คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ||||| Chapter 11 |||||
Chapter* 11.
“ทำไมวันนี้บ้านมันเงียบจังเนี่ย?” ทงเฮพูดกับตัวเองเมื่อลงมาชั้นล่างของบ้านแล้วไม่พบใคร
“อ๊ะ! พี่สาวครับวันนี้เค้าหายไปไหนกันหมดล่ะครับ” ทงเฮถามสาวใช้นางหนึ่งที่กำลังเดินผ่านเข้ามา
“คุณท่านกับคุณนายออกไปทำธุระกับคุณชายเจย์ตั้งแต่เช้าแล้วล่ะค่ะ”
“แล้วพี่วอนล่ะครับ”
“เห็นรีบออกไปตั้งแต่เช้าเลยค่ะ ก่อนนายท่านด้วยซ้ำ”
“ครับ... พี่สาวไปทำงานต่อเถอะครับ ขอบคุณมาก ^_________^”
สาวใช้โค้งตัวเป็นการแสดงความเคารพ ก่อนเลี่ยงไปทำงานที่ค้างอยู่
ทงเฮเลือกที่จะใช้เวลาในตอนบ่ายกับการลงมือทำอาหารต้อนรับ คุณพี่ คุณพ่อ และคุณแม่ จึงเข้ามายึดพื้นที่ในครัวของบ้าน
สร้างความหนักใจให้กับแม่ครัวประจำตระกูลชเวยิ่งนัก เพราะคุณหนูทงเฮขึ้นชื่อว่าสามารถทำให้กระทะและตะหลิวที่อยู่ในมือกลายเป็นอาวุธ และแปลงห้องครัวให้เป็นสนามรบได้
“คุณป้าครับ... แล้วไอ้นี่ต้องใส่ตอนไหนล่ะ?”
ทงเฮถือขวดซอสมะเขือเทศขวดใหญ่ไว้ในมือ หันมาถามแม่ครัวที่กำลังยืนหลบภัยอยู่มุมห้อง
“คุณหนูคะ... แกงจืดเค้าไม่ใส่ซอสมะเขือเทศกันหรอกค่ะ เฮ้อ~” แม่ครัวได้แต่ถอนหายใจ
ทงเฮพยักหน้ารับรู้ แล้วหันไปสนใจหม้อต้มแกงจืด ที่ตอนนี้น้ำเปลี่ยนเป็นสีแดงๆไปแล้ว ไก่ครึ่งซีกถูกใส่ลงไปทั้งชิ้น ด้วยเหตุผลง่ายๆของทงเฮที่ว่า... กลัวว่าถ้าสับเนื้อไก่แล้วเดี๋ยวรสชาติจะเสีย นอกจากนี้พ่อครัวมือใหม่ยังทดลองใส่ปลากระป๋องลงไปด้วย เพราะอยากให้ทุกคนกินปลาจะได้ฉลาด
“ว้าวๆๆ คุณป้าฮะมาดูสิ~ มันเป็นสีแดงแล้ว” ทงเฮยิ้มกว้างอย่างพอใจ แล้วกวักมือเรียกแม่ครัวให้เข้ามาดูใกล้ๆ
“เอ่อ... อยู่ตรงนี้ป้าก็เห็นแล้วล่ะ...”
แม่ครัวไม่กล้าเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง จึงได้แต่ยืนมองอย่างห่างๆ ไม่รู้ว่าไอ้หม้อนั่นมันจะระเบิดขึ้นมาตอนไหนน่ะสิ - -“
‘ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว... จริงสิ!!’
แม่ครัวเหมือนจะคิดอะไรได้จึงเดินออกมาจากห้องครัว... ซึ่งทงเฮที่กำลังสาละวนอยู่กับการตอกไข่ไก่ลูกที่ 25 ก็ไม่ได้สังเกตเห็นว่าแม่ครัวออกไปจากครัวแล้ว ยังคงก้มหน้าก้มตาพยายามทำไข่เจียวต่อไป
“กลิ่นหอมน่ากินแฮะ....”
ทงเฮเงยหน้าขึ้นมาจากการตอกไข่ลูกที่ 40 มองหน้าคนพูด รอยยิ้มที่มีพาลเลือนหายทันที
‘ลืมไปว่าในบ้านตรู ยังมีไอ้นี่อีกตัว’ ทงเฮคิดอย่างเซ็งๆ
“เสียใจนะ... นี่น่ะสำหรับพี่เจย์ พี่วอน คุณป๋า คุณแม่และก็ฉันเท่านั้น!!!” ทงเฮเน้น
“ไหนๆ เธอทำอะไรกินบ้างน่ะ?” คิบอมแกล้งไม่สนใจที่ทงเฮพูดแล้วเดินเข้าไปดูหม้อแกงจืดที่กำลังเดือดอยู่บนเตาอย่างสนใจ
“นี่เธอทำต้มยำเหรอ? แต่...กลิ่นไม่ใช่แฮะ นี่ๆ เธอทำอะไรน่ะทงเฮ?”
“ทำไม... ที่อเมริกาไม่มีแกงจืดรึไง? แกงจืดไก่กะปลากระป๋องไงเล่า?”
