ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : เมียเก็บเอ้ย!!!เจ็บ
"เจ้า เจ้าเป็นอะไร!!! ทหาร!!!ไปตามหมอหลวงมาที"พระองค์รู้สึกผิดมากในตอนนี้ ความโกรธที่มีต่อนางตอนนี้สูญหายไปหมดแล้ว เหลือไว้แต่ความห่วงใยและเป็นห่วงให้นางมีชีวิตรอดอย่าเป็นอะไร(555+ขนาด พระเอกยังคิดว่าแกตายเลย 555+สมน้ำหน้าอินางเอก)
บนเตียงนุ่มๆ =_=!เตียงบรรทม
คน ร่างใหญ่ซิกแพ็ค~...หล่อสุดๆ นั่งอยู่บนเตียงใหญ่เตียงหนึ่ง(เตียงของเขานั่นแหล่ะ จะบรรยายให้เวอร์ไปทำซากอะไร) ข้างๆเขามีมดน้อยเอ้ย!!!ซิลเดอเรล่าน้อยนอนอยู่ ตอนนี้นางกำลังหลับอย่างกะเจ้าหญิงนิทรา(คนละเรื่องกันเลย)
ฮืมๆๆๆ ที่นี่ที่ไหนเนี่ย(:โรงบาลบ้า!!:ขอบตอบ::Okonomiyaki) นางรู้สึกเหมือนร่างกายของตัวเองนอนอยู่บนฟูกนุ่มๆสบายกาย นางมิอยากจะขยับไปไหนเลย ตอนนี้นางอยากจะนอนหลับซักงีบบนฟูกนี้ก่อน นางคงตายแล้วหล่ะ ตอนนี้นางคงอยู่บนสวรรค์นี่คือถ้อยคำเรียบเรียบในความคิดของนาง
" ท่านหมอ!!..พระสนมของข้าเป็นอะไร!!!"เสียงใครหว่า!?...เอ๊ะ!!คุ้นๆนะ ใช่แล้ว!!!!องค์ฟาโรห์เนเรซิสนี่นา อ้าววว!!แล้วมาอยู่บนสวรรค์กับเราได้ไงอ่ะ หรือว่าเขายอมตายมากับเรา ^^เย้ๆๆๆๆ เขารักเรางั้นเหรอ โห!~..ยอมทำเพื่อเราขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย น่าปลื้มใจ><!!!
"หมะ..หม่อมฉัน..."อุ๊ย!..บนสวรรค์มีหมอด้วยเหรอเนี่ย เพิ่งรู้นะเนี่ย
"รีบพูดมา!!! นางเป็นเช่นไร"
"คะ..คือหม่อมฉันคิดว่า...นางคง..."
"รีบพูดมา!!!! ว่าที่รา-ชิ-นี ของข้าเป็นเช่นไร!!!!"
O0O!!!! ว่าที่รา-ชิ-นี....!!!!
ฟึ่บ! ทันทีที่ได้ยินคำๆนั้นจากปากของเขาฉันก็ตื่นขึ้นจากภวังค์แห่งความสบายของฟูกและรีบลุกขึ้นมาถามเขาด้วยความตกใจ
"ท่านตายแล้วนะ พวกเราอยู่บนสวรรค์กัน ท่านจะบ้าให้ข้าเป็นราชินีทำไมอีก นี่ไม่ใช่อียิปห์นะท่านO0O!!~"ฉันพูดออกไปอย่างตกใจสุดขีด
"......" สีหน้าตอนนี้ทั้งหมอและ...เขา...ถึงกับอึ้ง!!! นี่นางเป็นอะไรกัน หมดสติไปหรือบ้าไปแล้วกันแน่ คนที่ทำให้นางเป็นแบบนี้มันต้องได้รับการลงโทษอย่างสาสม!!!!
"จะ... เจ้าเป็นอะไรไป เจ้าเป็นบ้าไปแล้วรึไง! นี่คืออียิปห์ ข้าปกครองที่นี่มานาน และก็จักมิมีวันตายก่อนข้าจักมีโอรสสืบสกุล เจ้าเข้าใจผิดอะไรรึเปล่า!"องค์ฟาโรห์ทรงจับข้อมือเล็กๆของนางพลางถามสิ่ง ที่พระองค์อยากจะรู้
"มะ...ไม่จริง!! ก็เมื่อกี้นี้ เอ่อ...ข้ารู้สึกเหมือนตัวเองตายไปเลยอ่ะ ก็ท่าน...อุ๊บ!x/////// จะ..จูบข้า และข้าก็มิรู้สึกอะไรอีกเลยหลังจากนั้น"นางทำหน้่าใสซื่อใส่เขา
"จะ...เจ้ายังจำได้นี่!!! ท่านหมอ ตกลงนางเป็นอะไรกันแน่"
" หม่อมฉันกำลังจะรีบตอบพระองค์อยู่แล้วพะยะค่ะ ว่า...ว่าที่ราชินีของพระองค์มิได้ทรงเป็นอะไรพะยะค่ะ แค่หมดสติไปเล็กน้อยพะยะค่ะ แต่ที่พระนางยังคงนอนอยู่ไม่ขยับเขยื่อนเพราะอาจจะเป็นที่นอนของพระองค์ที่ ทำให้ว่าที่ราชินีสบายและผล็อยหลับไปก็เป็นได้พะยะค่ะ" เอ่อ..ฮะ..แฮะ!!!อาจจะจริงของท่านหมอก็เป็นได้^^!!! ข้าเริ่มเรียบเรียงอะไรต่อมิอะไรเป็นลำดับเหตุการ์พอได้แล้วหล่ะ ^^เหอะๆ ข้าขอโทษนะท่านเนเรซิสที่ทำให้เป็นห่วง
"นี่หรือว่าเจ้า...มิได้ตายแต่แกล้งหลับ!!!"พระองค์ตรัสสีหน้าเคร่งเครียด นางจักเป็นอะไรไปไม่ได้ และอีกอย่างนางต้องมิบ้า!!!!
"คะ...คือ..ถ้าข้าบอกท่าน ท่านต้องไม่ว่าข้า ไม่ทำโทษข้า หรือไม่...เกลียดข้า~..."
"เจ้ารีบบอกข้ามา เร็วๆ!!"พระองค์ตรัสสั่ง
" งั้น...ข้าจะบอกความจริงก็ได้ คือที่บรรทมของท่านมันนุ่มนัก และข้าก็รู้สึกเหนื่อยในเวลานั้น ข้าเลย...นอน^^...ต่ิอ ท่านสัญญาแล้วนะ ท่านจักมิว่าอะไรข้า อย่าลงโทษข้าเด็ดขาดนะ!!!"ฉันเล่าความเป็นมาทั้งหมดของฉัน พร้อมทั้งยื่นคำขาดในสัญญาที่องค์ฟาโรห์ได้ให้ไว้
"...หึๆ มันเป็นอย่างงี้เองนะหรือ แล้วทำไมเจ้ามิตื่นมาบอกข้า!!! เจ้าก็รู้ข้าเป็นห่วงเจ้าแค่ไหน เ้จ้าต้องหัดแยกแยะบ้างนะว่าเวลาไหนคือสถาณการณ์ปกติที่สามารถหลอกข้าได้ หรือเวลาไหนคือเวลาคับขัน เจ้าจักตายหรือเป็นลมข้ามิรู้ แต่เจ้าเล่นหลอกข้า มิให้ซุ่มให้เสียง นอนหลับไป เป็นใครเขาก็ต้องใจหายกันทั้งนั้น เจ้าเข้าใจรึไม่!"...นี่นางกำลังทำให้เขาปวดหัวมากเลย...
อึ้ง!!!!
นี่นางโดนเขาด่าเหรอ หรือว่า...สั่งสอน
"ขะ..เข้าใจแล้ว"ว่าอย่างตะกุกตะกัก อย่างคนสำนึกผิด
"ท่านหมอเชิญกลับได้แล้ว..."ตรัสสั่ง
"พะยะค่ะ!!"และไม่นานหมอหลวงทั้งหลายก็ทยอยออกไปจนในห้องเหลือเพียง..'เราสองคน'
"ท่านมิไปทำราชกิจรึ^^"ยังมีหน้ามาปั้นยิ้ม=_=!นางเอกเรา ใสซื่อเสียจริงจริ๊ง!!~
"...ข้าทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้ามิต้องกังวล และทำเป็นเมียที่ดีของข้านัก"
"ข้าเป็นเมียของท่านตรงไหนกัน ท่านบังคับข้าตะหาก"ฉันแย้ง
"งั้นรึ!!...แต่พ่อเจ้าก็ยกเจ้าให้ข้าแล้วนะ"
"หน็อย~...ท่านนี่ทำรู้ไปหมดทุกเรื่องเลยนะ ท่านจะไม่รู้ซักเรื่องจักได้มั้ย!?!!!"
