ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : พรหมลิขิตจากฟากฟ้า ลิขิตชะตาของหัวใจ
"ท่านผู้โดยสารโปรดทราบๆ อีก 30 นาที เราจะถึงสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ขอให้ทุกท่านเช็คกระเป๋าสัมพาระและเอกสารที่จะใช้ในการเดินทางเข้าประเทศให้เรียบร้อยด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ" เสียงประกาศเพื่อเตือนความจำของผู้โดยสารดังขึ้นภายในเครื่องบินโดยสารขนาด ใหญ่ของสายการบินแจแปนแอร์ไลน์นี้
"ฮิฮิๆ>.< ในที่สุดชั้นก็มาถึงญี่ปุ่นซะที" "ตอนนี้คุณพ่อกับคุณแม่จะเป็นยังไงบ้างน้า" เสียงใสๆของสาวน้อยนามว่า "ทาเคยูกิ เอริ" ดังขึ้น แววตาของเธอเป็นประกายอย่างน่าประหลาดยามเมื่อรำลึกถึงความหลัง
OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่บ้านของเอริในประเทศอังกฤษ ขณะที่ทั้งครอบครัวกำลังรับประทานอาหารเย็นที่คฤหาสน์ที่แสนจะโอ่อ่าและหรูหราตระการตา
"คุณพ่อคะ เอริไปเรียนไฮสคูลที่ญี่ปุ่นได้มั้ยคะ เอริอายุ 15 ปี แล้วนะคะ"
"แต่ไปอยู่คนเดียวมันอันตรายนะลูก" คุณพ่ออะ อะไรกัน O_oตัวเองเคยบอกว่าถ้าเอริอยากไปจะไปก็ได้ไม่ใช่หรอ
"แม่ก็เห็นด้วยกับพ่อนะจ๊ะ เอลี่อย่าไปเลย ต่อไฮสคูลที่อังกฤษน่ะดีแล้ว หนูยังเป็นเด็กเป็นเล็กไม่ควรไปอยู่ตัวคนเดียวนะ" คุณแม่นะคุณแม่ชอบเรียกเอริว่าเอลี่ทุกทีเลย แถมยังเข้ากันกับคุณพ่อเป็นปี่เป็นขลุ่ยอีก ปกติไม่เห็นจะเป็นอย่างนี้เลย คิดจบเอริก็ค้อนให้วงโตO-O เอริโตแล้วนะ จะครบ 15 ปี แล้วด้วย
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ก็ให้เอริไปอยู่กับคุณอายูซึรุสิคะ" คุณอายูซึรุเป็นน้องชายของคุณพ่อไปอยู่ด้วยกันปลอดภัยจะตาย คุณแม่เป็นคนอังกฤษจะบอกว่าญี่ปุ่นไม่ปลอดภัยก็ถูกนะ แต่ทั้งคุณพ่อและคุณอาก็เป็นคนญี่ปุ่นนี่นาทำไมถึงคิดเหมือนคุณแม่ได้ก็ไม่รู้ อย่างนี้ก็อดไปสิ ต้องทำอะ ไรซักอย่างแล้ว .อ๊ะ!จริงสิ วิธีนี้ก็ได้นี่นา
"คุณพ่อคุณแม่คะ ทำไมไม่ให้เอริเรียนที่โรงเรียนของคุณอาที่เคยเล่าให้ฟังล่ะคะ ที่นั่นไม่มีใครกล้าทำอะไรเอริหรอกค่ะ ก็คุณอาเป็นเจ้าของโรงเรียนนี่คะ"
"คือว่าเอลี่จ๊ะ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่โรงเรียนหรอกจ๊ะ" อ้าว!O_Oแล้วทำไมไม่ให้เอริไปล่ะ.. "ก็ คือว่าอย่างนี้นะ คุณอาน่ะ เค้าจะไปพักผ่อนที่อเมริกา ก็เลยไม่กล้าให้เอลี่ไปที่บ้านน่ะสิจ๊ะ" อ้อ!หรอ..แต่เอริไปพักที่อื่นก็ได้นี่นา ที่ไหนดีล่ะ และก็มีระฆังสวรรค์มาช่วยเอริพอดี
"ไอริส เราให้เอริไปอยู่คอนโดก็ได้นี่" แหม!คุณพ่อ ถูกต้องที่สุดเลย
