ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แม่น้ำไนล์ของข้า..ไม่มีทางไหลย้อนกลับ

    ลำดับตอนที่ #8 : เมียเก็บเอ้ย!!!เจ็บ

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.ค. 52


    "เจ้า เจ้าเป็นอะไร!!! ทหาร!!!ไปตามหมอหลวงมาที"พระองค์รู้สึกผิดมากในตอนนี้ ความโกรธที่มีต่อนางตอนนี้สูญหายไปหมดแล้ว เหลือไว้แต่ความห่วงใยและเป็นห่วงให้นางมีชีวิตรอดอย่าเป็นอะไร(555+ขนาด พระเอกยังคิดว่าแกตายเลย 555+สมน้ำหน้าอินางเอก)
    บนเตียงนุ่มๆ =_=!เตียงบรรทม
    คน ร่างใหญ่ซิกแพ็ค~...หล่อสุดๆ นั่งอยู่บนเตียงใหญ่เตียงหนึ่ง(เตียงของเขานั่นแหล่ะ จะบรรยายให้เวอร์ไปทำซากอะไร) ข้างๆเขามีมดน้อยเอ้ย!!!ซิลเดอเรล่าน้อยนอนอยู่ ตอนนี้นางกำลังหลับอย่างกะเจ้าหญิงนิทรา(คนละเรื่องกันเลย)
    ฮืมๆๆๆ ที่นี่ที่ไหนเนี่ย(:โรงบาลบ้า!!:ขอบตอบ::Okonomiyaki) นางรู้สึกเหมือนร่างกายของตัวเองนอนอยู่บนฟูกนุ่มๆสบายกาย นางมิอยากจะขยับไปไหนเลย ตอนนี้นางอยากจะนอนหลับซักงีบบนฟูกนี้ก่อน นางคงตายแล้วหล่ะ ตอนนี้นางคงอยู่บนสวรรค์นี่คือถ้อยคำเรียบเรียบในความคิดของนาง

    " ท่านหมอ!!..พระสนมของข้าเป็นอะไร!!!"เสียงใครหว่า!?...เอ๊ะ!!คุ้นๆนะ ใช่แล้ว!!!!องค์ฟาโรห์เนเรซิสนี่นา อ้าววว!!แล้วมาอยู่บนสวรรค์กับเราได้ไงอ่ะ หรือว่าเขายอมตายมากับเรา ^^เย้ๆๆๆๆ เขารักเรางั้นเหรอ โห!~..ยอมทำเพื่อเราขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย น่าปลื้มใจ><!!!

    "หมะ..หม่อมฉัน..."อุ๊ย!..บนสวรรค์มีหมอด้วยเหรอเนี่ย เพิ่งรู้นะเนี่ย

    "รีบพูดมา!!! นางเป็นเช่นไร"

    "คะ..คือหม่อมฉันคิดว่า...นางคง..."

    "รีบพูดมา!!!! ว่าที่รา-ชิ-นี ของข้าเป็นเช่นไร!!!!"

    O0O!!!! ว่าที่รา-ชิ-นี....!!!!

    ฟึ่บ! ทันทีที่ได้ยินคำๆนั้นจากปากของเขาฉันก็ตื่นขึ้นจากภวังค์แห่งความสบายของฟูกและรีบลุกขึ้นมาถามเขาด้วยความตกใจ

    "ท่านตายแล้วนะ พวกเราอยู่บนสวรรค์กัน ท่านจะบ้าให้ข้าเป็นราชินีทำไมอีก นี่ไม่ใช่อียิปห์นะท่านO0O!!~"ฉันพูดออกไปอย่างตกใจสุดขีด

    "......" สีหน้าตอนนี้ทั้งหมอและ...เขา...ถึงกับอึ้ง!!! นี่นางเป็นอะไรกัน หมดสติไปหรือบ้าไปแล้วกันแน่ คนที่ทำให้นางเป็นแบบนี้มันต้องได้รับการลงโทษอย่างสาสม!!!!

