ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 2
                                                                                                -2-
    เช้าแล้วเหรอเนี่ย ทำไมถึงรู้สึกปวดหัวจังเลย...เมื่อวานเราไปทำอะไรมานะ? เมื่อวาน...ไอ้ติงต๊องพาเราไปร้านเกมนี่นา แล้วก็...มีเรื่องกับยัยคุณหนูแห่ง
ควอนดังแฮ เฮ้อ! น่าเบื่อชะมัดเลย...
    “ตื่นแล้วเหรอ” พี่แจวอนเปิดประตูเข้ามา ฉันขยี้ตาเบา ๆ “วันนี้ยังไม่ต้องไปโรงเรียนหรอกนะ อยู่บ้านนี่แหละ ดีแล้ว” แล้วพี่แจวอน ก็เดินหน้ามุ่ยออกจากห้องไป
    อยู่บ้านอีกแล้วเหรอเนี่ย ทำไมชีวิตฉันถึงไม่มีสีสันเอาซะเลย อะไร ๆ ก็อยู่บ้าน เบื่อ!!! เข้าใจไหม! และขณะที่ฉันเหลือบไปมองดูตัวเองในกระจกบนผนังห้อง 
    “What’s happen!!!!!” ฉันตะโกนแหกปากลั่นบ้าน อะไรกันเนี่ย ทำไมหน้าตาฉันเป็นอย่างงี้ล่ะ มันดูไม่ได้เอาซะเลย ตาฉันทั้งบวมทั้งช้ำ แล้วก็ยังแก้ม
นุ่ม ๆ ของฉันอีก ทำไมถึงได้ดูน่าเกลียดมากมายขนาดนี้เนี่ย
    “เป็นอะไรไปมินยอน” พ่อเปิดประตูพรวดเข้ามา
    “ทำไมหน้า...มันบวมเป่งอย่างงี้ล่ะคะ”
    “แล้วลูกไปทำอะไรมาล่ะ...เมื่อคืนมันบวมกว่านี้อีกนะ” บวมกว่านี้อีกเหรอ “แต่มันก็หายบวมไปเยอะแล้วนี่ ไปขอบคุณพี่ชายแกซะนะ เมื่อคืนคงไม่ได้นอนเลย”
    “ทำไมถึงไม่ได้นอนล่ะคะ?” 
    “ก็เมื่อคืน พี่แกคอยเอาผ้าชุบน้ำอุ่น ๆ ประคบไอ้ที่มันบวม ๆ ให้น่ะสิ” 
    พี่แจวอนดูแลเราขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ทำไมพี่ถึงช่างแสนดีเสียจริง เป็นห่วงเรามากมายขนาดนี้ แต่เรากลับทำให้พี่ต้องลำบากใจอยู่เรื่อย ขอโทษนะคะพี่... 
ไดอารี่ของมินยอน...
    วันนี้หนูคงคิดถึงแม่ไม่ได้สินะ...บอกรักแม่ก็ไม่ได้ รอคอยให้แม่กลับมาอีกก็ไม่ได้ ร้องไห้เพราะคิดถึงแม่ก็ไม่ได้...คิดถึงเรื่องราวที่ครอบครัวเราจะมีความสุข อยู่กันพร้อมหน้า ก็คงไม่ได้สินะ...คงทำได้แต่...เกลียดแม่เท่านั้น
21 กรกฎาคม 2548
    แล้ววันอาทิตย์ก็มาถึง มันเคยเป็นวันที่ฉันชอบมากที่สุด เพราะว่า ฉันจะได้เจอแม่...แต่วันนี้ ฉันจะไม่รอคอยอีกต่อไป
    “จะไปไหนแต่เช้ามินยอน” พี่แจวอนหยุดถามที่ประตูห้องครัว
    “วันนี้จะไปเที่ยวกับคู่หูซองฮานเฮน่ะ...พี่จะไปด้วยกัน ไหม”
    “ไม่ล่ะ...ระวังตัวด้วยแล้วกันนะ พวกเด็กควอนดังแฮ เดินกันให้ควักอยู่เต็มเมือง” 
    “รับทราบ!! จะรีบกลับบ้านมาชู้ตบาสทันทีเลย”
    “ชู้ตบาสทำไม???”
    “ก็พี่เป็นห่วงอยู่ไง ไปนะ”
    ฉันโบกมือลาพี่ชายสุดรักที่กำลังเอามือขยี้ผมฉันเบา ๆ
    วันนี้ซองเฮนาเพื่อนตัวแสบของฉัน มีนัดบอร์ดกับเด็กโรงเรียนฝั่งตรงข้ามแล้วไงล่ะ...ฉันจะทำให้เด็กควอนดังแฮจ๋อยไปเลยคอยดู เรานัดเจอกันที่ร้านคอฟฟี่
ช็อป ชื่อดังแถว ๆ โรงเรียน (ความจริงแล้วก็ไม่ได้ดังมากมายอะไรนักหรอก)        พอเปิดประตูเข้าไปข้างในร้าน ก็เห็นมีแต่เด็กนักเรียนที่คุ้นหน้าคุ้นตาในโรงเรียนเต็มไปหมด และที่แน่ ๆ พวกที่เป็นจุดสนใจมากที่สุดในร้าน ก็ไม่พ้นเด็ก
ควอนดังแฮ 
“มินยอน ทางนี้!” เฮมีกวักมือเรียกฉัน
“หวัดดี” ฉันกล่าวทักทายเฮมีและคิมควางที่นั่งรออยู่ 
“มาช้าจังเลยนะ” เฮมีมองค้อน ๆ
“โทษที” ฉันยิ้มแหย ๆ “แล้วเฮนาล่ะ”
“นั่งอยู่ตรงนั้นไง” คิมควางชี้ไปที่คนกลุ่มหนึ่ง
ในกลุ่มนั้น มีผู้หญิงอยู่สามคน หนึ่งในนั้นก็คือ ซองเฮนาเพื่อนฉันล่ะ...และอีกสี่หนุ่มที่ฉันมองเห็นแต่ด้านหลังของเขา อยากรู้จัง ว่าพวกเด็กควอนดังแฮ ที่นิยมการนัดบอร์ดจะหน้าตาเป็นยังไง
“มากันนานแล้วเหรอ” ฉันถามขึ้น 
“ก็ ราว ๆ ครึ่งชั่วโมงได้” เฮมีตอบ
“สี่หนุ่มนั่น หน้าตาเป็นยังไงบ้าง”
“...”
“ไม่หล่อเหรอเฮมี”
“จะบอกยังไงดีล่ะ...คือ...สุด ๆ ไปเลย”
“ไม่ดีจนตกใจเหรอ!!!”
