ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Baramos เรื่องราวบทใหม่ ของ เฟลิโอน่า และ คาโล

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ : 3 สอบเข้าเอดินเบิร์ก และ จ่ายตลาด

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ค. 49




      "เดียวลูกไปต่อแถวนั้น " อลิเซียกล่าว  เฟรินจึงเดินไปต่อแถว  แล้วรอจนถึงคิวของเธอ

      "ชื่ออะไร "  คนที่นั่งรับลงทะเบียนถาม

      "เฟริน  เดอเบอโรว์  เดอะ ทีฟ  อฟ บารามอส" เฟรินตอบก่อนจะเดินไปต่ออีกแถวหนึ่ง


         " คาโล  วาเนบลี  เดอะ ปรินซ์ ออฟ คาโนวาล " คนประกาศเรียกขึ้น ทำให้เฟรินต้องละสายตาไปมอง
             
              ไอ้เจ้าชายขี้เก็กนั่นนี่หว่า  ที่วันนั้นมากับท่านลุงบาโร

        ก่อนที่จะได้คิดไปมากกว่านี้ เสียงเรียกชื่อก็ดังขึ้น

       " เฟริน  เดอเบอโรว์  เดอะ ทีฟ  ออฟ  บารามอส"   แล้วเเฟรินก็ก้าวออกไป

            "ขโมยก็คือขโมย ย่อมกลายเป็นพระราชาไม่ได้ "คนหัวเงินพูดขึ้น

      "แต่ก็ไม่แน่ ถ้าเจ้าชายไม่เป็นที่ถูกใจ ความคิด  ความอ่านไม่ดีเท่าขโมย ขโมยก็อาจจะเป็นพระราชาก็ได้ จริงมั้ย" เฟรินย้อน  แต่ไม่ได้ต่อความกันมากว่านี้ก็มีคนมาเรียกไว้ก่อน

      " ผู้เข้าสอบทั้งสองจงตามข้ามา"  แล้วเฟรินกับคาโลจึงเดินตามเข้าไปในห้องๆหนึ่ง

      "สวัสดี  ชั้นชื่อ ปราชญ์ เลโมธี  แล้วเราจะเริ่มทดสอบศักยภาพของการเป็นกษัตริย์ก่อนนะ  เอาละ เฟริน เธอมานั่งที่หน้าของวิเศษเหล่านี้สิ" ชายแก่ผมและเครายาวสีเงินนั่งอยู่พูด  เฟรินเลยทำตาม

      " สวัสดัครับ ท่านเลโมธี" เมื่อเฟรินนั่ง  ก็ทักทายเลโมธี

      ของวิเศษที่เลโมธีว่าก็คือดาบแห่งกษัตริย์  คทาแห่งพลัง  แหวนแห่งปราชญ์  และก็ดาบแห่งกษัตริย์นั่นเอง  เฟรินก้าวเข้าไปตรงหน้าของวิเศษเหล่านั้นและนั่งลงบนเก้าอี้ที่เตรียมไว้  และทันทีที่เธอนั่งลงไป  ของวิเศษทั้งสี่ชิ้นก็เปล่งแสงสว่างขึ้นมาพร้อมกัน  สว่างกว่าครั้งไหนๆ  แต่สว่างแบบไม่แสบตา ราวกับจะตอบรับพลังที่อยู่ในร่างของเธอ


        เวลาผ่านไปราว สามสิบนาที แสงจากคทาดับวูบลงก่อน  หลังจากนั้น สิบนาที แสงจากมงกุฏก็ดับลง แล้วแหวนก็ดับลงเช่นกัน  เหลือเพียงดาบที่ยังส่องแสงอยู่ 


            มหาปราชญ์เลโมธียิ้มออกมาเล็กน้อย  ก่อนที่จะหันไปมองหน้าของคนอื่นๆในห้องที่ยังตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า  เพราะเท่าที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้ใดที่จะทำให้ของทั้ง 4 เปล่งแสงออกมาได้นานขนาดนี้มาก่อน  