    "จะ... เจ้าเป็นอะไรไป เจ้าเป็นบ้าไปแล้วรึไง! นี่คืออียิปห์ ข้าปกครองที่นี่มานาน และก็จักมิมีวันตายก่อนข้าจักมีโอรสสืบสกุล เจ้าเข้าใจผิดอะไรรึเปล่า!"องค์ฟาโรห์ทรงจับข้อมือเล็กๆของนางพลางถามสิ่ง ที่พระองค์อยากจะรู้

    "มะ...ไม่จริง!! ก็เมื่อกี้นี้ เอ่อ...ข้ารู้สึกเหมือนตัวเองตายไปเลยอ่ะ ก็ท่าน...อุ๊บ!x/////// จะ..จูบข้า และข้าก็มิรู้สึกอะไรอีกเลยหลังจากนั้น"นางทำหน้่าใสซื่อใส่เขา

    "จะ...เจ้ายังจำได้นี่!!! ท่านหมอ ตกลงนางเป็นอะไรกันแน่"

    " หม่อมฉันกำลังจะรีบตอบพระองค์อยู่แล้วพะยะค่ะ ว่า...ว่าที่ราชินีของพระองค์มิได้ทรงเป็นอะไรพะยะค่ะ แค่หมดสติไปเล็กน้อยพะยะค่ะ แต่ที่พระนางยังคงนอนอยู่ไม่ขยับเขยื่อนเพราะอาจจะเป็นที่นอนของพระองค์ที่ ทำให้ว่าที่ราชินีสบายและผล็อยหลับไปก็เป็นได้พะยะค่ะ" เอ่อ..ฮะ..แฮะ!!!อาจจะจริงของท่านหมอก็เป็นได้^^!!! ข้าเริ่มเรียบเรียงอะไรต่อมิอะไรเป็นลำดับเหตุการ์พอได้แล้วหล่ะ ^^เหอะๆ ข้าขอโทษนะท่านเนเรซิสที่ทำให้เป็นห่วง

    "นี่หรือว่าเจ้า...มิได้ตายแต่แกล้งหลับ!!!"พระองค์ตรัสสีหน้าเคร่งเครียด นางจักเป็นอะไรไปไม่ได้ และอีกอย่างนางต้องมิบ้า!!!!

    "คะ...คือ..ถ้าข้าบอกท่าน ท่านต้องไม่ว่าข้า ไม่ทำโทษข้า หรือไม่...เกลียดข้า~..."

    "เจ้ารีบบอกข้ามา เร็วๆ!!"พระองค์ตรัสสั่ง

    " งั้น...ข้าจะบอกความจริงก็ได้ คือที่บรรทมของท่านมันนุ่มนัก และข้าก็รู้สึกเหนื่อยในเวลานั้น ข้าเลย...นอน^^...ต่ิอ ท่านสัญญาแล้วนะ ท่านจักมิว่าอะไรข้า อย่าลงโทษข้าเด็ดขาดนะ!!!"ฉันเล่าความเป็นมาทั้งหมดของฉัน พร้อมทั้งยื่นคำขาดในสัญญาที่องค์ฟาโรห์ได้ให้ไว้

    "...หึๆ มันเป็นอย่างงี้เองนะหรือ แล้วทำไมเจ้ามิตื่นมาบอกข้า!!! เจ้าก็รู้ข้าเป็นห่วงเจ้าแค่ไหน เ้จ้าต้องหัดแยกแยะบ้างนะว่าเวลาไหนคือสถาณการณ์ปกติที่สามารถหลอกข้าได้ หรือเวลาไหนคือเวลาคับขัน เจ้าจักตายหรือเป็นลมข้ามิรู้ แต่เจ้าเล่นหลอกข้า มิให้ซุ่มให้เสียง นอนหลับไป เป็นใครเขาก็ต้องใจหายกันทั้งนั้น เจ้าเข้าใจรึไม่!"...นี่นางกำลังทำให้เขาปวดหัวมากเลย...

    อึ้ง!!!!
    นี่นางโดนเขาด่าเหรอ หรือว่า...สั่งสอน
    "ขะ..เข้าใจแล้ว"ว่าอย่างตะกุกตะกัก อย่างคนสำนึกผิด

    "ท่านหมอเชิญกลับได้แล้ว..."ตรัสสั่ง

    "พะยะค่ะ!!"และไม่นานหมอหลวงทั้งหลายก็ทยอยออกไปจนในห้องเหลือเพียง..'เราสองคน'

    "ท่านมิไปทำราชกิจรึ^^"ยังมีหน้ามาปั้นยิ้ม=_=!นางเอกเรา ใสซื่อเสียจริงจริ๊ง!!~

    "...ข้าทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้ามิต้องกังวล และทำเป็นเมียที่ดีของข้านัก"

    "ข้าเป็นเมียของท่านตรงไหนกัน ท่านบังคับข้าตะหาก"ฉันแย้ง

    "งั้นรึ!!...แต่พ่อเจ้าก็ยกเจ้าให้ข้าแล้วนะ"

    "หน็อย~...ท่านนี่ทำรู้ไปหมดทุกเรื่องเลยนะ ท่านจะไม่รู้ซักเรื่องจักได้มั้ย!?!!!"

