ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 1.1
              ตอนแรกฉันก็กะจะตอบอยู่แหละ แต่พอเห็นหน้าหมอนั่นแล้ว ฉันก็อึ้งไปเลย คนอะไรหน้าตาดีเป็นบ้า ริมฝีปากสีชมพูอ่อนได้รูป จมูกโด่ง ดวงตาดำขลับ ใบหน้าที่สมกับเป็นลูกชายของตระกูลดัง ผิวพรรณสะอาดสะอ้าน แล้วก็ยังผมสีดำที่เข้ากับผิวพรรณได้อย่างลงตัว (ว่าเข้าไปนั่น...แต่ก็หล่อจริง ๆ นะ)   
“...ฉันถามว่าเธอ...คือลีมินยอนใช่ไหม...” เสียงเหมือนกันฟันถามเลยแฮะ
“ใช่...มีธุระอะไร”
“เมื่อวาน...ที่ป้ายรถเมล์...เธอรังแกเด็กฉันเหรอ” เข้าใจล่ะยัยคุณหนูแห่ง
ควอนดังแฮนี่เอง ไม่ยักรู้ว่าจะวิ่งแจ้นไปบอกเร็วขนาดนี้
    “ฉันไม่ได้รังแก...เพียงแต่ชี้แนะ...ให้คุณหนูอย่างหล่อนเข้าใจว่า เด็กควอนดังแฮไม่ได้ใหญ่ไปกว่าเด็กซูฟางอูซักเท่าไหร่หรอก”
    “แต่ยัยนั่นบอกว่า เธอผลักด้วยนี่”
    “ก็แค่นิ้วชี้”   
“ไม่ว่าจะยังไง...เธอก็ต้องไปขอโทษยัยนั่น...” เขาหันไปมองผู้หญิงที่นั่งอยู่บนรถ...หนึ่งในนั้นคือยัยคุณหนูแห่งควอนดังแฮ 
“ยังไง...?”
        “ก็กล่าวคำขอโทษ...แล้วก็โค้งให้สักหน่อย” 
        “จะให้ฉันยกมือไหว้แล้วก็กราบเท้าด้วยเลยไหมล่ะ...”
    “ได้แค่พูดหรือเปล่าล่ะ”
    ฉันจ้องหน้าเขาเขม็ง 
    “เสียใจนะ...วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์มาขอโทษใคร...ถ้านายอยากให้ฉันขอโทษ มาใหม่พรุ่งนี้แล้วกัน...ฉันอาจจะเปลี่ยนใจ”
ฉันไม่ยอมขอโทษยัยนั่นหรอก ฝันไปซะเถอะ 
    “เธออยากตายรึไง...” เขาพูดขึ้นมา เมื่อฉันเดินผ่านเขาไปโดยไม่สนใจ
“ขอโทษเดี๋ยวนี้!!!” ตะโกนให้ตายฉันก็ไม่ขอโทษหรอก...ฉันยังคงยืนหันหลังให้เขา และจะไม่ยอมปริปากพูดคำใด ๆทั้งสิ้น “ลีมินยอน...” เขาเรียกชื่อฉันอีกครั้ง ก่อนจะเอื้อมมาจับที่แขนซ้ายของฉัน
    “ผัวะ!!!” ฉันหวดกำปั้นใส่เขาเต็มแรง แต่เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะเซถลาเลยแม้แต่น้อย...แกร่งดีหนิ 
    “อย่ามายุ่งกับฉัน...” ฉันถลึงตาใส่ 
    “...” เขานิ่งเงียบไป ก่อนจะเช็ดเลือดที่มุมปากแล้วหันมาจ้องหน้าฉันด้วยสายตาเคียดแค้น “ฉันเอาเธอตายแน่...” เขากล่าวเสียงเรียบก่อนจะกลับขึ้นรถไป
    ไม่แน่นี่หว่า...
    “มินยอน...ทำไมเธอถึงไปทำเขาแบบนั้นล่ะ...เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเขาเป็นเจ้าพ่อแห่งควอนดังแฮ...ทีนี้เธอต้องตายแน่ ๆ ตายแบบอึ่งอ่างโดนฟ้าผ่า แล้วยังโดนรถทับอีก แล้วจากนั้นก็”
    “เฮนา...” ฉันทำหน้าแบบว่า ‘ ไม่ต้องสาธยายความซวยของฉันก็ได้ ’ 
    “เอ่อ...ฉันพูดเล่นนะมินยอน...ความจริงแล้วเธอไม่น่าไปทำแบบนั้นเลย...เพราะมันอาจส่งผลร้ายให้เธอก็ได้นะ...พวกนั้นคงไม่ยอมเลิกราง่าย ๆ แน่”
        “...”
    “เอ่อ...ขอโทษนะมินยอน...เธอยังไม่หายโกรธฉันอีกเหรอ...ฉันแค่เป็นห่วงเธอเองนะ...ฉันก็แค่หวัง...ดี”
    “...”
    “มินยอน...ฉันจะกลับล่ะนะ...ขืนเธอไม่พูดกับฉันอีก...ฉันบีบคอเธอจริง ๆ นะ”
    “...”
    “ขอโทษแล้วไงเล่า...”
    “...”
    “มินยอน...”
    “...”
    “ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก กรุณาฝากข้อความเอาไว้หลังจากได้ยินเสียงสัญญาณ...ปี้~~ มินยอน...ฉันจะกลับล่ะนะ พรุ่งนี้เธอต้องหายโกรธฉันนะ ฉันจะซื้ออมยิ้มรสอร่อย ๆ มาฝากแล้วกัน แต่เธอต้องหายโกรธฉันด้วยนะ...แล้วอย่าลืมล่ะ ฉันขอโทษจริง ๆ” เฮนาพยามทุกวิถีทางที่จะทำให้ฉันพูด แต่ตอนนี้ฉันต้องขอโทษเธอจริง ๆ นะ ฉันไม่อยากจะพูดจริง ๆ ทำไมฉันต้องเจอเรื่องเฮงซวยแบบนี้ทุกวันด้วยนะ...โธ่เว้ย...ไม่น่ามือไวเล้ย...ฉันต้องตายแน่ ๆเลยคราวนี้ สวรรค์ ช่วยลูกด้วยเถอะเจ้าค่ะ... 
    แล้ววันอาทิตย์ที่ฉันรอคอยก็มาถึง น่าแปลกที่ตลอดทั้งอาทิตย์ไม่เกิดอะไรขึ้นกับฉันเลย ฉันต้องคอยระแวดระวังแทบตาย ทั้งตอนขึ้นรถเมล์ ตอนเข้าห้องน้ำแล้วก็ตอนกินข้าวกลางวัน กลัวว่าไอ้หมอนั่นจะเขวี้ยงระเบิดเข้ามาในโรงเรียน แต่...ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยสักกะอย่าง...คงหายห่วงได้แล้วมั้งเนี่ยเรา
    “มินยอน แม่ไม่มาอีกเหรอ...พี่ต้องไปทำงานพิเศษแล้วนะ” พี่แจวอนดูลุกลี้ลุกลนกว่าปกติ 
    “ไม่รู้สิ...ทุกทีแม่จะมาตอนเก้าโมงเช้า แต่นี่มันปาเข้าไปเกือบเที่ยงแล้วนะ...หรือว่าแม่จะไม่สบาย”
    “คงติดธุระมาไม่ได้มากกว่า”
    “พวกแกยังรอกันอยู่อีกเหรอ” พ่อเดินหน้าบึ้งเข้ามาในห้องครัว
    “ก็แม่ไม่มาตามนัด...เราก็จำเป็นต้องรอสิฮะ” พี่แจวอนตอบไป
    “มินยอน...ลูกจะไม่พูดกับพ่อเลยใช่ไหม” พ่อหันมาถามฉัน
    “...”
        ฉันไม่ได้พูดกับพ่อมาตั้งแต่วันที่พ่อตบหน้าฉันเพราะผู้หญิงกระโปรงแดงปรี๊ดปร๊าดคนนั้น และฉันก็จะยังไม่พูดต่อไปอีก ถ้ายัยกระโปรงแดงไม่ยอมออกไปจากบ้านหลังนี้
    “ตามใจลูกแล้วกัน...ถ้าลูกไม่อยากพูดกับพ่อ พ่อก็คงทำอะไรไม่ได้”
รู้ตัวก็ดีแล้วล่ะพ่อ
    “พี่คงต้องไปก่อนแล้วล่ะ...ไปสายคงโดนตัดเงินเดือนเอาแน่เลย”
พี่แจวอนหันไปหยิบกุญแจรถ
    “แล้วถ้าแม่ไม่มาล่ะ...”
