ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] SiLLy Game,, (WonCin, KyuMin)

    ลำดับตอนที่ #11 : SiLLy Game 06 (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ค. 52


    />

    SiLLy Game 06

     

     

     

     

     

     

                    ชีวอนลากฮีชอลมายังหน้าห้องหนึ่งก่อนจะดึงตัวฮีชอลเข้าไปในห้อง แล้วล็อกประตูห้องทันที

     

                    “นะ... นี่นาย... อย่าบอกนะว่า!!” ฮีชอลตัวสั่นด้วยความกลัว

     

                    ชีวอนเดินสาวเท้าเข้ามาหาฮีชอลที่ยื่นตัวสั่นอยู่ด้วยความย่ามใจ

     

                    “หึหึหึ อย่างที่เธอคิดนั่นแหละ!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

                    “อย่าคิดอะไรบ้าๆนะ!

     

                    ฮีชอลกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง เผื่อจะมีทางไหนที่พอจะหนีคนอารมณ์แปรปรวนนี่ไปได้บ้าง

     

                    “คิดอะไรบ้าๆงั้นเหรอ... หึ” ชีวอนกระตุกยิ้ม

     

                    “คนอย่างฉันไม่แค่คิดหรอก!!” ร่างสูงยิ่งเดินเข้าไปประชิดตัวฮีชอลมากขึ้นๆ

     

     

     

                    ฮีชอลตัดสินใจวิ่งผ่านร่างสูงที่ยืนขวางประตูไปด้วยความรวดเร็ว มือบางจับลูกบิดประตูห้องได้ก่อนที่ชีวอนจะคว้าตัวทัน

     

                    แต่ไม่ทันที่ขาบางจะก้าวออกนอกห้อง แรงฉุดดึงจากร่างสูงที่จับแขนฮีชอลไว้ได้ก็กระชากตัวฮีชอลกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง

     

     

                    “โอ๊ย!!

     

     

                    ร่างบางถึงกับร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทั้งที่โดนดึงกระชากอย่างไม่ปราณี และเพราะร่างบางถูกโยนขึ้นบนเตียงกว้างอย่างแรงด้วย

     

     

     

                    “นะ... นายไม่อยากทำแบบนี้แน่...” ฮีชอลตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากเหยื่อที่ตกอยู่ในอุ้งมือราชสีห์พยายามพูดจาเกลี้ยกล่อม

     

                    “ทำไมล่ะคิม ฮีชอล... ทำไมเธอถึงคิดว่าฉันจะไม่กล้า!” ชีวอนจ้องมองร่างบางบนเตียงด้วยแววตาโกรธแค้น

     

                    “ขอร้องล่ะชีวอน... ฮึก... นายอย่าทำแบบนี้เลยนะ...” ฮีชอลอ้อนวอนทั้งน้ำตา

     

                    “อย่ากลัวไปเลยฮีชอล...” ชีวอนเดินเข้าไปประคองร่างบางไว้ด้วยความอ่อนโยน

     

                    “วันนี้เธอไม่รอดแน่!!” แล้วกดไหล่บางทั้งสองข้างลงบนเตียง ก่อนจะตามขึ้นคร่อมตัวร่างบางไว้ เพื่อไม่ให้ร่างบางขัดขืนได้

     

     

     

     

     

    Warning: NC Shot

    [Ctrl+A]

     

     

                    ชีวอนฉีกกระชากเสื้อผ้าที่ร่างบางสวมใส่ออกอย่างบ้าคลั่ง... ชุดนอนตัวบางถูกดึงทึ้งออกไปจนเผยให้เห็นผิวขาวเนียนไร้รอยตำหนิ

     

                    “อย่า~!!! ไม่!!!” ฮีชอลใช้มือทั้งสองข้างผลักอกร่างสูงออกไปให้ห่างตัวเอง

     

                    “อย่า!!! ได้โปรดชีวอน!!” ร่างบางพยายามอ้อนวอนให้หยุดการกระทำครั้งนี้

     

                    แต่ทว่าร่างสูงกลับไม่คิดเมตตาสงสารเลยแม้แต่น้อย มือข้างหนึ่งรวบข้อมือบางทั้งสองข้างของฮีชอลตรึงไว้ด้านบน เปิดทางให้มืออีกข้างจัดการเสื้อผ้าส่วนที่เหลืออกไปจนหมดสิ้น

     

     

     

                    ตอนนี้ฮีชอลเหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าอยู่ภายใต้ร่างสูง... น้ำตาแห่งความเจ็บแค้นไหลรินลงมาจากตาคู่สวย ไม่คิดว่าร่างกายที่ตนเองจะหวงแหนจะต้องกลายเป็นที่รองรับอารมณ์ของคนเลวอย่างชีวอน!

