ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Baramos เรื่องราวบทใหม่ ของ เฟลิโอน่า และ คาโล

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ : 5 เรียน.... (มาแล้วค่า)

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ค. 49


              ท้องฟ้ายังคงมืดสลัว  บ่งบอกเวลาเช้าตรู่  เจ้าหญิงในร่างเด็กชายลุกขึ้นมาทำภารกิจส่วนตัว 

        ซ่าา!!! 
     
             เสียงน้ำกระทบร่างบางของสาวน้อยที่ขณะนี้ถอดแหวนออกเพื่อชำระร่างกายในยามเช้า   
     
    ร่างบางก้าวเท้าออกจากห้องน้ำโดยไม่ลืมที่จะสวมแหวนที่เอวิเดสมอบให้ 


                แสงอาทิตย์ทอแสงอร่ามทั่วนภา นกส่งเสียงร้องขับขาน  แสงแดดผ่านม่านสีลาเวนเดอร์เข้ามา
       ร่างชายหนุ่มผมสีเงินลุกขึ้นมานั่งบนเตียง   แต่อีกร่างกลับนอนอย่างไม่สนใจ
     
      " อรุณสวัสดิ์  คาโล" เจ้าหญิงในคราบหัวขโมยเอ่ยทัก เมื่อเห็นเพื่อนเจ้าชายหนุ่มตื่นจากห้วงนิทรา

      " อรุณสวัสดิ์" ว่าแล้วร่างเจ้าชายก็หายเข้าไปในห้องน้ำพร้อมเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัว ตามมาด้วยเสียงน้ำจากในห้องน้ำ

     เวลาผ่านไปจนชายผมเงินได้ออกมาจากห้องน้ำแล้ว แต่อีกร่างหลับนอนอยู่บนเตียงอย่างไม่สนใจ

      " เฮ้  มาช่วยกันปลุกคิลหน่อย  เมื่อกี้ปลุกแล้วมันไม่ตื่น" ขโมยหนุ่มบอก  เจ้าชายได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะเดินไปข้างเตียงแล้วเรียก

      " คิล  แกจะตื่นได้ยัง  " แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากเพื่อนนักฆ่า
            
      " ได้  ถ้านายต้องการ" ว่าแล้วเจ้าชายผมเงินก็เดินไปหยิบถังรองน้ำแล้วสาดเข้าใส่หน้าเพื่อนนักฆ่าเต็มๆ

      " เฮ้ย  จะปลุกกันดีๆก็ไม่ได้นะ " คิลโวยวายทันทีเมื่อโดนน้ำ

      " ปลุกดีแล้วแกตื่นไหมล่ะ " เฟรินย้อนถามด้วยเสียงเย็นๆบ้าง  น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความเยือกเย็นและทรงอำนาจ ที่เธอใช้ทุกทีที่อยู่ในวัง

      " ชั้นเพิ่งรู้ว่าหัวขโมยก็ตื่นเช้าเหมือนกัน" คิลแซว  ทำให้หัวขโมยต้องโต้กลับ

      " ชั้นก็เพิ่งรู้ ว่าทั้งนักฆ่าและเจ้าชายตื่นช้ากว่าหัวขโมย" ทำให้คาโลต้องถลึงตาใส่ แต่ไม่ทำให้เจ้าตัวสะทกสะท้านแต่อย่างใด

      " เออ  รอแปป เดี๋ยวไปกินข้าวด้วยกัน" ว่าาแล้วคิลก็คว้าผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำไปทันที

          ไม่นานนัก คิล เพื่อนนักฆ่าก็ออกจากห้องน้ำมา  พร้อมเอ่ยชวนเพื่อนๆ เจ้าชาย และ หัวขโมยออกไปกินข้าวด้วยกัน  แล้วทั้ง สามหนุ่มหัวหน้าชั้นปีก็เดินลงมากินข้าวด้วยกัน

      " ป้า  ขอสลัดผัก สอง แอ๊ปเปิ้ล หนึ่ง" หัวขโมยสั่ง  สร้างความสงสัยให้แก่เพื่อนทั้งสอง 

      " เฟรินนายไม่กินเนื้อหรือ" คิลถามขณะที่นั่งกินอยูที่โต๊ะ

      " อื้ม  ไม่ชอบนะ" เฟรินตอบอย่างไม่ใส่ใจ

      " ตรงนี้ว่าง ขอนั่งด้วยคนสิ" เสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลัง

      " เอาสิ  โร" เฟรินยิ้มให้

      " นายไม่กินเนื้อเหมือนพวกปีศาจ ในเดมอสเลยนะ" โรเอ่ย พลางมองปฏิกริยาจากเฟริน

      " เหรอ  ชั้นไม่รู้เหมือนกัน  แต่ชั้นไม่ชอบ" เฟรินพยายามทำให้ปกติที่สุด

      " รีบกินเฮอะ เดี๋ยวเรียนคาบแรกไม่ทัน" คิลเตือน ก่อนทุกคนจะรีบกิน แล้วไปเข้าเรียนวิชาแรกของวัน