“อืม... ที่โน่นไม่มีของแปลกๆน่ะ” คิบอมหันมายิ้มกวนโอ๊ยใส่
“ชิส์~” ทงเฮจิ๊ปากใส่ ก่อนหันมาสนใจไข่ไก่ในมือต่อ
“แล้วเธอตอกไข่ทำไมเยอะแยะน่ะ จะทำขนมเหรอ?”
“ทำไข่เจียว...” ตอบเสียงเรียบ
‘แม่คุณเอ๊ย~!!! ไข่เจียวบ้านเธอตอกไข่หมดไป 5-6 แผงเนี่ยนะ’
ถึงจะดูน่าขำ แต่คิบอมก็อดมองใบหน้าคนตัวเล็กที่กำลังตั้งอกตั้งใจตอกไข่ไม่ได้.... น่ารักจัง....
“มา...!!! เดี๋ยวชั้นช่วย!!!” คิบอมพับแขนเสื้อตัวเองขึ้นบอกให้รู้ว่าพร้อมช่วยเต็มที่
“ทำเป็นเร้อ~”
“เดี๋ยวก็รู้ ^_____________^”
------------------------------- the Secret of Heart || แฉหัวใจนายปากแข็ง ------------------------------------------
ปกติแล้ววันเสาร์-อาทิตย์ ฮยอกแจมักจะนัดเจอกับทงเฮ แล้วไปซื้อของกัน ดูหนังกัน กินไอศกรีมกัน หรือไม่ก็ไปเที่ยวบ้านคยูฮยอน
แต่อาทิตย์นี้ตัวฮยอกแจกลับอยากอยู่คนเดียวเงียบๆมากกว่า... คำพูดของคยูฮยอนเมื่อวานทำให้ฮยอกแจต้องกลับมานั่งคิดมากทั้งคืน กว่าจะได้หลับก็เกือบเช้า ทำให้ตื่นสายจนบ่ายขนาดนี้
ฮยอกแจรีบอาบน้ำแต่งตัว เพราะวันนี้เขาต้องออกไปทำธุระที่สำคัญอย่างหนึ่ง
โบสถ์ย่านใจกลางเมือง
ปกติวันหยุดอย่างนี้ พ่อแม่จะพาลูกๆเข้ามาที่นี่ เพราะบาทหลวงที่นี่ใจดี มักจัดกิจกรรมให้เด็กๆทำอยู่เสมอๆ อย่างเช่นวันนี้... การแสดงละครหุ่นมือ
ฮยอกแจที่ปกติมักจะมาอาสาเป็นพี่เลี้ยงดูแลเด็ก วันนี้รับบทเจ้าหญิง กำลังเตรียมตัวอยู่ด้านหลังฉาก เด็กๆกว่า 50 คนกำลังนั่งรออยู่ด้านหน้า การแสดงกำลังจะเริ่มขึ้น
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว... ยังมีเจ้าหญิงผู้เลอโฉมอาศัยอยู่ในปราสาท แต่แล้ววันนึงเจ้ามังกรก็ปรากฏตัวขึ้น และลักพาตัวเจ้าหญิงของเราไป”
นักแสดงคนหนึ่งอ่านบท ฉากเป็นเจ้าหญิงที่กำลังยื่นอยู่ด้านหน้าปราสาท ทันใดก็มีมังกรโผล่ขึ้นมา เรียกเสียงฮือฮาจากเด็กๆได้ไม่น้อย
“เจ้ามังกรตัวนี้เป็นมังกรที่ดุร้าย ชอบทำร้ายคนอื่น แต่ก็แอบหลงรักองค์หญิงอยู่ จึงมาลักพาตัวไปไว้ที่ถ้ำของตัวเอง” นักแสดงอ่านบทต่อไป
“ปล่อยเราไปเถอะ... ฮือๆๆๆ เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ช่วยหญิงด้วย~” ฮยอกแจดัดเสียงตัดเองให้เป็นเสียงสูงๆแหลมๆแบบผู้หญิงแล้วอ่านบทเจ้าหญิง
“ไม่มีทาง...เจ้าต้องอยู่กับข้า!!!!”
เสียงนักแสดงที่รับบทเป็นมังกรฟังดูดุดันที่น่าเกรงขาม ทำให้เด็กบางคนต้องรีบหลบหลังพ่อแม่ด้วยความกลัว
“ทันใดนั้น... เจ้าชายรูปงามก็ปรากฏตัวขึ้น”
ปรากฏเป็นตัวละคนเจ้าชายขึ้นมาบนฉาก มือข้างหนึ่งกุมดาบประจำตัวไว้
“เจ้ามังกรปล่อยตัวองค์หญิงมานะ!!!!” เสียงนักแสดงที่เป็นเจ้าชายพูด
และกลายเป็นฉากการต่อสู้ระหว่างมังกรและเจ้าชาย เด็กๆต่างส่งเสียงเชียร์กันยกใหญ่ จนในที่สุดมังกรก็แพ้ไป... เด็กๆต่างตะโกนด้วยความดีใจ
“หลังจากนั้นเจ้าหญิงและเจ้าชายก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป”
เสียงเล่าบอกให้ทราบว่าการแสดงจบลงแล้ว เด็กๆและผู้ปกครองต่างพากันปรบมือให้ ฮยอกแจที่ยังคงสวมตุ๊กตามือเจ้าหญิงพูดกับเด็กๆว่า
“ตรงโน้นมีน้ำกับขนมเยอะแยะเลย เด็กๆช่วยกันกินให้หมดนะ ไม่งั้นเจ้าหญิงคงเสียใจ...”
