ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เก็บของเเล้วเธอว์

    ลำดับตอนที่ #9 : CARNIVORE HOST CLUB

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ย. 56



    วันก่อน

    ชีวิตสุดแย่ของผมยังดำเนินอย่างเนิบนาบ

    ช่วงบ่ายของวันหยุดสุดสัปดาห์  ผมตื่นมารับแสงแดดอันแผดเผา  ลุกไปเก็บนาฬิกาปลุกที่ถูกปาไปกองที่อีกฟากของห้องเล็กๆโทรมๆ มันกองแอ้งแม้งอยู่บนพื้นเข็มนาฬิกาเล็กๆยังคงเดินต่อไปอย่างไม่สะทกสะท้าน แหม..มาคิดอีกทีก็สงสารหรอกนะ อุตส่าห์พยามๆช่วยปลุกผมตั้งหลายครั้งแต่ดั๊นถูกส่งไปกองอยู่อีกฟาก ฮ่าๆ ถ้าผมเป็นนาฬิกาปลุกเรือนนี้ผมคง  ม่องไปนานแล้วม๊าง ผมเดินเข้าห้องน้ำ เอื้อมมือเปิดก๊อกน้ำตามความเคยชิน

     

    อา...แย่แล้ว...น้ำไม่ไหลอีกแล้ว แย่จริงๆ

     

    ผมเดินกลับออกมาคุ้ยหาบางอย่างบนชั้นเล็กๆข้างเตียง ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในนั้นบ้างรกไปหมด แต่ผมก็ไม่เคยคิดจะเก็บหรอกนะ มันไม่ชินน่ะ  อ้า!  เจอแล้วๆ

    ผมหิ้วกล่องเครื่องมือสภาพย่ำแย่ออกมาจากกองสิ่งของ หิ้วมันออกไปจากห้อง เดินไปตามทางเดินคับแคบแถมยังอับแสง สองข้างทางเป็นประตูห้องเก่าๆแบบเดียวกันเรียงรายอยู่ บางห้องก็เปิดเอาไว้แบบไม่กลัวใครจะเห็นข้างในว่าทำอะไรๆกันอยู่เล๊ย สังคมแถวนี้ไม่ดีนักล่ะครับ  ทั้งผู้หญิง ยา หรือ พวกนักเลงหัวไม้ ก็แวะเวียนมาให้เห็นกันบ่อยๆ แต่ผมไม่เอาอย่างหรอกนะ ผมเป็นเด็กดี ฮ่าๆ เอาล่ะ ผมว่างบางทีวันนี้อาจมีตัวอะไรไปตายอุดท่อน้ำเอาไว้แบบอาทิตย์ที่แล้วล่ะมั๊ง น้ำเลยไม่ไหลแบบนี้ ขอร้องล่ะ อย่าเป็นพวกแมวหรือสัตว์ใหญ่มากเลย ผมยกมือบนบานหน้าแท้งค์น้ำรวมตรงระเบียง อ้อ ที่นี่ไม่มีช่างซ่อมบำรุงหรอกครับ มีน้ำมีไฟให้ใช้ก็บุญโขแล้ว เลยต้องดิ้นรนหาทางแก้กันเอาเองนะเออ ว่าแล้วก็ออกแรงถีบท่อที่ต่ออกมาจากแท้งค์น้ำไม่กี่ทีก็หลุดผลุออกมา แทนที่จะมีน้ำไหลซ่าๆออกมาเหมือนทั่วไป กลับมีแค่น้ำหยดติ๋งๆออกมาแค่นั้น ผมก้มมองดูที่ทางเดินน้ำแล้วก็ก่นด่าฟ้าดินในใจ คว้าเอาแท่งเหล็กในกล่องเครื่องมือเขี่ยอ้อนขนสีเทาดำออกมาจากท่อน้ำ หนูตัวเบ้อเริ่มที่แน่นิ่งไปแล้วหลุดออกมากองที่พื้น ผมโยนซากนั้นไปในกระถางต้นไม้ใกล้ๆ ตอนนี้น้ำไหลซ่าออกมาแล้วไง