            เริ่มต้นด้วยวิชาประวัติศาสตร์ ยี่สิบกษัตริย์โบราณ  โดยเจ้าชายชามัล  ฟาโรเวล พระเจ้าตาของเธอ  ซึ่งเป็นวิชาที่เสี่ยงต่อการเปิดเผยตัวที่สุด
    แต่การสอนของพระเจ้าตาเธอนี่สิ  เหมือนกล่อมเด็กชวนหลับเสียจริง   ดูเหมือนทุกคนจะเผชิญปัญหาเดียวกันคือต้องพยายามสะกัดความง่วง ไม่ให้สัปงกหัวเขกโต๊ะ 

      " ดินแดนในโลกนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ดินแดนน้ำแข็งที่แทบจะไม่มีสิ่งมีชีวิตอาสัยอยู่   ดินแดนเอเดนที่เราอาศัยอยู่  และ ดินแดนเดมอส ซึ่งมีจ้าวปีศาจเอวิเดสปกครองอยู่   สงครามเดมอส และ เอเดนมีมานานกว่าพันปี  ตั้งแต่เอวิเดสใช้ดาบผ่าปฐพีผ่าดินแดนได้สำเร็จ
             และสงครามครั้งที่ใหญ่ที่สุดก็คือสงครามเมื่อห้าร้อยปีที่แล้ว และเมื่อสงครามสิ้นสุด ทั้งสองฝ่ายก็สงบศึกเป็นมิตรกัน  โดยที่เราต้องเสีย อลิเซีย  ฟาโรเวล  เจ้าหญิงแห่งบารามอสไปเพื่อสงบศึก ซึ่งก็เป็นผลดี  โดยที่เดมอส กับ เอเดนไม่เป็นอริต่อกัน แถม เจ้าหญิงอลิเซียก็มีความสุขไม่ทุกข์อะไร  เราจะมาเรียนเรื่องของเดมอสกันก่อน ..."
          อาจารย์เจ้าชายพูดจบแล้วหันไปมองรอบห้องก่อนจะยิ้มที่มุมปากให้เฟรินที่กำลังจะหลับ ก่อนจะเมินไป
     

         โป๊ก 
     
      เสียงหัวนักฆ่าโดนพื้นโต๊ะ ก่อนที่ทั้งห้องจะสะดุ้งตาโต แล้วหันความสนมาทางต้นเหตุ ซึ่งบัดนี้ได้โยนความผิดให้กับคนที่นั่งข้างๆ  ซึ่งก็ดูเหมือนกับว่าทุกคนจะเชื่อ

      " เฟริน  เดอเบอโรว์  เธอต้องการจะอธิบายเรื่องของ จ้าวปีศาจเอวิเดสงั้นหรือ  ได้สิ" อาจารย์เจ้าชายถามพลางยิ้มเยาะ เมื่อหาเรื่องแกล้งพระนัดดาของตนได้

      " เอ่อ  จะเอาเรื่องเกี่ยวกับอะไรครับ" เฟรินถามเสียงเย็น พลางส่งสายตาไม่พอใจผู้เป็น พระเจ้าตา   ไม่มีใครสังเกตุ นอกจาก เจ้าชายผมเงิน  ที่กำลังสงสัย ทั้งท่าทาง  การพูด  การเดิน  ล้วนแต่สง่าไม่เหมือนหัวขโมยทั่วไป   
            นายเป็นใครกันแน่  เฟริน.....

      " อืม เอาเป็นประวัติละกัน  มีพี่น้องกี่คน  มีลูกชื่ออะไร  ปกครองอะไร ทำนองนี้" ชามัลเอ่ยขึ้น

      " ง่า  จ้าวเอวิเดส   หรือ  เอวิเดส  เกรเดเวล  เป็นกษัตริย์ของเดมอส มีพระอนุชาและพระภคินี อย่างละหนึ่งพระองค์ นั่นก็คือ ราชาเกรเซอร์ เกรเดเวล ผู้ครองภูเขาไฟโลกันตร์ และ ราชินีจันทรา  ลูน่า  เกรเดเวล ผู้ครองนครจันทรา
     และมีพระชายาคือ เจ้าหญิงอลิเซีย ฟาโรเวล  แห่งบารามอส  มีพระธิดาหนึ่งองค์ ชื่อ  เฟลิโอน่า  เกรเดเวล   หรือเรียกได้อีกอย่างว่า ธิดาแห่งความมืด"

     เฟรินพูดจบ พระเจ้าตาของเธอ หรือ อาจารย์เจ้าชายก็ยิ้มและปรบมือให้แล้วเอ่ยขึ้น

      " ดีมาก เฟริน  ทั้งๆที่ได้คะแนนสูงสุดในโรงเรียนร่วมกับเจ้าชายคาโล  แต่ทั้งคู่ก็ไม่น่าได้มาอยู่ที่ป้อมอัศวินซะเลย  น่าจะได้อยู่ปราสาทขุนนางด้วยซ้ำน่ะ"
          ชามัลเปรยขึ้น ทำให้คนทั้งห้องถึงกับอึ้ง และ งง 
      
              เฟรินกับคาโลนี่น่ะ  ได้คะแนนสูงสุด   มันจะใช่หัวขโมยแน่รึปล่าววะเนี่ย....

