คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ : 4 ป้อมอัศวิน
" หอพักของนักเรียนปีหนึ่ง คือบริเวณชั้นสองทั้งหมด ชั้นล่างประกอบไปด้วยห้องครัวรวม ห้องนั่งเล่นรวม ห้องอ่านหนังสือรวม ชั้นสามถึงชั้นแปด เป็นหอพักของนักเรียนรุ่นพี่ ถ้าไม่มีความจำเป็นก็ไม่ต้องขึ้นไป " คำพูดจากรุ่นพี่ผู้พาแนะนำหอพัก
" ป้อมอัศวินของเราอยู่ทางทิศตะวันออกของปราสาทเอดินเบิร์ก มีธงสีแดงดาบสีน้ำเงินเป็นสัญลักษณ์ ขอให้จำไว้ให้ดี แนะนำว่าอย่าเผลอหลงทางไปปราสาทขุนนาง ปราการปราชญ์ หรือแผ่นดินประชาชนเด็ดขาด...
ในแต่ละปีระหว่าป้อมอัศวิน ปราสาทขุนนาง ปราการปราชญ์ และแผ่นดินประชาชน มีการแข่งขันชิงตราพระราชาซึ่งถือว่าเป็นเกียรติยศที่สำคัญมากที่สุด การแข่งขันจะตัดสินจากการปฏิบัติของนักเรียนในแต่ละที่ โดยทุกวันก่อนเวลาอาหารเย็น คณะอาจารย์จะทำการประเมินให้คะแนน ถ้าลงคะแนนให้ที่ไหน ธงของที่นั่นจะถูกชักขึ้นบนยอดปราสาทเอดินเบิร์ก และมีสิทะปักธงของตนเหนือกำแพงโรงเรียนหนึ่งธง แต่หากทำผิดกฎ อาจารย์คนใดก็ตามก็มีสิทธิสั่งชักธงลงกี่ธงก็ได้ วึ่งวันสุดท้ายของภาคการศึกษา ธงของที่ใดประดับบนกำแพงมากที่สุด ก็จะมีสิทธิได้รับตรากษัตริย์...
ที่ผ่านมา ปราสาทขุนนางกับป้อมอัศวินของเราทำสงครามแย่งชิงตรากษัตริย์กันมาตลอด ในประวัติการก่อตั้งโงเรียนพระราชา ถึงแม้ว่าปราสาทขุนนางจะได้รับชัยชนะมามากกว่าที่ไหนๆ แต่ในสองปีนี้ป้อมอัสวินของเราได้ครองตราพระราชาติดต่อกันถึงสองปีซ้อน และเราจะครองต่อไปในปีนี้ด้วย ซึ่งจะสำเร็จหรือไม่ก็ต้องอาศัยความร้วมมือจากเราทุกคน...
อ้อ...ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ในการแข่งขันชิงตราพระราชา นอกจากธงจากการประเมินประจำวันแล้ว รายการสำคัญที่สุดที่พลาดไม่ได้ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่นำชัยชนะให้กับป้อมอัศวินของเรามาสองปีซ้อนด้วย นั่นก้คือหมากกระดานเกียรติยศ รายละเอียดการแข่งขันอาจารย์คงจะอธิบายในห้องเรียนอีกที "
ชื่อของหมากกระดานเกียรติยศเรียกเสียงฮือฮาในหมู่นักเรียนใหม่ให้เริ่มคุยกันจ้อกแจ้ก เมื่อรุ่นพี่เริ่มอธิบายต่อ