“ถ้าเป็นแบบนั้น...ยัยนั่นคงไม่หัวเราะร่าหรอก ดูสิ ยิ้มซะซีดหมด”
ยิ้มซะซีด ยังไงกันนะ??? 
“แล้วเรา จะเริ่มแผนยังไง”
“ฉันลืมบอกเธอไป” เฮมีคิ้วขมวด “คือ...มีผู้ชายสองคนในกลุ่มนั้น ซึ่งเป็นคนนัดบอร์ดยัยเฮนา เขาเป็น สองในหนุ่มฮอตสุด ๆ ของควอนดังแฮ คนที่นั่งริมหน้าต่างย้อมผมสีทอง นั่น เรียวฮยองวอน แล้วอีกคนถัดมาผมสีแดง ชองซองกยู”
“แล้วยังไง” ฉันถามเสียงเรียบ 
“ก็เขาอยู่กลุ่มเดียวกันกับคิมซออึนน่ะสิ...ขืนเราไปแกล้ง ยัยเฮนาคง...” 
    “งั้น วันนี้ก็ไม่สนุกน่ะสิ” ฉันทำหน้าเบื่ออีกตามเคย 
“หน้าเธอไปโดนอะไรมา...” คิมควางถามขึ้น ทำเอาฉันรีบบังรอยข่วน
ที่ยังคงมีให้เห็นเพียงน้อยนิดที่แก้มข้างขวา
    “จริงสิ...ทำไมไม่ยอมไปโรงเรียน” เฮมีหันมาถามอีกคน
    “คือ...ตกบันได แล้วก็โดนแมวข่วนด้วย น่ะ”
    “ซวยจริง ๆ เลยนะเธอเนี่ย”
    ในขณะที่ฉันกำลังนั่งพูดไร้สาระกับเฮมีอยู่นั้น ผู้ชายคนหนึ่งก็พุ่งถลาเข้ามากอดฉันไว้
    “โอ๊ย!!”
    “ขอโทษนะ...” อีตานี่บอกกับฉัน ทั้ง ๆ ที่ยังกอดฉันไว้แน่น
    “คือ...” ความจริงแล้วฉันพยายามจะบอกให้ปล่อยฉันซะที แต่อีตานี่เล่นจ้องตาฉัน ซะจน...หน้าฉันร้อนขึ้นมาซะงั้น จะมองอะไรกันนักกันหนานะ
    “ทำอะไรของแกวะ!!!” คิมควางรีบเข้ามากระชากอีตานั่นออกไปทันที
ทำให้ฉันกลับมามีสติอีกครั้ง ตอนนี้คนทั้งร้านพากันหันมามองที่โต๊ะฉันเป็นตาเดียว
    “ขอโทษ นะ” อีตานี่บอกก่อนจะเดินจากไป
    “เรียวฮยองวอน” เฮมีหันมามองฉัน
    “เขาคือ...เรียวฮยองวอนเหรอ”
    “ใช่!!! อย่าไปเข้าใกล้มันอีกล่ะ เข้าใจไหม”
    “ทำไมต้องทำหน้าดุด้วยเล่า” ฉันหน้าบึ้งใส่คิมควาง “ฉันไม่ได้เข้าใกล้สักหน่อย ก็ไอ้บ้านั่นมันเข้ามา ” ฉันหยุดพูดไป เพราะตอนนี้คิมควางกำลังถลึงตาใส่ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยนะ
    “อย่าหงุดหงิดไปเลยน่า...เมื่อกี้เธอเห็นหรือเปล่ามินยอน”
    “อะไรเหรอ”
    “ก็ เรียวฮยองวอนไง”
    “ทำไม”
    “หล่อ...ลื่น...”
    “หล่อลื่น???”
    เฮมีพยักหน้า
    “ถ้าไอ้บ้านั่นมันหล่อ...ฉันก็นี่” คิมควางหยิบลูกเบสบอลออกมาจากกระเป๋า
    “อะไรอีกล่ะ??” คิ้วฉันจะผูกกันเป็นปมอยู่แล้วนะ
    “หล่อลูกเดียว”
    ฉันกับเฮมีกั้นหัวเราะแทบไม่ไหว นายนี่จริง ๆ เลยนะ ยูคิมควาง
    “เธอคงไม่โกรธฉันหรอกใช่ไหม” คิมควางยิ้มหวานให้ฉัน 
    “อืม” 
    “พวกเธอกำลังทำอะไรกัน” เฮนาเข้ามานั่งรวมกลุ่มกับพวกเรา
    “ก็มานั่งรอเธอไง” เฮมียิ้มกว้าง
    “พวกเธอก่อเรื่องอีกแล้วนะ”
    “เรายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ เฮนา”
    “ไม่ได้ทำอะไรเหรอ แล้วเมื่อกี้ล่ะ คิมควางเกือบจะชกฮยองวอนแล้วด้วย พวกเธอจะทำให้นัดบอร์ดของฉันพังนะ”
    “มันแค่อุบัติเหตุนะ...”
    ตอนนี้เฮนากับเฮมีกำลังใช้สายตาฟาดฟันกันอยู่
    “พอเถอะน่า” ฉันปรามขึ้น “ฉันขอโทษแล้วกัน ที่ทำให้นัดบอร์ดของเธอเกือบพัง” เฮนารีบหลบสายตาฉันทันที
    “คงอยากไปอยู่กับพวกควอนดังแฮเขามากล่ะสิท่า ไปเลย!! แล้วก็ไม่ต้องกลับมาหาพวกเรา!!” เฮมีเดินตึงตังออกไป
    เฮนาเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอก็เงียบไป ฉันได้แต่มองหน้าเพื่อนตัวแสบ ด้วยแววตาที่พอจะเชือดเฉือนเธอได้บ้าง
    “กลับเถอะ มินยอน” คิมควางกระตุกแขนเสื้อฉันเบา ๆ ก่อนจะเดินนำออกไป
    “โชคดีนะ” ฉันอวยพรเฮนาก่อนจะตามคิมควางออกมา ทิ้งไว้แต่ เฮนา เพื่อนที่รู้สึกผิดไว้ข้างหลัง
    “ขอโทษนะ...ฉันไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้” เฮนาเดินคอตกกลับไปที่โต๊ะ “ฉันขอตัวกลับก่อนนะ” หนุ่มผมแดงพยักหน้าให้เธอเบา ๆ พลางส่งยิ้มน้อย ๆ เป็นกำลังใจให้ 
    พวกเราแยกจากกันก่อนกำหนดการ ความจริงแล้วพวกเราวางแผนจะไปเที่ยวสวนสนุกกันต่อ แต่เรื่องกลับตาลปัตร กลายเป็นแบบนี้ไปซะได้ คิมควางอาสาจะไปส่งฉันที่บ้าน แต่ฉันบอกให้เขาไปส่งเฮมีจะดีกว่า เพราะตอนนี้เฮมีกำลังเสียใจเป็นที่สุด
    ฉันเดินไปหยุดที่ป้ายรถเมล์ครู่หนึ่ง ก่อนที่รถเมล์สาย 77-1 จะมา ฉันก้าวเข้าไปข้างในโดยไม่ลังเลใจเลยสักนิด แล้วรถเมล์ก็มาหยุดอยู่ที่ซอยทางเข้าที่ฉันเคยมาเมื่อไม่นานมานี้ ฉันเดินลงจากรถก่อนจะเดินเข้าไป
    ฉันหยุดยืนที่บ้านหลังใหญ่โตหลังหนึ่ง ที่มีความทรงจำอันโหดร้ายของฉัน แม่กำลังทำอะไรอยู่นะ...แม่จะยกโทษให้หนูไหมคะ หนูคิดถึงแม่เหลือเกิน เมื่อไหร่แม่จะกลับมาหนูคะ?