"=_=!!...เจ้ามิฉลาดรึ แค่นี้จำมิได้ก็มิต้องไปบริหารราชกิจแผ่นดินแล้ว"
"แหม~...ก็นึกว่าท่านจักมิจดจำเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ซะอีก"
"จักให้ข้ามิจดจำเจ้าได้ยังไงกันหล่ะ ในเมื่ออีกเดี๋ยวเจ้าก็จะเป็นถึงราชินีของข้าแล้ว"
O0O!!เออ.ใช่!ลืมนึกไป ย้ากกกก ใครจะไปเป็นราชินีของนายกันยะ!!!!...แค่สนมก็ยุ่งพอแล้ว(ยุ่งทางใจT^T!)
"ไม่!!!! ข้าจักเป็นราชินีของท่านได้ยังไงกันเล่า มีหวังพระสนมเอก รองนั่นได้ฆ่าข้าอย่างแน่นอน"ฉันว่า
" ก็ข้าบอกเจ้าไปแล้วยังไงเล่า ข้ามิได้รักพวกนาง และมิได้อยากรับพวกนางเข้ามาเป็นพระสนมแต่เพียงน้อย และอีกอย่าง ข้าเป็นถึงฟาโรห์ ข้าย่อมแต่งตั้งให้ใครเป็นราชินีก็ได้!"ตรัสคำขาดอย่างหนักแน่น เหมือนกับว่า ทำให้นางผู้ที่ฟังอยู่หมดทางเลือก
"ยะ..ยังไงก็ไม่ได้!!!! ฉันเพิ่งมาเป็นพระสนมเองนะ!!~"
" แล้วไงเล่า!!! นี่เจ้าแกล้งหลับ แล้วยังมิสำนึกอีกรึ! ถึงได้มาต่อล้อต่อเถียงกับข้า ข้าแต่งตั้งให้เจ้าเป็นอะไร เจ้้าก็ต้องเป็น เพราะนี่คือคำสั่งมาจากใจของข้า!!!"ประโยคหลังดูหนักแน่นและจริงจังขึ้น
'มาจากใจข้า'...คำๆนี้ดังก้องในหัวใจฉันด้วยความสงสัยและอยากรู้
"เจ้าจักมิถามหน่อยรึว่าคำว่ามาจากใจข้ามันแปลว่าอะไร หน้าเจ้ามันฟ้องหน่ะ"
"นะ..นายรู้แล้วก็พูดมาสิ"
" เจ้าอยากรู้จริงๆด้วย...ใจช้าน่ะ..ตอนนี้มีแต่..เจ้า~...เพียงคนเดียว" พระองค์ตรัสพลางกุมมือของนางทั้งสองข้างพลางตีสีหน้าเคร่งเครียดและจริงจัง(ใจ)
"ทีนี้เจ้าพอรู้รึยังว่าทำไมข้าต้องพูดเช่นนั้น"
ที่ เขาต้องพูดเช่นนั้นคงเพราะว่า ตอนนี้เขาคงรักฉัน รึว่าไม่!! ฉันยังไม่แน่ใจ ไม่แน่ใจจริงๆ เราสองคนเพิ่งพบกัน มันจะเร็วอะไรปานนี้ได้ยังไง
"ขะ...ข้าขะ..เข้าใจแล้ว"//////หน้าของนางเริ่มแดงซ่านเมื่อพระองค์เอื้อมมือมาจับใบหน้าของนาง
"เจ้าตัวร้อนรึเนี่ย ทำไมหมอหลวงถึงตรวจมิพบนะ ข้าจักต้องลงโทษพวกเขาซักหน่อยแล้ว"
" มะ..ไม่ได้นะเพคะ!!! ทะ..ที่ข้าตัวร้อนก็เพราะ...."...เพราะท่านนั่นแหล่ะ ข้ามิเคยหวั่นไหว มิเคยหน้าแดง มิเคยใจเต้นกับผู้ใดมาก่อน...ยกเว้นท่านในตอนนี้เลย...
"หืม..อะไรรึ..เพราะอะไร"
"มะ..ไม่มีอะไร ท่านมิต้องถามมากได้มั้ย-////////-"
"อืม ข้าจักมิถามเจ้าให้มากความ"
" และนี่คือคำถามสุดท้ายจากใจของข้า..."คำว่า'จากใจของเขา'ทำให้ใจของฉันเต้น แรงขึ้น มันจะกระตุกทุกครั้งเมื่อเขาพูดว่ามาจากใจของเขา นี่หรือว่า...
"เจ้า...รักข้า...รึไม่!?"
-///////////////////////- ใบหน้าเริ่มแดงซ่าน หน้านางเริ่มร้อนขึ้น ตอนนี้นางเหมือนอยู่กลางแจ้งกับดวงอาทิตย์ สองมือน้อยก็สั่นเทา ปากก็พูดอะไรไม่ออก ความรู้สึกก็พูดออกไปให้เขาฟังไม่ได้ เพราะตอนนี้นางกำลังรู้สึก...สับสน...
ผิดกับ คนร่างใหญ่ ที่ตอนนี้นั่งรอฟังคำตอบอยู่หน้านางที่ตนรัก แต่เขามิได้หน้าแดง หรือเอียงอาย หรือเกิดความรู้สึกสับสนแต่อย่างใด เพราะเขาเป็นคนถามและต้องการคำตอบรับรักจากนาง ความผิดหวัง ความทุกข์และการปฏิเสธที่จะเกิดขึ้น เขาจักต้องเตรียมใจรับมัน มิใช่หน้าแดงไปกับอีกฝ่ายด้วย ตอนนี้ในใจเขารอฟังคำตอบจากนางตรงหน้าเท่านั้น...
เมื่อเห็นนางนั่งนิ่งมิตอบอะไร เขาก็เริ่มเขย่ามือนางให้มีสติดังเดิมเหมือนรู้ว่านางคงจะพูดอะไรไม่ออก
"ขะ..ข้า"นางว่าพลางหลบตาพระองค์เหมือนเอียงอาย พระองค์เริ่มรู้สึกเหมือนตนอยู่ระหว่างความรักกับความผิดหวัง ห้าสิบๆซะแล้ว
ที่ จริงแล้ว..ในใจตอนนี้นางอยากจะตะโกนออกไปดังๆว่านางชอบท่าน...แต่ก็ยังมิได้ รักเขาจริงๆที แต่ก็มิสามารถตอบออกไปได้เพราะปากของนางมันมิตรงกับใจเอาเสียเลย
"ว่าไง!!?"พระองค์ตรัสถามอีกครั้งพลางกระตุกแขนนางให้รีบตอบ
"ข้าคิดว่า ขะ..ข้าเริ่มชอบท่าน แต่ข้ามิได้รักท่าน>/////////<"
นะ.. นี่นางชอบพระองค์รึ!?...โธ่~..แค่นางตอบแค่นี้พระองค์ก็ใจชื้นขึ้นเป็นกองแล้ว พระองค์มิได้หวังให้นางรักพระองค์ตั้งแต่ต้นหรอก เพราะพระองค์คิดทบทวนเรื่องแบบนี้มาเป็นร้อยๆครั้งแล้ว นางเพิ่งเคยพบพระองค์ และคงจะไม่ได้มีใจให้พระองค์ตั้งแต่แรกพบเหมือนกับพระองค์ที่มีใจให้นาง ตั้งแต่แรกพบ
"ข้าจักทำให้เจ้ารักข้าให้ได้..."ตรัสจบพระองค์ก็เริ่มปฏิบัติตามใจสั่ง พระองค์ต้องการให้นางรักพระองค์เหมือนกับที่พระองค์รักนางสุดหัวใจ พระองค์รีบรุดหน้าดันนางลงบนเตียงและปากของพระองค์ก็เริ่มประคองปากอันอวบอิ่มของนางอีกรอบ
...ครานี้พระองค์จักมิทรงทำให้นางเจ็บหรือเป็นลมอีก...พระองค์เชื่อว่าตนสามารถทำได้
"อื้อๆๆๆ..."นางมีท่าทีคร่ำครวญเสียงอื้ออึงเหมือนกับว่านางจะทรงไม่ไหว ไม่อยากทำแล้ว เพราะนางรู้ถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับนางเมื่อครู่นี้เอง
"ข้า...จักมิทำให้เจ้าเป็นลมอีก เจ้ามิต้องกลัวไปหรอก"ตรัสเสร็จก็มิได้รอฟังคนตรงหน้าตอบ พระองค์ประกบริมฝีปากเข้าไปใหม่แต่ครั้งนี้การกระทำของพระองค์เร่าร้อนกว่าเดิมยิ่งนัก พระองค์ได้โอกาสคือพระองค์กับนางตอนนี้อยู่ในห้องบรรทม ห้องบรรทมของพระองค์นั่นเอง
"อื้อๆๆๆๆ..."อีกฝ่ายดื้อดึงยิ่งนัก นางพยายามดิ้นๆ ดิ้น และดิ้น นางมิอยากตายหรือเป็นลมรอบที่สอง และนางก็มิอยากให้พระองค์หรือผู้ชายคนใดทำแบบนี้กับนาง แสดงให้เห็นว่านางยังมิพร้อม ในความรู้สึกนางตอนนี้ นางรู้สึกเหนื่อยล้า และอยากจะขอนอนต่ออีกซักงีบ
"อื้อๆๆๆๆ..."ความพยายามของนางยังมิย้อท้อ ขอเพียงสบโอกาสที่นางสามารถหนีได้ หรือพระองค์เปิดโอกาสให้นางพูด นางจักขอพระองค์นอนต่อเพื่อลบความเหนื่อยล้าของนางให้หายไป
แต่ใครจะไปรู้หล่ะว่า...พระองค์ในตอนนีี้ต้องการอยู่ข้างๆนาง มิต้องการให้นางไปไหน มิต้องการให้นางเป็นอันตรายใดๆอีก พระองค์ต้องการนาง และท้ายที่สุดแล้ว ก้นบึ้งของหัวใจพระองค์คือ พระองค์ต้องการพิสูจน์ให้นางเห็นว่าพระองค์รักนางจริงๆ
"อื้อ อื้อ..."นี่มิได้เป็นลมหายใจเฮือกสุดท้ายของนาย แต่เป็นสัญญาณว่านางหมดแรงแล้ว นางจักมิดิ้นต่อ แต่ขอเพียงพระองค์รับรู้และให้นางนอนพักแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว...
