คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : SiLLy Game 01
SiLLy Game 01
กระดาษใบหนึ่งถูกยื่นให้กับหนุ่มหน้าสวยที่นั่งอยู่ตรงข้ามโต๊ะกัน... ใจจริงเจ้าตัวไม่อยากรับมานักหรอก... แต่ก็ต้องยื่นมือออกไปรับมาจนได้.. สายตาคู่สวยกวาดตามองแบบเร็วๆ มาจบลงที่ตัวเลขด้านล่าง
“สะ... สี่แสนวอน... เลยเหรอครับ?” ไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง
“ฉันเข้าใจดี... ว่าเงินจำนวนนี้มันออกจะมากไปสำหรับพวกเธอ แต่นี่ก็ปีนึงแล้วนะฮีชอล... ค่าเช่าที่ค้างมาตลอดปีก็สามแสนวอน... ส่วนที่เหลือเป็นค่าน้ำค่าไฟนะ...” ชายชราพูดด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายแต่ทว่าแฝงไปด้วยความรู้สึกเอ็นดู
“ใจจริงฉันไม่อยากจะบีบคั้นพวกเธอหรอก แต่ดูท่าทางผู้เช่าคนอื่นจะไม่พอใจที่ฉันให้สิทธิพิเศษเฉพาะกับพวกเธอ...ยังไงซะพวกฉันก็เห็นพวกเธอมาตั้งแต่เล็กๆล่ะนะ... เฮ้อออ
..” ชายชราถอนหายใจยาว
“ผมเข้าใจครับคุณลุงปาร์ค... เพียงแต่ผมขอจ่ายเป็นงวดๆแทนได้มั้ยครับ?”
“เอาเถอะ... ฉันเข้าใจ เอาเป็นว่าแต่ละงวดก็จ่ายมาตามที่พอจะจ่ายได้ก็แล้วกันนะ”
“ขอบคุณมากครับ” ฮีชอลโค้งคำนับให้ชายชราก่อนจะเดินออกมาจากห้อง
คุณลุงปาร์คเป็นเพื่อนกับพ่อแม่ของฮีชอล.. ที่จริงก่อนที่พ่อแม่ของฮีชอลจะประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตไปทั้งคู่นั้น ครอบครัวของฮีชอลตั้งใจจะย้ายมาพักที่หอเพียงชั่วคราว ก่อนจะย้ายไปอยู่บ้านที่พ่อและแม่ของฮีชอลสร้าง
แต่โชคร้าย... ยังไม่ทันจะสร้างบ้านเสร็จ ทั้งคู่ก็ด่วนจากไปเสียก่อน.. การก่อสร้างจึงถูกยกเลิก.. ทำให้คุณลุงปาร์ครู้สึกสงสารให้ทั้งสามพี่น้องอาศัยอยู่ที่หอมานานถึง 10 ปีแล้ว
ฮีชอลเดินกลับมายังห้องเช่าหมายเลข 053 สภาพภายนอกของห้องที่ฮีชอลอาศัยอยู่นั้นได้กลิ่นอายของบ้านยุคก่อน หอพักทั้งหอถูกก่อสร้างด้วยไม้ ซึ่งหาได้ยากในเกาหลียุคสมัยปัจจุบัน
“กลับมาแล้ว... ชอลจิ... กี้... พี่กลับมาแล้ว” ฮีชอลตะโกนเรียกน้องชายทั้งสองคน
คยูสวมผ้ากันเปื้อนสีฟ้าสด วิ่งออกมาจากในครัวเพื่อต้อนรับพี่ชายคนโต
“กลับมาแล้วเหรอครับพี่ชอล.. ผมทำต็อกโปกีเสร็จพอดี.. งั้นตั้งโต๊ะเลยนะ”
“ดีเหมือนกัน พี่หิวแล้วล่ะ^^” ฮีชอลส่งยิ้มให้น้องชายคนเล็กอย่างอ่อนโยน คยูฮยอนเดินกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง
“แล้วไอ้ชอลจิหายหัวไปไหนละเนี่ย?” พี่ชายคนโตยังคงถามหาน้องชายอีกคน เนื่องจากยังไม่เห็นหัว
“หายหัวไปซื้อไอ้นี่มาโว้ย!” คนที่ถูกบ่นถึงยกถุงใส่ของใช้ที่เพิ่งซื้อมาจากซุปเปอร์ให้ฮีชอลดู
“เฮ้ย! บอกมาเดี๋ยวนี้นะชอลจิ แกใช้เงินไปทั้งหมดเท่าไหร่??” ฮีชอลเบิกตาโพลงเพราะจำนวนของในถุงไม่ใช่น้อยๆ ‘ตูยิ่งพยายามจะประหยัดอยู่ด้วย T^T’
“ส.บ.ม.ย.ห. สบายมากอย่าห่วง.. ไอ้นี่น่ะของลดแลกแจกแถมที่ซุปเปอร์เปิดใหม่... ใช้เงินไปแค่ 550 วอน ^_______^” คนพูดยิ้มอย่างภูมิใจ
“เฮ้อ~ แล้วไป...” ฮีชอลปาดเหงื่อตัวเอง “ปะ... กี้ทำอาหารเย็นเสร็จแล้ว... กินกันเหอะ” ฮีชอลลากน้องชายอีกคนเดินเข้าไปในห้อง
ถึงแม้จะเป็นห้องเช่า แต่ห้องต่างๆถูกแบ่งส่วนได้อย่างลงตัว ห้องนอนสองห้องด้านซ้าย ซึ่งห้องหนึ่งเป็นของฮีชอลและน้องชายฝาแฝด ส่วนอีกห้องยกให้กับน้องชายคนเล็กที่กำลังเตรียมสอบไว้อ่านหนังสือ อีกทั้งยังมีห้องครัว และห้องน้ำ ส่วนด้านหน้าเป็นที่โล่งกว้างขนาดสองเสื่อที่สามพี่น้องจัดให้เป็นห้องรับแขกและห้องกินข้าวไปในตัว
“หอมชะมัด~ วันนี้ทำอะไรเหรอกี้?” ฮินชอลวางของลงกับพื้น แล้วนั่งลงด้านหนึ่งโต๊ะ ที่ตอนนี้คยูได้เตรียมอาหารไว้แล้วสามจาน
“ต็อกโปกีครับพี่ชอลจิ... จานนี้ของพี่นะ” คยูเลื่อนจานใบหนึ่งไปให้ฮินชอล
“แล้วนี่ก็ของพี่ชอล..” คยูเลือกจานที่มีปริมาณมากที่สุดให้กับฮีชอล
“อะไรกัน.. ไหงของกี้มันน้อยอย่างนั้นอ่ะ?” ฮีชอลตักแบ่งในจานตัวเองไปให้คยูเพิ่ม
“ไม่ต้องครับๆ” คยูหยิบจานตัวเองออกมาให้พ้นจากระยะมือของฮีชอล
“พี่น่ะทำงานหนักที่สุด ก็ต้องกินมากๆ ส่วนผมไม่ค่อยได้ทำอะไรแค่นี้ก็พอแล้ว” คยูบอก
“ได้ไงกัน... วัยกำลังโตนะเราน่ะ... เอามานี่~” ฮีชอลพยายามแย่งจานของคยู ซึ่งคยูได้แต่ส่ายหัวพัลวัน
“เอานี่ไป...” ฮินชอลที่นั่งมองอยู่นานตักส่วนของตัวเองให้คยูแทน
“ฉันแข็งแรงที่สุด แค่นี้ก็พอแล้ว ฮ่าๆๆๆ” ฮินชอลโชว์กล้ามให้คยูดู
คยูฮยอนมองพี่ชายฝาแฝดทั้งสองคนด้วยสายตาอันตื้นตัน
“ขอบคุณนะครับพี่ชอล.. พี่ชอลจิ...”
“ไม่เป็นไรน่า” / “พูดมากจริง” <- ฮีชอล/ฮินชอล
หลังจากอาหารมื้อเย็นผ่านไป ฮีชอลยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวเดิม เพื่อจดรายการบัญชีรายรับรายจ่ายของบ้าน จานทั้งหมดถูกคยูฮยอนนำไปล้างในห้องครัว
ขณะเดียวกันฮินชอลก็กำลังทำงานพิเศษที่ตัวเองรับมาทำที่บ้าน... แพ็กตุ๊กตาลงกล่อง...