    น้ำตาของฉันกำลังเอ่อล้น ฉันอยากร้องไห้เหลือเกิน แม่มากอดหนูไว้ได้ไหมคะ ฉันทรุดตัวลงนั่งข้างกำแพงนั่น และนั่งรอว่าเมื่อไหร่แม่จะออกมาจากบ้าน ฉันอาจจะโชคดีได้เห็นแม่อีกสักครั้ง ฉันได้แต่รอ และรอต่อไป 
    “เธอ!! นี่เธอ!!!”
    ฉันลืมตาตื่นขึ้น มืดแล้วเหรอเนี่ย แย่จัง ฉันเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วตาบ้านี่เป็นใคร...
    “นายหัวทองเหลือง!!!” ฉันอุทานด้วยความตกใจ เมื่อมองเห็นเรียวฮยอง
วอนมานั่งยอง ๆ อยู่ตรงหน้าฉัน
    “ฉันชื่อเรียวฮยองวอน ไม่ใช่หัวทองเหลือง” เขาบอกเสียงหงุดหงิด “แล้วมานั่งทำอะไรที่หน้าบ้านคนอื่นดึก ๆ ดื่น ๆ แบบนี้”
    “เปล่า”
    “ยังจะว่าเปล่าอีก...หลับซะน้ำลายยืดเชียว”
    “ฉันไม่ได้นอนอ้าปากซะหน่อยนะ”
    “ยังจะมาเถียงอีก ขึ้นรถไปเลยไป เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอที่บ้าน”
    “ฉันกลับเองได้หรอกน่า ไม่จำเป็นต้องให้นายช่วยหรอก หัวทองเหลือง”
    “เรียวฮยองวอน ไม่ใช่หัวทองเหลือง”
    “ก็ฉันจะเรียกนายแบบนี้ แล้วจะทำไม ก็นายดันย้อมผมสีเหลืองเองนี่”
    “สีทองตะหาก” 
    “จะสีอะไรก็ช่างเหอะ”
    “ทำไมไม่เข้ามาวะ ทำอะไรของแกอยู่” แล้วคนที่ฉันไม่อยากเจอมากที่สุดก็เปิดประตูออกมา
    “ก็ฉันเจอยัยนี่มานอนน้ำลายยืดอยู่หน้าบ้านนาย”
    ไม่ได้น้ำลายยืดซะหน่อย
    “ลีมินยอน...อยากตายรึไงมานอนอยู่หน้าบ้านฉัน”
    นี่เหรอการทักทายของนายน่ะ ตาบ้าคิมซออึน
    “แล้วจะทำไมอีตาอึนอึน”
    “ชื่ออึนอึนตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” ไอ้หัวทองเหลืองหัวเราะคิก
    “เข้ามาก่อนสิฮยองวอน” แม่เดินยิ้มกริ่มออกมา แต่พอเห็นฉันเข้ายิ้มนั่นก็หายไปทันที
    ฉันมองหน้าแม่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจส่งยิ้มบาง ๆ ให้ แต่แม่กลับเบือนหน้าหนีและเดินเข้าบ้านไปทันที
    “แม่จ๋า!!!” ฉันตะโกนออกไปแล้ว แต่แม่ยังคงไม่หยุดเดิน “หนูขอโทษ...” ฉันอยากตะโกนคำขอโทษให้แม่ได้รับรู้ไว้ แต่มันคง ทำให้แม่กลับมายิ้มให้ไม่ได้
    “เธอเรียกคุณป้าว่าแม่งั้นเหรอ...กะจะเป็นภรรยาของซออึนรึไง”
หัวทองเหลืองหันมาถาม
    “เงียบไปเลย” คิมซออึนหน้าบึ้ง
    ฉันไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ทำไมแม่ยังไม่ยอมรับฉัน ไม่ยิ้มให้ฉัน เหมือนที่ยิ้มให้หัวทองเหลือง แม่คงไม่รักหนูแล้วใช่ไหมคะ
    ฉันวิ่งออกมาจากที่ตรงนั้น ไม่อยากอยู่รับรู้ความรู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไป ไม่อยากเห็นสายตาคู่นั้น ที่มองด้วยความเฉยชา เหมือนแค่ว่า ฉันเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่อยากจะรู้จัก
    “แปล๊บ!!!” ความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง ฉันหยุดวิ่งทันที ทำไมถึงได้ทรมานมากมายขนาดนี้นะ ทำไมถึงต้องให้ฉันลืมตาขึ้นมาดูโลกใบนี้ ทั้ง ๆ ที่แม่ไม่ต้องการแบบนั้น ทำไมไม่ฆ่าฉันให้ตายตั้งแต่อยู่ในท้อง หรือตอนที่เกิดมาใหม่ ๆ ทำไม ถึงต้องให้ฉันมาทนรับความเจ็บปวดที่หนักหน่วงแบบนี้ ทำไมถึงไม่ตาย ๆ ไปซะ!!!
    ฉันทุบหน้าอกตรงที่เจ็บครั้งแล้วครั้งเล่า ทุบให้มันเจ็บปวดหนักเข้าไปอีก ทุบให้มันเป็นรอยแผลลึก ทุบให้ฉันจำติดใจ ว่าฉัน ไม่ใช่ลูกของแม่...
