ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Baramos เรื่องราวบทใหม่ ของ เฟลิโอน่า และ คาโล

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ : 6 ตำแหน่งสภาสูงและการประลองชิงตำแหน่ง

    • อัปเดตล่าสุด 2 มิ.ย. 49


                   วันอาทิตย์  ที่สดใส  วันแห่งการพักผ่อนของเหล่านักเรียนโรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์ก    


      "นายตื่นเช้าอย่างนี้ทุกวันเลยรึปล่าว เฟริน" คาโลถาม ขณะที่จะก้าวเข้าห้องน้ำ


      "อื้ม  ท่านพ่อท่านแม่  ท่านตา  ท่านอา สอนให้ตื่นแต่เช้า เพราะมันทำให้สดชื่น และ เราทำอะไรได้หลายอย่างในขณะที่อีกคนยังไม่ตื่น" เฟรินตอบเสียงเย็น  แล้วยิ้มน้อยๆ


      "ปลุกคิลด้วย เดี๋ยวชั้นอาบน้ำก่อน วันนี้โรเวนเรียกประชุม" ว่าแล้วคาโลก็เข้าห้องน้ำไปทันที


      "คิล  ตื่นสิ  ตื่นโว้ยตื่น " เฟรินปลุก  แต่ดูจะไม่เป็นผล เลยปล่อยไว้ ให้คนในห้องน้ำมาจัดการแทน ไม่นานนัก คาโลก็ออกมา


      "ท..ทำไม น.นายไม่ใส่ ส..เสื้อผ้าให้เรียบร้อยคาโล " เฟรินถามตะกุกตะกัก พลันหน้าขึ้นสี แล้วรีบเบือนหน้าไปที่อื่น

       ....  หุ่นดีสะด้วย  ขาวอีกตังหาก  ....


      " นายเป็นอะไรรึปล่าว เฟริน  ผู้ชายด้วยกันแท้ๆ  แค่ชั้นไม่ได้หยิบเข้าไป" คาโลตอบ   พลางมีสีหน้าครุ่นคิด

     ....หรือว่าจะเป็นอย่างที่เราคิดไว้  นับว่าไม่เลว ....

     
      " ปล่าวๆ  รีบๆใส่เข้าเหอะ แล้วปลุกคิล  จะได้ไปประชุม " เฟรินตอบ  หน้ายังมีสีระเรื่อ

     

        เมื่อทั้งคู่ปลุกเพื่อนนักฆ่าจอมขี้เซา สรุปว่าปลุกยังไงก็ปลุกไม่ตื่น จึงตัดสินใจทิ้งไว้ให้นอนอยู่ในห้อง
    แล้วทั้งคู่ก็เดินไปยังห้องประชุมทันที


      " ไง คาลี่   เฟรี่ คิลลี่ไปไหนละ " ลูคัส  ซาโดเรีย หนึ่งในสี่ผู้คุมกฏจอมเปลี่ยนชื่อทัก  เมื่อไม่เห็น คิลรุ่นน้องนักฆ่า


      " ง่า  คือ  ยังไม่ตื่นฮะ" เฟรินตอบแล้วหัวเราะเบาๆ  โรเวนกับไธนอสที่ฟังอยู่ส่ายหน้าอย่างระอา

     
      ...ปีหนึ่งจะไปรอดไหมเนี่ย  ขนาดหัวหน้าชั้นปียังขนาดนี้  เฮ้อ...

     
      "ช่างเถอะ  มาครบแล้วใช่ไหม  เริ่มกันเลยละกัน " ไธนอสพูดขึ้น


      "เรื่องตำแหน่งสภาสูง  นั่นคือ หัวหน้าป้อม  เสนาธิการซ้ายชวา  สี่ผู้คุมกฏ สามขุนพล  และ  สิบสองผู้พิทักษ์
              เราจะมีการแข่งขันชิงตำแหน่งสภาสูง ในอาทิตย์หน้า  อยากให้พวกเธอช่วยไปบอกเพื่อนๆและขอให้ลงสมัครทุกคน
              เพื่อสรรหาคนที่ดีที่สุดในการดำรงตำแหน่ง  แล้วเอาใบนี้ไปแจก  ส่งในวันนี้   ไปได้แล้ว"
           โรเวนพูด แล้วยื่นใบสมัครให้   ทุกคนก็แยกย้ายกัน


      "แล้วเจอกันนะ เฟริน " ลอเรนซ์พูด  เฟรินยิ้มแล้วพยักหน้า

     


          ห้องนั่งเล่นป้อมอัศวิน  ศูนย์รวมเหล่าปีหนึ่งป้อมอัศวินในช่วงวันหยุด  เสียงคุยดังกระฮึ่ม  ทำให้ไม่สามารถจะบอกรายละเอียดได้

        

             ปึง !



      มาทิลด้าทุบโต๊ะ บอกสัญญานว่าเงียบ  แล้วทุกคนก็เริ่มเงียบลง


      " ขอบใจ มาทิลด้า " คาโลเอ่ย


      " เฮ้  วันนี้มีอะไรกัน ถึงได้เรียกประชุม " ครี้ด ถามขึ้น 


              โป๊ก !
     
     
       " โอ๊ย   เธอจะตีหัวชั้นทำไม แองจี้ " ครี้ดถาม


      " นายจะช่วยเงียบซักแปปจะได้ไหม  " แองจี้ตวาดกลับ


      " เรื่องที่เราจะพูดในวันนี้คือ ตำแหน่งสภาสูง   เราจะมีการจัดการแข่งขันชิงตำแหน่งสภาสูงในอาทิตย์หน้า 
               จะสมัครแข่งตำแหน่งไหนก็ได้ ส่งให้ชั้น หรือ เฟริน หรือ คิล ในวันนี้ ถ้าไม่ส่ง พี่โรเวนจะลงให้ตามความเหมาะสม" คาโลพูด


      " งั้น หัวหน้าป้อมก็ได้ใช่ไหม " ครี้ดถาม


      " ถ้านายมีความสามารถพอ" เฟรินพูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงเยียบเย็นชวนเสียวสันหลัง


      " อะ นี่ ใบสมัคร  กรุณาลงทุกคน "คาโลพูด แล้วแจกกระดาษให้


      " นายจะลงตำแหน่งไหน คาโล " เฟรินถาม  เมื่อทุกคนแยกย้ายกันนั่งตามจุดต่างๆเพื่อกรอก ใบสมัคร


      " หัวหน้าป้อม " คาโลตอบเรียบๆ แล้วกรอกใบสมัคร


      " นายละเฟริน จะลงตำแหน่งไหน " โร  ถามบ้าง


      " เสธ ซ้าย  " เฟรินตอบเรียบๆ  ยิ้มนิดๆแล้วลงมือกรอก 

     
      " งั้นชั้นลงผู้คุมกฎดีกว่า" โรคิด แล้วลงมือกรอกใบสมัครทันที
     
     
     

