ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ&AS&SNSD]Funny Cooking หอพักอลวน...คณะกรรมการอลเวง

    ลำดับตอนที่ #12 : Funny Cooking :: ตอนที่ 10.1 ;; Special ด๊อง - เชื่อในรักแรกพบรึเปล่า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 245
      0
      9 พ.ค. 53

    Special

    หอพักอลวน...คณะกรรมการอลเวง

    เชื่อในรักแรกพบรึเปล่า??

                    คุณเชื่อในรักแรกพบมั๊ย ผมว่าผมไม่เชื่อนะ ใครจะรักกันได้ตั้งแต่เห็นครั้งแรกล่ะ จริงมั๊ย?? คนเราต้องรู้จักกันนานๆ ไม่ใช่หรอ แต่แล้วความคิดของผมมันก็เปลี่ยนไป เมื่อผมได้ขึ้น ป.5 ผมพบกับเด็กคนนั้นโดยบังเอิญ ไม่สิ ต้องเรียกว่าโชคชะตาพาให้เรามาเจอกัน เอ่อ เน่าแฮะ เธอชื่อว่า เจสสิก้า ให้ตายเหอะทำไมผู้หญิงคนนี้สวยจัง แน่ใจนะว่ารุ่นเดียวกับผม ทำไมเธอเหมือนเป็นผู้หญิงมากกว่าผมอะ หน้าของเธอนั้นนิ่งมาก มากจนเย็นชาเลยก็ได้ ตั้งแต่วันนั้นผมก็เฝ้ามองเธอตลอด เธอไม่เคยที่จะหัวเราะเลยไม่ว่าเพื่อนของเธอนั้นจะหัวเราะมากเพียงใด เธอเพียงแค่ยิ้มเท่านั้น แต่ผมว่าถ้าเธอหัวเราะโลกคงจะสดใสขึ้นเยอะเลยนะ ให้ตาย ทำไมผมถึงหยุดคิดถึงเธอไม่ได้นะ ผมไม่ใช่เด็กแก่แดดไปใช่มั๊ยเนี่ย แต่ผมคิดว่าผมหลงรักเธอแล้วละ แต่ว่าเธอดูเหมือนจะไม่สนใจผมเลยนะ เธอไม่เคยพูดกับผมเลย หรือแม้แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะไปทักเธอ มันก็อายเป็นนะครับคุณผู้อ่าน แต่แล้วก็เหมือนโชคชะตามันเล่นตลกแฮะ เมื่อมีการจับคู่ทำรายงานคู่ ผมดันได้คู่กับเธอนั่นมันทำให้ผมตื่นเต้นนะ อ่า~ แล้วผมจะทำยังไงดีนะ

     

     

                    “มัวแต่นั่งนิ่งอยู่นั่นแหละ ช่วยทำงานให้เสร็จๆ สักทีจะได้มั๊ย” เธอกล่าวกับผม เป็นประโยคแรกเลยนะที่เธอพูดกับผม ถึงแม้ว่าน้ำเสียงเธอจะดุไปหน่อย หน้าของเธอจะนิ่ง อ่า~ ผมรู้สึกกลัวผู้หญิงคนนี้แฮะ นี่ผมชอบเธอจริงๆ รึเปล่าเนี่ย

                    “นายชื่ออะไรอะ??”

                    “ด ดะ ดงแฮ” ผมประหม่าจังแฮะ

                    “ดงแฮหรอ ไม่ต้องเกร็งก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ^^” เธอยิ้มให้ผม เป็นครั้งแรกที่เธอยิ้มให้กับคนอย่างผม อ่า~ ผมชอบรอยยิ้มนั้นจัง มันทำให้ผมรู้สึกว่าไม่อยากให้ใครเห็นรอยยิ้มของเธอเลย นี่ผมเห็นแก่ตัวไปใช่มั๊ย

     

     

     

     

                    พอขึ้น ป.6 ให้ตาย โชคชะตาเล่นตลกกับผมอีกแล้ว ผมแยกห้องกับเธอน่ะสิ เพราะการเรียนของผมตกลงทำให้ผมต้องอยู่ห้อง 2 แต่เธออยู่ห้อง 1 T.T แต่ก็ช่างเหอะ พ่อผมสอนเอาไว้ว่า ไม่ว่าเราจะรักใคร ถ้าได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข แค่นั้นมันก็เกินพอแล้ว เราก็ควรจะมีความสุขกับมันซะ แต่ก็นะถึงอย่างนั้นผมก็ยังคงเฝ้ามองเธออยู่ห่างๆ ตลอดเวลา หวังว่าเธอคงไม่อึดอัดนะ ผมหวังว่าอย่างนั้น

