ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลาบรักทรนง {Exo} Luhan-Kris

    ลำดับตอนที่ #4 : ลาบจานที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 12 มิ.ย. 57


    B B

    แน่นอนว่า การพบกันโดยมิคาดหมายของคริสและหมอโด้(ชื่อเล่นที่ชาวบ้านเรียกกันทั่วไป) นั้นทำให้จิตใจของน้อง คริสตี้กิ๊ฟช็อปสั่นไหว คริสตี้นั่งมองยางมัดผมรูปหัวใจในร้านด้วยความปริ่มสุข และเอาแต่สงสัยว่า ในตอนนี้หัวใจของเขากำลังกลายเป็นสีชมพูสดใสแบบนี้รึเปล่านะ (ถุย)

    “เฮ้อ...นี่หรือรักแรกพบ”  คริสตี้รำพึงรำพันกับตัวเองแผ่วเบา จิตใจของเขาหวั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  รอยยิ้มน้อยๆปiากฎขึ้นบนใบหน้าไม่เต็มเต็งของเขา  คริสตี้มองไปรอบๆร้านที่เพิ่งจัดเสร็จ ทุกอย่างเป็นสีชมพูและตกแต่งด้วยลายคิตตี้ในอิริยาบถต่างๆที่เขาชอบ มันช่างสดใส

       แต่เมื่อนึกถึงคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้ว ชั่ววินาทีหนึ่งก็คิดอยากจะเปลี่ยนเอาลายเหล่านี้ ออกไป แต่นั่น..ก็เป็นความคิดชั่ววูบที่แว๊บมาก็แว๊บไป

     ยังไงอ้ายหานก็ยังคงต้องพบบททดสอบอันยิ่งใหญ่นี้อยู่ดี

    “พรุ่งป๊ะป๋าจะเปิดร้านแล้วนะ อึลรองงีของป๋าดีใจมั๊ย” คริสตี้เดินไปหยุดตรงหน้าตุ๊กตาหมาตัวใหญ่และพูดกับมันด้วยความรักใคร่ มันคือตุ๊กตาที่เขารักมากราวกับว่าคลอดมันออกมาเอง  เขาใช้เวลาจัดร้านเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ก่อนเดินขึ้นห้องไปพร่ำเพ้อถึงหมอหนุ่มในทวิตเตอร์อย่างไม่อายฟ้าดิน

     

    อีกด้านหนึ่ง

    อ้ายหานรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว เขาตัดสินใจกลับมาที่บ้านของตนเองพร้อมกับครูเทา ที่อาสาขับแมงกะไซค์มาส่ง หลังจากโบกมือลาครูเทาแล้ว อ้ายหานก็กลับเข้าไปในบ้าน  แม้ว่าครูเทาจะเล่าให้ฟังว่าคุณคริสฝั่งตรงข้ามช่วยเก็บของที่ระเนระนาดให้แล้ว แต่ยังไงเขาคิดว่าเขาต้องพบกับสภาพที่น่าอนาถกว่านี้ ทว่ามันกลับดูเรียบร้อยมาก ไม่คิดว่าคนที่ชื่อคริสสึอะไรนั่นจะมีน้ำใจได้ขนาดนี้

    อ้ายหานปิดหน้าร้านก่อนเดินกลับขึ้นห้องของตัวเอง เพราะความเพลียจากอาการหน้ามืดยังไม่ได้หายสนิท อ้ายหานทิ้งตัวลงบนเตียงและหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน แม้ในใจรู้สึกราวว่า หลังจากนี้เค้าคงต้องตื่นมาเจอบททดสอบของชีวิตขนาดมหึมาแน่ๆ

     

    ครูเทาซิ่งรถมาที่เขียงหมูของเฮียไคด้วยความเร็วเสียง  ก่อนจอดรถลงหน้าร้าน ทันทีที่เฮียไคมองเห็นร่างของครูเทากำลังวาดขาลงจากมอร์เตอร์ไซค์ เฮียไคก็รีบวางอีโต้ในมือแล้วออกมายืนยิ้มให้ครูเทาอย่างรักใคร่