      " เชิญทางนี้จ๊ะ เฟริน " หญิงร่างท้วมเล็ก แววตาใจดีเอ่ยขึ้น พร้อมจับไหล่ของเฟรินเบาๆ และเดินนำผ่านเปิดประตูไปยังอีกห้องข้างๆ


       " เชิญนั่งจ๊ะ เฟริน ฉัน มิสแรมเซิล เราจะเริ่มสอบสัมภาษณ์ที่นี่ "


      " เอาล่ะจ๊ะ มีสิ่งของสีอย่าง ดาบ แหวน มงกุฎ และ คทา คำถามแรกถ้าได้เป็นกษัตริย์สิ่งของที่จะสวมหรือถือ เป็นอับดับแรกคืออ่ะไร "


      " ดาบครับ เพราะดาบแสดงถึงความแข็งแกร่ง และ การปกป้อง ผมจะถือดาบของผมเพื่อปกป้องประชาชนครับ " มิสแรมเซิลยิ้มน้อยๆ ก่อนจดคำตอบลงสมุดบันทึก


       " คำถามที่สองน่ะจ๊ะ สิ่งที่ต้องการเป็นสัญลักษร์ของตัวเองคืออ่ะไร "


       " ดาบอีกและครับ เพราะดาบจะสามารถ ช่วยปกป้องคนที่เรารัก และคนที่ผมรัก คือ ประชาชน ครับ " รอยยิ้มของมิสแรมเซิล กว้างขึ้น ก่อนจดลงสมุด


      " คำถามที่สาม สิ่งที่ต้องการมอบให้ประชาชนในแคว้นของตนเองคือ "
                                 

      " มงกุฎ เพราะ กษัตริย์หากไร้มงกุฎก็ยังเป็นกษัตริย์ เพราะค่าของกษัตริย์และคน ไม่ได้วัดกันที่วัตถุภายนอกครับ " 


     " คำถามสุดท้าย ถึงเวลาที่เธอต้องสละทิ้งทุกอย่าง ของสี่อย่างที่ว่ามานี้ให้ลำดับของที่จะทิ้งอย่างแรกจนถึงอย่างสุดท้าย "


      " คิดว่า มงกุฎ แหวน ดาบ และ คทาครับ " เฟรินตอบ


       " ทำไมถึงทิ้งคทาเป็นอย่างสุดท้ายล่ะจ๊ะ "


      " เพราะ คทาเหมือนไม้เอาไว้ค้ำยันตัว  คนแก่ก็ถือไม้เท้า  คนเจ็บก็ต้องถือไม้เท้าคนเดินไม่ไหวก็ต้องใช้ไม้เท้า เวลามีภัยก็สามารถใช้คทาได้  แล้วจะเอาคทาทิ้งไปก่อนได้ยังไงครับ " เฟริน อธิบาย


      " เอาล่ะจ๊ะ เธอสอบผ่าน เธอเซ็นชื่อเข้าเป็นนักเรียนที่นี่ แล้วออกจากห้องนี้ไปพบผู้ปกครองของเธอได้ ตอนนี้หล่อนคงอยู่ห้องถัดไปและติดต่อชำระค่าเล่าเรียนเรียนร้อยแล้ว " มิสแรมเซิลยื่นปากกาพร้อมชี้ตำแหน่งที่ต้องเซ็นชื่อ จากนั้นเอก็ส่งแฟ้มสีม่วงบุทองที่มีสัญลักษณ์ตัว อี กับ เค บนปกแฟ้มอย่าขัดเจน พร้อมหยิบเอกสารชุดหนึ่งจากแฟ้มมาชี้แจงให้ฟัง


     " นี่เป็นรายละเอียดของที่เธอจะต้องซื้อเพื่อเตรียมพร้อมจะเข้าเรียน ขอให้จัดหาสิ่งต่างๆที่จำเป็นให้พร้อมและมาเข้าเรียนภายในอาทิตย์หน้า "

