ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แม่น้ำไนล์ของข้า..ไม่มีทางไหลย้อนกลับ

    ลำดับตอนที่ #7 : oOพวกเจ้าอยากรู้รึว่านางเป็นใคร งั้นข้าจักบอก...!?Oo

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ค. 52


    ตำหนักองค์ฟาโรห์ตอนนี้ดูเสียงดังอึกทึกครึกโครมเพราะ...

    "เจ้าอย่าเข้ามานะ ไม่งั้นข้าฟันเจ้าแน่ ข้าใช้ดาบเป็นนะ"

    "แหมๆๆ ทำไมเจ้าถึงเปลี่ยนคำพูดซะหล่ะ เมื่อตะกี้ตอนที่อยู่กับป้าๆพวกนั้น เจ้ายังใช้คำว่าพระองค์เพคะอยู่เลยนี่นา"รอยยิ้มพร้อมคำพูดที่แฝงด้วยเล่ห์นัย หึ!...ฉันไม่มีวันติดกับมันแน่!!

    "แล้วกระไร ข้าจักพูดอย่างไงตอนไหนมันก็มิเกี่ยวอะไรกับพระองค์"

    "งั้นข้าจะกินเจ้าตอนไหนก็คง..ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้าใช่มั้ย^^"

    "จะ..เจ้าพูดบ้าอะไรน่ะ"ฉันถึงกับเสียวสันหลังวาบ

    "ข้าก็จักลงโทษเจ้ายังไงหล่ะ"

    "ลงโทษเรื่องอะไรกัน ข้ามิได้ทำผิด และไอวิธีลงโทษของเจ้ามันก็น่าเกลียดเสียด้วย"

    "ข้าจะลงโทษในฐานะที่เจ้าปากเสีย ทำไมเจ้าถึงไม่เรียกข้าว่าเนเรซิสฮะ หึ! แต่ที่เจ้าว่าวิธีการลงโทษของข้ามันน่าเกลียด เจ้าก็มิต้องกังวลหรอกนะ เพราะข้าจักไม่กินเจ้ารวดเดียวจบ แต่ข้าจักค่อยๆจูบเจ้าและไต่เต้าไปทีละน้อย เจ้าว่าวิธีนี้ดีมั้ย..!?"

    "จะ..เจ้าาาาาา><!!!เจ้ามันน่าเกลียดที่สุดดดดด"

    "หาว่าข้าน่าเกลียดรึ เจ้ามิรู้รึว่าหญิงทั่วอาณาจักรต่างฝักใฝ่ในตัวข้าและอยากเป็นของข้ากันทั้งนั้น"

    "แล้วไง...!! ยังไงก็ยกเว้นข้าไว้คนนึงนี่แหล่ะที่ไม่เคยจะคิดซักนิดดดเลยที่จะฝักใฝ่หรือเป็นของท่าน"

    "แน่ใจว่าเจ้าไม่คิด หึๆปากก็พูดไปอย่างนั้น แต่ใจเจ้าคง.."

    "หุบปาก!!! ท่านอย่าพูดอะไรให้ตัวท่านน่าเกลียดลงกว่านี้ได้มั้ย"

    "ได้!...แต่เจ้าต้องเรียกชื่อข้าก่อน"

    "ระ..เรียกชื่อท่าน ทำไม..!?"

    "ต่อแต่นี้ไป เจ้าต้องเรียกข้าว่าเนเรซิส แทนคำว่าเจ้าที่เจ้าเรียกข้า"

    "ข้ามิเข้าใจ มันเกี่ยวกันด้วยเหรอ ข้าจักเรียกเจ้าว่ายังไงมันก็มิเห็นสำคัญ"

    "แต่ข้าเหนือกว่าเจ้า ข้ามิใช่เพื่อนเล่นของเจ้า ข้าคือสามีเจ้า เจ้าควรจะเคารพข้าและเรียกชื่อข้าให้มันถูกๆ และเพื่อความสนิทสนมของเราสองคนด้วย เข้าใจมั้ยว่าที่ราชินี"

    "เจ้า..เอ่อ~..เนเรซิส ท่านพูดอะไรน่ะ"

    "เปล่าๆ..~ หึ! ทีนี้ก็ถึงเวลาลงโทษซักทีสินะ"

    "เย้ยย!! เจ้า เอ้ยย เนเรซิส ท่านจะทำบ้าอะไรน่ะ"