"หืม...ทำไมเงียบไปหล่ะ มิร้องครวญต่อแล้วเหรอ ข้าจักมอบความรักใ้ห้แก่เจ้าจนข้าจักพอใจ..."พระองค์ตรัสอย่างเจ้าเล่ห์และรู้ว่าอีกเดี๋ยวแม่ตัวดีของพระองค์ต้องกลับมาดิ้นอีกรอบเป็นแ่น่...!!
แต่เวลาก็เกรี้ยงกรายไปซักพักได้ แม่นางยังมิขยับตัวอีก
พระองค์รู้สึกใจคอหายวาบ นี่นางจักเป็นลมเป็นแล้งไปอีกกระนั้นหรือ
"เจ้า...!!"พระองค์เรียกนางเบาๆพร้อมเขย่าตัวนาง
"...."คนตรงหน้ายังคงนอนแน่นิ่งอย่างหมดสติ
"ลิเรีย เจ้าอย่าล้อข้าเล่นนะ"พระองค์พูดแกมสงสัยแม่ตัวดี
"....."แต่แม่ตัวดีของพระองค์ก็ยังคงไม่กระดุกกระดิกอะไร
ฟึ่บ! มือหนาข้างหนึ่งของพระองค์ยกไปแตะเบาๆที่หน้าผากของหญิงสาว
หน้าผากอันร้อนระอุทำให้คิ้วของพระองค์ขมวดเข้มเผยให้เห็นทันที
"เจ้าเป็นไข้นี่ ทำไมท่านหมอถึงไม่รู้นะ ทหาร!!!!!!"จิตใจกระวนกระวาย นางเป็นหนักกว่าเดิม จากเป็นลมธรรมดา ตอนนี้นางเป็นหวัด
เพิ่มขึ้นมาอีกรีนี่!
"พะยะค่ะ องค์ฟาโรห์"
"ไปตามหมอหลวงมา อ้อ!!...ข้าขอหมอหลวงที่เก่งที่สุดแทนหมอหลวงคนเมื่อกี้ก็แล้วกัน"
"พะยะค่ะ!"ถึงทหารนายนั้นจะสงสัยว่าทำไมต้องเอาหมอหลวงคนใหม่แทนก็ตาม แต่ก็ไม่ได้สอบถามอะไรออกไป เพราะกลัวจะโดนประหารเอาเสีย
ขบวนหมอหลวงนับสิบพร้อมผู้ช่วยและนางกำนัลมากมาย แห่กันมาข้างหน้าตำหนัก
"ฝ่าบาท หมอหลวงมาแล้วพะยะค่ะ!"
"ให้เข้ามาได้!!"พระองค์ตรัสอย่างรีบเร่งในมือก็ถือผ้าชุบน้ำปาดเหงื่อไล่ความร้อนบนใบหน้าของหญิงสาว
หมอหลวงสิบคนเข้ามาในตำหนักพร้อมกับสำภาระติดตัวครบครัน
"ทำไมพวกเจ้าถึงทำงานไม่รู้ภาษีภาษาอย่างงี้ พวกเจ้าไม่รู้รึไงว่าว่าที่ราชินีของข้ามีไข้ ฮึ!!!"พระองค์ทรงตรัสถามเสียงแข็ง
หมอหลวงทุกคนถึงกับกลัวพระองค์ กลัวว่าพระองค์จะทรงกริ้วและจะทรงประหารพวกเขาทั้งหมด
ผู้ใจกล้าคนหนึ่งทูลตอบไปว่า...
"มิได้พะยะค่ะ หม่อมฉันในฐานะรองหมอหลวงในวัง หม่อมฉันคิดว่าลูกน้องของหม่อมฉันมิมีทางตรวจโรคง่ายๆเช่นนี้ผิดหรอกพะยะค่ะ"น้ำเสียงที่ฟังดูจริงจังแต่คนพูดกลับผิดกับน้ำเสียงโดยสิ้นเชิง
"ท่านรองเหรอ...แล้วหัวหน้าหล่ะ หัวหน้าหมอหลวงไปหมุดหัวอยู่ที่ไหนกัน"
"ฝะ..ฝ่าบาท ทูลให้พระองค์ทราบ ท่านหมอใหญ่ไปทำภารกิจดูแลประชาชนทางใต้อยู่พะยะค่ะ"
"คนพวกนั้นเป็นเช่นไรกัน ทำไมพวกเจ้าถึงมิส่งหมออื่นไปแทน หรือว่าเป็นงานที่ยากนัก"
"ทูลให้พระองค์ทราบอีกพะยะค่ะ หมอใหญ่ลงไปทำภารกิจอยู่เขตทางตะวันออกเฉียงใต้มานานแล้วพะยะค่ะ สาเหตุที่ไปก็เพราะที่นั่นประชาชนบาดเจ็บจากสงครามเมื่อครั้งที่แล้วกันมากเพราะทางนั้นเป็นทางที่ข้าศึกบุกมาครั้งแรก
และทางนั้นยังมีโรคระบาดอีกด้วย แต่หมอใหญ่บอกข้าน้อยว่า หมอใหญ่ได้ทำยารักษาเสร็จแล้วพะยะค่ะ ส่วนที่ไปทางใต้อีกนั้นก็เพราะ คาดว่าคนทางใต้อาจจะได้รับเชื้อโรคนี้ด้วย และก็เป็นไปตามที่หมอใหญ่คิด ทางใต้ติดเชื้อจริงๆพะยะค่ะ!"
"กระนั้นหรือ อย่ามัวชักช้าอยู่ รีบเข้ามาตรวจว่าที่ราชินีของข้าเร็วเข้า!!"
"พะยะค่ะ!"
หลังจากหมอหลวงตรวจไปกว่าสิบนาที...
"เป็นเช่นไรบ้าง ท่านหมอ"
"เท่าที่ดูอาการแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรผิดปรกติพะยะค่ะ เพียงแต่ว่า...พระนางคงแค่หมดสติไป แต่จะหมดสติยาวนานซักหน่อย พระองค์อย่าได้ทรงกังวลพระทัย พะยะค่ะ"
"แสดงว่านางก็ไม่เป็นอะไรน่ะสิ"
"ใช่พะยะค่ะ"
"อืม...งั้นพวกเจ้าก็กลับไปได้แล้ว มียาอะไรก็รีบๆส่งมาหล่ะ"
"พะยะค่ะ!!"
หลังจากที่เหล่าหมอหลวงออกไป
"เอ่อ..ฝ่าบาท หม่อมฉันให้หมอหญิงมาทรงเช็ดตัวให้กับพระ..เอ่อ..ว่าที่พระราชินีแล้วพะยะค่ะ!"
