับ... คุณลุง? ^^” รอยยิ้มแห่งชัยชนะผุดขึ้นบนใบหน้าหวาน มือบางจัดการเปิดฝาแล้วเทสิ่งที่อยู่ภายในกล่องออกมาทันที

     

                    รูปถ่าย และเอกสารบางอย่างร่วงออกจากกล่องไม้ตกลงสู่พื้น... ชีวอนก้อมลงไปเก็บขึ้นมาดูอย่างใจเย็น

     

                    เป็นรูปถ่ายครอบครัวที่มีพ่อแม่ และเด็ก 2 คนยืนอยู่ติดกัน... ในภาพคนที่เป็นแม่กำลังจับท้องที่ใหญ่ออกมา... หญิงคนที่อยู่ในภาพกำลังตั้งครรภ์

     

                    “โอ๊ะ!! นี่สินะคนที่ผมกำลังตามหา...” ชีวอนพูดแล้วพลิกดูด้านหลังของรูปถ่ายปรากฏข้อความว่า

     

                    ยุนโฮ, แจจุง

                    ฮีชอล, ฮินชอล 4 ขวบครึ่ง

                    2 มิถุนายน 1991

     

                    “ยุนโฮ.... หึ... ในที่สุด... ก็ได้เจอ!!” ชีวอนตะโกนออกมา

     

                    “ไม่...ไม่...” ชายชราพูดพล่ามราวกับคนเสียสติ

     

                    “พวกเราไม่รู้เรื่อง... พวกเราไม่ผิด... พวกเราไม่ผิด!!!” ฮันเกิงปล่อยมือออกจากแขนของชายชรา เมื่อเห็นว่าเริ่มผิดปกติ

     

                    “พวกเราไม่ผิด... มัน... มันนั่นแหละผิด!!!” ชายชราเริ่มคลุ้มคลั่ง

     

                    “หึ... น่าสมเพช!!!” ชีวอนมองด้วยสายตาสมเพช ก่อนจะเก็บเอกสารและภาพถ่ายที่ตกลงมาใส่กล่องใบเดิม

     

                    “ไปเถอะ...” ชีวอนบอก แล้วเดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้ชายชรานั่งพูดกับตัวเองอย่างเสียสติต่อไป

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตกเย็น (เราไปเดินเล่นริมทะเล~ by ไรท์เตอร์)

     

     

     

                    สามพี่น้องกลับมาถึงหอพักพร้อมกัน... แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นจำนวนเกาหลีมุงยืนกันอยู่แน่นขนัดที่หน้าหอ ฮินชอลที่แข็งแรงที่สุดเดินแหวกทางให้กับฮีชอลและคยูฮยอนเดินเข้ามาข้างใน

     

                    “ไม่น่าเลยจริงๆ...” คุณป้าวัยกลางคนพูดกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน

                   

                    “นั่นสิ... ดูยังไงก็ไม่น่าจะฆ่าตัวตายได้” คุณป้าอีกคนตอบ

     

                    “เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?” ฮีชอลเข้าไปร่วมวงสนทนาด้วย

     

                    “ก็ตาแก่ปาร์คน่ะสิ... แกฆ่าตัวตาย...” คุณป้าคนหนึ่งเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

     

                    “ปะ...เป็นไปได้ยังไง? ก็เมื่อเช้า....” คำพูดทั้งหมดของฮีชอลถูกกลืนลงคอเมื่อนึกถึงใบหน้ายิ้มแย้มของชายชรา

     

                    ระหว่างที่กำลังตะลึงงันอยู่นั้น... ตำรวจสองนายก็ยกศพชายชราที่ตอนนี้ถูกพันด้วยผ้าขาวไว้ตั้งแต่หัวจดเท้าออกมาจากห้อง

     

                    “เดี๋ยวครับคุณตำรวจ!!” ฮีชอลร้องเรียก

                    “คุณลุงฆ่าตัวตายได้ยังไง?”

