คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ๕.ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ของทวีปอเมริกาเหนือ (ภูมิหลัง)
5.ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ของทวีป (ภูมิหลัง)
คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ชาวเมืองเจนัว ประเทศอิตาลี ได้รับอาสาพระนางอิสเบลลา แห่งสเปน เดินเรือสำรวจมหาสมุทรแอตแลนติก เพื่อค้นหาเส้นทางไปยังทวีปเอเชีย เขาเดินทางมาพบทวีปอเมริกาเหนือ ในปี พ.ศ. 2035 และเดินทางมาสำรวจอีก 3 ครั้ง ในเวลาต่อมาโดยเข้าใจว่าดินแดนที่พบนี้คือทวีปเอเชีย ต่อมา อเมริโก เวสปุคชี ชาวเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลีได้เดินทางมายังดินแดนนี้ตามเส้นทางของโคลัมบัส เพื่อสำรวจให้กับสเปนและโปรตุเกสรวม 4 ครั้ง ในปี พุทธศักราช 2040, 2042, 2044 และ 2046 รายงานของเขาถูกตีพิมพ์เผยแพร่ ทำให้ชาวยุโรปทราบเรื่องราวทวีปใหม่ดีขึ้น และตั้งชื่อทวีปใหม่ว่า “อเมริกา” เพื่อเป็นเกียรติแก่ อเมริโก เวสปุคชี พวกที่เดินทางสู่อเมริกา โดยเรือขนาดเล็ก ต่างเบียดเสียดกันอย่างแสนสาหัส ตลอดเวลาการเดินทาง 16 สัปดาห์ ยังชีพด้วยการแบ่งปันส่วนอาหาร หลายครั้งที่ถูกพายุพัดเสียหาย ผู้คนล้มป่วยและตายลงเป็นจำนวนมาก เด็กทารกนั้นยากนักที่จะมีชีวิตรอดได้ภาพแผ่นดินใหม ่ที่ชาวอาณานิคมได้เห็นคือ ภาพป่าทืบอุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้ อันหมายถึงว่า จะมีฟืน ไม้สำหรับต่อเรือ ปลูกบ้าน ทำสีย้อมผ้า ตลอดจนเครื่องใช้ ต่าง ๆอย่างพร้อมสรรพ ดินแดนที่ถูกค้นพบใหม่ ได้มีการแย่งชิงกันหลายชาติ ชาวสเปนครอบครองอาณานิคมในเขตอเมริกากลาง อเมริกาใต้และหมู่เกาะอินดีสตะวันตกอังกฤษสามารถก่อตั้งอาณานิคมบริเวณรอบ ๆ อ่าวฮัดสันและชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ทางทิศตะวันออกของสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน
ส่วนตอนกลางของอ่าวเม็กซิโกขึ้นไป ตลอดลุ่มแม่น้ำมิสซิสซิปปี ทะเลสาบทั้ง 5 และชายฝั่งตะวันออกของแคนาดาเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส
มูลเหตุที่ชักจูงให้ผู้คนอพยพมาสู่ทวีปอเมริกา คือความปรารถนาในการสร้างฐานะ ความอยากที่จะเผชิญโชค ความใฝ่ฝันที่จะมีเสรีภาพทางการเมืองและการนับถือศาสนาต่อมาอังกฤษทำสงครามกับฝรั่งเศสในทวีปยุโรป ฝรั่งเศสเป็นฝ่ายแพ้สงคราม จึงต้องเสียอาณานิคมในอเมริกาให้กับอังกฤษ ทำให้อาณานิคมของอังกฤษขยายออกไป พร้อมกับการขยายตัวทางวัฒนธรรมเป็นเงาตามตัว
ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลอังกฤษกับชาวอาณานิคมได้เกิดขึ้นเนื่องจากนโยบายการคลังของอังกฤษเรียกเก็บภาษีในรูปแบบต่าง ๆ จากชาวอาณานิคม เช่น พ.ร.บ. น้ำตาล พ.ศ. 2307 ให้เก็บสินค้าน้ำตาลที่ไม่ได้ส่งมาจากอังกฤษพ.ร.บ. แสตมป์ พ..ศ. 2308 ให้ปิดแสตมป์สิ่งพิมพ์ทุกชนิด ภาษีที่รัฐบาลอังกฤษเรียกเก็บสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนชาวอาณานิคมเกิดความรู้สึกไม่เป็นธรรม และแล้ว ในวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2316 ณ เมืองบอสตัน ชาวอาณานิคม กลุ่มหนึ่งได้ปลอมตัวเป็นชาวอินเดียนแดงลงไปในเรือบรรทุกสินค้าของอังกฤษ แล้วขนหีบหอใบชาโยนทิ้งทะเลเหตุการณ์ครั้งนี้เรียกว่า “บอสตัน ที ปาร์ตี้” ได้กลายเป็นชนวนที่ทำให้เกิดการรวมตัวกัน ของชาวอาณานิคม ต่อต้านรัฐบาลอังกฤษอย่างจริงจัง สงครามการต่อต้านรัฐบาลอังกฤษได้ยืดเยื้อนานถึง 6 ปี มีการสู้รบเกิดขึ้นทุกแห่ง โดยมี ยอร์ช วอชิงตัน เป็นแม่ทัพและแล้วในวันที่ 4 กรกฎาคม พ..