    “อาทิตย์หน้าก็ยังมีนี่นา”
    “แต่ฉันไม่อยากรอแล้วหนิ”
    “แล้วแกจะทำอะไรได้”
    ฉันนั่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากที่พี่แจวอนออกไป ฉันจึงตัดสินใจจะไปเจอแม่ที่บ้าน พ่อคงไม่สนใจฉันหรอกหากฉันจะหายไปสักครึ่งวัน เพราะเวลาอยู่กับยัยกระโปรงแดงคงลืมลูกสาวอย่างฉันไปแล้วล่ะ
    ฉันเดินออกมาจากบ้านโดยไม่สนใจเสียงเรียกของพ่อ...แล้วก็วิ่งไปยังป้ายรถเมล์หน้าปากซอย ฉันรออยู่ครู่หนึ่งแล้วรถเมล์สาย 77-1 ก็มา ในมือของฉันมีกระดาษสีขาวเล็ก ๆ ที่มีบ้านเลขที่ของแม่อยู่ ฉันถือมันด้วยความมั่นใจ แม่จะต้องดีใจแน่ ๆ ที่เห็นฉันไปหาถึงบ้าน...
    แล้วฉันก็มาถึงบ้านหลังหนึ่ง...ไม่น่าเชื่อว่าแม่จะอยู่บ้านหลังใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้  ถ้าพวกเราได้มาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาที่บ้านหลังนี้ก็คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว ฉันเอื้อมมืออันสั่นเทาไปกดกริ่งหน้าบ้านอยู่สองสามครั้ง หลังจากนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งอายุดูจะประมาณฉันวิ่งมาเปิดประตูให้...เธอน่ารักใช่เล่นเลยล่ะ
    “มาหาใครคะ...?” เธอถามเสียงใส
    “มาหาคุณลี...คิม...ยอนนา...คะ” ฉันตอบตะกุกตะกัก เธอมองฉันอย่างพินิจพิจารณา
    “คุณแม่เหรอคะ...เข้ามาข้างในก่อนสิคะ”
   
“น้ำคะ...”
    “ขอบคุณคะ” 
    “ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรกับคุณแม่หรือเปล่าคะ...ตอนนี้คุณแม่กำลังอาบน้ำอยู่เลย”
    “ค่ะ...ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ...คือ...ตั้งใจมาเยี่ยม...น่ะค่ะ” 
“ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรคะ...” เธอยิ้มหวานให้ฉัน
“ลีมินยอนค่ะ”
    “ลีมินยอน...” เธอขมวดคิ้วเมื่อเอ่ยทวนชื่อฉัน “เรียนที่ไหนคะ...?”
    “เรียนอยู่ที่ซูฟางอูค่ะ...ม.ปลายปีสอง”
    “ฉันเรียนอยู่ที่ควอนดังแฮ...ม.ปลายปีสามค่ะ”
    เด็กควอนดังแฮเหรอเนี่ย...ซวยแน่ ๆ เลย
    “จริงเหรอคะ...พี่ชายฉันก็เรียนอยู่ที่นั่นเหมือนกัน...อยู่ปีสาม รู้สึกว่าจะอยู่ห้องเอหรือว่าห้องบีนี่แหละค่ะ ฉันไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่หรอก”
    “ใช่...ลีแจวอนหรือเปล่าคะ...?”
    “ถูกเผงเลยคะ...คุณรู้จักด้วยเหรอคะ...”
    เธอพยักหน้าตอบ “เรียกฉันว่าพี่ซองอาก็ได้นะ...” อาจจะไม่ซวยก็ได้
    “ค่ะ...พี่ซองอา พี่แจวอนอยู่ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้างคะ” ฉันเริ่มคำถามแรก
    “แจวอนเหรอ...เขาเป็นคนดังของปีสามเลยนะ...ดังไม่แพ้น้องชายของพี่เลยล่ะ...ตอนแรกที่พี่เห็นเธอ ก็ยังนึกว่าเธอเป็นแฟนคลับของน้องชายพี่เสียอีก...เพราะเธอน่ารักมาก ๆ เลยล่ะ พี่เลยอยากรู้จัก...และก็ไม่คิดว่าจะเป็นน้องของ
แจวอนอีก...”
    “พี่เป็นเพื่อนของพี่แจวอนเหรอคะ...”
    “เอ่อ...ไม่ใช่หรอกจ้ะ...พี่อยู่คนละห้องกับแจวอนเขานะ เขาอยู่ห้องเอ ส่วนพี่อยู่ห้องบี...เวลาที่เขาเดินผ่าน พวกพี่ก็จะมองตามกันใหญ่เลย เพราะเขาเป็นคนที่ตัวสูง ใจดี...เขาชอบยิ้มด้วยนะ”
พี่แจวอนเนี่ยนะใจดี แล้วก็ชอบยิ้ม...เรื่องตลกรึเปล่า 
“ผมสีน้ำตาลออกส้มหน่อย ๆ ที่เขาเพิ่งไปทำมา ทำให้เขาเป็นที่สะดุดตาของเหล่านักเรียนหญิงหลายต่อหลายคนเลยนะ...เขามักจะได้ไปอธิบายบทเรียนยาก ๆ ให้ห้องอื่น ๆ ฟัง...เขาก็จะทำหน้าเฉยชาใส่ทุกคนในห้องเลยล่ะ แล้วเขาก็จะอธิบายไปอย่างช้า ๆ เวลามาอธิบายที่ห้องของพี่ พวกพี่ก็จะตั้งใจฟังกันใหญ่ เพราะเสียงของเขาน่าฟังมาก ๆ เลย...แถมแจวอน ยังเป็นหัวหน้าชมรมดนตรีอีกด้วย...นาน ๆ ทีจะได้ฟังเขาร้องเพลง...เขาเสียงดีมากเลยนะ” 
    พี่ซองอาสาธยายซะยืด “พี่ชอบพี่แจวอนหรือเปล่าคะ...??” ฉันเอ่ยถาม แล้วพี่ซองอาก็หน้าแดงขึ้นมาเฉยเลย 
    “...”
    “ไม่ต้องตอบก็ได้ค่ะ...”
    “แม่ครับ...วันนี้ผมอยากกินบาร์บีคิวจังเลย...แม่ทำให้กินหน่อยได้มะ...”
เสียงของผู้ชายคนนี้ฟังดูคุ้น ๆ แฮะ...