    "=_=!!...เจ้ามิฉลาดรึ แค่นี้จำมิได้ก็มิต้องไปบริหารราชกิจแผ่นดินแล้ว"

    "แหม~...ก็นึกว่าท่านจักมิจดจำเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ซะอีก"

    "จักให้ข้ามิจดจำเจ้าได้ยังไงกันหล่ะ ในเมื่ออีกเดี๋ยวเจ้าก็จะเป็นถึงราชินีของข้าแล้ว"

    O0O!!เออ.ใช่!ลืมนึกไป ย้ากกกก ใครจะไปเป็นราชินีของนายกันยะ!!!!...แค่สนมก็ยุ่งพอแล้ว(ยุ่งทางใจT^T!)

    "ไม่!!!! ข้าจักเป็นราชินีของท่านได้ยังไงกันเล่า มีหวังพระสนมเอก รองนั่นได้ฆ่าข้าอย่างแน่นอน"ฉันว่า

    " ก็ข้าบอกเจ้าไปแล้วยังไงเล่า ข้ามิได้รักพวกนาง และมิได้อยากรับพวกนางเข้ามาเป็นพระสนมแต่เพียงน้อย และอีกอย่าง ข้าเป็นถึงฟาโรห์ ข้าย่อมแต่งตั้งให้ใครเป็นราชินีก็ได้!"ตรัสคำขาดอย่างหนักแน่น เหมือนกับว่า ทำให้นางผู้ที่ฟังอยู่หมดทางเลือก

    "ยะ..ยังไงก็ไม่ได้!!!! ฉันเพิ่งมาเป็นพระสนมเองนะ!!~"

    " แล้วไงเล่า!!! นี่เจ้าแกล้งหลับ แล้วยังมิสำนึกอีกรึ! ถึงได้มาต่อล้อต่อเถียงกับข้า ข้าแต่งตั้งให้เจ้าเป็นอะไร เจ้้าก็ต้องเป็น เพราะนี่คือคำสั่งมาจากใจของข้า!!!"ประโยคหลังดูหนักแน่นและจริงจังขึ้น

    'มาจากใจข้า'...คำๆนี้ดังก้องในหัวใจฉันด้วยความสงสัยและอยากรู้

    "เจ้าจักมิถามหน่อยรึว่าคำว่ามาจากใจข้ามันแปลว่าอะไร หน้าเจ้ามันฟ้องหน่ะ"


    "นะ..นายรู้แล้วก็พูดมาสิ"

    " เจ้าอยากรู้จริงๆด้วย...ใจช้าน่ะ..ตอนนี้มีแต่..เจ้า~...เพียงคนเดียว" พระองค์ตรัสพลางกุมมือของนางทั้งสองข้างพลางตีสีหน้าเคร่งเครียดและจริงจัง(ใจ)

    "ทีนี้เจ้าพอรู้รึยังว่าทำไมข้าต้องพูดเช่นนั้น"

    ที่ เขาต้องพูดเช่นนั้นคงเพราะว่า ตอนนี้เขาคงรักฉัน รึว่าไม่!! ฉันยังไม่แน่ใจ ไม่แน่ใจจริงๆ เราสองคนเพิ่งพบกัน มันจะเร็วอะไรปานนี้ได้ยังไง

    "ขะ...ข้าขะ..เข้าใจแล้ว"//////หน้าของนางเริ่มแดงซ่านเมื่อพระองค์เอื้อมมือมาจับใบหน้าของนาง

    "เจ้าตัวร้อนรึเนี่ย ทำไมหมอหลวงถึงตรวจมิพบนะ ข้าจักต้องลงโทษพวกเขาซักหน่อยแล้ว"

    " มะ..ไม่ได้นะเพคะ!!! ทะ..ที่ข้าตัวร้อนก็เพราะ...."...เพราะท่านนั่นแหล่ะ ข้ามิเคยหวั่นไหว มิเคยหน้าแดง มิเคยใจเต้นกับผู้ใดมาก่อน...ยกเว้นท่านในตอนนี้เลย...

    "หืม..อะไรรึ..เพราะอะไร"

    "มะ..ไม่มีอะไร ท่านมิต้องถามมากได้มั้ย-////////-"

    "อืม ข้าจักมิถามเจ้าให้มากความ"

    " และนี่คือคำถามสุดท้ายจากใจของข้า..."คำว่า'จากใจของเขา'ทำให้ใจของฉันเต้น แรงขึ้น มันจะกระตุกทุกครั้งเมื่อเขาพูดว่ามาจากใจของเขา นี่หรือว่า...