ศ. 2319 สหรัฐอเมริกาได้ประกาศอิสรภาพ ณ เมืองฟิลาเดลเฟีย โดยโทมัส เจฟเฟอสัน เป็นผู้ร่างคำประกาศอิสรภาพไม่เพียงแต่เกิดชาติใหม่เท่านั้นแต่เป็นการประกาศให้โลกรู้ถึง ความสำคัญของสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพ ในระยะแรกมีเพียง 13 รัฐเท่านั้นที่อยู่ทางชายฝั่งตะวันออกด้านมหาสมุทรแอตแลนติก ที่รวมกันเข้าเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นก็ขยายอาณาเขตมุ่งสู่ทิศตะวันตกซึ่งก็ต้องประสบกับ การต่อต้านจากพวกอินเดียนแดงเผ่าต่าง ๆ ที่เป็นชนพื้นเมืองดั่งเดิมอย่างมาก การขยายตัวของสหรัฐอเมริกาไปทางทิศตะวันตก ในครึ่งหลังของพุทธศตวรรษที่ 24 โดยวิธีต่าง ๆ ดังนี้คือ
1. โดยการบุกเบิกจับจองที่ดินว่างเปล่า
2. โดยการซื้อ
2.1 รัฐหลุยเซียนา ซื้อจากฝรั่งเศส 15 ล้านดอลลาร์
2.2 รัฐฟลอริดา ซื้อจากสเปน 5 ล้านดอลลาร์
2.3 แคลิฟอร์เนีย ซื้อจากเม็กซิโก 10 ล้านดอลลาร์
2.4 อลาสกา ซื้อจากรัสเซีย 7.2 ล้านดอลลาร์
3 . โดยการผนวกดินแดนคือรัฐฮาวายและเท็กซัส
4 . โดยการทำสงครามได้แคลิฟอร์เนียและนิวเม็กซิโกจากการรบชนะเม็กซิโก
หลังจากสหรัฐอเมริกาได้ประกาศเอกราช ไม่เป็นอาณานิคมของอังกฤษแล้ว แคนาดาซึ่งเป็นอาณานิคมของอังกฤษเหมือนกันแต่อยู่ใกล้กับสหรัฐอเมริกาทำให้รัฐบาลอังกฤษต้องอะลุ่มออล่วยให้แคนาดาบ้าง ต่อมาภายหลังได้ให้แคนาดาปกครองตนเอง โดยมีฐานะที่เรียกว่า“ดอมิเนียนแห่งแคนาดา” หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 แล้ว แคนาดาจึงได้รับเอกราช แต่เนื่องจากชาวอาณานิคมในแคนาดามีความผูกพันกับอังกฤษ รัฐบาลของแคนาดาจึงขออยู่ภายใต้ระบบที่เรียกว่า “ประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ” commonwealth จะเห็นได้ว่าประเทศในกลุ่มแองโกลอเมริกา ได้สร้างชาติของตนให้ยิ่งใหญ่ขึ้นมาไม่นานนัก ทั้งสหรัฐอเมริกา และแคนาดา แม้จะพยายามสร้างเอกลักษณ์ของตนขึ้นมาเพียงใด ก็ยังคงมีสายใยของความผูกพัน กับประเทศในยุโรปโดยเฉพาะอังกฤษ ทั้งนี้อาจสืบเนื่องมาจากเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา ขนบธรรมเนียมประเพณีและประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่มีร่วมกันเป็นระยะเวลานาน เมื่อศึกษาภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ ทวีปอเมริกาเหนือมีมนุษย์อาศัยอยู่แล้ว เชื่อกันว่าประชากรดั่งเดิมของทวีปอเมริกาอพยพมาจากทวีปเอเชีย โดยเดินทางจากคาบสมุทรชุกชีของทวีปเอเชียใช้สะพานธรรมชาติ ข้ามช่องแคบแบริง เข้าสู่คาบสมุทร อลาสกาของทวีปอเมริกาเหนือแล้วไปอาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือแล้วเดินทางสู่ทวีปอเมริกาใต้ตามลำดับ ต่อมาชาวยุโรปเริ่มสำรวจทางทะเล คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส Christopher Columbus เป็นผู้จุดประกาย ให้ชาวยุโรปรู้จักดินแดนแห่งนี้และรู้จักดินแดนนี้มากยิ่งขึ้นจากการเขียนรายงานของ นักเดินเรือชื่อ อมริโกเวสปุคชี Americo Vespucci ทำให้ชาวยุโรปสนใจและเข้ามาจับจองดินแดนในทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ ดังนี้
1. ชาวสเปนครอบครองอาณานิคมในเขตอเมริกากลาง อเมริกาใต้และหมู่เกาะอินดีสตะวันตก