“เย้~~!!!!”
เด็กๆวิ่งกันไปยังสวนด้านข้างที่มีของกินจัดเตรียมไว้ให้ ท่าทางอันไร้เดียงสาทำให้ฮยอกแจยิ้มด้วยความเอ็นดู
พลันสายตาของฮยอกแจก็สบประสานกับใครคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหน้าโบสถ์ แววตาคู่นั้นดูแข็งกร้าว จับจ้องมองมาที่ตัวเองโดยไม่วางตา ชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ
“นายเล่นละครได้ดีนี่...” ชายคนนั้นพูดแต่สีหน้ายังเรียบเฉย
“นายมีพรสรรค์ในการดูแลเด็กนี่ ดูเด็กๆสนุกมาก
”
“เอ่อ...ฮะ... ขอบคุณนะฮะ” ฮยอกแจตอบกลับพร้อมอาการเขินเล็กน้อย ที่โดนชมกันซึ่งๆหน้า
“ถ้านายสนใจอยากทำงานพิเศษ... โทรมาที่เบอร์นี้นะ...” ชายหนุ่มยื่นนามบัตรให้กับฮยอกแจ
“ฮะ?”
ฮยอกแจรับมาแบบงงๆ เพราะคนตรงหน้าพอยื่นนามบัตรให้เสร็จก็เดินจากไปซะงั้น ฮยอกแจดูนามบัตร
ฮันคยอง
ผู้บบริหารบริษัท Microsoft Cooperatio สาขาเกาหลี
โทร. XXX-OOO-XX
“ฮันคยองงั้นเหรอ?... โทษทีนะฉันใช้คอมพ์ไม่เป็น...” ฮยอกแจพึมพำกับตัวเอง แล้วเก็บนามบัตรใส่กระเป๋า ก่อนจะเดินไปยังกลุ่มเด็กๆ
------------------------------- the Secret of Heart || แฉหัวใจนายปากแข็ง ------------------------------------------
“เฮ้อ~ งานมันเยอะ รึเราทำช้าเองวะเนี่ย?” ชีวอนบ่นออกมาเพราะตอนนี้เขายังดูงานไปไม่ถึงครึ่งหนึ่งของโกดังแรกเลย
“แล้วอีก 3-4 โกดังที่เหลือจะเสร็จมั้ยวะวันนี้? -*-”
ฮีชอล ยืนมองชายหนุ่มอยู่ห่างๆ แอบขำกับพฤติกรรมของคนตรงหน้าชะมัด ขี้บ่นเป็นเด็กๆไปได้ กะอีแค่ 3-4 โกดังเอ๊งงง ทำเป็นบ่น... คอยดูสิถ้าวันนี้ทำไม่เสร็จ จะหาเรื่องไล่ออกซะ หึหึหึ
5 โมงเย็น....
เมื่อถึงเวลาเลิกงานแล้ว พนักงานต่างพากันทยอยกลับบ้านของตัวเอง แต่!!! ชีวอนยังคงตรวจสอบสินค้าในโกดังที่ 2 ไปไม่ถึงครึ่ง ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้แอบหนีงานกลับบ้าน ยังคงตั้งหน้าตั้งตาดูเอกสารในมือกับสินค้าต่อไป
ฮีชอลที่เห็นว่าชีวอนยังไม่กลับ ก็ไม่สนใจ เก็บของแล้วรีบกลับบ้านของตัวเอง... เดี๋ยวต้องรีบไปโทรเช็คกับพี่ลีทึกซะหน่อย ปล่อยไว้กับไอ้หมีนานเกินไปแล้ว...
