คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : SiLLy Game 06 (100%)
SiLLy Game 06
ชีวอนลากฮีชอลมายังหน้าห้องหนึ่งก่อนจะดึงตัวฮีชอลเข้าไปในห้อง แล้วล็อกประตูห้องทันที
“นะ... นี่นาย... อย่าบอกนะว่า!!” ฮีชอลตัวสั่นด้วยความกลัว
ชีวอนเดินสาวเท้าเข้ามาหาฮีชอลที่ยื่นตัวสั่นอยู่ด้วยความย่ามใจ
“หึหึหึ อย่างที่เธอคิดนั่นแหละ!!!”
“อย่าคิดอะไรบ้าๆนะ!”
ฮีชอลกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง เผื่อจะมีทางไหนที่พอจะหนีคนอารมณ์แปรปรวนนี่ไปได้บ้าง
“คิดอะไรบ้าๆงั้นเหรอ... หึ” ชีวอนกระตุกยิ้ม
“คนอย่างฉันไม่แค่คิดหรอก!!” ร่างสูงยิ่งเดินเข้าไปประชิดตัวฮีชอลมากขึ้นๆ
ฮีชอลตัดสินใจวิ่งผ่านร่างสูงที่ยืนขวางประตูไปด้วยความรวดเร็ว มือบางจับลูกบิดประตูห้องได้ก่อนที่ชีวอนจะคว้าตัวทัน
แต่ไม่ทันที่ขาบางจะก้าวออกนอกห้อง แรงฉุดดึงจากร่างสูงที่จับแขนฮีชอลไว้ได้ก็กระชากตัวฮีชอลกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง
“โอ๊ย!!”
ร่างบางถึงกับร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทั้งที่โดนดึงกระชากอย่างไม่ปราณี และเพราะร่างบางถูกโยนขึ้นบนเตียงกว้างอย่างแรงด้วย
“นะ... นายไม่อยากทำแบบนี้แน่...” ฮีชอลตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากเหยื่อที่ตกอยู่ในอุ้งมือราชสีห์พยายามพูดจาเกลี้ยกล่อม
“ทำไมล่ะคิม ฮีชอล... ทำไมเธอถึงคิดว่าฉันจะไม่กล้า!” ชีวอนจ้องมองร่างบางบนเตียงด้วยแววตาโกรธแค้น
“ขอร้องล่ะชีวอน... ฮึก... นายอย่าทำแบบนี้เลยนะ...” ฮีชอลอ้อนวอนทั้งน้ำตา
“อย่ากลัวไปเลยฮีชอล...” ชีวอนเดินเข้าไปประคองร่างบางไว้ด้วยความอ่อนโยน
“วันนี้เธอไม่รอดแน่!!” แล้วกดไหล่บางทั้งสองข้างลงบนเตียง ก่อนจะตามขึ้นคร่อมตัวร่างบางไว้ เพื่อไม่ให้ร่างบางขัดขืนได้
Warning: NC Shot
[Ctrl+A]
ชีวอนฉีกกระชากเสื้อผ้าที่ร่างบางสวมใส่ออกอย่างบ้าคลั่ง... ชุดนอนตัวบางถูกดึงทึ้งออกไปจนเผยให้เห็นผิวขาวเนียนไร้รอยตำหนิ
“อย่า~!!! ไม่!!!” ฮีชอลใช้มือทั้งสองข้างผลักอกร่างสูงออกไปให้ห่างตัวเอง
“อย่า!!! ได้โปรดชีวอน!!” ร่างบางพยายามอ้อนวอนให้หยุดการกระทำครั้งนี้
แต่ทว่าร่างสูงกลับไม่คิดเมตตาสงสารเลยแม้แต่น้อย มือข้างหนึ่งรวบข้อมือบางทั้งสองข้างของฮีชอลตรึงไว้ด้านบน เปิดทางให้มืออีกข้างจัดการเสื้อผ้าส่วนที่เหลืออกไปจนหมดสิ้น
ตอนนี้ฮีชอลเหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าอยู่ภายใต้ร่างสูง... น้ำตาแห่งความเจ็บแค้นไหลรินลงมาจากตาคู่สวย ไม่คิดว่าร่างกายที่ตนเองจะหวงแหนจะต้องกลายเป็นที่รองรับอารมณ์ของคนเลวอย่างชีวอน!