     




      "ทางนี้จ๊ะ " เมื่อเฟรินออกมาจากห้องสอบแล้วก็หันหน้าตามเสียง

      "ผ่านคะ ท่านแม่" เฟรินตอบด้วยรอยยิ้ม 

      "ไปเถอะ  พรุ่งนี้ค่อยมาซื้อของ " ว่าแล้วทั้งสองก็เดินทางกลีบบารามอส 



       - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

      เช้าวันรุ่งขึ้น  ตลาดเอดินเบิร์กบัดนี้คับคั่งไปด้วยผู้คนมากมาย ที่มาจับจ่ายใช้สอยซื้อของก่อนวันเปิดภาคเรียนของโรงเรียนพระราชา ในขณะนี้ร้านค้าแทบทุกร้านมีการประดับธงชาติของประเทศต่างๆ แม้แต่ เดมอส
        
      " เฟลิโอน่า เจ้าจะซื้ออะไรก่อน " เสียงของอลิเซียดังขึ้นข้างๆกายของเฟลิโอน่า " เอาเป็นเสื้อผ้าก่อนละกัน " อลิเซียพูดเองเออเองเสร็จสรรพ ก็เดิน ไปที่ร้านขายเสื้อ 

                  
       " สวัสดีครับ คุณผู้หญิง เอ่อ ต้องการรับชุดแบบไหนครับ " เสียงของเจ้าของร้านดังขึ้น เมื่ออลิเซียเดินเข้ามา


      " เอาตัวนั้นก็ได้ครับ " เฟลิโอน่าในร่างเฟริน เดินตามอลิเซียเข้ามาพร้อมชี้ไปทางเสื้อตัวหนึ่ง


     " อ่า ได้ครับ เอากี่ตัวดีครับ " เสียงของเจ้าของร้านดังตอบกลับมา


     " 6 ตัวละกันครับ " เฟรินเอ่ยตอบ 
         
    " ทั้งหมด 6 ตัวน่ะครับ "


     " ฮะ " 


      " ทั้งหมด 1500 คราวน์ครับ " เจ้าของร้านพูดขึ้น พร้อมยื่นถุงเสื้อไปให้อลิเซีย อลิเซียรับถุงเสื้อมา พร้อมจ่ายเงินออกไป 1500 คราวน์


      " จะเอาอะไรต่อ " อลิเซีย เอ่ยขึ้นหลังจากเดินออกมาจากร้านขายเสื้อได้พักหนึ่งแล้ว


      " หนังสือละกันฮะ ท่านแม่ " พอเฟรินพูดจบ อลิเซียไม่รอช้า เดินเลี้ยวเข้าไปร้านทางขวา


      " เอาใบรายการมา " เฟรินได้ฟัง ก็รีบยื่นใบรายการให้อย่างรวดเร็ว อลิเซียรับมา แล้วก็ยื่นให้เจ้าของร้าน

              
      " กลวิธีการเดินหมากรุกเบื้องต้น โดยนายพลทอมัส วาเตอร์ลู ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับม้าแห่งพระราชา โดยพันเอกแชปเบอร์ กอนซาเลส นักเรียนปีหนึ่งสินะ ทั้งหมด 2500 คราวน์ อ่ะ"

     " มีอะไรอีก " อลิเซียถามต่อ


       " กระเป๋าเงินพระราชา ฮะ " เฟรินเอ่ยตอบ


        เฟรินพูดจบ อลิเซียก็เดินนำเข้าไปในร้านขายของเบ็ดเตล็ด จำใจให้เฟรินต้องเดินตามเข้า ลูกค้าในร้านคับคั่งมากมาย อลิเซียเดินเข้าไปเข้าข้างในร้าน ส่วนเฟรินแยกออกมาดูคทา เฟรินกวาดตามองไปทั่ว ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่คทานึง ที่มีราคาถึง 2800 คราวน์ ซักพักนึงอลิเซียก็เดินออกมาจากฝูงคนพร้อมกระเป๋าเงินพระราชา เฟรินจึงชี้ให้อลิเซียดูคทาที่เมื่อกี้ตนเองดูอยู่