    ฉันเดินกุมหน้าอกกลับเข้าบ้าน ความเจ็บปวดไม่ได้คลายลงไปเลยสักนิด ยังคงเจ็บแปลบปลาบอยู่ตลอดเวลา ฉันเป็นอะไรกันแน่นะ...
   
“มินยอน ไปทานข้าวกันเถอะ” เฮมีเอ่ยชวนขณะที่ฉันกำลังนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง “มินยอน มินยอน! มินยอน!!!”
    “อะไร” ฉันสะดุ้งตกใจ
    “นั่งเหม่ออยู่ได้ ไปทานข้าวกัน” 
    “อืม”
    ตอนนี้สถานการณ์ที่โรงเรียนก็แย่ลงเหมือนกัน เฮนากับเฮมีไม่ยอมพูดกันเลย ไม่คิดแม้แต่จะชายตามองกันด้วยซ้ำ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ
    ฉันเดินตามหลังเฮมีออกไปเงียบ ๆ
“รุ่นพี่คิมควางคะ” เราสองคนหันไปตามเสียงนั้น “ได้โปรด รับไว้ด้วยนะคะ!!” เด็กนักเรียนหญิงม.ปลายปีหนึ่งยื่นจดหมายสีแดงให้แก่คิมควาง สารภาพรักอีกแล้วสิ คิมควางมีแต่คนรัก แต่เรา กลับมีแต่คนเกลียด
“เนื้อหอมตามเคย” เฮมีหันมายิ้มให้ฉัน “ทำไมหน้าบูดอย่างงั้นล่ะ”
“หน้าฉันบูดเหรอ”
“ทำใจเถอะ...ฉันรู้ว่าเธอชอบคิมควางมากพอ ๆ กับพวกฉัน ไม่ใช่สิ! ชอบมากพอ ๆ กับฉัน” เฮมีหยุดพูดไป 
ฉันรู้ว่าเฮมียังคงคิดถึงเฮนาอยู่ตลอดเวลา เพื่อน ไม่ว่าจะทะเลาะกันนานแค่ไหน ถ้าได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนแล้ว ก็ตัดกันไม่ขาดหรอก
“ขอโทษนะ ฉันมีคนที่รักมาก ๆ อยู่แล้ว ฉันไม่อยากให้ความหวังคนอื่น ไม่อยากทำให้ใครเสียใจ ฉันเชื่อนะ ว่าเธอจะได้เจอคนที่เหมาะสมมากกว่าฉัน”
เขากล่าว ก่อนจะเดินจากไป แล้วใครกันนะ...ที่เขารักมาก??
“ไปพูดกับเฮนาให้รู้เรื่องเลยดีไหม” ฉันหันมาถามเฮมี
“ไม่จำเป็นหรอก ฉันสมควรจะโดนแบบนี้แล้วล่ะ ก็ดันใจร้อนเองนี่นา”
ฉันได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ ส่งให้เพื่อน พลางตบบ่าเบา ๆ ให้กำลังใจ
“ขอโทษนะเฮมี...มินยอน...คิมควาง ฉันรักพวกเธอมาก แต่ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง” เฮนาปาดน้ำตาที่แก้มก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำ 
   
“มินยอน!!!!” เฮมีวิ่งหน้าตื่นเข้ามา “เฮนา” 
    “เฮนา ทำไม มีอะไร”
    “เฮนาเขา...พยามจะฆ่าตัวตาย”
    “อะไรนะ” ไม่น่าเชื่อเลยสักนิด ว่าคนอย่างเฮนา ที่มีรอยยิ้มบนใบหน้าอยู่ตลอดเวลา จะคิดทำร้ายตัวเองได้
    “คิมควางรู้รึยัง”
    เฮมีพยักหน้า “ตอนนี้คิมควางล่วงหน้าไปโรงพยาบาลก่อนแล้ว เขาให้ฉันมาบอกให้เธอรู้ เรารีบไปกันเถอะ”
    “อืม”
    ฉันกับเฮมีวิ่งออกมาจากห้องด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ นั่นก็คือความรู้สึกผิด ที่ปล่อยให้เรื่องมันจบลงแบบนี้ เฮมีเองก็คงอยากจะร้องไห้เอามาก ๆ เพราะเวลานี้ ตาของเธอช่างดูหม่นหมองเสียเหลือเกิน
    “เฮนา!!! เธอเป็นยังไงบ้าง” เฮมีเปิดประตูพรวดเข้าไป
    “เฮมี...”
    “ฉันขอโทษ ฉันขอโทษจริง ๆ นะ ที่พูดทำร้ายเธอแบบนั้น ฉันนี่ช่างเป็นเพื่อนที่แย่เสียจริง” เฮมีโผเข้ากอดเฮนาทันทีพลางปล่อยโฮออกมา
    “ฉันต่างหากที่ควรขอโทษพวกเธอ ฉันนี่ช่างเห็นแก่ตัวจริง ๆ เลย” เฮนาปล่อยโฮออกมาอีกคน
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะนะ ฉัน ก็ต้องขอโทษเธอเหมือนกัน” ฉันบอก พลางกุมมือของเพื่อนทั้งสองเอาไว้
    “พวกเธอก็คืนดีกันได้ซะทีนะ” คิมควางที่นั่งนิ่งอยู่พูดขึ้น “ความจริงแล้ว ยัยนั่นไม่ได้จะฆ่าตัวตายหรอก มันเป็นแผนการน่ะ แล้วฉันก็ เป็นต้นคิดด้วย เห็นพวกเธอไม่ยิ้มให้กัน ฉันเซ็งจะตายชัก”
    แล้วเสียงร้องไห้ของเฮมีก็หยุดกึก 
    “เธอหลอกฉันเหรอ ซองเฮนา!!!”
    “ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ก็ไม่รู้นี่นา ว่าควรจะทำยังไงดี ฉันไม่กล้าไป
ขอโทษเธอนี่”
    “ช่างเหอะ...ครั้งนี้ฉันขอโทษเธอก่อน แต่ถ้ามีครั้งหน้า เธอต้องเป็นฝ่าย
ขอโทษฉันก่อน นะ” แล้วทั้งสองคนก็โผเข้ากอดกันอีกครั้ง 
    “ลืมฉันไปแล้วเหรอเนี่ย”
    “โถ...มินยอน มากอดกับฉันก็ได้นะ” คิมควางอ้าแขนกว้าง
    “อยากตายรึไง” แล้วพวกเราก็พากันหัวเราะ...อย่างมีความสุข
    หลังจากที่พากันกลับไปที่โรงเรียน ก็โดนอาจารย์ดุเอาจนได้ นี่สิ ถึงจะเรียกว่ามีสีสัน ได้ทำอะไรสนุก ๆ กับเพื่อน ๆ
    เช้าแล้วเหรอเนี่ย ทำไมถึงรู้สึกปวดหัวจังเลย...เมื่อวานเราไปทำอะไรมานะ? เมื่อวาน...ไอ้ติงต๊องพาเราไปร้านเกมนี่นา แล้วก็...มีเรื่องกับยัยคุณหนูแห่ง
ควอนดังแฮ เฮ้อ! น่าเบื่อชะมัดเลย...
