ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : 2.1
- - หลังเลิกเรียน - - 
    “หาตัวจับยากจังเลยนะเธอเนี่ย” ทายสิว่าใครมาทักทายฉันที่หน้าประตูโรงเรียนพร้อมพวกอีกนับสิบ 
    “สวัสดี คุณหนูแห่งควอนดังแฮ หาเรื่องเดือดร้อนอะไรมาให้ฉันอีกล่ะ”
    “ทำปากดีไปยัยลีมินยอน เดี๋ยวจะดีได้อีกไม่นานหรอก” 
    “มีอะไร ว่ามา!”
    “ก็ไม่เชิงว่าจะมีหรอก พวกเราแค่มาเอาคืนจากแกเท่านั้นเอง พี่แกทำเราเอาไว้มาก” ยัยหน้าโหดพูดขึ้น ก็แหงล่ะ พี่แจวอนคงไม่ให้เรื่องมันจบง่าย ๆ หรอก ก็พวกแกทำฉันไว้เยอะเลยไม่ใช่เหรอไง หน้าฉันงี้ บวมเป่งหน้าเกลียดเชียว
    “พี่แจวอนไปทำอะไรให้เธออีกล่ะ”
    “พวกเราโดนลงโทษทุกเช้า ทุกเที่ยง และก็ทุกเย็นก่อนกลับบ้าน”
    “ก็สมควรแล้วไม่ใช่หรือไง”
    “ยังจะปากดีอีกเหรอ”
    “แล้วจะให้ฉันว่าไงล่ะ น่าขายหน้าชะมัด งั้นเหรอ”
    “แก...” ยัยหน้าโหดโกรธจนตัวสั่น
    “มีเรื่องอะไรกัน มินยอน” ตอนนี้รู้สึกใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง เฮนา เฮมีและคิมควางเดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ
    “เด็กฝั่งตรงข้าม คลานมาหาเรื่องนิดหน่อยน่ะ”
    “หาว่าพวกเราเป็นหมา! ยังงั้นเหรอ” ยัยหน้าโหดนี่ ชอบตีตนไปก่อนไข้อยู่เรื่อย
    “มินยอนยังไม่ทันได้ว่าอะไรเลยนะ ร้อนตัวไปเองหรือเปล่า” เฮมีพูดขึ้น
    “อยากโดนอีกคนหรือไง ฮะ!!”
    “เข้ามาสิ ถ้าคิดว่าแน่จริง”
    “ใจเย็นเฮมี” ฉันรีบปราม
    “เอางี้แล้วกัน ความจริงแล้วมันเป็นเรื่องระหว่างเราสองคน” คุณหนูแห่ง
ควอนดังแฮก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้าฉัน “ฉันกับเธอ ตัวต่อตัว”
    “ได้”
    “โบอา แต่ยัยนี่มันร้ายนะ” ยัยหน้าโหดร้องห้าม 
    “ปล่อยให้ฉันจัดการเอง” คุณหนูแห่งควอนดังแฮหันไปบอก “สู้กันกลางถนน เป็นไง”
    “ไม่มีปัญหา”
    ยัยโบอา เดินนำฉันไปหยุดอยู่ตรงเลนส์ถนนของควอนดังแฮ ส่วนฉัน
ก็ยืนอยู่เลนส์ของฉัน ตอนนี้ไม่ว่าจะเด็กโรงเรียนฝั่งตรงข้าม หรือฝั่งของฉัน ก็ยืนดูกันเต็มถนน ล้อมรอบฉันกับยัยโบอาให้มิดเลย 
    เรายืนมองหน้ากันครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าหากัน... ฉันยืนนิ่ง ได้แต่มองหน้ายัยนั่น ดูสิว่าคุณหนูแห่งควอนดังแฮ จะทำยังไง
    “เพี้ยะ!!” ยัยนั่นตบฉันเข้าให้ฉาดใหญ่ และตามติดด้วยหลังมือของเธอ
    “สู้เขาสิมินยอน ยืนทำอะไรของเธออยู่” เฮนาตะโกนโหวกเหวก
    “ใจเย็นเฮนา คอยดูไปก่อน” คิมควางหันมาบอก
    “เจ็บใจนัก แกตบฉันได้ยังไม่พอ ดันมาแย่งคนที่ฉันรักไปอีก” ยัยโบอาตาขวาง ก่อนจะล้วงเข้าไปในกระเป๋ากระโปรง “อะไรเอ่ย??อยู่ในนี้” แล้วเธอก็ถือออกมาแกว่งให้ฉันดู พลางยิ้มมุมปากยังกะคนโรคจิต “ฉันจะกรีดหน้าเธอให้เละไปเลย คอยดูสิ” สิ่งที่เธอถืออยู่ ก็คือมีดคัตเตอร์นั่นเอง กลัวจนตัวสั่นเลยล่ะ...
    “จะกรีดหน้าฉันเหรอ ได้สิ ถ้าเธอมีปัญญาพอ!”
    คุณหนูแห่งควอนดังแฮ ตวัดมีดมาทางฉัน...และ
    “ฟ้าว! ควับ!!” ฉันจับข้อมือของเธอข้างที่ถือมีดเอาไว้
    “มีปัญญาแค่นี้เองเหรอ” ฉันกล่าวลาเธอ ก่อนจะหวดหมัดขวาเข้าใส่ที่แก้มเธอเต็มแรง “ผัวะ!!!” เธอล้มไปกองกับพื้นทันที อะไรจะง่ายปานนั้น “ฉันลืมบอกเธอไป ว่าหมัดขวาของฉัน มันหนัก” ยัยโบอารีบพยุงตัวขึ้นมาทันที แต่ดูเหมือนว่าโลกของเธอจะเต็มไปด้วยนกน้อยและดวงดาวนับร้อย ที่กำลังบินว่อนอยู่บนหัว  “บาย” ฉันลาเธอเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะถอดเอากระเป๋าที่สะพายอยู่หวดเข้าที่หัวของเธออย่างจัง สะใจชะมัด ว่าง ๆ คงต้องไปพบจิตแพทย์ซะแล้ว เรา   
“โบอา!!!” ยัยหน้าโหดร้องเสียงหลง
    ตอนนี้ทุกคน กำลังตะลึงงันในสิ่งที่ฉันทำ ทึ่งฉันมากขนาดนั้นเลยหรือไง
    “ทำอะไรกัน” พี่แจวอนเดินฝ่าฝูงชนเข้ามา “เธอเป็นคนทำเหรอมินยอน...”
    “คือ...” 
    “รุ่นพี่คะ...ยัยนี่ไม่พอใจ เลยนัดโบอาให้มาสู้กัน แล้วยัยนั่นก็ให้พวกเพื่อนรุมทำร้ายโบอา แค่นั้นยังไม่พอยัยนั่นหวดโบอาเต็มแรงเลยค่ะ ดูสิคะ เลือดออกเต็มไปหมด” ยัยหน้าโหดรีบฟ้องใหญ่ จะหาความจริงได้ซักนิดไหมเนี่ย 
    “ไม่ใช่นะคะพี่แจวอน ยัยพวกนั้นต่างหาก ที่มาหาเรื่องมินยอนก่อน” เฮนารีบโต้บ้าง
    “ใช่ ๆ!!!” เด็กซูฟางอูพูดเป็นเสียงเดียวกัน ต้องขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ
    “รีบพาอันโบอาไปโรงพยาบาลก่อน” พี่แจวอนหันไปบอกยัยหน้าโหด
    “แต่รุ่นพี่คะ...” ยัยหน้าโหดทำท่าจะแย้ง
    “ทางนี้ฉันจัดการเอง” พี่แจวอนจ้องฉันซะน่ากลัว
    “มีอะไรกัน ท่านประธาน” นายจะมาทำไมกันนะ ตาบ้าคิมซออึน
    “โบอาเป็นอะไรไป” นายหัวทองเหลืองก็มากับเขาด้วยเหรอเนี่ย “เธอเป็นคนทำเหรอ” อย่ามามองหน้าฉันนะ
    “บังอาจมาทำร้ายเด็กโรงเรียนฉันเหรอ เธอนี่ไม่รู้จักเจียมตัวเอาซะเลย” คิมซออึนถลึงตาใส่ฉัน “เธอนี่มัน” ทำไมไม่พูดต่อล่ะ “ฮึ้ย!!”
    “พวกเธอก่อเรื่องอีกแล้วเหรอ” คนนี้ ใครกัน ผมสีแดงสะดุดตาพอ ๆ กับหัวทองเหลืองและก็พี่แจวอน (หัวสีส้ม) เลย
    “พาโบอาไปโรงบาลทีสิ ซองกยู” ตาซออึนหันไปบอก
    “ได้ครับ” นายหัวทองแดงเข้าไปอุ้มโบอาและเดินออกไป
    “ส่วนเธอ...มากับฉัน!!” คิมซออึนเดินเข้ามาดึงตัวฉันไปทันที
    “นายจะพามินยอนไปไหน” พี่แจวอนเดินเข้าไปขวางทางไว้
    “น้องสาวพี่ ติดพนันผมอยู่ จะเอาไปสะสางซะหน่อย” พนันเหรอ ตายจริงลืมไปเสียสนิทเลย พี่แจวอนเอาฉันตายแน่เลย ทำไงดีหว่า
    “นายจะพามินยอนไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” คิมควางเข้ามาขวางอีกคน
    “เด็กซูฟางอูอย่างแก อย่ามาขวางทางฉัน!” คิมซออึนผลักคิมควางซะ กระเด็นเลย
    “คิมควาง!!”