      " ง่า  อาจารย์ฮะ  อาจารย์พูดเล่นใช่ไหม ที่ว่าได้คะแนนสูงสุด" เฟรินถาม

      " ไม่หนิ  เอาเป็นว่าเดี๋ยวตอนเย็น ช่วยตามมาที่ห้องพักครูด้วยน่ะ  เฟริน  เดอเบอโรว์  " ว่าแล้ว ระฆังก็ดังขึ้นบอกสัญญานว่าหมดคาบแล้ว
            ก่อนที่อาจารย์ชามัลจะเดินออกจากห้องไป  หัวขโมยตัวดีก็โวยทันที

      " คิล  แกแน่มากที่โยนมาให้ชั้น  นายมัน  น่านัก" เฟรินโวยลั่นห้อง  แต่คิลก้ไม่พูดอะไรเอาแต่ยิ้ม

      " ก็เพราะชั้น นายถึงได้สนิทกับอาจารย์เจ้าชายน่ะ  หัดขอบคุณซะบ้างซิ " คิลเอ่ยทวงบุญคุณ

      ถึงไม่เพราะนาย  ชั้นก็สนิทจนไม่รู้จะสนิทยังไงแล้ว คิล....

      " เอาน่า  นายเก่งจริงๆเลยเฟริน  ชั้นชักไม่แน่ใจแล้วว่านายเป็นแค่หัวขโมยรึปล่าว" โร เอ่ยขึ้น ทำให้เพื่อนทั้งห้องสนับสนุน

      " ใช่  นายใช่ขโมยแน่รึปล่าว  ไม่ใช่ว่าเจ้าชายจากเมืองใดเมืองหนึ่งปลอมตัวมานะ" ครี้ดเอ่ยแซว

      " ไม่ใช่แน่นอน ครี้ด" เฟรินปฏิเสธ

      " เอาเหอะ  แต่นายก็เก่งจริงๆ ไปเถอะ คาบต่อไป เรียนคุณสมบัติราชันย์ของอาจรย์เจ้าหญิงลีอาน่า แห่ง โรมัน " แองเจลีน่าเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินนำไปกับสามสาวนางห้าป้อมอัศวิน


      " สวัสดีนักเรียนปีหนึ่งป้อมอัศวิน  ชั้น ลีอาน่า แห่งโรมัน เรียกชั้นสั้นๆว่า ลีน ก็ได้ ชั้นก็รุ่นประมาณแม่พวกเธอได้ เพราะฉะนั้น เรียกน้าก็ได้"
       
      " เอาละ วิชานี้ ก็เหมือนการฝึกบุคลิกที่ดีของกษัตริย์  ในคาบนี้จะไม่มีการเดินหลังค่อม  หรือ พูดจาไม่สุภาพ  เฟริน เดอเบอโรว์  เดินออกมาข้างหน้าซิ" อาจารย์เจ้าหญิง ลีน หรือ ลีอาน่าเรียก

       จะโดนอะไรอีกเนี่ย   ซวยจริงๆ...

      " อาจารย์เจ้าชายชามัลบอกเรื่องเธอให้ชั้นรู้หมดแล้ว  เธอนี่เก่งจริงๆ  " เธอบอกพร้อมหัวเราะเบาๆ

      " และอาจารย์ทุกคนก็รู้เรื่องความลับของเธอแล้วด้วย เจ้าหญิงเฟลิโอน่า  " เธอกระซิบ  ร่างกายเฟรินแข็งทื่อ ราวไม่รับรู้สิ่งใด
     
             ท่านตานะท่านตา  ไหนสัญญาแล้วไม่ให้บอก  เดี๋ยวฟ้องท่านตาไฮคิงซะเลย

      " งั้นท่านน้าลีนช่วยหลานหน่อยละกัน หลานไม่อยากให้ใครรู้ว่าหลานเป็นใคร นะ น้าลีน  เป็นเพื่อนกับท่านแม่ซะปล่าว" เฟรินกระซิบเสียงเย็น

      " ก็ได้  เห็นแก่อลิเซียเพื่อนเก่าหรอกนะ  " ว่าแล้วลีนก็หัวเราะเบาๆ

      " เอาละ เริ่มแรก   ชั้นอยากดูบุคลิกของพวกเธอทุกคน  แล้วเราจะได้ฝึกกันในคาบหน้า " ลีนบอกแล้วเริ่มกวาดสายตาไปทั่ว

      " เริ่มจาก เฟริน ต่อด้วยคาโล  คิล  และ ถัดไป เข้าแถวกันเอง  " ลีนสั่ง เฟรินถึงกับมองตาถลึงใส่  แต่ลีนก็หัวเราะร่า 
       
          เอาอีกแล้ว  นายเป็นใครกันแน่  ที่กล้าแหย่อาจารย์....