"แต่เอลี่เป็นดาราดังนะ ไปอยู่คอนโดคนเดียวไม่ได้หรอก ถ้าเกิดอะไรขึ้นใครจะช่วยลูกทัน" อ้อ! ชั้นก็พึ่งจะรู้ตอนนี้แหละว่าเหตุผลที่แท้จริงที่เถียงกันอยู่นี่มันเพราะอะไร ก็เพราะชั้นเป็นนักร้องขวัญใจวัยรุ่นชื่อดังสุดฮอตแถมด้วยดีกรีนางแบบดังระดับโลกนี่สินะ แย่จริงๆ+_+ แล้วจะ ทำยังไงต่อดีล่ะ
"แต่ว่าคุณแม่คะ ก็ให้เอริไปพักคอนโดแบบของดาราก็ได้นี่คะ ไม่งั้นก็เป็นคอนโดหรูๆ ที่แบบนั้นระบบรักษาความปลอดภัยดีออกค่ะ" เรื่องอะไรจะให้อดไปเพราะเหตุผลแบบนี้ อันที่จริงก็พูดไปยังงั้นแหละ แค่ดูเอาจากที่เห็นมา
และในที่สุด ทุกคนก็ลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า
"เอลี่จะไปเรียนที่ญี่ปุ่นก็ได้ แต่ต้องให้พักที่คอนโดหรูๆ วิวสวยๆ และที่สำคัญต้องปลอดภัย แล้วก็เรียนที่โรงเรียนของคุณอาเพราะดีที่สุดในญี่ปุ่นแล้ว และอย่างสุดท้าย สำคัญมากๆ ..เอลี่จะต้องปลอมตัวไปโรงเรียน เอาให้แตกต่างกับภาพลักษณ์จริงด้วย เดี๋ยวแฟนๆจะจำได้เวลา เรียนจะใช้ชื่อจริงก็ได้เพราะไม่มีใครรู้ ไม่เป็นไรหรอก" นี่คือคำพูดสรุปของคุณแม่ ใช่แล้วล่ะ คนในวงการไม่มีใครรู้ชื่อจริงของชั้น แน่นอน รวมถึงแฟนๆด้วย เพราะชั้นใช้ชื่อว่า "เอลี่" ชื่อน่ารักๆที่คุณแม่ตั้งให้นั่นเอง
แล้วต่อจากนั้น ทั้งคุณพ่อคุณแม่และแน่นอนที่สุด ตัวชั้นเองก็ต้องทำงานกันวุ่นไปหมด ทั้งโทรหาคุณอาเพื่อให้เอริเข้าเรียนและซื้อชุดนักเรียนให้เอริ โชคดีจริงๆที่คุณอามีคอนโดอยู่แล้ว ตรงตามที่ต้องการทุกอย่างเลย แล้วชั้นก็ต้องให้แม่บ้านและคนใช้ช่วยแพ็คกระเป๋า แต่ก็เอา ไปได้ไม่เยอะนักหรอกเพราะเดี๋ยวเข็นไม่ไหว ก็เลยกะว่าเอาไปนิดหน่อยและจะไปซื้อที่ญี่ปุ่นแทน คุณพ่อใจดีให้การ์ดทองและก็เงินตั้งเยอะ กับเอริ ทีนี้แหละ ไม่ต้องกังวลแล้วและพอไปถึงก็ต้องโทรกลับมาบอกคุณพ่อกับคุณแม่ด้วย และต้องโทรมาบ่อยๆด้วย
จากนั้นก็ถึงวันที่ชั้นออกเดินทาง^-^*
OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
"ท่านผู้โดยสารทุกท่านกรุณารัดเข็มขัดและนั่งอยู่กับที่ของท่านด้วยค่ะ เราจะลงกำลังจะลงสู่สนามบินนาริตะแล้วค่ะ"
"อ้าว! ถึงแล้วหรอ แย่จริงเราเผลอเหม่อไปตั้งนาน" เอริคิดพลางควานหาของในกระเป๋าเป้
"พาสปอร์ตอยู่ไหนนะ เอกสารล่ะ มือถือ เสื้อโค้ท ok อยู่ครบ"
เอริเดินลงจากเครื่องแล้วก็ไปด่านตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นก็ไปเอากระเป๋า กระเป๋าเดินทางของเอริเป็นสีขาว มีล้อและที่ลากในตัว รุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ราคาแพงมากๆ และเอริก็ลากกระเป๋าออกไป และเธอก็คงจะออกจากสนามบินไปแล้วถ้าไม่มี..