    “ยังจะไปเรียกมันอีก”
    “พี่แจวอน ช่วยด้วยสิ” ฉันหันไปขอความช่วยเหลือ
    “ปล่อยมินยอนเดี๋ยวนี้นะ” พี่แจวอนสั่งเสียงเรียบ
    “อย่าลืมสิ ว่ารุ่นพี่ติดค้างอะไรผมอยู่”
    พี่แจวอนไม่พูดอะไรอีกเลย หมายความว่ายังไงกัน พี่จะปล่อยให้ฉันโดนคิมซออึนลักพาตัวไปงั้นเหรอ ทำไมพี่ไม่ทำอะไรสักอย่างล่ะ
    “พี่แจวอน” ฉันมองพี่ด้วยแววตาขอร้อง แต่พี่กลับหลบสายตาฉันเสียนี่
    “ไปได้แล้ว” คิมซออึนดึงฉันให้ไปกับเขาทันที 
    “มินยอน!!!” คิมควางตะโกนลั่นพลางวิ่งตาม แต่โดนพี่แจวอนจับไหล่เอาไว้
    “ถ้านายตามไป มินยอนอาจมีอันตราย”
    “แต่รุ่นพี่ครับ ไอ้บ้านั่นมันจะพามินยอนไปไหนก็ไม่รู้...”
    “ฉันก็เป็นห่วงมินยอน ไม่แพ้นายหรอก”
    “ทำไมรุ่นพี่ไม่ตามไปล่ะครับ”
    “พวกแกกลับไปกันได้แล้ว” พี่แจวอนหันไปบอกพวกเด็กควอนดังแฮ
“นายอยู่เฉย ๆ ล่ะคิมควาง เรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง ขืนเข้ามายุ่งวุ่นวาย ฉันไม่ให้นายได้เห็นหน้ามินยอนอีกแน่!!”
    “นายจะพาฉันไปไหน!! อีตาอึนอึน!”
    “เรียกชื่อฉันให้มันถูกสักครั้งนึงจะได้ไหม!!!” คิมซออึนหันมาตวาดใส่ฉัน
    “ขอโทษ ก็ได้ แล้วนายจะพาฉันไปไหนล่ะ”
    “โรงแรมมั้ง!”
    “โรงแรมงั้นเหรอ หยุดรถเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
    “อยากตายรึไง!! นั่งเฉย ๆ ไปเลย”
    “จะให้นั่งเฉย ๆ อยู่ได้ยังไงกันเล่า นายกำลังจะพาฉันไปโรงแรมนะ!” 
    “คิดว่าฉันจะทำมิดีมิร้ายเธอรึไง ฉันไม่พิศวาสเธอขนาดนั้นหรอก”
    “แล้วนายจะพาฉันไปโรงแรมทำไม จะให้ฉันขัดส้วมให้เหรอไง!”
    “คงทำนองนั้น”
    “อีตาบ้า!!”
    “ฮึ”
    แล้วรถก็มาหยุดอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง
    “รออยู่นี่ล่ะ” ตาบ้าคิมซออึนบอก ก่อนจะเดินเข้าไปในนั้น
    “คิดว่าฉันจะรออยู่ให้โง่เหรอ” และในขณะที่ฉันกำลังจะเปิดประตูรถนั้น
    “จะไปไหนครับ คุณลีมินยอน” ไอ้หัวทองแดงมาอยู่ที่นี้ได้ยังไงกัน ก็เมื่อ
ตะกี้ เห็นไปส่งยัยโบอาอยู่นี่นา
    “นายมาอยู่ได้ไง??”
    “แล้วไงล่ะ ซออึนมันให้ข้าพเจ้ามาเฝ้าเธอไว้ มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ใช่ไหมล่ะ” ข้าพเจ้างั้นเหรอ ตานี่บ๊องหรือเปล่าเนี่ย
    “ปล่อยฉันไปเถอะนะหัวทองแดง ไม่งั้นฉันอาจโดนอึนอึนเล่นงานได้นะ”
    “ข้าพเจ้าชื่อ ชองซองกยู และที่เธอเรียกว่า อึนอึน คงหมายถึงซออึนใช่ไหม?”
    “ก็ใช่...ปล่อยฉันไปเถอะนะ ขอร้องล่ะ” ฉันส่งสายตาอ้อนวอนอยู่พักใหญ่ จนอีตาอึนอึนกลับมาจนได้ นั่นถือถุงอะไรมาด้วยนะ?? ในนั้นคงไม่มีมีดหรอกใช่ไหม 
    “ขอบใจมากนะซองกยู แล้วไว้เจอกันวันพุธ”
    “มิเป็นไร ข้าพเจ้ายินดีช่วย แต่ถ้าซออึนเบื่อคุณลีมินยอนแล้วเมื่อไหร่ เอามาทิ้งให้ข้าพเจ้าได้ทุกเมื่อเลยนะ”
    “ฉันไม่ใช่สิ่งของนะ ถึงจะโยนให้คนโน่นที คนนี้ทีน่ะ!!”
    “ข้าพเจ้าขอโทษแล้วกันนะขอรับ” ตาหัวทองแดงยิ้มบาง ๆ ให้ฉัน ความจริงแล้ว เขาก็หล่อใช่ย่อยเลยล่ะ ทำไมเพื่อนของอีตาอึนอึน ถึงมีแต่คนหน้าตาดี ๆ ทั้งนั้นเลยนะ ชักจะหวั่นใจซะแล้วสิ
    “คิดฟุ้งซ่านอะไรมิทราบ” แล้วนายก็มาขัดความคิดฉันอยู่เรื่อยเลยนะ
คิมซออึน!
    “โชคดีนะ” หัวทองแดงโบกมือลาฉันกับซออึน ภาพแบบนี้มัน เหมือนกับว่าฉัน กำลังจะต้องไปพบเจออะไรที่ร้าย ๆ งั้นแหละ ฉันอาจจะไม่ได้กลับมาอีกเลย
ก็ได้ ฮือ ฮือ ลาก่อนนะพี่แจวอน คิมควาง คู่หูซองฮานเฮ แล้วก็...
    “ฉันจะพาเธอไปที่แห่งหนึ่ง” คิมอึนอึน เอ๊ย! คิมซออึนหันมาบอกฉัน “ไม่ต้องถามนะ ว่าที่ไหน ถ้าถึงแล้วเธอก็จะเห็นเอง”
    ฉันนั่งรถมากับคิมซออึนอยู่ร่วมสามสี่ชั่วโมง อีตานี่ไม่ยอมพูดกับฉันสักคำเวลานี้ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงแล้ว จะพาฉันไปที่ไหนกันแน่นะ
   
    แล้วรถก็มาหยุดอยู่ตรงประตูทางเข้าบ้านหลังหนึ่ง    
“ลงไปเปิดประตูได้แล้ว” คิมซออึนหันมาบอกฉัน พลางพยักพเยิดหน้าไป ทางประตู
ตอนนี้ฉันทำได้แต่ หน้าบึ้งเท่านั้น และก็อาจจะส่งสายตามาดร้ายให้อีกนิด
ฉันจำใจต้องเดินลงไปเปิดประตู...แต่ ทำไมถึงไม่มีกุญแจคล้องไว้เลยล่ะ
    “เร็วหน่อยสิ!” ตาอึนอึนตะโกนออกมาจากในรถ และหลังจากเปิดประตูเสร็จ ตาบ้านี่ก็ขับผ่านเข้าไปเฉย...เลย
    บ้านหลังนี้ ดูภายนอกก็สวยดี สะอาดสะอ้าน มีต้นไม้ใหญ่อยู่หน้าบ้านด้วย เป็นบ้านชั้นเดียว ฉันว่าน่าจะหลังคาสีน้ำเงินนะ นั่น! มีชิงช้าอยู่ใต้ต้นไม้ด้วย อะไรจะน่าอยู่ปานนั้น ถ้าฉันรอดพ้นคืนนี้ หรือไม่ตายไปเสียก่อน หวังว่าเราคงได้มานั่งชิงช้ากัน...นะ
    “มัวแต่มองทัศนียภาพอยู่ได้ มันมืดมากแล้วนะ ฉันหิวข้าว!”
    แล้วใครใช้ให้นายพาฉันมากันล่ะ
    “เปิดประตูบ้านเร็วเข้าสิ อ๊ะ นี่กุญแจ” คิมซออึนโยนกุญแจให้ฉัน
    ในบ้านจะสวยมากมายขนาดไหนกัน หรือว่าจะสกปรกอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน ตาบ้านี่ต้องใช้เราทำความสะอาดจนเหงื่อออกเป็นกะละมัง แน่ ๆ
    “คลิก!” ฉันเอื้อมไปจับลูกบิดประตู ก่อนจะเปิดเข้าไปในบ้าน...แล้วฉันก็...