    "เจ้า...รักข้า...รึไม่!?"

    -///////////////////////- ใบหน้าเริ่มแดงซ่าน หน้านางเริ่มร้อนขึ้น ตอนนี้นางเหมือนอยู่กลางแจ้งกับดวงอาทิตย์ สองมือน้อยก็สั่นเทา ปากก็พูดอะไรไม่ออก ความรู้สึกก็พูดออกไปให้เขาฟังไม่ได้ เพราะตอนนี้นางกำลังรู้สึก...สับสน...
    ผิดกับ คนร่างใหญ่ ที่ตอนนี้นั่งรอฟังคำตอบอยู่หน้านางที่ตนรัก แต่เขามิได้หน้าแดง หรือเอียงอาย หรือเกิดความรู้สึกสับสนแต่อย่างใด เพราะเขาเป็นคนถามและต้องการคำตอบรับรักจากนาง ความผิดหวัง ความทุกข์และการปฏิเสธที่จะเกิดขึ้น เขาจักต้องเตรียมใจรับมัน มิใช่หน้าแดงไปกับอีกฝ่ายด้วย ตอนนี้ในใจเขารอฟังคำตอบจากนางตรงหน้าเท่านั้น...

    เมื่อเห็นนางนั่งนิ่งมิตอบอะไร เขาก็เริ่มเขย่ามือนางให้มีสติดังเดิมเหมือนรู้ว่านางคงจะพูดอะไรไม่ออก

    "ขะ..ข้า"นางว่าพลางหลบตาพระองค์เหมือนเอียงอาย พระองค์เริ่มรู้สึกเหมือนตนอยู่ระหว่างความรักกับความผิดหวัง ห้าสิบๆซะแล้ว

    ที่ จริงแล้ว..ในใจตอนนี้นางอยากจะตะโกนออกไปดังๆว่านางชอบท่าน...แต่ก็ยังมิได้ รักเขาจริงๆที แต่ก็มิสามารถตอบออกไปได้เพราะปากของนางมันมิตรงกับใจเอาเสียเลย

    "ว่าไง!!?"พระองค์ตรัสถามอีกครั้งพลางกระตุกแขนนางให้รีบตอบ

    "ข้าคิดว่า ขะ..ข้าเริ่มชอบท่าน แต่ข้ามิได้รักท่าน>/////////<"

    นะ.. นี่นางชอบพระองค์รึ!?...โธ่~..แค่นางตอบแค่นี้พระองค์ก็ใจชื้นขึ้นเป็นกองแล้ว พระองค์มิได้หวังให้นางรักพระองค์ตั้งแต่ต้นหรอก เพราะพระองค์คิดทบทวนเรื่องแบบนี้มาเป็นร้อยๆครั้งแล้ว นางเพิ่งเคยพบพระองค์ และคงจะไม่ได้มีใจให้พระองค์ตั้งแต่แรกพบเหมือนกับพระองค์ที่มีใจให้นาง ตั้งแต่แรกพบ

    "ข้าจักทำให้เจ้ารักข้าให้ได้..."ตรัสจบพระองค์ก็เริ่มปฏิบัติตามใจสั่ง พระองค์ต้องการให้นางรักพระองค์เหมือนกับที่พระองค์รักนางสุดหัวใจ พระองค์รีบรุดหน้าดันนางลงบนเตียงและปากของพระองค์ก็เริ่มประคองปากอันอวบอิ่มของนางอีกรอบ

    ...ครานี้พระองค์จักมิทรงทำให้นางเจ็บหรือเป็นลมอีก...พระองค์เชื่อว่าตนสามารถทำได้

    "อื้อๆๆๆ..."นางมีท่าทีคร่ำครวญเสียงอื้ออึงเหมือนกับว่านางจะทรงไม่ไหว ไม่อยากทำแล้ว เพราะนางรู้ถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับนางเมื่อครู่นี้เอง

    "ข้า...จักมิทำให้เจ้าเป็นลมอีก เจ้ามิต้องกลัวไปหรอก"ตรัสเสร็จก็มิได้รอฟังคนตรงหน้าตอบ พระองค์ประกบริมฝีปากเข้าไปใหม่แต่ครั้งนี้การกระทำของพระองค์เร่าร้อนกว่าเดิมยิ่งนัก พระองค์ได้โอกาสคือพระองค์กับนางตอนนี้อยู่ในห้องบรรทม ห้องบรรทมของพระองค์นั่นเอง