    “ได้สิจ้ะ...เดี๋ยวแม่จะทำให้กิน...ซองอาใครมาเหรอลูก...” แล้วเสียงที่ฉันรอคอยมาเกือบทั้งอาทิตย์ก็เอ่ยถามพี่ซองอา
    “ลีมินยอนค่ะแม่...เขามาหาแม่น่ะค่ะ” พี่ซองอาเดินเข้าไปควงแขนผู้หญิงคนนั้น
    “มินยอน...” แม่เรียกชื่อฉันเบา ๆ ก่อนจะนิ่งไปไม่พูดอะไรไปมากกว่านั้น
    “สวัสดีค่ะ...” ฉันโค้งตัว
    “เมื่อกี้พี่ว่าใครมานะ...” แล้วฉันก็ต้องหยุดกึกเมื่อเจ้าของต้นเสียงที่ว่า
คุ้น ๆ นั้นเดินขมวดคิ้วออกมา “เฮ้ย!!” เขาอุทานเสียงดัง
ที่แท้นายนี่ก็คือคิมซออึน เจ้าพ่อแห่งควอนดังแฮนี่เอง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตาบ้านี่จะเป็นลูกของแม่...ลูกติดสามีน่ะ...เป็นไปได้ยังไงกัน...ตานี่เป็นลูกเลี้ยงของแม่งั้นเหรอ...ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับฉันอยู่เรื่อยเลย...เฮ้อ!! อ่อนใจ 
“เธอมาทำอะไรที่บ้านของฉันกันเนี่ย...ตามมารังควานกันถึงนี่เลยเหรอ” ฉันไม่ได้มาหานายซะหน่อย สำคัญตัวเองผิดไปหน่อยไหม
    “กลับมาแล้วจ้ะ...ทำอะไรกันอยู่เอ่ย” แล้วฉันก็ได้เจอคิมแทฮุนตัวจริง ถึงแม้ว่าเขาจะดูมีอายุแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังคงดูดี 
            “วันนี้เราจะจัดปาร์ตี้กันค่ะคุณ” แม่เดินเข้าไปหอมแก้มเขา แล้วถือเสื้อของเขาไปเก็บไว้ แม่น่าจะทำแบบนี้กับพ่อบ้าง...คงจะมีความสุขไม่น้อยเลย
    “ใครกัน...?” เขาเอ่ยถามแม่เมื่อมองเห็นฉัน
    “สวัสดีคะ...ฉันลีมินยอน...” ฉันโค้งตัวเคารพ
    “ลีมินยอน...คุ้น ๆ ยังไงบอกไม่ถูกนะ” เขาหันไปพูดกับแม่
    “แม่รู้จักยัยนี่ด้วยเหรอ...” ตาคิมซออึนจ้องหน้าฉันใหญ่
    “จ้ะ...มินยอนเขาเป็น...เอ่อ...หลานของแม่น่ะจ้ะ”
หลาน...งั้นเหรอ แม่หมายความว่ายังไงกัน ฉันเป็นแค่หลานของแม่งั้นเหรอ...ฉันไม่ใช่ลูกของแม่รึไงกัน
    “ยัยนี่เป็นญาติฝ่ายไหนของเราฮะ...หน้าตาไม่เห็นมีเค้าเลย” อีตาบ้าเอ๊ย ฉันไม่ได้เป็นญาติของนายซะหน่อย และก็ไม่อยากเป็นด้วย
    “อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนไหมล่ะ...” ลุงคิมหันมาชวนฉัน
    “อย่าเลยจะดีกว่าค่ะ...มินยอนน่าจะกลับได้แล้ว...” แม่พูดแทรกขึ้น 
    “ไม่เห็นเป็นไรเลยค่ะแม่...ให้มินยอนอยู่ต่ออีกหน่อยเถอะค่ะ...หนูยังอยากทำความรู้จักกับลูกพี่ลูกน้องคนนี้อีกสักหน่อย” พี่ซองอายิ้มหวาน
    “อย่าดีกว่ามั้ง...ผมไม่อยากเห็นหน้ายัยนี่” ตาคิมซออึนหงุดหงิด
    “กลับเถอะมินยอน...ที่นี่ไม่เหมาะกับเธอหรอก” แม่หันมาบอกกับฉัน
    “แล้วที่ไหน...ที่เหมาะสมกับหนูล่ะคะ”
    “...”
    “คุณคงรังเกียจที่หนูมายืนอยู่ตรงนี้ใช่ไหมคะ...” ฉันจ้องหน้าแม่ “หนูคิดว่าคุณจะดีใจเสียอีก...ที่ได้เจอ...แต่มันกลับกันนะคะ...คุณกลับรู้สึกแย่”
    “เอาล่ะ...มินยอน ยังไงหนูก็อยู่ทานข้าวเย็นแล้วก็ร่วมปาร์ตี้กับครอบครัวเราด้วย...มีคนมาก ๆ จะได้สนุก” ลุงคิมพูดตัดบท
    “คุณรู้จักลีกวางมิน กับลียอนนาไหมคะ...” ฉันหันไปถามลุงคิม “ลียอนนาคือแม่ของฉัน...เธอจากครอบครัวของเราไป...ไปแต่งงานกับผู้ชายอีกคนหนึ่งที่เธอยังคงรัก และเธอก็ได้เลี้ยงลูกชายของเขา ซึ่งเป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด...แล้วก็ยังลูกสาวของเขาอีก...ลียอนนาทิ้งพ่อของฉัน ทิ้งลูกชายของตัวเอง และก็ทิ้งฉัน...ทิ้งไปหาอีกครอบครัวหนึ่ง...ครอบครัวที่มีความสุขของฉัน...ก็พลันหายไปพร้อม ๆ กับการตัดสินใจครั้งนั้น...” ลุงคิมนั่งฟังฉันอย่างเงียบ ๆ “คุณรู้ไหมคะ...ว่าหญิงร้ายชายเลวคู่นั้น...อยู่ที่ไหน...หนูตามหามาจนสุดขอบฟ้า...แต่ก็ยังไม่เจอ...ถ้าคุณเจอเขา...ช่วยบอกให้เขาทีเถอะค่ะ...คืนหญิงร้ายคนนั้น...กลับมาให้กับครอบครัวของฉัน...คืนหญิงร้ายคนนั้น...ให้มาเป็นแม่ของฉันและพี่ชาย...คืนหญิงร้ายคนนั้น...ให้กลับมาเป็นภรรยาของลีกวางมินตามเดิม...คุณจะช่วยบอกเขาให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ”
    “เธอเพ้อเจ้ออะไรมิทราบ...” คิมซออึนขัดขึ้น “รีบออกไปจากบ้านฉันซะที”
    “หยุดเดี๋ยวนี้นะซออึน” พี่ซองอาหันไปปรามเขา 
    “ฉันออกไปแน่...ถ้าฉันได้เจอแม่ของฉัน” ฉันถลึงตาใส่ตาบ้าซออึน   
“แม่ของเธอจะมาอยู่ที่บ้านฉันได้ไง...บ้ารึเปล่า...ที่ไล่มาตามหาแม่ของตัวเองตามบ้านของคนอื่น”
    “งั้นฉันก็คงจะบ้าอย่างที่นายพูดจริง ๆ แหละ...คิมซออึน”
    “กลับไปได้แล้วมินยอน...แม่ของเธอไม่ได้อยู่ที่นี้” แม่พูดขึ้นในที่สุด
    “งั้นเหรอคะ...”
    “เธอเป็นลูกสาวของลีกวางมินอย่างนั้นเหรอ” ลุงคิมถาม หน้าของเขาเริ่มถอดสี
    “คุณรู้จักลีกวางมิน...ด้วยหรือคะ...”
    ลุงคิมไม่ตอบ
    “มินยอน...ป้าขอร้องให้เธอกลับไปก่อน”
    “หนูบอกแล้วไงคะ...หนูต้องเจอแม่ก่อน”
    “แม่ของเธอตายไปแล้ว...” ลุงคิมไม่มองหน้าฉันด้วยซ้ำไป   
“งั้นเหรอคะ!!...คงใช่สินะ...แม่ของฉันตาย ตั้งแต่วันที่เธอตัดสินใจ
แต่งงานกับชายอื่น!!!...แล้วทิ้งครอบครัวไว้ข้างหลัง...เธอกลายเป็นผู้หญิงที่
น่ารังเกียจที่สุดในโลก...ไม่ยักรู้ว่าเธอหลับตาเวลานอนได้ยังไง...เธอทิ้งทุกสิ่ง
ทุกอย่าง...ทิ้ง แม้กระทั่งลูกของตัวเอง...ช่างเป็นแม่ที่โง่เขลาเสียจริงเลย...แล้วคุณกอดเธอลงเหรอคะ...คุณมั่นใจเหรอ...ว่าเธอจะไม่ทำกับคุณเหมือนที่ทำกับครอบครัวของฉัน”
    “ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้นะ!!!!” ลุงคิมตะโกนเสียงดังทำเอาพี่ซองอาสะดุ้งตกใจ
    “แล้วในที่สุด...ฉันก็ได้เจอชายเลวคนนั้น...คุณนั่นเอง...ชายเลวที่แย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากชีวิตของฉัน...แย่งความสุขทั้งชีวิตของฉันไป...แล้วก็ทิ้งไว้แต่ความทุกข์โศกที่พวกคุณสมควรจะได้รับมาไว้ที่ฉันและครอบครัวของฉัน...แบบนี้มันยุติธรรมแล้วเหรอคะ...คืนแม่ให้ฉันเถอะ!!!”
    “เธอ...” ลุงคิมโกรธจนตัวสั่น
    “คืนแม่ให้ฉัน...แล้วฉันก็จะไปจากชีวิตของพวกคุณ”
    “นี่มันแม่เธอที่ไหน...แม่ฉันต่างหาก อย่าพูดซี้ซั้วน่า”
    “หุบปากเหอะน่าคิมซออึน...นายจะไม่ยุ่งสักเรื่องได้ไหม” ฉันจ้องหน้าเขาเขม็ง “ถ้านายจะอยู่เงียบ ๆ อีกซักเดี๋ยวก็คงไม่มีใครว่านายพูดไม่ได้หรอกนะ...”
