คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ข้ามิอยากแต่งงาน!! 100%
'หนี'
คำๆนี้อยู่ในใจฉันมาเนิ่นนานทีแล้ว ตอนนี้เสด็จแม่เรียกฉันให้ไปพบที่ตำหนักท่าน
"เรียนเสด็จแม่ด้วยว่าข้ามาแล้ว"
ถึงถ้อยคำของฉันจะถูกท่านแม่ดุหรือคนอื่นๆในพระราชวังหาว่าฉันเป็นชายบ้างก็ตาม แต่ฉันก็เชยชินกับถ้อยคำของฉันอยู่อย่างงี้นี่แหล่ะ
"เพคะ..."
แอ๊ด!~...ประตูตำหนักเปิดขึ้นปรากฏให้เห็นหญิงสาวผู้เป็นพระมารดานั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่กลางตำหนัก
"เสด็จแม่มีอะไรอีกหล่ะเพคะ!"ฉันรุดถามท่านแม่ก่อนด้วยอาการหงุดหงิดแบบคนขี้งอนก่อนทันที
"ลูกจ้ะ คือ...คำพูดของท่านพ่อน่ะ ลูกอย่าได้โกรธหรือขุ่นเคืองเลยนะลูก ที่ท่านพ่อทำน่ะก็เพื่อลูกนะจ้ะ"ท่านแม่ว่า
"ที่ท่านแม่เรียกข้ามาก็เพื่อพูดแค่นี้เองเหรอเพคะ!"ฉันว่า
"กะ..ก็ แม่ก็เห็นด้วยกับพ่อเขานี่ ว่าลูกน่ะโตแล้ว สมควรจะมีพระสวามีได้แล้ว จะได้มีโอรสสืบทอดราชบัลลังก์ยังไงหล่ะลูก"
"ท่านแม่อยากให้ข้าแต่งงานกับคนที่ข้าไม่รักกระนั้นเหรอ ไอ้หน้าหม้อนั่นน่ะ ข้ามิได้รักเขาแต่เพียงเล็กน้อยเลยนะท่านแม่!"ฉันว่าอย่างกระแทกแดกดัน
"ไอ้หน้าหม้อที่ไหนกันหล่ะลูก เขาน่ะเป็นถึงองค์ชายที่เพรียบพร้อมสมบูรณ์แบบนะลูก"
"สมบูรณ์แบบในสายตาท่านแม่น่ะสิเพคะ!"
"เอ๊ะ!..เจ้านี่ พ่อกับแม่หวังดีนะลูก เจ้าก็สมควรจะแต่งกับองค์ชายเขานะ"
"เพคะ ข้าเข้าใจ แต่ข้าไม่ได้รักไอ้ เอ่อ...องค์ชายเลยนะคะท่านแม่"ฉันว่า
"เฮ้อ!...พ่อนะพ่อ แม่ก็มิได้คิดถึงข้อนี้ของลูกเหมือนกัน แต่อย่างไง เมื่อพ่อเจ้าเป็นคนเลือกมาให้เอง เจ้าก็อย่าได้กังวลใจไปเลยนะ เพราะผู้ชายคนนี้อาจจะทำให้เจ้ารักในภายหลังก็เป็นได้"
"ข้ามิอยากแต่ง!!! แล้วทำไมข้าต้องแต่งเพื่อให้เขามาครองราชบัลลังก์ด้วยหล่ะท่านแม่"
ปึ่ก!...ประตูตำหนักถูกกระแทกเปิดออก ทำให้ทุกคนในตำหนักต้องเบนความสนใจไปที่ประตูของตำหนัก
"เพราะพ่อของเขาเป็นพระสหายกับพ่ออย่างไงหล่ะ!!"สุรเสียงดังก้องกังวาลไปทั่วห้อง
"ฝ่าบาท!!!"
"ท่านพ่อ!!"
"หึ! ข้าได้ยินหมดแล้ว เจ้ามิอยากแต่งงาน นั่นเป็นเรื่องที่ผิดจารีตของเรานะลูก เจ้าต้องมีครอบครัวเป็นของตนเองนั่นถึงจะถูก แต่ที่ลูกอาจจะไม่ชอบคนที่พ่อเลือกมาให้นั้น พ่อคิดว่าลูกอาจจะมีคนที่ลูกชอบอยู่แล้ว ไหนลูกลองบอกพ่อมาได้ไหม...!?"