    “ตื่นแล้วเหรอ” พี่แจวอนเปิดประตูเข้ามา ฉันขยี้ตาเบา ๆ “วันนี้ยังไม่ต้องไปโรงเรียนหรอกนะ อยู่บ้านนี่แหละ ดีแล้ว” แล้วพี่แจวอน ก็เดินหน้ามุ่ยออกจากห้องไป
    อยู่บ้านอีกแล้วเหรอเนี่ย ทำไมชีวิตฉันถึงไม่มีสีสันเอาซะเลย อะไร ๆ ก็อยู่บ้าน เบื่อ!!! เข้าใจไหม! และขณะที่ฉันเหลือบไปมองดูตัวเองในกระจกบนผนังห้อง 
    “What’s happen!!!!!” ฉันตะโกนแหกปากลั่นบ้าน อะไรกันเนี่ย ทำไมหน้าตาฉันเป็นอย่างงี้ล่ะ มันดูไม่ได้เอาซะเลย ตาฉันทั้งบวมทั้งช้ำ แล้วก็ยังแก้ม
นุ่ม ๆ ของฉันอีก ทำไมถึงได้ดูน่าเกลียดมากมายขนาดนี้เนี่ย
    “เป็นอะไรไปมินยอน” พ่อเปิดประตูพรวดเข้ามา
    “ทำไมหน้า...มันบวมเป่งอย่างงี้ล่ะคะ”
    “แล้วลูกไปทำอะไรมาล่ะ...เมื่อคืนมันบวมกว่านี้อีกนะ” บวมกว่านี้อีกเหรอ “แต่มันก็หายบวมไปเยอะแล้วนี่ ไปขอบคุณพี่ชายแกซะนะ เมื่อคืนคงไม่ได้นอนเลย”
    “ทำไมถึงไม่ได้นอนล่ะคะ?” 
    “ก็เมื่อคืน พี่แกคอยเอาผ้าชุบน้ำอุ่น ๆ ประคบไอ้ที่มันบวม ๆ ให้น่ะสิ” 
    พี่แจวอนดูแลเราขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ทำไมพี่ถึงช่างแสนดีเสียจริง เป็นห่วงเรามากมายขนาดนี้ แต่เรากลับทำให้พี่ต้องลำบากใจอยู่เรื่อย ขอโทษนะคะพี่... 
ไดอารี่ของมินยอน...
    วันนี้หนูคงคิดถึงแม่ไม่ได้สินะ...บอกรักแม่ก็ไม่ได้ รอคอยให้แม่กลับมาอีกก็ไม่ได้ ร้องไห้เพราะคิดถึงแม่ก็ไม่ได้...คิดถึงเรื่องราวที่ครอบครัวเราจะมีความสุข อยู่กันพร้อมหน้า ก็คงไม่ได้สินะ...คงทำได้แต่...เกลียดแม่เท่านั้น
21 กรกฎาคม 2548
    แล้ววันอาทิตย์ก็มาถึง มันเคยเป็นวันที่ฉันชอบมากที่สุด เพราะว่า ฉันจะได้เจอแม่...แต่วันนี้ ฉันจะไม่รอคอยอีกต่อไป
    “จะไปไหนแต่เช้ามินยอน” พี่แจวอนหยุดถามที่ประตูห้องครัว
    “วันนี้จะไปเที่ยวกับคู่หูซองฮานเฮน่ะ...พี่จะไปด้วยกัน ไหม”
    “ไม่ล่ะ...ระวังตัวด้วยแล้วกันนะ พวกเด็กควอนดังแฮ เดินกันให้ควักอยู่เต็มเมือง” 
    “รับทราบ!! จะรีบกลับบ้านมาชู้ตบาสทันทีเลย”
    “ชู้ตบาสทำไม???”
    “ก็พี่เป็นห่วงอยู่ไง ไปนะ”
    ฉันโบกมือลาพี่ชายสุดรักที่กำลังเอามือขยี้ผมฉันเบา ๆ
    วันนี้ซองเฮนาเพื่อนตัวแสบของฉัน มีนัดบอร์ดกับเด็กโรงเรียนฝั่งตรงข้ามแล้วไงล่ะ...ฉันจะทำให้เด็กควอนดังแฮจ๋อยไปเลยคอยดู เรานัดเจอกันที่ร้านคอฟฟี่
ช็อป ชื่อดังแถว ๆ โรงเรียน (ความจริงแล้วก็ไม่ได้ดังมากมายอะไรนักหรอก)        พอเปิดประตูเข้าไปข้างในร้าน ก็เห็นมีแต่เด็กนักเรียนที่คุ้นหน้าคุ้นตาในโรงเรียนเต็มไปหมด และที่แน่ ๆ พวกที่เป็นจุดสนใจมากที่สุดในร้าน ก็ไม่พ้นเด็ก
ควอนดังแฮ 
“มินยอน ทางนี้!” เฮมีกวักมือเรียกฉัน
“หวัดดี” ฉันกล่าวทักทายเฮมีและคิมควางที่นั่งรออยู่ 
“มาช้าจังเลยนะ” เฮมีมองค้อน ๆ
“โทษที” ฉันยิ้มแหย ๆ “แล้วเฮนาล่ะ”
“นั่งอยู่ตรงนั้นไง” คิมควางชี้ไปที่คนกลุ่มหนึ่ง
ในกลุ่มนั้น มีผู้หญิงอยู่สามคน หนึ่งในนั้นก็คือ ซองเฮนาเพื่อนฉันล่ะ...และอีกสี่หนุ่มที่ฉันมองเห็นแต่ด้านหลังของเขา อยากรู้จัง ว่าพวกเด็กควอนดังแฮ ที่นิยมการนัดบอร์ดจะหน้าตาเป็นยังไง
“มากันนานแล้วเหรอ” ฉันถามขึ้น 
“ก็ ราว ๆ ครึ่งชั่วโมงได้” เฮมีตอบ
“สี่หนุ่มนั่น หน้าตาเป็นยังไงบ้าง”
“...”
“ไม่หล่อเหรอเฮมี”
“จะบอกยังไงดีล่ะ...คือ...สุด ๆ ไปเลย”
“ไม่ดีจนตกใจเหรอ!!!”