หยุดกึกไปเลย ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้ ฉันมองไปยังพื้นกระเบื้องที่ปูอย่างสวยงาม มันมีเทียนวางอยู่เป็นทางยาวสว่างไสว แล้วก็ยังมีอยู่ตามโต๊ะตามม้านั่ง
บนโทรทัศน์ แม้กระทั่งบนตู้เย็น ก็มีเทียนส่องสว่างวางอยู่ ฉันเดินตามทางที่มีเทียนวางขนาบข้างไปจนกระทั่งถึงห้อง ๆ หนึ่ง อยากรู้จังว่าห้องนี้เป็นห้องอะไรกันนะ
    “ทำอารมณ์ซึ้งอยู่รึไง รีบไปดับเทียน แล้วก็ไปทำอาหารเย็น เตรียมน้ำอุ่นให้ฉันอาบด้วยเข้าใจไหม”
    “ทำไมฉันต้องดับเทียนด้วยเล่า”
    “ถ้าเธอไม่ทำ จะให้ฉันทำรึไง ฉันเป็นเจ้านายเธอนะ อย่าลืมสิ! เธอแพ้พนันฉัน”
    “ค่ะ!!!!” ฉันถลึงตาใส่คิมซออึน ผู้ชายเฮงซวย ก่อนจะเดินคลำหาสวิตซ์ไฟแล้วก็เริ่มเป่าเทียนที่มีอยู่เต็มบ้านให้หมดไปทีละเล่ม ฉันคิดถึงวันเกิดอายุครบรอบ 8 ปีจัง มันเป็นครั้งแรก และอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย ที่แม่มาร่วมงานวันเกิด และซื้อของขวัญให้มากมาย ฉันมีความสุขมากที่แม่มาร่วมร้องเพลงให้ฉัน ถึงแม่ว่ามันจะเป็นเพียงเสียงเบา ๆ แต่ฉันก็ไม่เคยลืม รอยยิ้มบาง ๆ อันอบอุ่นนั้น ที่ทำให้ฉันน้ำตาร่วงได้...แต่ทำไม? บ้านหลังนี้ถึงมีเทียนสวยงามแบบนี้อยู่เต็มบ้านเลยล่ะ???
    “หิวข้าว!!!!” คิมซออึนตะโกนลั่นบ้าน “เมื่อไหร่จะเสร็จ ห๊า!!! มัวทำอะไรของเธออยู่ ยัยลีมินยอน!!!”
    “ถ้าหิวมาก ก็มาทำเองซะเลยสิ!!! ได้แต่ตะโกนอยู่ได้!! น่าเบื่อชะมัด!”
    “อยากตายรึไง” คิมซออึนมาโผล่ที่ประตูห้องครัว ยืนทำหน้าถมึงทึงอยู่ได้ คนอะไร ใจร้ายชะมัด ใช้ทำโน่นทำนี่อยู่นั่นแหละ ฉันไม่ใช่หุ่นยนต์นะ คนบ้า!!
    “ฉัน หิว ข้าว แล้วก็อยาก อาบ น้ำ! ไปเตรียมน้ำอุ่นให้ฉันด้วย! เข้าใจไหม!!” 
    “ตึ้ง!!!” ฉันฟาดตะหลิวกับโต๊ะอย่างแรง
    “เข้าใจแล้ว!”
    “ดี...”
   
    “แหวะ!! เธอทำอะไรให้ฉันทานเนี่ย ฝีมือพอ ๆ กับหน้าตาเลยนะ”
    “พูดแบบนี้ ไม่อยากแก่ตายใช่ไหม!! ฉันบอกแล้วไงว่าทำอาหารไม่เป็น นายก็ดันทุรังเองนี่ ถ้าอยากกินอร่อย ๆ ก็กลับบ้านไปให้แม่สุดที่รักของนายทำให้กินซะสิ แม่คร้าบ ทำบะหมี่ให้ผมกินหน่อยสิคร้าบ เชอะ!!”
    “ฟ้าว!!” แล้วชามข้าวก็โดนขว้างมาที่ฉัน ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ด้วย
    “ของห่วย ๆ พรรณเนี่ย...ฉันกินไม่ลง” คิมซออึนกล่าว ก่อนจะเดินหน้าเหี้ยมออกไปจากห้องครัว ฉันเช็ดข้าวที่เปรอะอยู่เต็มเสื้อออก ไม่ยักรู้แฮะ ว่าเรื่องแค่นี้ น้ำตาฉันก็กรูออกมาซะนองหน้าเลย ทำไมต้องทำร้ายความรู้สึกกันขนาดนี้ด้วย ฉันไปทำอะไรให้นายต้องจงเกลียดจงชังฉันมากขนาดนี้
    ฉันยืนจ้องอ้างล้างมืออยู่ราวสิบนาที แล้วเสียงของไอ้ติงต๊องก็ดังขึ้นอีกรอบ
    “เตรียมน้ำให้อาบหน่อย...เข้าใจที่พูดไหม” ดูทำหน้าเข้า ไม่ต้องยักคิ้วเยาะฉันหรอก
    “เออ...” ฉันตอบสั้น ๆ ไป
    “วันนี้เธอไม่ต้องอาบน้ำนะ โทษฐานทำอาหารได้แย่พอ ๆ กับหน้า...” คิมซออึนทำท่าจะเดินออกไปแต่ก็วกกลับมาพูดใหม่ “คงรู้นะ ไม่มีข้าวให้กิน”
    ฉันอยากจะกระโดดเข้าไปตีให้น่วมไปเลย ผู้ชายอะไร เอาแต่ใจชะมัด คอยดูต่อไปเหอะ ฉันจะแกล้งนาย ให้เหมือนที่นายแกล้งฉันเลยคอยดู
    “น้ำอาบได้ยัง” คิมซออึนนุ่งผ้าเช็ดตัวลายหมีเท็ดดี้ มาโผล่ที่ประตูห้องน้ำ ดูติงต๊องยังไงไม่รู้ ถึงแม้จะหล่อเหลามากขนาดไหนก็ตาม แต่ก็น่าจะทำอะไรให้มันสมกับวัยหน่อย...น่าจะดีมากขึ้น 
    “อือ...” ฉันเดินออกมา คิมซออึนส่งสายตากวน ๆ มาให้ฉัน แล้วเราจะได้เห็นดีกัน
    หลังจากนั้น อีกไม่ถึงนาที
    “โอ๊ย!!!” หมอนั่นก็ตะโกนลั่นห้องน้ำ “ยัยลีมินยอน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
    ไงล่ะ น้ำร้อนจนอาบได้เลยใช่ไหมล่ะ อย่างนาย ต้องเจอน้ำร้อนลวกความสกปรกและสิ่งชั่วร้ายออกไปบ้าง จะได้ดูดีขึ้นมาหน่อย 5555!
   
    แล้วคืนนี้ก็ผ่านพ้นไปอย่างทุลักทุเล ฉันไม่ได้อาบน้ำ ไม่ได้กินข้าวเย็น แถมยังต้องหอบสังขารออกมานอนที่โซฟา ก็ห้องนอนดันมีห้องเดียว ไอ้ติงต๊องเลยได้ใจ ไล่ให้ฉันออกมานอนข้างนอก นายรู้รึเปล่าว่าฉันต้องเจอกับอะไรบ้าง ยุงเอย มดเอย หรือแม้แต่แมลงสาบ หยะแหยงเป็นบ้า แล้วก็ให้หมอนมาแค่ใบเดียว ผ้าห่ม น่ะ...ไม่คิดจะให้ฉันบ้างรึไง แล้วถ้ากลางคืนมันหนาว ฉันไม่ได้แข็งตายหรอกเหรอ  ผู้ชายอะไร เฮงซวยชะมัด! 
    คืนนี้นอนไม่หลับเลยแฮะ ฉันได้แต่พลิกตัวไปมา ซ้ายทีขวาที น่าเบื่อจังฉันน่าจะออกไปเดินเล่นหน่อย แต่มันดึกมากแล้ว ไม่ดีกว่า แค่ยืนมองดูดวงดาวก็คงพอ ฉันโผล่หน้าออกไปทางหน้าต่าง สายลมเย็นเอื่อย ๆ พัดผ่านใบหน้าของฉันไป เวลานี้ฉันคิดถึงแม่จัง บนท้องฟ้า รอยยิ้มตอนวันเกิดครบรอบอายุแปดปีอยู่บนนั้น ช่างงดงามละมุนละไม แม่กำลังยิ้มให้ฉัน ยิ้มบาง ๆ ฉันยิ้มตอบให้แม่ไป หนูคิดถึงแม่จังค่ะ เมื่อไหร่แม่จะมากอดหนูไว้คะ เมื่อไหร่จะได้ไออุ่นจากอ้อมกอดของแม่ เมื่อไหร่กันหนอ แม่จะรักหนูได้สุดหัวใจของแม่...เหมือนที่แม่รักคิมซออึน
    แม่รู้ไหมคะ...เมื่อใดที่สายลมเอื่อยพัดผ่านใบหน้าของหนู เมื่อนั้น หนูคิดถึงแม่ เมื่อใดที่มองขึ้นไปดูดาวบนท้องฟ้า เมื่อนั้น หนูคิดถึงแม่ เมื่อใดที่เหนื่อยล้าและหมดหวัง เมื่อนั้น หนูคิดถึงแม่ เมื่อใดที่ล่วงเข้าสู่ห้วงนิทรา เมื่อนั้น หนูคิดถึงแม่ เมื่อใดที่หนาวกายจนเจียนเจ็บ เมื่อนั้น หนูคิดถึงแม่...
