คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : oOพวกเจ้าอยากรู้รึว่านางเป็นใคร งั้นข้าจักบอก...!?Oo
ตำหนักองค์ฟาโรห์ตอนนี้ดูเสียงดังอึกทึกครึกโครมเพราะ...
"เจ้าอย่าเข้ามานะ ไม่งั้นข้าฟันเจ้าแน่ ข้าใช้ดาบเป็นนะ"
"แหมๆๆ ทำไมเจ้าถึงเปลี่ยนคำพูดซะหล่ะ เมื่อตะกี้ตอนที่อยู่กับป้าๆพวกนั้น เจ้ายังใช้คำว่าพระองค์เพคะอยู่เลยนี่นา"รอยยิ้มพร้อมคำพูดที่แฝงด้วยเล่ห์นัย หึ!...ฉันไม่มีวันติดกับมันแน่!!
"แล้วกระไร ข้าจักพูดอย่างไงตอนไหนมันก็มิเกี่ยวอะไรกับพระองค์"
"งั้นข้าจะกินเจ้าตอนไหนก็คง..ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้าใช่มั้ย^^"
"จะ..เจ้าพูดบ้าอะไรน่ะ"ฉันถึงกับเสียวสันหลังวาบ
"ข้าก็จักลงโทษเจ้ายังไงหล่ะ"
"ลงโทษเรื่องอะไรกัน ข้ามิได้ทำผิด และไอวิธีลงโทษของเจ้ามันก็น่าเกลียดเสียด้วย"
"ข้าจะลงโทษในฐานะที่เจ้าปากเสีย ทำไมเจ้าถึงไม่เรียกข้าว่าเนเรซิสฮะ หึ! แต่ที่เจ้าว่าวิธีการลงโทษของข้ามันน่าเกลียด เจ้าก็มิต้องกังวลหรอกนะ เพราะข้าจักไม่กินเจ้ารวดเดียวจบ แต่ข้าจักค่อยๆจูบเจ้าและไต่เต้าไปทีละน้อย เจ้าว่าวิธีนี้ดีมั้ย..!?"
"จะ..เจ้าาาาาา><!!!เจ้ามันน่าเกลียดที่สุดดดดด"
"หาว่าข้าน่าเกลียดรึ เจ้ามิรู้รึว่าหญิงทั่วอาณาจักรต่างฝักใฝ่ในตัวข้าและอยากเป็นของข้ากันทั้งนั้น"
"แล้วไง...!! ยังไงก็ยกเว้นข้าไว้คนนึงนี่แหล่ะที่ไม่เคยจะคิดซักนิดดดเลยที่จะฝักใฝ่หรือเป็นของท่าน"
"แน่ใจว่าเจ้าไม่คิด หึๆปากก็พูดไปอย่างนั้น แต่ใจเจ้าคง.."
"หุบปาก!!! ท่านอย่าพูดอะไรให้ตัวท่านน่าเกลียดลงกว่านี้ได้มั้ย"
"ได้!...แต่เจ้าต้องเรียกชื่อข้าก่อน"
"ระ..เรียกชื่อท่าน ทำไม..!?"
"ต่อแต่นี้ไป เจ้าต้องเรียกข้าว่าเนเรซิส แทนคำว่าเจ้าที่เจ้าเรียกข้า"
"ข้ามิเข้าใจ มันเกี่ยวกันด้วยเหรอ ข้าจักเรียกเจ้าว่ายังไงมันก็มิเห็นสำคัญ"
"แต่ข้าเหนือกว่าเจ้า ข้ามิใช่เพื่อนเล่นของเจ้า ข้าคือสามีเจ้า เจ้าควรจะเคารพข้าและเรียกชื่อข้าให้มันถูกๆ และเพื่อความสนิทสนมของเราสองคนด้วย เข้าใจมั้ยว่าที่ราชินี"
"เจ้า..เอ่อ~..เนเรซิส ท่านพูดอะไรน่ะ"
"เปล่าๆ..~ หึ! ทีนี้ก็ถึงเวลาลงโทษซักทีสินะ"
"เย้ยย!! เจ้า เอ้ยย เนเรซิส ท่านจะทำบ้าอะไรน่ะ"
"แหม~..ไหนๆเราก็สนิทกันแล้ว เจ้าก็เรียกชื่อข้าซักที นี่ข้าจักให้รางวัลที่เจ้าทำดี เจ้าจักไม่เอาหน่อยเหรอจ้ะที่รัก"
"ไม่ ม่ายยยยยย..." แต่มันก็สายไปแล้วเพราะเขารวบตัวเธอมากอดไว้แน่น
"ไม่ต้องดิ้นไปหรอกนะ ข้าจักค่อยๆทำไปเรื่อยๆ รับรองเจ้าไม่เจ็บแ่น่นอน"
แต่เธอก็มิได้ฟังเขาพูดแต่เพียงน้อย เธอพยายามดิ้นสุดชีวิต สวรรค์!!โปรดช่วยเธอด้วยเถิด เธอยังไม่พร้อมที่จะเป็นของเขาอย่างเต็มตัว...