     

                    ตำรวจทั้งสองนายหยุดระหว่างทางก่อนจะหันมาตอบคำถาม

     

                    “ลุงแกผูกคอตายกับขื่อในห้องน่ะ... ไม่น่าเลยจริงๆ อายุปูนนี้แล้วยังคิดจะทำเรื่องแบบนี้อีก เฮ้อ...” พูดเสร็จ ตำรวจก็ขนศพออกไปต่อ

     

                    สามพี่น้องมองหน้ากันอย่างงุนงง... จริงอย่างที่ตำรวจว่า... ไม่มีเหตุผลอะไรที่คุณลุงปาร์คจะต้องทำแบบนี้!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                    หลังจากสุญเสียผู้ใหญ่ที่ฮีชอลให้ความเคารพไปเพียงไม่กี่วัน... กระดาษใบหนึ่งก็ถูกปิดประกาศไว้หน้าหอพัก

     

                    “ขอให้ผู้เช่าทุกคนเตรียมตัวเก็บข้าวของออกจากหอพักแห่งนี้ภายในเวลา 3 วัน

                    เพราะที่ดินแปลงนี้จะถูกขายต่อให้กับผู้อื่นเร็วๆนี้ จึงขอยกเลิกทุกสัญญาเช่า

                    ผู้ใดที่ไม่ปฏิบัติตามจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย...

     

                                                                                                                    ลงชื่อ  ปาร์ค   ยูชอน

                                                                                                    (ทายาทโดยชอบธรรมของปาร์ค ฮยองซู)”

     


     

                    ฮีชอลแทบอยากจะล้มทั้งยืน... ปกติที่ยังอยู่ได้ก็เพราะมีหอพักแห่งนี้เป็นที่ซุกหัวนอนโดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่า... อยู่ดีๆมาไล่กันอย่างนี้ แถมยังให้เวลาแค่สามวัน... ฮีชอลคิดไม่ออกจริงๆว่าจะทำยังไงต่อไป

     

                    “ผมจะไม่เรียนแล้วครับ...” คยูฮยอนพูดด้วยเสียงเศร้าสร้อย

     

                    “ไม่ได้!!” / “ไม่ได้!!” สองพี่น้องฝาแฝดพูดขึ้นมาพร้อมกัน

     

                    “แต่ถ้าผมออกมาช่วยพวกพี่ทำงานล่ะก็... อย่างน้อยเราก็ยังมีกิน!” น้องชายคนเล็กที่ปกติจะเรียบร้อยเริ่มมีปากเสียงขึ้นมาบ้าง

     

                    “กี้...” ฮีชอลพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

     

                    “อย่าห่วงไปเลยนะ... ที่จริงพี่เองก็พอจะมีเงินเก็บอยู่บ้าง... อีกอย่างเรื่องบ้านพี่ปรึกษาเจ้านายแล้วล่ะ... เขาใจดีมาก รับปากว่าจะดูให้” ฮีชอลบอก

     

                    “จริงเหรอพี่ชอล?” คยูฮยอนถามย้ำ

     

                    “จะ.. จริงสิ!!!” ฮีชอลตอบ ทว่ากลับหลบสายตาของน้องทั้งสองคน

     

                    “งั้นผมก็เบาใจหน่อย... แต่ถ้ามีปัญหาอะไรขึ้นมา... พวกพี่ต้องสัญญากับผมนะว่าจะไม่ปิดบัง” คยูฮยอนบอก

     

                    “แน่นอน... อย่าห่วงเลยนะ” ฮีชอลพูด

     

                    “อืม” ฮินชอลก็รับคำ

     

                    คยูฮยอนที่ได้ยินแบบนั้นแล้วก็รู้สึกโล่งใจ... ที่จริงเขาก็อยากเรียนต่อ แต่ถ้าหากมันต้องทำให้พี่ชายทั้งสองคนต้องลำบาก... คงทำใจเรียนอย่างมีความสุขไม่ได้แน่... เพราะฮีชอลและฮินชอลเป็นครอบครัวที่เหลืออยู่ของเขาบนโลกนี้... ถ้าจะต้องลำบากก็ต้องลำบากด้วยกัน!