"คุณครับ ขอโทษนะครับ คือว่ากระเป๋าใบนี้ของผม ของคุณใบนี้ครับ ผมหยิบไปผิดใบน่ะครับ ขอโทษนะครับ" ชายหนุมพูดอย่างรัวเร็วเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเอริก็พอจะฟังทันจึงหันกลับไปมอง ใครน่ะ!?
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าเอริมีดวงตาสีน้ำตาลเข้ม ผมสีน้ำตาลแกมทอง สีเดียวกับของเอริ เขาใส่เสื้อสีฟ้าน้ำทะเลทรงเกือบเข้ารูปปล่อยชายและกางเกงสแลคขายาวสีขาว ดูก็รู้ ลูกผู้ดีชัดๆ เป็นลูกครึ่งเหมือนเธออีกต่างหาก ท่าทางจะรวยมากด้วย ก็เขา เข็นรถเข็นที่มีกระเป๋าใบใหญ่อยู่ถึง 2 ใบ แถมแต่ละใบก็แบรนด์ดังๆ ราคาไม่ใช่เล่นๆเลยและก็มีกระเป๋าแบบเดียวกันกับของเธอในมืออีก ข้าง มันราคาถูกๆซะที่ไหนกันล่ะ ของแบรนด์ดัง ราคาแพงมากๆ นายนี่คงจะเป็นคุณชายแบบสุดๆไปเลย
ใช่ว่าเธอจะเป็นฝ่ายจ้องเขาคนเดียวซะเมื่อไหร่กันล่ะ ตอนที่เธอหันไปสบตา เขาก็จ้องเธอกลับตาค้างเหมือนกัน
เมื่อเอริหันมาเขาก็เห็นว่าหญิงสาวตรงหน้าเป็นคนที่สวยและเซ็กซี่มากๆ แม้ว่าเธอจะใส่แว่นเลนส์สีชาเพื่อปกปิดใบหน้าก็ตาม แต่เขาก็ยังดูออกอยู่ดีว่ามันกลับยิ่งช่วยเพิ่มเสริมความมีเสน่ห์น่าดึงดูดให้กับเธอ และเมื่อหญิงสาวถอดแว่นออก มันเหมือนกับภาพสโลว์โมชั่นที่ทำให้เขาถึงกับอึ้งตาค้างไปเลย ความงดงามที่เป็นธรรมชาติของเธอ ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนนั้นดูมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างน่าประหลาด บนโครงหน้าที่งดงามดุจภาพวากที่จิตรกรชื่อดังบรรจงแต่งแต้มไว้ ริมฝีปากรูปกระจับที่เอิบอิ่มเต็มสีเรื่อ จนเขาอยากจะเป็นผู้มอบรสสัมผัสอันหอมหวานของจูบแรกให้เธอ พวงแก้มสีชมพูระเรื่อ ใบหน้างามที่สะอาดหมดจดปราศจากการเติมแต่งของเครื่องสำอาง ดูมีเสน่ห์ ดึงดูดให้หลงใหลและน่าค้นหา เรือนร่างอันบอบบาง ทรวดทรงอ้อนแอ้นอรชรอย่างกับนางฟ้าในเทพนิยาย ซึ่งแม้จะถูกปกปิดภายใต้เสื้อผ้าดีไซน์หรู แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความเย้ายวนและความเซ็กซี่ของเธอจางหายไป มันกลับยิ่งทำให้เธอดูน่าค้นหามากยิ่งขึ้นว่าภายใต้เครื่องแต่งกายนี้จะมีอะไรอยู่บ้าง เส้นผมสีน้ำตาลที่พลิ้วไสวทุกครั้งที่เธอขยับตัว
"คะ.." เสียงใสทำให้ชายหนุ่มกลับมามีสติอีกครั้ง
"คือว่ากระเป๋าใบนี้ของผม ของคุณใบนี้ครับ ผมหยิบไปผิดใบน่ะครับ ขอโทษนะครับ"
"อ๋อ ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ"หลังจากตั้งตัวได้เอริก็เอ่ยออกมาพร้อมส่งกระเป๋าให้และรับของๆเธอมา
OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
หลังจากที่หญิงสาวเดินออกจากสนามบินไป ชายหนุ่มก็มองตามเธอจนลับสายตาและเดินออกไปเช่นกัน
แน่นอน ทั้งสองไม่รู้เลยว่า...อีกไม่นานพวกเขาจะได้พบกันอีกครั้ง...