    อุ่นจัง ทำไมถึงรู้สึกอบอุ่นแบบนี้นะ เมื่อกี้ยังหนาวอยู่เลย ทำไมถึงได้รู้สึกอบอุ่นแบบนี้ แม่มากอดหนูไว้เหรอคะ มันรู้สึกดีมากเลย กอดหนูไว้นาน ๆ นะ กอดหนูไว้ตลอดไป ตลอดไป ตราบจนหนูจะหมดลมหายใจ เมื่อนั้น แม่ค่อยปล่อยหนูนะ
    “ตื่นได้แล้วยัยเบื๊อก!! จะมัวนอนไปถึงไหน รีบลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ!” วันนี้พี่แจวอนเป็นหวัดเหรอไง เสียงถึงได้ไม่คุ้นหูเอาซะเลย
    “เฮ้! ลีมินยอน ลีมินยอน!! ลีมินยอน!!!” ทำไมพี่ต้องตะโกนโหวกเหวกด้วย พี่บอกให้ฉันนอนไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมต้องมาปลุกฉันด้วยเล่า
    “ถ้าเธอไม่ตื่น! ฉันจะฆ่าเธอให้ตายเลยนะ!! คอยดูดิ”
    แล้วพอฉันลืมตาตื่นขึ้น
    “กรี๊ด!!!!!! นายจะทำอะไรฉันนะ อีตาอึนอึน”
    “เสียงดังไปได้ ไปอาบน้ำได้แล้ว! เธอนี่เหม็น!ชะมัดเลย”
    จะไม่ให้ฉันแหกปากได้ไงเล่า คนบ้า ทำไมต้องเข้ามามองหน้าฉันใกล้ขนาดนั้นด้วย ใครตื่นมาก็ต้องตกใจกันทั้งนั้นแหละ
    “เสื้อผ้าเธอวางอยู่บนโต๊ะนะ อาบน้ำเสร็จก็เอาไปเปลี่ยนได้เลย เอ้อ!! แล้วอย่าลืมขัดห้องน้ำด้วยล่ะ เธอใช้มันก็สกปรกกันพอดี แล้วเดี๋ยวฉันจะทำซุปสาหร่ายให้กิน เข้าใจ?”
    “...”
    “รีบ ๆ ล่ะ ไม่งั้นฉันจะลอยแพเธอไว้ที่นี้แน่ ๆ” คิมซออึนบอก ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องครัว
    ฉันเลิกผ้าห่มที่อยู่บนตัวออก (แล้วผ้าห่มมันมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?) ก่อนจะเดินไปหยิบถุงใบใหญ่ ที่วางอยู่บนโต๊ะ ข้างในมีอะไรกันน้า?
    ว้าว!!! นี่มัน เสื้อคอปรกสีขาว แขนตุ๊กตา แถมยังมีลายหมีเท็ดดี้น่ารักอยู่ที่กระเป๋าหน้าอกซ้ายด้วย เสื้อเย็บด้วยไหมสีฟ้า น่ารักจัง แล้วก็ยังกระโปรงผ้า
กำมะหยี่สีฟ้าอ่อนอีก มีด้ายเย็บให้ดูเหมือนเป็นปล้อง ๆ ด้วย ไม่ยักรู้แฮะ ว่าอีตาอึนอึนก็เลือกเสื้อผ้า น่ารัก ๆ กะเขาเป็นด้วย
    “มัวทำอะไรของเธออยู่!! ไปอาบน้ำได้แล้ว!! ยัยเบ๊อะเอ๊ย!”
    “หุบปากไปเลยนะ!!!”
    ฉันส่งสายตาเกรี้ยวกราดไปให้ ก่อนจะหยิบถุงใบใหญ่เข้าไปในห้องน้ำด้วย แล้วก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า เสื้อชั้นในฉันล่ะ? จะทำยังไงดีเนี่ย
    “เฮ้!! ยัยลีมินยอน! เสื้อชั้นในของเธอวางอยู่บนเตียงนอนนะ ฉันซื้อมาให้แล้วล่ะ!” แล้วนายจะรู้ขนาดฉันได้ไงมิทราบ!
    ในที่สุดเช้าที่แสนลำบากก็ผ่านพ้นไป ไม่เคยคิดมาก่อนเลย ว่าขนาดจะพอดีขนาดนี้ ไม่ว่าจะเสื้อชั้นนอก หรือเสื้อชั้นใน เลือกได้โป๊ะพอดีเลย
    “...นึกว่าอืดตายในห้องน้า...น้ำ! ซะแล้ว”
    “ก็นายบอกให้ฉันขัดห้องน้ำให้ไม่ใช่เหรอไง ยังจะมาว่าฉันอืดตายอีก เดี๋ยวก็โดนหรอก”
    “คร้าบบบ แล้วจะไปกันได้รึยังครับ!”
    “จะพาไปไหนอีกล่ะ แค่นายพาฉันมาที่นี้ พ่อก็คงตามหาให้ควักแล้วล่ะ”
    “คงไม่ตามหรอกมั้ง พี่เธอออกจะฉลาด คงหาเหตุผลดี ๆ ได้”
    = ^ =
    “อยากตายรึไง...”
    “อยู่เฉย ๆ ใครจะอยากตายเล่า!”
    “ไปขึ้นรถได้แล้ว ฉันจะพาเธอไป...สักหน่อย”   
    ฉันถลึงตาใส่แบบโกรธ ๆ คนอะไร มีความลับไปซะหมด ไม่รู้ว่าในหัวคิดอะไรบ้าง ในแต่ละวินาที
    “ยังจะมองอีก! เร็วเข้าดิ!”
    แล้วฉันกับอีตาอึนอึนก็ออกจากบ้านหลังนั้นมา ราวครึ่งชั่วโมงได้ที่นั่งรถไปโดยไม่รู้จุดหมายปลายทาง แล้วอยู่ ๆ ตานี่ก็จอดรถซะงั้น ทำเอากระตุกทันทีเลย
    “เอี๊ยด!!!!!”
    “ลงไปได้ล่ะ”
    ที่นี้ ที่ไหนกันเนี่ย? ร้านอาหารตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า พาฉันมาทำไมกัน หรือว่าจะใจดีเลี้ยงข้าวก่อนกลับบ้าน คงจะจริง
    “ผมหาเด็กมาทำงานให้ได้แล้วครับ” คิมซออึนเดินเข้าไปบอกกับพนักงานสาวที่เคาน์เตอร์ หมายความว่าไงกันน่ะ กะจะให้ฉันมาทำงานงั้นเหรอ!!! ไม่นะ!!!
    “ชื่ออะไรล่ะเรา” พี่(ดูจะเป็นแบบนั้น)พนักงานเอ่ยถาม
    “ลีมินยอนค่ะ”
    “พี่ชื่อจีมินฮาน เรียกพี่มินฮานก็ได้นะจ๊ะ” เธอยิ้มสดใสให้ฉัน น่ารักจังเลย
    “มัวแต่ยืนยิ้มอยู่ได้ ไปทำงานได้แล้ว” แล้วผู้ชายร่างโตก็เดินออกมาจากหลังร้าน
    “อย่าไปว่าเขาแบบนั้นสิ นี่มินยอน มินยอนจ้ะ นี่ชินจุนโซ เรียกจุนโซเฉย ๆ ก็ได้”
    “ใครบอก...” แล้วชินจุนโซก็แทรกขึ้นทันควัน
    พี่มินฮานมองเขม็ง ชินจุนโซก็เลยทำหน้าเบื่อ ๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปหลังร้านแบบเดิม “อย่าไปถือสาตาบ้านี่เลยนะ ไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย”
    “แล้ว...จะให้ทำอะไรบ้างค่ะ?”
    “ก็เป็นพนักงานเสิร์ฟช่วงเช้า ส่วนช่วงเย็นก็ค่อยไปล้างจาน พอตกดึกหน่อยก็ถูพื้น ก่อนกลับก็ล้างห้องน้ำ พอรุ่งเช้าก็มาเปิดร้าน ยกเก้าอี้ลงทั้งหมด
เช็ดโต๊ะ เช็ดเก้าอี้ให้เรียบร้อย มีอะไรไม่เข้าใจบ้างไหม?”
    “ขอเวลา...สองนาทีแล้วกันนะคะ” ฉันยิ้มเจื่อน ๆ ส่งให้พี่มินฮาน ก่อนจะหันไปถลึงตาใส่คิมซออึน “นายจะให้ฉันอยู่ที่นี้จนตายเลยรึไง?”
    “เปล่าสักหน่อย ให้เธอทำงานที่นี้สักอาทิตย์นึง แล้วเราค่อยมาคิดกันว่าจะกลับหรือจะอยู่ต่อ”
    “อาทิตย์นึงงั้นเหรอ...นายจะบ้าหรือไง!! ฉันยังต้องไปเรียนหนังสืออยู่นะ”
    “ระดับเธอ คงไม่ต้องเรียนหรอก หยุดพักบ้างก็ได้ เพราะเรียนไป ก็คงไม่มีความหมายอะไร” 
    “ป๊าบ!!!” ฉันตบไหล่ตาอึนอึนเข้าให้ป๊าบใหญ่
    “โอ๊ย!! เจ็บนะ เป็นพวกหัวรุนแรงรึไงกัน คนเขาอุตส่าห์พามารู้จักกับประสบการณ์ชีวิต ยังจะค้อนเขาอีก”
    “อยากตายรึไงฮะ!!!” ฉันตะโกนลั่นเลย ลูกค้าในร้านหันมามองกันใหญ่
    “อยู่กับเธอทีไร มีแต่จะทำเรื่องเดือดร้อนให้ฉันต้องอับอายอยู่เรื่อย”
    “ใครใช้ให้พาฉันมาเล่า!! แล้วที่ตกลงกัน มันก็แค่วันเดียวเท่านั้นนะ นายอย่ามาละเมิดสิทธิของฉันเป็นอันขาด เข้าใจไหม? ไม่งั้น นายซวยแน่!”