“ให้ผมช่วยดีกว่าพี่ชอลจิ...” คยูนั่งลงคว้าตุ๊กตามาช่วยแพ็กลงกล่อง
“ถามจริง... ตอนเค้ารับแกเข้าทำงาน เค้าดูหน้าป่าววะชอลจิ? อย่างกับโจร...ให้มาแพ็กตุ๊กตาน่ารักๆอย่างนี้น่ะ?” ฮีชอลละสาตาจากสมุดบัญชี เงยหน้าขึ้นมาถาม
“หุบปากน่าชอล... รายได้ดีนะเว้ย!” ฮินชอลตอบ แล้วก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป
“เฮอะ.. บอกให้เรียกพี่ชอลไงฟระ - -*” ฮีชอลบ่น ก่อนจะหันกลับไปเคร่งเครียดกับรายการบัญชีต่อ
คยูฮยอนอดขำพี่ชายฝาแฝดทั้งสองคนไม่ได้..
พี่ชอล.. หรือพี่ฮีชอล.. พี่แฝดคนโตที่เป็นเสาหลักของบ้าน.. ครั้งหนึ่งคยูฮยอนเคยคิดว่าถ้าหากพี่ชอลเป็นผู้หญิงล่ะก็ จะส่งเข้าประกวดมิสเกาหลีให้รู้แล้วรู้รอด เพราะใบหน้าที่สวยไม่แพ้ผู้หญิงนั่น จมูก ปาก คิ้ว คาง ดวงตาคู่สวย ช่างดูดีเสียจริงๆ ทั้งที่ทำงานอย่างหนักแต่ผิวพรรณกลับเปล่งปลั่งเนียนใสน่าสัมผัส
ส่วนพี่ชายอีกคน พี่ชอลจิ.. หรือพี่ฮินชอล.. แน่นอนว่าทั้งพี่ฮีชอลและพี่ฮินชอลเป็นฝาแฝดกัน ใครๆคงพากันนึกว่าคยูฮยอนมีพี่ชายที่เหมือนพี่สาวอยู่ถึงสองคน... แต่ถ้าใครมาเห็นความเป็นจริงแล้วจะรู้ว่า... ถ้าพี่ชอลเป็นนางฟ้าล่ะก็.. พี่ชอลจิก็ซาตานดีๆนี่เอง - -“
หนวดเครารกรุงรังที่พี่ชอลจิบอกว่าเป็นมาตรฐานของชายเกาหลี และทรงผมที่แสนยุ่งเหยิงนั่น นี่ถ้าคนอื่นมาเห็นคงนึกว่าเป็นโจรห้าร้อยที่จะมาลักพาตัวคยูฮยอนและพี่ชอลแน่ๆ
แต็นี่แหละครอบครัวที่แสนอบอุ่นของคยูฮยอน ถึงแม้จะไม่มีทั้งพ่อและแม่ แต่คยูฮยอนไม่รู้สึกว่าตัวเองมีปมด้อยเลย พี่ชายฝาแฝดทั้งสองคนคือส่วนเติมเต็มที่ขาดหายไป
‘นี่ถ้าผมเก่งอย่างพี่ชอล.. แข็งแกร่งเหมือนพี่ชอลจิ.. ก็คงดี’ คยูฮยอนคิด
ฮีชอลนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง พลางถอนหายใจออกมาบ่อยซะจนเจ้าตัวเองยังไม่รู้ตัว
“นอนไม่หลับเหรอ?” ฮินชอลที่นอนหันหลังให้ถามโดยที่ไม่ได้พลิกตัวกลับมามอง
“ฮื่อ...” ฮีชอลที่กำลังเอามือก่ายหน้าผากตอบ “วันนี้ฉันไปหาคุณลุงปาร์คมา... ยังไงซะสิ้นเดือนนี้เราก็ต้องจ่ายค่าเช่ากันสักที..”
“เท่าไหร่ล่ะ?” ฮินชอลถามต่อ
“คุณลุงไม่ได้บอกหรอกว่าเท่าไหร่... แต่ปัญหาคือจะเอาเงินมาจากไหน... กี้เองก็จะสอบแล้วด้วย..”