ทันใดนั้น สวรรค์เอ้ย!!ประตูตำหนักก็ถูกเปิดออก
"ฝ่าบาท ถวายพระพรเพคะ หม่อมฉันมาขอเข้าเฝ้าเพคะ"พระสนมหน้าตาแปลกๆ(ไม่คุ้นหน้า)ในความคิดของฉันเดินเข้ามาในตำหนัก
"เป็นเจ้าเองงั้นนเรอะซาฟารีห์ เฮ้อ!~"สุรเสียงตรัสด้วยความหงุดหงิด หงุดหงิดกับผู้ที่มาเยือน นี่ถ้าไม่ติดว่าเขาไม่อยากให้พระสนมคนใหม่ของเขาเห็นเขาไม่ดีอีกนะ มีหวังเขาได้ฆ่าพระสนมคนนี้แน่
"เพคะ หม่อมฉันมิได้มาคนเดียว มีพระสนมซาวาเรียร์ กับพระสนมครีอาร์ก็มาเพคะ"
"งั้นให้พวกนางเข้ามาได้"สุรเสียงตรัสบอก
"ซาวาเรียร์ ครีอาร์เข้ามาสิ"พระสนมซาฟารีห์เรียกคนข้างนอกให้เข้ามา
"เพคะ!/เพคะ..."เสียงแหลมตอบรับก่อน หลังจากนั้นก็ตามด้วยเสียงสั่นเครือเล็กๆ
"ถวายพระพรเพคะฝ่าบาท/ถวายพระพรเพคะฝ่าบาท"
ว๊ายย..สุดๆ! เสียงเจ๊แก=_=! แหลมมั่กๆ นี่องค์ฟาโรห์มีพระสนมเสียงแหลมขนาดนี้ด้วยเหรอเนี่ย ไม่นั่งฟังคุณเธอพูดจนหูแตกตายรึไงนะ
"ซาวาเรียร์ ลดเสียงเจ้าหน่อย ฝ่าบาทจะกริ้วเอานะ"พระสนมซาฟารีห์หันไปตำหนิพระสนมซาวาเรียร์
"เพคะ เสด็จพี่"เห!..สองคนนี้เป็นพี่น้องกันรึเนี่ย หน้าตาแตกต่างกันหยั่งกับฟ้ากับเหว
"พวกเจ้ามาหาข้ามีธุระอะไรรึ!"สุรเสียงตรัสถาม
"คือ..หม่อมฉันและพวกนาง อยากรู้ว่าพระสนมองค์ใหม่ของพระองค์เป็นผู้ใดเพคะ ถ้าหม่อมฉันถามล่วงเกินพระองค์ก็ขออภัยด้วย"พระสนมซาฟารีห์ว่าพลางก้มหน้าลงอย่างคนสำนึกผิด
"เอาหล่ะๆ หึๆ ข้าก็พอจะรู้ว่าพวกเจ้ามาทำไมเหมือนกันนะแหล่ะ เจ้ามิได้ถามล่วงเกินอะไร เพราะเดี๋ยวอยู่ๆไปเจ้าก็จักต้องช่วยพระสนมใหม่ด้วย"
"เพคะ"
"เอาหล่ะ ที่รัก เจ้าช่วยแนะนำตัวเองหน่อยสิ"สุรเสียงตรัสกระซิบเบาๆข้างหูฉัน
"ใครเป็นที่รักของท่านกัน และอีกอย่างนะ ท่านไม่เห็นบอกเลยว่ามีพระสนม ข้าจะได้เตรียมใจเอาไว้"ฉันทำสีหน้าหงุดหงิดใส่เขา
นี่นางโกรธพระองค์เหรอ...!?