“ถ้าเป็นแบบนั้น...ยัยนั่นคงไม่หัวเราะร่าหรอก ดูสิ ยิ้มซะซีดหมด”
ยิ้มซะซีด ยังไงกันนะ??? 
“แล้วเรา จะเริ่มแผนยังไง”
“ฉันลืมบอกเธอไป” เฮมีคิ้วขมวด “คือ...มีผู้ชายสองคนในกลุ่มนั้น ซึ่งเป็นคนนัดบอร์ดยัยเฮนา เขาเป็น สองในหนุ่มฮอตสุด ๆ ของควอนดังแฮ คนที่นั่งริมหน้าต่างย้อมผมสีทอง นั่น เรียวฮยองวอน แล้วอีกคนถัดมาผมสีแดง ชองซองกยู”
“แล้วยังไง” ฉันถามเสียงเรียบ 
“ก็เขาอยู่กลุ่มเดียวกันกับคิมซออึนน่ะสิ...ขืนเราไปแกล้ง ยัยเฮนาคง...” 
    “งั้น วันนี้ก็ไม่สนุกน่ะสิ” ฉันทำหน้าเบื่ออีกตามเคย 
“หน้าเธอไปโดนอะไรมา...” คิมควางถามขึ้น ทำเอาฉันรีบบังรอยข่วน
ที่ยังคงมีให้เห็นเพียงน้อยนิดที่แก้มข้างขวา
    “จริงสิ...ทำไมไม่ยอมไปโรงเรียน” เฮมีหันมาถามอีกคน
    “คือ...ตกบันได แล้วก็โดนแมวข่วนด้วย น่ะ”
    “ซวยจริง ๆ เลยนะเธอเนี่ย”
    ในขณะที่ฉันกำลังนั่งพูดไร้สาระกับเฮมีอยู่นั้น ผู้ชายคนหนึ่งก็พุ่งถลาเข้ามากอดฉันไว้
    “โอ๊ย!!”
    “ขอโทษนะ...” อีตานี่บอกกับฉัน ทั้ง ๆ ที่ยังกอดฉันไว้แน่น
    “คือ...” ความจริงแล้วฉันพยายามจะบอกให้ปล่อยฉันซะที แต่อีตานี่เล่นจ้องตาฉัน ซะจน...หน้าฉันร้อนขึ้นมาซะงั้น จะมองอะไรกันนักกันหนานะ
    “ทำอะไรของแกวะ!!!” คิมควางรีบเข้ามากระชากอีตานั่นออกไปทันที
ทำให้ฉันกลับมามีสติอีกครั้ง ตอนนี้คนทั้งร้านพากันหันมามองที่โต๊ะฉันเป็นตาเดียว
    “ขอโทษ นะ” อีตานี่บอกก่อนจะเดินจากไป
    “เรียวฮยองวอน” เฮมีหันมามองฉัน
    “เขาคือ...เรียวฮยองวอนเหรอ”
    “ใช่!!! อย่าไปเข้าใกล้มันอีกล่ะ เข้าใจไหม”
    “ทำไมต้องทำหน้าดุด้วยเล่า” ฉันหน้าบึ้งใส่คิมควาง “ฉันไม่ได้เข้าใกล้สักหน่อย ก็ไอ้บ้านั่นมันเข้ามา ” ฉันหยุดพูดไป เพราะตอนนี้คิมควางกำลังถลึงตาใส่ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยนะ
    “อย่าหงุดหงิดไปเลยน่า...เมื่อกี้เธอเห็นหรือเปล่ามินยอน”
    “อะไรเหรอ”
    “ก็ เรียวฮยองวอนไง”
    “ทำไม”
    “หล่อ...ลื่น...”
    “หล่อลื่น???”
    เฮมีพยักหน้า
    “ถ้าไอ้บ้านั่นมันหล่อ...ฉันก็นี่” คิมควางหยิบลูกเบสบอลออกมาจากกระเป๋า
    “อะไรอีกล่ะ??” คิ้วฉันจะผูกกันเป็นปมอยู่แล้วนะ
    “หล่อลูกเดียว”
    ฉันกับเฮมีกั้นหัวเราะแทบไม่ไหว นายนี่จริง ๆ เลยนะ ยูคิมควาง
    “เธอคงไม่โกรธฉันหรอกใช่ไหม” คิมควางยิ้มหวานให้ฉัน 
    “อืม” 
    “พวกเธอกำลังทำอะไรกัน” เฮนาเข้ามานั่งรวมกลุ่มกับพวกเรา
    “ก็มานั่งรอเธอไง” เฮมียิ้มกว้าง
    “พวกเธอก่อเรื่องอีกแล้วนะ”
    “เรายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ เฮนา”
    “ไม่ได้ทำอะไรเหรอ แล้วเมื่อกี้ล่ะ คิมควางเกือบจะชกฮยองวอนแล้วด้วย พวกเธอจะทำให้นัดบอร์ดของฉันพังนะ”
    “มันแค่อุบัติเหตุนะ...”
    ตอนนี้เฮนากับเฮมีกำลังใช้สายตาฟาดฟันกันอยู่
    “พอเถอะน่า” ฉันปรามขึ้น “ฉันขอโทษแล้วกัน ที่ทำให้นัดบอร์ดของเธอเกือบพัง” เฮนารีบหลบสายตาฉันทันที
    “คงอยากไปอยู่กับพวกควอนดังแฮเขามากล่ะสิท่า ไปเลย!! แล้วก็ไม่ต้องกลับมาหาพวกเรา!!” เฮมีเดินตึงตังออกไป
    เฮนาเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอก็เงียบไป ฉันได้แต่มองหน้าเพื่อนตัวแสบ ด้วยแววตาที่พอจะเชือดเฉือนเธอได้บ้าง
    “กลับเถอะ มินยอน” คิมควางกระตุกแขนเสื้อฉันเบา ๆ ก่อนจะเดินนำออกไป
    “โชคดีนะ” ฉันอวยพรเฮนาก่อนจะตามคิมควางออกมา ทิ้งไว้แต่ เฮนา เพื่อนที่รู้สึกผิดไว้ข้างหลัง
    “ขอโทษนะ...ฉันไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้” เฮนาเดินคอตกกลับไปที่โต๊ะ “ฉันขอตัวกลับก่อนนะ” หนุ่มผมแดงพยักหน้าให้เธอเบา ๆ พลางส่งยิ้มน้อย ๆ เป็นกำลังใจให้ 
    พวกเราแยกจากกันก่อนกำหนดการ ความจริงแล้วพวกเราวางแผนจะไปเที่ยวสวนสนุกกันต่อ แต่เรื่องกลับตาลปัตร กลายเป็นแบบนี้ไปซะได้ คิมควางอาสาจะไปส่งฉันที่บ้าน แต่ฉันบอกให้เขาไปส่งเฮมีจะดีกว่า เพราะตอนนี้เฮมีกำลังเสียใจเป็นที่สุด
    ฉันเดินไปหยุดที่ป้ายรถเมล์ครู่หนึ่ง ก่อนที่รถเมล์สาย 77-1 จะมา ฉันก้าวเข้าไปข้างในโดยไม่ลังเลใจเลยสักนิด แล้วรถเมล์ก็มาหยุดอยู่ที่ซอยทางเข้าที่ฉันเคยมาเมื่อไม่นานมานี้ ฉันเดินลงจากรถก่อนจะเดินเข้าไป
    ฉันหยุดยืนที่บ้านหลังใหญ่โตหลังหนึ่ง ที่มีความทรงจำอันโหดร้ายของฉัน แม่กำลังทำอะไรอยู่นะ...แม่จะยกโทษให้หนูไหมคะ หนูคิดถึงแม่เหลือเกิน เมื่อไหร่แม่จะกลับมาหนูคะ?