    "แหม~..ไหนๆเราก็สนิทกันแล้ว เจ้าก็เรียกชื่อข้าซักที นี่ข้าจักให้รางวัลที่เจ้าทำดี เจ้าจักไม่เอาหน่อยเหรอจ้ะที่รัก"

    "ไม่ ม่ายยยยยย..." แต่มันก็สายไปแล้วเพราะเขารวบตัวเธอมากอดไว้แน่น 

    "ไม่ต้องดิ้นไปหรอกนะ ข้าจักค่อยๆทำไปเรื่อยๆ รับรองเจ้าไม่เจ็บแ่น่นอน"

    แต่เธอก็มิได้ฟังเขาพูดแต่เพียงน้อย เธอพยายามดิ้นสุดชีวิต สวรรค์!!โปรดช่วยเธอด้วยเถิด เธอยังไม่พร้อมที่จะเป็นของเขาอย่างเต็มตัว...

    ทันใดนั้น สวรรค์เอ้ย!!ประตูตำหนักก็ถูกเปิดออก

    "ฝ่าบาท ถวายพระพรเพคะ หม่อมฉันมาขอเข้าเฝ้าเพคะ"พระสนมหน้าตาแปลกๆ(ไม่คุ้นหน้า)ในความคิดของฉันเดินเข้ามาในตำหนัก

    "เป็นเจ้าเองงั้นนเรอะซาฟารีห์ เฮ้อ!~"สุรเสียงตรัสด้วยความหงุดหงิด หงุดหงิดกับผู้ที่มาเยือน  นี่ถ้าไม่ติดว่าเขาไม่อยากให้พระสนมคนใหม่ของเขาเห็นเขาไม่ดีอีกนะ มีหวังเขาได้ฆ่าพระสนมคนนี้แน่

    "เพคะ หม่อมฉันมิได้มาคนเดียว มีพระสนมซาวาเรียร์ กับพระสนมครีอาร์ก็มาเพคะ"

    "งั้นให้พวกนางเข้ามาได้"สุรเสียงตรัสบอก

    "ซาวาเรียร์ ครีอาร์เข้ามาสิ"พระสนมซาฟารีห์เรียกคนข้างนอกให้เข้ามา

    "เพคะ!/เพคะ..."เสียงแหลมตอบรับก่อน หลังจากนั้นก็ตามด้วยเสียงสั่นเครือเล็กๆ

    "ถวายพระพรเพคะฝ่าบาท/ถวายพระพรเพคะฝ่าบาท"
    ว๊ายย..สุดๆ! เสียงเจ๊แก=_=! แหลมมั่กๆ นี่องค์ฟาโรห์มีพระสนมเสียงแหลมขนาดนี้ด้วยเหรอเนี่ย ไม่นั่งฟังคุณเธอพูดจนหูแตกตายรึไงนะ 

    "ซาวาเรียร์ ลดเสียงเจ้าหน่อย ฝ่าบาทจะกริ้วเอานะ"พระสนมซาฟารีห์หันไปตำหนิพระสนมซาวาเรียร์

    "เพคะ เสด็จพี่"เห!..สองคนนี้เป็นพี่น้องกันรึเนี่ย หน้าตาแตกต่างกันหยั่งกับฟ้ากับเหว

    "พวกเจ้ามาหาข้ามีธุระอะไรรึ!"สุรเสียงตรัสถาม

    "คือ..หม่อมฉันและพวกนาง อยากรู้ว่าพระสนมองค์ใหม่ของพระองค์เป็นผู้ใดเพคะ ถ้าหม่อมฉันถามล่วงเกินพระองค์ก็ขออภัยด้วย"พระสนมซาฟารีห์ว่าพลางก้มหน้าลงอย่างคนสำนึกผิด

    "เอาหล่ะๆ หึๆ ข้าก็พอจะรู้ว่าพวกเจ้ามาทำไมเหมือนกันนะแหล่ะ เจ้ามิได้ถามล่วงเกินอะไร เพราะเดี๋ยวอยู่ๆไปเจ้าก็จักต้องช่วยพระสนมใหม่ด้วย"

    "เพคะ"

    "เอาหล่ะ ที่รัก เจ้าช่วยแนะนำตัวเองหน่อยสิ"สุรเสียงตรัสกระซิบเบาๆข้างหูฉัน

    "ใครเป็นที่รักของท่านกัน และอีกอย่างนะ ท่านไม่เห็นบอกเลยว่ามีพระสนม ข้าจะได้เตรียมใจเอาไว้"ฉันทำสีหน้าหงุดหงิดใส่เขา

    นี่นางโกรธพระองค์เหรอ...!?

