ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ส่งความรู้ถึงมือคุณ

    ลำดับตอนที่ #5 : ๓.ลักษณะภูมิอากาศของทวีปอเมริกาเหนือ

    • อัปเดตล่าสุด 27 ส.ค. 52


    3.ลักษณะภูมิอากาศของทวีป

     

    ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อภูมิอากาศของทวีปอเมริกาเหนือ

              1.ละติจูด ทวีปอมริกาเหนือตั้งอยู่ที่ละติจูด 8-82 องศาเหนือ จึงทำให้ทวีปอเมริกาเหนือมีภูมิอากาศทุกประเภท ตั้งแต่เขตร้อนชื้นถึงหนาวเย็นแบบขั้วโลก

              2.ลมประจำ ลมประจำที่พัดผ่านทวีปอเมริกาเหนือจะมีความแตกต่างกันตามช่วงละติจูดกล่าวคือ ตั้งแต่ละติจูด 40 องศาเหนือลงไปทางใต้จะเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือที่นำความชุ่มชื้นจากมหาสมุทรแอตแลนติกเข้าสู่ชายฝั่งตะวันออกของทวีป ตั้งแต่ตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา อเมริกากลาง และหมู่เกาะอินดิสตะวันตก ส่วนดินแดนที่อยู่ตอนเหนือของทวีปตั้งแต่ละติจูด 40 องศาเหนือขึ้นไปจะเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ที่นำความชุ่มชื้นจากมหาสมุทรแปซิฟิกเข้าสู่ฝั่งตะวันตกของแคนาดาและรัฐอะแลสกาของสหรัฐอเมริกา

             3.กระแสน้ำในมหาสมุทร ซึ่งกะแสน้ำที่มีอิทธิพลต่อภูมิอากาศของทวีปอเมริกาเหนือมี 4 สาย คือ

                     3.1กระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม ไหลเลียบชายฝั่งตะวันตกของเม็กซิโกและสหรัฐอเมริกาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะนิวฟันด์แลนด์ของแคนาดา

                     3.2 กระแสน้ำเย็นแลบราดอร์ ไหลเลียบชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกาลงมาทางใต้พบกับกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม บริเวณชายฝั่งตะวันออกของแคนาดา ซึ่งเป็นบริเวณที่กระแสน้ำอุ่นพบกับกระแสน้ำเย็นจึงเป็นแหล่งปลาชุกชุม

                     3.3 กระแสน้ำเย็นแคลิฟอร์เนีย ไหลเลียบชายฝั่งตะวันตกสหรัฐอเมริกาลงมาทางใต้ทำให้ชายฝั่งมีอากาศเย็นและแห้ง

                     3.4 กระแสน้ำอุ่นอะแลสกา ไหลเลียบชายฝั่งตะวันตกของรัฐอะแลสกาทางช่องแคบแบริง ทำชายฝั่งมีภูมิอากาศอบอุ่น

             4.ทิศทางของเทือกเขาเทือกเขาในทวีปอเมริกาเหนือจะทอดยาวจากเหนือไปใต้และอยู่ใกล้ชายฝั่งตะวันออก   จึงขวางกั้นความชุ่มชื้นที่ลมประจำตะวันตกเฉียงใต้จากมหาสมุทรแปซิฟิก   ทำพื้นที่หลังเขาหรือพื้นที่ส่วนใหญ่ในซีกตะวันตกของทวีปมีอากาศแห้งแล้ง   แตกต่างจากซีกตะวันออกที่ไม่มีเทือกเขากั้นบังลม

             5.ความห่างไกลจากทะเล   เนื่องจากตอนเหนือของทวีปมีเนื้อที่กว้างขวางมาก   ดังนั้นบริเวณตอนในทวีปจึงอยู่ห่างไกลจากทะเลและได้รับอิทธิพลจากมหาสมุทรเพียงเล็กน้อย   ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณตอนกลางขอไปทางทิศตะวันตกของแคนาดาและสหรัฐอเมริกามีภูมิอากาศข่อนข้างแห้งแล้ง   และมีทุ่งหญ้ากึ่งทะเลทรายเป็นบริเวณกว้าง