    “ฉันชักจะหมดความอดทนกับเธอแล้วจริง ๆ!!!”
    ก่อนที่เขาจะได้ก้าวเข้ามาใกล้ฉันอีกก้าวเดียว ฉันก็ตัดสินใจยกน้ำในแก้วสาดใส่หน้าเขาโดยที่ฉันไม่ลังเลใจเลยสักนิด...
    “ซออึน...” แม่รีบเข้าไปเช็ดหน้าให้เขา อย่างนี้สิถึงจะสมควรเรียกว่าแม่
“ออกไปจากบ้านของฉันเดี๋ยวนี้นะ!!! เธอมาทำกร่างที่นี้ได้ยังไง ฉันให้เงิน ให้ที่อยู่ ให้อะไรกับเธอมากมาย...แต่เธอก็ไม่เคยสำนึกในพระคุณของฉันเลย!!! เธอมันน่ารังเกียจ!!” แม่ตะโกนด่าฉันปาว ๆ โดยไม่สนใจเลยสักนิดว่าตอนนี้ฉันรู้สึกยังไง
แม่ไม่เคยรู้ว่าหนูอยากร้องไห้มากแค่ไหน หนูคิดถึงแม่ใจจะขาด หนูคิดถึงแม่ คิดถึงมาก ๆ หนูรอคอยวันที่แม่จะกลับมาหา แต่แม่กลับตอบแทนความคิดถึง การรอคอยที่ยาวนอนของหนู...แม่ตอบแทนหนูด้วยการต่อว่าเพราะลูกชายสุดรักนอกไส้ของแม่โดนหนูสาดน้ำใส่ยังงั้นเหรอคะ...แม่ไม่เคยรักหนูเลยใช่ไหม
    “ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!!” แม่ตะคอกอีกครั้ง   
    “แม่รู้ไหมค่ะ...? หนูรอคอยวันนี้ วันที่แม่จะไปเที่ยวหาหนูที่บ้าน...ทุกวันอาทิตย์ที่แม่สัญญาว่าจะไป เพื่อนชวนไปเที่ยวแต่หนูก็ปฏิเสธ เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะหนูรู้ว่าแม่ต้องมา ต้องมาหาหนูตามสัญญา...แต่แล้ว...แม่ก็ผิดคำสัญญา
หนูไม่ใช่ครอบครัวของแม่งั้นเหรอ ไม่ใช่เลือดเนื้อของแม่ใช่ไหม!!...สองคนนี้ใช่...แต่หนูไม่ใช่!!!”
    “ขอโทษนะ...ฉันไม่ใช่แม่ของเธอ...แม่ของเธอตายไปตั้งนานแล้ว...และต่อจากนี้อย่ามารบกวนฉันอีก...” แม่ที่ฉันรักมากที่สุดกำลังปฏิเสธฉัน...ปฏิเสธลูกคนนี้ น้ำตาของฉัน...มันก็ไม่ปฏิเสธที่จะเอ่อล้นออกมาเช่นกัน 
    “หนูเข้าใจแล้วล่ะ...ทำไมพ่อถึงว่าแม่เป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจ...น่ารังเกียจที่สุดในโลก...ก็เพราะแม่...เป็นนังแพศยาดี ๆ นี่เอง!!!” ฉันตะโกนออกไปพร้อมกับน้ำตาที่พรั่งพรูออกมา ฉันตะโกนคำพูดที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งฉันไม่สามารถลบเลือนมันได้อีก หนูขอโทษนะค่ะแม่...หนูไม่รู้...ว่าจะทำยังไงให้แม่กลับมา 
    “เพี้ยะ!!!” แม่ตบเข้าที่หน้าฉันโดยไม่ลังเลใจอะไรเลย ไม่คิดเลยสักนิดว่าฉันจะเจ็บปวดสักแค่ไหน แล้วทำไมล่ะ ทำไมฉันยังต้องทนต่อไปอีก
    “เพี้ยะ!!!” มือของฉันตวัดออกไปเต็มแรง มันโดนเข้าที่แก้มขวาของแม่ คนที่ฉันรักมากที่สุด แม่จ้องหน้าฉันเขม็ง ฉันก็จ้องหน้าแม่เช่นกัน ตอนนี้แม่ไม่มีน้ำตา ฉันก็ต้องไม่มีน้ำตา
    “เธออยากตายรึไงกันฮะ!!! ทำร้ายฉันคนเดียวยังไม่พอใช่ไหม...ยังต้องมาทำร้ายแม่ของฉันอีก!!!” คิมซออึนเข้ามากระชากคอเสื้อของฉันอย่างแรง เขาดูโกรธมาก ๆ ทำไมล่ะ...ฉันเข้าไปแทรกกลางระหว่างความเป็นแม่ลูกของนายไม่ได้เลยเหรอ...แม่รักนาย...แต่แม่ไม่เคยรักฉัน 
    “นายมีความสุขมากใช่ไหม!! มีความสุขมากใช่ไหม!! นายมีพ่อ...
นายมีพี่สาว...แล้วก็ยังมีแม่...คนที่นายรักมากที่สุด...นายมีครอบครัวที่อบอุ่น...ทุกคนในครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า...แต่ฉัน ไม่มี...ไม่มีอะไรที่มีความสุข!!! นายมีความสุขกับทุก ๆ วัน...แต่ฉัน...อยู่กับความทุกข์ อยู่กับความหวังลม ๆ แล้ง ๆ อยู่กับหวัง...ว่าจะได้ผู้หญิงคนนี้กลับคืนมา!!...แล้วทำไม...ทำไม...ฉันจะต้องรอคอยผู้หญิงคนนี้อีก!!!”
    คิมซออึนกำคอเสื้อฉันแน่นขึ้น
    “ถึงแม้ผู้หญิงคนนี้...จะเป็นหญิงร้ายจริง ๆ แต่ฉัน...คิมซออึน...ก็ไม่ทำร้ายคนที่ฉันรักได้ลงคออย่างเธอหรอก!!! ไหนเธอบอกว่า...เธอรอคอย เธอรักแม่ของเธอมากไง...แล้วทำไมล่ะ...ทำไมเธอถึงต้องทำร้ายเขาด้วย...เธอก็ไม่ต่างจากนังผู้หญิงแพศยาที่น่าสมเพช...ที่เธอว่าแม่ฉันหรอก...เธอมันน่ารังเกียจยิ่งกว่าแม่ของฉันเป็นร้อยเท่าพันเท่าด้วยซ้ำไป!!!...”    
“แปล๊บ!!!” แล้วความรู้สึกเจ็บก็แผ่ซ่านเข้าสู่หัวใจของฉัน มันรู้สึกไปทั่วทุกอณูในร่างกาย ฉันกุมหน้าอกไว้ เพราะมันเริ่มรู้สึกเจ็บ...เจ็บ...และเจ็บลึก
    “งั้นฉัน...ก็คงรักแม่ไม่ได้อีกแล้วสิ” ฉันหัวเราะทั้งน้ำตา “และนับตั้งแต่นี้ไปฉันก็คงบอกว่ารักแม่ไม่ได้...เพราะฉันเกลียดแม่...เกลียดมากที่สุด...เกลียดจนฝังเข้าไปในก้นบึ้งของหัวใจ!!!...หนูเกลียดแม่...หนูเกลียดแม่!!!!! แม่ได้ยิน
ไหมคะ!!! แม่ได้ยินไหมว่าหนูเกลียดแม่!!!! เกลียดมากที่สุดในโลก!!!!”
    “แปล๊บ!!!!!!” ความรู้สึกเจ็บปวดนั่น...แล่นจี๊ดเข้าสู่หัวใจของฉัน
มันทรมานแสนสาหัส ทรมานเหมือนกำลังจะตาย...แล้วในที่สุด สมองของฉันก็
ว่างเปล่า...ภาพทุกอย่างกลายเป็นสีดำ...ดำทะมึนไปหมด...ร่างกายของฉันไม่มีแรง เพราะฉันเจ็บปวดที่หัวใจอย่างมากมายเท่าที่จะเคยเจ็บมาก่อน...ฉันหมดสติไป
ทั้ง ๆ ที่ยังคงถูกกำคอเสื้ออยู่...