“ฉันจะหางานเพิ่มแล้วกัน..” ฮินชอลตอบก่อนจะเงียบเสียงไป
ฮีชอลยังคงลืมตาโพลงท่ามกลางความมืด... สมองขบคิดอย่างหนักถึงปัญหาที่กองอยู่ตรงหน้า...
‘นี่ก็ใกล้จะสิ้นเดือนแล้ว.. ไหนจะค่าเช่า ไหนจะค่าอาหาร แล้วไหนจะค่าสมัครสอบของกี้อีก... คุณพ่อคุณแม่ครับ ช่วยดลบันดาลให้ผมหาเงินให้ได้เยอะๆด้วย..’
เพียงไม่นานฮีชอลก็ดำดิ่งลงสู่ห้วงนิทราไปอีกคน
เช้าวันใหม่ที่แสนสดใส...
“อ๊ากก..!! สายแล้วๆ” ฮินชอลดูจะวุ่นวายที่สุด ขายาววิ่งไปทางโน้นทีทางนี้ทีเพื่อหยิบอุปกรณ์ทำงานให้ครบ
“เดี๋ยวครับๆพี่ชอลจิ... พี่ยังไม่ได้หวีผมเลยนะ” คยูฮยอนเตือน
“บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วกี้... นี่น่ะทรงแบบผู้ชายมาดเซอร์เว้ย -*- ไปแล้วๆ” ฮินชอลวิ่งออกไปจากห้อง แล้วก็วิ่งกลับเข้ามาอีกครั้ง
“ผมไปทำงานก่อนนะครับ” ฮินชอลกลับมาบอกลารูปถ่ายของพ่อกับแม่นี่เอง... แล้วก็วิ่งออกไปอีก
“เออ... นึกว่ามันจะลืมไหว้พ่อแม่ซะอีก คิคิ” ฮีชอลแอบกัดไล่หลัง
“นี่ครับพี่ชอล... ข้าวกล่องของพี่...” คยูฮยอนยื่นกล่องอาหารสองกล่องให้
“ขอบใจมาก” ฮีชอลรับกล่องข้าวมา ก่อนจะเตรียมตัวออกจากบ้านบ้าง “อยู่ห้องคนเดียวระวังตัวด้วยนะกี้” ยังไม่วายคอยห่วงน้องชายคนเล็ก
“ผมน่ะจะเป็นเด็กมหาวิทยาลัยแล้วนะ..” คยูฮยอนแย้ง
“คิคิคิ นั่นสิเนอะ... ผมไปแล้วนะครับพ่อ.. แม่... ตอนเย็นเจอกัน... ไปแล้วนะกี้” ฮีชอลพูดเสร็จก็ออกไปอีกคน
คยูฮยอนยืนรอส่งพี่ชายทั้งสองจนครบ.. แล้วหันไปพูดกับรูปถ่ายพ่อกับแม่บ้าง..
“ขอให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยคุ้มครองพี่ชอลกับพี่ชอลจิด้วยนะครับ” คยูฮยอนยกมือไหว้ ก่อนจะเข้าห้องไปอ่านหนังสือเตรียมสอบต่อ
ฮินชอลทำงานเป็นกรรมกรในตอนกลางวัน และรับจ๊อบพิเศษในช่วงกลางคืน.. แต่เพราะค่าใช้จ่ายที่กำลังจะเพิ่มขึ้นทำให้เขาต้องหางานทำเพิ่มเติม
“นี่... ลุงมีงานอะไรอีกมั้ย? ผมอยากจะได้เงินเพิ่มน่ะ” ฮินชอลปรึกษาหัวหน้างานของตัวเองที่สนิทกัน
“เอ็งคงต้องไปเป็นโจรแล้วล่ะ ฮ่าๆๆๆ” ชายวัยกลางคนหัวเราะร่วน
“ไม่ฮา... -*- เอาจริงๆลุง น้องผมกำลังจะเข้ามหาลัย..”