    “อ..เอ่อ..ท่าลงมอร์เตอร์ไซค์เซ็กซี่จังเลยนะครับ” เฮียไคใช้สายตามองครูเทาอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าสายตานั่นทำให้ครูนั้นเขินอายจนหน้าแดงเป็นตูดลิง

    “เฮียอ่า...พูดอะไรไม่รู้ ดูสิคนเยอะแยะเลย คนผีทะเล”   

    “เฮียขอโทษนะ แต่เห็นท่าทางเซ็กซี่แบบนั้น เฮียอดไม่ได้จริงๆที่จะชม”

    “เฮียบ้า เราเพิ่งคุยกันวันเดียวเอง พูดอะไรก็ไม่รู้อ่ะ”

    “วันเดียวเฮียก็รักได้ แล้วจะเริ่มรักจากวันนี้ตลอดไปเลย”

    “อ๊าย...เฮีย เค้าเขิลล์ เฮียบ้า!

    บทรักชวนฮากอยังคงดำเนินต่อไป แต่ทว่า

    “เฮีย!! เจ๊แบคร้านเสริมสวยบอกให้มาเอาหัวหมูที่สั่งไว้ คุณหล่อนจะเอาไปบูชาเจ้าพ่อชานที่ตำหนัก”  เสียงยียวนของเด็กเข็นผักขาโจ๋ประจำละแวกนี้ดังขึ้น  เขาคือ เซฮุน หรือไอ้ฮุนเข็นผักนั่นเอง ทรงผมลำสมัยและใบหน้ากึ่งหลับกึ่งตื่นตลอดเวลาโผล่ออกมาแทรกกลางระหว่างคู่รักโรแมนติกอย่างไม่มีคำว่าเกรงใจ

    “เหย่เฮท! จีบกันอยู่อะเดะ”  น้องฮุนเข็นผักพูดขึ้นกึ่งแซว ก่อนจะโดนครูเทาจัดวิชากังฟูตบกระบาลแหกไปหนึ่งที ด้วยความเขินอาย

    “มาเอาหัวหมูใก็ไปหยิบเอา อย่าพูดมาก เดี๋ยวตบหน้าม้าแหกรอบสอง”  

    “โอ้โฮรัช โหดจุงเบย เดี๋ยวเจ๊แบ๊คมาจ่ายที่เหลือนะเฮีย”  ว่าจบฮุนก็เดินหิ้วถุงหัวหมูไปอย่างสบายใจ 

    “ครูเทาครับ...”   เฮียไคพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาพร้อมกับกุมมือของอีกฝ่ายมาแนบอก  “เรื่องนี้สำคัญมากนะครับ....พรุ่งนี้...ก็วันที่สิบหกแล้ว...ถ้าครูเทาไม่รังเกียจ...สนใจไปขอเลขเด็ดตำหนักเจ้าพ่อชานกับผมมั๊ยครับ”  

     

    นี่เป็นการชวนเดทใช่มั๊ย!!!

    ครูเทาหัวใจพองโตกับคำชวนที่ออกมาจากปากของเฮียไค มันช่างอ่อนหวานซาบซ่านและน่าประทับใจ

    “คนบ้า...ไปก็ได้ แต่ว่า เฮียอ่ะเล่นหวยมากไม่ดีนะ”  แม้ว่าจะเขินอายเพียงใด ก็ยังคงเอ่ยคำแสดงความเป็นห่วงออกมา

    “ก็ไม่มากอะไร ตัวละสองสามร้อยเอง...ถ้าเกิดถูกขึ้นมา เฮียจะได้มีเงินไปสู่ขอครูเทาไงแล้วจะได้มีเงินมาสร้างครอบครัวเล็กๆ ลูกสองคน แล้วเลี้ยงหมาซักตัวด้วยกัน”  เฮียไคพูดอย่างเพ้อฝัน