      "เฟริน  ซาฮามาหานายแหนะ " คิลพูดเมื่อเปิดประตูห้อง พบเจ้าเหยี่ยววายุเข้า


      " ซาฮา  เหรอ ไปคุยกันข้างล่างนะ " เฟรินพูดพลางกับหลังแล้วเดินไปโดยมีซาฮาเกาะอยู่ที่บ่า    และไม่สังเกตุเห็นคนที่กำลังจะตามมา


      "นายหญิงน้อย  กลับร่างเดิมได้ไหม  ซาฮาคิดถึงร่างเดิมนะ " ซาฮาขอร้อง เฟรินเลยถอดแหวน

     ผมสีน้ำตาลไหม้ยาวถึงกลางหลัง ร่างบางลง ไหล่บางลง มีส่วนนูนเว้า โค้ง ชัดเจน  บ่งบอกได้อย่างเดียว ผู้หญิง
            ภาพตรงหน้าผู้แอบดูอยู่  จากชายหนุ่ม  เปลี่ยนเป็น หญิงสาว  ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง  แต่ก็ต้องเชื่อ เพราะ มันเป็นไปแล้ว


      " มีอะไร ซาฮา ถึงมาหาเรา " เฟรินที่ตอนนี้กลายเป็นเฟลิโอน่าถามเสียงเยียบเย็น


      " พระเจ้าตาไฮคิงท่านเจ้าเอวิเดสและราชินีอลิเซีย ส่งจดหมายมาหา องค์หญิง บอกว่าให้ซาฮา เอามาให้องค์หญิง" ซาฮาพูด เฟรินจึงแกะจดหมายออกมา


      " ไปอ่านข้างบนเถอะ  ซาฮาแค่อยากเห็นองค์หญิงเท่านั้น ท่านไม่น่าปลอมตัวมาเลย อยู่ในนามเจ้าหญิงเฟลิโอน่าดูเท่กว่าเฟรินหัวขโมยตั้งเยอะ" ซาฮาบอก


      " เอาน่า  เดียวอีกไม่นานหรอก  ชั้นจะกลับร่างแล้ว  เพราะแหวนคงใช้การไม่ได้" เฟลิโอน่าบอก 
     

      " งั้นซาฮาไปก่อนนะ  ซาฮาจะรีบกลับไปหาพระเจ้าตาไฮคิง" ซาฮาพูด


      " ถ้าท่านตาเป็นอะไรมาบอกเราทันทีนะ" เฟลิโอน่าย้ำ ซาฮาผงกหัวก่อนจะบินไป  เฟรินรีบสวมแหวนทันทีก่อนจะรีบเดินข้นห้องเพื่อไปอ่านทันที


     พระเจ้าตาไฮคิง  จ้าวเอวิเดส  ราชินีอลิเซีย  แล้วก็เฟลิโอน่า    ใช่  ใช่แล้ว  เธอคือเฟลิโอน่านี่เองเฟริน
            เพราะฉะนั้น  ชั้นต้องให้เธอกลับร่างให้ได้   แหวน  ใช่แล้วแหวน  ต้องถอดแหวนถึงจะเห็น


     เฟลิโอน่าลูกรัก

              สวัสดีลูกรัก  พ่อกับแม่สบายดี  บินดีด้วยที่ได้อยู่ป้อมอัศวิน  เท่าที่พ่อรู้มา ป้อมอัศวินค่อนข้างที่จะไม่มีเงิน  ถ้ามีอะไร ต้องการอะไร ให้ส่งจดหมายมา
            แล้วพ่อจะไปหา  อยากได้อะไรแล้วพ่อจะส่งไปให้  รักษาตัวดีๆนะลูก
       รัก ห่วงใย และคิดถึง
      เอวิเดส  เกรเดเวล  และ อลิเซีย เกรเดเวล

     เธออ่านจดหมายของพ่อและแม่ที่ส่งมาบนเตียง นั่งอมยิ้มก่อนจะเปิดจดหมายอีกฉบับขึ้นอ่าน

     เฟลิโอน่าหลานรัก
                เป็นยังไงหลานรัก  หลานได้อยู่ป้อมอัศวิน  ดีไหม  เท่าที่ตาเคยรู้ ป้อมอัศวินไม่มีเงินมากนัก  ต้องการอะไรก็ส่งจดหมายมา
               แล้วตาจะไปหาและส่งของไปให้     ดูแลตัวเองดีๆ   ตาสบายดีไม่ต้องห่วง  ส่วนเรื่องชามัล เจ้าก็อย่าถือตาเขาเลย เขาก็เป็นคนอย่างนั้นอยู่แล้ว
       รัก คิดถึง และห่วงใย
       ไฮคิง  ออฟ  บารามอส 

     อ่านฉบับนี้ก็ทำให้สุขใจ  ทั้งพ่อทั้งแม่ ทั้งตา ต่างรักและเป็นห่วงเธอเสมอ 


      " เฟริน  แกเป็นอะไรวะ  หน้างี้บานเชียว" คิลแซว เมื่อสังเกตุเพื่อนรักที่นั่งอ่านจดหมายแล้วยิ้มออกมา
            
     
      " ท่านพ่อ ทานแม่ ท่านตา ส่งจดหมายมานะ ไม่มีอะไรหรอก" เฟรินตอบก่อนจะเก็บจดหมายเข้าเกะ แล้วร่ายมนตร์กันคนเปิดไว้


      " เฟริน  ชั้นเห็นนายใส่แหวนตั้งแต่วันแรก  ทำไมไม่ถอดบ้างละ " คาโลที่นอนอยู่บนเตียงเอ่ยขึ้น


      " ไม่ละ ชั้นชอบใส่ติดนิ้ว  จะถอดก็ตอนอาบน้ำเท่านั้น "เฟรินที่รุ้ตัวว่าพูดมากไปแทบจะกัดลิ้นตัวเองตาย

     
      " หรอ " ตอนอาบน้ำเหรอ  งั้นพรุ่งนี้เช้าดีกว่า


      " นอนเถอะ  พรุ่งนี้มีเรียน "คาโลบอกก่อนจะซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มแล้วนอน  เฟริน กับคิลก็ทำเช่นกัน

           ท้องฟ้ายังคงมืดสลัว  พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น  บอกเวลาเช้าตรู่   ร่างเฟรินลุกเข้าห้องน้ำทันที โดยไม่รู้ว่า แหวนได้หลุดออกขากนิ้วแล้ว
            ร่างชายหนุ่มนัยตาฟ้าอีกคนรีบตื่น เดินไปหยิบแหวนที่หลุดออกจากนิ้ว เดินไปที่ลิ้นชักโต๊ะ ก่อนจะถอนมนตร์ แล้วหยิบจดหมายขึ้นมาแล้วอ่าน
            เรื่องต่างๆกระจ่างเกี่ยวกับตัวตนของ เฟริน  เดอเบอโรว์  เหลือแต่จับตัวเธอให้ได้  คิดแล้วก็ร่ายมนตร์ทำให้คิลหลับ   แล้วรีบกลับไปแกล้งหลับเหมือนเดิน