"ท่านพ่อน่ะ ไม่มีทางให้ข้าไปแต่งกับใครยกเว้นแต่ชายที่ท่านพ่อเลือกมาให้ ข้ารู้! และอีกอย่าง ถ้าข้าบอกท่านพ่อว่าข้ารักใคร ท่านพ่อก็จะต้องไปฆ่าชายผู้นั้นเป็นอย่างแน่นอน"
"...."ท่านพ่อถึงกับอึ้ง
"นี่เจ้า!!! พูดอย่างงี้กับท่านพ่อได้กระไร ท่านพ่อเขาหวังดีนะ แม่พูดกี่ครั้งแล้ว"
"เพคะ ข้ารู้ดีว่าท่านพ่อและท่านแม่ทำแบบนี้เพื่อข้า แต่...ไม่มีใครฝืนใจหม่อมฉันให้ไปรักใครได้หรอก ข้าจะแต่งกับคนที่ข้าคิดว่าใช่"
"หึ!...เจ้าก็เตรียมตัวแต่งงานเสียพรุ่งนี้เลย ข้าจักจัดงานแต่งให้เจ้าอย่างเอิกเกริก ข้ามิอาจทนรอให้เจ้ามาแผลงฤทธิ์ใส่หูพระราชินีอีกต่อไปแล้ว..."
"สะ..เสด็จพ่อ"ถึงข้าจักเป็นลูกของกษัตริย์ เพื่อขัดขวางการแต่งงานนี้ ฉันก็ทำได้แค่เกลี้ยกล่อมท่านพอกับท่านแม่ก็เท่านั้นเอง
ปึ่ก! เสียงปิดประตูดังสนั่นหวั่นไหวอีกเช่นเคย
"เฮ้อ!...ลูกก็กลับตำหนักไปเตรียมตัวเอาไว้นะ แม่ว่า...คนที่พ่อเตรียมไว้ให้ลูกอาจจะเป็นคนดีก็ได้ เพียงแต่เจ้ายังมิได้เห็นเบื้องลึกภายในใจของเขาที"ท่านแม่ว่า
"เพคะ..."
การเกลี้ยกล่อมครานี้เป็นแผนแรกที่....ล้มเหลว...!
แผนที่สองก็คือ...ฉันจะ...หนี!
ตกยามราตรีกลางดึก
"องค์หญิง เชิญบรรทมได้แล้วนะเพคะ วันนี้ก็ห่มผ้าให้ดีๆหล่ะเพคะ เพราะข้างนอกคงอากาศหนาวน่าดู"
"คงจะหนาวกว่าทุกๆวันหล่ะสิป้าโซเนียร์"ฉันถามแม่นมของฉันที่เลี้ยงฉันมาตั้งแต่เด็ก
"เพคะ ตามที่หม่อมฉันได้ไปคุยกับนางกำนัลหลายๆคนเพคะ"
"ได้!...ข้าจัก..หนีเอ้ย!!!!ห่มผ้าห่มให้หนาๆค่ะ"ฉันว่าก่อนจะฝืนยิ้มให้ป้าโซเนียร์
"งั้นป้าไปก่อนนะเพคะ"ป้าโซเนียร์ว่าพลางเดินออกไปจากห้อง
ข้าจักต้องหนีภายในคืนนี้ ดี!..อากาศหนาวแบบนี้หมอกต้องลงบ้างสิ ข้าจักได้มีการหลบหนีที่ปลอดภัยซักหน่อย
ฉันจัดการเตรียมสัมภาระและผลไม้แก้หิว พร้อมเงินทองจำนวนหนึ่งใส่ในกระเป๋า
ปืดๆๆๆๆๆๆ
ฉันเริ่มใช้เชือกที่ฉันไปเอามาจากนายทหารคนหนึ่งมัดไว้กับเตียงข้างหนึ่งส่วนอีกข้างก็ห้อยลงไปที่หน้าต่าง
หลังจากนั้นฉันก็ไต่เอาตัวลงมาสู่พื้นดินอย่างปลอดภัย
^^เฮ้อ!!..แม่นม นางกำนัลตำหนักข้าทุกๆคน ข้าขอโทษด้วยนะ แต่ข้ามีเหตุจำเป็นจริงๆ
ฉันเดินหลบตามบ้านตามช่องเพื่อไม่ให้ทหารเห็น จนมาถึงประตูหน้าของเมือง
"เจ้าจักไปที่ใดกันรึ ดึกสงัดราตรีกาลแบบนี้แล้ว"
"ตะ...ใต้ท้าว ข้าจักไปเยี่ยมท่านแม่ของข้า ท่านแม่อยู่อีกเมืองหนึ่ง ตอนนี้ท่านแม่ป่วยหนักมาก ท่านมิมีญาติอยู่ที่นั่นเลย เงินก็พอมีแค่ส่งจดหมายมาขอความช่วยเหลือจากข้าก็เท่านั้นเองใต้ท้าว"ฉันปลอมตนเป็นชายพลางว่าออกไป
"งั้น ข้าต้องขอตรวจดูกระเป๋าเจ้าและช่วยเปิดผ้าคลุมหัวเจ้าด้วย...!"