ใบหน้าคมเข้มก้มลงซุกไซร้ซอกคอเนียนขาวของร่างบาง ฮีชอลได้แต่เบนหน้าหนีด้วยความอดสู ลิ้นร้อนไล่โลมเลียจนมาถึงแก้มเนียน... แต่ฮีชอลก็ยิ่งหันหน้าหลบสัมผัสน่าขยะแขยงนั่น
“อ๊ะ!” ฮีชอลร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อมือหนาบีบคางฮีชอลแน่นเพื่อให้หันกลับมาสบตากับร่างสูง
“ดูให้เต็มตาสิฮีชอล... ดูให้เต็มตา!”
มือหนายิ่งบีบคางมนหนักมือขึ้นเรื่อยๆ แต่ร่างบางกลับไม่ปริปากร้องเลยแม้แต่สักนิด มีเพียงน้ำตาใสที่ไหลลงมาให้เห็นเท่านั้น
“หึ... อยากจะรู้นักว่าจะทนได้แค่ไหน!”
ชีวอนสะบัดมือที่จับคางไว้ทิ้งอย่างไม่ไยดี ร่างบางถึงกับหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ แต่ทว่าก็ไม่มีเสียงโอดครวญให้ได้ยิน
ร่างสูงก้มหน้าลงนัวเนียบริเวณอกขาว ปากหนาจัดการกับยอดอกข้างหนึ่ง มืออีกข้างจัดการลูบไล้ยอดอกอีกข้าง... ทุกพื้นผิวที่ลิ้นสากลากผ่าน ชีวอนขบเม้มจนเกิดรอยแดงไปจนทั่ว ตาคมเข้มเหลือบมองหน้าร่างบาง... ฮีชอลกำลังกัดฟันแน่นอดทนต่อทุกการกระทำ
ร่างสูงจงใจขบเม้มยอดอกอย่างแรงจนเลือดไหลซิบออกมา หวังจะให้คนที่อยู่ใต้ร่างร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่ฮีชอลยังทนได้ ถึงจะเจ็บปวดอย่างไรก็ไม่ยอมร้องออกมา
ชีวอนยิ่งรู้สึกขัดใจ มือหนาเลื่อนไล่ลงต่ำไปจนถึงแกนกายของร่างบางก่อนจะกอบกุมแกนกายไว้แล้วขยับรูดแกนกายขึ้นลงเป็นจังหวะเพื่อปลุกปั่นให้ตื่นตัว
“อือ~ อือ~”
ร่างบางกัดริมฝีปากตัวเองจนเกิดรอยแดงช้ำ เพื่อสะกัดกั้นไม่ให้เสียงดังออกมาจากปาก ยอมรับว่าร่างกายกำลังตอบสนองความต้องการทางด้านอารมณ์อย่างห้ามไม่อยู่... เพียงไม่นานแกนกายก็ตั้งชัน
“ร้องออกมาซะ ฉันสั่งให้ร้องออกมา!!” ชีวอนบีบขยำแกนกายสีชมพูที่กำลังตื่นตัวไว้ราวกับจะให้แหลกคามือ
“จะ... เจ็บ...!!”
ดวงตายังคงเต็มไปด้วยน้ำตา ร่างบางพยายามจะดึงมือทั้งสองข้างของตัวเองให้หลุดจากการพันธนาการของมือแกร่ง แต่ทว่าแรงบีบที่ส่วนล่างทำให้แม้ขยับตัวเพียงเล็กน้อย ความเจ็บก็วิ่งไปทั่วร่าง
“ใช่~ ร้องออกมา!! หึหึหึ” ร่างสูงยิ้มด้วยความพึงพอใจที่ทำให้ร่างบางอ้าปากส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดออกมาได้
“อย่าขัดใจฉัน... จำไว้” ร่างสูงก้มลงกระซิบที่หูของฮีชอล
“อ๊ะ!”