       แอ๊ด    เสียงประตูห้องน้ำเปิดออก ร่างบางมองไปที่เพื่อนร่วมห้อง  แล้วถอนหายใจเบาๆเมื่อยังหลับอยู่  แล้วรีบเดินไปที่เตียงควานหาแหวน
            ทันใดนั้น เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหู  พร้อมกับแขนของใครบางคนตวัดเข้าที่เอวบาง

      "หานี่อยู่หรือ   เฟลิโอน่า " เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหู  ก่อนที่ตัวจะแข็งทื่อ  เสียงเปล่งออกมาอย่างยากเย็น

      " คาโล "

      " ใช่  ชั้นเอง " คาโลพูด พลางจับตัวเธอให้หันมาสบตาสีฟ้า

      " หง่า ชั้นไม่ใช่เฟลิโอน่าซักหน่อย  นายคงเข้าใจผิด " เฟลิโอน่าแก้ตัว

      " แล้วนี่ละ  พอจะยืนยันได้ไหม " คาโลพูดพฃางชูจดหมายในมือขึ้น

      " จดหมาย  นาย....นายไปเอามาได้ยังไง " เฟลิโอน่าถามอย่างตกใจ

      " ในลิ้นชักเธอไง เฟลิโอน่า  เกรเดเวล  เดอะ ปรินเซส ออก เดมอส แอนด์ บารามอส "

      " นายรูได้ยังไง  ว่าจดหมายนั่น " เฟลิโอน่าถามอย่างตกใจ

      " ทุกๆอย่างที่นายทำ  มันบ่งบอกถึงสายเลือดสีน้ำเงินในตัวนาย  ตอนแรกชั้นสงสัยแค่นายตื่นเช้า  นั่นไม่ใช่วิสัยของขโมย
                 ต่อมา  วิชาอาจารย์เจ้าชายชามัล  เค้าตั้งใจจะแกล้งเธอเป็นพิเศษ เธอยังจ้องเขาแทบจะกินเลือดกินเนื้อแถมเรียกเธอไปหา 
                 สาม วิชาอาจารย์เจ้าหญิงลีอาน่า  ท่วงท่าที่เดิน  นั่ง ยืน หรือแม้กระทั่งการพูด บ่งบอกสายเลือดสีน้ำเงินของนายอย่างชัดเจน
                 ขนาดเจ้าหญิงมาทิลด้า ยังไม่ทำได้ขนาดเธอ 
     และอย่างที่ชั้นสงสัยต่อมาคือ วิชาท้องพระคลัง ที่แม้แต่ชั้น  ซื้อของแพงที่สุด พอๆกับเธอ  ซึ่งเป็นเพียงหัวขโมย
                 ส่วนวิชาสัตว์พาหนะ ชั้นไม่แน่ใจว่าใช่ม้าของสวนม้าราชวงศ์ฟาโรเวลรึปล่าว  วิชาดาบก็ไม่แน่ใจว่าหูชั้นเพี้ยนรึปล่าว
                 ว่าลาเวน จะพูดอะไรหลุดๆ 
     หน้ากากฟาโรห์นายทำได้ดีทีเดียว ซึ่งแน่ละ ว่านายเป็นขโมย แต่ก็ไม่น่าจะดีขนาดนี้ 
                 และที่ชั้นสงสัยที่สุด สองอย่างคือ วิชาศาสตร์เวทมนตร์ของแม่มดวิงกี้ คทาที่นายใช้ เป็นหนึ่งในคทาตในตำนานของราชวงศ์ฟาโรเวล
                 ซึ่งเธอคงไม่ไปขโมยจากไฮคิงหรอก  และสอง  เหยี่ยววายุ  เป็นเหยี่ยวที่แพงมาก และแน่นอนอยู่แต่เดมอส และเป็นสัตว์ที่ยอมรับแต่พวกนักเวทย์ที่เก่งกาจ
                และแน่ใจมากที่สุด เมื่อวาน ตอนที่นายไปคุยกับซาฮาแล้วกลายร่างเป็นผู้หญิงซึ่งก็คือร่างแท้จริง " คาโลอธิบาย

      " นาย  .."

      "หรือเธอจะไม่ยอมรับลับ  เฟลิโอน่า " คาโลดักคอ

      " ก..ก็ได้   ชั้นคือเฟลิโอน่า" เฟลิโอน่ายอมรับทันทีที่หน้าสลักกำลังโน้มเข้ามาใกล้

      " งั้นก็ดี  แล้วทำไมเธอถึงไม่เข้ามาเรียนในนามเจ้าหญิงละ " คาโลถาม

      " ไม่รู้สิ  สงสัยเพราะกลัวไม่มีเพื่อนละมั้ง  เพราะคงไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนกับธิดาแห่งความมืดหรอก " เฟลิโอน่าพูด น้ำเสียงสั่นและอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

      " ไม่จริงหรอก  เธอคิดมากไปเอง " คาโลปลอบ เมื่อเห็นหญิงสาวกำลังจะร้องไห้

      " ชั้นไม่รู้ " เฟลิโอน่าตอบเสียงเบา

      " แล้วที่ชั้นได้ยิน เธอบอกว่าอีกไม่นาน  คงต้องกลับร่างเก่า  หมายความว่าไง " คาโลถาม

      " เพราะพลังในตัวชั้นจะเพิ่มขึ้น ในวันพระจันทร์เต็มดวง ทำให้แหวนไม่สามารถทานพลังไว้ได้  " เฟลิโอน่าตอบ

      " งั้น วันนั้นเรามาดูกันว่าจะเป็นไปอย่างที่เธอคิดหรือปล่าว " คาโลท้า

      " เรื่องอะไร "
     
      " เพื่อน เพื่อนที่เธอคิดว่าไม่มีใครอยากคบเธอ ดูสิว่าพวกนี้จะรับเธอเป็ยเพื่อนรึปล่าว  " คาโลบอก  เฟลิโอน่าพยักหน้ารับแล้วยิ้ม

      " ใส่แหวนซะ  แล้วจะได้ปลุกคิล  ชั้นไปอาบน้ำก่อน " คาโลพูดพลางส่งแหวนให้   แล้วเอาจดหมายไปเก็บแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