" ความจริงก็ไม่มีอะไรจะพูดต่อความแล้วละน่ะรู้ว่าทุกคน คงเหนื่อยและอยากพักผ่อน เพราะวันนี้ทั้งวันมีกิจกรรมปฐมนิเทศจากทางโรงเรียนยาวเหยียดพอดูอยู่แล้ว เหลือแนะนำต่ออีกนิดเดียวคือ อาจารย์ประจำป้อมอัศวินของเรา คือ มิสแรมเซิล กิลเบิร์ต อาจารย์ประจำภาควิชายุทธศาสตร์การรบ ซึ่งคิดว่าพวกเราคงได้เจอท่านในวิชาการเดินหมากฯ เบื้องต้นส่วนประธานนักเรียนป้อมอัศวิน คือ เซอร์เทวิส ฟิลลิปปี้ เดอะ วอร์ริเออร์ ออฟ บารามอส ซึ่งตอนนี้ได้รับหมอบหมายภารกิจ จาก มหาปราชญ์เลโมธีให้เดินทางไปทริสทอร์ยังไม่กลับ ดังนั้นผู้รักษาการณ์แทนและเป็นผู้รักษากฎของป้อมอัศวินด้วย ก็คือ ปรินซ์โรเวนแห่งเจมิไน ที่พวกเราได้พบแล้วในตอนเช้าวันนี้ " ทันทีที่ชื่อ ปรินซ์โรเวนดังขึ้น เสียงฮือฮาก็ดังอีกจนได้
" เอาล่ะๆ สุดท้ายจริงๆ ขอให้อดทนฟังอีกซักหน่อย " รุ่นพี่เริ่มแสดงท่าทีเป็นกันเองมากขึ้น " เดี๋ยวเราจะเดินขึ้นไปชั้นสองแล้วจะแบ่งห้องพักให้ ห้องหนึ่งจะอยู่ด้วยกันสามคนซึ่งจะถือว่าเป็นทีมเดียวกัน ทำงานร่วมกันตลอดหนึ่งปีนี้ แล้วยังมีอีกเรื่อง ถึงแม้ว่าจะไม่สำคัญอะไรนักก็คงต้องบอกเอาไว้ก่อน กฎของป้อมอัศวินคือ ผู้แข็งแกร่งคือผู้กำชัย ดังนั้นถึงแม้ความสามัคคีจะสำคัญ แต่เราก็ต้องการความก้าวกน้า ดังนั้นของบอกตรงนี้เลยว่า คนที่พักห้องแรกสามคน คือคนที่ผ่านการทดสอบเข้าโรงเรียนด้วยคะแนนสูงสุดสามคนแรกของป้อมอัศวิน และผู้ที่พักห้องนี้ มีกฎว่าจะต้องตอบรับคำท้ารบจากนักเรียนห้องอื่นไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้นซึ่งผู้ชนะเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์อยู่ในห้องนี้ต่อไป "
" ต้องตอบรับคนอื่นสู้ น่าสนแหะ แต่ฉันไม่อยากอยู่ " เฟรินหันไปบ่นกับโร เพื่อนหใม่ฉายาขอทาน ที่ดูยังไงก็ไม่เหมือนขอทาน
" แต่ฉันอยากอยู่นะ นายไม่อยากหรอเฟริน จะได้อยู่ด้วยกันไง " คำพูดของโร ทำให้เฟรินหัวเราะ
" อยู่กับนายน่าสนใจ แต่ฉันอยากอยู่ห้องอื่นก่อนแล้วค่อยไปชิงห้องหัวหน้า " พูดพลางก้มลงหยิบกระเป๋าเดินทางแล้วก้าวเท้าเดินตามพวกรุ่นพี่และเพื่อนๆขี้นไปชั้นสอง
" นายว่าใครได้อยู่ห้องแรก " โรกะซิบถามเฟรินอย่างเบาๆ
" คิดว่าคงมีปรินซ์คาโล แน่นอน " เฟริน กระซิบตอบกลับโรอย่างไม่สนใจไป
" เอาล่ะ นี่คือห้องเบอร์หนึ่ง หรือหัวหน้าอัศวินของชั้นปี " เสียงประกาศดังขึ้น แล้วโรก็หันไปพูดกับเฟริน
" นายชอบการพนันมั้ย? "
" นิดหน่อย " เฟรินตอบอย่างเซงๆ
" ต่อสิบเอาหนึ่ง ฉันว่า ปรินซ์คาโล ปรินซ์อาชูร่า กับฉัน " โรว่าแล้วคว้าเงินขึ้นมาหนึ่งคราวน์