ร่างบางร้องด้วยความตกใจ เมื่ออยู่ดีๆมือหนาก็ปล่อยข้อมือให้เป็นอิสระ แต่หันไปจับขาทั้งสองข้างให้แยกกว้างออก ก่อนจะสอดตัวเข้าไป
ร่างสูงจัดการปลดเข็มขัดกางเกงออกมามัดมือบางทั้งสองข้างไว้แทน มือหนารูดซิบกางเกงตัวเองลงมาอย่างช้าๆ แกนกายขนาดใหญ่สีเข้มที่กำลังตื่นตัวเต็มที่ถูกจ่อเข้าตรงช่องทางสีชมพูทางด้านหลังของร่างบาง
“มะ...ไม่! พอแล้ว~ ฮึก... ฉันยอมแล้ว... ฮึก... อย่าทำฉันเลย!”
ร่างบางพยายามอ้อนวอนอีกครั้ง ความอวดดีที่มีเมื่อครู่หายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงความกลัวเท่านั้นที่มาครอบงำ
“หึหึหึ” ร่างสูงกระตุกยิ้มเยาะ
ร่างสูงสอดแทรกความเป็นชายเข้าไปในช่องทางอย่างรวดเร็ว ฮีชอลขยับตัวหนีการสอดใส่จนหลังชนกับหัวเตียง เมื่อไม่มีทางหลบเลี่ยงอีกแล้ว แกนกายขนาดใหญ่ก็ถูกสอดเข้าไปจนสุดความยาวในทีเดียว
“อ๊ากกกก~!!!!!”
ร่างบางโอดครวญด้วยความเจ็บปวด เลือดแดงสดจากรอยฉีกขาดของช่องทางด้านหลังกำลังไหลออกมาเพื่อช่วยหล่อลื่นให้แกนกายขนาดใหญ่ขยับได้ในช่องทางอันคับแคบ
“อา.... ดี...”
ร่างสูงถึงกับหลับตาพริ้มด้วยความพึงใจในความคับแน่นของช่องทางที่กำลังตอดรัดส่วนปลายของแกนกายที่อยู่ข้างใน
“ฮึก... ฮือ.....”
ผิดกับร่างบางที่ตอนนี้ได้แต่หลับตาแน่น ไม่อยากเห็นการกระทำอันแสนทุเรศครั้งนี้ ร่างบางกำลังสะอื้นอย่างหนัก
ร่างสูงกระแทกแกนกายเข้าออกช่องทางอย่างรุนแรงไร้ความอ่อนโยน เพื่อสนองอารมณ์ของตัวเองเท่านั้น ไม่สนใจว่าคนที่รองรับความต้องการด้านล่างจะเจ็บปวดแค่ไหน
ยิ่งกระแทกแรงเท่าไหร่ รอยฉีกขาดก็ยิ่งขยายวงกว้างออก นั่นหมายถึงเลือดก็ยิ่งไหลออกมามากขึ้นด้วยเช่นกัน
มือหนาจับสะโพกมนของร่างบางไว้ตรึงอยู่กับที่ ก่อนจะขยับแกนกายกระแทกลงไปหนักหน่วงจนร่างบางต้องแอ่นสะโพกขึ้นมารับจังหวะอย่างไม่รู้ตัว
“อา... รู้สึกดีมั้ยฮีชอล..?”