    ต่อจากนี้ไป...ฉันคงไม่มีสิทธิ์คิดถึงแม่อีกแล้ว...ไม่มีสิทธิ์ได้รักแม่...ไม่มีสิทธิ์ร้องโหยหา...แต่ก็คงทำได้แค่เพียง...เกลียดแม่
“...ฉันถามว่าเธอ...คือลีมินยอนใช่ไหม...” เสียงเหมือนกันฟันถามเลยแฮะ
“ใช่...มีธุระอะไร”
“เมื่อวาน...ที่ป้ายรถเมล์...เธอรังแกเด็กฉันเหรอ” เข้าใจล่ะยัยคุณหนูแห่ง
ควอนดังแฮนี่เอง ไม่ยักรู้ว่าจะวิ่งแจ้นไปบอกเร็วขนาดนี้
    “ฉันไม่ได้รังแก...เพียงแต่ชี้แนะ...ให้คุณหนูอย่างหล่อนเข้าใจว่า เด็กควอนดังแฮไม่ได้ใหญ่ไปกว่าเด็กซูฟางอูซักเท่าไหร่หรอก”
    “แต่ยัยนั่นบอกว่า เธอผลักด้วยนี่”
    “ก็แค่นิ้วชี้”   
“ไม่ว่าจะยังไง...เธอก็ต้องไปขอโทษยัยนั่น...” เขาหันไปมองผู้หญิงที่นั่งอยู่บนรถ...หนึ่งในนั้นคือยัยคุณหนูแห่งควอนดังแฮ 
“ยังไง...?”
        “ก็กล่าวคำขอโทษ...แล้วก็โค้งให้สักหน่อย” 
        “จะให้ฉันยกมือไหว้แล้วก็กราบเท้าด้วยเลยไหมล่ะ...”
    “ได้แค่พูดหรือเปล่าล่ะ”
    ฉันจ้องหน้าเขาเขม็ง 
    “เสียใจนะ...วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์มาขอโทษใคร...ถ้านายอยากให้ฉันขอโทษ มาใหม่พรุ่งนี้แล้วกัน...ฉันอาจจะเปลี่ยนใจ”
ฉันไม่ยอมขอโทษยัยนั่นหรอก ฝันไปซะเถอะ 
    “เธออยากตายรึไง...” เขาพูดขึ้นมา เมื่อฉันเดินผ่านเขาไปโดยไม่สนใจ
“ขอโทษเดี๋ยวนี้!!!” ตะโกนให้ตายฉันก็ไม่ขอโทษหรอก...ฉันยังคงยืนหันหลังให้เขา และจะไม่ยอมปริปากพูดคำใด ๆทั้งสิ้น “ลีมินยอน...” เขาเรียกชื่อฉันอีกครั้ง ก่อนจะเอื้อมมาจับที่แขนซ้ายของฉัน
    “ผัวะ!!!” ฉันหวดกำปั้นใส่เขาเต็มแรง แต่เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะเซถลาเลยแม้แต่น้อย...แกร่งดีหนิ 
    “อย่ามายุ่งกับฉัน...” ฉันถลึงตาใส่ 
    “...” เขานิ่งเงียบไป ก่อนจะเช็ดเลือดที่มุมปากแล้วหันมาจ้องหน้าฉันด้วยสายตาเคียดแค้น “ฉันเอาเธอตายแน่...” เขากล่าวเสียงเรียบก่อนจะกลับขึ้นรถไป
    ไม่แน่นี่หว่า...
    “มินยอน...ทำไมเธอถึงไปทำเขาแบบนั้นล่ะ...เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเขาเป็นเจ้าพ่อแห่งควอนดังแฮ...ทีนี้เธอต้องตายแน่ ๆ ตายแบบอึ่งอ่างโดนฟ้าผ่า แล้วยังโดนรถทับอีก แล้วจากนั้นก็”
    “เฮนา...” ฉันทำหน้าแบบว่า ‘ ไม่ต้องสาธยายความซวยของฉันก็ได้ ’ 
    “เอ่อ...ฉันพูดเล่นนะมินยอน...ความจริงแล้วเธอไม่น่าไปทำแบบนั้นเลย...เพราะมันอาจส่งผลร้ายให้เธอก็ได้นะ...พวกนั้นคงไม่ยอมเลิกราง่าย ๆ แน่”
        “...”
    “เอ่อ...ขอโทษนะมินยอน...เธอยังไม่หายโกรธฉันอีกเหรอ...ฉันแค่เป็นห่วงเธอเองนะ...ฉันก็แค่หวัง...ดี”
    “...”
    “มินยอน...ฉันจะกลับล่ะนะ...ขืนเธอไม่พูดกับฉันอีก...ฉันบีบคอเธอจริง ๆ นะ”
    “...”
    “ขอโทษแล้วไงเล่า...”
    “...”
    “มินยอน...”
    “...”
    “ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก กรุณาฝากข้อความเอาไว้หลังจากได้ยินเสียงสัญญาณ...ปี้~~ มินยอน...ฉันจะกลับล่ะนะ พรุ่งนี้เธอต้องหายโกรธฉันนะ ฉันจะซื้ออมยิ้มรสอร่อย ๆ มาฝากแล้วกัน แต่เธอต้องหายโกรธฉันด้วยนะ...แล้วอย่าลืมล่ะ ฉันขอโทษจริง ๆ” เฮนาพยามทุกวิถีทางที่จะทำให้ฉันพูด แต่ตอนนี้ฉันต้องขอโทษเธอจริง ๆ นะ ฉันไม่อยากจะพูดจริง ๆ ทำไมฉันต้องเจอเรื่องเฮงซวยแบบนี้ทุกวันด้วยนะ...โธ่เว้ย...ไม่น่ามือไวเล้ย...ฉันต้องตายแน่ ๆเลยคราวนี้ สวรรค์ ช่วยลูกด้วยเถอะเจ้าค่ะ... 
    แล้ววันอาทิตย์ที่ฉันรอคอยก็มาถึง น่าแปลกที่ตลอดทั้งอาทิตย์ไม่เกิดอะไรขึ้นกับฉันเลย ฉันต้องคอยระแวดระวังแทบตาย ทั้งตอนขึ้นรถเมล์ ตอนเข้าห้องน้ำแล้วก็ตอนกินข้าวกลางวัน กลัวว่าไอ้หมอนั่นจะเขวี้ยงระเบิดเข้ามาในโรงเรียน แต่...ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยสักกะอย่าง...คงหายห่วงได้แล้วมั้งเนี่ยเรา
    “มินยอน แม่ไม่มาอีกเหรอ...พี่ต้องไปทำงานพิเศษแล้วนะ” พี่แจวอนดูลุกลี้ลุกลนกว่าปกติ 
    “ไม่รู้สิ...ทุกทีแม่จะมาตอนเก้าโมงเช้า แต่นี่มันปาเข้าไปเกือบเที่ยงแล้วนะ...หรือว่าแม่จะไม่สบาย”
    “คงติดธุระมาไม่ได้มากกว่า”
    “พวกแกยังรอกันอยู่อีกเหรอ” พ่อเดินหน้าบึ้งเข้ามาในห้องครัว
    “ก็แม่ไม่มาตามนัด...เราก็จำเป็นต้องรอสิฮะ” พี่แจวอนตอบไป
    “มินยอน...ลูกจะไม่พูดกับพ่อเลยใช่ไหม” พ่อหันมาถามฉัน
    “...”
        ฉันไม่ได้พูดกับพ่อมาตั้งแต่วันที่พ่อตบหน้าฉันเพราะผู้หญิงกระโปรงแดงปรี๊ดปร๊าดคนนั้น และฉันก็จะยังไม่พูดต่อไปอีก ถ้ายัยกระโปรงแดงไม่ยอมออกไปจากบ้านหลังนี้
    “ตามใจลูกแล้วกัน...ถ้าลูกไม่อยากพูดกับพ่อ พ่อก็คงทำอะไรไม่ได้”
รู้ตัวก็ดีแล้วล่ะพ่อ
    “พี่คงต้องไปก่อนแล้วล่ะ...ไปสายคงโดนตัดเงินเดือนเอาแน่เลย”
พี่แจวอนหันไปหยิบกุญแจรถ
    “แล้วถ้าแม่ไม่มาล่ะ...”