“จะดูซิว่าจะทนได้สักแค่ไหน เดี๋ยวก็คงเผ่นกลับล่ะสิ อิอิ”
ณ บ้านตระกูลเชว
อาหารถูกตั้งสำรับเรียบร้อยบนโต๊ะ รอให้เจ้าของบ้านและสมาชิกลงมาร่วมรับประทานอาหารพร้อมกัน ทงเฮและคิบอมมานั่งรออยู่ก่อนแล้ว เพราะเป็นคนลงมือทำอาหารกันเอง สักพักนายบ้าน นายหญิงและลูกชายคนโตก็เดินตามลงมา
“อ้าว... แล้วชีวอนล่ะ? ไอ้ลูกคนนี้ไม่รู้จักเวล่ำเวลาจริงๆ” คุณป๋าจุนกิบ่น เมื่อไม่เห็นลูกชายตัวดี
“คุณก็ว่าไปนั่น... ลูกโทรมาบอกว่าจะกลับช้าหน่อย เห็นว่างานยังไม่เสร็จ” คุณนายดาเฮแก้ต่างให้
“เออ ดีๆ ขยันๆอย่างนี้ป๋าชอบ” (เปลี่ยนความคิดซะงั้น)
“วันนี้กับข้าวน่าทานดีนะ” เจย์พูดออกมา ทำให้ทงเฮหูผึ่งทันที รีบตอบกลับไปว่า
“ผมเป็นคนทำเองแหละฮะ พี่เจย์~ ^________^”
“ฮะแอ่ม!” คิบอมกระแอมขัดขึ้นมา
“ไอ้แก้ม... เฮ้ย... ทำกับคิบอมสองคนครับ” ทงเฮตอบแบบเซ็งๆ
“แล้วนี่ใครใส่ไก่ลงไปต้มทั้งตัวล่ะ” คุณป๋าจุนกิตักไก่ครึ่งซีกตัวขึ้นมาตามหาเจ้าของ
“ผมเองฮะ” ทงเฮรีบตอบ แถมอวดเพิ่ม
“ดีใช่มั้ยล่ะ~ คุณป๋า คุณแม่ แล้วก็พี่เจย์จะได้รับสารอาหารครบถ้วนไงฮะ เห็นมั้ยล่ะไม่เสียคุณค่าทางอาหารเลย ด๊องเคยอ่านเจอมาล่ะ อิ อิ”
ทุกคนอึ้งและอึ้ง ยกเว้นคิบอมที่กำลังกลั้นเสียงหัวเราะอยู่จนน้ำตาเล็ด
“อ่ะ...อ่า... งั้นเหรอ?” คุณป๋าจุนกิพูดไม่ออกได้แต่ยิ้มแห้งๆไปให้
“อันนี้อร่อยดีนี่...” เจย์ชี้ไปที่ผัดจานหนึ่งที่วางอยู่
“ครับ... ผมทำกินเองบ่อยๆตอนอยู่หอคนเดียวที่อเมริกาน่ะครับ อันที่จริงก็เอาผักที่มีอยู่มาผัดรวมๆกัน แต่ใส่ไวน์ลงไปนิดนึงมันจะได้หอมขึ้น” คิบอมตอบ
ทงเฮแอบบ่น “ก็แค่ผัดผักแหละว๊า...เชอะ!!”
“จริงด้วย.. อร่อยดีนะ คุณลองทานสิ” คราวนี้เป็นคุณป๋าจุนกิที่ตักผัดผักให้คุณนายดาเฮทาน
“อร่อยจริงด้วย... อร่อยมากจ้ะคิบอม” คุณนายดาเฮหันไปยิ้มหวานให้คิบอมที่ตอนนี้หน้าบานเป็นจานดาวเทียมไปแล้ว
“ไหนๆ มาให้ด๊องลองมั่ง” ทงเฮตักเข้าปากไปลองชิมบ้าง
“เป็นไง?” คิบอมถาม
“อั๊นๆแอะ” พูดไปทั้งที่ปากยังเคี้ยวอยู่
ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ทงเฮก็แอบตักผัดผักมาเติมในจานตัวเองอยู่เรื่อยๆ ชิส์ ก็มันอร่อยนี่หว่า ไม่อยากจะเชื่อว่าไอ้แก้มแตก จะทำอาหารอร่อย ถึงจะไม่ได้ครึ่งหนึ่งของชั้นก็เถอะ
มื้อค่ำเห็นความสุขยังคงดำเนินต่อไปพร้อมเสียงเจื้อยแจ้วของทงเฮที่โฆษณาอาหารที่ตัวเองทำอยู่ตลอด ทั้งต้มไก่กะปลากระป๋อง ไข่เจียว (ที่กว่า 90% คิบอมเป็นคนทำ) และปลานึ่งมะละกอที่คนตัวเล็กเพิ่งคิดเมนูล่าสุด แม้คิบอมจะห้ามยังไง ทงเฮก็ยืนกรานว่าจะทำ ก็จนกว่าจะอิ่มหรืออาหารจะหมดนั่นแหละกิจกรรมทานอาหารค่ำจึงจะจบลง
ครอบครัว... ช่างมีความสุขซะจริง :]
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เราลืมอะไรกันไปรึเปล่า?
ชเว ชีวอนล่ะ???
“อืม.... ชิ้นนี้.... ทั้งหมด 32 กล่อง ครบๆ”
“เอาล่ะรายการต่อไปชิ้นส่วนเครื่องมือ... หมายเลข 493SN596 ต้องมี 13 กล่อง... ไหนดูซิ 1..2..3..4..5..6..7..8..9..10..11..12..13.. เอาล่ะนี่ก็ครบ รายการต่อไป... อ้าว! หมดแล้วเหรอเนี่ย?? เหลืออีกแค่โกดังเดียว ชเว ชีวอน สู้โว้ย!!!!”
ชีวอนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู ตอนนี้ 21.35 น. แล้ว...
‘คืนนี้ก็เสร็จแล้วล่ะ อีกแค่โกดังเดียว’
แล้วหอบเอาเอกสารของโกดังสุดท้ายเดินออกไป
พนักงานคนหนึ่งซึ่งได้รับคำสั่งให้คอยจับตามองชีวอน ควักโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดหาเจ้านายของตัวเอง เพื่อรายงานสถานการณ์
“คุณชีวอนออกมาจากโกดังชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แล้วครับ ตอนนี้กำลังจะไปที่โกดังเอกสารครับ”
“ครับๆ แล้วท่านจะให้ผมรอดูต่อมั้ยครับ?... ครับ ตื๊ด” สายโทรศัพท์ถูกวาง เมื่อเจ้านายสั่งงานมาแล้ว งานของเขาถือว่าเป็นที่สิ้นสุด ได้เวลากลับบ้านบ้างล่ะ...