      " เอาละ  เดินไปรอบๆห้อง  เดินดีๆล่ะ  ถ้าเดินไม่ดีก็เดินอยู่อย่างนั้นแหละจนกว่ามันจะดี คนแรกเดินไปซักห้าก้าวแล้วคนต่อไปค่อยเดิน เอ้า  เริ่ม" ลีนสั่ง แล้วเริ่มสังเกตุการเดินของแต่ละคน โดยเฉพาะเฟริน

            เดินอย่างมั่นใจ   ไม่มีสะดุด  สง่า สมแล้ว ที่เป็นลูกจ้าวเอวิเดส  และอลิเซีย  แถมยังพระนัดดาสุดที่รักของไฮคิง...

      " โอเค เฟริน  คาโล ไปนั่งได้  นอกนั้นเดินต่อไป   เดินให้มันดีๆ  " ลีนสั่ง แล้วยักคิ้วให้เฟรินทีนึง ซึ่งเฟรินก็ยักคิ้วตอบ

      " เฟริน  นายเป็นใครกันแน่"  คาโลถามความสงสัยออกไป

      " นายจำไม่ได้รึไง ว่าชั้นเป็นขโมย นอกเสียจาก  นาย....ความจำสั้น" เฟรินว่าแล้วยักคิ้วให้ทีนึง

      " แต่นายดูไม่เหมือนขโมย ทุกๆอย่าง" คาโลเปรยขึ้น  เฟรินเริ่มเหงื่อตก  แต่ก็ยิ้มให้อย่างเดียวก่อนจะหันไปสนใจกับการฝึกต่อ  ซึ่งบัดนี้มีคนโดนปล่อยตัวมาอีก สองสามราย

      " เฟริน นายนั่งหลังตรงดีจัง  ชั้นนั่งนานๆยังเมื่อยเลย " คิล ที่โดนปล่อยตัวมาแล้วนั่งข้างๆพลางชวนคุย

      " ว่าแต่เขาเถอะ นายรีบนั่งดีกว่าคิล ก่อนที่น้าเจ้าหญิงนั่น จะเดินมาดูความเรียบร้อยในการนั่งของพวกเรา" โร อีกคนที่โดนปล่อยตัวมาแล้วนั่งลงข้างๆคิล พลางหัวเราะเบาๆ

      " นายรู้ตัวเหมือนกันหรือ  คาโล  เฟริน" คิลถาม แต่ทั้งคู่ไม่ตอบ โดยเฉพาะคาโล ที่ไม่มีรอยยิ้มใดๆส่งออกมา ทำหน้าเฉย ผิดกับเฟริน ที่ยิ้มให้น้อยๆ     

      " เอาละ  คาโล  เฟริน  ยืนขึ้นได้แล้ว  " ลีนที่หันมาเห็นเฟรินและคาโลนั่งตัวตรงดีตั้งนานแล้วจึงเรียกให้ยืนขึ้น

      " นายไม่เมื่อยมั่งหรือไงเฟริน " คิลถาม ขณะที่เห็นเพื่อนยืนตัวตรงแด่ว
     
      " น้าลีนนะ ทำถูกแล้ว ตอนแรกเดิน พอเดินเมื่อยๆก็มานั่ง พอนั่งเสร็จก็ยืน เปลี่ยนท่า จะได้ไม่เมื่อยไง" เฟรินิธิบาย

      " ไม่ใช่ ชั้นหมายถึง ที่นายหลังตรงตลอดนะ  นายไม่เมื่อยหรือ" คิลถาม

      " ออ ถ้านายตั้งใจ แปปเดียวก็เสร็จ  พอเสร็จ นายก็หลังค่อมได้  เพราะฉะนั้น ทนไว้ อีกหน่อยก็สบาย " โรพูดขัด เฟรินและคาโลพยะกหน้าเห็นด้วย

      " คิล โร  ยืนได้   ครี้ด   เจค  กัส  และ เดท เดินต่อ นอกนั้นนั่งได้ " ลีนสั่งก่อนที่ทั้ง สี่ที่ถูกสั่งเดินจะคอตกไปโดยปริยาย


     จบจากวิชาคุณสมบัติราชันย์ก็ยังคงทำให้เฟรินเป็นที่สนใจต่อไป เพราะได้รับคำชมจากอาจารย์เจ้าหญิงลีอาน่า มากพอๆกับคาโล   และต่อด้วยวิชาท้องพระคลังพระราชา โดย กิบบอน ซาตัน

       " พระราชาต้องรู้จักใช้เงิน  ใช้เงินไม่เป็นจะเป็นพระราชาได้ยังไง เอ้า ตอนนี้ขอให้ทุกคนขึ้นมาเล่าประสบการณ์การตัดสินใจจ่ายเงินมากที่สุดในชีวิตของตนหน้าชั้น"
         แม้แต่ขอทานอย่างโร ยังซื้อกะลาทองคำราคา เก้าร้อยเก้าสิบเก้าคราวน์  แต่ทุกคนก็ต้องอึ้งเมื่อเฟรินบอกว่า จ่ายเงินเป็นแสนๆคราวน์เกือบล้านคราวน์ เพื่อซื้อแค่เหยี่ยวตัวหนึ่งที่มาจากเดมอส