     

                    “งั้นเดี๋ยวผมไปเก็บของพลางๆก็แล้วกันนะครับ... แค่สามวันเองเดี๋ยวเก็บไม่ทัน” พูดเสร็จก็เดินเข้าไปในห้องของตัวเอง

     

                    “โกหกใช่มั้ย?” ฮินชอลถาม เมื่อน้องชายคนเล็กลุกขึ้นไปแล้ว

     

                    “แกก็รู้ชอลจิ... ฉันสัญญากับพ่อไว้ว่าจะดูแลน้องให้ดีที่สุด” ฮีชอลพูด

     

                    “ใช่... ฉันรู้... แล้วจะเอาไงต่อ?” ฮินชอลเข้าใจความรู้สึกของแฝดผู้พี่ดี

     

                    “สามวันนี้ยังไงก็ต้องหาที่อยู่ให้ได้ก่อน!!” ฮีชอลพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    สองวันผ่านไป (เวลายิ่งเดินเร็วเท่าไหร่ ความเจ็บปวดยิ่งมาถึงเร็วเท่านั้น by ไรท์เตอร์)

     

     

     

                    นอกจากฮีชอลและฮินชอลจะยังหาที่อยู่ไม่ได้ แต่เงินที่มีติดกระเป๋าก็ร่อยหรอลงทุกทีด้วย... งานประจำที่ทำอยู่ก็ต้องรอถึงสิ้นเดือนจึงจะได้ค่าแรง... สภาพแบบนี้ไปทำสัญญาเช่าที่ไหนๆก็ไม่รับ เพราะทุกทีต่างก็ต้องการให้วางเงินมัดจำด้วยเสมอ

     

                    พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ยังอยู่ที่หอพักนี้ได้... ฮีชอลรู้สึกร้อนรนมากจริงๆ

     

                    นี่ฉันทำได้แค่นี้เองเหรอ? คุณพ่อคุณแม่... ฮีชอลขอโทษนะครับที่ทำให้น้องๆสุขสบายไม่ได้...

     

                    ฮีชอลนั่งอยู่บนชิงช้าในสนามเด็กเล่น... เพราะสัญญากับคยูฮยอนไว้ว่าวันนี้จะพาย้ายออกไปที่อื่น แต่ในเมื่อยังหาที่ไปไม่ได้ ก็ไม่รู้จะกลับไปสู้หน้าน้องยังไงดี

     

                    มือบางไกวชิงช้าเบาๆ สมองขบคิดอย่างหนักถึงปัญหาที่แก้ไม่ตกข้อนี้....

     

     

     

                    “ดูท่าทางกำลังมีปัญหาหนักอกสินะ... ถอนหายใจถี่ซะขนาดนั้น” เสี้ยงทุ้มดังขึ้นเรียกฮีชอลให้ตื่นจากภวังค์ความคิดของตัวเอง หันไปเห็นผู้ชายอีกคนนั่งอยู่ที่ชิงช้าตัวที่อยู่ติดกัน

     

                    “คุณ.... เอ่อ....” ฮีชอลรู้สึกคุ้นหน้าชายหนุ่มคนนี้เหลือเกิน

     

                    “ยังจำได้มั้ยครับ? เราสองคนเคยเจอกันที่ผับไง ^^” ชายหนุ่มตอบ

     

                    “อ๋อ!! คุณคนนั้นนี่เอง!!!” ฮีชอลเริ่มจำได้แล้ว

     

                    “ครับ! ว่าแต่คุณเถอะมานั่งถอนหายใจเป็นคนแก่วัย 50 ไปได้ หึหึ” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ

     

                    “อ่า... ช่วงนี้บ้านผมมีปัญหานิดหน่อย...” ฮีชอลบอกเสียงอ่อย...