    น้ำตาของฉันกำลังเอ่อล้น ฉันอยากร้องไห้เหลือเกิน แม่มากอดหนูไว้ได้ไหมคะ ฉันทรุดตัวลงนั่งข้างกำแพงนั่น และนั่งรอว่าเมื่อไหร่แม่จะออกมาจากบ้าน ฉันอาจจะโชคดีได้เห็นแม่อีกสักครั้ง ฉันได้แต่รอ และรอต่อไป 
    “เธอ!! นี่เธอ!!!”
    ฉันลืมตาตื่นขึ้น มืดแล้วเหรอเนี่ย แย่จัง ฉันเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วตาบ้านี่เป็นใคร...
    “นายหัวทองเหลือง!!!” ฉันอุทานด้วยความตกใจ เมื่อมองเห็นเรียวฮยอง
วอนมานั่งยอง ๆ อยู่ตรงหน้าฉัน
    “ฉันชื่อเรียวฮยองวอน ไม่ใช่หัวทองเหลือง” เขาบอกเสียงหงุดหงิด “แล้วมานั่งทำอะไรที่หน้าบ้านคนอื่นดึก ๆ ดื่น ๆ แบบนี้”
    “เปล่า”
    “ยังจะว่าเปล่าอีก...หลับซะน้ำลายยืดเชียว”
    “ฉันไม่ได้นอนอ้าปากซะหน่อยนะ”
    “ยังจะมาเถียงอีก ขึ้นรถไปเลยไป เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอที่บ้าน”
    “ฉันกลับเองได้หรอกน่า ไม่จำเป็นต้องให้นายช่วยหรอก หัวทองเหลือง”
    “เรียวฮยองวอน ไม่ใช่หัวทองเหลือง”
    “ก็ฉันจะเรียกนายแบบนี้ แล้วจะทำไม ก็นายดันย้อมผมสีเหลืองเองนี่”
    “สีทองตะหาก” 
    “จะสีอะไรก็ช่างเหอะ”
    “ทำไมไม่เข้ามาวะ ทำอะไรของแกอยู่” แล้วคนที่ฉันไม่อยากเจอมากที่สุดก็เปิดประตูออกมา
    “ก็ฉันเจอยัยนี่มานอนน้ำลายยืดอยู่หน้าบ้านนาย”
    ไม่ได้น้ำลายยืดซะหน่อย
    “ลีมินยอน...อยากตายรึไงมานอนอยู่หน้าบ้านฉัน”
    นี่เหรอการทักทายของนายน่ะ ตาบ้าคิมซออึน
    “แล้วจะทำไมอีตาอึนอึน”
    “ชื่ออึนอึนตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” ไอ้หัวทองเหลืองหัวเราะคิก
    “เข้ามาก่อนสิฮยองวอน” แม่เดินยิ้มกริ่มออกมา แต่พอเห็นฉันเข้ายิ้มนั่นก็หายไปทันที
    ฉันมองหน้าแม่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจส่งยิ้มบาง ๆ ให้ แต่แม่กลับเบือนหน้าหนีและเดินเข้าบ้านไปทันที
    “แม่จ๋า!!!” ฉันตะโกนออกไปแล้ว แต่แม่ยังคงไม่หยุดเดิน “หนูขอโทษ...” ฉันอยากตะโกนคำขอโทษให้แม่ได้รับรู้ไว้ แต่มันคง ทำให้แม่กลับมายิ้มให้ไม่ได้
    “เธอเรียกคุณป้าว่าแม่งั้นเหรอ...กะจะเป็นภรรยาของซออึนรึไง”
หัวทองเหลืองหันมาถาม
    “เงียบไปเลย” คิมซออึนหน้าบึ้ง
    ฉันไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ทำไมแม่ยังไม่ยอมรับฉัน ไม่ยิ้มให้ฉัน เหมือนที่ยิ้มให้หัวทองเหลือง แม่คงไม่รักหนูแล้วใช่ไหมคะ
    ฉันวิ่งออกมาจากที่ตรงนั้น ไม่อยากอยู่รับรู้ความรู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไป ไม่อยากเห็นสายตาคู่นั้น ที่มองด้วยความเฉยชา เหมือนแค่ว่า ฉันเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่อยากจะรู้จัก
    “แปล๊บ!!!” ความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง ฉันหยุดวิ่งทันที ทำไมถึงได้ทรมานมากมายขนาดนี้นะ ทำไมถึงต้องให้ฉันลืมตาขึ้นมาดูโลกใบนี้ ทั้ง ๆ ที่แม่ไม่ต้องการแบบนั้น ทำไมไม่ฆ่าฉันให้ตายตั้งแต่อยู่ในท้อง หรือตอนที่เกิดมาใหม่ ๆ ทำไม ถึงต้องให้ฉันมาทนรับความเจ็บปวดที่หนักหน่วงแบบนี้ ทำไมถึงไม่ตาย ๆ ไปซะ!!!
    ฉันทุบหน้าอกตรงที่เจ็บครั้งแล้วครั้งเล่า ทุบให้มันเจ็บปวดหนักเข้าไปอีก ทุบให้มันเป็นรอยแผลลึก ทุบให้ฉันจำติดใจ ว่าฉัน ไม่ใช่ลูกของแม่...