ร่างสูงแสร้งถามเมื่อเห็นว่าร่างบางเริ่มตอบสนองทางร่างกายแล้ว แต่ร่างบางยังคงปิดปากเงียบไม่ยอมให้เสียงครางออกมาจากลำคอเลยแม้แต่น้อย
ใบหน้าคมโน้มลงมอบจูบอันร้อนแรงให้กับร่างบาง ลิ้นหนาพยามสอดแทรกเข้าไปในปากแดงอิ่ม แต่ร่างบางกลับเม้มริมฝีปากแน่นไม่ยอมให้รุกล้ำ ร่างสูงจึงขยับแกนกายด้วยความถี่มากขึ้น แล้วอาศัยจังหวะที่ปากอิ่มเผยอตามแรงสวาท ส่งลิ้นหนาเข้าไปตวัดเกี่ยวลิ้นเล็กที่สั่นด้วยความประหม่าในสัมผัสที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
“อืม~ อืม~”
ร่างบางพยายามเบนใบหน้าหนีการสัมผัส แต่ก็ต้องเผลอตัวรับสัมผัสนั้นอีกครั้ง เมื่อมือหนากอบกุมแกนกายสีชมพูขยับเป็นจังหวะเดียวกับแกนกายที่ขยับอยู่ในช่องทางรักด้านหลัง
ร่างสูงปล่อยริมฝีปากบางให้เป็นอิสระ จมูกกดลงทั่วแก้มนุ่มทั้งสองข้าง
ร่างบางไม่สามารถควบคุมแรงปรารถนาของตัวเองได้อีกต่อไป ขาเรียวแยกกว้างออกเพื่อรอรับการกระแทกอย่างเต็มที่ ริมฝีปากที่เคยเม้มปิดแน่นตอนนี้กำลังส่งเสียงครางออกมา
“อ๊ะๆๆ~ อ๊าาาาาา~”
ยิ่งได้ยินเสียงครางของร่างบางเท่าไหร่ ร่างสูงก็ยิ่งเร่งจังหวะการขยับสะโพกหนาให้เร็วมากขึ้น... มือหนาข้างที่กอบกุมแกนกายของร่างบางเองก็รูดขึ้นลงด้วยจังหวะเร็วไม่แพ้กัน
“อา~”
ร่างสูงส่งเสียงครางออกมาเมื่อแรงปรารถนาใกล้เกือบถึงจุดสุดยอด ใบหน้าเข้มเชิดหน้าขึ้น ร่างสูงกระแทกแกนกายอย่างแรงและถี่มากขึ้นจนกระทั่งร่างกายกระตุกเกร็งปลดปล่อยในตัวของร่างบาง น้ำขาวขุ่นทะลักออกมาปนกับเลือดสีแดงสดเปรอะเปื้อนไปทั่วขาของร่างบาง
“อ๊าาาาาาาาาาา~!!!!”
ร่างบางก็ปลดปล่อยน้ำรักใส่หน้าท้องแกร่งของร่างสูงเช่นกัน
ชีวอนหอบหายใจด้วยความเหนื่อย ทิ้งตัวลงข้างๆร่างบางที่เหนื่อยหอบไม่แพ้กัน อกขาวที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยรักที่ร่างสูงฝากไว้หอบกระเพื่อมขึ้นลงจนเห็นได้ชัด
“ออกไป!!” ฮีชอลพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ น้ำตาไหลรินลงบนแก้มทั้งสองข้าง
ชีวอนเงยหน้าขึ้นมามองร่างบางด้วยสายตาเยาะเย้ย
“ผิดแล้วล่ะ... นี่มันห้องของฉัน! ไสหัวไปได้แล้ว!!”
ชีวอนดึงฮีชอลลงจากเตียง ร่างบางถึงกับทรุดลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง เพราะเจ็บไปทั้งกายและใจ
มือหนากระชากผ้าปูที่นอนที่เปื้อนทั้งคราบเลือดและคราบรักออกมาก่อนจะเขวี้ยงใส่หน้าฮีชอลที่ยังคงนั่งอยู่บนพื้นเพราะลุกไม่ไหว
“จัดการซักมันให้สะอาดซะด้วย อย่าให้เลือดสกปรกมาแปดเปื้อนบ้านของฉัน!” ชีวอนสั่ง
ฮีชอลพยายามยันตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก มือบางหยิบผ้าปูที่นอนมาพันรอบกาย ก่อนจะค่อยๆพยุงตัวเองเดินออกไปจากห้องทั้งน้ำตา
ชีวอนมองตามฮีชอลจนกระทั่งออกจากห้องไป รอยยิ้มแห่งชัยชนะปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมเข้ม... เกมส์นี้เขาทำแต้มนำหน้าไปแล้วหลายคะแนน!