จบตอนแล้วค่ะ แนะนำติชมได้นะคะ
"ฮิฮิๆ>.< ในที่สุดชั้นก็มาถึงญี่ปุ่นซะที" "ตอนนี้คุณพ่อกับคุณแม่จะเป็นยังไงบ้างน้า" เสียงใสๆของสาวน้อยนามว่า "ทาเคยูกิ เอริ" ดังขึ้น แววตาของเธอเป็นประกายอย่างน่าประหลาดยามเมื่อรำลึกถึงความหลัง
OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่บ้านของเอริในประเทศอังกฤษ ขณะที่ทั้งครอบครัวกำลังรับประทานอาหารเย็นที่คฤหาสน์ที่แสนจะโอ่อ่าและหรูหราตระการตา
"คุณพ่อคะ เอริไปเรียนไฮสคูลที่ญี่ปุ่นได้มั้ยคะ เอริอายุ 15 ปี แล้วนะคะ"
"แต่ไปอยู่คนเดียวมันอันตรายนะลูก" คุณพ่ออะ อะไรกัน O_oตัวเองเคยบอกว่าถ้าเอริอยากไปจะไปก็ได้ไม่ใช่หรอ
"แม่ก็เห็นด้วยกับพ่อนะจ๊ะ เอลี่อย่าไปเลย ต่อไฮสคูลที่อังกฤษน่ะดีแล้ว หนูยังเป็นเด็กเป็นเล็กไม่ควรไปอยู่ตัวคนเดียวนะ" คุณแม่นะคุณแม่ชอบเรียกเอริว่าเอลี่ทุกทีเลย แถมยังเข้ากันกับคุณพ่อเป็นปี่เป็นขลุ่ยอีก ปกติไม่เห็นจะเป็นอย่างนี้เลย คิดจบเอริก็ค้อนให้วงโตO-O เอริโตแล้วนะ จะครบ 15 ปี แล้วด้วย
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ก็ให้เอริไปอยู่กับคุณอายูซึรุสิคะ" คุณอายูซึรุเป็นน้องชายของคุณพ่อไปอยู่ด้วยกันปลอดภัยจะตาย คุณแม่เป็นคนอังกฤษจะบอกว่าญี่ปุ่นไม่ปลอดภัยก็ถูกนะ แต่ทั้งคุณพ่อและคุณอาก็เป็นคนญี่ปุ่นนี่นาทำไมถึงคิดเหมือนคุณแม่ได้ก็ไม่รู้ อย่างนี้ก็อดไปสิ ต้องทำอะ ไรซักอย่างแล้ว .อ๊ะ!จริงสิ วิธีนี้ก็ได้นี่นา
"คุณพ่อคุณแม่คะ ทำไมไม่ให้เอริเรียนที่โรงเรียนของคุณอาที่เคยเล่าให้ฟังล่ะคะ ที่นั่นไม่มีใครกล้าทำอะไรเอริหรอกค่ะ ก็คุณอาเป็นเจ้าของโรงเรียนนี่คะ"
"คือว่าเอลี่จ๊ะ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่โรงเรียนหรอกจ๊ะ" อ้าว!O_Oแล้วทำไมไม่ให้เอริไปล่ะ.. "ก็ คือว่าอย่างนี้นะ คุณอาน่ะ เค้าจะไปพักผ่อนที่อเมริกา ก็เลยไม่กล้าให้เอลี่ไปที่บ้านน่ะสิจ๊ะ" อ้อ!หรอ..แต่เอริไปพักที่อื่นก็ได้นี่นา ที่ไหนดีล่ะ และก็มีระฆังสวรรค์มาช่วยเอริพอดี
"ไอริส เราให้เอริไปอยู่คอนโดก็ได้นี่" แหม!คุณพ่อ ถูกต้องที่สุดเลย
"แต่เอลี่เป็นดาราดังนะ ไปอยู่คอนโดคนเดียวไม่ได้หรอก ถ้าเกิดอะไรขึ้นใครจะช่วยลูกทัน" อ้อ! ชั้นก็พึ่งจะรู้ตอนนี้แหละว่าเหตุผลที่แท้จริงที่เถียงกันอยู่นี่มันเพราะอะไร ก็เพราะชั้นเป็นนักร้องขวัญใจวัยรุ่นชื่อดังสุดฮอตแถมด้วยดีกรีนางแบบดังระดับโลกนี่สินะ แย่จริงๆ+_+ แล้วจะ ทำยังไงต่อดีล่ะ