"ข้าขอโทษ แต่ข้าจำเป็นต้องรับพวกนางมาเป็นพระสนม"
"หึ!...เจ้าเอ้ย!!ท่านมันเจ้าชู้ชัดๆ"
...นางด่าข้าว่า'เป็นคนเจ้าชู้'อย่างงั้นเหรอ (~เฮ้อ!~นางมิรู้อะไรเลยว่าในตอนนี้หัวใจของพระองค์มีแต่นางเพียงคนเดียว แต่นางกลับมาว่าพระองค์เจ้าชู้มันน่า...จับมาลงโทษนัก!!!((เหยยย!!!)))(ทำไมคนแต่งวิปริตจังเลยแฮะ=_=!)
"ข้าคือพระสนมคนใหม่ของฝ่าบาทของพวกเจ้า แล้วท่านหล่ะชื่ออะไร หน้าไม่เห็นคุ้นเลย"
"แล้วทำไมจักต้องคุ้นด้วยเล่า อ้อ!..แล้วอีกอย่างนะ ข้าน่ะเป็นที่รู้จักกันทั่วราชอาณาจักร ไม่ทราบว่าพระสนมองค์ใหม่ทรงไปมุดหัวอยู่ที่ไหนรึเพคะ"พระสนมซาฟารีห์เอ่ย
"แล้วกระไร ข้าจะไปมุดหัวที่ไหนมันก็เรื่องของข้า เจ้าก็มิรู้จักข้าเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ข้าหน่ะโด่งดังกว่าเจ้าเสียอีก แล้วไม่ทราบแม่นางไปมุดหัวอยู่หลุมไหนเหรอเพคะ!"
ฮะะะๆๆๆๆ+ หลุมนี่ก็คือ หลุมศพนะ ไม่รู้สิ ใครจะคิดอย่างไงก็ช่าง แต่สำหรับฉัน หลุมศพค่ะ
"เจ้าช่างไร้กิริยามารยาทเสียจริงๆ เจ้าเป็นเพียงพระสนมใหม่ อย่าได้ริหาญมาเสียมารยาทกับข้าไปมากกว่านี้"นางว่าพลางปั้นสีหน้าโกรธกริ้ว
"เอาเหอะๆ เจ้าก็อย่าได้ว่านางอย่างนั้น นางเพิ่งมาเป็นพระสนมองค์ใหม่ของข้า เจ้าก็ช่วยแนะนำเรื่องในวังให้นางด้วยก็แล้วกัน"องค์ฟาโรห์ที่เห็นท่าจะไม่ดีก็รีบพูดห้ามปรามเสียก่อน
"เพคะ!!.."พระสนมซาฟารีห์เอ่ย
..หึๆ! นางไม่รอดแน่ เราคงได้รู้จักกันมากขึ้นอย่างแน่นอน และข้าจักเป็นคนสั่งสอนนางให้รู้สำนึกว่าตรงไหนที่ต่ำที่สูง...พระสนมซาฟารีห์ทรงคิด
"ข้าพระสนมรอง ขอบังอาจทูลถามพระองค์บ้างได้มั้ยเพคะ..!"พระสนมซาวาเรียร์ที่นิ่งเงียบอยู่ก็เอ่ยขึ้นบ้าง
"หืม!..ได้สิ เจ้าจักถามอะไรข้าหล่ะ"องค์ฟาโรห์ถามตามหูที่ได้ยินแต่ใบหน้ามิได้หันไปมองพระนางแต่เพียงเล็กน้อย สายตาของพระองค์ตอนนี้มาจุติอยู่ที่นางอันเป็นที่รักพระองค์เดียว พระองค์หวังเพียงว่านางจักไม่โกรธพระองค์ที่พระองค์มีพระสนมมากหน้าหลายตาเยี่ยงนี้
"คะ..คือ.."พระสนมซาวาเรียร์ที่รู้ว่าตนถูกเมินก็พูดอะไรไม่ออก หวังเพียงว่าพระองค์จะหันมาใส่ใจนางบ้าง
"...."แต่ก็ไม่เป็นผลไม่เป็นตามความต้องการของพระนาง พระองค์มิได้หันมาสนใจหรือใส่ใจนางเลย เพราะตอนนี้ สายตาของพระองค์มองไปที่คนๆหนึ่งที่ทำหน้าเศร้าอยู่ตอนนี้
พระสนมซาฟารีห์ที่สงสัยว่าทำไมน้องตนถึงไม่ทูลต่อก็หันไปดู แต่ก็เห็นน้องตนทำหน้าเศร้าเหมือนหมดกำลังใจ จึงรีบทูลฝ่าบาทว่า...