ขุนนางคนสนิทขององค์ฟาโรห์คนหนึ่งบอกพระองค์ พร้อมด้วย หมอหญิงที่เดินตามมาเป็นขบวน
"เอาผ้ากับอุปกรณ์ทั้งหลายแหล่วางไว้ที่นี่ ข้าจักดูแลนางเอง"
"เอ้อ..!!ท่านหมอพูดอะไรกับเจ้าบ้าง"
"เอ่อ..หลังจากที่ท่านหมอออกไปแล้ว ข้าก็ได้ซักถามท่านหมอแล้ว ท่านหมอบอกว่า ท่านหมอมิกล้าทูลกับฝ่าบาทตามจริงเพราะกลัวจะ..เอ่อ..ทำให้พระองค์ทรงลำบากพระทัย"
"แล้ว..ท่านหมอว่าไง!?"
"ท่านหมอบอกว่า ว่าที่พระราชินีทรงเป็นโรคอ่อนแอง่าย แม้ร่างกายหรือเอ่อ..นะ..นิสัยของว่าที่ราชินีของพระองค์จักทรงขะ..แข็งกระด้างนัก แต่ภายในนั้นอ่อนแอและอาจจะติดโรคได้ง่าย"ขุนนางคนนั้นว่าอย่างตะกุกตะกักเพราะตนอาจจะได้รับโทษตายก็เป็นได้
"แล้วข้าจักต้องทำอะไรบ้าง"
"ท่านหมอบอกว่า..จะส่งยามาให้ ส่วนเรื่องอื่นก็อย่าให้ว่าที่พระราชินีออกจากวังมากนัก อย่าให้ทำงานหนัก และพระองค์..ก็..อย่าทรง..."แน่นิ่งเงียบไป เพราะประโยคที่ตนนั้นจักพูดต่อไป ตนอาจจะถูกตัดหัวก็เป็นได้
"หรอ..ข้ารู้แล้ว ขอบใจเจ้ามาก ออกไปได้แล้ว"
ตรัสเช่นนั้นก็ทำให้หลายๆคนใจชื้นขึ้นมาทันทีทันใด
หลังจากนั้นพระองค์ก็ตรัสว่าจักอยู่กับว่าที่พระราชินีตามลำพัง ข้าราชบริพารจึงทยอยกันออกไปหมด
"ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมบอกข้าว่าเจ้าอ่อนแอกันนะ มันน่าโมโหจริงๆ เจ้าหลับไปโดยไม่คุยกับข้า มันทำให้ข้ารู้สึกเปล่าเปลี่ยวใจ คราวหน้าคราวหลัง ถ้าเจ้าไม่ชอบอะไรที่ข้าทำ ก็บอกข้าได้..."พระองค์ว่าพลางรอฟังคำตอบจากคนตรงหน้า
"....."เงียบ..ทุกสิ่งอยู่ในความเงียบสงบ
"โอ้ย!!~...ขอน้ำหน่อย ข้าหิวน้ำ..."เสียงของนางปรากฏขึ้น ทำให้สีพระพักตร์ขององค์ฟาโรห์เปลี่ยนไปทันที โอ้!..ประเสริฐ นางฟื้นแล้ว
หัวใจของพระองค์ชุ่มชื้นขึ้น ความกังวลหายเป็นปริดทิ้ง
"น้ำ..!"พระองค์ตรัสสั่งนางกำนัลใกล้ๆคนหนึ่งที่เพิ่งจะเดินเข้ามาเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวให้
"ได้แล้วเพคะ"(บทของฉันมีแค่นี้เองหรือยะ!=_=!:นางกำนัลโวย)
"เจ้า..น้ำ!!!ตื่นขึ้นมาดื่มสิ"พระองค์ก้มหน้าลงไปตรัสเบาๆกับคนร่างบางที่นอนร้องครวญอยู่บนเตียง
"อืม...เนเรซิสเหรอ~"นางลืมตาขึ้น แต่อาการยังคงสะลืมสะลืออย่างเห็นได้ชัด
องค์ฟาโรห์ได้แต่ยิ้มอย่างชื้นพระทัย...นางนี่ช่างน่าค้นหาจริงๆ
อึก อึก ฉันดื่มน้ำไปอึกใหญ่ ไม่รู้ทำไมมันถึงได้หิวกระหายตายซากจากน้ำอย่างงี้นะ เฮ้อ~..น่าจะหลับให้มันเต็มอิ่มซักงีบ แต่นี่ดั๊นมาหิวน้ำ
แถมตื่นมายังต้องมาเจอกับผู้ไม่ประสงค์ที่อยากจะเจออีก=_=!มันน่าหนักใจจริงๆเลย
"เจ้าเป็นไข้"พระองค์ตรัส
"หา..? ล้อเล่นรึเปล่า ข้าเนี่ยนะ เหอะ!"
นางช่างแข็งกระด้างนัก แต่ดวงตาของนางบอกได้ชัดเลยว่านางก็มีจุดที่อ่อนแออยู่
"เจ้าเป็นไข้จริงๆ.."พระองค์ตรัสอย่างจริงจัง ทำให้นางทำหน้าเขวใส่พระองค์อย่างไม่พอใจ
"จะเป็นได้ยังไงกัน คนอย่างข้าเนี่ยนะ กระโดดหนี อุ๊บX!!"โอ้!..ไม่นะ นางเกือบจะเล่าอะไรที่มันเป็นกริยาที่ไม่เหมาะเสียแล้ว(ไม่เหมาะกับการเป็นผู้หญิง)
"หนี..อะไร?"พระองค์ตรัสถาม
"มะ..ไม่มีอะไร เอาเป็นว่าคนอย่างข้าน่ะ แข็งแรงมาก และมากเกินกว่าจะเป็นไข้อย่างงี้ เข้าใจรึไม่"
"หึ!..แล้วทำไมข้าจักต้องเชื่อว่าเจ้าแข็งแรงด้วยหล่ะ ในเมื่อเจ้ายังจูบกับข้าไม่ถึงครึ่งชั่วยามเลยด้วยซ้ำ"
"บะ..บ้าน่า>//////<"หน้านางแดงเป็นลูกตำลึงสุกไปถึงเหนือหัว(เว่อร์=_=!)
"ฉะนั้น เจ้าเป็นไข้ก็มิแปลกอะไร ตัวเจ้าเองก็เป็นอิสตรี มิต้องทำตัวเข้มแข็งไปใยหรอก"พระองค์ตรัส
"ละ..แล้วไง ข้าเป็นอิสตรี แต่มิได้อ่อนแออ่อนเปลี้ยซักหน่อย ข้าจักเข้มแข็ง เป็นตัวของตัวเอง เพื่อเอาชีวิตรอดในทุกๆที่อย่างไรหล่ะ"
ฉันว่า
"เอาชีวิตรอด? เจ้าอยู่ที่นี่ยังต้องเอาชีวิตรอดอะไรอีก"
"เอาชีวิตรอดจากสิ่งชั่วร้ายที่มาจองเวรจองกรรมอยู่ข้างกายนี่ไง"
"เจ้าหมายถึงอะไร?"