           6.พายุเฮอร์ริเคนและทอร์นาโด พายุเฮอร์ริเคนเป็นพายุเมืองร้อนที่เกิดในทะเลแคริบเบียนและอ่าวเม็กซิโก โดยเคลื่อนไปทางทิศตะวันตกหรือทิศเหนือเข้าสู่ชายฝั่งประเทศเม็กซิโกและสหรัฐอเมริกา ทำให้ฝนตกหนักและมีคลื่นลมแรงในทะเล ส่วนพายุทอร์นาโดเป็นพายุที่เกิดในบริเวณที่ราบภาคกลางของสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ ถือเป็นพายุประจำถิ่นของสหรัฐอเมริกาที่มีกำลังแรงมาก สามารถทำลายบ้านเรือนได้ พายุนี้เกิดขึ้นประมาณปีละ 140-150 ครั้ง และเกิดขึ้นบ่อยในรัฐแคนซันซัส โอคลาโฮมา และเทกซัส

     

    ลักษณะภูมิอากาศ

    เนื่องจากทำเลที่ตั้งของทวีปอเมริกาเหนืออยู่ระหว่างเส้นละติจูดที่ 7 องศาเหนือ ถึงเส้นละติจูดที่ 83 องศาเหนือ  จึงทำให้ทวีปอเมริกาเหนือมีภูมิอากาศหลายประเภท  ทั้งภูมิอากาศเขตร้อน   ภูมิอากาศเขตอบอุ่น  และภูมิอากาศเขตหนาว ซึ่งพอจะแบ่งออกได้เป็น  12  เขต  คือ

    1.  ภูมิอากาศร้อนชื้น   ได้แก่บริเวณอเมริกากลาง หรือ ลาตินอเมริกา  และหมู่เกาะอินดิสตะวันตก (ที่ตั้งของประเทศคิวบา)  มีภูมิอากาศร้อน  มีฝนตกชุกตลอดปี  พืชพันธุ์ธรรมชาติได้แก่ ป่าไม้เมืองร้อน

    2.  ภูมิอากาศแห้งแล้งแถบร้อน   ได้แก่บริเวณที่ราบสูงเม็กซิโก  และชายฝั่งด้านตะวันตกของอเมริกากลาง  มีอุณหภูมิสูงมากในฤดูร้อน  ฝนตกน้อย  พืชพันธุ์ธรรมชาติได้แก่ ทุ่งหญ้าเขตร้อน  เป็นหญ้าต้นยาว ที่รู้จักกันดีคือ หญ้าคา   เราเรียกภูมิอากาศแห้งแล้งแถบร้อนอีกแบบหนึ่งว่าภูมิอากาศแบบ ทุ่งหญ้าสาวานา (Savana)  บริเวณที่แห้งแล้งมากๆ จะเป็นพืชพันธุ์ธรรมชาติแบบทะเลทราย

       3. ภูมิอากาศทุ่งหญ้ากึ่งทะเลทรายแถบอบอุ่น    ได้แก่บริเวณที่ราบสูงบริติสโคลัมเบีย   มีอากาศแห้งแล้งมาก ในฤดูหนาวอากาศหนาวจัด  ฝนตกน้อย  พืชพันธุ์ธรรมชาติเป็นทุ่งหญ้าต้นสั้นที่เรียกว่าภูมิอากาศแบบ ทุ่งหญ้าสเต็ปป์(Steppe)   ส่วนมากใช้ประโยชน์ด้านการเลี้ยงสัตว์เขตอบอุ่น

     4. ภูมิอากาศอบอุ่นชื้นภาคพื้นทวีป  ได้แก่บริเวณทีราบรอบๆ ทะเลสาบทั้งห้า(HOMES)  ลักษณะอากาศมีอุณหภูมิต่ำในฤดูหนาว  ฤดูร้อนอุณหภูมิสูงปานกลาง  มีฝนตกในฤดูร้อน พืชพันธุ์ธรรมชาติได้แก่ ป่าผลัดใบชนิดใบกว้าง  เช่น  โอ๊ก   บีซ   เมเบิล   เอล์ม  และเซสต์นัต              