" ฉันว่า ปรินซ์คาโล คนตาเดียว กะ คนสามดาบ " น้ำเสียงคนรับพนันบ่งบอกความมั่นใจพร้อมยื่นมือไปคว้าเงินหนึ่งคราวน์ แต่รุ่นพี่กลับยื่นมือมาคว้าไว้เสียงเอง
" เฟริน เดอเบอโรว์ ถ้ารักการพนันมาก ทำไมไม่พนันชื่อตัวเองบ้าง กฎข้อสามของป้อมอัศวิน ห้ามการพนันทุกชนิด กฎสิบข้อของป้อมไปท่องให้ขึ้นใจด้วย ไม่งั้นจะรักษาตำแหน่งหัวหน้าป้อมไม่อยู่ "
" หืมม์ "
" เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟ ออฟบารามอส คาโล วาเนบลี เดอะปรินซ์ ออฟคาโนวาล และ คิลมัว ฟีลมัส เดอะคิลเล่อร์ออฟซาเรส "
" เสียใจด้วย โร " เฟรินหันไปพูดกับโร ขณะกำลังเดินไปคว้ากุญแจ บุรุษคนที่สามของห้อง เด็กหนุ่มหน้าตาดี ผิวขาว ผมดำสนิท นัยน์ตาสีม่วง เดินพาร่างสมส่วนไปคว้ากุญแจห้องจากรุ่นพี่โดยไม่สนใจใคร เฟรินก็จำใจเดินตาม
ไป
" ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจะยศอะไรก็ตาม ฉายาอะไรก็ตามที่มีมาขอให้สลัดทิ้งซะเมื่ออยู่ที่นี่ ตอนนี้ฐานะพวกเรามีเท่ากัน นั่นคือ เดอะไนท์ยศเอดินเบิร์ก เท่านั้น "
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนกวาดมองสภาพภายในห้อง... ห้องเล็กๆ กับ เตียงสามเตียงชนาดเล็กที่มีผ้าปูเตียงกับปลอกหมอนสีขาวลายดาบและคลุมด้วย ผ้าห่มสีน้ำตาลอ่อนชิดกำแพงด้านหน้า ตู้ไม้มะฮอกกานีขนาดใหญ่แข็งแรงสามใบตั้งอยู่ทางด้านซ้าย โต๊ะทำงานไม้โต๊กลมสีเดียวกับเตียงและตู่พร้อมเก้าอี้อีกสามตัวตั้งอยู่ทางด้านขวา นอกนั้นก็ไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์อ่ะไรอีกเลย แม้ห้องจะเล็กแต่อากาศในห้องกลับโปร่งเย็นสบายไม่มีแม้แต่กลิ่นอับทึบ เพราะหน้าต่างสามบานใหญ่เหนือเตียงตั้งอยู่ในทิศทางรับลมพอดี ม่านสีลาเวนเดอร์กำลังไหวเบาๆ ราวกับต้อนรับเจ้าของห้องกลุ่มใหม่
ห้องใช้ได้ แต่ บรรยากาศกับเพื่อนร่วมห้องไม่ค่อยน่าพิศมัย... ความคิดของเฟรินในใจเมื่อยามเดินเข้ามาในห้องหัวหน้าชั้นปี
เจ้าชายคาโลเลือกเตียงชิดกับตู้เสื้อผ้าที่มีทำเลดีที่สุด เขากำบังรื้อข้าวของจากกระเป๋าใบโต ขณะที่คิล ฟีลมัส ฉายานักฆ่าแห่งซาเรสกำลังจัดข้าวของของตัวเองที่เตียงทางด้านขวา เฟรินมองรอบห้องอย่าเงียบๆแล้วถอนหายใจอย่างปลงอนิจจัง ก่อนถอดดาบ เสื้อคลุมของตัวเองออก พร้อมกับกองหนังสือวางไว้บนโต๊ะ แล้วเดินมาเอากระเป๋าโยนขึ้นไปบนเตียงที่เหลือเพียงตัวเองสำหรับเขา