     มันเป็นหัวขโมยแน่รึปล่าวเนี่ย  คำถามยอดฮิตที่ทุกคนต้องถามเฟริน

     ต่อด้วยวิชาสัตว์พาหนะพระราชา ที่เฟรินเอา เรช่า ม้าในสวนม้าราชวงศ์ฟาโรเวล ออกมาซึ่งก็บังคับให้มันวิ่งช้าๆ เพื่อไม่เป็นที่สังเกตุ แต่ก็ไม่ลอดพ้นสายตาเจ้าชายผมเงินไปได้อีก และตั้งใจให้มันวิ่งแพ้แม้กระทั่งลาทรงของโร

     ต่อด้วยวิชาฟันดาบ โดย ลอร์ด ลาเวน ชมัคเกอร์ เดอะ เกรท วอริเออร์ ออฟ บารามอส  ซึ่งอยู่ในขบวนการปลอมตัวด้วย  แต่ก็เกือบเผลอทำความเคารพเธอ แต่ดีที่ส่งสายตาปรามไปหยุดทัน แต่ก็ไม่พ้นสายตาสีฟ้าของคนผมเงินอีก

      "เอาล่ะ เดี๋ยวอาจารย์จะให้ประลองดาบก่อนน่ะ  แค่ดาบพาดคอผู้ต่อสู้ก็ผ่าน  เอาละ จับคู่ได้" ใช้เวลาไม่กี่นาที   ทุกคนก็มีคู่โดยเหลือก็แต่เฟริน กับ คาโล เลยต้องมาคู่กัน

      "คู่ เฟลิ..เอ่อ เฟรินกับคาโลก่อน " ลาเวนเกือบปล่อยชื่อเจ้าหญิงของตนออกมาแต่ได้สายตาปรามจากเฟรินจึงรอดไป

           เคร้ง   เคร้ง  เสียงดาบปะทะกันอย่างดุเดือด  แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครยอมใคร สุดท้าย ดาบทั้งคู่ก็ทาบลงที่ลำคอของฝ่ายตรงข้าม

      " เอ่อ  พอแล้ว  เก่งมาก ไปพักเถอะ เจ้าหญ..เจ้าชายคาโล  เฟริน" เกือบหลุดครั้งที่ สอง

      " ครับ " ทั้งสองตอบรับก่อนจะไปนั่งพักกัน  คาโลเลือกที่จะไม่ถามความสงสัย เพราะกลัวว่าจะรู้ตัวแล้วกลบเกลื่อน จึงจะหาหลักฐานให้แน่ชัด แล้วค่อยปล่อยทีเดียว

     วิชาดาบจบไปด้วยความกังวลใจกลัวองครักษ์จากบารามอสจะหลุดปากพูดออกไป  แต่ก็โล่งเพราะก็ปรายตาทันทุกครา
    อย่างน้อยคาบต่อไปเป็นวิชา หน้ากากฟาโรห์ ที่ดูหน้าสนุกและเป็นวิชาที่เฟรินได้รับคำชมมากที่สุด  ในบรรดาวิชาที่เรียนมา 
            วิชาของอดีตกษัตริย์โอเรค  เฟมิงโก แห่งโคมาน อายุเกือบหกสิบแล้วแต่ยังกระฉับกระเฉง ว่องไว  อารมณ์ดี  มีอารมณ์ขัน ถึงแม้จะชอบคุยโม้   แต่สิ่งที่เรียนในชั่วโมงก็สนุก น่าตื่นเต้น  เช่น เจ็ดสิบสองกลวิธีการตอบปฏเสธโดยไม่ให้รูตัว  ห้าสิบหกวิธีให้คำสัญญาโดยไม่ผูกมัดตัวเอง  หรือสิบแปดวิธีการโกหกไม่ให้จับได้  สิ่งที่สำคัญที่สุดในวิชานี้คือตั้งแต่เริ่มวิชาจนจบ ห้ามพูดความจริง  หรือแสดงสีหน้าท่าทางที่ซื่อตรงต่อความรู้สึกของตัวเองเด็ดขาด

      "พระราชาคือนักโกหกที่เก่งที่สุดในโลก โกหกอย่างพระราชาคือโกหกอย่างไม่มีใครจับได้  และเพราะท่านมีหน้ากากเป็นพีนหน้า จึงไม่เคยมีใครเห็นใบหน้าจริงของพระราชา"


     ส่วนวิชาต่อไป ศาสตร์เวทมนตร์ ของอาจารย์แม่มดวิงกี้  เชโนวาส    ซึ่งวันแรกเธอวัดพลังเวทย์ของแต่ละคน โดยที่ใช้คทาของตัวเอง  เธอจึงต้องเรียกสยบจันทรามาใช้  ร่ายเวทอย่างที่แม่มดวิงกี้บอกและพ่อมดเอเบลที่ท่านตาเคยให้มาฝึกเวทย์เอเดนให้เธอ  แล้วหุ่นฟางที่ใช้ทดสอบก็กระจุยกระจาย  แม่มดวิงกี้ออกปากชมซะยกใหญ่ว่ามีพลังเวทย์สูงและแกร่งกล้า   จนทำให้เป็นที่สนใจของเพื่อนๆ  โดยเฉพาะ คาโล  วาเนบลี  ที่อยากจะรู้ว่าเธอเป็นใครกันแน่

               นั่นมันคทาในตำนานของราชวงศ์ฟาโรเวล   เฟรินคงไม่คิดจะไปขโมยของไฮคิงมาแน่  นายเป็นใครกันแน่ เฟริน....