     

     

     

                    นี่ก็ใกล้จะปิดเทอมเตรียมตัวขึ้น ม.ต้น แล้ว ผมอยากรู้จังว่าเธอจะเรียนต่อที่ไหน เพราะอะไรน่ะหรอ? เพราะผมจะได้ย้ายไปที่เดียวกับเธอไง ^^ แต่น่าเสียดายชะมัด เธอดันเข้าโรงเรียนหญิงล้วนซะได้ ผมก็ถูกเข้าโรงเรียนชายล้วนเหมือนกัน แต่นั่นมันเป็นข้ดดีอย่างหนึ่งนะ เพราะการเรียนการสอน และกิจกรรม เวลาเลิกเรียน ของทั้งสองโรงเรียนนั้นคล้ายกัน รึอาจจะเหมือนกันเลยก็ได้ ทำก็ทำให้ผมแอบมองเธอได้เหมือนกันนะ แต่ผมก็ต้องเสียใจกับประสบการณ์แอบรักข้างเดียวในครั้งนั้น เพราะเมื่อขึ้นปี 2 เธอก็มีแฟนซะแล้ว นี่ผมกินแห้วใช่มั๊ยเนี่ย เฮ้อ!

     

                    ผมพยายามจะลืมเธอ แต่แล้วพอขึ้นปี 3 ในระหว่างที่ผมกำลังกลับบ้าน ผมก็ได้เห็นกลุ่มคนที่เป็นเด็กผู้หญิงรุ่นเดียวกับผมนั้นอยู่ในที่ที่ไม่ควรอยู่ เพราะมันเปลี่ยวเอาเรื่องเลย แต่สิ่งที่ทำให้ผมแทบหมดลมหายใจนั่นก็คือ สาเหตุที่ผู้หญิงกลุ่มนั้นล้อมกันเป็นวงก็เพื่อทำร้ายคนๆ หนึ่งอยู่ อย่าคิดว่าผมแล้งน้ำใจที่เห็นคนทำร้ายแล้วไม่ช่วยนะ เพราะตอนนี้ผมกำลังเดินไปทางกลุ่มนั้นอยู่ แต่ไม่รู้ทำไม ทำไมผมรู้สึกกังวลเหลือกัน กังวลว่าคนที่โดนทำร้ายนั้นจะเป็น

     

                    “เจสสิก้า!” ผมไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปประคองเธอทันที ผมมองผู้หญิงกลุ่มนี้อย่างคาดโทษ ทำไมกัน ทำไมต้องทำร้ายคนๆ นี้ด้วย

                    “พวกเธอทำร้ายเค้าทำไม!!!” เมื่อผมได้สติ ผมก็เริ่มถามทันที ในขณะที่พวกนั้นกำลังตกใจกับเสียงของผม แต่ผมไม่สนใจหรอกนะว่าจะตกใจทำไม เพราะผมให้อภัยไม่ได้

                    “เอ่อคือว่า...” ทำไมต้องกลัวด้วยนะ กะอิแค่ตอบคำถามที่ผมถาม ทำไมต้องทำท่ากลัวเหมือนเจอกับสัตว์ร้ายอย่างนั้นด้วย

                    “ตอบเซ่!!!!!!!!!!!!!!” ผมเริ่มใจคอไม่ได้ เพราะตอนนี้คนที่ผมประคองอยู่หายใจถี่ขึ้น

                    “เพราะพวกเราหมั่นไส้ ทำตัวเย็นชาให้คนอื่นหลงใหล ไม่เว้นแม้แต่รุ่นพี่ยุนโฮที่อยู่โรงเรียนเดียวกับนาย!!!!!!!