นี่ไม่ได้หาว่าโง่นะ..แต่สมองทึบรึไงกัน=_=!อุ๊บ!xxไม่ได้ เดี๋ยวคอขาด(บาดเศียร)
"ไม่มีอะไร ข้าว่าท่านออกไปดีกว่า ข้าจักพักผ่อน"
"หึ!...ข้าอุตส่าห์เฝ้าเจ้านะ เจ้าจักไม่เกรงใจข้าหน่อยเลยหรือไง อ้อ!อีกอย่าง การกระทำของเจ้ามันแสดงให้เห็นว่าเป็นคนอ่อนแอนะ"
ก่อนที่ฉันจะพลิกตัวลงไปนอนเช่นเดิมฉันก็ต้องหยุดกึก!เพราะคำพูดที่ว่า การกระทำของเจ้ามันแสดงให้เห็นว่าเป็นคนอ่อนแอของเขานั่นเอง ที่ทำให้ฉันหันไป
ทำตาเขวใส่เขาอย่างไม่พอใจ
"แล้วจะให้ฉันทำยังไงฮะ ถึงนายจะว่าว่าฉันไม่ใช่คนที่อ่อนแอ"
"ไม่รู้สิ...ข้าจักไปก่อนหล่ะ เจ้าน่ะเป็นอิสตรีที่อ่อนแอคนหนึ่งนะ เจ้าต้องรู้ตัวไว้ด้วย"
พระองค์กำลังจะลุกจากไป แต่นางกลับดึงตัวพระองค์ไว้ แล้วพยุงตัวนางขึ้นไปประกบริมฝีปากของพระองค์ พอให้เป็นพิธีว่านางมิได้เป็นคนอ่อนแอ
แต่พอจะถอนริมฝีปาก อีกคนกลับมิจงใจมิยินยอมเช่นนั้น เขารัดนางแน่น จนทำให้นางแทบหายใจมิออก จูบนางอีกครั้ง และครั้งนี้ก็เลื้อยเข้าไปเช่นเคย จนทำให้นาง
ต้องหลับตาปี๋ แต่ครั้งนี้
บนเตียงนุ่มๆ =_=!เตียงบรรทม
คน ร่างใหญ่ซิกแพ็ค~...หล่อสุดๆ นั่งอยู่บนเตียงใหญ่เตียงหนึ่ง(เตียงของเขานั่นแหล่ะ จะบรรยายให้เวอร์ไปทำซากอะไร) ข้างๆเขามีมดน้อยเอ้ย!!!ซิลเดอเรล่าน้อยนอนอยู่ ตอนนี้นางกำลังหลับอย่างกะเจ้าหญิงนิทรา(คนละเรื่องกันเลย)
ฮืมๆๆๆ ที่นี่ที่ไหนเนี่ย(:โรงบาลบ้า!!:ขอบตอบ::Okonomiyaki) นางรู้สึกเหมือนร่างกายของตัวเองนอนอยู่บนฟูกนุ่มๆสบายกาย นางมิอยากจะขยับไปไหนเลย ตอนนี้นางอยากจะนอนหลับซักงีบบนฟูกนี้ก่อน นางคงตายแล้วหล่ะ ตอนนี้นางคงอยู่บนสวรรค์นี่คือถ้อยคำเรียบเรียบในความคิดของนาง
" ท่านหมอ!!..พระสนมของข้าเป็นอะไร!!!"เสียงใครหว่า!?...เอ๊ะ!!คุ้นๆนะ ใช่แล้ว!!!!องค์ฟาโรห์เนเรซิสนี่นา อ้าววว!!แล้วมาอยู่บนสวรรค์กับเราได้ไงอ่ะ หรือว่าเขายอมตายมากับเรา ^^เย้ๆๆๆๆ เขารักเรางั้นเหรอ โห!~..ยอมทำเพื่อเราขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย น่าปลื้มใจ><!!!
"หมะ..หม่อมฉัน..."อุ๊ย!..บนสวรรค์มีหมอด้วยเหรอเนี่ย เพิ่งรู้นะเนี่ย
"รีบพูดมา!!! นางเป็นเช่นไร"
"คะ..คือหม่อมฉันคิดว่า...นางคง..."
"รีบพูดมา!!!! ว่าที่รา-ชิ-นี ของข้าเป็นเช่นไร!!!!"
O0O!!!! ว่าที่รา-ชิ-นี....!!!!
ฟึ่บ! ทันทีที่ได้ยินคำๆนั้นจากปากของเขาฉันก็ตื่นขึ้นจากภวังค์แห่งความสบายของฟูกและรีบลุกขึ้นมาถามเขาด้วยความตกใจ
"ท่านตายแล้วนะ พวกเราอยู่บนสวรรค์กัน ท่านจะบ้าให้ข้าเป็นราชินีทำไมอีก นี่ไม่ใช่อียิปห์นะท่านO0O!!~"ฉันพูดออกไปอย่างตกใจสุดขีด
"......" สีหน้าตอนนี้ทั้งหมอและ...เขา...ถึงกับอึ้ง!!! นี่นางเป็นอะไรกัน หมดสติไปหรือบ้าไปแล้วกันแน่ คนที่ทำให้นางเป็นแบบนี้มันต้องได้รับการลงโทษอย่างสาสม!!!!
"จะ... เจ้าเป็นอะไรไป เจ้าเป็นบ้าไปแล้วรึไง! นี่คืออียิปห์ ข้าปกครองที่นี่มานาน และก็จักมิมีวันตายก่อนข้าจักมีโอรสสืบสกุล เจ้าเข้าใจผิดอะไรรึเปล่า!"องค์ฟาโรห์ทรงจับข้อมือเล็กๆของนางพลางถามสิ่ง ที่พระองค์อยากจะรู้
"มะ...ไม่จริง!! ก็เมื่อกี้นี้ เอ่อ...ข้ารู้สึกเหมือนตัวเองตายไปเลยอ่ะ ก็ท่าน...อุ๊บ!x/////// จะ..จูบข้า และข้าก็มิรู้สึกอะไรอีกเลยหลังจากนั้น"นางทำหน้่าใสซื่อใส่เขา
"จะ...เจ้ายังจำได้นี่!!! ท่านหมอ ตกลงนางเป็นอะไรกันแน่"
" หม่อมฉันกำลังจะรีบตอบพระองค์อยู่แล้วพะยะค่ะ ว่า...ว่าที่ราชินีของพระองค์มิได้ทรงเป็นอะไรพะยะค่ะ แค่หมดสติไปเล็กน้อยพะยะค่ะ แต่ที่พระนางยังคงนอนอยู่ไม่ขยับเขยื่อนเพราะอาจจะเป็นที่นอนของพระองค์ที่ ทำให้ว่าที่ราชินีสบายและผล็อยหลับไปก็เป็นได้พะยะค่ะ" เอ่อ..ฮะ..แฮะ!!!อาจจะจริงของท่านหมอก็เป็นได้^^!!! ข้าเริ่มเรียบเรียงอะไรต่อมิอะไรเป็นลำดับเหตุการ์พอได้แล้วหล่ะ ^^เหอะๆ ข้าขอโทษนะท่านเนเรซิสที่ทำให้เป็นห่วง
"นี่หรือว่าเจ้า...มิได้ตายแต่แกล้งหลับ!!!"พระองค์ตรัสสีหน้าเคร่งเครียด นางจักเป็นอะไรไปไม่ได้ และอีกอย่างนางต้องมิบ้า!!!!
"คะ...คือ..ถ้าข้าบอกท่าน ท่านต้องไม่ว่าข้า ไม่ทำโทษข้า หรือไม่...เกลียดข้า~..."
"เจ้ารีบบอกข้ามา เร็วๆ!!"พระองค์ตรัสสั่ง
" งั้น...ข้าจะบอกความจริงก็ได้ คือที่บรรทมของท่านมันนุ่มนัก และข้าก็รู้สึกเหนื่อยในเวลานั้น ข้าเลย...นอน^^...ต่ิอ ท่านสัญญาแล้วนะ ท่านจักมิว่าอะไรข้า อย่าลงโทษข้าเด็ดขาดนะ!!!"ฉันเล่าความเป็นมาทั้งหมดของฉัน พร้อมทั้งยื่นคำขาดในสัญญาที่องค์ฟาโรห์ได้ให้ไว้
"...หึๆ มันเป็นอย่างงี้เองนะหรือ แล้วทำไมเจ้ามิตื่นมาบอกข้า!!! เจ้าก็รู้ข้าเป็นห่วงเจ้าแค่ไหน เ้จ้าต้องหัดแยกแยะบ้างนะว่าเวลาไหนคือสถาณการณ์ปกติที่สามารถหลอกข้าได้ หรือเวลาไหนคือเวลาคับขัน เจ้าจักตายหรือเป็นลมข้ามิรู้ แต่เจ้าเล่นหลอกข้า มิให้ซุ่มให้เสียง นอนหลับไป เป็นใครเขาก็ต้องใจหายกันทั้งนั้น เจ้าเข้าใจรึไม่!"...นี่นางกำลังทำให้เขาปวดหัวมากเลย...
อึ้ง!!!!
นี่นางโดนเขาด่าเหรอ หรือว่า...สั่งสอน
"ขะ..เข้าใจแล้ว"ว่าอย่างตะกุกตะกัก อย่างคนสำนึกผิด
"ท่านหมอเชิญกลับได้แล้ว..."ตรัสสั่ง
"พะยะค่ะ!!"และไม่นานหมอหลวงทั้งหลายก็ทยอยออกไปจนในห้องเหลือเพียง..'เราสองคน'
"ท่านมิไปทำราชกิจรึ^^"ยังมีหน้ามาปั้นยิ้ม=_=!นางเอกเรา ใสซื่อเสียจริงจริ๊ง!!~
"...ข้าทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้ามิต้องกังวล และทำเป็นเมียที่ดีของข้านัก"
"ข้าเป็นเมียของท่านตรงไหนกัน ท่านบังคับข้าตะหาก"ฉันแย้ง
"งั้นรึ!!...แต่พ่อเจ้าก็ยกเจ้าให้ข้าแล้วนะ"
"หน็อย~...ท่านนี่ทำรู้ไปหมดทุกเรื่องเลยนะ ท่านจะไม่รู้ซักเรื่องจักได้มั้ย!?!!!"