          ห้องอาหารดราก้อนยามเย็นเนืองแน่นไปด้วยผู้คน เฟรินรีบกินก่อนจะเดินไปห้องพักอาจารย์เจ้าชายชามัลทันที โดยไม่สังเกตุว่ามีใครบางคนกำลังตามมา

     ก๊อกๆๆ
     
      "เชิญ"

      " ท่านตาเรียกหลานมามีอะไร " เฟรินเข้าเรื่องทันทีที่เข้ามาในห้อง ทำเอาคนแอบฟังถึงกับฉงน

              ท่านตา ...

      " ก็ไม่มีอะไร  แค่อยากเห็นหลานเท่านั้น " ชามัลยังคงเล่นลิ้น

      " ไหนท่านตาสัญญาว่าจะไม่บอกใครเรื่องนี้  แล้วท่านตาไปบอกคนอื่นทำไม " เฟรินเริ่มถาม

      " ตาไม่ได้สัญญาซักหน่อยอย่ามาโมเมซิ " ชามัลเอ่ย แล้วหัวเราะในลำคอ

      " ก็ท่านตาพยักหน้าแล้วหนิ " เฟรินยังไม่ยอม

      " นั่นแค่พยักหน้า  ตาไม่ได้พูดซักคำว่าตกลง " ว่าแล้วชามัลก็หัวเราะเบาๆ

      " ท่านตานะท่านตา  หลานจะฟ้องท่านตาไฮคิง " เฟรินว่าทำหน้ามุ่ย  คนข้างนอกถึงกับฉงนมากขึ้น

             ท่านตาไฮคิง...

      " เอาน่า ไปเขียนจดหมายถึงอลิเซีย กับ เอวิเดสซะซิ  แล้วท่านพี่ไฮคิงฝากตามาดูแลหลานด้วย อย่าลืมอ่านหนังสือละ"  
                 ชามัลบอก  เฟรินจึงพยักหน้า แล้วค้อนใส่ท่านตาเธอทีนึงก่อนจะบอกขอตัว
       
     คนแอบฟังถึงกับต้องวิ่งหาที่ซ่อนแถวนั้น เมื่อเฟรินเดินไปแล้วจึงเดินขึ้นไปยังห้องนั่งเล่นรวม

      " เฮ้ เฟริน เจ๋งนี่หว่า  " ครี้ดทักเมื่อเห็นเฟรินเข้ามาในห้องนั่งเล่น เพื่อนๆเลยสนับสนุน  เฟรินรีบเปลี่ยนจากหน้ามุ่ยเป็นยิ้มแย้มทันทีพลางร่วมบทสนทนาด้วย

      " ไม่หรอก  ม้าชั้นยังแพ้ลาของโรเลย "เฟรินบอก
     
      " แต่นั่นก็แค่วิชาเดียวนี่ครับ "ซิบิลบอก    

      " แต่ก็ถือว่าแพ้นะซีบิล " แองเจลีน่าเยาะ

      " ก็แพ้กันทุกคนแม้กระทั่งเธอไม่ใช่หรือ แองจี้" เฟรินย้อน ทำให้แองจี้หน้างอ

      " แต่ก็ยังถือว่านายเจ๋ง" คิลชม

      " ใช่ๆ"ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน
     
      " เก่งจนชั้นชักสงสัยว่านายเป็นเจ้าชายเมืองใดเมืองหนึ่งปลอมตัวมารึปล่าวเฟริน " มาทิลด้าถาม ทำให้ภายในห้องเงียบสงัด

      " เฟริน  รุ่นพี่ลอเรนซ์ เรียกนะ " คาโลเดินเข้ามาบอกทำลายความเงียบ
     
      " อืม  เออ มาทิลด้า ที่เธอถามนะ คำตอบคือ ไม่ใช่" ว่าแล้วเฟรินก็เดินออกไปทันที

     แล้วทุกคนด็เริ่มคุยกันใหม่อีกครั้ง

            ก๊อกๆๆ

      "เชิญ"

      " พี่ลอเรนซ์มีอะไรหรือครับ " เฟรินถาม

      "จำกันไม่ได้เหรอ  เฟลิโอน่า" ลอเรนซ์ถาม พลางถอดสร้อยคอรูปไม้กางเขนออก

      " พี่หญิงลอรีน่า " เฟรินอุทานเมื่อรูปร่างชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นอรชร ใบหน้าหวานขึ้น  ก่อนที่จะใส่สร้อยเหมือนเดิม