ฟึ่บ!
"อืม กระเป๋าเจ้าก็มิมีอะไรผิดแปลก งั้นเจ้าก็ไปได้"
ฉันรีบเดินจ้ำอ้าวๆจ้ำอ้าวออกมาทันที แผนแปลงกายเป็นชายนี่ใช้ได้อีกแล้วแฮะ นี่ฉันอุตส่าห์ลงทุนไปยื้มชุดผู้ชายจากนายทหารที่ให้ยืมเชือกเชียวนะ แล้วก็ทำหน้าขรึมๆ ผูกผมเอาไว้ ลบที่ป้าโซเนียร์แต่งหน้าให้ และอีกหลายๆอย่าง (ที่ฉันทำได้เพราะฉันเคยมีประสบการณ์ ตอนหนีมาเที่ยวตลาดแล้วหล่ะ หุหุ ไม่มีทหารคนไหนจะฉันได้ซักกะคน)
"เย้! ออกมาได้แล้ว"
แต่...ข้างนอกนี่ไม่เหมือนข้างในเลย มีแต่ทะ-เล-ทราย
"แล้วจะเดินไปทางไหนดีเนี่ย หรือว่าจะไปป่านาเรสซ่าก่อน ท่านพ่อเคยพาเราไปนี่นา"
งั้น...ขึ้นเหนือกันดีกว่า ข้าพอจะรู้ทาง แต่ทางที่รู้ไม่รู้จะถูกมั้ย (แป่ว)
ทางข้างหน้าช่างยาวไกลและเหน็บหนาวนัก ฉันคิดว่าตอนที่มากับท่านพ่อนี้มันใกล้กว่านี้
ไม่ใช่เหรอ ก็นั่นน่ะสินะ ตอนที่ฉันมากับพ่อก็ ใช่แล้ว! ขี่ม้ามาไง ว่าแต่จะไปหาม้าที่ไหนได้หล่ะ ตอนนี้มันยามราตรี ผู้คนไม่มีทางมาขายม๊งขายม้ากันหรอก ฉันนี่ก็โง่ ไม่ยอมไปเอาม้าในวังออกมา
เฮ้อ!...แต่ก็เดินไปก่อน เพราะไหนๆเราก็หนีออกมาแล้ว ถ้าเข้าไปอีกมีหวังถูกจับได้แน่
เฮ้อ!!!...ฉันเดินต่อไปเรื่อยๆเดินไปท่ามกลางทะเลทรายที่ปกคลุมทั่วทุกสารทิศที่ฉันเดินไป
หนาว... มันช่างหนาวอะไรอย่างนี้... ฉันมิได้คิดถึงข้อนี้เลย... ความหนาวสามารถทำให้ฉันนอนตายอยู่ตรงนี้ก็เป็นได้ ไม่มีผ้าห่มหนาๆที่แม่นมจัดไว้ให้ ไม่มีเตียงนุ่มๆที่คอยให้ฉันซุกกายอุ่นๆอีก ฉันคงจะต้องตายอยู่...ที่นี่...จริงๆนะแหล่ะ........ฉันทรุดตัวลงไปนอนกองอยู่กับพื้นที่เต็มไปด้วยเม็ดทราย.........
ความคิดเห็น