                    “เพราะแค่หมั่นไส้งั้นหรอ งั้นฉันลองหมั่นไส้เธอ แล้วทำแบบที่เธอทำกับผู้หญิงคนนี้ดูบ้างมั๊ย!!!!!!!!!” ผมระเบิดอารมณ์ออกไปทันที ทำไมกัน แค่หมั่นไส้แค่นี้เองหรอถึงทำให้เกิดเรื่องน่าสมเพชแบบนี้ได้

     

                    เมื่อผมพาเธอส่งโรงพยาบาล ผมก็ไม่รอช้าที่จะให้ญาติของเธอมาที่นี่ ผมกดเบอร์โทรศัพท์ในเบอร์แรกของเธอ

                    [ฮัลโหล เจสซี่~ ทำไมวันนี้เธอไม่โทรหาฉันเลยอ่า >.<] ปลายสายรับด้วยเสียงหวาน นั่นทำให้ผมรู้ถึงสถานะของคนๆนี้แล้วล่ะว่าเค้าคือใคร ผมน่าจะลองเสิร์ชหาชื่อในสมุดรายชื่อเธอมากกว่านะเนี่ย

                    “ผมไม่ใช่เจสสิก้าครับ” ผมตอบกลับไปอย่างสุภาพ นั่นอาจจะทำให้คนปลายสายชะงักไปได้เพราะเสียงนั้นเงียบทันทีที่ได้ยินเสียงผม

                    “ผมจะโทรมาบอกคุณว่า ตอนนี้แฟนของคุณถูกทำร้าย ให้มาที่โรงพยาบาลด่วน” ผมพูดต่อกันการเข้าใจผิด

                    “หา!!! เจส เจสถูกทำร้ายงั้นหรอ งั้นเดี๋ยวฉันจะไปเดี๋ยวนี้ แค่นี้นะ กริ๊ก!” เค้าวางสายผมไปแล้ว และในตอนนี้เธอก็ปลอดภัยและหมอก็พามาอยู่ห้องพิเศษแล้วด้วย หน้าที่ของผมคงหมดแล้วล่ะ เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็วางโทรศัพท์ไว้ข้างตัวเธอแล้วเดินออกจากห้องทันที สวนกับแฟนของเค้าที่วิ่งเข้าห้องไปอย่างรีบร้อน ผมควรมาเยี่ยมเธอดีมั๊ยนะ อย่าเลยดีกว่าเพราะว่าเธอมีคนดูแลอยู่แล้ว คนที่ดีกว่าผม ผมมันขี้ขลาดจังเลย

     

     

     

     

     

                    2 ปีต่อมา ดงแฮขึ้นปี 3

     

     

                    อ่า~ ผมว่าผมลืมรักแรกของผมแล้วนะ แต่ทำไม ทำไมผมถึงมาเจอเธออีกละเนี่ย ผมเจอเธออีกครั้งตอนที่มาอยู่หอในฐานะกรรมการนักเรียนตอนปิดเทอมเล็ก ให้ตายเธอก็เป็นกรรมการนักเรียนเหมือนกันหรอเนี่ย ผมดีใจจังแฮะ

                    “เธอ ที่ได้ฉายาว่าเจ้าหญิงน้ำแข็งของโรงเรียนสินะ ^^” ผมทักเธอตามประสา ก็ผมไม่รู้ว่าจะคุยอะไรกับเธอนี่นา เพราะไอ้เพื่อนที่อยู่ข้างผม ก็ดันมาทะเลาะกับเพื่อนของเธอซะแล้ว

                    “งั้นเหรอ ฉันไม่รู้สิ” เธอเคยสนใจอะไรมั๊ยเนี่ย

                    “เฮ้ แต่พวกนักเรียนโรงเรียฉันเค้าชอบเธอมากเลยนะ บอกเจสสิก้าอย่างนั้น เจสสิก้าอย่างนี้ เจสสิก้าสวยอย่างนั้น เจสสิก้าเย็นชาอย่างนี้...” ผมพูดไปเรื่อยไป แต่มันคือความจริงนะ แล้วผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ชมเธอ

                    “เงียบได้รึยัง”

                    “ทำไมละ ไม่ชอบหรอ มีแต่คนชมเธอนะ”

                    “เป็นไปไม่ได้หรอกนะที่จะมีคนชม แล้วไม่มีคนด่านะ กินๆ ไปซะข้าวน่ะ อย่าพูดมาก” อ่า~ เธอยังคงดุได้น่ากลัวเหมือนเดิมแฮะ แต่ก็เอาเถอะนะ หนทางยังอีกยาวไกล งานนี้ผมต้องใจกล้าให้ได้

                   

     

     nu eng

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×