    “อาทิตย์หน้าก็ยังมีนี่นา”
    “แต่ฉันไม่อยากรอแล้วหนิ”
    “แล้วแกจะทำอะไรได้”
    ฉันนั่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากที่พี่แจวอนออกไป ฉันจึงตัดสินใจจะไปเจอแม่ที่บ้าน พ่อคงไม่สนใจฉันหรอกหากฉันจะหายไปสักครึ่งวัน เพราะเวลาอยู่กับยัยกระโปรงแดงคงลืมลูกสาวอย่างฉันไปแล้วล่ะ
    ฉันเดินออกมาจากบ้านโดยไม่สนใจเสียงเรียกของพ่อ...แล้วก็วิ่งไปยังป้ายรถเมล์หน้าปากซอย ฉันรออยู่ครู่หนึ่งแล้วรถเมล์สาย 77-1 ก็มา ในมือของฉันมีกระดาษสีขาวเล็ก ๆ ที่มีบ้านเลขที่ของแม่อยู่ ฉันถือมันด้วยความมั่นใจ แม่จะต้องดีใจแน่ ๆ ที่เห็นฉันไปหาถึงบ้าน...
    แล้วฉันก็มาถึงบ้านหลังหนึ่ง...ไม่น่าเชื่อว่าแม่จะอยู่บ้านหลังใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้  ถ้าพวกเราได้มาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาที่บ้านหลังนี้ก็คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว ฉันเอื้อมมืออันสั่นเทาไปกดกริ่งหน้าบ้านอยู่สองสามครั้ง หลังจากนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งอายุดูจะประมาณฉันวิ่งมาเปิดประตูให้...เธอน่ารักใช่เล่นเลยล่ะ
    “มาหาใครคะ...?” เธอถามเสียงใส
    “มาหาคุณลี...คิม...ยอนนา...คะ” ฉันตอบตะกุกตะกัก เธอมองฉันอย่างพินิจพิจารณา
    “คุณแม่เหรอคะ...เข้ามาข้างในก่อนสิคะ”
   
“น้ำคะ...”
    “ขอบคุณคะ” 
    “ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรกับคุณแม่หรือเปล่าคะ...ตอนนี้คุณแม่กำลังอาบน้ำอยู่เลย”
    “ค่ะ...ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ...คือ...ตั้งใจมาเยี่ยม...น่ะค่ะ” 
“ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรคะ...” เธอยิ้มหวานให้ฉัน
“ลีมินยอนค่ะ”
    “ลีมินยอน...” เธอขมวดคิ้วเมื่อเอ่ยทวนชื่อฉัน “เรียนที่ไหนคะ...?”
    “เรียนอยู่ที่ซูฟางอูค่ะ...ม.ปลายปีสอง”
    “ฉันเรียนอยู่ที่ควอนดังแฮ...ม.ปลายปีสามค่ะ”
    เด็กควอนดังแฮเหรอเนี่ย...ซวยแน่ ๆ เลย
    “จริงเหรอคะ...พี่ชายฉันก็เรียนอยู่ที่นั่นเหมือนกัน...อยู่ปีสาม รู้สึกว่าจะอยู่ห้องเอหรือว่าห้องบีนี่แหละค่ะ ฉันไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่หรอก”
    “ใช่...ลีแจวอนหรือเปล่าคะ...?”
    “ถูกเผงเลยคะ...คุณรู้จักด้วยเหรอคะ...”
    เธอพยักหน้าตอบ “เรียกฉันว่าพี่ซองอาก็ได้นะ...” อาจจะไม่ซวยก็ได้
    “ค่ะ...พี่ซองอา พี่แจวอนอยู่ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้างคะ” ฉันเริ่มคำถามแรก
    “แจวอนเหรอ...เขาเป็นคนดังของปีสามเลยนะ...ดังไม่แพ้น้องชายของพี่เลยล่ะ...ตอนแรกที่พี่เห็นเธอ ก็ยังนึกว่าเธอเป็นแฟนคลับของน้องชายพี่เสียอีก...เพราะเธอน่ารักมาก ๆ เลยล่ะ พี่เลยอยากรู้จัก...และก็ไม่คิดว่าจะเป็นน้องของ
แจวอนอีก...”
    “พี่เป็นเพื่อนของพี่แจวอนเหรอคะ...”
    “เอ่อ...ไม่ใช่หรอกจ้ะ...พี่อยู่คนละห้องกับแจวอนเขานะ เขาอยู่ห้องเอ ส่วนพี่อยู่ห้องบี...เวลาที่เขาเดินผ่าน พวกพี่ก็จะมองตามกันใหญ่เลย เพราะเขาเป็นคนที่ตัวสูง ใจดี...เขาชอบยิ้มด้วยนะ”
พี่แจวอนเนี่ยนะใจดี แล้วก็ชอบยิ้ม...เรื่องตลกรึเปล่า 
“ผมสีน้ำตาลออกส้มหน่อย ๆ ที่เขาเพิ่งไปทำมา ทำให้เขาเป็นที่สะดุดตาของเหล่านักเรียนหญิงหลายต่อหลายคนเลยนะ...เขามักจะได้ไปอธิบายบทเรียนยาก ๆ ให้ห้องอื่น ๆ ฟัง...เขาก็จะทำหน้าเฉยชาใส่ทุกคนในห้องเลยล่ะ แล้วเขาก็จะอธิบายไปอย่างช้า ๆ เวลามาอธิบายที่ห้องของพี่ พวกพี่ก็จะตั้งใจฟังกันใหญ่ เพราะเสียงของเขาน่าฟังมาก ๆ เลย...แถมแจวอน ยังเป็นหัวหน้าชมรมดนตรีอีกด้วย...นาน ๆ ทีจะได้ฟังเขาร้องเพลง...เขาเสียงดีมากเลยนะ” 
    พี่ซองอาสาธยายซะยืด “พี่ชอบพี่แจวอนหรือเปล่าคะ...??” ฉันเอ่ยถาม แล้วพี่ซองอาก็หน้าแดงขึ้นมาเฉยเลย 
    “...”
    “ไม่ต้องตอบก็ได้ค่ะ...”
    “แม่ครับ...วันนี้ผมอยากกินบาร์บีคิวจังเลย...แม่ทำให้กินหน่อยได้มะ...”
เสียงของผู้ชายคนนี้ฟังดูคุ้น ๆ แฮะ...