    ผมต้องนั่งจัดการกะการยัดท่อให้เหมือนเดิมอยู่พักหนึ่งก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิงดังมาพร้อมกับเสียงโวยวายของผู้ชาย และเสียงข้าวของล้มระนาว ผมถอนหายใจยาวๆ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นทุกวัน หนวกหูจริงเชียวเนอะ

    พองานในมือเสร็จ  ก็คงต้องเดินกลับห้อง ผมไม่อยากเดินกลับตามทางเดินเลย  ผมพยายามไม่มองร่างของผู้หญิงที่นั่งร้องไห้สลับหัวเราะเหมือนคนเสียสติ หล่อนนั่งทอดน่องโรยแรงอยู่ข้างทาง พอผมเดินผ่านหล่อนก็คว้ามือผมหมับ ถ้าเป็นคนอื่นคงเตะหล่อนคว่ำไปแล้ว แต่สำหรับผม ผมไม่กล้าทำหรอก สภาพเธอเหมือนคนที่ผมรู้จักในสมัยก่อนเลย..

    “นี่...เธอน่ะ ไม่อยากมาอยู่กับฉันซักคืนเหรอ”     หล่อนมองไปทางไหนผมไม่มั่นใจ แต่แถวนี้มีแค่ผมนี่เนอะ ผมไม่พูดอะไรนั่งลงมองเธอและถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ ผมแกะมือของหล่อนออกวางมือไร้แรงลงบนตักของหล่อนเอง  ผมเดินผละออกจากทางเดินกลับห้องทันที           ไม่สนใจคำโฆษณาร่างกายและข้อเสนอโปรโมชั่นมากมายที่ดังตามมาเบาๆ

    บางทีก็คิดนะ.. ถ้าตอนนี้ผมเจอผู้หญิงคนนั้นเข้าจริงๆ แล้วหล่อนคนนั้นยังไม่ได้ไปอยู่อีกโลก ผมก็อยากมีเงินเยอะๆ มาให้หล่อนใช้แต่งตัวสวยตามแบบที่เจ้าตัวชอบ แต่อีกใจก็ไม่อยากเจอ เพราะรู้สึกเหมือนผมนี่แหละที่ทำให้ชีวิตที่เคยดีกว่าของหล่อนหายไป เจอแต่เรื่องแย่ๆจนต้องหนีหายไปทั้งๆสภาพร่างกายแบบนั้น บางทีรู้ว่าหล่อนตายไปแล้วยังสบายใจซะกว่ารู้ว่าหล่อนยังมีชีวิตล่ะมั๊ง

    ว่าแล้วก็หดหู่ ชีวิตมันบัดซบพอแล้วยังจะมาคิดเรื่องไม่ชวนยิ้มแบบนี้อีก อรั๊ง ร่าเริงสู้โลกต่อไปดีกว่าคนเรา เดือนนี้ยังไม่มีงานมีเงินเลย ตายแน่ ตายแน่ๆ

    พออาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยผมก็เดินลงมาชั้นล่างสุด ตอนเดินผ่านมาผุ้หญิงคนนั้นไม่อยู่แล้ว ใครคงมาเก็บหล่อนไปดูแลแล้วกระมัง

    “นี่ลุง มีงงมีงานไรให้ผมทำป่ะ เก็บอึแมวอึหมาก็เอานะเนี่ย”   ผมร้องถามลุงแก่วัยสี่สิบปลายหน้าตาราวโจรฆ่าหั่นศพ แต่กลับนั่งถักไหมพรมอยู่ตรงเคาท์เตอร์ชั้นล่าง เขาช้อนตาผมทีนึง ยอมรับว่าครี้งแรกที่เห็นผมกลัวเขาแทบฉี่ราด แต่ตอนนี้ผมชินซะแล้วล่ะ เขาไม่ได้ดุแบบหน้าตาหรอก แถมยังหน่อมแน๊มเกินไปซะอีก

    “ไม่รู้สิ ลองพลิกกองกระดาษตรงนั้นดูละกัน”  เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจผมนัก

    ลุง ไม่มีงานตังเยอะๆทำได้นานๆเหรอลุง  ผมแกล้งหยอกไปงั้น แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะตอบกลับมาว่า

    “ไอ้มีก็มีอยู่  แกรู้จักงานโฮสต์มั๊ยล่ะ?”