" ยังไง แนะนำตัวกันหน่อยดีมั้ย " เฟรินเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ ทำให้ผู้ร่วมห้องอีกสองคนหยุดงานที่กำลังทำหันมามอง
" นายก็เฟริน เดอเบอโรว์ นั่นก็ คิล ฟีลมัส ต้องแนะนำอ่ะไรมากมาย นอกจาก...นายจะความจำสั้น "
คาโลพูดขึ้น
" ฉันความจำปกติ เพียงแต่ว่า การแนะนำตัว ไม่ใช่แค่แนะนำชื่อ อย่างน้อยเราต้องพยายามปรับตัวเป็นเพื่อนกันหนิ" เฟรินเถียงกลับ
" เพื่อน? แล้วอ่ะไรที่ต้องแนะนำมากกว่าชื่อกันล่ะ ครอบครัว ฐานะทางบ้าน งานอดิเรก หรือ จุดหมายในการมาที่นี่ " คิล ผู้ร่วมห้องคนสุดท้ายเอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรก
" เอางั้นก็ได้ อืมครอบครัวฉัน มี 3 คนพ่อแม่ลูก ฐานะทางบ้าน ก็ร่ำรวยใช้ได้ งานอดิเรก ไม่มี
จุดหมายในการมาที่นี่ เรียนที่ๆพ่อแม่เคยเรียนกับหาเพื่อน " เฟรินเอ่ยตอบก่อนหัวเราะเบาๆ ก่อนย้อนถาม
" แล้วนักฆ่าอย่างนายคิดจะมาทำอะไรในโรงเรียนพระราชานี่ละ หรือ คิดจะมาลอบฆ่าเจ้าชายคนใดสักคน "
ห้องทั้งห้องเงียบไปอึดใจ ก่อนที่เฟรินจะเอ่ยเบาๆ " ฉันพูดเล่น นายอย่าคิดมากน่า "
"ชั้นเป็นเพื่อนกับนายก็ได้เฟริน แต่นายจะต้องเล่าชีวิตการเป็นหัวขโมยให้ชั้นฟังบ้างน่ะ" คิลบอก เฟรินยิ้ม แล้วเริ่มเล่าททันที
ไฟหัวเตียงดับไปแล้ว เนื่องจากบุรุษคนหนึ่งในห้องได้นอนไปแล้ว เด็กหนุ่มอีก สองคนยังคงคุยกันไม่จบ
" ชีวิตของการเป็นขโมยของนายผาดโผดตื่นเต้นได้สนุกจริงๆ " คิลเอ่ยขึ้นหลังจากจบการเล่าชีวิตการผจญภัยของเฟริน
จะไม่สนุกได้ยัง ก็ฉันโม้ปนกับเรื่องที่ลุงมาดัส นิหว่า เฟรินคิดในใจ ทั้งๆที่ใบหน้ายังคงหัวเราะไปกับเพื่อนนักฆ่า
" แต่ยังไงก็ยังดีที่นายไม่ได้หลงไปปราสาทขุนนาง ที่แม่นายเคยอยู่ " เฟรินหันมาทำท่าสงสัยใส่คิล
" ไม่รู้หรือว่า มหาราชย์ ทรราชย์ ราชาผู้บ้าอำนาจ ที่ทำให้เกิดสงครามกันบ่อยๆ ไม่ได้มาจากป้อมอัศวินหรอกนะ แต่มาจากปราสาทขุนนางแห่งนั้นต่างหาก โดยเฉพาะเจ้าชาย อาเธอร์ คนนั้นมีร้อยแปดพันวิธี ที่จะให้เราคายความลับอะไรต่อมิอะไรออกมาให้หมด จนเรานึกอยากกัดลิ้นฆ่าตัวตายทีเดียว เฟรินฉันชอบที่นายจริงใจเปิดเผย แต่เตือนนายด้วยความหวังดี ในฐานะเพื่อน อย่าเข้าใกล้ อาเธอร์ เลโอนาท บริสตัน เดอะปรินซ์ ออฟซาเรส "
- - - -- - - - - - - - - - - - - -- - - - - - -- - - - -- - -- - - - -- - - - -- - - - -
ใจดีแถมให้อีกตอนค่ะ เจอกันตอนต่อไป พรุ่งนี้นะคะ
วันนี้จะไปอัพอีกเรื่องนึง
เมเน่ค่ะ
ความคิดเห็น