     

                    “เรื่องหอพักนั่นล่ะสิ...” ชายหนุ่มพูดพลางเริ่มไกวชิงช้าให้เร็วขึ้น

     

                    “คุณรู้!!!” ฮีชอลหันไปมองอย่างตะลึง

     

                    “อืม... คนแถวนี้ลือกันให้แซ่ด ว่าลูกชายของคนที่ตายคิดจะขายสมบัติพ่อกิน...” ชายหนุ่มชะลอชิงช้าให้เบาลง

     

                    “ผมช่วยคุณได้นะ...” ยื่นข้อเสนอให้

     

                    “ช่วย? คุณจะช่วยยังไง?” ฮีชอลถามต่อ

     

                    “มากับผมสิ...”

     

     

     

                    ฮีชอลเดินตามชายหนุ่มมาจนถึงบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งไม่ใหญ่โตมาก แต่ทว่ากว้างขวางอยู่พอสมควร

     

                    “ที่นี่ไง... เข้ามาสิ” ชายหนุ่มร้องเรียกฮีชอลเดินตามเข้าไป

     

                    ปกติฮีชอลไม่ใช่ประเภทคนใจง่ายที่เดินตามใครต่อใครไปไหนแบบนี้... แต่ในเมื่อความหวังมาหยุดอยู่ตรงหน้า คงไม่ผิดหากจะขอมองความหวังนั้นก่อนจะตัดสินใจว่าจะคว้าไว้หรือไม่

     

                    ภายในตัวบ้านมีใครอีกคนรออยู่ก่อนแล้ว...

     

                    “นั่งลงสิ” ชายหนุ่มที่นำทางฮีชอลมาบอก

     

                    ฮีชอลนั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาวที่วางอยู่ตรงข้ามกับใครอีกคนที่นั่งหลบอยู่ในมุมมืด

     

                    “ทำไมเราไม่เปิดไฟคุยกันล่ะ?!” ฮีชอลถามด้วยความสงสัย... พาเข้ามาในบ้านมืดๆอย่างนี้รู้สึกใจคอไม่ดีนัก

     

                    “ฉันไม่ชอบแสงสว่าง...” เสียงที่ดังออกมาทำให้ฮีชอลรู้ทันทีว่าอีกคนที่อยู่ในบ้านนี้ก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน

     

                    “ออกไปก่อนเถอะฮงกิ... เราจะได้คุยกันเสียที” เสียงเดิมบอกกับชายหนุ่มที่พาฮีชอลมา

     

                    “อ้าว... คุณชื่อฮงกิเหรอ?” ฮีชอลถาม

     

                    “ครับ ^^ ยินดีที่ได้รู้จักนะ... ฮีชอล” ฮงกิยิ้มให้ฮีชอลอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป

     

     

     

                    “ต้องการเงินสินะ?” เสียงในเงามืดถาม

     

                    “ใช่... นายจะปล่อยให้กู้ใช่มั้ยล่ะ?” ฮีชอลพูด “แล้วจะคิดดอกเบี้ยยังไง?”

     

                    “หึหึหึ... ฉันจะให้เธอมากกว่านั้นอีก...” เสียงเดิมพูดต่อ

     

                    “บ้านหลังนี้... เงินเดือนสำหรับเธอและน้องๆทุกเดือน... ค่าเทอมของน้องชายคนเล็กของเธอ... ฉันจะให้ทั้งหมด”

     

                    ฮีชอลถึงกับตาลุกวาว... อะไรจะทุ่มทุนขนาดนี้... แต่คนอย่างฮีชอลก็ไม่ได้โง่

     

                    “ให้มาเยอะขนาดนี้... คงต้องการสิ่งตอบแทนเยอะด้วยล่ะสิ? อะไรคือข้อแลกเปลี่ยน?” ฮีชอลถามอย่างไม่ไว้ใจ

     

                    “แน่นอน... ฉันไม่ใช่พวกใจบุญอยู่แล้ว... ข้อแลกเปลี่ยนของฉันคือ... เธอ!!!

     

                    “หา?!” ฮีชอลเผลออุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว

     

                    “เธอต้องย้ายออกมาจากบ้าน แล้วมาอยู่กับฉันแทน... ทำทุกอย่างที่ฉันต้องการ ทำให้ฉันพอใจ...”