      " นายจะบอกใครไหม คาโล " เฟลิโอน่าในร่างชายหนุ่มตะโกนถาม

      " ไม่ ถ้านายไม่ต้องการ " คาโลตะโกนกลับ  เฟรินจึงยิ้มแล้วหันไปปลุก คิล ต่อ      


     แล้วเวลาก้ผ่านไปเป็นอาทิตย์ จนใกล้มาถึงวันแข่งขันชิงตำแหน่งสภาสูง ในคืนหระจันทร์เต็มดวง

      " เดี๋ยวก่อน  พรุ่งนี้แล้วสิ ที่ต้องแข่ง " ครี้ดพูดขึ้นขณะที่พูดคุยกันในห้องนั่งเล่นของเย็นวันเสาร์

      " ใช่  มีสอบทฤษฎีตอนเช้า  ถ้าผ่านทฤษฎี ก็เป็นปฏิบัติ  " แองจี้บอก
     
      " แล้วที่รู้มา ทฤษฎียากมาก ส่วนปฏิบัติจะมีทั้ง วางแผน  สติปัญญา  ไหวพริบ  แล้วก็พละกำลังด้วย " โร  ขอทานกิตติทาศักดิ์บอก

      " แล้วถ้าจำไม่ผิดละก็ ไฮคิงจะเสด็จมาชมด้วยละมั้ง " โรเปรยขึ้น

      " ห๊ะ  ไฮคิงเหรอ " เฟรินอุทาน 

      " ใช่  เห็นว่านะ  แต่ไม่รู้เหมือนกันว่ามาทำไม " โรเปรย

      " เอ่อ  ไปนอนกันเถอะ  พรุ่งนี้จะได้แข่งได้ไง " เฟรินเสนอ

      " ก็ดีเหมือนกัน สามทุ่มแล้ว  นอนเถอะเก็บแรงไว้สู้" คิลพูดแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปนอน 

      " พรุ่งนี้แล้วสินะ  แล้วท่านตาไฮคิงจะมาทำไม " เฟรินพูดเบาๆแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง

      " ยังไม่นอนอีกเหรอ ไม่ต้องกังวลหรอก เชื่อชั้นสิ  เธอต้องทำได้อยู่แล้ว " คาโลบอก  ขณะที่คิลหลับไปแล้ว

      " อื้ม  นอนเถอะ " พูดจบ ทั้งคู่ก็ล้มตัวลงไปนอนบนเตียงของแต่ละคน

     เช้าแห่งแข่งขัน   ภาคเช้า  ทฤษฎี ตอนเข้ายังสดใส แต่พอออกมา ความสดใสหายหมด

      " ยากจังเลย  ให้เวลาชั่วโมงเดียวใครจะไปทำเสร็จ ตั้ง ร้อยข้อ " ครี้ดบ่น

      " เราสอบผู้พิทักษ์กัน นึกว่าจะง่าย  ยากจะตาย " แองจี้บ่น  เจค  โคลว  ทิวดอร์ เดท  นิกส์ ซีบิล เอ็ดเวิร์ด ที่สอบเป็นผู้พิทักษ์พยักหน้าเห็นด้วย

      "เอาน่า  ยังมีลุ้นพวกเรนอน  มาทิลด้า คิล  คาโล  เฟริน และอีกสองสามคน  อีกน่ะครับ " ซีบิลบอกทุกคนพยักหน้า แล้วตั้งตารอ

      " ครี้ด  โร   เรนอน สอบผู้คุมกฏ เป็นไงบ้าง " แองจี้ถาม  คำตอบก็เหมือนเดิมๆ คือ ส่าวหัว

      " นั่น มาทิลด้า กับ คิลและ โซโล มาแล้ว " ครี้ดร้องเรียก

      " เป็นไงบ้าง " แองจี้ถาม แต่ทั้งสามก็ส่ายหัว

      " งั้นคงต้องรอลุ้น คุณคาโลกับคุณเฟริน แล้วสิคะ " เรนอนเปรยขึ้น แล้วคาโล กับเฟรินก็เดินออกมา ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ส่วนคาโลก็หน้าไม่แสดงอาการใดๆ

      " เป็นไงบ้าง คาโล  เฟริน " แองจี้ถาม

      " สบายมาก " เฟรินตอบ คาโลก็พยักหน้า  ทุกคนถึงกับถอนหายใจ

      " อย่างน้อย ก็มีอยู่สองคนละค่ะ " เรนอนเปรย  เฟรินถึงกับตาโต

      " อย่าบอกนะว่าทุกคน.." คาโลถาม

      " ค่ะ  ไม่ได้เลย  ยากมาก" เรนอนตอบ ทำเอาเฟรินกับคาโล ถึงกับถอนหายใจ

      "ไปหาไรกินก่อนดีกว่า  จะได้ไปดูรายชื่อว่าใครติดบ้าง รอบบ่าย " เฟรินเสนอ ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย  


     บอร์ดประกาศรายชื่อผู้เข้าแข่งขันในตอนบ่าย

      " เฮ้ย  เฟริน  คาโล  โร   คิล ติดเว้ย " ครี้ดตะโกนบอกเพื่อน เมื่อเบียดกับคนจำนวนมากเข้าไปดูรายชื่อ 

      " โร  คิล ไหนบอกว่าไม่ได้ไง " แองเจลีน่าถาม

      " ชั้นยังไม่ได้บอกสักคำว่าไม่ได้  ชั้นแค่ส่ายหัวนิดเดียว" โรย้อน  แองจี้ถึงกับเลือดขึ้นหน้า

      " แล้วนายล่ะ  คิล "
     
      " ไม่รู้สิ  ได้ยังไงก็ไม่รู้แหะ " คิลตอบแล้วยักคิ้วกวนให้

      " ช่างเถอะ  เดี๋ยวเฟริน  คาโล  คิล  ต้องไปรายงานตัวน่ะ รู้สึกว่าคู่แข่งพวกนายจะถูกตัดไปเยอะเหมือนกัน  ของคาโล มีแค่สองคน
               เฟรินมี อีก สองคนเหมือนกัน  คิลมี คู่แข่งห้าคน ต้องการสาม คัดออกสอง  โร มีคู่แข่ง เจ็ดคน ต้องการสี่คนคัดออกสี่   ชนะให้ได้ละ  แล้วพวกเราจะนั่งดูอยู่ " มาทิลด้าบอกแล้วเดินไปยังที่นั่งชมทันทีทำให้คนอื่นต้องเดินตามไป

     
     การแข่งกำลังจะเริ่มขึ้น  โดยมีคนในป้อมอัศวิน และ อาจารย์ เท่านั้นที่ชมได้ แต่ครั้งนี้พิเศษ เมื่อไฮคิงเสด็จมาดูด้วย

      " เอาละ ผู้แข่งขันเป็นหัวหน้าป้อม ให้ออกไปสอบตังหาก  นอกนั้น สอบพร้อมกัน " แม่มดวิงกี้  คนคุมการแข่งขันพูดขึ้น  ก่อนที่จะเดินนำผู้เข้าแข่งเป็นหัวหน้าป้อมไปอีกด้านนึง