    “แล้วจะทำไม ฉันสั่งให้เธออยู่ที่นี้หนึ่งอาทิตย์ เธอก็ต้องทำตามที่ฉันบอก ไม่มีข้อแม้” คิมซออึนยักคิ้วเยาะเป็นการปิดท้าย   
    “หาตัวจับยากจังเลยนะเธอเนี่ย” ทายสิว่าใครมาทักทายฉันที่หน้าประตูโรงเรียนพร้อมพวกอีกนับสิบ 
    “สวัสดี คุณหนูแห่งควอนดังแฮ หาเรื่องเดือดร้อนอะไรมาให้ฉันอีกล่ะ”
    “ทำปากดีไปยัยลีมินยอน เดี๋ยวจะดีได้อีกไม่นานหรอก” 
    “มีอะไร ว่ามา!”
    “ก็ไม่เชิงว่าจะมีหรอก พวกเราแค่มาเอาคืนจากแกเท่านั้นเอง พี่แกทำเราเอาไว้มาก” ยัยหน้าโหดพูดขึ้น ก็แหงล่ะ พี่แจวอนคงไม่ให้เรื่องมันจบง่าย ๆ หรอก ก็พวกแกทำฉันไว้เยอะเลยไม่ใช่เหรอไง หน้าฉันงี้ บวมเป่งหน้าเกลียดเชียว
    “พี่แจวอนไปทำอะไรให้เธออีกล่ะ”
    “พวกเราโดนลงโทษทุกเช้า ทุกเที่ยง และก็ทุกเย็นก่อนกลับบ้าน”
    “ก็สมควรแล้วไม่ใช่หรือไง”
    “ยังจะปากดีอีกเหรอ”
    “แล้วจะให้ฉันว่าไงล่ะ น่าขายหน้าชะมัด งั้นเหรอ”
    “แก...” ยัยหน้าโหดโกรธจนตัวสั่น
    “มีเรื่องอะไรกัน มินยอน” ตอนนี้รู้สึกใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง เฮนา เฮมีและคิมควางเดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ
    “เด็กฝั่งตรงข้าม คลานมาหาเรื่องนิดหน่อยน่ะ”
    “หาว่าพวกเราเป็นหมา! ยังงั้นเหรอ” ยัยหน้าโหดนี่ ชอบตีตนไปก่อนไข้อยู่เรื่อย
    “มินยอนยังไม่ทันได้ว่าอะไรเลยนะ ร้อนตัวไปเองหรือเปล่า” เฮมีพูดขึ้น
    “อยากโดนอีกคนหรือไง ฮะ!!”
    “เข้ามาสิ ถ้าคิดว่าแน่จริง”
    “ใจเย็นเฮมี” ฉันรีบปราม
    “เอางี้แล้วกัน ความจริงแล้วมันเป็นเรื่องระหว่างเราสองคน” คุณหนูแห่ง
ควอนดังแฮก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้าฉัน “ฉันกับเธอ ตัวต่อตัว”
    “ได้”
    “โบอา แต่ยัยนี่มันร้ายนะ” ยัยหน้าโหดร้องห้าม 
    “ปล่อยให้ฉันจัดการเอง” คุณหนูแห่งควอนดังแฮหันไปบอก “สู้กันกลางถนน เป็นไง”
    “ไม่มีปัญหา”
    ยัยโบอา เดินนำฉันไปหยุดอยู่ตรงเลนส์ถนนของควอนดังแฮ ส่วนฉัน
ก็ยืนอยู่เลนส์ของฉัน ตอนนี้ไม่ว่าจะเด็กโรงเรียนฝั่งตรงข้าม หรือฝั่งของฉัน ก็ยืนดูกันเต็มถนน ล้อมรอบฉันกับยัยโบอาให้มิดเลย 
    เรายืนมองหน้ากันครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าหากัน... ฉันยืนนิ่ง ได้แต่มองหน้ายัยนั่น ดูสิว่าคุณหนูแห่งควอนดังแฮ จะทำยังไง
    “เพี้ยะ!!” ยัยนั่นตบฉันเข้าให้ฉาดใหญ่ และตามติดด้วยหลังมือของเธอ
    “สู้เขาสิมินยอน ยืนทำอะไรของเธออยู่” เฮนาตะโกนโหวกเหวก
    “ใจเย็นเฮนา คอยดูไปก่อน” คิมควางหันมาบอก
    “เจ็บใจนัก แกตบฉันได้ยังไม่พอ ดันมาแย่งคนที่ฉันรักไปอีก” ยัยโบอาตาขวาง ก่อนจะล้วงเข้าไปในกระเป๋ากระโปรง “อะไรเอ่ย??อยู่ในนี้” แล้วเธอก็ถือออกมาแกว่งให้ฉันดู พลางยิ้มมุมปากยังกะคนโรคจิต “ฉันจะกรีดหน้าเธอให้เละไปเลย คอยดูสิ” สิ่งที่เธอถืออยู่ ก็คือมีดคัตเตอร์นั่นเอง กลัวจนตัวสั่นเลยล่ะ...
    “จะกรีดหน้าฉันเหรอ ได้สิ ถ้าเธอมีปัญญาพอ!”
    คุณหนูแห่งควอนดังแฮ ตวัดมีดมาทางฉัน...และ
    “ฟ้าว! ควับ!!” ฉันจับข้อมือของเธอข้างที่ถือมีดเอาไว้
    “มีปัญญาแค่นี้เองเหรอ” ฉันกล่าวลาเธอ ก่อนจะหวดหมัดขวาเข้าใส่ที่แก้มเธอเต็มแรง “ผัวะ!!!” เธอล้มไปกองกับพื้นทันที อะไรจะง่ายปานนั้น “ฉันลืมบอกเธอไป ว่าหมัดขวาของฉัน มันหนัก” ยัยโบอารีบพยุงตัวขึ้นมาทันที แต่ดูเหมือนว่าโลกของเธอจะเต็มไปด้วยนกน้อยและดวงดาวนับร้อย ที่กำลังบินว่อนอยู่บนหัว  “บาย” ฉันลาเธอเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะถอดเอากระเป๋าที่สะพายอยู่หวดเข้าที่หัวของเธออย่างจัง สะใจชะมัด ว่าง ๆ คงต้องไปพบจิตแพทย์ซะแล้ว เรา   
“โบอา!!!” ยัยหน้าโหดร้องเสียงหลง
    ตอนนี้ทุกคน กำลังตะลึงงันในสิ่งที่ฉันทำ ทึ่งฉันมากขนาดนั้นเลยหรือไง
    “ทำอะไรกัน” พี่แจวอนเดินฝ่าฝูงชนเข้ามา “เธอเป็นคนทำเหรอมินยอน...”
    “คือ...” 
    “รุ่นพี่คะ...ยัยนี่ไม่พอใจ เลยนัดโบอาให้มาสู้กัน แล้วยัยนั่นก็ให้พวกเพื่อนรุมทำร้ายโบอา แค่นั้นยังไม่พอยัยนั่นหวดโบอาเต็มแรงเลยค่ะ ดูสิคะ เลือดออกเต็มไปหมด” ยัยหน้าโหดรีบฟ้องใหญ่ จะหาความจริงได้ซักนิดไหมเนี่ย 
    “ไม่ใช่นะคะพี่แจวอน ยัยพวกนั้นต่างหาก ที่มาหาเรื่องมินยอนก่อน” เฮนารีบโต้บ้าง
    “ใช่ ๆ!!!” เด็กซูฟางอูพูดเป็นเสียงเดียวกัน ต้องขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ
    “รีบพาอันโบอาไปโรงพยาบาลก่อน” พี่แจวอนหันไปบอกยัยหน้าโหด
    “แต่รุ่นพี่คะ...” ยัยหน้าโหดทำท่าจะแย้ง
    “ทางนี้ฉันจัดการเอง” พี่แจวอนจ้องฉันซะน่ากลัว
    “มีอะไรกัน ท่านประธาน” นายจะมาทำไมกันนะ ตาบ้าคิมซออึน
    “โบอาเป็นอะไรไป” นายหัวทองเหลืองก็มากับเขาด้วยเหรอเนี่ย “เธอเป็นคนทำเหรอ” อย่ามามองหน้าฉันนะ
    “บังอาจมาทำร้ายเด็กโรงเรียนฉันเหรอ เธอนี่ไม่รู้จักเจียมตัวเอาซะเลย” คิมซออึนถลึงตาใส่ฉัน “เธอนี่มัน” ทำไมไม่พูดต่อล่ะ “ฮึ้ย!!”
    “พวกเธอก่อเรื่องอีกแล้วเหรอ” คนนี้ ใครกัน ผมสีแดงสะดุดตาพอ ๆ กับหัวทองเหลืองและก็พี่แจวอน (หัวสีส้ม) เลย
    “พาโบอาไปโรงบาลทีสิ ซองกยู” ตาซออึนหันไปบอก
    “ได้ครับ” นายหัวทองแดงเข้าไปอุ้มโบอาและเดินออกไป
    “ส่วนเธอ...มากับฉัน!!” คิมซออึนเดินเข้ามาดึงตัวฉันไปทันที
    “นายจะพามินยอนไปไหน” พี่แจวอนเดินเข้าไปขวางทางไว้
    “น้องสาวพี่ ติดพนันผมอยู่ จะเอาไปสะสางซะหน่อย” พนันเหรอ ตายจริงลืมไปเสียสนิทเลย พี่แจวอนเอาฉันตายแน่เลย ทำไงดีหว่า
    “นายจะพามินยอนไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” คิมควางเข้ามาขวางอีกคน
    “เด็กซูฟางอูอย่างแก อย่ามาขวางทางฉัน!” คิมซออึนผลักคิมควางซะ กระเด็นเลย
    “คิมควาง!!”