2. ชาวอังกฤษสามารถก่อตั้งอาณานิคมบริเวณรอบ ๆ อ่าวฮัดสันและชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ทางทิศตะวันออกของสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน
3.ชาวฝรั่งเศสจับจองดินแดนตอนกลางของอ่าวเม็กซิโกขึ้นไป ตลอดลุ่มแม่น้ำมิสซิสซิปปี ทะเลสาบทั้ง 5 และชายฝั่งตะวันออกของแคนาดาเป็นอาณานิคมของตน ภายหลังดินแดนดังกล่าวตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ
4. ชาวฮอนแลนด์ จับจองบริเวณปากแม่น้ำฮัดสัน และซื้อเกาะแมนฮัดตันจากชาวพื้นเมือง ภายหลังดินแดนดังกล่าวตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ
เมื่อชาวยุโรปจับจองที่ทำมาหากินในทวีปอเมริกาแล้วขาดแรงงานก็ได้มีการซื้อ ชาวผิวดำ จากทวีปอัฟริกามาเป็นทาส ใช้เป็นแรงงานในฟาร์มของตน เมื่อผู้นำของประเทศประกาศให้มีการเลิกทาส ชาวผิวดำจึงกลายเป็นประชากรของทวีปนี้ นอกจากนี้ยังมีการอพยพจากชาวเอเชียเข้าไปทำมาหากินในทวีปอเมริกาเหนือเช่น ชาวจีน ชาวไทย ลาว เขมร ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยของทวีปนี้
ประชากรชาวผิวเหลือง Mongoloids ในทวีปอเมริกาเหนือเป็นประชากรดั่งเดิมพวกอินเดียนแดง American Indian ที่สร้างอารยธรรมไว้แถบอเมริกากลาง บริเวณประเทศกัวเตมาลา บริติชฮอนดูรัส เอลซัลวาดอร์ และฮอนดูรัส เรียกอารยธรรม มายา Mayas ส่วนบริเวณประเทศเม็กซิโก ก็มีชาวผิวเหลืองสร้างความเจริญไว้ เรียกอารยธรรม แอซเตก Aztecs
ประชากรผิวเหลืองพวกเอสกิโม Eakimo อพยพมาหลังชาวอินเดียนแดง American Indian ปัจจุบันอาศัยอยู่มาก บริเวณอากาศหนาว ทางตอนเหนือของทวีป
ประชากรที่เป็นผิวเหลืองชาวเอเชียที่เข้าไปหลังจากที่ชาวยุโรปเข้าไปตั้งถิ่นฐานแล้วได้แก่ ชาวจีน ญี่ปุ่น ไทย ลาว เขมร ฟิลิปินส์ ฯลฯ ที่เข้าไปอาศัยอยู่เป็นชนกลุ่มน้อยกระจัดกระจายตามเมืองใหญ่ ๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา ประเทศในกลุ่มอเมริกากลางและหมู่เกาะอินดีสตะวันตก
ประชากรชาวผิวขาว Caucasoids ในทวีปอเมริกาเหนือเป็นประชากรที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน เมื่อมีการสำรวจทางทะเลและแสวงหาอาณานิคม แล้วอาศัยอยู่ในบริเวณที่ทำสงครามแย่งชิงดินแดน และจับจองระหว่างชาติยุโรปด้วยกัน ชาติใดมีชัยชนะก็จะสามารถจับจองและอพยพประชากรจากยุโรปเข้าไปตั้งถิ่นฐานได้ จากการศึกษาภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ ชาวยุโรปใต้เชื้อชาติ คอเคซอย์พวกเมดิเตอร์เรเนียน ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือเรียกว่า ลาตินอเมริกา เพราะถูกจับจองโดยสเปน ได้แก่ ประเทศเม็กซิโก ประเทศในกลุ่มอเมริกากลาง และหมู่เกาะอินดีสตะวันตก เชื้อชาติ คอเคซอย์พวกนอร์ดิก ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ เรียกว่า แองโกลอเมริกา ซึ่งหมายถึง สหรัฐอเมริกาและแคนาดา คอเคซอยด์ชาวฝรั่งเศส อาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ บริเวณตะวันออกของแคนาดา ในมณฑลควิเบก
เมสติโซ Mestizos ประชากรที่เกิดจากสายเลือดผสมระหว่างชนพื้นเมืองกับชาวยุโรป (มองโกลอยด์+คอเคซอยด์) อาทิ พวกอินแดียนแดงกับสเปน อินเดียนแดงกับฝรั่งเศส เอสกิโมกับอังกฤษ
มูแลตโต Mulattos ประชากรที่เกิดจากสายเลือดผสมระหว่างชาวผิวดำกับชาวยุโรป (นิกรอยด์+คอเคซอยด์)
แซมโป Zambos ประชากรที่เกิดจากสายเลือดผสมระหว่างชาวผิวเหลืองกับชาวผิวดำ (นิกรอยด์+มองโกลอยด์)เชื้อชาติหลัก Race
1. ผิวเหลือง Mongoloids
2. ผิวขาว Caucasoids
ความคิดเห็น