         อลิเซียทำหน้าสงสัยเล็กน้อย ก่อนเอ่ยขึ้น

       " เจ้าอยากได้ " ซักพักก็มีพนักงานขายในเครื่องแบบนักปราชญ์ มาสาธยายสรรพคุณ


        " ชื่อของมันคือ ไอซ์เบิร์น เดอะเกรท เป็นคทารุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งผลิดตออกมา ตัวคทาทำจากไม้โกลเดนอายเกทอายุสองพันปี ความคงทนกับอำนาจของมันเทียบได้กับคทาของไฮคิงองค์ปัจจุบัน ลายที่บนปลายไม้เป็นอักษรบลูเวลโบราณที่สลักโดยคนแคระแห่งเดมอส รับประกันได้ว่าสามารถต้านเวทมนตร์ของเอวิเดสได้ถึงสามเล่มเกวียน ส่วนพู่ทำจากหางของยูนิคอร์นช่วยเสริม... "


       ' เท่าคทาท่านตา ไม่มีทาง ทานเวทมนต์ท่านพ่อสามเล่มเกวียนเป็นไปไม่ได้ ' เฟรินเบือนหน้าหนีการบรรยายสรรพคุณเกินความจริงไปทางท่านแม่ของตนพร้อมกระซิบเบา

      " ท่านแม่ไปเถอะ เว่อร์ "


         แล้วทันใดนั้นสตรีสาวนางหนึ่งก็เดินเข้ามาด้วยมาดนางพญา พอเจ้าหล่อนก้าวเข้ามา คทาที่รายล้อมอยู่ต่างพากันส่องแสงสีทองขึ้นมาพร้อมกันหมด

     
                                     " ไอซ์เบิร์น เดอะ เกรท นั่น ห่อให้ด้วย "


       แล้วฉันพลัน แสงสว่างจากคทาสีทองก็มืดวูบลงทันที แล้วคนกลุ่มหนึ่งก็ก้าวเท้าเข้ามาในร้าน จนทำให้หลายๆคนต้องหันไปมอง รวมทั้ง เฟริน และ อลิเซียด้วย


        คนที่เดินนำมาก่อน คาโล วาเนบลี เจ้าชายแห่งคาโนวาล ตามหลังมาด้วย ชายร่างใหญ่อีกสามคน และ สามสาวสวย


       " ท่านแม่ไปกันเถอะ "


       ว่าแล้วก็ก้าวเท้าเดินออกจากร้านไป 

      หลังจากเดินมาได้ซักพักนึง เฟริน ก็เอ่ยขึ้น " ท่านแม่ ข้าขอซื้อ ดาบ กับ คทาได้มั้ย "


      " หือ เจ้าจะเอาไปทำไมก็มี เทพจันทรา กับ แก้วจันทราแล้วนิ " อลิเซียเอ่ยถามกลับด้วยสีหน้างุนงง เล็กน้อย


       " น่าท่านแม่ ได้รึป่าวล่ะ " เฟรินยังถามต่อโดยไม่สนตอบคำถามที่อลิเซียส่งมา


       " ตามใจเจ้าละกัน "


       " อ่ะ ท่านแม่ เข้าไปร้านนั้นได้มั้ย " พูดจบก็รีบคว้าแขนคนเป็นแม่เข้ามาในร้านขายดาบ ก่อนเดินไปตรงกองดาบ


       " ท่านแม่ นี่ใช่ไหม "


       " อืม ดาบของเอวิเดส "