    "อื้อๆๆๆๆ..."อีกฝ่ายดื้อดึงยิ่งนัก นางพยายามดิ้นๆ ดิ้น และดิ้น นางมิอยากตายหรือเป็นลมรอบที่สอง และนางก็มิอยากให้พระองค์หรือผู้ชายคนใดทำแบบนี้กับนาง แสดงให้เห็นว่านางยังมิพร้อม ในความรู้สึกนางตอนนี้ นางรู้สึกเหนื่อยล้า และอยากจะขอนอนต่ออีกซักงีบ

    "อื้อๆๆๆๆ..."ความพยายามของนางยังมิย้อท้อ ขอเพียงสบโอกาสที่นางสามารถหนีได้ หรือพระองค์เปิดโอกาสให้นางพูด นางจักขอพระองค์นอนต่อเพื่อลบความเหนื่อยล้าของนางให้หายไป

    แต่ใครจะไปรู้หล่ะว่า...พระองค์ในตอนนีี้ต้องการอยู่ข้างๆนาง มิต้องการให้นางไปไหน มิต้องการให้นางเป็นอันตรายใดๆอีก พระองค์ต้องการนาง และท้ายที่สุดแล้ว ก้นบึ้งของหัวใจพระองค์คือ พระองค์ต้องการพิสูจน์ให้นางเห็นว่าพระองค์รักนางจริงๆ

    "อื้อ อื้อ..."นี่มิได้เป็นลมหายใจเฮือกสุดท้ายของนาย แต่เป็นสัญญาณว่านางหมดแรงแล้ว นางจักมิดิ้นต่อ แต่ขอเพียงพระองค์รับรู้และให้นางนอนพักแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว...

    "หืม...ทำไมเงียบไปหล่ะ มิร้องครวญต่อแล้วเหรอ ข้าจักมอบความรักใ้ห้แก่เจ้าจนข้าจักพอใจ..."พระองค์ตรัสอย่างเจ้าเล่ห์และรู้ว่าอีกเดี๋ยวแม่ตัวดีของพระองค์ต้องกลับมาดิ้นอีกรอบเป็นแ่น่...!!

    แต่เวลาก็เกรี้ยงกรายไปซักพักได้ แม่นางยังมิขยับตัวอีก

    พระองค์รู้สึกใจคอหายวาบ นี่นางจักเป็นลมเป็นแล้งไปอีกกระนั้นหรือ

    "เจ้า...!!"พระองค์เรียกนางเบาๆพร้อมเขย่าตัวนาง

    "...."คนตรงหน้ายังคงนอนแน่นิ่งอย่างหมดสติ

    "ลิเรีย เจ้าอย่าล้อข้าเล่นนะ"พระองค์พูดแกมสงสัยแม่ตัวดี

    "....."แต่แม่ตัวดีของพระองค์ก็ยังคงไม่กระดุกกระดิกอะไร

    ฟึ่บ! มือหนาข้างหนึ่งของพระองค์ยกไปแตะเบาๆที่หน้าผากของหญิงสาว
    หน้าผากอันร้อนระอุทำให้คิ้วของพระองค์ขมวดเข้มเผยให้เห็นทันที

    "เจ้าเป็นไข้นี่ ทำไมท่านหมอถึงไม่รู้นะ ทหาร!!!!!!"จิตใจกระวนกระวาย นางเป็นหนักกว่าเดิม จากเป็นลมธรรมดา ตอนนี้นางเป็นหวัด
    เพิ่มขึ้นมาอีกรีนี่!

    "พะยะค่ะ องค์ฟาโรห์"

    "ไปตามหมอหลวงมา อ้อ!!...ข้าขอหมอหลวงที่เก่งที่สุดแทนหมอหลวงคนเมื่อกี้ก็แล้วกัน"

    "พะยะค่ะ!"ถึงทหารนายนั้นจะสงสัยว่าทำไมต้องเอาหมอหลวงคนใหม่แทนก็ตาม แต่ก็ไม่ได้สอบถามอะไรออกไป เพราะกลัวจะโดนประหารเอาเสีย

    ขบวนหมอหลวงนับสิบพร้อมผู้ช่วยและนางกำนัลมากมาย แห่กันมาข้างหน้าตำหนัก

    "ฝ่าบาท หมอหลวงมาแล้วพะยะค่ะ!"