    ฉันเดินกุมหน้าอกกลับเข้าบ้าน ความเจ็บปวดไม่ได้คลายลงไปเลยสักนิด ยังคงเจ็บแปลบปลาบอยู่ตลอดเวลา ฉันเป็นอะไรกันแน่นะ...
   
“มินยอน ไปทานข้าวกันเถอะ” เฮมีเอ่ยชวนขณะที่ฉันกำลังนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง “มินยอน มินยอน! มินยอน!!!”
    “อะไร” ฉันสะดุ้งตกใจ
    “นั่งเหม่ออยู่ได้ ไปทานข้าวกัน” 
    “อืม”
    ตอนนี้สถานการณ์ที่โรงเรียนก็แย่ลงเหมือนกัน เฮนากับเฮมีไม่ยอมพูดกันเลย ไม่คิดแม้แต่จะชายตามองกันด้วยซ้ำ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ
    ฉันเดินตามหลังเฮมีออกไปเงียบ ๆ
“รุ่นพี่คิมควางคะ” เราสองคนหันไปตามเสียงนั้น “ได้โปรด รับไว้ด้วยนะคะ!!” เด็กนักเรียนหญิงม.ปลายปีหนึ่งยื่นจดหมายสีแดงให้แก่คิมควาง สารภาพรักอีกแล้วสิ คิมควางมีแต่คนรัก แต่เรา กลับมีแต่คนเกลียด
“เนื้อหอมตามเคย” เฮมีหันมายิ้มให้ฉัน “ทำไมหน้าบูดอย่างงั้นล่ะ”
“หน้าฉันบูดเหรอ”
“ทำใจเถอะ...ฉันรู้ว่าเธอชอบคิมควางมากพอ ๆ กับพวกฉัน ไม่ใช่สิ! ชอบมากพอ ๆ กับฉัน” เฮมีหยุดพูดไป 
ฉันรู้ว่าเฮมียังคงคิดถึงเฮนาอยู่ตลอดเวลา เพื่อน ไม่ว่าจะทะเลาะกันนานแค่ไหน ถ้าได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนแล้ว ก็ตัดกันไม่ขาดหรอก
“ขอโทษนะ ฉันมีคนที่รักมาก ๆ อยู่แล้ว ฉันไม่อยากให้ความหวังคนอื่น ไม่อยากทำให้ใครเสียใจ ฉันเชื่อนะ ว่าเธอจะได้เจอคนที่เหมาะสมมากกว่าฉัน”
เขากล่าว ก่อนจะเดินจากไป แล้วใครกันนะ...ที่เขารักมาก??
“ไปพูดกับเฮนาให้รู้เรื่องเลยดีไหม” ฉันหันมาถามเฮมี
“ไม่จำเป็นหรอก ฉันสมควรจะโดนแบบนี้แล้วล่ะ ก็ดันใจร้อนเองนี่นา”
ฉันได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ ส่งให้เพื่อน พลางตบบ่าเบา ๆ ให้กำลังใจ
“ขอโทษนะเฮมี...มินยอน...คิมควาง ฉันรักพวกเธอมาก แต่ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง” เฮนาปาดน้ำตาที่แก้มก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำ 
   
“มินยอน!!!!” เฮมีวิ่งหน้าตื่นเข้ามา “เฮนา” 
    “เฮนา ทำไม มีอะไร”
    “เฮนาเขา...พยามจะฆ่าตัวตาย”
    “อะไรนะ” ไม่น่าเชื่อเลยสักนิด ว่าคนอย่างเฮนา ที่มีรอยยิ้มบนใบหน้าอยู่ตลอดเวลา จะคิดทำร้ายตัวเองได้
    “คิมควางรู้รึยัง”
    เฮมีพยักหน้า “ตอนนี้คิมควางล่วงหน้าไปโรงพยาบาลก่อนแล้ว เขาให้ฉันมาบอกให้เธอรู้ เรารีบไปกันเถอะ”
    “อืม”
    ฉันกับเฮมีวิ่งออกมาจากห้องด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ นั่นก็คือความรู้สึกผิด ที่ปล่อยให้เรื่องมันจบลงแบบนี้ เฮมีเองก็คงอยากจะร้องไห้เอามาก ๆ เพราะเวลานี้ ตาของเธอช่างดูหม่นหมองเสียเหลือเกิน
    “เฮนา!!! เธอเป็นยังไงบ้าง” เฮมีเปิดประตูพรวดเข้าไป
    “เฮมี...”
    “ฉันขอโทษ ฉันขอโทษจริง ๆ นะ ที่พูดทำร้ายเธอแบบนั้น ฉันนี่ช่างเป็นเพื่อนที่แย่เสียจริง” เฮมีโผเข้ากอดเฮนาทันทีพลางปล่อยโฮออกมา
    “ฉันต่างหากที่ควรขอโทษพวกเธอ ฉันนี่ช่างเห็นแก่ตัวจริง ๆ เลย” เฮนาปล่อยโฮออกมาอีกคน
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะนะ ฉัน ก็ต้องขอโทษเธอเหมือนกัน” ฉันบอก พลางกุมมือของเพื่อนทั้งสองเอาไว้
    “พวกเธอก็คืนดีกันได้ซะทีนะ” คิมควางที่นั่งนิ่งอยู่พูดขึ้น “ความจริงแล้ว ยัยนั่นไม่ได้จะฆ่าตัวตายหรอก มันเป็นแผนการน่ะ แล้วฉันก็ เป็นต้นคิดด้วย เห็นพวกเธอไม่ยิ้มให้กัน ฉันเซ็งจะตายชัก”
    แล้วเสียงร้องไห้ของเฮมีก็หยุดกึก 
    “เธอหลอกฉันเหรอ ซองเฮนา!!!”
    “ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ก็ไม่รู้นี่นา ว่าควรจะทำยังไงดี ฉันไม่กล้าไป
ขอโทษเธอนี่”
    “ช่างเหอะ...ครั้งนี้ฉันขอโทษเธอก่อน แต่ถ้ามีครั้งหน้า เธอต้องเป็นฝ่าย
ขอโทษฉันก่อน นะ” แล้วทั้งสองคนก็โผเข้ากอดกันอีกครั้ง 
    “ลืมฉันไปแล้วเหรอเนี่ย”
    “โถ...มินยอน มากอดกับฉันก็ได้นะ” คิมควางอ้าแขนกว้าง
    “อยากตายรึไง” แล้วพวกเราก็พากันหัวเราะ...อย่างมีความสุข
    หลังจากที่พากันกลับไปที่โรงเรียน ก็โดนอาจารย์ดุเอาจนได้ นี่สิ ถึงจะเรียกว่ามีสีสัน ได้ทำอะไรสนุก ๆ กับเพื่อน ๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น