ฮีชอล หลังจากที่วางสายเมื่อสักครู่ก็หยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมทับชุดนอนลายอุลตราแมนตัวเก่ง คว้ากุญแจรถแล้วรีบเดินออกไป แต่เสียงเรียกข้าวของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นซะก่อน
‘พี่ลีทึกนี่....’
“ฮาโหลว~ พี่ทึก~ ทำไมซินโทรไปหาเมื่อตอนค่ำไม่รับสายอ้ะ?” ฮีชอลตัดพ้อทันที
“ที่รักนอนหลับไปแล้วล่ะ แต่ชั้นเห็นเบอร์นายโทรมาเลยโทรกลับมาหา”
“อ้าวเฮ้ย!!! ไอ้หมี!!!! นี่แกอยู่ห้องเดียวกับพี่ทึกเรอะ?!” ฮีชอลตวาดดังลั่นผ่านโทรศัพท์ จะ 4 ทุ่มแล้ว ทำไมไอ้หมีมันยังอยู่กะพี่ตรูฟะ - -*
“ที่รักรู้สึกเพลียๆนิดหน่อย พอดีเรา เล่น กันเพลินไปนิด ไม่ต้องห่วงน่า ชั้นเป็นคนรักษาคำพูด บอกแล้วไงว่าชั้นไม่เริ่มก่อน... ว่าแต่นายเหอะ... เป็นไงบ้างคนที่จูบกับนายอ่ะ?”
“อยากโดนมือปืนยิงจ่อหัวใช่มะ?”
“โหดซะ.. กลัวตายล่ะ อย่าบอกนะว่าช่วงที่ชั้นไม่อยู่ นายแอบไปจูบกะไอ้เด็กนั่นอีกแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ” คังอินพูดจบก็รีบวางสายทันที กลัวหูจะชา....
“อะ...ไอ้.... เดี๋ยวๆ รอให้แกกลับมาก่อนเหอะไอ้หมี ชั้นจะคิดบัญชี 2 เท่า!!!!”
ฮีชอลไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าจึงเก็บปากไว้รอฉะกับไอ้เด็กโรคจิตที่ยังทำงานอยู่ดีกว่า... ป่านนี้แล้วทำไมนายยังไม่กลับอีกล่ะชีวอน? แล้วได้กินข้าวรึยังเนี่ย? แล้วยุงมันเยอะมั้ยวะที่โกดัง? ถ้าพี่เจย์รู้ตรูจะทำไงดีฟะ? คำถามมากมายรบกวนจิตใจ ทำให้ต้องรีบบึ่งรถออกไปยังบริษัททันที
------------------------------- the Secret of Heart || แฉหัวใจนายปากแข็ง ------------------------------------------
ฮยอกแจกำลังหอบหิ้วถุงมากมาย เนื่องจากเพิ่งไปแวะซุปเปอร์ซื้อของเข้าห้องซักหน่อย... ขณะที่กำลังยืนรอรถเมล์ ก็หันไปเห็น ใครคนนึงหน้าตาคุ้นๆ กำลังจูงมือเด็กตัวเด็กๆเดินออกจากโรงพยาบาลฝั่งตรงข้าม
(สมมุติว่าโรงพยาบาลกะซุปเปอร์อยู่ตรงข้ามกันนะฮะ)
“นั่น... คุณฮันคยองนี่นา... มาทำอะไรที่โรงพยาบาลกันนะ แล้วนั่นสงสัยลูกชายแน่เลย... น่ารักจัง...”
ฮยอกแจมัวแต่ยืนมองเด็กน้อยหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูที่กำลังดึงมือฮันคยองให้เดินออกมาจากโรงพยาบาลไวๆ จนไม่ทันสังเกตว่ามีคนเมาเดินโซเซเข้ามา ฮยอกแจถูกกระแทก จนล้มไปยังถนนด้านหน้าทันที
“โอ๊ะ!!!”
ฮยอกแจร้องด้วยความตกใจเพราะรถยนต์คันโต แสงไฟหน้ารถสว่างจ้า กำลังวิ่งมาทางฮยอกแจ
ปี๊นนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!!
เอี๊ยดดด!!!!!!!
เสียงแตรรถและเบรกรถทำให้ฮันคยองหันและคนละแวกนั้นหันไปสนใจทันที แต่เกาหลีมุงไวกว่า... ฮันคยองแทบจะมองไม่เห็นเลยว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะคนบังเต็มไปหมด
“เมสันรออยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวปะป๊ามา แป๊บเดียวนะ”
ฮันคยองจูงมือเด็กน้อยให้นั่งรอที่ม้านั่งหน้าโรงพยาบาลแล้วรีบไปดูเหตุการณ์เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง
“นายนักแสดงคนนั้นนี่... ขอทางหน่อยครับ ผมจะพาเขาไปหาหมอ!!!”