      " เอาละ นอกนั้น ตามชั้นมา " อาจารย์ลีอาน่า หนึ่งในกรรมการแข่งขันเดินนำออกมาตรงลานแข่ง ผู้ชมทุกระดับชั้น และที่นั่งว่างปล่าวอีก สองที่สำหรับไฮคิงกับชามัล

      "ไฮคิง เสด็จ " ทหารคนหนึ่งร้องบอกตามพิธี ทุกคนต่างทความเคารพ แล้วนั่งลงฟังกติกาการแข่ง

      " ปีนี้ พวกครูให้ไฮคิงเป็นคนออกโจทย์  ซึ่งโจทย์ได้ออกมาแล้ว  นั่นก็คือ แต่ละคนจะต้องนำเทพี ดาบศักดิ์สิทธิ์ ของฝ่ายตรงข้ามมาให้ได้ "
           มิสแรมเซิลอธิบาย ทำให้ผู้ชมมีเสียงฮือฮาขึ้นมา 
     
      "เอาละ เรามาจับกลุ่มกันเลยดีกว่า  ผู้แข่งเสธซ้ายจะทำการเล่นก่อน  ขอให้ผู้แข่งขันเป็นผู้คุมกฏ และ ขุนพล อย่างละครึ่ง ออกมาเพื่อเข้าร่วมกลุ่มของเฟริน เดอเบอโรว์ "

     แล้วคิล  โร  ลูคัส  ลอเรนซ์  พี่ปี สามคนนึง กับปีสี่สองคนก็ก้าวออกมา

      "นอกนั้นร้วมกลุ่มกับ เดฟ  เอริก้า "

      "เราสร้างเขตแข่งขันไว้ให้แล้ว  นั่นคือภายในปราสาทจำลอง ซึ่งมี เขตอาคมของพวกครูอยู่ เลยมองไม่เห็นแต่ตอนนี้พวกครูได้ถอนแล้ว  และพวกเธอไม่สามรถมองออกมาได้ แต่เราสามารถมองเข้าไปได้"

      "แต่ละฝ่ายจะต้องส่งคนเฝ้า เทพีดาบศักดิ์สิทธิ์ และออกหาของอีกฝ่าย ซึ่งเสธ จะเป็นคนวางแผนทั้งหมด  ถ้าวางแผนเสร็จแล้วให้เข้าไปภายในได้เลย 
            และแน่นอนต้องมีการปะทะกัน สามารถใช้ได้ทั้งดาบทั้งเวทย์ เพื่อต่อสู้  ถ้าไม่ไหวให้ตะโกนยอมแพ้หรือไม่ก็ จุดผลุขึ้นฟ้าหนึ่งนัด  แต่พอได้เทพีของฝ่ายตรงข้ามมาแล้ว 
            แน่นอนว่า จะต้องวิ่งออกมาจากประสาท แล้วจุดผลุสองนัด  ทั้งสองเข้าใจใช่ไหม "มิสแรมเซิลอธิบาย แล้วถาม เฟรินและ เดฟพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าปราสาทไป


       
     เฟรินจึงวางแผนให้ ลูคัส กับ ลอเรนซืเฝ้า ส่วนนอกนั้น ให้ไปหา แบ่งเป็นสองกลุ่มกลุ่มละสามคน
            เฟริน คิล และโรเดินไปตามทางเดิน  เลี้ยวเข้าแต่ละห้อง 

      " โร นายคิดว่า มันจะอยู่ตรงไหน " เฟรินถามโรเบาๆ

      " ชั้นไม่รู้เหมือนกัน  แต่รู้ว่ามันน่าจะใกล้แล้วล่ะ " โรกระซิบบอก

      " จริงดิ่ " คิลพูดเสียงดัง 
     
      " เฮ้ย นั่นใครน่ะ  แกจัดการ " ว่าแล้วขุนพลฝ่ายเดฟก็วิ่งเข้ามา 

      " ซวย  เผ่นซิ " เฟรินว่า แล้วเริ่มวิ่งขึ้นบันได หนี

      " หง่า  โทษทีๆ เดี๋ยวชั้นจัดการให้ก็ได้ " คิลบอกแล้ววิ่งกลับไป   ทำให้เฟรินมองตามอย่างช่วยไม่ได้

      " โร  ชั้นนี้เป็นไง  ไปหาชั้นนี้กัน " ไม่ทันที่จะเดินพ้นบันได  ก็มีคนเอาดาบมาพาดไว้ที่ต้นขอของเฟรินและโร

      " เกมโอเว่อแล้วไอ้หนู  " ผู้คุมกฏฝ่ายเดฟพูด ก่อนที่เฟรินจะพึมพำอะไรซักอย่าง  มือของศัตรูก็แข็ง  ขยับไม่ได้ 

      " ถ้าแกใช้ดาบ ชั้นก็จะสู้ด้วยดาบ " ว่าแล้วเฟรินและโรก็เบี่ยงตัวลบคมดาบก่อนที่จะเรียกดาบของตนออกมา แล้วร่ายมนตร์คลายเวทย์ แล้วการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น

      " แกไม่มีวันชนะ " ว่าแล้วการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น

        เคร้ง !     เคร้ง!    เคร้ง!   

      ฉึบ !  โอ๊ย!

      ผ่าปฐพีฟาดลงไปเชียดข้างลำตัวผู้ต่อสู้แต่ก็สร้างแผล เรียกเลือดได้พอสมควร

      " แก  งั้นก็ต้อง ...."
        ศัตรูคำรามก่อนจะเรียกคทาแล้วพึมพำร่ายเวทย์ใส่เฟริน  เลือดไหลออกทางปาก  ก่อนเฟรินจะหลับตาเรียก
               สยบจันทรา แล้วร่ายเวทย์ใส่เช่นกัน   เลือดไหลพุ่งออกทางปากและบาดแผลของศัตรู  ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ 
               แล้วที่ศัตรูก็ชักดาบ แล้ววาดดาบใส่เฟรินทันที  แต่เฟรินหลบได้ เรียก เทพจันทรา ออกมาแล้ววาดดาบสวนกลับ
               ดาบคู่ต่อสู้หลุดออกจากมืออันไร้เรี่ยวแรง ก่อนจะฟลุบลงกับพื้น  เฟรินจึงหยิบคทาของศัตรูแล้วยิงพลุขึ้นฟ้าหนึ่งนัด 
               แล้วไม่นานร่างศัตรูก็หายวับไปกับตา  ผู้ชมภายนอกที่เห็นการต่อสู้ส่งเสียงโห่ร้อง เดังลั่น เมื่อน้องปีหนึ่งสามารถชนะพี่ปีสามได้