=== [60%] ===
/>
ฮีชอลพาร่างกายบอบช้ำกลับมาถึงห้องนอนของตัวเอง ร่างบางทิ้งตัวลงนอนบนเตียงโดยไม่สนใจคราบเลือดที่ยังคงเกรอะกรังอยู่ที่ช่องทางด้านหลัง ใบหน้าหวานซบลงบนหมอนปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาจนหมอนชุ่มเปียก
การกระทำของชีวอนไม่ต่างอะไรจากการข่มขืนเลยสักนิด!
ตอนนี้ร่างกายนี้มันสกปรก... ร่างกายนี้มันแปดเปื้อนไปแล้ว... จากนี้ไปฮีชอลจะมองหน้าคนอื่นๆได้ยังไงกัน
“ฮึก... ชอลจิ... กี้... ช่วยพี่ด้วย... ฮึก...” ฮีชอลพร่ำเพ้อหาน้องชายทั้งสองคน
ร่างบางหมดสติไปทั้งๆที่น้ำตายังคงไหลริน มีเพียงความอ้างว้างที่โอบกอดฮีชอลไว้ให้ผ่านคืนอันแสนโหดร้ายนี้ไป
------------------------------------- SiLLy Game -------------------------------------
เพล้ง!!
คยูฮยอนละสายตาจากโทรทัศน์ลุกขึ้นเดินตามเสียงไป เห็นพี่ชายกำลังก้มลงเก็บเศษแก้วที่แตกกระจายอยู่บนพื้นหน้าตู้เย็นในครัว
“นานๆทีจะเห็นพี่ชอลจิซุ่มซ่ามนะเนี่ย” คยูฮยอนพูดแซวแล้วเดินไปหยิบไม้กวาดมาจัดการให้
“แปลกจัง...” ฮินชอลรำพึงกับตัวเอง
เหมือนอย่างที่คยูฮยอนว่า... ปกติฮินชอลไม่ใช่คนที่ซุ่มซ่ามแบบนี้ แต่คราวนี้ไม่รู้เพราะอะไรมือไม้ถึงได้อ่อนจนทำแก้วน้ำหลุดมืออย่างนี้
“รู้สึกเป็นห่วงไอ้ชอลจัง” ฮินชอลหันไปพูดกับคยูฮยอน
“ป่านนี้พี่ชอลคงหลับแล้วมั้ง อย่าห่วงเลยครับ ^^” คยูฮยอนพูด
“พี่จะไปหาฮีชอล!” ฮินชอลลุกขึ้นยืนทำท่าจะออกไปทันที
“แล้วพี่ชอลจิรู้เหรอครับว่าพี่ชอลอยู่ที่ไหน?” คยูฮยอนถาม
ฮินชอลชะงักฝีเท้าทันที เพราะตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้แฝดของตัวเองไปอยู่ที่ไหน โทรศัพท์จะติดต่อก็ไม่มี มือหนากอดอกอย่างใช้ความคิด
“รอถามคุณฮันเกิงพรุ่งนี้ดูดีกว่ามั้ยครับ?” น้องคนเล็กเสนอ
ฮินชอลหันมองน้องชายแล้วก็เห็นด้วย เพราะถึงยังไงพรุ่งนี้ฮันเกิงก็ต้องมาที่บ้านนี้อีก ถึงตอนนั้นแล้วค่อยถามก็แล้วกัน... แล้วสองพี่น้องช่วยกันจัดการเก็บเศษแก้วไปทิ้ง
คยูฮยอนแยกขึ้นไปนอนแล้ว แต่ฮินชอลยังคงนั่งอยู่ในห้องรับแขกของบ้าน สมองครุ่นคิดถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่... มันเหมือนกับเมื่อก่อนไม่มีผิด
“ไอ้ชอล... อยู่ไหนน่ะ?!” ฮินชอลวัยห้าขวบตะโกนเรียกหาพี่ชายฝาแฝดกลางทุ่งหญ้าใหญ่
ฮินชอลและฮีชอลแอบหนีพ่อแม่มาเที่ยวเล่นตามประสาเด็กวัยซนที่ริมแม่น้ำ ตั้งใจว่าจะมาจับแมลงกันแต่ฮินชอลแค่ละสายตาแปบเดียวพี่ชายฝาแฝดก็หายไปแล้ว
“ออกมาได้แล้ว รีบกลับบ้านเถอะเดี๋ยวแม่ดุ!!” ฮินชอลตะโกนบอก แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับกลับมา มีเพียงเสียงจักจั่นเท่านั้นที่ได้ยิน
ฮินชอลเดินฝ่าทุ่งหญ้าที่สูงเกือบถึงระดับความสูงของตัวเอง มือเล็กๆแหวกกอหญ้าหาฮีชอลไปเรื่อยๆ
เฮือก!!