"แต่ว่าคุณแม่คะ ก็ให้เอริไปพักคอนโดแบบของดาราก็ได้นี่คะ ไม่งั้นก็เป็นคอนโดหรูๆ ที่แบบนั้นระบบรักษาความปลอดภัยดีออกค่ะ" เรื่องอะไรจะให้อดไปเพราะเหตุผลแบบนี้ อันที่จริงก็พูดไปยังงั้นแหละ แค่ดูเอาจากที่เห็นมา
และในที่สุด ทุกคนก็ลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า
"เอลี่จะไปเรียนที่ญี่ปุ่นก็ได้ แต่ต้องให้พักที่คอนโดหรูๆ วิวสวยๆ และที่สำคัญต้องปลอดภัย แล้วก็เรียนที่โรงเรียนของคุณอาเพราะดีที่สุดในญี่ปุ่นแล้ว และอย่างสุดท้าย สำคัญมากๆ ..เอลี่จะต้องปลอมตัวไปโรงเรียน เอาให้แตกต่างกับภาพลักษณ์จริงด้วย เดี๋ยวแฟนๆจะจำได้เวลา เรียนจะใช้ชื่อจริงก็ได้เพราะไม่มีใครรู้ ไม่เป็นไรหรอก" นี่คือคำพูดสรุปของคุณแม่ ใช่แล้วล่ะ คนในวงการไม่มีใครรู้ชื่อจริงของชั้น แน่นอน รวมถึงแฟนๆด้วย เพราะชั้นใช้ชื่อว่า "เอลี่" ชื่อน่ารักๆที่คุณแม่ตั้งให้นั่นเอง
แล้วต่อจากนั้น ทั้งคุณพ่อคุณแม่และแน่นอนที่สุด ตัวชั้นเองก็ต้องทำงานกันวุ่นไปหมด ทั้งโทรหาคุณอาเพื่อให้เอริเข้าเรียนและซื้อชุดนักเรียนให้เอริ โชคดีจริงๆที่คุณอามีคอนโดอยู่แล้ว ตรงตามที่ต้องการทุกอย่างเลย แล้วชั้นก็ต้องให้แม่บ้านและคนใช้ช่วยแพ็คกระเป๋า แต่ก็เอา ไปได้ไม่เยอะนักหรอกเพราะเดี๋ยวเข็นไม่ไหว ก็เลยกะว่าเอาไปนิดหน่อยและจะไปซื้อที่ญี่ปุ่นแทน คุณพ่อใจดีให้การ์ดทองและก็เงินตั้งเยอะ กับเอริ ทีนี้แหละ ไม่ต้องกังวลแล้วและพอไปถึงก็ต้องโทรกลับมาบอกคุณพ่อกับคุณแม่ด้วย และต้องโทรมาบ่อยๆด้วย
จากนั้นก็ถึงวันที่ชั้นออกเดินทาง^-^*
OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
"ท่านผู้โดยสารทุกท่านกรุณารัดเข็มขัดและนั่งอยู่กับที่ของท่านด้วยค่ะ เราจะลงกำลังจะลงสู่สนามบินนาริตะแล้วค่ะ"
"อ้าว! ถึงแล้วหรอ แย่จริงเราเผลอเหม่อไปตั้งนาน" เอริคิดพลางควานหาของในกระเป๋าเป้
"พาสปอร์ตอยู่ไหนนะ เอกสารล่ะ มือถือ เสื้อโค้ท ok อยู่ครบ"
เอริเดินลงจากเครื่องแล้วก็ไปด่านตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นก็ไปเอากระเป๋า กระเป๋าเดินทางของเอริเป็นสีขาว มีล้อและที่ลากในตัว รุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ราคาแพงมากๆ และเอริก็ลากกระเป๋าออกไป และเธอก็คงจะออกจากสนามบินไปแล้วถ้าไม่มี..