      "รู้ได้ยังไงว่าเป็นหญิง " เฟรินถาม

      " ท่านพ่อท่านแม่บอกว่าน้องหญิงจะมาเรียนที่นี่" ลอเรนซ์ตอบ

      " แล้วรู้ได้ยังไงว่าคือร่างนี้ "

      " ท่านอาลีน " แล้วทั้งคู่ก็คุยกันอย่างสนุก จนเฟรินต้องขอตัวกลับก่อน

     พอออกมาจากห้องน้ำ คิลในชุดนอนก็นั่งเขียนเล่นอยู่บนโต๊ะทำงาน  ส่วนคาโลก็นอนอ่านหนังสือบนเตียง
            ไม่มีเสียงคุยใดๆทั้งสิ้น มีเพียงเสียงขีดเขียนกระดาษจากคิล และเสียงเปิดหนังสือจากคาโล  เฟรินนั่งที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะลงมือเขียนจดหมาย


     ถึงท่านพ่อและท่านแม่
            สวัสดีท่านพ่อท่านแม่   ลูกได้อยู่ป้อมอัศวิน  ได้เจอกับพี่หญิงลอรีน่าแล้ว  ลูกอยู่สุขสบายดีไม่ต้องเป็นห่วง 
            แล้วท่านพ่อท่านแม่สบายดีใช่ไหม  ลูกโดนท่านตาชามัลแกล้งในวิชาประวัติศาสตร์  และเจอท่านน้า ลีอาน่าเพื่อนของท่านแม่แล้ว
            ท่านน้าสอนวิชาคุณสมบัติราชันย์ วันแรกก็เล่นซะเพื่อนของลูกแย่เอาการ  แต่ลูกชินแล้ว เพราะท่านอากับท่านแม่สอน
            วิชาหน้ากากฟาโรห์ก็สนุกดี แล้ววิชาศาสตร์เวทมนตร์ของแม่มดวิงกี้ ลูกก็ทำได้สบาย เพราะท่านตาไฮคิงให้พ่อมดเอเบลสอนลูกเกือบหมดแล้ว
            ลูกคงต้องเขียนแค่นี้  แล้วลูกจะเขียนกลับไปอีก  ท่านพ่อท่านแม่ก็ส่งมาหาลูกด้วย ลูกคิดถึง
                                            รัก  เคารพ  และคิดถึง
                                            เฟลิโอน่า   เกรเดเวล
     

     เสร็จแล้ว  เฟรินก็พับเก็บใส่ซอง  มองเวลา ซักพักลมก็กรรโชกแรง ก่อนที่ของเล็กทุกอย่างในห้องจะปลิวว่อน  แต่เฟรินกับคาโลใช้เวทยึดไว้
              แล้วก็มีเหยี่ยวตัวหนึ่งบินเข้าหน้าต่างมา แล้วเกาะที่แขนเฟริน แล้วลมก็สงบลงอีกครั้ง

      " ซาฮา  ดูซิ นายทำห้องเกือบเละ  ทีหลังมาเบาๆก็ได้ " เฟรินว่าซาฮา เหยี่ยวของเธอ

      " ง่า ซาฮาขอโทษ ท่านพ่อให้ซาฮามาเอาจดหมายของนายหญิงน้อย " ซาฮาตอบ

      "นายน้อย  ซาฮา "

      " นั่น  เหยี่ยววายุ " คาโลกับคิลอุทาน

      " มันมีแต่ในเดมอส  และแพงมาก  นายได้มันมายังไงเฟริน" คิลถาม

      " หง่า  พ่อชั้นซื้อมาน่ะ  พ่อไปเที่ยวเดมอสเลยซื้อมา" เฟรินตอบ

      " ไหนนายบอกว่าเป็นขโมย  ทำไม นายถึงซื้อมันได้" คาโลถาม

      " ง่า พ่อชั้นก็เข้าขั้นเศรษฐีอ่าน่ะ " เฟรินตอบ แล้วหยิบจดหมายม้วน สอดในห่วงที่ขาซาฮา

      "เอาไปให้ท่านพ่อท่านแม่  แล้วกลับมาอีกครั้งพรุ่งนี้น่ะ " เฟรินสั่ง ก่อนที่ซาฮาจะตกปากรับคำ

      " ได้ ซาฮาจะมาอีกครั้ง ไปก่อนน่ะ นาย เอ่อ  นายน้อย" ว่าแล็วซาฮาก็บินไป

      " หง่า นั่นมันเหยี่ยววายุที่พ่อชั้นซื้อมาจริงๆ หง่า ไม่เชื่อตามใจพวกนายแล้วกัน " ว่าแล้วเฟรินก็ไปเขียนจดหมายอีกฉบับ