     

     

                    ใบหน้าคมเข้มก้มลงซุกไซร้ซอกคอเนียนขาวของร่างบาง ฮีชอลได้แต่เบนหน้าหนีด้วยความอดสู ลิ้นร้อนไล่โลมเลียจนมาถึงแก้มเนียน... แต่ฮีชอลก็ยิ่งหันหน้าหลบสัมผัสน่าขยะแขยงนั่น

     

     

                    “อ๊ะ!” ฮีชอลร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อมือหนาบีบคางฮีชอลแน่นเพื่อให้หันกลับมาสบตากับร่างสูง

     

                    “ดูให้เต็มตาสิฮีชอล... ดูให้เต็มตา!

     

                    มือหนายิ่งบีบคางมนหนักมือขึ้นเรื่อยๆ แต่ร่างบางกลับไม่ปริปากร้องเลยแม้แต่สักนิด มีเพียงน้ำตาใสที่ไหลลงมาให้เห็นเท่านั้น

     

                    “หึ... อยากจะรู้นักว่าจะทนได้แค่ไหน!

     

                    ชีวอนสะบัดมือที่จับคางไว้ทิ้งอย่างไม่ไยดี ร่างบางถึงกับหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ แต่ทว่าก็ไม่มีเสียงโอดครวญให้ได้ยิน

     

     

     

                    ร่างสูงก้มหน้าลงนัวเนียบริเวณอกขาว ปากหนาจัดการกับยอดอกข้างหนึ่ง มืออีกข้างจัดการลูบไล้ยอดอกอีกข้าง... ทุกพื้นผิวที่ลิ้นสากลากผ่าน ชีวอนขบเม้มจนเกิดรอยแดงไปจนทั่ว ตาคมเข้มเหลือบมองหน้าร่างบาง... ฮีชอลกำลังกัดฟันแน่นอดทนต่อทุกการกระทำ

     

     

                    ร่างสูงจงใจขบเม้มยอดอกอย่างแรงจนเลือดไหลซิบออกมา หวังจะให้คนที่อยู่ใต้ร่างร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่ฮีชอลยังทนได้ ถึงจะเจ็บปวดอย่างไรก็ไม่ยอมร้องออกมา

     

     

                    ชีวอนยิ่งรู้สึกขัดใจ มือหนาเลื่อนไล่ลงต่ำไปจนถึงแกนกายของร่างบางก่อนจะกอบกุมแกนกายไว้แล้วขยับรูดแกนกายขึ้นลงเป็นจังหวะเพื่อปลุกปั่นให้ตื่นตัว

     

     

                    “อือ~ อือ~

     

     

                    ร่างบางกัดริมฝีปากตัวเองจนเกิดรอยแดงช้ำ เพื่อสะกัดกั้นไม่ให้เสียงดังออกมาจากปาก ยอมรับว่าร่างกายกำลังตอบสนองความต้องการทางด้านอารมณ์อย่างห้ามไม่อยู่... เพียงไม่นานแกนกายก็ตั้งชัน

     

                   

                    “ร้องออกมาซะ ฉันสั่งให้ร้องออกมา!!” ชีวอนบีบขยำแกนกายสีชมพูที่กำลังตื่นตัวไว้ราวกับจะให้แหลกคามือ

     

     

                    “จะ... เจ็บ...!!

     

     

                    ดวงตายังคงเต็มไปด้วยน้ำตา ร่างบางพยายามจะดึงมือทั้งสองข้างของตัวเองให้หลุดจากการพันธนาการของมือแกร่ง แต่ทว่าแรงบีบที่ส่วนล่างทำให้แม้ขยับตัวเพียงเล็กน้อย ความเจ็บก็วิ่งไปทั่วร่าง

     

     

                    “ใช่~ ร้องออกมา!! หึหึหึ” ร่างสูงยิ้มด้วยความพึงพอใจที่ทำให้ร่างบางอ้าปากส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดออกมาได้

     

                    “อย่าขัดใจฉัน... จำไว้” ร่างสูงก้มลงกระซิบที่หูของฮีชอล

     

     

     

     

                    “อ๊ะ!