ฮินชอลสะดุ้งสุดตัว ตาข่ายและกล่องจับแมลงถูกทิ้งลงบนพื้น ร่างกายฮินชอลสั่นสะท้านไปหมด ความรู้สึกเหมือน... เหมือนกำลังแช่อยู่ในน้ำช่วงหน้าหนาว
ขาเล็กๆหมุนตัวเดินออกจากทุ่งหญ้ามุ่งตรงไปยังริมฝั่งแม่น้ำ... ฮีชอลกำลังจะจมน้ำ
“ช่วยด้วย!! คนจมน้ำ ช่วยด้วย!!” ฮินชอลตะโกนเรียกคนที่อยู่ใกล้ให้เข้าไปช่วย
โชคดีที่มีคุณลุงสองคนมานั่งตกปลาอยู่อีกด้าน ชายคนหนึ่งกระโดดลงน้ำไปเอาตัวฮีชอลขึ้นมาบนฝั่งได้สำเร็จ เพราะเพิ่งจมน้ำได้ไม่นานฮีชอลจึงรอดชีวิตมาได้
นั่นคือเรื่องราวเมื่อตอนที่ฝาแฝดทั้งสองอายุ 5 ขวบ ครั้งนั้นเพราะความรู้สึกที่รุนแรงสื่อมาถึงกันทำให้ฮินชอลเรียกให้คนมาช่วยไว้ได้ และครั้งนี้ฮินชอลก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ถึงจะบรรยายายความรู้สึกนั้นออกมาไม่ได้ แต่ก็แน่ใจว่าฮีชอลกำลังเจ็บปวดอยู่แน่ๆ
‘ชอล... แกจะเป็นยังไงบ้างนะ?’
------------------------------------- SiLLy Game -------------------------------------
/>
“กงล้อแห่งโชคชะตาเริ่มหมุนแล้ว”
ดวงตาสีนิลเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามดึก ดวงดาวสีแดงคู่ที่อยู่ทางทิศตะวันตกดวงหนึ่งกำลังอ่อนแสงลงเมื่ออยู่ใกล้ดาวดวงใหญ่สีฟ้าที่กำลังเจิดจรัส
“น่าเสียดายนะ... ถ้าฉุกคิดสักนิดนึงก่อนก็คงดี” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเศร้าใจ
“นี่แหละคือมนุษย์ล่ะ... เจ้าเองก็ระวังตัวเสียบ้างเถอะ” ดวงตาสีนิลหันมาสบตาอย่างมีความนัย และพูดติติงในตอนท้าย
“เรื่องของเราไม่น่าห่วงเหมือนเรื่องของสามคนนั้นหรอก” คนโดนติแย้งกลับ
“ข้าเตือนเจ้าด้วยความหวังดี พลาดพลั้งอีกครั้งก็มิอาจได้รับการละเว้นแล้ว อย่าลืมเสียสิ!”
“เราจะพยายาม” ให้คำมั่นสัญญาทั้งที่ยังไม่มั่นใจในตัวเอง
“ดาวสีแดงดวงหนึ่งอ่อนแสงลงจนแทบโดนกลืนกิน...” เจ้าของดวงตาสีนิลมองย้อนกลับไปที่กลุ่มดาวที่เพิ่งมองสักครู่อีกครั้ง
“หมายถึงฮีชอล... ใช่หรือไม่?” ร่างอวบถาม
“เจ้าอย่าลืมสิ ว่าเรามาที่นี่เพื่ออะไร...”