    "ให้เข้ามาได้!!"พระองค์ตรัสอย่างรีบเร่งในมือก็ถือผ้าชุบน้ำปาดเหงื่อไล่ความร้อนบนใบหน้าของหญิงสาว

    หมอหลวงสิบคนเข้ามาในตำหนักพร้อมกับสำภาระติดตัวครบครัน

    "ทำไมพวกเจ้าถึงทำงานไม่รู้ภาษีภาษาอย่างงี้ พวกเจ้าไม่รู้รึไงว่าว่าที่ราชินีของข้ามีไข้ ฮึ!!!"พระองค์ทรงตรัสถามเสียงแข็ง

    หมอหลวงทุกคนถึงกับกลัวพระองค์ กลัวว่าพระองค์จะทรงกริ้วและจะทรงประหารพวกเขาทั้งหมด

    ผู้ใจกล้าคนหนึ่งทูลตอบไปว่า...

    "มิได้พะยะค่ะ หม่อมฉันในฐานะรองหมอหลวงในวัง หม่อมฉันคิดว่าลูกน้องของหม่อมฉันมิมีทางตรวจโรคง่ายๆเช่นนี้ผิดหรอกพะยะค่ะ"น้ำเสียงที่ฟังดูจริงจังแต่คนพูดกลับผิดกับน้ำเสียงโดยสิ้นเชิง

    "ท่านรองเหรอ...แล้วหัวหน้าหล่ะ หัวหน้าหมอหลวงไปหมุดหัวอยู่ที่ไหนกัน"

    "ฝะ..ฝ่าบาท ทูลให้พระองค์ทราบ ท่านหมอใหญ่ไปทำภารกิจดูแลประชาชนทางใต้อยู่พะยะค่ะ"

    "คนพวกนั้นเป็นเช่นไรกัน ทำไมพวกเจ้าถึงมิส่งหมออื่นไปแทน หรือว่าเป็นงานที่ยากนัก"

    "ทูลให้พระองค์ทราบอีกพะยะค่ะ หมอใหญ่ลงไปทำภารกิจอยู่เขตทางตะวันออกเฉียงใต้มานานแล้วพะยะค่ะ สาเหตุที่ไปก็เพราะที่นั่นประชาชนบาดเจ็บจากสงครามเมื่อครั้งที่แล้วกันมากเพราะทางนั้นเป็นทางที่ข้าศึกบุกมาครั้งแรก
    และทางนั้นยังมีโรคระบาดอีกด้วย แต่หมอใหญ่บอกข้าน้อยว่า หมอใหญ่ได้ทำยารักษาเสร็จแล้วพะยะค่ะ ส่วนที่ไปทางใต้อีกนั้นก็เพราะ คาดว่าคนทางใต้อาจจะได้รับเชื้อโรคนี้ด้วย และก็เป็นไปตามที่หมอใหญ่คิด ทางใต้ติดเชื้อจริงๆพะยะค่ะ!"

    "กระนั้นหรือ อย่ามัวชักช้าอยู่ รีบเข้ามาตรวจว่าที่ราชินีของข้าเร็วเข้า!!"

    "พะยะค่ะ!"

    หลังจากหมอหลวงตรวจไปกว่าสิบนาที...

    "เป็นเช่นไรบ้าง ท่านหมอ"

    "เท่าที่ดูอาการแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรผิดปรกติพะยะค่ะ เพียงแต่ว่า...พระนางคงแค่หมดสติไป แต่จะหมดสติยาวนานซักหน่อย พระองค์อย่าได้ทรงกังวลพระทัย พะยะค่ะ"

    "แสดงว่านางก็ไม่เป็นอะไรน่ะสิ"

    "ใช่พะยะค่ะ"

    "อืม...งั้นพวกเจ้าก็กลับไปได้แล้ว มียาอะไรก็รีบๆส่งมาหล่ะ"

    "พะยะค่ะ!!"

    หลังจากที่เหล่าหมอหลวงออกไป

    "เอ่อ..ฝ่าบาท หม่อมฉันให้หมอหญิงมาทรงเช็ดตัวให้กับพระ..เอ่อ..ว่าที่พระราชินีแล้วพะยะค่ะ!"
    ขุนนางคนสนิทขององค์ฟาโรห์คนหนึ่งบอกพระองค์ พร้อมด้วย หมอหญิงที่เดินตามมาเป็นขบวน

    "เอาผ้ากับอุปกรณ์ทั้งหลายแหล่วางไว้ที่นี่ ข้าจักดูแลนางเอง"

    "เอ้อ..!!ท่านหมอพูดอะไรกับเจ้าบ้าง"

    "เอ่อ..หลังจากที่ท่านหมอออกไปแล้ว ข้าก็ได้ซักถามท่านหมอแล้ว ท่านหมอบอกว่า ท่านหมอมิกล้าทูลกับฝ่าบาทตามจริงเพราะกลัวจะ..เอ่อ..ทำให้พระองค์ทรงลำบากพระทัย"

    "แล้ว..ท่านหมอว่าไง!?"