    “ยังจะไปเรียกมันอีก”
    “พี่แจวอน ช่วยด้วยสิ” ฉันหันไปขอความช่วยเหลือ
    “ปล่อยมินยอนเดี๋ยวนี้นะ” พี่แจวอนสั่งเสียงเรียบ
    “อย่าลืมสิ ว่ารุ่นพี่ติดค้างอะไรผมอยู่”
    พี่แจวอนไม่พูดอะไรอีกเลย หมายความว่ายังไงกัน พี่จะปล่อยให้ฉันโดนคิมซออึนลักพาตัวไปงั้นเหรอ ทำไมพี่ไม่ทำอะไรสักอย่างล่ะ
    “พี่แจวอน” ฉันมองพี่ด้วยแววตาขอร้อง แต่พี่กลับหลบสายตาฉันเสียนี่
    “ไปได้แล้ว” คิมซออึนดึงฉันให้ไปกับเขาทันที 
    “มินยอน!!!” คิมควางตะโกนลั่นพลางวิ่งตาม แต่โดนพี่แจวอนจับไหล่เอาไว้
    “ถ้านายตามไป มินยอนอาจมีอันตราย”
    “แต่รุ่นพี่ครับ ไอ้บ้านั่นมันจะพามินยอนไปไหนก็ไม่รู้...”
    “ฉันก็เป็นห่วงมินยอน ไม่แพ้นายหรอก”
    “ทำไมรุ่นพี่ไม่ตามไปล่ะครับ”
    “พวกแกกลับไปกันได้แล้ว” พี่แจวอนหันไปบอกพวกเด็กควอนดังแฮ
“นายอยู่เฉย ๆ ล่ะคิมควาง เรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง ขืนเข้ามายุ่งวุ่นวาย ฉันไม่ให้นายได้เห็นหน้ามินยอนอีกแน่!!”
    “นายจะพาฉันไปไหน!! อีตาอึนอึน!”
    “เรียกชื่อฉันให้มันถูกสักครั้งนึงจะได้ไหม!!!” คิมซออึนหันมาตวาดใส่ฉัน
    “ขอโทษ ก็ได้ แล้วนายจะพาฉันไปไหนล่ะ”
    “โรงแรมมั้ง!”
    “โรงแรมงั้นเหรอ หยุดรถเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
    “อยากตายรึไง!! นั่งเฉย ๆ ไปเลย”
    “จะให้นั่งเฉย ๆ อยู่ได้ยังไงกันเล่า นายกำลังจะพาฉันไปโรงแรมนะ!” 
    “คิดว่าฉันจะทำมิดีมิร้ายเธอรึไง ฉันไม่พิศวาสเธอขนาดนั้นหรอก”
    “แล้วนายจะพาฉันไปโรงแรมทำไม จะให้ฉันขัดส้วมให้เหรอไง!”
    “คงทำนองนั้น”
    “อีตาบ้า!!”
    “ฮึ”
    แล้วรถก็มาหยุดอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง
    “รออยู่นี่ล่ะ” ตาบ้าคิมซออึนบอก ก่อนจะเดินเข้าไปในนั้น
    “คิดว่าฉันจะรออยู่ให้โง่เหรอ” และในขณะที่ฉันกำลังจะเปิดประตูรถนั้น
    “จะไปไหนครับ คุณลีมินยอน” ไอ้หัวทองแดงมาอยู่ที่นี้ได้ยังไงกัน ก็เมื่อ
ตะกี้ เห็นไปส่งยัยโบอาอยู่นี่นา
    “นายมาอยู่ได้ไง??”
    “แล้วไงล่ะ ซออึนมันให้ข้าพเจ้ามาเฝ้าเธอไว้ มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ใช่ไหมล่ะ” ข้าพเจ้างั้นเหรอ ตานี่บ๊องหรือเปล่าเนี่ย
    “ปล่อยฉันไปเถอะนะหัวทองแดง ไม่งั้นฉันอาจโดนอึนอึนเล่นงานได้นะ”
    “ข้าพเจ้าชื่อ ชองซองกยู และที่เธอเรียกว่า อึนอึน คงหมายถึงซออึนใช่ไหม?”
    “ก็ใช่...ปล่อยฉันไปเถอะนะ ขอร้องล่ะ” ฉันส่งสายตาอ้อนวอนอยู่พักใหญ่ จนอีตาอึนอึนกลับมาจนได้ นั่นถือถุงอะไรมาด้วยนะ?? ในนั้นคงไม่มีมีดหรอกใช่ไหม 
    “ขอบใจมากนะซองกยู แล้วไว้เจอกันวันพุธ”
    “มิเป็นไร ข้าพเจ้ายินดีช่วย แต่ถ้าซออึนเบื่อคุณลีมินยอนแล้วเมื่อไหร่ เอามาทิ้งให้ข้าพเจ้าได้ทุกเมื่อเลยนะ”
    “ฉันไม่ใช่สิ่งของนะ ถึงจะโยนให้คนโน่นที คนนี้ทีน่ะ!!”
    “ข้าพเจ้าขอโทษแล้วกันนะขอรับ” ตาหัวทองแดงยิ้มบาง ๆ ให้ฉัน ความจริงแล้ว เขาก็หล่อใช่ย่อยเลยล่ะ ทำไมเพื่อนของอีตาอึนอึน ถึงมีแต่คนหน้าตาดี ๆ ทั้งนั้นเลยนะ ชักจะหวั่นใจซะแล้วสิ
    “คิดฟุ้งซ่านอะไรมิทราบ” แล้วนายก็มาขัดความคิดฉันอยู่เรื่อยเลยนะ
คิมซออึน!
    “โชคดีนะ” หัวทองแดงโบกมือลาฉันกับซออึน ภาพแบบนี้มัน เหมือนกับว่าฉัน กำลังจะต้องไปพบเจออะไรที่ร้าย ๆ งั้นแหละ ฉันอาจจะไม่ได้กลับมาอีกเลย
ก็ได้ ฮือ ฮือ ลาก่อนนะพี่แจวอน คิมควาง คู่หูซองฮานเฮ แล้วก็...
    “ฉันจะพาเธอไปที่แห่งหนึ่ง” คิมอึนอึน เอ๊ย! คิมซออึนหันมาบอกฉัน “ไม่ต้องถามนะ ว่าที่ไหน ถ้าถึงแล้วเธอก็จะเห็นเอง”
    ฉันนั่งรถมากับคิมซออึนอยู่ร่วมสามสี่ชั่วโมง อีตานี่ไม่ยอมพูดกับฉันสักคำเวลานี้ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงแล้ว จะพาฉันไปที่ไหนกันแน่นะ
   
    แล้วรถก็มาหยุดอยู่ตรงประตูทางเข้าบ้านหลังหนึ่ง    
“ลงไปเปิดประตูได้แล้ว” คิมซออึนหันมาบอกฉัน พลางพยักพเยิดหน้าไป ทางประตู
ตอนนี้ฉันทำได้แต่ หน้าบึ้งเท่านั้น และก็อาจจะส่งสายตามาดร้ายให้อีกนิด
ฉันจำใจต้องเดินลงไปเปิดประตู...แต่ ทำไมถึงไม่มีกุญแจคล้องไว้เลยล่ะ
    “เร็วหน่อยสิ!” ตาอึนอึนตะโกนออกมาจากในรถ และหลังจากเปิดประตูเสร็จ ตาบ้านี่ก็ขับผ่านเข้าไปเฉย...เลย
    บ้านหลังนี้ ดูภายนอกก็สวยดี สะอาดสะอ้าน มีต้นไม้ใหญ่อยู่หน้าบ้านด้วย เป็นบ้านชั้นเดียว ฉันว่าน่าจะหลังคาสีน้ำเงินนะ นั่น! มีชิงช้าอยู่ใต้ต้นไม้ด้วย อะไรจะน่าอยู่ปานนั้น ถ้าฉันรอดพ้นคืนนี้ หรือไม่ตายไปเสียก่อน หวังว่าเราคงได้มานั่งชิงช้ากัน...นะ
    “มัวแต่มองทัศนียภาพอยู่ได้ มันมืดมากแล้วนะ ฉันหิวข้าว!”
    แล้วใครใช้ให้นายพาฉันมากันล่ะ
    “เปิดประตูบ้านเร็วเข้าสิ อ๊ะ นี่กุญแจ” คิมซออึนโยนกุญแจให้ฉัน
    ในบ้านจะสวยมากมายขนาดไหนกัน หรือว่าจะสกปรกอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน ตาบ้านี่ต้องใช้เราทำความสะอาดจนเหงื่อออกเป็นกะละมัง แน่ ๆ
    “คลิก!” ฉันเอื้อมไปจับลูกบิดประตู ก่อนจะเปิดเข้าไปในบ้าน...แล้วฉันก็...