    "ข้าขอโทษ แต่ข้าจำเป็นต้องรับพวกนางมาเป็นพระสนม"

    "หึ!...เจ้าเอ้ย!!ท่านมันเจ้าชู้ชัดๆ"

    ...นางด่าข้าว่า'เป็นคนเจ้าชู้'อย่างงั้นเหรอ (~เฮ้อ!~นางมิรู้อะไรเลยว่าในตอนนี้หัวใจของพระองค์มีแต่นางเพียงคนเดียว แต่นางกลับมาว่าพระองค์เจ้าชู้มันน่า...จับมาลงโทษนัก!!!((เหยยย!!!)))(ทำไมคนแต่งวิปริตจังเลยแฮะ=_=!)

    "ข้าคือพระสนมคนใหม่ของฝ่าบาทของพวกเจ้า แล้วท่านหล่ะชื่ออะไร หน้าไม่เห็นคุ้นเลย"

    "แล้วทำไมจักต้องคุ้นด้วยเล่า อ้อ!..แล้วอีกอย่างนะ ข้าน่ะเป็นที่รู้จักกันทั่วราชอาณาจักร ไม่ทราบว่าพระสนมองค์ใหม่ทรงไปมุดหัวอยู่ที่ไหนรึเพคะ"พระสนมซาฟารีห์เอ่ย

    "แล้วกระไร ข้าจะไปมุดหัวที่ไหนมันก็เรื่องของข้า เจ้าก็มิรู้จักข้าเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ข้าหน่ะโด่งดังกว่าเจ้าเสียอีก แล้วไม่ทราบแม่นางไปมุดหัวอยู่หลุมไหนเหรอเพคะ!"
    ฮะะะๆๆๆๆ+ หลุมนี่ก็คือ หลุมศพนะ ไม่รู้สิ ใครจะคิดอย่างไงก็ช่าง แต่สำหรับฉัน หลุมศพค่ะ

    "เจ้าช่างไร้กิริยามารยาทเสียจริงๆ เจ้าเป็นเพียงพระสนมใหม่ อย่าได้ริหาญมาเสียมารยาทกับข้าไปมากกว่านี้"นางว่าพลางปั้นสีหน้าโกรธกริ้ว

    "เอาเหอะๆ เจ้าก็อย่าได้ว่านางอย่างนั้น นางเพิ่งมาเป็นพระสนมองค์ใหม่ของข้า เจ้าก็ช่วยแนะนำเรื่องในวังให้นางด้วยก็แล้วกัน"องค์ฟาโรห์ที่เห็นท่าจะไม่ดีก็รีบพูดห้ามปรามเสียก่อน

    "เพคะ!!.."พระสนมซาฟารีห์เอ่ย

    ..หึๆ! นางไม่รอดแน่ เราคงได้รู้จักกันมากขึ้นอย่างแน่นอน และข้าจักเป็นคนสั่งสอนนางให้รู้สำนึกว่าตรงไหนที่ต่ำที่สูง...พระสนมซาฟารีห์ทรงคิด

    "ข้าพระสนมรอง ขอบังอาจทูลถามพระองค์บ้างได้มั้ยเพคะ..!"พระสนมซาวาเรียร์ที่นิ่งเงียบอยู่ก็เอ่ยขึ้นบ้าง

    "หืม!..ได้สิ เจ้าจักถามอะไรข้าหล่ะ"องค์ฟาโรห์ถามตามหูที่ได้ยินแต่ใบหน้ามิได้หันไปมองพระนางแต่เพียงเล็กน้อย สายตาของพระองค์ตอนนี้มาจุติอยู่ที่นางอันเป็นที่รักพระองค์เดียว พระองค์หวังเพียงว่านางจักไม่โกรธพระองค์ที่พระองค์มีพระสนมมากหน้าหลายตาเยี่ยงนี้

    "คะ..คือ.."พระสนมซาวาเรียร์ที่รู้ว่าตนถูกเมินก็พูดอะไรไม่ออก หวังเพียงว่าพระองค์จะหันมาใส่ใจนางบ้าง

    "...."แต่ก็ไม่เป็นผลไม่เป็นตามความต้องการของพระนาง พระองค์มิได้หันมาสนใจหรือใส่ใจนางเลย เพราะตอนนี้ สายตาของพระองค์มองไปที่คนๆหนึ่งที่ทำหน้าเศร้าอยู่ตอนนี้

    พระสนมซาฟารีห์ที่สงสัยว่าทำไมน้องตนถึงไม่ทูลต่อก็หันไปดู แต่ก็เห็นน้องตนทำหน้าเศร้าเหมือนหมดกำลังใจ จึงรีบทูลฝ่าบาทว่า...