    “เหอ?...อิหยังน้อ..โฮสต์ ...อ้อๆ ลุงๆนึกออกแล้ว ทำไมอ่ะลุง มีงานที่ว่านั่นมารึไง?”

    “ก็มีน่ะสิ แต่แกจะกล้าเร๊อ งานนี้ฉันว่าไม่ง่ายเลยนา”  ผมสบถด่าลุงแก่อย่างไม่เกรงใจ   ลุงแก่โยนแผนที่ที่เขียนหวัดๆให้ผม

    “ไปหาเอา รายละเอียดก็อยู่ที่ร้านนั่นล่ะ อยากสั่งเสียอะไรมั๊ย?”

    บ้าดิลุงคนจะไปหางานไม่ได้จะไปตาย  ป๋าหมากแท้    ลุงแก่หัวเราะแล้วเลิกสนใจผม ว่าแล้วผมก็ตะลอนหาร้านนี่ หลงทางไปราวๆสองชั่วเศษกว่าจะเจอก็เย็นแล้ว เหนื่อยจริงวุ้ย ผมมองดูร้านที่ว่านั้น  ตัวอักษรเขียนเอาไว้เป็นชื่อร้านอย่างแนว แต่ผมอ่านมันไม่ค่อยออก เอาวะ ว่าแล้วก็ลองด้อมๆมองๆดูซักหน่อย  ผมไม่กล้าเข้าไปในนั้นหรอก มันดูคนละโลกกับผมจริงๆ  ผมเตรียมคล้อยหลังกลับ แต่ก็นึกถึงเรื่องบางเรื่อง

    จะมีซักกี่คนที่ได้ทำงานนี้นะ...

    ผมอยากทำในสิ่งที่คนทั้งโลกไม่อยากทำ อยากเป็นในสิ่งที่น้อยคนจะได้เป็น แม้มันจะน่ากลัวแต่..เอาเห๊อะ  ผมตบหน้าตัวเองสองสามทีเรียกรอยยิ้มและกำลังใจ ก่อนตัดสินใจเดินเข้าไปอย่างแน่วแน่..

     

    **********

    FOX
    เบื้องหลังแววตาและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แฝงนัยนั้น คือสิ่งหลอกลวงหรือความเป็นจริงกันแน่นะ?

    คำว่าจิ้งจอก ดูห่างไกลกับตัวผมนะ แต่พอมานึกๆดู...มันก็ใกล้ซะจนน่าตกใจ ผมเองยังเชื่อตัวเองไม่ได้เลย แล้วใครจะเชื่อผม ผมเชื่อว่าผมจริงใจ แต่นั่นแหละทำให้ผมคิดว่า ผมคิดว่าผมกำลังหลอกใครซักคนอยู่ ผมเองก็ไม่มั่นใจ

     

    จิ้งจอกตัวเบ้อเริ่มเด่นหราบนหน้าผม  ผมแค่ยิ้ม  

    จิ้งจอกตัวเบ้อเริ่มยังคงเด่นหราบนหน้าของผม  ผมแค่ สับสนว่าตัวผมเองยิ้มจริงๆรึเปล่า

    จิ้งจอกตัวนั้นยังไม่ไหนเลยเหรอ  ผมแค่จริงใจ...ผมไม่ได้เป็นคนเจ้าเล่ห์เลย ขอร้อง เชื่อผมดูนะ






    ด้วยรัก
    แดน รัช บิกินี่


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×