      " ดาบผ่าปฐพี ดาบดีหนึ่งในเก้าสุดยอดดาบโบราณ แต่เป็นดาบอาถรรพ์ที่ร้ายกาจที่สุดทีเดียวละครับ ถ้าเป็นไปได้อย่าแตะต้องมันจะดีกว่า " เสียงดังขึ้นมากจากชายหนุ่มเจ้าของร้านที่ส่งรอยยิ้มมาให้อย่างเป็นมิตร


     " ท่านแม่ ข้าขอได้มั้ย " เฟริน เอ่ยถามอลิเซีย


     " ตามใจเจ้า " อลิเซียเอ่ยตอบเฟริน ก่อนหันไปถามเจ้าของร้าน " ราคาเท่าไร "


      " 10 คราวน์ครับ " เจ้าของร้านพูดจบ อลิเวียก็ยื่นเงินให้ พร้อมเดินออกไป เฟรินจึงรีบหยิบดาบออกมาแล้ววิ่งตามอลิเซียไป


      " ท่านแม่ แล้วคทาล่ะ " เฟรินถามอลิเซียต่อ เมื่อกำลังจะเดินทางไปเอาหนังสือ


       " เดี๋ยวไปขอท่านตา " 

                       
      " ก็ดีฮะ " เฟรินเอ่ยตอบ




      " ไง  หลาน ขาดอะไรอีกไหม "  ชามัลถาม

      "ท่านแม่บอกว่าให้มาเอาม้าจากคอกม้าในสวนม้า

      "ออ ตามมาสิ  "ว่าแล้วทั้งสองตา หลานก็เดินไปยังสวนม้า

      "อยากได้ตัวไหนล่ะ " ชามัลถาม

      " เอาตัวทองตัวนั้น " เฟรินชี้ไปยังม้าสีทองดูสง่า

      "เจ้าเลือกม้าเก่งหนิ  นั่นนะ ม้าดี เชียวนะ  วิ่งเร็ว  เอาล่ะ  เจ้าเอาไปเถอะ มันชื่อ เรช่า " ชามัลบอก





      " อลิเซีย บอกว่าเจ้าอยากได้คทา อีกอันนึงงั้นหรือเฟลิโอน่า " สุรเสียงของไฮคิง ดังขึ้นในห้องทรงพระอักษร


         " เพคะ ท่านตา "


         " งั้น เจ้านี้ข้ายกให้ " ไฮคิงยื่นคทาด้ามหนึ่งให้เฟริน เป็นคทาสีขาวนวล
      " ตัวคทาทำจากไม้โกลเด้น อายเกท อายุพันปี สลักลายโดยคนแคระดำแห่งเดมอส หัวลูกแก้วทำจาก ครึ่งหนึ่งของคริสตัสแห่งแสงจากสโนแลนด์ พู่ทำจากหางของนกฟีนิกซ์ทอง  ชื่อของมันคือ  สยบจันทรา เป็น 1 ใน 5 คทา ประจำราชวงศ์ฟาโรเวล "
     

                                     " ขอบพระทัยเพค่ะ ท่านตา " เฟลิโอน่าเอ่ยตอบพร้อมเอื้อมมือไปคว้าคทา สยบรัตติกาล ก่อนเปรยเบาๆว่า " สยบจันทรา รึ ฮึๆ ชื่อดีนี่เรา "






    .................................................................................

     

             ประตูใหญ่ของโรงเรียนเอดินเบิร์กเปิดกว่างในเช้าวันนี้ แสงอาทิตย์สอดส่องไปทั่วทุกหย่อมหญ้า เสียงนกร้องแช่แชงกันราวกับเสียงดนตรี สนามหญ้าเขียวขจีหน้าโรงเรียนยังคงเต็มไปด้วยหยดน้ำค้าง ทั้งรถทั้งคนยังเต็มไปทั้งถนนด้านหน้า แต่น้อยกว่าวันก่อนๆหลายเท่าตัว ธงสีม่วง มีลายมงกุฎ ดาบ คทา แหวนสีทอง อยู่ตรงกลางซี่งเป็นธงประจำโรงเรียนพระราชากำลังปลิวไสวเรียงรายอยู่บนกำแพงใหญ่และประตูที่เปิดกว้าง


             วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดภาคการศึกษา นักศึกษาใหม่ต้องเข้าคิวรอการรายงานตัว ซึ่งดูเหมือนแถวจะมอดเหยียดออกไปเรื่อยๆบางคนรีบมาจองคิวตั้งแต่เช้าเพราะอยากได้หมายเลขนักศึกษาเป็นลำดับต้นๆ และบางกรณียังอาจมีสิทธิ์เลือกหอพักได้อีกด้วย ส่วนนักศึกษาเก่าสามารถเข้าโรงเรียนได้เลยโดยไม่ต้องรอคิว


               ตอนนี้ทุกคนล้วนอยู่ในชุดนักเรียนแห่งโรงเรียนพระราชา เว้นแต่พวกรุ่นพี่ที่มีความแตกต่างกันเล็กน้อยตรงผ้าคลุมยาวที่มีสีแถบต่างกันบ้างก็เป็นสีขาว บ้างก็เป็นสีดำ บ้างก็เป็นสีแดง บ้างก็เป็นสำน้ำเงิน เวลาเดินเข้ามาพร้อมกัน ช่างละลานตาชวนดูราวกับขบวนเสด็จของพระราชา


          " ลูกเจ้าไปเข้าแถวได้แล้ว " เสียงของอลิเซียดังขึ้นด้านหลังของเฟริน จำใจให้เฟรินหันกลับไป


           " ท่านแม่แล้วลูกจะสงจดหมายไปให้ที่เดมอส " เฟรินพูดจบรีบ

                              

             " งั้น ท่านแม่ข้าไปก่อนน่ะ " พูดจบก็หยิบ ดาบ คทา และกระเป๋าของตนไปต่อแถว ส่วนอลิเซียก็เดินนำม้าของเฟรินไปฝาก




            " อ่ะหือ ท่านแม่บอกว่ามี สี่หอพักงั้นสิ มีอ่ะไรบ้างน้า " เฟรินพึมพำกับตัวเองคนเดียวหลังจากเดินมาต่อแถวยาวเหยียดแถวเดิม แต่เสียงพึมพำของเขากลับมีคนได้ยินซะนี่

             " มีปราสาทขุนนาง ปราการปราชญ์ ป้อมอัศวิน แผ่นดินประชาชน " เสียงตอบดังขึ้นมาจากข้างหลังของเฟริน ทำให้เฟรินต้องรีบหันขยับไปดู ก่อนที่เสียงเดิมจะเอ่ยต่อว่า " และมีฉายาว่า ปราสาทผลาญทรัพย์ ปราการลับสมอง ป้อมผจญภัย แผ่นดินแรงงาน "


          " นายเป็นใครน่ะ " เสียงของเฟรินดังขึ้นหลังจากหันไปมองหน้าคำที่ตอบคำถามให้เธอ 


          " ฉันหรอ โร เซวาเรส เดอะเบ็กการ์ ออฟทริสทอร์ " ชาหนุ่มคนเดิมตอบ เข้าคนนี้ไว้ผมหน้ามาสีชา และ นัยน์ตาสีเขียวมรกตเหมือนเพื่อนเก่าของเธอเหลือเกิน


           ' ทริสทอร์  จะรู้ไหมเนี่ย  ' เฟรินคิดหลังจากจบการแนะนำตัวของชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนเอ่ยบ้าง
       " ยินดีที่ได้รู้จักฉันเฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟ ออฟบารามอส "


       " ยินดีที่ได้รู้จัก ชั้นไม่คิดว่านายจะเป็นบารามอส" เสียงของโรตอบกลับมาบ้าง


      " เอ่อ โร นายจะเลือกไปอยู่ที่ไหนหรอ " เฟรินยิงคำถามต่อไปอีกรอบ พร้อมเปลี่ยนคำถาม


        " ไม่รู้จะได้เลือกรึเปล่า มันไม่ใช่ทุกคนจะมีสิทธิ์เลือก มันขึ้นกับผลการทดสอบพลัง "