    "ฝ่าบาท หม่อมฉันคิดว่า หากพระองค์จะทรงหันมามองพระสนมซาวาเรียร์ทูลซักนิดได้หรือไม่เพคะ!?"

    "หือ...อือ..เอาสิ ว่ามา"กว่าพระองค์จะละสายตาจากนางอันเป็นที่รักได้ก็นานเต็มทน

    "หมะ..หม่อมฉัน อยากจะถามว่าพระองค์รู้จักกับพระนางได้ยังไงเพคะ"ความกล้าๆกลัวๆของพระสนมซาวาเรียร์เริ่มเผยขึ้น นางมิเคยเป็นอย่างงี้ นางมิเคยพูดตะกุกตะกักกล้าๆกลัวๆแบบนี้ พระสนมซาฟารีห์รู้ดี นางได้แต่หันไปทำหน้างงอย่างสงสัยกับน้องของตน

    "นางคือองค์หญิงของเมืองนีเซียร์ ข้ามิได้เป็นคนนำนางมาหรอก แต่มีคนส่งจดหมายของข้าพบนางเข้ากลางทาง จึงพามาให้ข้าดู และข้าก็รับนางไว้เป้นพระสนม..."

    "กระนั้นหรือเพคะ!!..."ครานี้เป็นพระสนมซาฟารีห์บ้างที่ทรงมีน้ำเสียงโกรธรกิ้วดังขึ้น

    "หม่อมฉันก็อยากให้พระองค์รับรู้ไว้นะเพคะ ว่าหม่อมฉันคือพระสนมเอกของพระองค์ พระองค์ควรที่จะให้ความสำคัญกับหม่อมฉันบ้าง"พระสนมซาฟารีห์ตรัส

    "กระนั้นหรือ ข้ารู้แล้ว นอกจากร่ายรำให้ข้าดู ข้าก็มิอยากเห็นอะไรอย่างอื่นของเจ้าแล้วหล่ะ"

    "แต่หม่อมฉันยอมสละกายเพื่อพระองค์นะเพคะ..."พระสนมซาฟารีห์ตรัสท่ามกลางพระสนมและนางกำนัลหลายคนโดยมิได้กลัวหรือเอียงอายแต่เพียงใด

    "ท่านพี่!!"พระสนมซาวาเรียร์ที่ประทับอยู่ใกล้ๆก็ถึงกับตกพระทัย แม้แต่นางอันเป็นที่รักของพระองค์ยังทรงตกพระทัย มีแต่พระสนมอีกพระองค์หนึ่งที่นั่งอยู่ ณ ที่แห่งนั้นด้วย ทรงมิมีอาการเยี่ยงใดเลย

    "ข้ามิต้องการกายเจ้า..!!"พระองค์ทรงตวาดลั่น ทำไมนางที่รักของข้าถึงไม่พูดกับข้าอย่างงี้บ้างนะ

    "..."พระสนมซาฟารีห์ถึงกับตกพระทัยกับคำตอบรับ นางก็มิได้ไม่สวยนี่นา ทำไมกันน๊า นางออกจะสวยกว่าพระสนมอันเป็นที่รักของพระองค์เสียด้วยซ้ำ (พระสนมซาฟารีห์ทรงคิด)

    "พวกเจ้าออกไปให้หมด ข้าจักต้องสะสางพระราชกิจของข้า มิอยากให้ผู้ใดมารบกวนอีก"

    สีหน้าของพระสนมซาฟารีห์ตอนนี้ที่แม้นจะเข้มแข็งไม่แสดงสีหน้าใดๆออกมา แต่ในใจก็รู้สึกเอียงอายขึ้นมาและเจ็บปวดอยู่บ้า...