    5.    ภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้น  ได้แก่บริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา  เลียบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก  และที่ราบลุ่มแม่น้ำมิสซิสซิปปี้   แม่น้ำมิสซูรี  ลักษณะภูมิอากาศอบอุ่น  อุณหภูมิปานกลาง  ฝนตกตลอดปี  ไม่มีฤดูแล้ง  พืชพันธุ์ธรรมชาติเป็นป่าไม้ผลัดใบเขตอบอุ่น   ส่วนบริเวณภายในทวีปเป็นทุ่งหญ้าเขตอบอุ่น (Steppe) เนื่องจากมีฝนตกน้อย

    6.  ภูมิอากาศภาคพื้นสมุทรชายฝั่งตะวันตก   ได้แก่บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก  ทางด้านตะวันตกของประเทศแคนาดา  เป็นบริเวณที่ได้รับอิทธิพลของลมตะวันตกที่พัดมาจากมหาสมุทรแปซิฟิก  ลักษณะภูมิอากาศเป็นแบบอบอุ่น  ฤดูร้อนอุณหภูมิปานกลาง  ฤดูหนาวอากาศไม่หนาวจัด  มีฝนตกเล็กน้อยตลอดปี  พืชพันธุ์ธรรมชาติได้แก่ป่าผลัดใบเขตอบอุ่น  บริเวณที่มีอากาศหนาวจะเป็นป่าสน

    7.  ภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน   ได้แก่บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก  บริเวณมลรัฐแคลิฟอร์เนีย  ระหว่างละติจูดที่ 30 – 40 องศาเหนือ  มีอากาศอบอุ่นในฤดูหนาว  และร้อนจัดในฤดูร้อน  ท้องฟ้าโปร่งตลอดปี  มีฝนตกปานกลาง  ส่วนใหญ่ตกในฤดูหนาว   พืชพันธุ์ธรรมชาติเป็นป่าละเมาะ  เป็นพุ่มไม้เตี้ยๆ  ที่เรียกว่า “ป่าแคระ

    8.  ภูมิอากาศหนาวกึ่งขั้วโลก หรือ ภูมิอากาศแบบป่าไทก้า   ได้แก่บริเวณทางตอนเหนือของประเทศแคนาดา  และมลรัฐอะลาสก้าของอเมริกา   ลักษณะภูมิอากาศหนาวจัดเป็นระยะเวลานาน  มีหิมะตกหนัก  ฤดูร้อนอากาศเย็นและมีระยะสั้น  มีฝนตกน้อย  พืชพันธุ์ธรรมชาติได้แก่ป่าสน

    9.  ภูมิอากาศแบบทุนดรา    ได้แก่บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรอาร์ติกของมลรัฐอะลาสก้าและแคนาดา  ร่วมทั้งชายฝั่งของเกาะกรีนแลนด์  ลักษณะอากาศหนาวเย็นตลอดปี  พืชพันธุ์ธรรมชาติเป็นพวก  มอส   ตะไคร่น้ำ    เฟิร์น

    10.  ภูมิอากาศทุ่งน้ำแข็ง   ได้แก่บริเวณเกาะกรีนแลนด์    ลักษณะภูมิอากาศหนาวจัดตลอดปี  พื้นที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งตลอดปี  ไม่มีพืชพันธุ์ใดๆ ขึ้นได้เลย   บริเวณขอบชายทะเลจะมีพืชพันธุ์ธรรมชาติจำพวก มอส  ตะไคร่น้ำ  เฟิร์น ขึ้นได้บ้าง

    11.  ภูมิอากาศทะเลทราย   ได้แก่บริเวณตอนกลางของที่ราบสูงเม็กซิโก  ลักษณะภูมิอากาศร้อนจัดตลอดปี  มีฝนตกน้อยมาก พืชพันธุ์ธรรมชาติได้แก่ พืชทะเลทราย  เช่น  กระบองเพชร  ไม้พุ่มหนาม

    12.  ภูมิอากาศแบบที่สูง   ได้แก่บริเวณเทือกเขารอกกี  และเทือกเขาทางด้านตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ  ซึ่งมีลักษณะภูมิอากาศแตกต่างกันไปตามระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล บริเวณยอดของเทือกเขาสูงเหล่านี้จะเป็นป่าสน  บางแห่งมีหิมะปกคลุมแบบทุนดราซึ่งขึ้นอยู่กับระดับความสูงของเทือกเขาเป็นสำคัญ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×