"=_=!!...เจ้ามิฉลาดรึ แค่นี้จำมิได้ก็มิต้องไปบริหารราชกิจแผ่นดินแล้ว"
"แหม~...ก็นึกว่าท่านจักมิจดจำเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ซะอีก"
"จักให้ข้ามิจดจำเจ้าได้ยังไงกันหล่ะ ในเมื่ออีกเดี๋ยวเจ้าก็จะเป็นถึงราชินีของข้าแล้ว"
O0O!!เออ.ใช่!ลืมนึกไป ย้ากกกก ใครจะไปเป็นราชินีของนายกันยะ!!!!...แค่สนมก็ยุ่งพอแล้ว(ยุ่งทางใจT^T!)
"ไม่!!!! ข้าจักเป็นราชินีของท่านได้ยังไงกันเล่า มีหวังพระสนมเอก รองนั่นได้ฆ่าข้าอย่างแน่นอน"ฉันว่า
" ก็ข้าบอกเจ้าไปแล้วยังไงเล่า ข้ามิได้รักพวกนาง และมิได้อยากรับพวกนางเข้ามาเป็นพระสนมแต่เพียงน้อย และอีกอย่าง ข้าเป็นถึงฟาโรห์ ข้าย่อมแต่งตั้งให้ใครเป็นราชินีก็ได้!"ตรัสคำขาดอย่างหนักแน่น เหมือนกับว่า ทำให้นางผู้ที่ฟังอยู่หมดทางเลือก
"ยะ..ยังไงก็ไม่ได้!!!! ฉันเพิ่งมาเป็นพระสนมเองนะ!!~"
" แล้วไงเล่า!!! นี่เจ้าแกล้งหลับ แล้วยังมิสำนึกอีกรึ! ถึงได้มาต่อล้อต่อเถียงกับข้า ข้าแต่งตั้งให้เจ้าเป็นอะไร เจ้้าก็ต้องเป็น เพราะนี่คือคำสั่งมาจากใจของข้า!!!"ประโยคหลังดูหนักแน่นและจริงจังขึ้น
'มาจากใจข้า'...คำๆนี้ดังก้องในหัวใจฉันด้วยความสงสัยและอยากรู้
"เจ้าจักมิถามหน่อยรึว่าคำว่ามาจากใจข้ามันแปลว่าอะไร หน้าเจ้ามันฟ้องหน่ะ"
"นะ..นายรู้แล้วก็พูดมาสิ"
" เจ้าอยากรู้จริงๆด้วย...ใจช้าน่ะ..ตอนนี้มีแต่..เจ้า~...เพียงคนเดียว" พระองค์ตรัสพลางกุมมือของนางทั้งสองข้างพลางตีสีหน้าเคร่งเครียดและจริงจัง(ใจ)
"ทีนี้เจ้าพอรู้รึยังว่าทำไมข้าต้องพูดเช่นนั้น"
ที่ เขาต้องพูดเช่นนั้นคงเพราะว่า ตอนนี้เขาคงรักฉัน รึว่าไม่!! ฉันยังไม่แน่ใจ ไม่แน่ใจจริงๆ เราสองคนเพิ่งพบกัน มันจะเร็วอะไรปานนี้ได้ยังไง
"ขะ...ข้าขะ..เข้าใจแล้ว"//////หน้าของนางเริ่มแดงซ่านเมื่อพระองค์เอื้อมมือมาจับใบหน้าของนาง
"เจ้าตัวร้อนรึเนี่ย ทำไมหมอหลวงถึงตรวจมิพบนะ ข้าจักต้องลงโทษพวกเขาซักหน่อยแล้ว"
" มะ..ไม่ได้นะเพคะ!!! ทะ..ที่ข้าตัวร้อนก็เพราะ...."...เพราะท่านนั่นแหล่ะ ข้ามิเคยหวั่นไหว มิเคยหน้าแดง มิเคยใจเต้นกับผู้ใดมาก่อน...ยกเว้นท่านในตอนนี้เลย...
"หืม..อะไรรึ..เพราะอะไร"
"มะ..ไม่มีอะไร ท่านมิต้องถามมากได้มั้ย-////////-"
"อืม ข้าจักมิถามเจ้าให้มากความ"
" และนี่คือคำถามสุดท้ายจากใจของข้า..."คำว่า'จากใจของเขา'ทำให้ใจของฉันเต้น แรงขึ้น มันจะกระตุกทุกครั้งเมื่อเขาพูดว่ามาจากใจของเขา นี่หรือว่า...
"เจ้า...รักข้า...รึไม่!?"
-///////////////////////- ใบหน้าเริ่มแดงซ่าน หน้านางเริ่มร้อนขึ้น ตอนนี้นางเหมือนอยู่กลางแจ้งกับดวงอาทิตย์ สองมือน้อยก็สั่นเทา ปากก็พูดอะไรไม่ออก ความรู้สึกก็พูดออกไปให้เขาฟังไม่ได้ เพราะตอนนี้นางกำลังรู้สึก...สับสน...
ผิดกับ คนร่างใหญ่ ที่ตอนนี้นั่งรอฟังคำตอบอยู่หน้านางที่ตนรัก แต่เขามิได้หน้าแดง หรือเอียงอาย หรือเกิดความรู้สึกสับสนแต่อย่างใด เพราะเขาเป็นคนถามและต้องการคำตอบรับรักจากนาง ความผิดหวัง ความทุกข์และการปฏิเสธที่จะเกิดขึ้น เขาจักต้องเตรียมใจรับมัน มิใช่หน้าแดงไปกับอีกฝ่ายด้วย ตอนนี้ในใจเขารอฟังคำตอบจากนางตรงหน้าเท่านั้น...
เมื่อเห็นนางนั่งนิ่งมิตอบอะไร เขาก็เริ่มเขย่ามือนางให้มีสติดังเดิมเหมือนรู้ว่านางคงจะพูดอะไรไม่ออก
"ขะ..ข้า"นางว่าพลางหลบตาพระองค์เหมือนเอียงอาย พระองค์เริ่มรู้สึกเหมือนตนอยู่ระหว่างความรักกับความผิดหวัง ห้าสิบๆซะแล้ว
ที่ จริงแล้ว..ในใจตอนนี้นางอยากจะตะโกนออกไปดังๆว่านางชอบท่าน...แต่ก็ยังมิได้ รักเขาจริงๆที แต่ก็มิสามารถตอบออกไปได้เพราะปากของนางมันมิตรงกับใจเอาเสียเลย
"ว่าไง!!?"พระองค์ตรัสถามอีกครั้งพลางกระตุกแขนนางให้รีบตอบ
"ข้าคิดว่า ขะ..ข้าเริ่มชอบท่าน แต่ข้ามิได้รักท่าน>/////////<"
นะ.. นี่นางชอบพระองค์รึ!?...โธ่~..แค่นางตอบแค่นี้พระองค์ก็ใจชื้นขึ้นเป็นกองแล้ว พระองค์มิได้หวังให้นางรักพระองค์ตั้งแต่ต้นหรอก เพราะพระองค์คิดทบทวนเรื่องแบบนี้มาเป็นร้อยๆครั้งแล้ว นางเพิ่งเคยพบพระองค์ และคงจะไม่ได้มีใจให้พระองค์ตั้งแต่แรกพบเหมือนกับพระองค์ที่มีใจให้นาง ตั้งแต่แรกพบ
"ข้าจักทำให้เจ้ารักข้าให้ได้..."ตรัสจบพระองค์ก็เริ่มปฏิบัติตามใจสั่ง พระองค์ต้องการให้นางรักพระองค์เหมือนกับที่พระองค์รักนางสุดหัวใจ พระองค์รีบรุดหน้าดันนางลงบนเตียงและปากของพระองค์ก็เริ่มประคองปากอันอวบอิ่มของนางอีกรอบ
...ครานี้พระองค์จักมิทรงทำให้นางเจ็บหรือเป็นลมอีก...พระองค์เชื่อว่าตนสามารถทำได้
"อื้อๆๆๆ..."นางมีท่าทีคร่ำครวญเสียงอื้ออึงเหมือนกับว่านางจะทรงไม่ไหว ไม่อยากทำแล้ว เพราะนางรู้ถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับนางเมื่อครู่นี้เอง
"ข้า...จักมิทำให้เจ้าเป็นลมอีก เจ้ามิต้องกลัวไปหรอก"ตรัสเสร็จก็มิได้รอฟังคนตรงหน้าตอบ พระองค์ประกบริมฝีปากเข้าไปใหม่แต่ครั้งนี้การกระทำของพระองค์เร่าร้อนกว่าเดิมยิ่งนัก พระองค์ได้โอกาสคือพระองค์กับนางตอนนี้อยู่ในห้องบรรทม ห้องบรรทมของพระองค์นั่นเอง
"อื้อๆๆๆๆ..."อีกฝ่ายดื้อดึงยิ่งนัก นางพยายามดิ้นๆ ดิ้น และดิ้น นางมิอยากตายหรือเป็นลมรอบที่สอง และนางก็มิอยากให้พระองค์หรือผู้ชายคนใดทำแบบนี้กับนาง แสดงให้เห็นว่านางยังมิพร้อม ในความรู้สึกนางตอนนี้ นางรู้สึกเหนื่อยล้า และอยากจะขอนอนต่ออีกซักงีบ
"อื้อๆๆๆๆ..."ความพยายามของนางยังมิย้อท้อ ขอเพียงสบโอกาสที่นางสามารถหนีได้ หรือพระองค์เปิดโอกาสให้นางพูด นางจักขอพระองค์นอนต่อเพื่อลบความเหนื่อยล้าของนางให้หายไป
แต่ใครจะไปรู้หล่ะว่า...พระองค์ในตอนนีี้ต้องการอยู่ข้างๆนาง มิต้องการให้นางไปไหน มิต้องการให้นางเป็นอันตรายใดๆอีก พระองค์ต้องการนาง และท้ายที่สุดแล้ว ก้นบึ้งของหัวใจพระองค์คือ พระองค์ต้องการพิสูจน์ให้นางเห็นว่าพระองค์รักนางจริงๆ
"อื้อ อื้อ..."นี่มิได้เป็นลมหายใจเฮือกสุดท้ายของนาย แต่เป็นสัญญาณว่านางหมดแรงแล้ว นางจักมิดิ้นต่อ แต่ขอเพียงพระองค์รับรู้และให้นางนอนพักแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว...