     

                    “ถามจริงเหอะ...” ฮีชอลพยายามควบคุมเสียงตัวเอง

     

                    “คุณเป็นโรคจิตรึไง? ถ้าคิดจะหาพวกที่ขาย... เอ่อ... ขายตัวอ่ะนะ ไปหาที่อื่นเถอะ!!” ฮีชอลพูดจบก็เตรียมลุกขึ้น

     

                    “ฉันไม่คิดจะแตะต้องของชั้นต่ำหรอกนะ...” ฮีชอลถึงกับหยุดฝีเท้าเพราะคำพูดถากถางประโยคนี้

     

                    “อย่าประเมินตัวเองสูงขนาดนั้นสิ... ถ้าต้องการจริงๆฉันสามารถหาสินค้าเกรดเอที่ดีกว่าเธอได้อยู่แล้ว... แต่ที่ฉันต้องการคือคนรับใช้... นั่นคือฐานะระหว่างเธอกับฉัน”

     

                    “ไม่มีทาง!!!” ฮีชอลปฏิเสธเสียงกร้าว

     

                    “คิดให้ดีนะ... หึหึ... คยูฮยอนสินะ... อยากเรียนแพทย์... อืม... ฉันสามารถเปลี่ยนแปลงผลการสอบของเขาได้ทุกเมื่อ.... ส่วนน้องชายของเธออีกคน... ยัดคดีให้แล้วส่งเข้าคุกซะ... เป็นไง?”

     

                    “กะ...แก!!!” ฮีชอดกัดฟันกรอด

     

                    “อ้า... ยังไม่พอสินะ... เพื่อนของเธอที่ผับนั่น... ส่งไปขายดีมั้ย? ขายตัวไงล่ะ ฮ่าๆๆๆๆ”

     

                    “ไอ้เลว!!” ฮีชอลตวาดลั่น

     

                    “คงเลวไม่ถึงครึ่งของพ่อแม่เธอหรอก!!!” ชายในเงามืดเดินเข้ามาประชิดตัวพร้อมกับจับคางของฮีชอลไว้แน่น

     

                    “หมะ...หมายความว่าไง?” ฮีชอลเสียงสั่นเมื่อโดนบีบอย่างรุนแรงที่คาง

     

                    “หึ! กลับไปคิดให้ดี... รึต้องให้ฉันเชือดใครสักคนให้ดูเป็นตัวอย่าง” มือหนาปล่อยฮีชอลให้เป็นอิสระ

     

                    เมื่อถูกปล่อยเป็นอิสระแล้ว ฮีชอลก็รีบวิ่งออกไปจากบ้านทันที

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฮีชอลกลับมาถึงห้องด้วยอาการเหนื่อยหอบผิดปกติ...

     

    “พี่ชอล... พี่โอเคมั้ย?” คยูฮยอนถามพลางยื่นแก้วน้ำให้

     

    “อืม... ไม่เป็นไร ขอบใจนะ” ฮีชอลยื่นมือไปรับแก้วน้ำมา แล้วดื่มไปด้วยความกระหาย

     

                    “เอ่อ... แล้วเราจะย้ายของกันเลยมั้ยครับ?”  คยูฮยอนถาม

     

                    “อะ...เอ่อ... พรุ่งนี้เช้าละกัน” ฮีชอลบ่ายเบี่ยง

     

                    “ครับ” คยูฮยอนรับคำแบบงงๆ

     

     

     

     

                    ขณะที่ฮีชอลและคยูฮยอนกำลังพูดคุยกันอยู่... ก็มีเด็กสาวคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหา

     

                    “พี่จ๊ะๆ” เด็กสาวพูด

     

                    “หนูเห็นพี่หนวดโดนใครไม่รู้ต่อยอยู่ตรงโน้นน่ะ” เด็กน้อยพูดพลางชี้ไปทางที่ตัวเองเพิ่งเห็นเหตุการณ์มาด้วย

     

                    “อะไรนะ!!” ฮีชอลอุทาน

     

                    “พาพี่ไปหน่อย...”