    "ท่านหมอบอกว่า ว่าที่พระราชินีทรงเป็นโรคอ่อนแอง่าย แม้ร่างกายหรือเอ่อ..นะ..นิสัยของว่าที่ราชินีของพระองค์จักทรงขะ..แข็งกระด้างนัก แต่ภายในนั้นอ่อนแอและอาจจะติดโรคได้ง่าย"ขุนนางคนนั้นว่าอย่างตะกุกตะกักเพราะตนอาจจะได้รับโทษตายก็เป็นได้

    "แล้วข้าจักต้องทำอะไรบ้าง"

    "ท่านหมอบอกว่า..จะส่งยามาให้ ส่วนเรื่องอื่นก็อย่าให้ว่าที่พระราชินีออกจากวังมากนัก อย่าให้ทำงานหนัก และพระองค์..ก็..อย่าทรง..."แน่นิ่งเงียบไป เพราะประโยคที่ตนนั้นจักพูดต่อไป ตนอาจจะถูกตัดหัวก็เป็นได้

    "หรอ..ข้ารู้แล้ว ขอบใจเจ้ามาก ออกไปได้แล้ว"

    ตรัสเช่นนั้นก็ทำให้หลายๆคนใจชื้นขึ้นมาทันทีทันใด

    หลังจากนั้นพระองค์ก็ตรัสว่าจักอยู่กับว่าที่พระราชินีตามลำพัง ข้าราชบริพารจึงทยอยกันออกไปหมด

    "ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมบอกข้าว่าเจ้าอ่อนแอกันนะ มันน่าโมโหจริงๆ เจ้าหลับไปโดยไม่คุยกับข้า มันทำให้ข้ารู้สึกเปล่าเปลี่ยวใจ คราวหน้าคราวหลัง ถ้าเจ้าไม่ชอบอะไรที่ข้าทำ ก็บอกข้าได้..."พระองค์ว่าพลางรอฟังคำตอบจากคนตรงหน้า

    "....."เงียบ..ทุกสิ่งอยู่ในความเงียบสงบ

    "โอ้ย!!~...ขอน้ำหน่อย ข้าหิวน้ำ..."เสียงของนางปรากฏขึ้น ทำให้สีพระพักตร์ขององค์ฟาโรห์เปลี่ยนไปทันที โอ้!..ประเสริฐ นางฟื้นแล้ว
    หัวใจของพระองค์ชุ่มชื้นขึ้น ความกังวลหายเป็นปริดทิ้ง

    "น้ำ..!"พระองค์ตรัสสั่งนางกำนัลใกล้ๆคนหนึ่งที่เพิ่งจะเดินเข้ามาเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวให้

    "ได้แล้วเพคะ"(บทของฉันมีแค่นี้เองหรือยะ!=_=!:นางกำนัลโวย)

    "เจ้า..น้ำ!!!ตื่นขึ้นมาดื่มสิ"พระองค์ก้มหน้าลงไปตรัสเบาๆกับคนร่างบางที่นอนร้องครวญอยู่บนเตียง

    "อืม...เนเรซิสเหรอ~"นางลืมตาขึ้น แต่อาการยังคงสะลืมสะลืออย่างเห็นได้ชัด
    องค์ฟาโรห์ได้แต่ยิ้มอย่างชื้นพระทัย...นางนี่ช่างน่าค้นหาจริงๆ

    อึก อึก  ฉันดื่มน้ำไปอึกใหญ่ ไม่รู้ทำไมมันถึงได้หิวกระหายตายซากจากน้ำอย่างงี้นะ เฮ้อ~..น่าจะหลับให้มันเต็มอิ่มซักงีบ แต่นี่ดั๊นมาหิวน้ำ
    แถมตื่นมายังต้องมาเจอกับผู้ไม่ประสงค์ที่อยากจะเจออีก=_=!มันน่าหนักใจจริงๆเลย

    "เจ้าเป็นไข้"พระองค์ตรัส

    "หา..? ล้อเล่นรึเปล่า ข้าเนี่ยนะ เหอะ!"