"หืม...ทำไมเงียบไปหล่ะ มิร้องครวญต่อแล้วเหรอ ข้าจักมอบความรักใ้ห้แก่เจ้าจนข้าจักพอใจ..."พระองค์ตรัสอย่างเจ้าเล่ห์และรู้ว่าอีกเดี๋ยวแม่ตัวดีของพระองค์ต้องกลับมาดิ้นอีกรอบเป็นแ่น่...!!
แต่เวลาก็เกรี้ยงกรายไปซักพักได้ แม่นางยังมิขยับตัวอีก
พระองค์รู้สึกใจคอหายวาบ นี่นางจักเป็นลมเป็นแล้งไปอีกกระนั้นหรือ
"เจ้า...!!"พระองค์เรียกนางเบาๆพร้อมเขย่าตัวนาง
"...."คนตรงหน้ายังคงนอนแน่นิ่งอย่างหมดสติ
"ลิเรีย เจ้าอย่าล้อข้าเล่นนะ"พระองค์พูดแกมสงสัยแม่ตัวดี
"....."แต่แม่ตัวดีของพระองค์ก็ยังคงไม่กระดุกกระดิกอะไร
ฟึ่บ! มือหนาข้างหนึ่งของพระองค์ยกไปแตะเบาๆที่หน้าผากของหญิงสาว
หน้าผากอันร้อนระอุทำให้คิ้วของพระองค์ขมวดเข้มเผยให้เห็นทันที
"เจ้าเป็นไข้นี่ ทำไมท่านหมอถึงไม่รู้นะ ทหาร!!!!!!"จิตใจกระวนกระวาย นางเป็นหนักกว่าเดิม จากเป็นลมธรรมดา ตอนนี้นางเป็นหวัด
เพิ่มขึ้นมาอีกรีนี่!
"พะยะค่ะ องค์ฟาโรห์"
"ไปตามหมอหลวงมา อ้อ!!...ข้าขอหมอหลวงที่เก่งที่สุดแทนหมอหลวงคนเมื่อกี้ก็แล้วกัน"
"พะยะค่ะ!"ถึงทหารนายนั้นจะสงสัยว่าทำไมต้องเอาหมอหลวงคนใหม่แทนก็ตาม แต่ก็ไม่ได้สอบถามอะไรออกไป เพราะกลัวจะโดนประหารเอาเสีย
ขบวนหมอหลวงนับสิบพร้อมผู้ช่วยและนางกำนัลมากมาย แห่กันมาข้างหน้าตำหนัก
"ฝ่าบาท หมอหลวงมาแล้วพะยะค่ะ!"
"ให้เข้ามาได้!!"พระองค์ตรัสอย่างรีบเร่งในมือก็ถือผ้าชุบน้ำปาดเหงื่อไล่ความร้อนบนใบหน้าของหญิงสาว
หมอหลวงสิบคนเข้ามาในตำหนักพร้อมกับสำภาระติดตัวครบครัน
"ทำไมพวกเจ้าถึงทำงานไม่รู้ภาษีภาษาอย่างงี้ พวกเจ้าไม่รู้รึไงว่าว่าที่ราชินีของข้ามีไข้ ฮึ!!!"พระองค์ทรงตรัสถามเสียงแข็ง
หมอหลวงทุกคนถึงกับกลัวพระองค์ กลัวว่าพระองค์จะทรงกริ้วและจะทรงประหารพวกเขาทั้งหมด
ผู้ใจกล้าคนหนึ่งทูลตอบไปว่า...
"มิได้พะยะค่ะ หม่อมฉันในฐานะรองหมอหลวงในวัง หม่อมฉันคิดว่าลูกน้องของหม่อมฉันมิมีทางตรวจโรคง่ายๆเช่นนี้ผิดหรอกพะยะค่ะ"น้ำเสียงที่ฟังดูจริงจังแต่คนพูดกลับผิดกับน้ำเสียงโดยสิ้นเชิง
"ท่านรองเหรอ...แล้วหัวหน้าหล่ะ หัวหน้าหมอหลวงไปหมุดหัวอยู่ที่ไหนกัน"
"ฝะ..ฝ่าบาท ทูลให้พระองค์ทราบ ท่านหมอใหญ่ไปทำภารกิจดูแลประชาชนทางใต้อยู่พะยะค่ะ"
"คนพวกนั้นเป็นเช่นไรกัน ทำไมพวกเจ้าถึงมิส่งหมออื่นไปแทน หรือว่าเป็นงานที่ยากนัก"
"ทูลให้พระองค์ทราบอีกพะยะค่ะ หมอใหญ่ลงไปทำภารกิจอยู่เขตทางตะวันออกเฉียงใต้มานานแล้วพะยะค่ะ สาเหตุที่ไปก็เพราะที่นั่นประชาชนบาดเจ็บจากสงครามเมื่อครั้งที่แล้วกันมากเพราะทางนั้นเป็นทางที่ข้าศึกบุกมาครั้งแรก
และทางนั้นยังมีโรคระบาดอีกด้วย แต่หมอใหญ่บอกข้าน้อยว่า หมอใหญ่ได้ทำยารักษาเสร็จแล้วพะยะค่ะ ส่วนที่ไปทางใต้อีกนั้นก็เพราะ คาดว่าคนทางใต้อาจจะได้รับเชื้อโรคนี้ด้วย และก็เป็นไปตามที่หมอใหญ่คิด ทางใต้ติดเชื้อจริงๆพะยะค่ะ!"
"กระนั้นหรือ อย่ามัวชักช้าอยู่ รีบเข้ามาตรวจว่าที่ราชินีของข้าเร็วเข้า!!"
"พะยะค่ะ!"
หลังจากหมอหลวงตรวจไปกว่าสิบนาที...
"เป็นเช่นไรบ้าง ท่านหมอ"
"เท่าที่ดูอาการแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรผิดปรกติพะยะค่ะ เพียงแต่ว่า...พระนางคงแค่หมดสติไป แต่จะหมดสติยาวนานซักหน่อย พระองค์อย่าได้ทรงกังวลพระทัย พะยะค่ะ"
"แสดงว่านางก็ไม่เป็นอะไรน่ะสิ"
"ใช่พะยะค่ะ"
"อืม...งั้นพวกเจ้าก็กลับไปได้แล้ว มียาอะไรก็รีบๆส่งมาหล่ะ"
"พะยะค่ะ!!"
หลังจากที่เหล่าหมอหลวงออกไป
"เอ่อ..ฝ่าบาท หม่อมฉันให้หมอหญิงมาทรงเช็ดตัวให้กับพระ..เอ่อ..ว่าที่พระราชินีแล้วพะยะค่ะ!"
ขุนนางคนสนิทขององค์ฟาโรห์คนหนึ่งบอกพระองค์ พร้อมด้วย หมอหญิงที่เดินตามมาเป็นขบวน
"เอาผ้ากับอุปกรณ์ทั้งหลายแหล่วางไว้ที่นี่ ข้าจักดูแลนางเอง"
"เอ้อ..!!ท่านหมอพูดอะไรกับเจ้าบ้าง"
"เอ่อ..หลังจากที่ท่านหมอออกไปแล้ว ข้าก็ได้ซักถามท่านหมอแล้ว ท่านหมอบอกว่า ท่านหมอมิกล้าทูลกับฝ่าบาทตามจริงเพราะกลัวจะ..เอ่อ..ทำให้พระองค์ทรงลำบากพระทัย"
"แล้ว..ท่านหมอว่าไง!?"