ร่างอวบยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเมื่อนึกถึงภารกิจที่ได้รับมอบหมายมา
“งั้นหมายความว่า...”
“พักผ่อนเสียเถอะ ยังมีเรื่องให้ต้องทำอีกมาก” เปลือกตาถูกปิดลง ก่อนจะล้มตัวลงนอน
ร่างอวบล้มตัวลงนอนบ้าง สมองครุ่นคิดทั้งเรื่องของตัวเอง และภารกิจในวันพรุ่งนี้จนกระทั่งผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
------------------------------------- SiLLy Game -------------------------------------
เซตะเดินกระทืบเท้าเสียงดังจนสะเทือนไปทั่ว ใบหน้าอันไร้เดียงสาบัดนี้เต็มไปด้วยความเคียดแค้น ริมฝีปากถูกเม้มเข้าหากันจนแนบสนิท คิ้วสองข้างถูกขมวดจนเป็นปมแน่น
“ร่าน!!!”
เซตะตะโกนออกมาลั่น แต่ก็ไม่มีใครได้ยินเพราะตอนนี้ทั้งบ้านมีเพียงสามชีวิตเท่านั้น และคนอีกสองคนคงกำลังตกอยู่ในช่วงเวลาหฤหรรษ์จนไม่สนใจเหตุการณ์ภายนอก
“จะเกินไปแล้วนะฮีชอล!!”
มือทั้งสองข้างของเซตะกำแน่น... เสียงทะเลาะกันดังลั่นขนาดนั้นมีเหรอเซตะจะไม่ได้ยิน เจ้าตัวแอบลอบมองตั้งแต่ตอนที่อยู่ในห้องอาหารแล้ว
“มาแค่วันแรกก็ออกลายขนาดนี้แล้ว...!! กล้าดียังไงมาแย่งนายท่านไปจากฉัน!!!”
เซตะทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงในห้องของตัวเองด้วยความโมโหโกรธา แววตาเต็มไปด้วยแรงริษยา ทั้งๆที่ตัวเองมาก่อนแท้ๆ แต่ฮีชอลกลับได้รับความสำคัญกว่างั้นเหรอ?!
คนอย่างเซตะไม่ยอมง่ายๆแน่!
ตลอดเวลาเซตะพยายามที่จะทำดีและคอยเอาอกเอาใจชีวอนมาโดยตลอด จนชีวอนเมตตาและให้ความไว้วางใจให้จัดการเรื่องในบ้านหลายๆเรื่อง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เซตะต้องการ
เซตะต้องการครอบครองผู้ชายคนนี้ทั้งร่างกายและจิตใจต่างหากล่ะ!
ยิ่งมาเห็นว่าคนเพิ่งมาทีหลังอย่างฮีชอลแย่งชิงตำแหน่งคู่นอนที่น่าจะเป็นของตัวเองไปก็รู้สึกทนไม่ได้จริงๆ ความสนิทสนมที่เคยพูดคุยกันเมื่อตอนเย็นไม่เหลือแล้วสำหรับเซตะ
“แล้วฉันจะทำให้แกรู้... ว่าการจะมาแข่งกับฉันน่ะ แกคิดผิด!!!”
เซตะขว้างปาข้าวของในห้องของตัวเองจนกระจัดกระจายเพื่อระบายอารมณ์ร้อนที่สุมอยู่ในอกออกมา ตอนนี้สิ่งของพวกนี้เป็นที่ระบายอารมณ์ แต่เซตะสัญญากับตัวเองว่าฮีชอลจะต้องได้รับบทเรียนที่สาสมอย่างแน่นอน!!
------------------------------------- SiLLy Game -------------------------------------
อ้าละเหวยยยยย~!! -_____-^^^
อัพทีไรปัญหามากมายทุกที!! ไม่รู้ว่ามันจะติดอีกรึเปล่า??
ช่างมันๆ เรื่องของใคร,, ก็เรื่องของมัน!
ความคิดเห็น