    “ต...แต่..ว่า”  ครูเทาพูดแทรกขึ้นอย่างติดขัด ทำให้เฮียไคหลุดจากภวังค์หันมามองว่าเจ้าตัวต้องการจะพูดอะไร “เค้า...เค้าไม่มีมดลูกอ่ะ...เค้าคงมีลูกให้เฮียไม่ได้”  ครูเทาพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าใจ 

    (ขอเวลาให้เฮียไคเงิบแดกสามวินาทีค่ะ)

    เฮียไคตัดบทชวนเจ็บปวดด้วยการชวนไปตำหนักเจ้าพ่อชาน เขาอาสาขับรถพาครูเทาไปด้วยอย่างสุภาพบุรุษ เมื่อมาถึงที่หมาย ก็เป็นตาที่คาดไว้ คนจำนวนมากหลั่งไหลกันเข้ามาขอเลขเด็ดจากเจ้าพ่อชานตาทิพย์ ซึ่งกำลังพ๊อพพูล่าในช่วงนี้  เฮียไคจูมือครูเทาเบียดเสียดผู้คนเข้าไปในบ้านทรงเรียบๆมองหาที่นั่งที่ว่าง ก่อนนั่งลงคู่กันด้วยความเขินอาย

     

    “อุ้ยต่ะ...เฮียไคก็มากะเขาด้วยเหรอนี่ อ้าวนั่นครูเทาเหรอ มาด้วยกันเหรอครับเนี่ย แหม..เป็นอย่างที่ไอ้ฮุนมันพูดเลยสิเนี่ย”  เจ๊แบคหรือ ขุ่นแบคซาลอนเจ้าของร้านเสริมสวยชื่อดังในหมู่บ้านหันมาทักกึ่งแซวเฮียไค

    “อย่าพูดน่า...ครูเทาเค้าเขิน”  เฮียไคเอ่ยปรามเจ๊แบคเบาๆ

    “อุ๊ยๆ เจ้าพ่อชานมาแล้วเฮีย” ครูเทาสะกิดไหล่เฮียไคด้วยความตื่นเต้น 

    เจ้าพ่อชานผู้เป็นที่เคารพนับถือของคนในหมู่บ้าน ให้เลขเด็ดถูกมาสี่งวดติด อีกทั้งยังมีหน้าตาที่หล่อเหลากระชากตับไตแม่ยกทั้งหลาย ทำให้ตำหนักแห่งนี้มีผู้คนหลั่งไหลมาอยู่เสมอๆ 

    เจ้าพ่อชานปรากฏตัวใช้ชุดทำงานประจำของเขา เสื้อและการเกงสีขาวอีกทั้งห้อยสร้อยจตุคามและวัตถุมงคลๆต่างๆไว้คอ สร้างความขลังให้กับตัวของเจ้าพ่อชานเป็นอย่างมาก  เจ้าพ่อชานนั่งลงตรงที่ประจำ กวาดสายตามองผู้คนที่มานั่งรอเลขเด็ดด้วยสายตาพอใจ

    “มาเอาเลขกันเหรอพวกเอ็ง” 

    ทุกคนต่างตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน

    “เอาๆ วันนี้ก็ฤกษ์ดี  ดวงดาวเรียงตัวกันเสริมดวงชะตาการเสี่ยงโชคดีมาก เอ้าเอาไป”  เจ้าพ่อชายโยนขวดแฟซ่าลงไปท่ามกลางฝูงชน ผู้คนรุมทึ้งขวดแฟช่าขึ้นมาโดยที่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร

    “เห็นเลขในบาร์โค้ดมั๊ย นั่นล่ะๆ เอาไปจับคู่กลับกันเอาเอง ของแบบนี้ข้าขอพระอินทร์มาให้ จะให้กันง่ายๆก็กระไรอยู่ ใครบุญถึงก็ถูก ไม่ถึงก็พลาด.ฮะฮ่าๆ”  เจ้าพ่อชานพูดเสียงสุขุม