     

                    ฮีชอลและคยูฮยอนวิ่งตามเด็กสาวมาจนถึงซอยมืดด้านหลังหอพัก เห็นผู้ชายสี่คนกำลังรุมทำร้ายฮินชอลที่ล้มลงไปกับพื้นแล้ว

     

                    “เอาไงดีๆ” ฮีชอลกระวนกระวาย

     

                    “ตำรวจ!!! ตำรวจครับทางนี้!!! มีคนรุมทำร้ายทางนี้!!!” คยูฮยอนที่คิดได้ก่อน ตะโกนออกไปทันที ซึ่งก็ได้ผล ชายทั้งสี่คนรีบวิ่งหนีไปอีกทาง

     

                    ฮีชอลและคยูฮยอนรีบรุดเข้าไปดูอาการของฮินชอลทันที... พบว่าเจ้าตัวสลบไปแล้ว จึงออกแรงพยุงกลับมาที่ห้อง... สองพี่น้องต่างพากันปฐมพยาบาลให้คนเจ็บจนในที่สุดฮินชอลก็รู้สึกตัว

     

                    “อะ...ไอ้น้องบ้า!!” ฮีชอลตวาดลั่น

     

                    “ทำไมแกถึงหาเรื่องเจ็บตัวอย่างนี้อยู่เรื่อย!!!” ถึงจะด่าว่าแต่น้ำตาก็ซึมออกมาด้วย

     

                    “เฮ้ๆๆๆ คราวนี้ฉันไม่ได้เริ่มนะเว้ย... อูยย... เจ้าพวกนั้นมาจากไหนไม่รู้อยู่ดีๆก็ซ้อมเอาๆ” ฮินชอลเล่า

     

                    “แน่ใจนะว่าแกไม่ได้เริ่ม?” ฮีชอลถาม

     

                    “ก็เออดิ!!” ฮินชอลตอบ

     

                    “มันยังบอกอีกว่าให้รับข้อเสนอซะถ้าไม่อยากเจ็บตัวอีก... ข้อเสนออะไรวะ?!” คนเจ็บบอกแบบงงๆ

     

                    “หนอย!!” ฮีชอลกัดฟันแน่น แล้วลุกเดินออกไปทันที คยูฮยอนและฮินชอลคิดจะเรียกก็ไม่ทัน เพราะฮีชอลเดินออกไปซะแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

     

                    ปัง!!!!

     

                    ประตูถูกเปิดออกอย่างแรง.. พร้อมๆกับที่ฮีชอลเดินเข้ามาภายในบ้านที่ยังคงมืดสลัวเหมือนเดิม

     

                    “กลับมาไวกว่าที่คิดนะ หึหึ”

     

                    “แก!!! อย่าไปยุ่งกับน้องของฉันสิเว้ย!!!” คนพูดอยู่ในอารมณ์โกรธจริงๆ

     

                    “ถ้าเธอรับข้อเสนอ... ก็จบ” พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

     

                    “แค่ไปรับใช้แกก็พอใช่มั้ย?!” ฮีชอลถาม

     

                    “ได้!!! ฉันตกลง!!

     

                    “งั้นเซ็นนี่ซะ...”

     

                    กระดาษใบหนึ่งถูกยื่นมาให้ ซึ่งฮีชอลก็กระชากมาจากมือของคนในเงามืดทันที.. เพราะความโมโหจึงไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดบนกระดาษ เซ็นต์เสร็จก็วางกระดาษลงบนโต๊ะอย่างแรง

     

                    “พรุ่งนี้ก็พาย้ายมาที่บ้านนี้ได้เลย... จะตอนนี้เลยก็ยังได้!!! แล้วฉันจะกลับมารับตัวเธอเร็วๆนี้!!!