    “ได้สิจ้ะ...เดี๋ยวแม่จะทำให้กิน...ซองอาใครมาเหรอลูก...” แล้วเสียงที่ฉันรอคอยมาเกือบทั้งอาทิตย์ก็เอ่ยถามพี่ซองอา
    “ลีมินยอนค่ะแม่...เขามาหาแม่น่ะค่ะ” พี่ซองอาเดินเข้าไปควงแขนผู้หญิงคนนั้น
    “มินยอน...” แม่เรียกชื่อฉันเบา ๆ ก่อนจะนิ่งไปไม่พูดอะไรไปมากกว่านั้น
    “สวัสดีค่ะ...” ฉันโค้งตัว
    “เมื่อกี้พี่ว่าใครมานะ...” แล้วฉันก็ต้องหยุดกึกเมื่อเจ้าของต้นเสียงที่ว่า
คุ้น ๆ นั้นเดินขมวดคิ้วออกมา “เฮ้ย!!” เขาอุทานเสียงดัง
ที่แท้นายนี่ก็คือคิมซออึน เจ้าพ่อแห่งควอนดังแฮนี่เอง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตาบ้านี่จะเป็นลูกของแม่...ลูกติดสามีน่ะ...เป็นไปได้ยังไงกัน...ตานี่เป็นลูกเลี้ยงของแม่งั้นเหรอ...ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับฉันอยู่เรื่อยเลย...เฮ้อ!! อ่อนใจ 
“เธอมาทำอะไรที่บ้านของฉันกันเนี่ย...ตามมารังควานกันถึงนี่เลยเหรอ” ฉันไม่ได้มาหานายซะหน่อย สำคัญตัวเองผิดไปหน่อยไหม
    “กลับมาแล้วจ้ะ...ทำอะไรกันอยู่เอ่ย” แล้วฉันก็ได้เจอคิมแทฮุนตัวจริง ถึงแม้ว่าเขาจะดูมีอายุแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังคงดูดี 
            “วันนี้เราจะจัดปาร์ตี้กันค่ะคุณ” แม่เดินเข้าไปหอมแก้มเขา แล้วถือเสื้อของเขาไปเก็บไว้ แม่น่าจะทำแบบนี้กับพ่อบ้าง...คงจะมีความสุขไม่น้อยเลย
    “ใครกัน...?” เขาเอ่ยถามแม่เมื่อมองเห็นฉัน
    “สวัสดีคะ...ฉันลีมินยอน...” ฉันโค้งตัวเคารพ
    “ลีมินยอน...คุ้น ๆ ยังไงบอกไม่ถูกนะ” เขาหันไปพูดกับแม่
    “แม่รู้จักยัยนี่ด้วยเหรอ...” ตาคิมซออึนจ้องหน้าฉันใหญ่
    “จ้ะ...มินยอนเขาเป็น...เอ่อ...หลานของแม่น่ะจ้ะ”
หลาน...งั้นเหรอ แม่หมายความว่ายังไงกัน ฉันเป็นแค่หลานของแม่งั้นเหรอ...ฉันไม่ใช่ลูกของแม่รึไงกัน
    “ยัยนี่เป็นญาติฝ่ายไหนของเราฮะ...หน้าตาไม่เห็นมีเค้าเลย” อีตาบ้าเอ๊ย ฉันไม่ได้เป็นญาติของนายซะหน่อย และก็ไม่อยากเป็นด้วย
    “อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนไหมล่ะ...” ลุงคิมหันมาชวนฉัน
    “อย่าเลยจะดีกว่าค่ะ...มินยอนน่าจะกลับได้แล้ว...” แม่พูดแทรกขึ้น 
    “ไม่เห็นเป็นไรเลยค่ะแม่...ให้มินยอนอยู่ต่ออีกหน่อยเถอะค่ะ...หนูยังอยากทำความรู้จักกับลูกพี่ลูกน้องคนนี้อีกสักหน่อย” พี่ซองอายิ้มหวาน
    “อย่าดีกว่ามั้ง...ผมไม่อยากเห็นหน้ายัยนี่” ตาคิมซออึนหงุดหงิด
    “กลับเถอะมินยอน...ที่นี่ไม่เหมาะกับเธอหรอก” แม่หันมาบอกกับฉัน
    “แล้วที่ไหน...ที่เหมาะสมกับหนูล่ะคะ”
    “...”
    “คุณคงรังเกียจที่หนูมายืนอยู่ตรงนี้ใช่ไหมคะ...” ฉันจ้องหน้าแม่ “หนูคิดว่าคุณจะดีใจเสียอีก...ที่ได้เจอ...แต่มันกลับกันนะคะ...คุณกลับรู้สึกแย่”
    “เอาล่ะ...มินยอน ยังไงหนูก็อยู่ทานข้าวเย็นแล้วก็ร่วมปาร์ตี้กับครอบครัวเราด้วย...มีคนมาก ๆ จะได้สนุก” ลุงคิมพูดตัดบท
    “คุณรู้จักลีกวางมิน กับลียอนนาไหมคะ...” ฉันหันไปถามลุงคิม “ลียอนนาคือแม่ของฉัน...เธอจากครอบครัวของเราไป...ไปแต่งงานกับผู้ชายอีกคนหนึ่งที่เธอยังคงรัก และเธอก็ได้เลี้ยงลูกชายของเขา ซึ่งเป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด...แล้วก็ยังลูกสาวของเขาอีก...ลียอนนาทิ้งพ่อของฉัน ทิ้งลูกชายของตัวเอง และก็ทิ้งฉัน...ทิ้งไปหาอีกครอบครัวหนึ่ง...ครอบครัวที่มีความสุขของฉัน...ก็พลันหายไปพร้อม ๆ กับการตัดสินใจครั้งนั้น...” ลุงคิมนั่งฟังฉันอย่างเงียบ ๆ “คุณรู้ไหมคะ...ว่าหญิงร้ายชายเลวคู่นั้น...อยู่ที่ไหน...หนูตามหามาจนสุดขอบฟ้า...แต่ก็ยังไม่เจอ...ถ้าคุณเจอเขา...ช่วยบอกให้เขาทีเถอะค่ะ...คืนหญิงร้ายคนนั้น...กลับมาให้กับครอบครัวของฉัน...คืนหญิงร้ายคนนั้น...ให้มาเป็นแม่ของฉันและพี่ชาย...คืนหญิงร้ายคนนั้น...ให้กลับมาเป็นภรรยาของลีกวางมินตามเดิม...คุณจะช่วยบอกเขาให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ”
    “เธอเพ้อเจ้ออะไรมิทราบ...” คิมซออึนขัดขึ้น “รีบออกไปจากบ้านฉันซะที”
    “หยุดเดี๋ยวนี้นะซออึน” พี่ซองอาหันไปปรามเขา 
    “ฉันออกไปแน่...ถ้าฉันได้เจอแม่ของฉัน” ฉันถลึงตาใส่ตาบ้าซออึน   
“แม่ของเธอจะมาอยู่ที่บ้านฉันได้ไง...บ้ารึเปล่า...ที่ไล่มาตามหาแม่ของตัวเองตามบ้านของคนอื่น”
    “งั้นฉันก็คงจะบ้าอย่างที่นายพูดจริง ๆ แหละ...คิมซออึน”
    “กลับไปได้แล้วมินยอน...แม่ของเธอไม่ได้อยู่ที่นี้” แม่พูดขึ้นในที่สุด
    “งั้นเหรอคะ...”
    “เธอเป็นลูกสาวของลีกวางมินอย่างนั้นเหรอ” ลุงคิมถาม หน้าของเขาเริ่มถอดสี
    “คุณรู้จักลีกวางมิน...ด้วยหรือคะ...”
    ลุงคิมไม่ตอบ
    “มินยอน...ป้าขอร้องให้เธอกลับไปก่อน”
    “หนูบอกแล้วไงคะ...หนูต้องเจอแม่ก่อน”
    “แม่ของเธอตายไปแล้ว...” ลุงคิมไม่มองหน้าฉันด้วยซ้ำไป   
“งั้นเหรอคะ!!...คงใช่สินะ...แม่ของฉันตาย ตั้งแต่วันที่เธอตัดสินใจ
แต่งงานกับชายอื่น!!!...แล้วทิ้งครอบครัวไว้ข้างหลัง...เธอกลายเป็นผู้หญิงที่
น่ารังเกียจที่สุดในโลก...ไม่ยักรู้ว่าเธอหลับตาเวลานอนได้ยังไง...เธอทิ้งทุกสิ่ง
ทุกอย่าง...ทิ้ง แม้กระทั่งลูกของตัวเอง...ช่างเป็นแม่ที่โง่เขลาเสียจริงเลย...แล้วคุณกอดเธอลงเหรอคะ...คุณมั่นใจเหรอ...ว่าเธอจะไม่ทำกับคุณเหมือนที่ทำกับครอบครัวของฉัน”
    “ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้นะ!!!!” ลุงคิมตะโกนเสียงดังทำเอาพี่ซองอาสะดุ้งตกใจ
    “แล้วในที่สุด...ฉันก็ได้เจอชายเลวคนนั้น...คุณนั่นเอง...ชายเลวที่แย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากชีวิตของฉัน...แย่งความสุขทั้งชีวิตของฉันไป...แล้วก็ทิ้งไว้แต่ความทุกข์โศกที่พวกคุณสมควรจะได้รับมาไว้ที่ฉันและครอบครัวของฉัน...แบบนี้มันยุติธรรมแล้วเหรอคะ...คืนแม่ให้ฉันเถอะ!!!”
    “เธอ...” ลุงคิมโกรธจนตัวสั่น
    “คืนแม่ให้ฉัน...แล้วฉันก็จะไปจากชีวิตของพวกคุณ”
    “นี่มันแม่เธอที่ไหน...แม่ฉันต่างหาก อย่าพูดซี้ซั้วน่า”
    “หุบปากเหอะน่าคิมซออึน...นายจะไม่ยุ่งสักเรื่องได้ไหม” ฉันจ้องหน้าเขาเขม็ง “ถ้านายจะอยู่เงียบ ๆ อีกซักเดี๋ยวก็คงไม่มีใครว่านายพูดไม่ได้หรอกนะ...”
    “ฉันชักจะหมดความอดทนกับเธอแล้วจริง ๆ!!!”