                   

                    ร่างบางร้องด้วยความตกใจ เมื่ออยู่ดีๆมือหนาก็ปล่อยข้อมือให้เป็นอิสระ แต่หันไปจับขาทั้งสองข้างให้แยกกว้างออก ก่อนจะสอดตัวเข้าไป

     

     

                    ร่างสูงจัดการปลดเข็มขัดกางเกงออกมามัดมือบางทั้งสองข้างไว้แทน มือหนารูดซิบกางเกงตัวเองลงมาอย่างช้าๆ แกนกายขนาดใหญ่สีเข้มที่กำลังตื่นตัวเต็มที่ถูกจ่อเข้าตรงช่องทางสีชมพูทางด้านหลังของร่างบาง

     

     

                    “มะ...ไม่! พอแล้ว~ ฮึก... ฉันยอมแล้ว... ฮึก... อย่าทำฉันเลย!

     

     

                    ร่างบางพยายามอ้อนวอนอีกครั้ง ความอวดดีที่มีเมื่อครู่หายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงความกลัวเท่านั้นที่มาครอบงำ

     

     

                    “หึหึหึ” ร่างสูงกระตุกยิ้มเยาะ

     

     

                    ร่างสูงสอดแทรกความเป็นชายเข้าไปในช่องทางอย่างรวดเร็ว ฮีชอลขยับตัวหนีการสอดใส่จนหลังชนกับหัวเตียง เมื่อไม่มีทางหลบเลี่ยงอีกแล้ว แกนกายขนาดใหญ่ก็ถูกสอดเข้าไปจนสุดความยาวในทีเดียว

     

     

     

     

                    “อ๊ากกกก~!!!!!

     

                    ร่างบางโอดครวญด้วยความเจ็บปวด เลือดแดงสดจากรอยฉีกขาดของช่องทางด้านหลังกำลังไหลออกมาเพื่อช่วยหล่อลื่นให้แกนกายขนาดใหญ่ขยับได้ในช่องทางอันคับแคบ

     

     

                    “อา.... ดี...”

     

                    ร่างสูงถึงกับหลับตาพริ้มด้วยความพึงใจในความคับแน่นของช่องทางที่กำลังตอดรัดส่วนปลายของแกนกายที่อยู่ข้างใน

     

     

                    “ฮึก... ฮือ.....”

     

                    ผิดกับร่างบางที่ตอนนี้ได้แต่หลับตาแน่น ไม่อยากเห็นการกระทำอันแสนทุเรศครั้งนี้ ร่างบางกำลังสะอื้นอย่างหนัก

     

     

     

                    ร่างสูงกระแทกแกนกายเข้าออกช่องทางอย่างรุนแรงไร้ความอ่อนโยน เพื่อสนองอารมณ์ของตัวเองเท่านั้น ไม่สนใจว่าคนที่รองรับความต้องการด้านล่างจะเจ็บปวดแค่ไหน

     

                    ยิ่งกระแทกแรงเท่าไหร่ รอยฉีกขาดก็ยิ่งขยายวงกว้างออก นั่นหมายถึงเลือดก็ยิ่งไหลออกมามากขึ้นด้วยเช่นกัน

     

     

     

                    มือหนาจับสะโพกมนของร่างบางไว้ตรึงอยู่กับที่ ก่อนจะขยับแกนกายกระแทกลงไปหนักหน่วงจนร่างบางต้องแอ่นสะโพกขึ้นมารับจังหวะอย่างไม่รู้ตัว

     

     

                    “อา... รู้สึกดีมั้ยฮีชอล..?”

     

     

                    ร่างสูงแสร้งถามเมื่อเห็นว่าร่างบางเริ่มตอบสนองทางร่างกายแล้ว แต่ร่างบางยังคงปิดปากเงียบไม่ยอมให้เสียงครางออกมาจากลำคอเลยแม้แต่น้อย

     

     

     

                    ใบหน้าคมโน้มลงมอบจูบอันร้อนแรงให้กับร่างบาง ลิ้นหนาพยามสอดแทรกเข้าไปในปากแดงอิ่ม แต่ร่างบางกลับเม้มริมฝีปากแน่นไม่ยอมให้รุกล้ำ ร่างสูงจึงขยับแกนกายด้วยความถี่มากขึ้น แล้วอาศัยจังหวะที่ปากอิ่มเผยอตามแรงสวาท ส่งลิ้นหนาเข้าไปตวัดเกี่ยวลิ้นเล็กที่สั่นด้วยความประหม่าในสัมผัสที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน

     

     

                    “อืม~ อืม~

     

                    ร่างบางพยายามเบนใบหน้าหนีการสัมผัส แต่ก็ต้องเผลอตัวรับสัมผัสนั้นอีกครั้ง เมื่อมือหนากอบกุมแกนกายสีชมพูขยับเป็นจังหวะเดียวกับแกนกายที่ขยับอยู่ในช่องทางรักด้านหลัง

     

     

     

                    ร่างสูงปล่อยริมฝีปากบางให้เป็นอิสระ จมูกกดลงทั่วแก้มนุ่มทั้งสองข้างร่างบางไม่สามารถควบคุมแรงปรารถนาของตัวเองได้อีกต่อไป ขาเรียวแยกกว้างออกเพื่อรอรับการกระแทกอย่างเต็มที่ ริมฝีปากที่เคยเม้มปิดแน่นตอนนี้กำลังส่งเสียงครางออกมา

     

     

     

                    “อ๊ะๆๆ~ อ๊าาาาาา~

     

                    ยิ่งได้ยินเสียงครางของร่างบางเท่าไหร่ ร่างสูงก็ยิ่งเร่งจังหวะการขยับสะโพกหนาให้เร็วมากขึ้น... มือหนาข้างที่กอบกุมแกนกายของร่างบางเองก็รูดขึ้นลงด้วยจังหวะเร็วไม่แพ้กัน

     

     

     

                    “อา~

     

                    ร่างสูงส่งเสียงครางออกมาเมื่อแรงปรารถนาใกล้เกือบถึงจุดสุดยอด ใบหน้าเข้มเชิดหน้าขึ้น ร่างสูงกระแทกแกนกายอย่างแรงและถี่มากขึ้นจนกระทั่งร่างกายกระตุกเกร็งปลดปล่อยในตัวของร่างบาง น้ำขาวขุ่นทะลักออกมาปนกับเลือดสีแดงสดเปรอะเปื้อนไปทั่วขาของร่างบาง

     

     

     

                    “อ๊าาาาาาาาาาา~!!!!

     

                    ร่างบางก็ปลดปล่อยน้ำรักใส่หน้าท้องแกร่งของร่างสูงเช่นกัน

     

     

     

     

     

                    ชีวอนหอบหายใจด้วยความเหนื่อย ทิ้งตัวลงข้างๆร่างบางที่เหนื่อยหอบไม่แพ้กัน อกขาวที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยรักที่ร่างสูงฝากไว้หอบกระเพื่อมขึ้นลงจนเห็นได้ชัด

     

                    “ออกไป!!” ฮีชอลพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ น้ำตาไหลรินลงบนแก้มทั้งสองข้าง

     

                    ชีวอนเงยหน้าขึ้นมามองร่างบางด้วยสายตาเยาะเย้ย

     

                    “ผิดแล้วล่ะ... นี่มันห้องของฉัน! ไสหัวไปได้แล้ว!!

     

                    ชีวอนดึงฮีชอลลงจากเตียง ร่างบางถึงกับทรุดลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง เพราะเจ็บไปทั้งกายและใจ

     

                    มือหนากระชากผ้าปูที่นอนที่เปื้อนทั้งคราบเลือดและคราบรักออกมาก่อนจะเขวี้ยงใส่หน้าฮีชอลที่ยังคงนั่งอยู่บนพื้นเพราะลุกไม่ไหว

     

                    “จัดการซักมันให้สะอาดซะด้วย อย่าให้เลือดสกปรกมาแปดเปื้อนบ้านของฉัน!” ชีวอนสั่ง

     

     

                    ฮีชอลพยายามยันตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก มือบางหยิบผ้าปูที่นอนมาพันรอบกาย ก่อนจะค่อยๆพยุงตัวเองเดินออกไปจากห้องทั้งน้ำตา

     

                    ชีวอนมองตามฮีชอลจนกระทั่งออกจากห้องไป รอยยิ้มแห่งชัยชนะปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมเข้ม... เกมส์นี้เขาทำแต้มนำหน้าไปแล้วหลายคะแนน!