     

                    “ดี!!! จำคำพูดของแกไว้ด้วย... อย่าไปยุ่งกับน้องๆของฉัน จำไว้!!!” ฮีชอลตะโกนใส่หน้าแล้วเดินออกไปจากบ้าน

     

     

     

     

     

                    “ง่ายกว่าที่คิดนะ...” ฮงกิที่หลบอยู่อีกห้องหนึ่งเดินเข้ามา

     

                    “เสียดายว่ะ... อุตส่าห์เล็งไว้” ฮันเกิงพูด

     

                    “ก็เอาสิ... ทรมานจนพอใจเมื่อไหร่ ฉันจะยกให้แกละกัน...”




                                                                                                                                                                                                                                                                                                         

    เอ๊อ!!! มาอัพเองแล้วนะเว้ยเฮีย - -* รู้สึกผิดมั่งมะ??
    100% ยาวไป~!!!

    href="file:///C:\DOCUME~1\USSER0~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_filelist.xml" />

    สาส์นถึง Readers ที่น่ารักทุกคน ^ ^.    

     

    อ๊ายยยย~!!! เลวได้ใจ! -*- สงสารลุงปาร์คขอรับ T^T ตอนนี้ก็แค่นี้แหละ...

    แล้วก็ลากเอาดงบังมาร่วมด้วย เหอๆๆๆ ยังกะยามาฮ่า.. ลงทุนๆ ^^y

     

    ช่วงนี้คงไม่ได้ไปตอบเม้นท์แหงๆ เพราะฉะนั้นจะเปลี่ยนเป็นมุมถามเองตอบเองแทนชั่วคราวนะ Lol

    (จะมีผู้ใดมานั่งอ่านมั่งหว่า??)

     

           I.     คยูมินไปไหนทำไมตอนนี้ไม่มีมินเลย? รออีกสักแปบ ใจเย็นๆ

         II.     ฮินชอลจะได้คู่กับใคร? ก็กะจะหาคนดีๆให้สักคน... โซฮีดีมะ? (แต่จะให้บทอะไรดีอ่ะ)

        III.     ฮันเกิงมีคู่ไหมอ่ะ? เรื่องนี้ไม่มีฮันฮยอกอ่ะ เพราะงั้นจะให้ป๋าเป็นโสด รึไม่ก็แต่งกะไรท์เตอร์ซะ คึคึคึ

       IV.     แล้วฮงกิอ่ะคู่ใคร? ฮงกิ.. ฮงกิ... คู่ใครดี?  แต่ไม่เอาให้รักกะป๋าชัวร์ จิ้นไม่ออกส่วนบุคคล - -^

         V.     อัพอีกครั้งเมื่อไหร่? บอกตรงๆว่ารอไปเหอะ ๕๕๕++

       VI.     ในอดีตเกิดอะไรขึ้นระหว่างลุงปาร์ค ยุนโฮ แล้วก็ชีวอน? อ่านไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็รู้ - -+

      VII.     มีลินดา(ปืน)ด้วยอย่างงี้ จะมีใครตายมั้ย? ไม่รู้ๆ -.,-

    VIII.     ทำไมชอบดองฟิกจัง? มันเปรี้ยววว >[]<

       IX.     เรื่องนี้มี NC รึเปล่า? ตอบไม่ถูกแฮะ

        X.     ฮีบอมจะมีบทอีกป่ะ? มีๆ ฮีบอมเนี่ยตัวดีเลย!!

       XI.     เอาเวลาพิมพ์อะไรงี่เง่าแบบนี้ไปแต่งฟิกแล้วรีบอัพดีกว่ามั้ย? การแต่งฟิกสักตอนมันละเอียดอ่อนมาก... ถ้ารีบๆแต่งเพื่อที่จะเอาๆมาลงซะ...มันจะไม่สนุก จะดูเหมือนขอไปทีแบบเนี้ย - -+

     XII.     หมดเวลาแล้ว!! อืมๆ พบกันใหม่ตอนหน้านะขอรับ /(_ _)\

     

     

     




    ไรเตอร์ให้มาอัพ นี่แค่ 25% เองนะครับบ
    ^
    ^
    ทำไมเฮียไม่มาอัพให้เ ลยอ่ะ!! Y________Y
    where r u Peerachol?!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×