       " ทดสอบพลัง " เฟรินทวนคำ ขณะกำลังเดินไปต่อหลังเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่ง


      " ใช่ มงกุฎ ดาบ คทา และก็แหวน "


      " งั้นนาย? "


      " ฉันคงได้อยู่แผ่นดินประชาชนละมั้ง น่าจะเหมาะกับขอทานอย่างฉัน "


              แล้วบทสนทนาของทั้งคู่ก็ต้องหยุดลง เพราะบรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนไป เหลือบมองไปทางแถวด้านหลัง ตอนนี้ยาวเหยียดจนมองแทบไม่เห็นปลายแถว ส่วนผู้คนรอบด้านเริ่มเบาบาง เรื่มมีรุ่นพี่ในชุดนักเรียนคลุมตัวผ้าคลุม แถบสีขาว สีแดง สีน้ำเงิน สีดำ สองสามคนเดินมาเชิญเหล่าผู้ไม่เกี่ยวข้องออกไปนอกเชือกแดงกั้นบริเวณ พร้อมกับโบกมือเร่งเหล่านักศึกษารุ่นพี่ที่มาถึงช้าให้รีบเข้าไปในโรงเรียน


        จากนั้นไม่นานเสียงระฆังก้ดังเหง่งหง่างขึ้น เฟรินเงยหน้าดูเห็นนาฬิกาเรือนโตที่สุดเท่าที่เคยเห็นประดับอยู่เหนือประตูกำลังตีบอกเวลคล้องไปกับระฆังที่ดังระงม


             แล้วเสียงแตรยาวก็ดังลั่นไปทั่วบริเวณ เป็นสัญญาณบอกถึงการเริ่มรายงานตัว


         " เอฟีน่า กริซโดริส เดอะปรินเซส ออฟเอเธนส์ ปราสาทขุนนาง " เสียงประกาศดังลั่นให้ได้ยินกันทั่ว ธงหน้ากำแพงก็แปรจากสีม่วงเป็นสำน้ำเงินแล้วตราประจำธงก็ฉายเป็นลายมงกุฎ แล้วเสียงเฮก็ดังลั่นไปทั่ว


             เสียงประกาศดังต่อไปเรื่อยๆ แถวก็ยิ่งหดสั้นลง จนกระทั่งเกือบถึงคิวของเฟริน

       " คาโล  วาเนบลี  เดอะ ปรินซ์ ออฟ  คาโนวาล  ป้อม อัศวิน" แถวก็ยิ่งหดสั้นลง จนกระทั่งเกือบถึงคิวของเฟริน

        " เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟ ออฟบารามอส " เฟรินก้าวเท้าออกไปยืนข้างหน้า ยืนอยู่เบื้องหน้าเลโมธีที่ยิ้มต้อนรับเขาเช่นเดียวกับคนอื่นๆ


        " เฟริน นี่เอง ที่อยู่ของเธอคือ ป้อมอัศวิน "


          เสียงของเลโมธีตามมาด้วยการประกาศเสียงดังจากชายร่างยักษ์อีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ สิ้นเสียงธงข้างประตูใหญ่ก็แปรเปลี่ยนเป็นธงสีแดงลายดาบ เสียงโห่ร้องต้อนรับก็ดังขึ้นจากกองทัพมังกรมันดังกึกก้องกว่าการโห่ร้องครั้งใดๆ ที่อยู่ในกองทัพอื่นๆ ได้ยินแล้วชวนให้อบอุ่นฮึกเหิมเสียเหลือเกินในความรู้สึกของเฟริน