    === [60%] ===

    />

     

     

     

     

     

     

                    ฮีชอลพาร่างกายบอบช้ำกลับมาถึงห้องนอนของตัวเอง ร่างบางทิ้งตัวลงนอนบนเตียงโดยไม่สนใจคราบเลือดที่ยังคงเกรอะกรังอยู่ที่ช่องทางด้านหลัง ใบหน้าหวานซบลงบนหมอนปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาจนหมอนชุ่มเปียก

     

     

                    การกระทำของชีวอนไม่ต่างอะไรจากการข่มขืนเลยสักนิด!

     

     

     

                    ตอนนี้ร่างกายนี้มันสกปรก... ร่างกายนี้มันแปดเปื้อนไปแล้ว... จากนี้ไปฮีชอลจะมองหน้าคนอื่นๆได้ยังไงกัน

     

                    “ฮึก... ชอลจิ... กี้... ช่วยพี่ด้วย... ฮึก...” ฮีชอลพร่ำเพ้อหาน้องชายทั้งสองคน

     

                    ร่างบางหมดสติไปทั้งๆที่น้ำตายังคงไหลริน มีเพียงความอ้างว้างที่โอบกอดฮีชอลไว้ให้ผ่านคืนอันแสนโหดร้ายนี้ไป

     

     

     

     

     

     

    ------------------------------------- SiLLy Game -------------------------------------

     

     

     

     

     

     

                    เพล้ง!!

     

     

                    คยูฮยอนละสายตาจากโทรทัศน์ลุกขึ้นเดินตามเสียงไป เห็นพี่ชายกำลังก้มลงเก็บเศษแก้วที่แตกกระจายอยู่บนพื้นหน้าตู้เย็นในครัว

     

                    “นานๆทีจะเห็นพี่ชอลจิซุ่มซ่ามนะเนี่ย” คยูฮยอนพูดแซวแล้วเดินไปหยิบไม้กวาดมาจัดการให้

     

                    “แปลกจัง...” ฮินชอลรำพึงกับตัวเอง

     

     

     

                    เหมือนอย่างที่คยูฮยอนว่า... ปกติฮินชอลไม่ใช่คนที่ซุ่มซ่ามแบบนี้ แต่คราวนี้ไม่รู้เพราะอะไรมือไม้ถึงได้อ่อนจนทำแก้วน้ำหลุดมืออย่างนี้

     

                    “รู้สึกเป็นห่วงไอ้ชอลจัง” ฮินชอลหันไปพูดกับคยูฮยอน

     

                    “ป่านนี้พี่ชอลคงหลับแล้วมั้ง อย่าห่วงเลยครับ ^^” คยูฮยอนพูด

     

                    “พี่จะไปหาฮีชอล!” ฮินชอลลุกขึ้นยืนทำท่าจะออกไปทันที

     

                    “แล้วพี่ชอลจิรู้เหรอครับว่าพี่ชอลอยู่ที่ไหน?” คยูฮยอนถาม

     

                    ฮินชอลชะงักฝีเท้าทันที เพราะตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้แฝดของตัวเองไปอยู่ที่ไหน โทรศัพท์จะติดต่อก็ไม่มี มือหนากอดอกอย่างใช้ความคิด

     

                    “รอถามคุณฮันเกิงพรุ่งนี้ดูดีกว่ามั้ยครับ?” น้องคนเล็กเสนอ

     

     

                    ฮินชอลหันมองน้องชายแล้วก็เห็นด้วย เพราะถึงยังไงพรุ่งนี้ฮันเกิงก็ต้องมาที่บ้านนี้อีก ถึงตอนนั้นแล้วค่อยถามก็แล้วกัน... แล้วสองพี่น้องช่วยกันจัดการเก็บเศษแก้วไปทิ้ง

     

     

     

     

                    คยูฮยอนแยกขึ้นไปนอนแล้ว แต่ฮินชอลยังคงนั่งอยู่ในห้องรับแขกของบ้าน สมองครุ่นคิดถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่... มันเหมือนกับเมื่อก่อนไม่มีผิด

     

     

     

     

     

     

                    “ไอ้ชอล... อยู่ไหนน่ะ?!” ฮินชอลวัยห้าขวบตะโกนเรียกหาพี่ชายฝาแฝดกลางทุ่งหญ้าใหญ่

     