หยุดกึกไปเลย ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้ ฉันมองไปยังพื้นกระเบื้องที่ปูอย่างสวยงาม มันมีเทียนวางอยู่เป็นทางยาวสว่างไสว แล้วก็ยังมีอยู่ตามโต๊ะตามม้านั่ง
บนโทรทัศน์ แม้กระทั่งบนตู้เย็น ก็มีเทียนส่องสว่างวางอยู่ ฉันเดินตามทางที่มีเทียนวางขนาบข้างไปจนกระทั่งถึงห้อง ๆ หนึ่ง อยากรู้จังว่าห้องนี้เป็นห้องอะไรกันนะ
    “ทำอารมณ์ซึ้งอยู่รึไง รีบไปดับเทียน แล้วก็ไปทำอาหารเย็น เตรียมน้ำอุ่นให้ฉันอาบด้วยเข้าใจไหม”
    “ทำไมฉันต้องดับเทียนด้วยเล่า”
    “ถ้าเธอไม่ทำ จะให้ฉันทำรึไง ฉันเป็นเจ้านายเธอนะ อย่าลืมสิ! เธอแพ้พนันฉัน”
    “ค่ะ!!!!” ฉันถลึงตาใส่คิมซออึน ผู้ชายเฮงซวย ก่อนจะเดินคลำหาสวิตซ์ไฟแล้วก็เริ่มเป่าเทียนที่มีอยู่เต็มบ้านให้หมดไปทีละเล่ม ฉันคิดถึงวันเกิดอายุครบรอบ 8 ปีจัง มันเป็นครั้งแรก และอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย ที่แม่มาร่วมงานวันเกิด และซื้อของขวัญให้มากมาย ฉันมีความสุขมากที่แม่มาร่วมร้องเพลงให้ฉัน ถึงแม่ว่ามันจะเป็นเพียงเสียงเบา ๆ แต่ฉันก็ไม่เคยลืม รอยยิ้มบาง ๆ อันอบอุ่นนั้น ที่ทำให้ฉันน้ำตาร่วงได้...แต่ทำไม? บ้านหลังนี้ถึงมีเทียนสวยงามแบบนี้อยู่เต็มบ้านเลยล่ะ???
    “หิวข้าว!!!!” คิมซออึนตะโกนลั่นบ้าน “เมื่อไหร่จะเสร็จ ห๊า!!! มัวทำอะไรของเธออยู่ ยัยลีมินยอน!!!”
    “ถ้าหิวมาก ก็มาทำเองซะเลยสิ!!! ได้แต่ตะโกนอยู่ได้!! น่าเบื่อชะมัด!”
    “อยากตายรึไง” คิมซออึนมาโผล่ที่ประตูห้องครัว ยืนทำหน้าถมึงทึงอยู่ได้ คนอะไร ใจร้ายชะมัด ใช้ทำโน่นทำนี่อยู่นั่นแหละ ฉันไม่ใช่หุ่นยนต์นะ คนบ้า!!
    “ฉัน หิว ข้าว แล้วก็อยาก อาบ น้ำ! ไปเตรียมน้ำอุ่นให้ฉันด้วย! เข้าใจไหม!!” 
    “ตึ้ง!!!” ฉันฟาดตะหลิวกับโต๊ะอย่างแรง
    “เข้าใจแล้ว!”
    “ดี...”
   
    “แหวะ!! เธอทำอะไรให้ฉันทานเนี่ย ฝีมือพอ ๆ กับหน้าตาเลยนะ”
    “พูดแบบนี้ ไม่อยากแก่ตายใช่ไหม!! ฉันบอกแล้วไงว่าทำอาหารไม่เป็น นายก็ดันทุรังเองนี่ ถ้าอยากกินอร่อย ๆ ก็กลับบ้านไปให้แม่สุดที่รักของนายทำให้กินซะสิ แม่คร้าบ ทำบะหมี่ให้ผมกินหน่อยสิคร้าบ เชอะ!!”
    “ฟ้าว!!” แล้วชามข้าวก็โดนขว้างมาที่ฉัน ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ด้วย
    “ของห่วย ๆ พรรณเนี่ย...ฉันกินไม่ลง” คิมซออึนกล่าว ก่อนจะเดินหน้าเหี้ยมออกไปจากห้องครัว ฉันเช็ดข้าวที่เปรอะอยู่เต็มเสื้อออก ไม่ยักรู้แฮะ ว่าเรื่องแค่นี้ น้ำตาฉันก็กรูออกมาซะนองหน้าเลย ทำไมต้องทำร้ายความรู้สึกกันขนาดนี้ด้วย ฉันไปทำอะไรให้นายต้องจงเกลียดจงชังฉันมากขนาดนี้
    ฉันยืนจ้องอ้างล้างมืออยู่ราวสิบนาที แล้วเสียงของไอ้ติงต๊องก็ดังขึ้นอีกรอบ
    “เตรียมน้ำให้อาบหน่อย...เข้าใจที่พูดไหม” ดูทำหน้าเข้า ไม่ต้องยักคิ้วเยาะฉันหรอก
    “เออ...” ฉันตอบสั้น ๆ ไป
    “วันนี้เธอไม่ต้องอาบน้ำนะ โทษฐานทำอาหารได้แย่พอ ๆ กับหน้า...” คิมซออึนทำท่าจะเดินออกไปแต่ก็วกกลับมาพูดใหม่ “คงรู้นะ ไม่มีข้าวให้กิน”
    ฉันอยากจะกระโดดเข้าไปตีให้น่วมไปเลย ผู้ชายอะไร เอาแต่ใจชะมัด คอยดูต่อไปเหอะ ฉันจะแกล้งนาย ให้เหมือนที่นายแกล้งฉันเลยคอยดู
    “น้ำอาบได้ยัง” คิมซออึนนุ่งผ้าเช็ดตัวลายหมีเท็ดดี้ มาโผล่ที่ประตูห้องน้ำ ดูติงต๊องยังไงไม่รู้ ถึงแม้จะหล่อเหลามากขนาดไหนก็ตาม แต่ก็น่าจะทำอะไรให้มันสมกับวัยหน่อย...น่าจะดีมากขึ้น 
    “อือ...” ฉันเดินออกมา คิมซออึนส่งสายตากวน ๆ มาให้ฉัน แล้วเราจะได้เห็นดีกัน
    หลังจากนั้น อีกไม่ถึงนาที
    “โอ๊ย!!!” หมอนั่นก็ตะโกนลั่นห้องน้ำ “ยัยลีมินยอน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
    ไงล่ะ น้ำร้อนจนอาบได้เลยใช่ไหมล่ะ อย่างนาย ต้องเจอน้ำร้อนลวกความสกปรกและสิ่งชั่วร้ายออกไปบ้าง จะได้ดูดีขึ้นมาหน่อย 5555!
   
    แล้วคืนนี้ก็ผ่านพ้นไปอย่างทุลักทุเล ฉันไม่ได้อาบน้ำ ไม่ได้กินข้าวเย็น แถมยังต้องหอบสังขารออกมานอนที่โซฟา ก็ห้องนอนดันมีห้องเดียว ไอ้ติงต๊องเลยได้ใจ ไล่ให้ฉันออกมานอนข้างนอก นายรู้รึเปล่าว่าฉันต้องเจอกับอะไรบ้าง ยุงเอย มดเอย หรือแม้แต่แมลงสาบ หยะแหยงเป็นบ้า แล้วก็ให้หมอนมาแค่ใบเดียว ผ้าห่ม น่ะ...ไม่คิดจะให้ฉันบ้างรึไง แล้วถ้ากลางคืนมันหนาว ฉันไม่ได้แข็งตายหรอกเหรอ  ผู้ชายอะไร เฮงซวยชะมัด! 
    คืนนี้นอนไม่หลับเลยแฮะ ฉันได้แต่พลิกตัวไปมา ซ้ายทีขวาที น่าเบื่อจังฉันน่าจะออกไปเดินเล่นหน่อย แต่มันดึกมากแล้ว ไม่ดีกว่า แค่ยืนมองดูดวงดาวก็คงพอ ฉันโผล่หน้าออกไปทางหน้าต่าง สายลมเย็นเอื่อย ๆ พัดผ่านใบหน้าของฉันไป เวลานี้ฉันคิดถึงแม่จัง บนท้องฟ้า รอยยิ้มตอนวันเกิดครบรอบอายุแปดปีอยู่บนนั้น ช่างงดงามละมุนละไม แม่กำลังยิ้มให้ฉัน ยิ้มบาง ๆ ฉันยิ้มตอบให้แม่ไป หนูคิดถึงแม่จังค่ะ เมื่อไหร่แม่จะมากอดหนูไว้คะ เมื่อไหร่จะได้ไออุ่นจากอ้อมกอดของแม่ เมื่อไหร่กันหนอ แม่จะรักหนูได้สุดหัวใจของแม่...เหมือนที่แม่รักคิมซออึน
    แม่รู้ไหมคะ...เมื่อใดที่สายลมเอื่อยพัดผ่านใบหน้าของหนู เมื่อนั้น หนูคิดถึงแม่ เมื่อใดที่มองขึ้นไปดูดาวบนท้องฟ้า เมื่อนั้น หนูคิดถึงแม่ เมื่อใดที่เหนื่อยล้าและหมดหวัง เมื่อนั้น หนูคิดถึงแม่ เมื่อใดที่ล่วงเข้าสู่ห้วงนิทรา เมื่อนั้น หนูคิดถึงแม่ เมื่อใดที่หนาวกายจนเจียนเจ็บ เมื่อนั้น หนูคิดถึงแม่...