        " ยินดีต้อนรับ เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะไนท์ ออฟ เอดินเบิร์ก " เสียงชวนฟังจากชายหนุ่มชุดนักศึกษาแห่งเอดินเบิร์ก ผ้าคลุมแถบสีแดงบอกให้รู้ว่า เขาต้องเป็นรุ่นพี่ในป้อมอัศวินและต้องเป็นบุคคลสำคัญในป้อมเพราะแต่งกายเต็มยศกว่าปกติที่เคยเห็น ดิ้นทองคำเดินเป็นเนื้อผ้าวาววับ อกเสื้อมีมงกุฎหนึ่งมงกุฎและดาวสามดวงติดอยู่ ส่วนคทาและดาบยาวสะพายแนบลำตัวข้างซ้ายทั้งยังมีปลอกแขนสีแดงติดอยู่ที่แขนเสื้อข้างขวา ใบหน้าของชายหนุ่มยามยิ้มยิ่งชวนมอง ทั้งสง่าราศี ความองอาจและความรอบรู้ฉายชัดในเวลาเดียวกัน การพบกันครั้งแรกสร้างความประทับใจให้กับเฟรินอย่างยิ่ง โดยเฉพาะนัยน์ตาสีน้ำเงินที่ฉายประกายความเป็นกันเองและอ่อนโยนคู่นั่น ก่อนที่จะยื่นเสื้อคลุมแถบสีแดงมาให้


        " ขอบคุณครับ " เฟรินเอ่ยพร้อมเอื้อมมือรับเสื้อคลุมแล้วหันไปคำนับมหาปราชญ์เลโมธีอีกครั้ง ก่อนจะเดินตามรุ่นพี่ในชุดผ้าคลุมสีแดงอีกคนหนึ่งไป แต่ก่อนจะปความรู้สึกวูบบางอย่างมันก็ทำให้เฟรินอดที่จะหันไปกวาดสายตามองคนอีกสามคนที่ยืนอยู่ข้างนักปราชญ์เลโมธีไม่ได้


        คนแรกในชุดเสื้อคลุมแถบดำ เป็นบุรุษร่างสูงสง่า ผมสีทองหยักศกเป็นประกายยาวจนถึงกลางหลัง นัยน์ตาที่ทอดมองสบตาด้วยบ่งบอกถึงความดีใจดีและเป็นมิตร


        ถัดมาคือสตรีสวยสง่าในผ้าคลุมแถบขวา ผมสีทองของเธอรวบเป็นมวยบนศีรษะอย่างเรียบร้อย ผิวของเธอขาวราวเกล็ดหิมะ ดวงหน้าบอกความสงบเยือกเย็นอย่างยากแก่การคาดเดาอารมณ์ความรู้สึกใดๆ


        ส่วนบุรุษคนสุดท้าย ดองหน้าคมเข้ม ผมสีดำหยักศกระต้นคอโครงหน้าเข้ม คิ้วเข้ม จมูกโด่งนั่นมีปลายงุ้มนิดๆราวกับปากนกอินทรี


        แล้วเฟรินก็เผลอไปสบนัยน์ตาสีดำคมกริบฉลากเฉลียวคู่นั้นมันฉายแววดูถูดพุ่งมาราวกับประเมินสินค้า แล้วริมฝีปากบางนั่นก้เหยียดออกนิดๆชวนให้ขนลุก แทบจะเรียกว่าแสยะปากเยาะมากเสียกว่ารอยยิ้ม 


          " ปรินซ์อาเธอร์ หวังว่าท่านคงไม่คิดจะเริ่มสงครามกับคนของป้อมอัศวินตั้งแต่วันแรกของการเปิดภาคเรียนหรอกนะ หรือท่านว่าไง " เสียงเรียกที่มำให้บุรุษที่ถูกพาดพิงเบือนหน้าไปทางต้นเสียง 


        " สงครามระหว่างเรามันไม่เคยหยุดอยู่แล้ว จำไม่ได้หรือปรินซ์โรเวน "


    .............................................................................................................................


             ต่อตอนหน้าเลยค่ะ
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×