     หันกลับมาอีกที โร กำลังสู้อยู่เช่นกัน  แต่ดูไม่มีบาดแผลใดๆ  กำลังยืนกอดอกแล้วเค้นให้ศัตรูตรงหน้ายิงพลุ หรือไม่ก็ยอมแพ้
            แต่เค้าไม่ยอมนี่สิ  โร รอไม่ไหว เห็นเฟรินสู้เสร็จแล้ว เลยรัดร่างศัตรูจนต้องยอมแพ้ไป
     
      " เสร็จไป สอง " โรว่า  ก่อนจะขัดขึ้นด้วยเสียงอีกคน

      " สามหรอก "

      " อ้าว คิล  เสร็จแล้วเหรอ โอเค ไปกันต่อ " ว่าแล้วโรก็เดินนำไปสำรวจชั้นนี้ต่อ

      " เหลืออีกห้าหรือ " เฟรินถามขึ้นเบาๆ

      " พวกพี่เค้าคงจัดการกันหมดแล้วละมั้ง  แต่คิดว่า พี่ชิวาส พี่โซมาเนีย คงไม่โดนจัดการง่ายๆ " โรบอก

      " เห้อ  นั่นสิ แล้วดันอยู่คนละกลุ่มอีก  ช่างเถอะ  " เฟรินบ่น
     
      " ใครว่า  อยู่คนละกลุ่มก็จริง  แต่เวลาตัดสินจริงๆเค้าให้คนที่เหลืออยู่ ถ้าเกิน อัตราก็จับมาสู้กัน แต่ถ้าพอดี ก็ หมดการทดสอบ" โรบอกเบาๆ

      " งั้นถ้าฝ่ายเราชนะ  แต่ทั้งสองฝ่ายไม่มีใครเป็นอะไรละ" เฟรินยังถามต่อ

      " เสธ ฝ่ายนั้นก็ได้เข้ารอบสู้กับโรเวน ส่วยนอกนั้นสู้กันใหม่  งั้นสิ" คิลลองตอบ   โรพยักหน้า

     ทั้งสามเดินขึ้นมาถึงชั้นบนสุดของปราสาทจำลอง 

      " เฮ้ย นั่น    ใช่รึปล่าว โร " เฟรินถามเบาๆ

      "นั่นแหละ นายหลบอยู่ตรงนี้ เดียวชั้นกับคิลจะเข้าไปล่อก่อน ได้จังหว่ะแล้วก็เข้าไปเอามา  เข้าใจไหม " โรบอก ก่อนที่เฟรินจะย้อน

      "นั่นเป็นคำที่ชั้นต้องพูด " โรกับคิลหัวเราะเบาๆ แล้วพยักหน้า  แล้วคิลกับโรก็เข้าไป  

      " พี่ชิวาส  พี่โซมาเนีย ไม่คิดว่าจะเจอพี่ที่นี่ " โรตะโกนราวกับให้สัญญานว่ามีชิวาส กับโซมาเนีย

      " อ้าว แล้วเฟรินไม่มาด้วยกันเหรอ " ชิวาสถาม

      " ง่า  ไม่รู้หลงไปไหนแล้วครับ " คิลตอบ 

      " ไม่อยากสู้กับเด็กสักเท่าไหร่ แต่เอาเหอะ " ชิวาสพูดแล้วจึงเรียกดาบออกมา  แล้วลงมือต่อสู้
     
     ผู้ชมภายนอกเห็นว่าฝ่ายเฟรินเริ่มสู้เพื่อแย่งเทพีแล้ว จึงเชียร์เสียงดังลั่น
            ชิวาส โซมาเนียยังคงชุลมุนกับการสู้กับคิลอยู่  เฟรินเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งเข้าไปหยิบเทพี แล้ว ร้องเรียก คิล กับโร
     
      " คิล โร ไป ได้แล้ว "

      " เฟริน ข้างหลัง" คิลกับโรตะโกน เฟรินจึงรีบเรียกผ่าปฐพีมากันไว้ ทันพอดี

          เคร้ง !     เคร้ง !

        เคร้ง...ง..ง     ผ่าปฐพีหลุดออกจากมืออีกมือยังถือเทพีฯ อยู่  เฟรินเรียกเทพจันทราออกมา  รับดาบของฝ่ายตรงข้าม

      " หึ ดาบเดมอส   " เดฟสบประมาท

      " หึ ดาบเดมอสแล้วมันเป็นยังไง " เฟรินตอกกลับ

      " ไม่ทำไมหรอก  อยากจะรู้ด้วยซ้ำว่าหัวขโมยใช้ดาบเดมอสได้ดีซักแค่ไหน " เดฟสบประมาทอีกครั้ง

     เลือดพลุกพล่านภายในกาย  ก่อนจะตวัดดาบเข้าใส่  เดฟ  เดฟยังคงหัวเราะร่าขณะกำลังสู้อยู่
            ตอนนี้โซมาเนียเสร็จโรไปเรียบร้อย  แต่โรก็โดนใช่ย่อย  คิลกับชิวาสยังคงสู้กันอยู่  แล้วเดฟก็ร่ายเวทย์ใส่เฟริน
           เลือดทะลักออกมาอีกครั้ง    คราวนี้เฟรินจึงเรียกแก้วจันทรา ออกมาอีกครั้งก่อนจะร่ายเวทใส่ เดฟถึงกับทรุด

      "หึ คทาก็เดมอส  ตกลงนายเป็นเดมอสหรือบารามอสกันแน่ " เดฟถาม

      " อย่างละครึ่ง " เฟรินตอบน้ำเสียงเยียบเย็น คนฟังถึงกับหนาว

      " เฟริน  แก สนิทกับคาโลมากไปเลยติดมารึปล่าว " โรถามขำๆ

      " มันเป็นนิสัยของฉันอยู่แล้ว " เฟรินตอบก่อนจะหันไปพยุงโร แล้วสั่งให้คิลรีบลงมา

      " คิล ไป เร็ว " ว่าแล้วทั้งสามก็วิ่งสุดชีวิต   ชิวาสวิ่งตาม ส่วนโซมาเนีย ยังคงพยุงตัวตามมา เดฟกพยายามรักษาบาดแผลแล้ววิ่งตาม

      " เฮ้ย  เร็ว    มันได้เทพีไปแล้ว " เดฟตะโกนลั่น ฝ่ายเดฟจึงรีบวิ่งมาขวาง เฟรินจึงต้องใช้เวทเคลื่อนย้าย
                 แล้วโรส่งกระแสจิตให้ลูคัสกับลอเรนซ์ตามออกมา 

              ฟิ้ว...ตูม...ฟิ้ว ... ตูม

     พลุสองนัดถูกยิงขึ้นบนฟ้า  เฟรินวิ่งออกมากับคิลและโร  ลูคัสและลอเรนซ์จึงตามมา
            เพื่อนๆปีหนึ่ง และคนดูเฮลั่น  แม้แต่ไฮคิงยังปรบมือให้  แล้วพูดกับชามัล
     