    ชาวบ้านต่างช่วยกันถ่ายรูปและจดจำเอาตัวเลขบนบาร์โค้ดอย่างบ้าระห่ำ  แน่นอนว่าเฮียไค กับ ครูเทาก็เช่นกัน  หลังจากมหกรรมชิงเลขอันโหดร้ายผ่านพ้นไป ผู้คนก็ทยอยกลับ รวมทั้งเฮียไคกับครูเทาด้วย ทั้งคู่เดินจูงมือกันออกจากตำหนักไปพร้อมกับของดีที่เจ้าพ่อชานให้ไว้ เพราะเห็นว่ากระหนุงกระหนิงอยู่ด้วยกันสองคนแทบจะตลอดเวลา เจ้าพ่อชายกล่าวว่า สิ่งนั้นจะทำให้ความรักของทั้งคู่ชูชื่นขึ้นมามากมาย 

    ในตำหนักไม่เหลือคนอื่นอยู่แล้วนอกจากเจ๊แบคซาลอน  คุณหล่อนยกเอาหัวหมูที่เตรียมไว้มาให้เจ้าพ่อชานด้วยความนอบน้อม ค่อยๆคลานเข่าเข้าไปหาเยี่ยงเมียบ่าว

    “เจ้าพ่อชาน...คือที่เคยบนไว้คราวก่อนนะครับ วันนี้เลยเอามาแก้บน”  เจ๊แบคยกถาดหัวหมูให้เจ้าพ่อ

    “ไม่สนใจแก้ล่างด้วยรึเอ็ง”  เจ้าพ่อชายมองคนตรงหน้าก่อนหลุดคำพูดแปลกๆออกมาโดยไม่ตั้งใจ ทำให้เจ๊แบคที่ได้ยินไม่ถนัดหูนักมองหน้าเขาอย่างสงสัยใคร่รู้ “ข้าจะพูดว่า ดีแล้วที่รู้จักมาแก้ บนแล้วไม่แก้มันไม่ดี จะแก้บนแก้ล่างก็ควรแก้”  เจ้าพ่อชานยังคนพูดถ้อยคำที่เจ๊แบคไม่ค่อยเข้าใจนัก

    “เอ็งนี่หน้าตามีสง่าราศีดีนะ ถ้าได้มาอาบน้ำมนต์ตำหนักข้าซักคืนคงจะเจริญขึ้นเป็นสิบเท่าเชียว”  เจ้าพ่อชานมองหน้าเจ๊แบคอย่างครุ่นคิด

    “อุ้ยต่ะ...สง่า ราศี ดูดี รุ่งเรือง”  เจ๊แบคพึมพำกับตัวเองเบาก่อนรีบตอบเจ้าพ่อด้วยแววตาเป็นประกาย” ไว้วันหลังจะมานะครับ วันนี้รี๊บรีบ พรุ่งนี้เจ้าพ่อว่างมั๊ยครับ เดี๋ยวมาเลย”   

    “เอ้อ ว่าง ว่างทั้งวัน ทั้งคืนเลย”  เจ้าพ่อชานยิ้มกริ่ม

    “จ้ะๆ งั้นวันนี้ฉันลาก่อนล่ะจ้ะ ทิ้งร้านไว้”  เจ๊แบคไหว้เจ้าพ่องามๆก่อนคลานเข่าออกไป ท่ามกลางสายตาอันตรายของเจ้าพ่อชาน

    “ก้นเซี้ยะไม่เบา....”

     --------------------------------------

    เอ้อ จบแล้ว ยามสุดในสามโลก ตอนนี้ยาวมาก ยาวสุดๆ

    ปล่อยเจ๊แบค น้องฮุน และ เจ้าพ่อชาน ออกมา

    เอ้อ เครียด เครียดมาก

    ทำไมเจ้าพ่อชานมันโรคจิตจังวะ เอ้อ เครียด..(เครียดไรมากมาย)

    โอ๊ะเค่ จบกันกับตอนนี้

    สวัสดีวันพฤหัส อีแล้ว...

    ไม่ได้ตั้งใจจะลงวันพฤหัสเลย...สาบาน  - -

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×