ฮันคยองอุ้มฮยอกแจที่ตอนนี้เลือดไหลออกมาจากหัวไหล่เยอะมากจนน่าตกใจ อ้อมกอดรัดฮยอกแจไว้แน่นกันตก แล้วก็รีบอุ้มเข้าโรงพยาบาล เมสันที่นั่งรออยู่เมื่อเห็นปะป๊ากำลังอุ้มใครสักคนเข้ามา ก็รีบลุกตามไป
------------------------------- the Secret of Heart || แฉหัวใจนายปากแข็ง ------------------------------------------
“แค่กๆๆๆ ทำไมโกดังนี่ฝุ่นมันเยอะจัง” ชีวอนเอามือปัดๆบริเวณจมูก
“อืมมม คราวนี้เอกสารงั้นเหรอเนี่ย?? 100 กว่ารายการเอง T___T เอาน่าๆชีวอน.... ถ้านายทำงานชิ้นแรกสำเร็จ พี่ซินก็จะพอใจ แล้วก็จะยิ้มไงเล่า...”
ชีวอนพูดกับตัวเอง ก่อนเริ่มต้นตรวจสอบเอกสารกองมหึมา..
เอี๊ยดดดด....
ปัง!
ฮีชอลลงมาจากรถคันหรู สายตากวาดมองหาโกดังเอกสาร
‘มันอยู่ไหนล่ะเนี่ย?? ปกติอยู่แต่ในออฟฟิศไม่ค่อยลุยงานพวกนี้ซะด้วย’
คนสวยได้แต่ยืนเกาหัวแกรกๆ เพราะไม่รู้ว่าโกดังที่ว่ามันอยู่ตรงไหน เลยเดินไปดูเรื่อยๆทีละโกดัง จนกระทั่ง....
Build G-80 โซนเอกสาร
ฮีชอลยิ้มอย่างพึงพอใจ... เจอจนได้ ^-^
“ชีวอน!!!” ฮีชอลตะโกนเรียก
เงียบ.....
“นายอยู่ในนี้รึเปล่า?”
เงียบ.....
“ก็ไหนสายมันรายงานว่าอยู่ในนี้ไงฟระ รึตรูโดนหลอก - -*” ฮีชอลพึมพำกับตัวเอง
ปึ้ก!!! โครม!!!
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” ฮีชอลแผดเสียงกรี๊ดออกมาดังลั่น.... ไม่รู้ว่าเสียงอะไรตก แต่คนสวยกลัว T______T
หมับ!
“พี่ไม่ต้องกลัวนะครับๆ กองเอกสารมันล้มลงมาเท่านั้นเอง” ชีวอนกอดคนสวยเอาไว้แนบอก
“แงๆๆ ไม่เอาๆ ไม่เอาผี T___T” คิมฮีชอลกอดกลับแน่น ปากก็เอาแต่พูดว่าไม่เอาผีๆ
“โอ๋ๆ คนดี.... ไม่กลัวนะ ผมอยู่ทั้งคน...”
ชีวอนยิ้มแก้มแทบปริ เพราะตอนนี้ตัวเองถูกคนสวยกอดไว้แน่น แถมหน้าสวยๆยงมาซบที่อกแกร่งซะด้วยสิ
“เฮ้ย!!!” ฮีชอลผลักชีวอนออกไปเมื่อได้สติ
“นี่ชั้นเรียกนายตั้งนานแล้วทำไมไม่ขานรับ หา!!!” ทำเป็นกลบเกลื่อนแก้เขิน แต่คงปิดไม่มิดเพราะหน้าแดงก่ำไปถึงหูซะแล้วล่ะฮีชอล~
“ก็.... ผมรอดูเด็กขี้แยร้องไห้กลัวผีไงล่ะ” ชีวอนยิ้มให้แบบกวนๆ
“บะ...บ้า...!!! ใครกัน?!”
“เฮ้ย! นั่นอะไรอยู่ด้านหลัง!” ชีวอนแกล้งแหย่
“แงๆๆๆๆๆ ลูกกลัวแล้ว ไม่เอา...ไม่อ๊าววววววว T______T”
ได้ผล.... คนสวยวิ่งแถเข้ามาในอ้อมอกตัวเองเลย แถมกอดแน่นกว่าเมื่อกี๊ซะอีก...
“ผมล้อพี่ซินเล่นน่ะครับ.... ^_________^ ”
ฮีชอลผลักคนตรงหน้าออกไปทันที ตาคู่สวยเต็มไปด้วยน้ำตา มือเล็กปาดน้ำตาทิ้งก่อนจะพูดว่า
“สนุกแล้วใช่มั้ย? นี่ชั้นอุตส่าหืตามมาดูเพราะเป็นห่วงนาย!! แต่ดูนายสิ! นาย
“ผม....ผมก็แค่.... เอ่อ.... ผมขอโทษ....”
“ไม่รู้!! ไม่สน!!! ชั้นจะกลับแล้ว!!!” ฮีชอลหันหลังเดินกลับไปยังทางออกอย่างรวดเร็วจนชีวอนต้องรีบเดินตามมา
แกร๊ก... แกร๊กๆๆๆๆๆๆๆ
“เฮ้ย!!! ทำไมมันเปิดไม่ได้อ้ะ?” ฮีชอลหันกลับไปถามชีวอนที่เดินเข้ามา
“เมื่อกี๊ผมยังเปิดได้อยู่เลย... มาครับเดี๋ยวผมลองดู” ชีวอนมาลองเปิดดูบ้างแต่ก็เหมือนเดิม ประตูโกดังเปิดไม่ออก!!!