    อุ่นจัง ทำไมถึงรู้สึกอบอุ่นแบบนี้นะ เมื่อกี้ยังหนาวอยู่เลย ทำไมถึงได้รู้สึกอบอุ่นแบบนี้ แม่มากอดหนูไว้เหรอคะ มันรู้สึกดีมากเลย กอดหนูไว้นาน ๆ นะ กอดหนูไว้ตลอดไป ตลอดไป ตราบจนหนูจะหมดลมหายใจ เมื่อนั้น แม่ค่อยปล่อยหนูนะ
    “ตื่นได้แล้วยัยเบื๊อก!! จะมัวนอนไปถึงไหน รีบลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ!” วันนี้พี่แจวอนเป็นหวัดเหรอไง เสียงถึงได้ไม่คุ้นหูเอาซะเลย
    “เฮ้! ลีมินยอน ลีมินยอน!! ลีมินยอน!!!” ทำไมพี่ต้องตะโกนโหวกเหวกด้วย พี่บอกให้ฉันนอนไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมต้องมาปลุกฉันด้วยเล่า
    “ถ้าเธอไม่ตื่น! ฉันจะฆ่าเธอให้ตายเลยนะ!! คอยดูดิ”
    แล้วพอฉันลืมตาตื่นขึ้น
    “กรี๊ด!!!!!! นายจะทำอะไรฉันนะ อีตาอึนอึน”
    “เสียงดังไปได้ ไปอาบน้ำได้แล้ว! เธอนี่เหม็น!ชะมัดเลย”
    จะไม่ให้ฉันแหกปากได้ไงเล่า คนบ้า ทำไมต้องเข้ามามองหน้าฉันใกล้ขนาดนั้นด้วย ใครตื่นมาก็ต้องตกใจกันทั้งนั้นแหละ
    “เสื้อผ้าเธอวางอยู่บนโต๊ะนะ อาบน้ำเสร็จก็เอาไปเปลี่ยนได้เลย เอ้อ!! แล้วอย่าลืมขัดห้องน้ำด้วยล่ะ เธอใช้มันก็สกปรกกันพอดี แล้วเดี๋ยวฉันจะทำซุปสาหร่ายให้กิน เข้าใจ?”
    “...”
    “รีบ ๆ ล่ะ ไม่งั้นฉันจะลอยแพเธอไว้ที่นี้แน่ ๆ” คิมซออึนบอก ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องครัว
    ฉันเลิกผ้าห่มที่อยู่บนตัวออก (แล้วผ้าห่มมันมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?) ก่อนจะเดินไปหยิบถุงใบใหญ่ ที่วางอยู่บนโต๊ะ ข้างในมีอะไรกันน้า?
    ว้าว!!! นี่มัน เสื้อคอปรกสีขาว แขนตุ๊กตา แถมยังมีลายหมีเท็ดดี้น่ารักอยู่ที่กระเป๋าหน้าอกซ้ายด้วย เสื้อเย็บด้วยไหมสีฟ้า น่ารักจัง แล้วก็ยังกระโปรงผ้า
กำมะหยี่สีฟ้าอ่อนอีก มีด้ายเย็บให้ดูเหมือนเป็นปล้อง ๆ ด้วย ไม่ยักรู้แฮะ ว่าอีตาอึนอึนก็เลือกเสื้อผ้า น่ารัก ๆ กะเขาเป็นด้วย
    “มัวทำอะไรของเธออยู่!! ไปอาบน้ำได้แล้ว!! ยัยเบ๊อะเอ๊ย!”
    “หุบปากไปเลยนะ!!!”
    ฉันส่งสายตาเกรี้ยวกราดไปให้ ก่อนจะหยิบถุงใบใหญ่เข้าไปในห้องน้ำด้วย แล้วก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า เสื้อชั้นในฉันล่ะ? จะทำยังไงดีเนี่ย
    “เฮ้!! ยัยลีมินยอน! เสื้อชั้นในของเธอวางอยู่บนเตียงนอนนะ ฉันซื้อมาให้แล้วล่ะ!” แล้วนายจะรู้ขนาดฉันได้ไงมิทราบ!
    ในที่สุดเช้าที่แสนลำบากก็ผ่านพ้นไป ไม่เคยคิดมาก่อนเลย ว่าขนาดจะพอดีขนาดนี้ ไม่ว่าจะเสื้อชั้นนอก หรือเสื้อชั้นใน เลือกได้โป๊ะพอดีเลย
    “...นึกว่าอืดตายในห้องน้า...น้ำ! ซะแล้ว”
    “ก็นายบอกให้ฉันขัดห้องน้ำให้ไม่ใช่เหรอไง ยังจะมาว่าฉันอืดตายอีก เดี๋ยวก็โดนหรอก”
    “คร้าบบบ แล้วจะไปกันได้รึยังครับ!”
    “จะพาไปไหนอีกล่ะ แค่นายพาฉันมาที่นี้ พ่อก็คงตามหาให้ควักแล้วล่ะ”
    “คงไม่ตามหรอกมั้ง พี่เธอออกจะฉลาด คงหาเหตุผลดี ๆ ได้”
    = ^ =
    “อยากตายรึไง...”
    “อยู่เฉย ๆ ใครจะอยากตายเล่า!”
    “ไปขึ้นรถได้แล้ว ฉันจะพาเธอไป...สักหน่อย”   
    ฉันถลึงตาใส่แบบโกรธ ๆ คนอะไร มีความลับไปซะหมด ไม่รู้ว่าในหัวคิดอะไรบ้าง ในแต่ละวินาที
    “ยังจะมองอีก! เร็วเข้าดิ!”
    แล้วฉันกับอีตาอึนอึนก็ออกจากบ้านหลังนั้นมา ราวครึ่งชั่วโมงได้ที่นั่งรถไปโดยไม่รู้จุดหมายปลายทาง แล้วอยู่ ๆ ตานี่ก็จอดรถซะงั้น ทำเอากระตุกทันทีเลย
    “เอี๊ยด!!!!!”
    “ลงไปได้ล่ะ”
    ที่นี้ ที่ไหนกันเนี่ย? ร้านอาหารตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า พาฉันมาทำไมกัน หรือว่าจะใจดีเลี้ยงข้าวก่อนกลับบ้าน คงจะจริง
    “ผมหาเด็กมาทำงานให้ได้แล้วครับ” คิมซออึนเดินเข้าไปบอกกับพนักงานสาวที่เคาน์เตอร์ หมายความว่าไงกันน่ะ กะจะให้ฉันมาทำงานงั้นเหรอ!!! ไม่นะ!!!
    “ชื่ออะไรล่ะเรา” พี่(ดูจะเป็นแบบนั้น)พนักงานเอ่ยถาม
    “ลีมินยอนค่ะ”
    “พี่ชื่อจีมินฮาน เรียกพี่มินฮานก็ได้นะจ๊ะ” เธอยิ้มสดใสให้ฉัน น่ารักจังเลย
    “มัวแต่ยืนยิ้มอยู่ได้ ไปทำงานได้แล้ว” แล้วผู้ชายร่างโตก็เดินออกมาจากหลังร้าน
    “อย่าไปว่าเขาแบบนั้นสิ นี่มินยอน มินยอนจ้ะ นี่ชินจุนโซ เรียกจุนโซเฉย ๆ ก็ได้”
    “ใครบอก...” แล้วชินจุนโซก็แทรกขึ้นทันควัน
    พี่มินฮานมองเขม็ง ชินจุนโซก็เลยทำหน้าเบื่อ ๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปหลังร้านแบบเดิม “อย่าไปถือสาตาบ้านี่เลยนะ ไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย”
    “แล้ว...จะให้ทำอะไรบ้างค่ะ?”
    “ก็เป็นพนักงานเสิร์ฟช่วงเช้า ส่วนช่วงเย็นก็ค่อยไปล้างจาน พอตกดึกหน่อยก็ถูพื้น ก่อนกลับก็ล้างห้องน้ำ พอรุ่งเช้าก็มาเปิดร้าน ยกเก้าอี้ลงทั้งหมด
เช็ดโต๊ะ เช็ดเก้าอี้ให้เรียบร้อย มีอะไรไม่เข้าใจบ้างไหม?”
    “ขอเวลา...สองนาทีแล้วกันนะคะ” ฉันยิ้มเจื่อน ๆ ส่งให้พี่มินฮาน ก่อนจะหันไปถลึงตาใส่คิมซออึน “นายจะให้ฉันอยู่ที่นี้จนตายเลยรึไง?”
    “เปล่าสักหน่อย ให้เธอทำงานที่นี้สักอาทิตย์นึง แล้วเราค่อยมาคิดกันว่าจะกลับหรือจะอยู่ต่อ”
    “อาทิตย์นึงงั้นเหรอ...นายจะบ้าหรือไง!! ฉันยังต้องไปเรียนหนังสืออยู่นะ”
    “ระดับเธอ คงไม่ต้องเรียนหรอก หยุดพักบ้างก็ได้ เพราะเรียนไป ก็คงไม่มีความหมายอะไร” 
    “ป๊าบ!!!” ฉันตบไหล่ตาอึนอึนเข้าให้ป๊าบใหญ่
    “โอ๊ย!! เจ็บนะ เป็นพวกหัวรุนแรงรึไงกัน คนเขาอุตส่าห์พามารู้จักกับประสบการณ์ชีวิต ยังจะค้อนเขาอีก”
    “อยากตายรึไงฮะ!!!” ฉันตะโกนลั่นเลย ลูกค้าในร้านหันมามองกันใหญ่
    “อยู่กับเธอทีไร มีแต่จะทำเรื่องเดือดร้อนให้ฉันต้องอับอายอยู่เรื่อย”
    “ใครใช้ให้พาฉันมาเล่า!! แล้วที่ตกลงกัน มันก็แค่วันเดียวเท่านั้นนะ นายอย่ามาละเมิดสิทธิของฉันเป็นอันขาด เข้าใจไหม? ไม่งั้น นายซวยแน่!”
    “แล้วจะทำไม ฉันสั่งให้เธออยู่ที่นี้หนึ่งอาทิตย์ เธอก็ต้องทำตามที่ฉันบอก ไม่มีข้อแม้” คิมซออึนยักคิ้วเยาะเป็นการปิดท้าย   
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น