"ฝ่าบาท หม่อมฉันคิดว่า หากพระองค์จะทรงหันมามองพระสนมซาวาเรียร์ทูลซักนิดได้หรือไม่เพคะ!?"
"หือ...อือ..เอาสิ ว่ามา"กว่าพระองค์จะละสายตาจากนางอันเป็นที่รักได้ก็นานเต็มทน
"หมะ..หม่อมฉัน อยากจะถามว่าพระองค์รู้จักกับพระนางได้ยังไงเพคะ"ความกล้าๆกลัวๆของพระสนมซาวาเรียร์เริ่มเผยขึ้น นางมิเคยเป็นอย่างงี้ นางมิเคยพูดตะกุกตะกักกล้าๆกลัวๆแบบนี้ พระสนมซาฟารีห์รู้ดี นางได้แต่หันไปทำหน้างงอย่างสงสัยกับน้องของตน
"นางคือองค์หญิงของเมืองนีเซียร์ ข้ามิได้เป็นคนนำนางมาหรอก แต่มีคนส่งจดหมายของข้าพบนางเข้ากลางทาง จึงพามาให้ข้าดู และข้าก็รับนางไว้เป้นพระสนม..."
"กระนั้นหรือเพคะ!!..."ครานี้เป็นพระสนมซาฟารีห์บ้างที่ทรงมีน้ำเสียงโกรธรกิ้วดังขึ้น
"หม่อมฉันก็อยากให้พระองค์รับรู้ไว้นะเพคะ ว่าหม่อมฉันคือพระสนมเอกของพระองค์ พระองค์ควรที่จะให้ความสำคัญกับหม่อมฉันบ้าง"พระสนมซาฟารีห์ตรัส
"กระนั้นหรือ ข้ารู้แล้ว นอกจากร่ายรำให้ข้าดู ข้าก็มิอยากเห็นอะไรอย่างอื่นของเจ้าแล้วหล่ะ"
"แต่หม่อมฉันยอมสละกายเพื่อพระองค์นะเพคะ..."พระสนมซาฟารีห์ตรัสท่ามกลางพระสนมและนางกำนัลหลายคนโดยมิได้กลัวหรือเอียงอายแต่เพียงใด
"ท่านพี่!!"พระสนมซาวาเรียร์ที่ประทับอยู่ใกล้ๆก็ถึงกับตกพระทัย แม้แต่นางอันเป็นที่รักของพระองค์ยังทรงตกพระทัย มีแต่พระสนมอีกพระองค์หนึ่งที่นั่งอยู่ ณ ที่แห่งนั้นด้วย ทรงมิมีอาการเยี่ยงใดเลย
"ข้ามิต้องการกายเจ้า..!!"พระองค์ทรงตวาดลั่น ทำไมนางที่รักของข้าถึงไม่พูดกับข้าอย่างงี้บ้างนะ
"..."พระสนมซาฟารีห์ถึงกับตกพระทัยกับคำตอบรับ นางก็มิได้ไม่สวยนี่นา ทำไมกันน๊า นางออกจะสวยกว่าพระสนมอันเป็นที่รักของพระองค์เสียด้วยซ้ำ (พระสนมซาฟารีห์ทรงคิด)
"พวกเจ้าออกไปให้หมด ข้าจักต้องสะสางพระราชกิจของข้า มิอยากให้ผู้ใดมารบกวนอีก"
สีหน้าของพระสนมซาฟารีห์ตอนนี้ที่แม้นจะเข้มแข็งไม่แสดงสีหน้าใดๆออกมา แต่ในใจก็รู้สึกเอียงอายขึ้นมาและเจ็บปวดอยู่บ้า...