"ท่านหมอบอกว่า ว่าที่พระราชินีทรงเป็นโรคอ่อนแอง่าย แม้ร่างกายหรือเอ่อ..นะ..นิสัยของว่าที่ราชินีของพระองค์จักทรงขะ..แข็งกระด้างนัก แต่ภายในนั้นอ่อนแอและอาจจะติดโรคได้ง่าย"ขุนนางคนนั้นว่าอย่างตะกุกตะกักเพราะตนอาจจะได้รับโทษตายก็เป็นได้
"แล้วข้าจักต้องทำอะไรบ้าง"
"ท่านหมอบอกว่า..จะส่งยามาให้ ส่วนเรื่องอื่นก็อย่าให้ว่าที่พระราชินีออกจากวังมากนัก อย่าให้ทำงานหนัก และพระองค์..ก็..อย่าทรง..."แน่นิ่งเงียบไป เพราะประโยคที่ตนนั้นจักพูดต่อไป ตนอาจจะถูกตัดหัวก็เป็นได้
"หรอ..ข้ารู้แล้ว ขอบใจเจ้ามาก ออกไปได้แล้ว"
ตรัสเช่นนั้นก็ทำให้หลายๆคนใจชื้นขึ้นมาทันทีทันใด
หลังจากนั้นพระองค์ก็ตรัสว่าจักอยู่กับว่าที่พระราชินีตามลำพัง ข้าราชบริพารจึงทยอยกันออกไปหมด
"ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมบอกข้าว่าเจ้าอ่อนแอกันนะ มันน่าโมโหจริงๆ เจ้าหลับไปโดยไม่คุยกับข้า มันทำให้ข้ารู้สึกเปล่าเปลี่ยวใจ คราวหน้าคราวหลัง ถ้าเจ้าไม่ชอบอะไรที่ข้าทำ ก็บอกข้าได้..."พระองค์ว่าพลางรอฟังคำตอบจากคนตรงหน้า
"....."เงียบ..ทุกสิ่งอยู่ในความเงียบสงบ
"โอ้ย!!~...ขอน้ำหน่อย ข้าหิวน้ำ..."เสียงของนางปรากฏขึ้น ทำให้สีพระพักตร์ขององค์ฟาโรห์เปลี่ยนไปทันที โอ้!..ประเสริฐ นางฟื้นแล้ว
หัวใจของพระองค์ชุ่มชื้นขึ้น ความกังวลหายเป็นปริดทิ้ง
"น้ำ..!"พระองค์ตรัสสั่งนางกำนัลใกล้ๆคนหนึ่งที่เพิ่งจะเดินเข้ามาเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวให้
"ได้แล้วเพคะ"(บทของฉันมีแค่นี้เองหรือยะ!=_=!:นางกำนัลโวย)
"เจ้า..น้ำ!!!ตื่นขึ้นมาดื่มสิ"พระองค์ก้มหน้าลงไปตรัสเบาๆกับคนร่างบางที่นอนร้องครวญอยู่บนเตียง
"อืม...เนเรซิสเหรอ~"นางลืมตาขึ้น แต่อาการยังคงสะลืมสะลืออย่างเห็นได้ชัด
องค์ฟาโรห์ได้แต่ยิ้มอย่างชื้นพระทัย...นางนี่ช่างน่าค้นหาจริงๆ
อึก อึก ฉันดื่มน้ำไปอึกใหญ่ ไม่รู้ทำไมมันถึงได้หิวกระหายตายซากจากน้ำอย่างงี้นะ เฮ้อ~..น่าจะหลับให้มันเต็มอิ่มซักงีบ แต่นี่ดั๊นมาหิวน้ำ
แถมตื่นมายังต้องมาเจอกับผู้ไม่ประสงค์ที่อยากจะเจออีก=_=!มันน่าหนักใจจริงๆเลย
"เจ้าเป็นไข้"พระองค์ตรัส
"หา..? ล้อเล่นรึเปล่า ข้าเนี่ยนะ เหอะ!"
นางช่างแข็งกระด้างนัก แต่ดวงตาของนางบอกได้ชัดเลยว่านางก็มีจุดที่อ่อนแออยู่
"เจ้าเป็นไข้จริงๆ.."พระองค์ตรัสอย่างจริงจัง ทำให้นางทำหน้าเขวใส่พระองค์อย่างไม่พอใจ
"จะเป็นได้ยังไงกัน คนอย่างข้าเนี่ยนะ กระโดดหนี อุ๊บX!!"โอ้!..ไม่นะ นางเกือบจะเล่าอะไรที่มันเป็นกริยาที่ไม่เหมาะเสียแล้ว(ไม่เหมาะกับการเป็นผู้หญิง)
"หนี..อะไร?"พระองค์ตรัสถาม
"มะ..ไม่มีอะไร เอาเป็นว่าคนอย่างข้าน่ะ แข็งแรงมาก และมากเกินกว่าจะเป็นไข้อย่างงี้ เข้าใจรึไม่"
"หึ!..แล้วทำไมข้าจักต้องเชื่อว่าเจ้าแข็งแรงด้วยหล่ะ ในเมื่อเจ้ายังจูบกับข้าไม่ถึงครึ่งชั่วยามเลยด้วยซ้ำ"
"บะ..บ้าน่า>//////<"หน้านางแดงเป็นลูกตำลึงสุกไปถึงเหนือหัว(เว่อร์=_=!)
"ฉะนั้น เจ้าเป็นไข้ก็มิแปลกอะไร ตัวเจ้าเองก็เป็นอิสตรี มิต้องทำตัวเข้มแข็งไปใยหรอก"พระองค์ตรัส
"ละ..แล้วไง ข้าเป็นอิสตรี แต่มิได้อ่อนแออ่อนเปลี้ยซักหน่อย ข้าจักเข้มแข็ง เป็นตัวของตัวเอง เพื่อเอาชีวิตรอดในทุกๆที่อย่างไรหล่ะ"
ฉันว่า
"เอาชีวิตรอด? เจ้าอยู่ที่นี่ยังต้องเอาชีวิตรอดอะไรอีก"
"เอาชีวิตรอดจากสิ่งชั่วร้ายที่มาจองเวรจองกรรมอยู่ข้างกายนี่ไง"
"เจ้าหมายถึงอะไร?"
นี่ไม่ได้หาว่าโง่นะ..แต่สมองทึบรึไงกัน=_=!อุ๊บ!xxไม่ได้ เดี๋ยวคอขาด(บาดเศียร)
"ไม่มีอะไร ข้าว่าท่านออกไปดีกว่า ข้าจักพักผ่อน"
"หึ!...ข้าอุตส่าห์เฝ้าเจ้านะ เจ้าจักไม่เกรงใจข้าหน่อยเลยหรือไง อ้อ!อีกอย่าง การกระทำของเจ้ามันแสดงให้เห็นว่าเป็นคนอ่อนแอนะ"
ก่อนที่ฉันจะพลิกตัวลงไปนอนเช่นเดิมฉันก็ต้องหยุดกึก!เพราะคำพูดที่ว่า การกระทำของเจ้ามันแสดงให้เห็นว่าเป็นคนอ่อนแอของเขานั่นเอง ที่ทำให้ฉันหันไป
ทำตาเขวใส่เขาอย่างไม่พอใจ
"แล้วจะให้ฉันทำยังไงฮะ ถึงนายจะว่าว่าฉันไม่ใช่คนที่อ่อนแอ"
"ไม่รู้สิ...ข้าจักไปก่อนหล่ะ เจ้าน่ะเป็นอิสตรีที่อ่อนแอคนหนึ่งนะ เจ้าต้องรู้ตัวไว้ด้วย"
พระองค์กำลังจะลุกจากไป แต่นางกลับดึงตัวพระองค์ไว้ แล้วพยุงตัวนางขึ้นไปประกบริมฝีปากของพระองค์ พอให้เป็นพิธีว่านางมิได้เป็นคนอ่อนแอ
แต่พอจะถอนริมฝีปาก อีกคนกลับมิจงใจมิยินยอมเช่นนั้น เขารัดนางแน่น จนทำให้นางแทบหายใจมิออก จูบนางอีกครั้ง และครั้งนี้ก็เลื้อยเข้าไปเช่นเคย จนทำให้นาง
ต้องหลับตาปี๋ แต่ครั้งนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น