                    ฮินชอลและฮีชอลแอบหนีพ่อแม่มาเที่ยวเล่นตามประสาเด็กวัยซนที่ริมแม่น้ำ ตั้งใจว่าจะมาจับแมลงกันแต่ฮินชอลแค่ละสายตาแปบเดียวพี่ชายฝาแฝดก็หายไปแล้ว

     

                    “ออกมาได้แล้ว รีบกลับบ้านเถอะเดี๋ยวแม่ดุ!!” ฮินชอลตะโกนบอก แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับกลับมา มีเพียงเสียงจักจั่นเท่านั้นที่ได้ยิน

     

                    ฮินชอลเดินฝ่าทุ่งหญ้าที่สูงเกือบถึงระดับความสูงของตัวเอง มือเล็กๆแหวกกอหญ้าหาฮีชอลไปเรื่อยๆ

     

     

     

                    เฮือก!!  

     

                    ฮินชอลสะดุ้งสุดตัว ตาข่ายและกล่องจับแมลงถูกทิ้งลงบนพื้น ร่างกายฮินชอลสั่นสะท้านไปหมด ความรู้สึกเหมือน... เหมือนกำลังแช่อยู่ในน้ำช่วงหน้าหนาว

     

                    ขาเล็กๆหมุนตัวเดินออกจากทุ่งหญ้ามุ่งตรงไปยังริมฝั่งแม่น้ำ... ฮีชอลกำลังจะจมน้ำ

     

     

     

     

                    “ช่วยด้วย!! คนจมน้ำ ช่วยด้วย!!” ฮินชอลตะโกนเรียกคนที่อยู่ใกล้ให้เข้าไปช่วย

     

                    โชคดีที่มีคุณลุงสองคนมานั่งตกปลาอยู่อีกด้าน ชายคนหนึ่งกระโดดลงน้ำไปเอาตัวฮีชอลขึ้นมาบนฝั่งได้สำเร็จ เพราะเพิ่งจมน้ำได้ไม่นานฮีชอลจึงรอดชีวิตมาได้

     

     

     

     

     

     

                    นั่นคือเรื่องราวเมื่อตอนที่ฝาแฝดทั้งสองอายุ 5 ขวบ ครั้งนั้นเพราะความรู้สึกที่รุนแรงสื่อมาถึงกันทำให้ฮินชอลเรียกให้คนมาช่วยไว้ได้ และครั้งนี้ฮินชอลก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ถึงจะบรรยายายความรู้สึกนั้นออกมาไม่ได้ แต่ก็แน่ใจว่าฮีชอลกำลังเจ็บปวดอยู่แน่ๆ

     

                    ชอล... แกจะเป็นยังไงบ้างนะ?

     

     

     

     

     

     

    ------------------------------------- SiLLy Game -------------------------------------










    />

                    “กงล้อแห่งโชคชะตาเริ่มหมุนแล้ว”

     

                    ดวงตาสีนิลเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามดึก ดวงดาวสีแดงคู่ที่อยู่ทางทิศตะวันตกดวงหนึ่งกำลังอ่อนแสงลงเมื่ออยู่ใกล้ดาวดวงใหญ่สีฟ้าที่กำลังเจิดจรัส

     

                    “น่าเสียดายนะ... ถ้าฉุกคิดสักนิดนึงก่อนก็คงดี” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเศร้าใจ

     

                    “นี่แหละคือมนุษย์ล่ะ... เจ้าเองก็ระวังตัวเสียบ้างเถอะ” ดวงตาสีนิลหันมาสบตาอย่างมีความนัย และพูดติติงในตอนท้าย

     

                    “เรื่องของเราไม่น่าห่วงเหมือนเรื่องของสามคนนั้นหรอก” คนโดนติแย้งกลับ

     

                    “ข้าเตือนเจ้าด้วยความหวังดี พลาดพลั้งอีกครั้งก็มิอาจได้รับการละเว้นแล้ว อย่าลืมเสียสิ!

     

                    “เราจะพยายาม” ให้คำมั่นสัญญาทั้งที่ยังไม่มั่นใจในตัวเอง

     

                    “ดาวสีแดงดวงหนึ่งอ่อนแสงลงจนแทบโดนกลืนกิน...” เจ้าของดวงตาสีนิลมองย้อนกลับไปที่กลุ่มดาวที่เพิ่งมองสักครู่อีกครั้ง

     

                    “หมายถึงฮีชอล... ใช่หรือไม่?” ร่างอวบถาม

     

                    “เจ้าอย่าลืมสิ ว่าเรามาที่นี่เพื่ออะไร...”