      " เห็นไหม  หลานเราเก่งจะตาย  ถ้าไม่ได้ตำแหน่งก็แปลกแล้ว " ไฮคิงพูดก่อนจะสรวลอย่างอารมณ์ดีกับชามัล

       แตรเป่า เป็นสัญญานว่าได้ผู้ชนะ   แล้วแตรอีกอันก็เป่าซ้อนขึ้นมาสำหรับการแข่งขันกัวหน้าป้อม

                    มิสแรมเซิลก็รีบประกาศต่อทันที

      " ผู้ชนะคือ  ฝ่ายเฟริน  เดอเบอโรว์  " พูดจบ ทุกคนก็เฮลั่นสนาม

      " เก่งมากเฟริน   พี่นึกว่าเธอจะไม่ได้เสียแล้ว " โรเวนชมอย่างอารมณ์ดี

      " ง่า...แล้วผมจะสู้พี่ได้ไหมเนี่ย  " เฟรินย้อน  โรเวนขำ ก่อนจะไปกระซิบอะไรบางอย่างกับมิสแรมเซิล 
                มิสแรมเซิลพยักหน้าน้อยๆ  อมยิ้มนิดๆก่อนจะประกาศต่อ

      " โรเวนมีอะไรบางอย่างอยากจะพูด  ขอให้ฟังเค้าหน่อย " แล้วเสียงก็ค่อยๆเบาลง

      " ก็ไม่มีอะไรจะพูดมากหรอก  เพียงแต่ ในเมื่อเฟรินบาดเจ็บมา ถึงจะเล็กน้อย มันก็ยังเสียเปรียบ เอาเป็นว่า
               จะไม่มีการแข่งขันรอบต่อไป " โรเวนเว้นวรรค  ปีหนึ่งถึงกับงงสนิท  

      " แต่ชั้นจะให้เฟริน เป็นเสนาธิการฝ่ายซ้ายคนใหม่ ส่วนพี่ ขอเป็นแค่ที่ปรึกษาของสภานักเรียน ก็พอ "
             โรเวนพูดจบ เสียงเฮลั่นจากปีหนึ่ง  ส่วนเฟรินอึ้งสนิท  

      " ดีใจด้วย  เฟริน " ปีหนึ่งร่วมใจตะโกนดังมาจากที่นั่งชม

      " ส่วนต่อมา ก็ผู้คุมกฏ  เนื่องจากเราได้มาห้าคน  ดังนั้น จึง..." ไม่ทันที่มิสแรมเซิลพูดจบ  โซมาเนียก็พูดขัด

      " พี่ของเป็นที่ปรึกษาสภาสูงของผู้คุมกฏละกัน " โซมาเนียประกาศ ดังนั้น ปีหนึ่งจึงได้เฮลั่นอีกครั้งให้โร

      " ส่วน สามขุนพล  พอดี ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง " เสียงเฮดังลั่นอีกครั้งสำหรับคิล ที่ได้เป็นหนึ่งในสามขุนพล 
        
      "ดังนั้นขอประกาศอีกครั้ง สำหรับตำแหน่งสภาสูง  เสนาธิการซ้ายได้แก่ เฟริน   เดอเบอโรว์    หัวหน้าชั้นปีหนึ่ง
              สามขุนพลได้แก่   คิล  ฟีลมัส    หัวหน้าชั้นปีหนึ่ง
                                         ซิฟ   เซรัส    ปีหก
                                         และ  วิคโต  เอวา   ปีห้า
             สี่ผู้คุมกฏ ได้แก่  โร เซวาเรส     ปีหนึ่ง
                                      ลูคัส  ซาโดเรีย  ปี สี่
                                      ลอเรนซ์  ดอร์น  ปีสี่
                                      ชิวาส เดเบส  ปีสี่

        และหัวหน้าป้อมอัศวิน     ได้แก่       คาโล  วาเนบลี  หัวหน้าชั้นปี หนึ่ง"  มิสแรมเซิลประกาศจบเสียงเฮดังลั่นจาเพื่อนๆปี หนุ่ง

      " และ เสนาธิการฝ่ายขวา  และ สิบสองผู้พิทักษ์เราจะมาแข่งขันกัน ต่อจากทั้ง แปด คนนี้ได้รับเหรียญกำนัลจากไฮคิงแห่งบารามอสเสียก่อน"
     พูดจบ ไฮคิงก็ยืนขึ้น  คาโลนำขบวนขึ้นไปบนประรำพิธี  แล้วรับเหรียญ  ต่อด้วย สี่ผู้คุมกฏ และ สามขุนพล
             ปิดท้ายด้วย เสนาธิการฝ่ายซ้าย  ไฮคิงมีเพียงส่งของกำนัลและยิ้มให้ ไม่พูดกับใคร  ยกเว้นเฟริน

      " ฮ่าๆ  หลานตาเก่ง  ถึงได้เป็นเสธซ้าย " ไฮคิงพูดกับเฟริน

      " ท่านตาชมหลานเกินไป " เฟรินยิ้มรับ

      " เอ้อ  วันนี้พระจันทร์เต็มดวง  เจ้าจะต้องคืนร่าง  จะให้ตาอยู่ด้วยรึไม่ " ไฮคิงถาม

      " แล้วแต่ท่านตา  เพราะหลานคิดว่า ตอนสองทุ่ม หลานจะอยู่คุยกับเพื่อนๆที่ห้องนั่งเล่น  แล้วหลานจะคืนร่างที่นั่น " เฟรินตอบอย่างมาดมั่น

      " อื้ม  ถ้าตาไป ตาจะไปเวลานั้น  แต่ตาต้องดูก่อน " ไฮคิงตรัสด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

      " งั้นหลานไปก่อน  เดี๋ยวเพื่อนๆจะสงสัย " ว่าแล้วเฟรินรีบทำความเคารพแล้วเดินไปทันที


      
         
      - - - - - - - - - - - - - - - -


      " เมื่อตะกี้แกคุยอะไรกับไฮคิง เฟริน" ครี้ดถามทันทีที่เพื่อนมาถึงบริเวณที่ตนและคนอื่นๆนั่งอยู่