“เออ.. เดี๋ยวจะลองหาให้แล้วกัน”
“ขอบคุณครับ”
ฮีชอลรับงานอิสระต่างจากงานของฮินชอล งานหลักๆคือส่งของ.. ของอะไรก็ตามที่ส่งได้ ฮีชอลสามารถนำไปส่งให้ได้หมด ส่วนงานรองก็เป็นเด็กเสริฟที่ร้านอาหาร, พนักงานพาร์ทไทม์ร้านสะดวกซื้อ และเป็นพี่เลี้ยงเด็กเป็นครั้งคราว
แค่ทำงานหลายอาชีพวันทั้งวันก็หมดแล้ว ไม่ต้องคิดเรื่องจะหางานเพิ่มเลย.. เพราะเวลาแค่ 12 ชั่วโมงไม่เคยพอ เพราะงั้นฮีชอลจึงคิดว่าจะทำงานเพิ่มในตอนกลางคืนแทน
ฮีชอลอาศัยจังหวะหลังจากที่ส่งของเสร็จ แวะมาที่ๆหนึ่งเพื่อพบกับใครบางคน
“ชอล~ คิดถึงนายจัง ^__________^” สาวน้อยหน้าตาน่ารักสวมกอดฮีชอล
“ไม่เจอกันตั้งนาน... สวยขึ้นเป็นกอง...” ฮีชอลอดชมเพื่อนรักสมัยประถมไม่ได้
“มาๆๆ เข้ามาข้างในก่อน..” ฮีชอลเดินตามเข้าไปในร้าน.. หรือที่นักท่องราตรีรู้จักกันในชื่อ “ผับ”
“ลมอะไรหอบนายมานี่ได้” สาวน้อยถาม
“ที่จริงมีเรื่องอยากให้ช่วยน่ะมีโซ... ช่วยหางานให้ทำหน่อยสิ” ฮีชอลบอกตรงๆ
“ดีเลยๆ ที่นี่กำลังขาดคน... นายมาถูกเวลาเลยนะเนี่ย...”
“โชคดีชะมัด ^[]^”
“เดี๋ยวฉันไปบอกมาม่าซังให้นะ” มีโซบอกฮีชอลก่อนจะเดินเข้าไปหลังร้าน แล้วกลับออกมาพร้อยรอยยิ้ม
“พรุ่งนี้... มาม่าซังบอกให้นายมาทำงานได้เลย... แล้วก็นี่..ชุดทำงานของนาย” มีโซยื่นถุงกระดาษให้
“ขอบใจนะมีโซ” ฮีชอลยืนมือออกไปกุมมือเพื่อนรักเบาๆ
“เลี้ยงเหล้าฉันละกัน ฮ่าๆๆๆ” มีโซหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“งั้นฉันกลับก่อนนะ.. ต้องไปทำงานต่อ” ฮีชอลบอกลา
“อืม.. เจอกันพรุ่งนี้นะชอล..”
ตกเย็น..
คยูฮยอนที่เป็นแม่บ้านของบ้าน มีภารกิจที่ต้องทำอาหารเย็นให้เสร็จก่อนพี่ๆจะกลับมา.. วันนี้เป็นช่วงใกล้ปลายเดือน.. เป็นช่วงอดอยากของครอบครัว เพราะฉะนั้นอาหารเย็นวันนี้จึงเป็น ‘รามยอน’ (มาม่าบ้านเรานั่นเอง ไรเตอร์).. แต่ไม่ต้องห่วง.. คยูฮยอนขอเอาหน้าที่พ่อครัวของบ้านซึ่งเป็นมาเกือบ 10 ปีการันตีความอร่อย
จะเปลี่ยนรามยอนธรรมดา เป็นรามยอนห้าดาวให้ดู หึหึหึ
วัตถุดิบที่สำคัญถูกนำออกมาวางเรียงรายบนโต๊ะในครัว ขณะที่กำลังหั่นผัก.. แมวตาโตตัวสีเทาก็กระโดดเข้ามางับเนื้อไก่ที่วางไว้กระโจนหนีไป
“เฮ้ย!!” คยูฮยอนตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ “นั่นมันไก่ที่พี่ชอลอุตส่าห์แย่งซื้อมาได้นะเว้ย ไอ้แมวผี!!” มือหนายังคงกำมีดหั่นผักไว้ แล้ววิ่งไล่ตามแมวตัวนั้นไป
สงครามไล่ล่าแมวเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว... เพื่อศักด์ศรีและอาหารเย็น คยูฮยอนจะสู้เพื่อเนื้อไก่แม้ชีพจะวายก็ตาม..