     ถึงพระเจ้าตาไฮคิง
            นี่หลานเองเพคะ  หลานอยู่ป้อมอัศวิน สุขสบายดี  แล้วอีกอย่างคือ ท่านตาชามัลแกล้งหลาน เอาเรื่องของหลานไปบอกคนอื่น
            ท่านตาอย่าทรงงานหนักมากนักนะเพคะ  ดูแลสุขภาพด้วย  แล้วถ้าออกจากเอดินเบิร์กได้เมื่อไหร่  หลานจะไปหาท่านตาที่บารามอส
            รักษาสุขภาพด้วยนะคะ 
                            รัก  เคารพ  และ  คิดถึง
                             เฟลิโอน่า  เกรเดเวล

       
          แล้วเฟรินก็เก็บจดหมายใส่ซองเก็บไว้ในลิ้นชักโต๊ะ  ล้มตัวอ่านหนังสือบนเตียงก่อนจะผล็อยหลับไป

             ก็อก  แก๊ก
        ติดกับเวทมนตร์  เฟรินร่ายมนตร์กันไว้  มันสำคัญอะไรนักถถึงต้องร่ายมรตร์ไว้

      "นายจะทำอะไร  คาโล " เฟรินตื่นมาดู คนที่กำลังจะเปิดเกะเธอ

      " ป่าว"  คำตอบเสียงเย็นจากปากคาโล

      " แล้วนายจะเปิดเกะชั้นทำไม  คิดจะขโมยของของขโมยเลยนะเนี่ย " ว่าแล้วเฟรินก็หัวเราะเบาๆ

      " ช่างเฮอะ  ไม่มีอะไร" คาโลพูดก่อนจะล้มตัวนอนบนที่นอนอีกครั้ง


     แสงแดดเช้าวันใหม่  เหล่าลิงทโมนแห่งป้อมอัศวินเริ่มลุกมาทำภารกิจส่วนตัว

      " อ้าว คิลยังไม่ตื่นเหรอเฟริน " คาโลถาม เฟรินพยักหน้าอย่างเหนื่อยๆ

      " ปล่อยมัน " เฟรินว่า แล้วลมก็เริ่มแรงขึ้นเหมือนเมื่อคืน หลังขากนั้นซาฮาก็บินเข้ามาเกาะแขนเฟริน

      " ซาฮามาแล้ว " ซาฮาบอก

      " อื้ม ซาฮา ปลุกคิลให้หน่อย  เอาให้ตื่นนะ" เฟรินบอกก่อนที่ตัวเองจะคลายมนตร์ แล้วนำจดหมายออกมา
         ส่วนซาฮาก็ปลุกคิล โดยการใช้ลมนำร่างคิลขึ้น  แล้วลอยไปในห้องน้ำ 

        ตูม!!

     ซาฮาปล่อยคิลในอ่างรองน้ำอาบ ทันที ตามด้วยเสียงหัวเราะในลำคอของคาโล

      "เฟริน คาโล  แกกล้าทำกบชั้นเหรอ " คิลโวยวายก่อนที่จะออกมาในชุดนอนที่เปียกโชกทั้งตัว

      "ป่าว  ซาฮาตังหาก" เฟรินบอก  ก่อนที่คิลจะฮึดฮัดไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเข้าห้องน้ำไป

      " ให้ท่านตา ที่บารามอส  อย่าลืมบอกว่าจากชั้นละ " เฟรินสั่งแล้วสอดจดหมายในห่วงคล้อง ซาฮาพยักหน้ารับ

      "แล้วถ้าเกิดว่ามีคนจับ ก็ให้บอกว่ามาจากชั้น ถึง ท่านตา  แล้วเค้าจะปล่อยไปเอง อย่าลืมละ" เฟรินย้ำ ซาฮาพยักหน้าแล้วบินออกไป


     การเรียนผ่านไปแล้วหนึ่งอาทิตย์  ผ่านไปอย่างยากเย็น เพราะวิชาประวัติศาสตร์ ท่านตาชามัลก็เหมือนจะหาอะไรมาแกล้งเธอให้ได้ทุกวัน
    วิชาสมบัติราชันย์ ท่านอาลีนก็เหมือนจะแกล้งเธอให้ทำเป็นตัวอย่างบ้าง  ให้คอยสอนเพื่อนบ้าง  สมบัติท้องพระคลังของ กิบบอน  ซาตัน ก็เหมือนร่วมแกล้งกับท่านตาชามัลให้ออกมาเล่าประสบการณ์การซื้อของที่ถูกที่สุด  ซึ่งทุกคนก็เหมือนว่าจะซื้อถูกจริงๆ สามคราวน์บ้าง  ห้าคราวน์บ้าง  ขนาดคาโลยัง ไม่ถึงห้าคราวน์   แต่สำหรับเฟรินคือซื้อผ่าปฐพี สิบคราวน์  
            ต่อด้วยวิชาสัตว์พาหนะ ยังไม่ค่อยเท่าไหร่  ฟันดาบของลาเวน ก็ยังไปได้  หน้ากากฟาโรห์ ก็โอเค เวทมนตร์ของแม่มดวิงกี้ก็ยังคงน่าเบื่อ  เนื่องจากเคยฝึกมาแล้ว
           

         แต่การเรียนยังคงต้องดำเนินต่อไป   จนมาถึงวันแห่งการพักผ่อน  วันอาทิตย์...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×