     

                    ร่างอวบยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเมื่อนึกถึงภารกิจที่ได้รับมอบหมายมา

     

                    “งั้นหมายความว่า...”

     

                    “พักผ่อนเสียเถอะ ยังมีเรื่องให้ต้องทำอีกมาก” เปลือกตาถูกปิดลง ก่อนจะล้มตัวลงนอน

     

                    ร่างอวบล้มตัวลงนอนบ้าง สมองครุ่นคิดทั้งเรื่องของตัวเอง และภารกิจในวันพรุ่งนี้จนกระทั่งผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว

     

     

     

     

     

     

    ------------------------------------- SiLLy Game -------------------------------------

     

     

     

     

     

     

                    เซตะเดินกระทืบเท้าเสียงดังจนสะเทือนไปทั่ว ใบหน้าอันไร้เดียงสาบัดนี้เต็มไปด้วยความเคียดแค้น ริมฝีปากถูกเม้มเข้าหากันจนแนบสนิท คิ้วสองข้างถูกขมวดจนเป็นปมแน่น

     

     

                    “ร่าน!!!

     

                    เซตะตะโกนออกมาลั่น แต่ก็ไม่มีใครได้ยินเพราะตอนนี้ทั้งบ้านมีเพียงสามชีวิตเท่านั้น และคนอีกสองคนคงกำลังตกอยู่ในช่วงเวลาหฤหรรษ์จนไม่สนใจเหตุการณ์ภายนอก

     

     

                    “จะเกินไปแล้วนะฮีชอล!!

     

                    มือทั้งสองข้างของเซตะกำแน่น... เสียงทะเลาะกันดังลั่นขนาดนั้นมีเหรอเซตะจะไม่ได้ยิน เจ้าตัวแอบลอบมองตั้งแต่ตอนที่อยู่ในห้องอาหารแล้ว

     

     

                    “มาแค่วันแรกก็ออกลายขนาดนี้แล้ว...!! กล้าดียังไงมาแย่งนายท่านไปจากฉัน!!!

     

                    เซตะทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงในห้องของตัวเองด้วยความโมโหโกรธา แววตาเต็มไปด้วยแรงริษยา ทั้งๆที่ตัวเองมาก่อนแท้ๆ แต่ฮีชอลกลับได้รับความสำคัญกว่างั้นเหรอ?!

     

                    คนอย่างเซตะไม่ยอมง่ายๆแน่!

     

     

     

                    ตลอดเวลาเซตะพยายามที่จะทำดีและคอยเอาอกเอาใจชีวอนมาโดยตลอด จนชีวอนเมตตาและให้ความไว้วางใจให้จัดการเรื่องในบ้านหลายๆเรื่อง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เซตะต้องการ

     

     

                    เซตะต้องการครอบครองผู้ชายคนนี้ทั้งร่างกายและจิตใจต่างหากล่ะ!

     

     

                    ยิ่งมาเห็นว่าคนเพิ่งมาทีหลังอย่างฮีชอลแย่งชิงตำแหน่งคู่นอนที่น่าจะเป็นของตัวเองไปก็รู้สึกทนไม่ได้จริงๆ ความสนิทสนมที่เคยพูดคุยกันเมื่อตอนเย็นไม่เหลือแล้วสำหรับเซตะ

     

     

     

     

                    “แล้วฉันจะทำให้แกรู้... ว่าการจะมาแข่งกับฉันน่ะ แกคิดผิด!!!

     

     

                    เซตะขว้างปาข้าวของในห้องของตัวเองจนกระจัดกระจายเพื่อระบายอารมณ์ร้อนที่สุมอยู่ในอกออกมา ตอนนี้สิ่งของพวกนี้เป็นที่ระบายอารมณ์ แต่เซตะสัญญากับตัวเองว่าฮีชอลจะต้องได้รับบทเรียนที่สาสมอย่างแน่นอน!!

     

     

     

     

     

     

    ------------------------------------- SiLLy Game -------------------------------------




    อ้าละเหวยยยยย~!! -_____-^^^
    อัพทีไรปัญหามากมายทุกที!! ไม่รู้ว่ามันจะติดอีกรึเปล่า??
    ช่างมันๆ เรื่องของใคร,, ก็เรื่องของมัน!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×