“ใครอยู่ข้างนอกน่ะ เปิดประตูให้หน่อย!!!” ฮีชอลทุบประตูแรง พร้อมตะโกนเรียก
“เปิดประตูให้เราหน่อยครับ!!!” ชีวอนหันมาช่วยบ้าง
จนเวลาผ่านไป... ทั้งคู่รู้สึกเหนื่อยจึงนั่งลงพิงตัวกับประตู...
“จริงสิ!” ฮีชอลโพล่งขึ้นมา
“โทรศัพท์ให้คุณจีเฮมาช่วยดีกว่า” ฮีชอลล้วงกระเป๋าทั้งสองข้าง แล้วก็ทำหน้าเศร้า
“ชั้นลืมไว้ในรถอ้ะ นายมีโทรศัพท์รึเปล่าชีวอน?”
“เมื่อกี๊ตอนผมออกไปเข้าห้องน้ำ... ผมได้ยินเสียงพี่กรี๊ด เลยรีบวิ่งมา ไม่ทันได้หยิบมาด้วยครับ แหะๆ”
“อาร๊ายยยยย ไปห้องน้ำแล้วควักโทรศัพท์ออกมาทำเซือกอาราย ห๊า!!!!”
“ผมกะจะโทรกลับไปที่บ้านน่ะ แต่พี่กรี๊ดซะก่อน แหะๆ”
“อ๋อ~ ชั้นผิด...ใช่มะ??”
“เปล่าหรอกครับ... ผมต่างหาก ผิดที่ห่วงพี่มากเกินไป”
ห่วง?.... ห่วง?!.... ชีวอน... นายบอกว่าห่วงชั้นงั้นเหรอ?
“พี่...พี่ซินๆๆ”
“อะ...หา? นายว่าไงนะ?”
“เปล่าครับ... แต่ผมเห็นพี่เงียบไป... พี่โอเคมั้ย?”
“อะ...อืม...” ฮีชอลตอบกลับไป แล้วก็เบนหน้าหนีไปอีกทาง
‘หน้าตรูตอนนี้มันต้องแดงแล้วแหง รู้สึกหูจะร้อนๆแล้ว... >/////< ’
ตอนแรกชีวอนไม่ทันสังเกตว่าฮีชอลใส่ชุดนอนมา แต่ตอนนี้ดูเหมือนฮีชอลจะหนาวมากเพราะเริ่มนั่งกอดเข่าตัวเองแล้ว... ชีวอนจึงถอดสูทด้านนอกออก ก่อนส่งให้กับฮีชอล
“เอ๋?”
“ผมว่าพี่คงหนาวนะ... ก็... เอ่อ... ใส่ชุดนอนบางๆอย่างนั้นมา... เอานี่ไปใส่สิครับ”
ชีวอนส่งสูทให้ แต่ไม่กล้ามองไปยังคนสวย เพราะชุดนอนนั่นมันบางจริงๆ เขาเห็นเงาขาเรียวภายใต้กางเกงขายาวเนื้อบาง ดีนะเนี่ยที่ท่อนบนพี่ซินใส่เสื้อทับมาก่อน ไม่งั้น.... ไม่อยากคิด... (แต่จิ้นเรียบร้อยแล้ว -/////- )
ฮีชอลรับเสื้อสูทมาใส่ แล้วขยับไปนั่งชิดกับชีววอน ทำให้ชีวอนหันมาสวบตาด้วยความสงสัย
“ชั้นหนาว... นายก็หนาว... อยู่ใกล้กันน่ะอุ่นดี” ฮีชอลตอบแบบเขินๆ ชีวอนได้แต่ยิ้มให้
แต่ใครจะรู้ว่าตอนนั้นชีวอนคิดว่า...
‘ว๊ากกกกกกกกก พระเจ้า!!! ขอบคุณมากครับ!!! ให้ผมอยู่กับคนสวยนานๆแถมยังให้ใกล้ชิดกันอีก ^______^ ผมสัญญาว่ากลับไปแล้วจะเข้าโบสถ์ไปสวดขอบคุณนะคร้าบบบบ หุหุหุ ส่วนใครที่ล็อกกุญแจโกดัง ฮึ่ม!!! อย่าให้ผมรู้นะ!! ผมจะพาไปเลี้ยงขอบคุณด้วย ว๊ากกกก กร๊ากกกก คุ้มจริงๆที่ทำงานหนัก หุหุหุ’
ส่วนฮีชอลน่ะเหรอ....