    เหล่านางกำนัลกับพระสนมทั้งสามต่างเดินออกไปจากพระตำหนัก

    ในพระตำหนักขององค์ฟาโรห์ ตอนนี้เหลือแต่พระองค์กับนางอันเป็นที่รักเท่านั้น

    "พระองค์มิทรงเห็นนางอยู่ในสายตาบ้างกระนั้นหรือ เพียงแค่นี้พระองค์ยังทรงทำให้นางเจ็บปวดในใจ ต่อไป พระองค์จักมิทำกับข้าเยี่ยงนี้กระนั้นหรือ"นางอันเป็นที่รักถามขึ้น

    "ข้าจักมิทำกับเจ้า เจ้ามิต้องเป็นห่วง ข้ารักเจ้า รักเจ้ามากกว่าผู้ใด.."พระองค์ตรัสออกไป แต่ก็มิได้ทำให้ใจนางหายกังวลเลย

    "เฮ้อ!..ข้ามิน่าดื้อกับท่านพ่อเลย  ข้าน่าจักแต่งงานกับ..."

    "หยุดพูดนะ!!!"

    "เจ้าชาย..."ยัง!!นางยังมิหยุดพูด อารมณ์เกรี้ยวกราดและหึงหวงขององค์ฟาโรห์ผุดขึ้น

    "ข้าบอกให้หุบปากของเจ้าซะ!!!"

    ริมฝีปากหนาแต่ปนไปด้วยความเอิบอิ่มและความต้องการประทับลงไปบนริมฝีปากบางที่สั่นเทาเหมือนกับนางตกใจในการกระทำของเขาอยู่
    นางพยายามดิ้นให้หลุดออกจากมือทั้งสองข้าที่บีบรัดไหล่ของนางแน่นขึ้นทุกทีๆ
    อื้อๆๆๆๆ!!! นางเกือบจะกัดลิ้นพระองค์เสียแล้ว แต่นางมิกล้าทำเช่นนั้นหรอก เพราะนางก็รักตัวกลัวตาย สิ่งที่นางทำตอนนี้ได้ก็มีแค่ รองเสียงอื้ออึงของความสงสารและเห็นใจเท่านั้น
    นางหลับตาปี๋ เหมือนว่าตอนนี้นางมิอยากรับรู้อะไรจากภายนอกอีก ><!!
    อื้อๆๆๆ!!!นางครวญอีกครั้ง เป็นสัญญาณว่า ถ้าครั้งนี้นายยังไม่ปล่อยฉัน มีหวังฉันทำจริงแน่!
    สตินางตอนนี้เริ่มเลือนลางนิดหน่อยเพราะอากาศเริ่มหมดไป ถึงนายจะเคยดำน้ำแข่งกับเพื่อนๆลูกขุนนางในวังบ้างก็ตาม แต่มันก็มิได้ยาวนานถึงเพียงนี้ ชีวิตนางอาจจะดับสูรได้ถ้าเขาไม่ยอมปล่อยนางออกไป
    อื้อๆๆๆๆๆๆๆๆๆนางครวญมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะขออากาศ นี่เป็นครั้งแรกของนาง จูบนี่คือครั้งแรกของนาง
    แต่...พระองค์คนนี้มิรู้น่ะสิว่านางเคยจูบกับใครหรือไม่เคยจูบกับใคร ตอนนี้พระองค์รู้แต่เพียงว่าพระองค์จักต้องสั่งสอนและลงโทษนางในสิ่งที่นางพูดให้ถึงที่สุด
    ...โอ้!~...ชีวิตนางกำลังจะดับสูร สติเริ่มเลือนลาง เพราะขาดอากาศหายใจ นางมิเหมือนเขาซักหน่อยที่เป็นผู้ชายร่างกายบึกบึนเคยอยู่กับผู้หญิงมากหน้าหลายตาพวกนั้น เขาก็จักต้องมีประสบการณ์ ต่างจากนางที่แม้แต่
    วิธีการจูบกับปากนางยังมิรู้เลยว่าต้องทำเช่นไร(ซื่อไปป่ะเนี่ย!?=_=!แอบนินทา)
    และไม่นานลมหายใจ เฮ้ยๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!ยู๊ดดดดดดดดดๆๆๆ:::ข้ายังมิตาย ข้าเป็นนางเอกเรื่องนี้นะ ยัยคนแต่งนี่ช่างขี้เกียจจริงๆเลย ไปแต่งใหม่เลยไปๆๆๆๆๆ แต่งให้มันดีกว่านี้ แค่เป็นลมก็พอ!!!)
    และไม่นานนางก็สลบไปคามือเขา...((ฮ่าๆๆๆๆ โรแมนติกดีไหมล่า เดี๋ยวพอเอาหมอมารักษาเสร็จก็ลากเข้าพงหญ้าเลย หุหุ=.,=!!!~)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×