    ก่อนที่เขาจะได้ก้าวเข้ามาใกล้ฉันอีกก้าวเดียว ฉันก็ตัดสินใจยกน้ำในแก้วสาดใส่หน้าเขาโดยที่ฉันไม่ลังเลใจเลยสักนิด...
    “ซออึน...” แม่รีบเข้าไปเช็ดหน้าให้เขา อย่างนี้สิถึงจะสมควรเรียกว่าแม่
“ออกไปจากบ้านของฉันเดี๋ยวนี้นะ!!! เธอมาทำกร่างที่นี้ได้ยังไง ฉันให้เงิน ให้ที่อยู่ ให้อะไรกับเธอมากมาย...แต่เธอก็ไม่เคยสำนึกในพระคุณของฉันเลย!!! เธอมันน่ารังเกียจ!!” แม่ตะโกนด่าฉันปาว ๆ โดยไม่สนใจเลยสักนิดว่าตอนนี้ฉันรู้สึกยังไง
แม่ไม่เคยรู้ว่าหนูอยากร้องไห้มากแค่ไหน หนูคิดถึงแม่ใจจะขาด หนูคิดถึงแม่ คิดถึงมาก ๆ หนูรอคอยวันที่แม่จะกลับมาหา แต่แม่กลับตอบแทนความคิดถึง การรอคอยที่ยาวนอนของหนู...แม่ตอบแทนหนูด้วยการต่อว่าเพราะลูกชายสุดรักนอกไส้ของแม่โดนหนูสาดน้ำใส่ยังงั้นเหรอคะ...แม่ไม่เคยรักหนูเลยใช่ไหม
    “ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!!” แม่ตะคอกอีกครั้ง   
    “แม่รู้ไหมค่ะ...? หนูรอคอยวันนี้ วันที่แม่จะไปเที่ยวหาหนูที่บ้าน...ทุกวันอาทิตย์ที่แม่สัญญาว่าจะไป เพื่อนชวนไปเที่ยวแต่หนูก็ปฏิเสธ เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะหนูรู้ว่าแม่ต้องมา ต้องมาหาหนูตามสัญญา...แต่แล้ว...แม่ก็ผิดคำสัญญา
หนูไม่ใช่ครอบครัวของแม่งั้นเหรอ ไม่ใช่เลือดเนื้อของแม่ใช่ไหม!!...สองคนนี้ใช่...แต่หนูไม่ใช่!!!”
    “ขอโทษนะ...ฉันไม่ใช่แม่ของเธอ...แม่ของเธอตายไปตั้งนานแล้ว...และต่อจากนี้อย่ามารบกวนฉันอีก...” แม่ที่ฉันรักมากที่สุดกำลังปฏิเสธฉัน...ปฏิเสธลูกคนนี้ น้ำตาของฉัน...มันก็ไม่ปฏิเสธที่จะเอ่อล้นออกมาเช่นกัน 
    “หนูเข้าใจแล้วล่ะ...ทำไมพ่อถึงว่าแม่เป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจ...น่ารังเกียจที่สุดในโลก...ก็เพราะแม่...เป็นนังแพศยาดี ๆ นี่เอง!!!” ฉันตะโกนออกไปพร้อมกับน้ำตาที่พรั่งพรูออกมา ฉันตะโกนคำพูดที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งฉันไม่สามารถลบเลือนมันได้อีก หนูขอโทษนะค่ะแม่...หนูไม่รู้...ว่าจะทำยังไงให้แม่กลับมา 
    “เพี้ยะ!!!” แม่ตบเข้าที่หน้าฉันโดยไม่ลังเลใจอะไรเลย ไม่คิดเลยสักนิดว่าฉันจะเจ็บปวดสักแค่ไหน แล้วทำไมล่ะ ทำไมฉันยังต้องทนต่อไปอีก
    “เพี้ยะ!!!” มือของฉันตวัดออกไปเต็มแรง มันโดนเข้าที่แก้มขวาของแม่ คนที่ฉันรักมากที่สุด แม่จ้องหน้าฉันเขม็ง ฉันก็จ้องหน้าแม่เช่นกัน ตอนนี้แม่ไม่มีน้ำตา ฉันก็ต้องไม่มีน้ำตา
    “เธออยากตายรึไงกันฮะ!!! ทำร้ายฉันคนเดียวยังไม่พอใช่ไหม...ยังต้องมาทำร้ายแม่ของฉันอีก!!!” คิมซออึนเข้ามากระชากคอเสื้อของฉันอย่างแรง เขาดูโกรธมาก ๆ ทำไมล่ะ...ฉันเข้าไปแทรกกลางระหว่างความเป็นแม่ลูกของนายไม่ได้เลยเหรอ...แม่รักนาย...แต่แม่ไม่เคยรักฉัน 
    “นายมีความสุขมากใช่ไหม!! มีความสุขมากใช่ไหม!! นายมีพ่อ...
นายมีพี่สาว...แล้วก็ยังมีแม่...คนที่นายรักมากที่สุด...นายมีครอบครัวที่อบอุ่น...ทุกคนในครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า...แต่ฉัน ไม่มี...ไม่มีอะไรที่มีความสุข!!! นายมีความสุขกับทุก ๆ วัน...แต่ฉัน...อยู่กับความทุกข์ อยู่กับความหวังลม ๆ แล้ง ๆ อยู่กับหวัง...ว่าจะได้ผู้หญิงคนนี้กลับคืนมา!!...แล้วทำไม...ทำไม...ฉันจะต้องรอคอยผู้หญิงคนนี้อีก!!!”
    คิมซออึนกำคอเสื้อฉันแน่นขึ้น
    “ถึงแม้ผู้หญิงคนนี้...จะเป็นหญิงร้ายจริง ๆ แต่ฉัน...คิมซออึน...ก็ไม่ทำร้ายคนที่ฉันรักได้ลงคออย่างเธอหรอก!!! ไหนเธอบอกว่า...เธอรอคอย เธอรักแม่ของเธอมากไง...แล้วทำไมล่ะ...ทำไมเธอถึงต้องทำร้ายเขาด้วย...เธอก็ไม่ต่างจากนังผู้หญิงแพศยาที่น่าสมเพช...ที่เธอว่าแม่ฉันหรอก...เธอมันน่ารังเกียจยิ่งกว่าแม่ของฉันเป็นร้อยเท่าพันเท่าด้วยซ้ำไป!!!...”    
“แปล๊บ!!!” แล้วความรู้สึกเจ็บก็แผ่ซ่านเข้าสู่หัวใจของฉัน มันรู้สึกไปทั่วทุกอณูในร่างกาย ฉันกุมหน้าอกไว้ เพราะมันเริ่มรู้สึกเจ็บ...เจ็บ...และเจ็บลึก
    “งั้นฉัน...ก็คงรักแม่ไม่ได้อีกแล้วสิ” ฉันหัวเราะทั้งน้ำตา “และนับตั้งแต่นี้ไปฉันก็คงบอกว่ารักแม่ไม่ได้...เพราะฉันเกลียดแม่...เกลียดมากที่สุด...เกลียดจนฝังเข้าไปในก้นบึ้งของหัวใจ!!!...หนูเกลียดแม่...หนูเกลียดแม่!!!!! แม่ได้ยิน
ไหมคะ!!! แม่ได้ยินไหมว่าหนูเกลียดแม่!!!! เกลียดมากที่สุดในโลก!!!!”
    “แปล๊บ!!!!!!” ความรู้สึกเจ็บปวดนั่น...แล่นจี๊ดเข้าสู่หัวใจของฉัน
มันทรมานแสนสาหัส ทรมานเหมือนกำลังจะตาย...แล้วในที่สุด สมองของฉันก็
ว่างเปล่า...ภาพทุกอย่างกลายเป็นสีดำ...ดำทะมึนไปหมด...ร่างกายของฉันไม่มีแรง เพราะฉันเจ็บปวดที่หัวใจอย่างมากมายเท่าที่จะเคยเจ็บมาก่อน...ฉันหมดสติไป
ทั้ง ๆ ที่ยังคงถูกกำคอเสื้ออยู่...
    ต่อจากนี้ไป...ฉันคงไม่มีสิทธิ์คิดถึงแม่อีกแล้ว...ไม่มีสิทธิ์ได้รักแม่...ไม่มีสิทธิ์ร้องโหยหา...แต่ก็คงทำได้แค่เพียง...เกลียดแม่
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น