‘เห็นว่านายมีน้ำใจให้เสื้อชั้นหรอกนะ... จะปล่อยให้หนาวตายก็ยังไงๆอยู่ เอาเถอะๆ เดี๋ยวชั้นจะเล่นงานนายก
------------------------------- the Secret of Heart || แฉหัวใจนายปากแข็ง ------------------------------------------
กลับมาบ้านตระกูลชเวกันซักนิด.. หลังจากมื้อค่ำผ่านพ้นไป คุณพี่เจย์ก็เข้านอนพร้อมกับคุณป๋าจุนกิและคุณนายดาเฮ ดพราะพรุ่งนี้จำเป็นต้องออกเดินทางไปเจรจาธุรกิจกับลูกค้า จะเหลือก็เพียงทงเฮและคิบอมที่ยังนั่งดูละคนเรื่อง ใจร้าว อยู่กันสองคน... (สมมุติว่าที่เกาหลีมี ใจร้าว ละกัน 555++)
“ฮือๆๆๆ ฮึกๆๆๆ”
เสียงทงเฮสะอื้นเป็นระยะๆ ในฉากที่นางเอกกำลังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล สายระโยงรยางอยู่เต็มไปหมด
เมื่อพระเอกกำลังบอกรักอยู่นั้น อยู่ดีๆนางเอกก็อาการกำเริบหัวใจหยุดเต้น ยิ่งเรียกเสียงสะอื้นของทงเฮให้หนักกว่าเก่า
“แง้~ อย่าตายน๊า~ ”
“งี่เง่าน่า... นางเอกที่ไหนตายกันล่ะ?” คิบอมพูด เริ่มรู้สึกรำคาญ... อะไรจะอินขนาดนั้นยัยปากจัด
“หุบปากซะนายน่ะ!! ไม่พอใจก็ไปนอนซะไป๊!!!”
“ชั้นอยากดู ทำไม? เธอมีปัญหารึไง?” คิบอมสวนกลับ
“งั้นก็อย่ามายุ่งกะชั้นเซ่!!!!! - -*”
ทั้งสองยังคงนั่งดูต่อไปจนมาถึงฉากที่พระเอกนำช่อกุหลาบสีขาวมาเยี่ยมนางเอกที่โรงพยาบาล
“ว้าวววว กุหลาบขาว เพียบเลย~ โรแมนติกชะมัด~” ทงเฮประสานมือไว้กลางอกทำท่าเพ้อฝัน
“นี่เธอคงจะไม่นึกว่าตัวเองเป็นนางเอกอยู่ใช่มะเนี่ย?? ฮ่าๆๆๆ” คิบอมหัวเราะในท่าทางเพ้อๆของคนตัวเล็ก
“ไม่หาเรื่องชั้นสักนาทีเนี่ย สมองจะเสื่อมรึไง? - -*”
“ก็มันช่วยไม่ได้นี่... ตรงนี้มีแค่ชั้นกับเธอ...”
‘มันก็จริง =[]= ’ ทงเฮคิด
“งั้นชั้นไปเองละกัน - -*” ทงเฮลุกขึ้นเดินขึ้นไปชั้นบน คิบอมรีบปิดทีวีแล้วเดินตามไปทันที
“ตามชั้นมาทำไมเนี่ย?? - -*” ทงเฮพูด เมื่อพบว่าไอ้แก้มแตกกำลังเดินตามมา
“ก็ห้องชั้นต้องไปทางนี้นี่...”
‘มันก็จริงเนอะ... =[]=’ ทงเฮคิด
“เดี๋ยว!!” คิบอมเอามือจับประตูห้องทงเฮไว้รั้งไม่ให้ปิด ทงเฮมองตาแป๋วแบบงงๆ
“เธอ... ลำบากใจมากรึเปล่าที่ชั้นมาอยู่ที่บ้านนี้ด้วย”
คำถามคิบอมทำออกทงเฮอึ้งไปเล็กน้อย ก็ยอมรับนะว่าไม่ค่อยชิบขี้หน้า แต่พอถามกันตรงๆแบบนี้ ตอบไม่ถูกแฮะ...
“อะ...เอ่อ... ชั้น....” ทงเฮอ้ำๆอึ้งๆ
“ชั้นคงมารบกวนไม่นานหรอก... เพราะงั้นเธอไม่ต้องกังวลหรอกนะ”
“เอ่อ..คิบอม...ชั้น....”
“ชั้นรู้ว่าเธอคงอึดอัดและลำบากใจสินะ...”
“คิบอม~”
“งี้แหละน๊า~ อยู่ชายคาเดียวกับคนที่เธอแอบชอบก็ต้องทำตัวไม่ถูกเป็นธรรมดา แต่เอาเถอะชั้นจะพยายามแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเวลาที่เธอแอบเขินชั้นก็แล้วกันนะ... เพราะงั้นเธอไม่ต้องเกร็งหรอก ชั้นสบายๆกับคนที่แอบมาชอบชั้นอยู่แล้วล่ะ....”
O[]O <- ทงเฮ
“จะพูดว่าราตรีสวัสดิ์ฝันดีนะคิบอม.. ใช่มั้ยล่ะ? ชั้นรู้หรอกน่า เอาเถอะๆ เธอไม่ต้องเขินนะ ราตรีสวัสดิ์ทงเฮ!!” คิบอมยิ้มแก้มแตกเดินเข้าห้องของตัวเองไป
- -* <- ทงเฮ
“ในประเทศเกาหลีจะมีใครหลงตัวเองเท่านายอีกมะ? ไอ้แก้มแตก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
ความคิดเห็น