“ฮีบอม~ ฮีบอม~” เสียงเล็กตะโกนเรียกชื่อใครสักคน
คยูฮยอนเห็นไอ้แมวตัวดีวิ่งไปทางเด็กผู้ชายคนหนึ่ง... แมวจอมขโมยกระโจนใส่เด็กผู้ชายคนนั้นทั้งๆที่ในปากยังคาบเนื้อไก่เอาไว้
“ฮีบอมลูกป๊า~ กลับมาหาป๊าแล้วเหรอลูก~ เฮ้ย!” เด็กผู้ชายอุทานอย่างตกใจ เมื่อเห็นใครอีกคนถือมีดด้วยใบหน้าบึ้งตึงวิ่งเข้ามาหาตัวเองด้วย
“แฮ่กๆ.. อะ..ไอ้แมวผีตัวนี้... แฮ่กๆๆ ของนายเหรอ” คยูฮยอนหอบแฮ่กเพราะความเหนื่อยจากการวิ่ง
“ชะ..ใช่... ฮีบอมแมวฉันเอง”
“ไอ้แมวนี่มันขโมยไก่ของฉัน!”
เจ้าของแมวก้มดูแมวในอ้อมแขนตัวเอง.. หลักฐานคาปาก... - -“
“โอ๋ๆ คืนเขาไปนะลูก..” มือเล็กพยายามดึงเนื้อไก่จากปากแมว แต่ฮีบอมกระโจนหนีไปอีกซะงั้น
“เฮ้ย! ไอ้แมวผี” / “ฮีบอม!!” คยูฮยอนและเจ้าของแมวตะลึงไม่แพ้กัน
“รับผิดชอบซะ.. นั่นแมวของนาย” คยูฮยอนบอกแบบหัวเสีย
“ไก่แค่ชิ้นเดียวทำเป็นซีเรียส...” เจ้าของแมวบ่นอุบอิบ
“นั่นมันอาหารเย็นบ้านฉัน... รับผิดชอบมาด้วย”
“ฮีบอมคงหิวจัดน่ะ... นายอย่าโกรธฮีบอมเลยนะ” เจ้าของแมวอ้อนวอน “เอางี้~ เดี๋ยวไปซื้อใหม่ให้นะ ^^” เจ้าของแมวยิ้มเจื่อนๆ
“เร็วๆล่ะ ฉันต้องรีบกลับไปเตรียมอาหารเย็น”
ว่าแล้วทั้งคู่ก็พากันไปซุปเปอร์ที่อยู่ใกล้ๆ เหมือนจะรู้สึกผิดมหันต์ เจ้าของแมวเลยซื้อไก่คืนให้ถึงสามตัว
“อีก 2 ตัวถือซะว่าเป็นการขอโทษจากฉันก็แล้วกันนะ”
“อืม” คยูฮยอนตอบรับสั้นๆ แต่ในใจคิดว่า ‘โชคดีสุดๆไปเล้ยยย ได้ไก่ช่วยชีวิตตอนปลายเดือนแล้ว T^T’
“งั้น... ฉันไปหาฮีบอมต่อนะ”
“เดี๋ยว..! นายชื่ออะไร” คยูฮยอนถาม
“ซองมิน... ฉันชื่อลี ซองมิน” ซองมินตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม “แล้วนายล่ะ.. ชื่ออะไร?”
“คยูฮยอน..”
“อืม.. ไปก่อนนะคยูฮยอน~” ซองมินโบกมือลา
เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แต่งนะ ไม่รู้ว่ามันจะถูกใจคนอ่านรึเปล่า??
ยังไงก็ช่วยติดตามกันหน่อยหนะ ^^
ก็มี วอนซิน เป็นคู่หลักเหมือนเดิม แต่จะมีคยูมินหรือมินคยูเป็นคู่หลักอีกคู่
และขอบคุณมากที่เม้นให้นะฮะ ^______^
ความคิดเห็น