"คุณครับ ขอโทษนะครับ คือว่ากระเป๋าใบนี้ของผม ของคุณใบนี้ครับ ผมหยิบไปผิดใบน่ะครับ ขอโทษนะครับ" ชายหนุมพูดอย่างรัวเร็วเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเอริก็พอจะฟังทันจึงหันกลับไปมอง ใครน่ะ!?
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าเอริมีดวงตาสีน้ำตาลเข้ม ผมสีน้ำตาลแกมทอง สีเดียวกับของเอริ เขาใส่เสื้อสีฟ้าน้ำทะเลทรงเกือบเข้ารูปปล่อยชายและกางเกงสแลคขายาวสีขาว ดูก็รู้ ลูกผู้ดีชัดๆ เป็นลูกครึ่งเหมือนเธออีกต่างหาก ท่าทางจะรวยมากด้วย ก็เขา เข็นรถเข็นที่มีกระเป๋าใบใหญ่อยู่ถึง 2 ใบ แถมแต่ละใบก็แบรนด์ดังๆ ราคาไม่ใช่เล่นๆเลยและก็มีกระเป๋าแบบเดียวกันกับของเธอในมืออีก ข้าง มันราคาถูกๆซะที่ไหนกันล่ะ ของแบรนด์ดัง ราคาแพงมากๆ นายนี่คงจะเป็นคุณชายแบบสุดๆไปเลย
ใช่ว่าเธอจะเป็นฝ่ายจ้องเขาคนเดียวซะเมื่อไหร่กันล่ะ ตอนที่เธอหันไปสบตา เขาก็จ้องเธอกลับตาค้างเหมือนกัน
เมื่อเอริหันมาเขาก็เห็นว่าหญิงสาวตรงหน้าเป็นคนที่สวยและเซ็กซี่มากๆ แม้ว่าเธอจะใส่แว่นเลนส์สีชาเพื่อปกปิดใบหน้าก็ตาม แต่เขาก็ยังดูออกอยู่ดีว่ามันกลับยิ่งช่วยเพิ่มเสริมความมีเสน่ห์น่าดึงดูดให้กับเธอ และเมื่อหญิงสาวถอดแว่นออก มันเหมือนกับภาพสโลว์โมชั่นที่ทำให้เขาถึงกับอึ้งตาค้างไปเลย ความงดงามที่เป็นธรรมชาติของเธอ ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนนั้นดูมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างน่าประหลาด บนโครงหน้าที่งดงามดุจภาพวากที่จิตรกรชื่อดังบรรจงแต่งแต้มไว้ ริมฝีปากรูปกระจับที่เอิบอิ่มเต็มสีเรื่อ จนเขาอยากจะเป็นผู้มอบรสสัมผัสอันหอมหวานของจูบแรกให้เธอ พวงแก้มสีชมพูระเรื่อ ใบหน้างามที่สะอาดหมดจดปราศจากการเติมแต่งของเครื่องสำอาง ดูมีเสน่ห์ ดึงดูดให้หลงใหลและน่าค้นหา เรือนร่างอันบอบบาง ทรวดทรงอ้อนแอ้นอรชรอย่างกับนางฟ้าในเทพนิยาย ซึ่งแม้จะถูกปกปิดภายใต้เสื้อผ้าดีไซน์หรู แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความเย้ายวนและความเซ็กซี่ของเธอจางหายไป มันกลับยิ่งทำให้เธอดูน่าค้นหามากยิ่งขึ้นว่าภายใต้เครื่องแต่งกายนี้จะมีอะไรอยู่บ้าง เส้นผมสีน้ำตาลที่พลิ้วไสวทุกครั้งที่เธอขยับตัว
"คะ.." เสียงใสทำให้ชายหนุ่มกลับมามีสติอีกครั้ง
"คือว่ากระเป๋าใบนี้ของผม ของคุณใบนี้ครับ ผมหยิบไปผิดใบน่ะครับ ขอโทษนะครับ"
"อ๋อ ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ"หลังจากตั้งตัวได้เอริก็เอ่ยออกมาพร้อมส่งกระเป๋าให้และรับของๆเธอมา
OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
หลังจากที่หญิงสาวเดินออกจากสนามบินไป ชายหนุ่มก็มองตามเธอจนลับสายตาและเดินออกไปเช่นกัน
แน่นอน ทั้งสองไม่รู้เลยว่า...อีกไม่นานพวกเขาจะได้พบกันอีกครั้ง...
จบตอนแล้วค่ะ แนะนำติชมได้นะคะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น