      " ป่าว  " เฟรินตอบยิ้มๆ
     
      " เห้ย  ได้ไง  ชั้นเห็นแกคุยอยู่หนิ " ครี้ดท้วง เมื่อเฟรินไม่ตอบ

      " ง่า  ก็แค่ถามว่าใช้เวทย์อะไร  ก็แค่นั้น " เฟรินโกหกไป

      " เหรอ  เออ ช่างเหอะ  ไปหาอะไรกินกันดีกว่า " คิลชวนก่อนจะเดินนำขบวนเพื่อนๆไป

      " เดี๋ยวจ๊ะ เฟริน " อาจารย์เจ้าหญิงลีอาน่ารั้งไว้

      " อะไรฮะ " เฟรินถาม
     
      " ไฮคิง  อยากให้เธอขึ้นไปนั่งคุยด้วยจ๊ะ " อาจารย์เจ้าหญิงอาลีน่าบอก
           
      " เอ่อ ฮะ ขอเอาคาโลไปเป็นเพื่อนนะฮะ " เฟรินพูดพลางเรียกคาโลไว้

      " เอ่อ  แต่ .." ลีนยังลังเล

      " ไม่เป็นไรฮะ เดี๋ยวผมขอไฮคิงเอง" เฟรินกระซิบ  ลีนพยักหน้าแล้วเดินไปก่อน

      " เดี๋ยวชั้นกับคาโลตามไป  ไปกินกันก่อนเฮอะ " เฟรินบอกแล้วเดินไปทันที คาโลจึงเดินตาม

      "เอ่อ ท่านตาเพคะ  นี่ เจ้าชายคาโล  วาเนบลี แห่ง คาโนวาล  ท่านตาคงไม่ว่าท่าหลานจะให้เค้ามานั่งด้วย " เฟรินขอ ไฮคิงยิ้มน้อยๆก่อนจะพยักหน้า

      " เชิญเถอะ  ถ้าหลานอยากให้เค้ามาด้วย " ไฮคิงตอบ

      " ท่านตาให้หลานมานั่งด้วย มีพระประสงค์อะไรหรือปล่าว " เฟรินถาม

      " อยากอยู่ดูการแข่งกับหลาน " ไฮคิงตอบ

      " ท่านตามาทำอะไรที่นี่ " เฟรินถาม

      " มาดูหลานสุดที่รักแข่งไง เฟริน " ชามัลที่นั่งข้างๆบอก

      " ออ เจ้ชายคาโล เฟลิโอน่าเป็นอย่างไรบ้าง  ดื้อรึปล่าว " ไฮคิงถาม

      " ไม่พะยะคะ " คาโลหันมาตอบ

      " แล้วเป็นยังไงบ้าง  หลานของเราคนนี้ " ไฮคิงยังตรัสถาม

      " เก่ง พะยะคะ  เสียอย่างเดียวกระหม่อม ถ้าจะปลอมตัวมาน่าจะเลือกฉายาให้เหมาะกว่านี้ เช่นลูกเศรษฐี  หรือไม่ก็ลูกทูต กระหม่อม"
     คาโลตอบ
      "ทำไมต้องเป็น เศรษฐีหรือ ทูตละ คาโล " ไฮคิงมีสีหน้าครุ่นคิด

      " ก็เวลาเดิน ดูสง่า ถึงไม่ได้ทรงเครื่องยศ เศรษฐีก็จะต้องสง่าเป็นธรรมดา หรือทูต ก็ต้องดูสง่า หน้าเกรงขามเช่นกัน " คาโลตอบ

      " อ้อ  เข้าใจแล้ว  ท่านเข้าใจคิดดี คาโล " คาโลยิ้มรับ

      " ยังไงคืนนี้หลานเราต้องคืนร่างเดิม ยังไงก็ฝากท่านด้วย เพราะเคยมีการลอบปลงพระชนม์รัชทายาทของแต่ละแคว้น
                 ซึ่งหลานเราเป็นรัชทายาทจากเดมอส และ บารามอสซึ่งมีคนเดียว ยังไงก็เป็นคนสำคัญ ฝากด้วยละกัน  " ไฮคิงอธิบาย

     ตะวันคล้อยหลัง รัตติกาลคืบคลาน เวลาอาหารเย็น เเฟริน และ คาโลได้ไปรับประทานอาหารร่วมหับไฮคิง และเจ้าชายชามัล
            แล้วเฟรินก็รีบกลับ เพราะมีเรื่องสำคัญที่จะต้องทำ

      " ไง  กลับมาซะเย็นเชียวนะ  เป็นไงบ้าง ได้สนทนากับไฮคิง " ครี้ดแซวเฟรินกับคาโลที่เข้ามาจึงได้แต่ส่ายหน้า ระอากับความคิดพวกเพื่อนๆ

      " ทุกคน  ชั้นมีอะไรจะบอก " เฟรินเปรยขึ้น แล้วมองไปรอบๆ  
      
      " อะไรละ " คิลถาม

      "แล้วถ้าชั้นบอก พวกนายจะรับได้ไหม " เฟรินถามเสียงเศร้าๆ

      " รับได้ซิ ยังไงเราก็เพื่อนกัน  " ครี้ดตอบพลางสงสัยว่าเฟรินจะบอกอะไร

      " ถ้าชั้นบอกว่า ชั้นไม่ใช่เฟริน เดอเบอโรว์ล่ะ พวกนายจะรับได้ไหม " เฟรินยังคงถาม เสียงเริ่มเบาลง

      " ได้สิ ยังไงเราก็เพื่อนกัน " ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน ทำให้เธอหน้าชื้นขึ้นมาบ้าง

      " ฮั่นแน่  นายยอมรับแล้วใช่ไหมล่ะ  ว่านายเป็นเจ้าชายปลอมตัวมาน่ะ " คิลแซว  เฟรินยิ้มแต่ส่ายหน้า

      " อ่าว  แล้วนายเป็นใครกันแน่ " ครี้ดทำหน้าสงสัย 

      " นั่นสิ  นายอย่ามาลีลาน่ะ " แองจี้ลุกแล้วเดินมาพร้อมคทาในมือ กำลังจะฟาดเต็ม ส่วนคาโลก็ห้ามแต่แองจี้ไม่ฟัง

      " ไฮคิงเสด็จ " ทหารคนหนึ่งป่าวประกาศ   ทำให้แองจี้รีบลดมือลงแล้วทำความเคารพทันที

      " ตายังมาทันใช่ไหม " ไฮคิงตรัส  ทำให้คนในห้องงงเป็นไก่ตาแตก  เฟรินไม่ตอบ  แต่แล้วดวงจันทร์ก็ลอยเต็มดวงอยู่บนท้องฟ้า

     แสงจันทร์สาดส่องมาที่ร่างเฟรินทันที แสงสว่างล้อมรอบตัวเฟรินก่อนที่จะส่องสว่าง ร่างเด็กหนุ่มเปลี่ยนเป็นหญิงสาว
            ร่างบางลง ไหล่บางลง เห็นส่วนโค้งเว้าชัดเจน  ใบหน้านุ่มนวลอ่อนหวานลบความกระด้างลง  ผมสีน้ำตาลไหม้ยาวถึงกลางหลัง 
            เมื่อแสงหายไป พบร่างหญิงสาวในชุดชายตัวใหญ่

      " เฟริน " ทุกคนตะโกน 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×