เหล่านางกำนัลกับพระสนมทั้งสามต่างเดินออกไปจากพระตำหนัก
ในพระตำหนักขององค์ฟาโรห์ ตอนนี้เหลือแต่พระองค์กับนางอันเป็นที่รักเท่านั้น
"พระองค์มิทรงเห็นนางอยู่ในสายตาบ้างกระนั้นหรือ เพียงแค่นี้พระองค์ยังทรงทำให้นางเจ็บปวดในใจ ต่อไป พระองค์จักมิทำกับข้าเยี่ยงนี้กระนั้นหรือ"นางอันเป็นที่รักถามขึ้น
"ข้าจักมิทำกับเจ้า เจ้ามิต้องเป็นห่วง ข้ารักเจ้า รักเจ้ามากกว่าผู้ใด.."พระองค์ตรัสออกไป แต่ก็มิได้ทำให้ใจนางหายกังวลเลย
"เฮ้อ!..ข้ามิน่าดื้อกับท่านพ่อเลย ข้าน่าจักแต่งงานกับ..."
"หยุดพูดนะ!!!"
"เจ้าชาย..."ยัง!!นางยังมิหยุดพูด อารมณ์เกรี้ยวกราดและหึงหวงขององค์ฟาโรห์ผุดขึ้น
"ข้าบอกให้หุบปากของเจ้าซะ!!!"
ริมฝีปากหนาแต่ปนไปด้วยความเอิบอิ่มและความต้องการประทับลงไปบนริมฝีปากบางที่สั่นเทาเหมือนกับนางตกใจในการกระทำของเขาอยู่นางพยายามดิ้นให้หลุดออกจากมือทั้งสองข้าที่บีบรัดไหล่ของนางแน่นขึ้นทุกทีๆ
อื้อๆๆๆๆ!!! นางเกือบจะกัดลิ้นพระองค์เสียแล้ว แต่นางมิกล้าทำเช่นนั้นหรอก เพราะนางก็รักตัวกลัวตาย สิ่งที่นางทำตอนนี้ได้ก็มีแค่ รองเสียงอื้ออึงของความสงสารและเห็นใจเท่านั้น
นางหลับตาปี๋ เหมือนว่าตอนนี้นางมิอยากรับรู้อะไรจากภายนอกอีก ><!!
อื้อๆๆๆ!!!นางครวญอีกครั้ง เป็นสัญญาณว่า ถ้าครั้งนี้นายยังไม่ปล่อยฉัน มีหวังฉันทำจริงแน่!
สตินางตอนนี้เริ่มเลือนลางนิดหน่อยเพราะอากาศเริ่มหมดไป ถึงนายจะเคยดำน้ำแข่งกับเพื่อนๆลูกขุนนางในวังบ้างก็ตาม แต่มันก็มิได้ยาวนานถึงเพียงนี้ ชีวิตนางอาจจะดับสูรได้ถ้าเขาไม่ยอมปล่อยนางออกไป
อื้อๆๆๆๆๆๆๆๆๆนางครวญมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะขออากาศ นี่เป็นครั้งแรกของนาง จูบนี่คือครั้งแรกของนาง
แต่...พระองค์คนนี้มิรู้น่ะสิว่านางเคยจูบกับใครหรือไม่เคยจูบกับใคร ตอนนี้พระองค์รู้แต่เพียงว่าพระองค์จักต้องสั่งสอนและลงโทษนางในสิ่งที่นางพูดให้ถึงที่สุด
...โอ้!~...ชีวิตนางกำลังจะดับสูร สติเริ่มเลือนลาง เพราะขาดอากาศหายใจ นางมิเหมือนเขาซักหน่อยที่เป็นผู้ชายร่างกายบึกบึนเคยอยู่กับผู้หญิงมากหน้าหลายตาพวกนั้น เขาก็จักต้องมีประสบการณ์ ต่างจากนางที่แม้แต่
วิธีการจูบกับปากนางยังมิรู้เลยว่าต้องทำเช่นไร(ซื่อไปป่ะเนี่ย!?=_=!แอบนินทา)
และไม่นานลมหายใจ เฮ้ยๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!ยู๊ดดดดดดดดดๆๆๆ:::ข้ายังมิตาย ข้าเป็นนางเอกเรื่องนี้นะ ยัยคนแต่งนี่ช่างขี้เกียจจริงๆเลย ไปแต่งใหม่เลยไปๆๆๆๆๆ แต่งให้มันดีกว่านี้ แค่เป็นลมก็พอ!!!)
และไม่นานนางก็สลบไปคามือเขา...((ฮ่าๆๆๆๆ โรแมนติกดีไหมล่า เดี๋ยวพอเอาหมอมารักษาเสร็จก็ลากเข้าพงหญ้าเลย หุหุ=.,=!!!~)
ความคิดเห็น