คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ~*!!เดินแต่ละก้าวก็ถึงทุกก้าว!!+~
ทุกครั้ง...
ที่ตัวเลขในหลักหน่วยของปีพุทธศักราชเปลี่ยนไป
เรามักจะต้องตอบคำถาม หรือไม่ก็ตั้งคำถามถามกับคนอื่นว่า
"จะทำอะไรใหม่ๆให้กับชีวิตใหม่ๆบ้างในปีนี้"
อะไรใหม่ๆที่ว่านั้นก็อาจหมายถึง ชีวิต ใหม่ๆ ที่ ดีๆ
ประเภทที่ว่ามองโลกในแง่ดีขึ้น...ขยันทำงานมากขึ้น...ออกกำลังกายมากขึ้น...ตั้งใจใฝ่รู้มากขึ้น
หรือใช้ชีวิตให้ประหยัดขึ้น...อะไรทำนองนั้น
สรุปแล้วก็ล้วนแต่เป็นเรื่องของการปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น โดยถือโอกาสของการเปลี่ยนศักราชใหม่ เป็นฤกษ์ที่ดีของการเริ่มต้น
ฉันเองก็โดนตั้งคำถามนี้เช่นกัน แต่คนที่รอฟังคำตอบ ก็ได้รับคำตอบเหมือนไม่ได้รับมากกว่า เพราะฉันไม่ได้ตั้งปณิธานอะไรเป็นพิเศษให้กับชีวิตตัวเองเลยจริงๆ
ไม่ว่าจะปีใหม่นี้ หรือปีเก่าที่ผ่านมา สำหรับฉันแล้วในทุกๆวันมันก็มีสิ่งใหม่ๆที่ต้องทำ มีสิ่งที่ฉันต้องปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
...ฉันถือคติประจำตัวว่า...
หากเราอยากจะทำตัวเองให้ดีขึ้น
หรือปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นเมื่อไหร่
ยิ่งเริ่มเร็วแค่ไหน...ยิ่งดีเมื่อนั้น...
ไม่จำเป็นต้องรอเทศกาลหรือกำหนดเวลา
ในการที่จะทำ หรือไม่ทำอะไร
มีหลายคนเคยพูดว่า ชีวิตคือการต่อสู้ ฟังดูแล้วน่าเหนื่อยใจนะ ถ้าไม่สู้ก็ต้องแพ้ใช่มั๊ย?
สำหรับฉันขอยึดตามหลักของพุทธศาสนาดีกว่า ศาสนาพุทธของเรากล่าวไว้ว่า จริงๆแล้วชีวิตคือการศึกษา
เราควรต้องใฝ่เรียนรู้ตลอดเวลา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตนั้น มีไว้ให้เราได้ศึกษา ได้ขบคิดหาทางแก้ไขและทำความเข้าใจ
เพื่อให้เกิดปัญญา ชีวิตจึงเริ่มต้นใหม่ได้ในทุกๆวัน...ถ้าเราคิดได้แบบนี้ ทุกๆวันในชีวิตเราก็จะมีความหมายเหมือนกันหมด
สำหรับการทำสิ่งดีๆให้กับตัวเอง และมีความสุขไปกับทุกวันที่ทำ โดยไม่ต้องกำหนดกรอบให้กับตัวเอง
หรือบีบรัดตัวเองด้วยเป้าหมายและเวลา
เหมือนกับเวลาที่เราเดินเท้า...ถ้าใจเราอยู่ที่เป้าหมายแล้ว ทั้งที่เรายังอยู่แค่กลางทาง เราก็จะเหนื่อยและท้อได้ง่าย
แถมยังต้องกังวลอีกว่าเมื่อไห่รจะถึงสักที
มีข้อความหนึ่งในหนังสือ "รุ่งอรุณที่สุคะโต" ของพระไพศาล วิสาโล ท่านเขียนไว้ว่า...
"...ขอให้ระลึกว่า จุดหมายอยู่ที่ปลายเท้า ไม่ใช่อยู่ข้างหน้า
ให้เอาแต่ละก้าวเป็นจุดหมาย
ย่างแต่ละก้าวก็เท่ากับ ถึงจุดหมายของแต่ละก้าวแล้ว
สมัยที่ท่านพุทธทาสยังมีชีวิตอยู่..สวนโมกข์มีการก่อสร้างศาลาและตึก
คนก็ชอบมาถามท่านว่า เมื่อไหร่จะสร้างเสร็จสักที
ท่านก็ตอบว่า เสร็จทุกวันแหละ สร้างทุกวันก็เสร็จทุกวัน....
แต่ละขณะนี่ถ้าเรามองให้เป็น ก็เสร็จทุกขณะ
เดินแต่ละก้าว...ก็ถึงทุกก้าว..."
ข้อความที่ให้หลักคิดดังกล่าวนี้ หากเราสามารถนำมาปรับใช้กับตัวเองได้แล้ว
ฉันเชื่อว่าจะเป็นศิลปะการใช้ชีวิตแบบที่มีความสุขที่สุดเลยทีเดียว
เราอาจเรียกการใช้ชีวิตแบบนี้ว่า เป็นการใช้ชีวิตแบบจบไปวันๆ ก็ได้ ซึ่งการใช้ชีวิตแบบจบไปวันๆนี้
คนละแบบกับการใช้ชีวิตแบบจบไปวันๆ ฟังดูแล้วรู้สึกว่าไร้อนาคตและจะทำให้เรากลายเป็น
คนหมดหวังในชีวิตไป
แต่การใช้ชขีวิตแบบให้จบไปวันๆ หมายถึง การตัดตอนภาพชีวิตของเราให้กระชับขึ้นโดยไม่พยายามที่จะโยงเอาเรื่อง
หรือเหตุการณ์ต่างๆที่ไม่สร้างสรรค์ในอดีต มาพัวพันกับเหตุการณ์ในวันนี้ให้สับสน หรือพูดง่ายๆว่า
พยายามอยู่กับวันนี้ และใช้วันนี้ของเราให้มีค่าที่สุด ไม่ว่าเราจะทำงาน จะเรียนหนังสือ จะเที่ยวเล่น พูดคุย หรืออะไรก็แล้วแต่
เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวันไหน ก็ขอให้จบไปในวันนั้น อย่าเก็บเอามาค้างคาเป็นอารมณ์ต่อเนื่องไป
ถึงวันไหนๆอีก และเมื่อเราสามารถคิดได้แบบนี้ เราก็จะไม่พลาดโอกาสในการมีความสุข และอยู๋กับความพึงพอใจกับเหตุการณ์ต่างๆ ในวันนี้ของเรา...
ทุกๆเช้า...
ที่เราตื่นมาพบกับ "วันนี้"
ขอให้ถือว่า "วันนี้" เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ในภาษาอังกฤษ
เรียกเวลาในปัจจุบันว่า present
ซึ่งคำว่า present นี้
ก็มีอีกความหมายหนึ่งว่า "ของขวัญ"
"วันนี้" แต่ละวันของเรา จึงเหมือนกับ
ของขวัญที่ธรรมชาติหยิบยื่นให้ทุกๆเช้าวันใหม่
และมันจะมีค่าแค่ไหน ก็คงอยู่ที่ตัวเราเอง
ว่าเราจะใช้ของขวัญชิ้นนี้อย่างไร...
**บทความนี้เป็นผลงานของ ปูปรุง (( หนังสือ วันนั้นอ่อนแอ แต่วันนี้ไม่ใช่ เพื่ อนๆลองไปหาซื้ออ่านดูนะคะ ดีมากๆ))
ความคิดเห็น