    นางช่างแข็งกระด้างนัก แต่ดวงตาของนางบอกได้ชัดเลยว่านางก็มีจุดที่อ่อนแออยู่

    "เจ้าเป็นไข้จริงๆ.."พระองค์ตรัสอย่างจริงจัง ทำให้นางทำหน้าเขวใส่พระองค์อย่างไม่พอใจ

    "จะเป็นได้ยังไงกัน คนอย่างข้าเนี่ยนะ กระโดดหนี อุ๊บX!!"โอ้!..ไม่นะ นางเกือบจะเล่าอะไรที่มันเป็นกริยาที่ไม่เหมาะเสียแล้ว(ไม่เหมาะกับการเป็นผู้หญิง)

    "หนี..อะไร?"พระองค์ตรัสถาม

    "มะ..ไม่มีอะไร เอาเป็นว่าคนอย่างข้าน่ะ แข็งแรงมาก และมากเกินกว่าจะเป็นไข้อย่างงี้ เข้าใจรึไม่"

    "หึ!..แล้วทำไมข้าจักต้องเชื่อว่าเจ้าแข็งแรงด้วยหล่ะ ในเมื่อเจ้ายังจูบกับข้าไม่ถึงครึ่งชั่วยามเลยด้วยซ้ำ"

    "บะ..บ้าน่า>//////<"หน้านางแดงเป็นลูกตำลึงสุกไปถึงเหนือหัว(เว่อร์=_=!)

    "ฉะนั้น เจ้าเป็นไข้ก็มิแปลกอะไร ตัวเจ้าเองก็เป็นอิสตรี มิต้องทำตัวเข้มแข็งไปใยหรอก"พระองค์ตรัส

    "ละ..แล้วไง ข้าเป็นอิสตรี แต่มิได้อ่อนแออ่อนเปลี้ยซักหน่อย ข้าจักเข้มแข็ง เป็นตัวของตัวเอง เพื่อเอาชีวิตรอดในทุกๆที่อย่างไรหล่ะ"
    ฉันว่า

    "เอาชีวิตรอด? เจ้าอยู่ที่นี่ยังต้องเอาชีวิตรอดอะไรอีก"

    "เอาชีวิตรอดจากสิ่งชั่วร้ายที่มาจองเวรจองกรรมอยู่ข้างกายนี่ไง"

    "เจ้าหมายถึงอะไร?"

    นี่ไม่ได้หาว่าโง่นะ..แต่สมองทึบรึไงกัน=_=!อุ๊บ!xxไม่ได้ เดี๋ยวคอขาด(บาดเศียร)

    "ไม่มีอะไร ข้าว่าท่านออกไปดีกว่า ข้าจักพักผ่อน"

    "หึ!...ข้าอุตส่าห์เฝ้าเจ้านะ เจ้าจักไม่เกรงใจข้าหน่อยเลยหรือไง อ้อ!อีกอย่าง การกระทำของเจ้ามันแสดงให้เห็นว่าเป็นคนอ่อนแอนะ"

    ก่อนที่ฉันจะพลิกตัวลงไปนอนเช่นเดิมฉันก็ต้องหยุดกึก!เพราะคำพูดที่ว่า การกระทำของเจ้ามันแสดงให้เห็นว่าเป็นคนอ่อนแอของเขานั่นเอง ที่ทำให้ฉันหันไป
    ทำตาเขวใส่เขาอย่างไม่พอใจ

    "แล้วจะให้ฉันทำยังไงฮะ ถึงนายจะว่าว่าฉันไม่ใช่คนที่อ่อนแอ"

    "ไม่รู้สิ...ข้าจักไปก่อนหล่ะ เจ้าน่ะเป็นอิสตรีที่อ่อนแอคนหนึ่งนะ เจ้าต้องรู้ตัวไว้ด้วย"

    พระองค์กำลังจะลุกจากไป แต่นางกลับดึงตัวพระองค์ไว้ แล้วพยุงตัวนางขึ้นไปประกบริมฝีปากของพระองค์ พอให้เป็นพิธีว่านางมิได้เป็นคนอ่อนแอ
    แต่พอจะถอนริมฝีปาก อีกคนกลับมิจงใจมิยินยอมเช่นนั้น เขารัดนางแน่น จนทำให้นางแทบหายใจมิออก จูบนางอีกครั้ง และครั้งนี้ก็เลื้อยเข้าไปเช่นเคย จนทำให้นาง
    ต้องหลับตาปี๋ แต่ครั้งนี้





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×