คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ( Ramayana ) Little Monkey & The Wrath of Wind
( Ramayana ) Little Monkey & The Wrath of Wind
Summary : เจ้าลิงน้อยมารุตีหรือหนุมานในวัยเด็กอยากกินผลไม้สีแดงบนท้องฟ้า
ก็ดันเกิดปัญหาขึ้นซะได้ซิเนี่ย !!
( เอาใจแฟนๆ ที่รักและปลื้มหนุมานเวอร์ชั่นเบเบ๊โดยเฉพาะ ! )
^*^*^*^*^
“ ข้าจะกินอีก เอามาๆ ” กุมารน้อยแสนซนโวยวายลั่น เหล่านางพี่เลี้ยงต่างพากัน
ส่ายหน้าหนีกันเป็นแถว เขาไม่ใช่เด็กธรรมดาเสียด้วย เป็นราชกุมารวานร
โอรสองค์เดียวของรานีอัญชนาผู้ศรัทธาพระมหาเทพ พระองค์จึงได้ประทานพร
แก่นางและพญาเกศรีให้ได้บุตรชายหน้าตาน่ารักผ่านองค์พระพาย
ดังนั้น ราชกุมารน้อยจึงได้รับนามแรกเกิดว่า “ มารุตี ”
รานีอัญชนาได้แต่ส่ายดวงหน้างดงามของนาง ลูกลิงเผือกของนางซนอีกแล้ว
“ ข้าเบื่อมารุตีแล้วเพคะ เขาแกล้งลูกข้าทุกวัน ”
“ วิ่งซน เพื่อเอาผลมะม่วงจนหมดสวนเลยเพคะ ”
“ ท่านเป็นแม่ ต้องอบรมสั่งสอนบ้างซิ ”
เสียงพร่ำบ่นจากเหล่านางกำนัล ทำให้อัญชนาต้องมายืนเท้าสะเอว
“ มามา มามา ข้าจะกินมะม่วงสุกอีก เอามาๆ ”
แขนเรียวเล็กอ้ากว้าง หากถูกมารดาเขกบนกระหม่อมแทน
“ โอ๊ย ๆ มามา เค้าจะฟ้องบิดาว่าท่านตีหนู ” เด็กน้อยโวยวาย
อัญชนาจึงดุใส่บุตรชาย “ ซนเกินไปแล้ว มารุตี รู้ไหม ทุกคนทั่วป่าของเรา
เอือมระอากับเจ้าแล้วนะ แม่ต้องตีเจ้าซะแล้ว เจ้าลิงน้อย ! ”
พอนางจะยกมือขึ้นตีบุตรชาย พญาวานรเกศรีก็รีบมาปกป้องโอรสน้อย
มารุตีรีบโดดเข้าอ้อมกอดของบิดาไว้ แถมร้องไห้สะอื้นแกมประจบ
“ ไม่ต้องหรอก อัญชนา เขายังเล็กนัก อย่าตีลูกเลยนะ ”
“ แต่ว่า...”
“ เขาเป็นพรจากพระเป็นเจ้า ถึงซนไปหน่อย แต่จะไม่เป็นพาเป็นภัยกับใครแน่ ”
อัญชนาจึงท้ายสะเอว “ ถึงกระนั้น ข้าก็ต้องลงโทษ ไม่ให้ซนเกินไปเพคะ
ให้เจ้าจ๋อน้อยอยู่ในห้องนอนนี่แหละ ”
“ มามาใจร้าย ปิตาช่วยหนูด้วย ” พญาวานรจึงคุกเข่าเพื่อจูบกระหม่อมน้อย
ของพระโอรส “ อยู่ในห้องจนถึงอาหารค่ำนะ แล้วค่อยกินมะม่วง”
เมื่อพญาเกศรีและรานีอัญชนาออกจากห้องเด็กของมารุตีไป
เจ้าชายวานรน้อยหงุดหงิด เขวี้ยงของเล่นจนพังหมดด้วยความหิว
“ มามา ปิตา ลงโทษเรา...ไม่ยุติธรรม เราแค่อยากกินมะม่วงเท่านั้นเอง ”
จนกระทั่งดวงเนตรสีนิลวาบวับเห็นแสงสีทองที่ออกมาจากหน้าบัญชร
แสงสีทอง...ออกมาจากผลไม้สุกสีแดงบนท้องนภากว้าง ยังความสนใจให้เกิดแก่
มารุตีน้อยเป็นอย่างยิ่ง เจ้าตัวน้อยกระโดดขึ้นลงไปมากับขอบหน้าต่าง
“ ผลไม้ลูกเบ้อเริ่มเล้ยยยย !! ปิตากับมามาไม่ให้เรากินผลไม้บนดิน งั้นเราจะกิน
บนท้องฟ้าแล้วกัน ”
เจ้าชายวานรน้อยคว้าคทาแล้วก็เหาะขึ้นท้องนภา ด้วยว่าเขาเป็นบุตรแห่งวายุเทพ
การเหาะจึงเป็นเรื่องง่ายทีเดียว มารุตีไม่รู้ว่าตอนนี้เหล่าคณะเทวากำลังมองด้วย
สนใจ ขนาดเทวฤาษีนารทยังร้องว่า “ นารายณ์ ! นารายณ์ ! เทพทั้งหลาย
ดูเจ้าหนูน้อยนั้นซิ ทำไรเนี่ย ”
“ เขากำลังจะบินไปหาสุริยเทพ ”
“ ไม่กลัวถูกเผาเหรอ เขากล้าทนรังสีทั้งพันจากดวงอาทิตย์ได้อย่างไร ? ”
“ เด็กนั้น กล้าจังเลยท่านเอ๊ย! ”
มารุตีน้อยก็ยังตั้งหน้าตั้งตาเหาะไปหาดวงอาทิตย์สีแดงจ้าอยู่นั้นเอง
“ ว้าว ! ยิ่งเหาะมาใกล้ ผลไม้นี้ก็ดูน่ากินมากขึ้น อยากกินมากเลยๆ ”
ดวงตาของวานรน้อยเปล่งประกายวาบวับไม่นาน ก็ต้องเห็นผลอะไรก็ไม่รู้
มันเป็นสีดำดูหยาบพิกล แถมตามด้วยเสียงหัวเราะ
“ วันนี้ ข้าจะกินเจ้าสุริยเทพ ฮ่าๆ ”
มารุตีน้อยจึงคิดว่า...ผลไม้อีกผลหนึ่ง
“ เจ้าเป็นผลไม้เหรองั้ย ”
ผลไม้สีดำเห็นเด็กชายหน้าเป็นลิงจ๋อก็เอะใจ...มันบินได้เหรอเนี่ย...
“ ข้าไม่ใช่ผลไม้ ข้าคือราหู ยักษ์ราหูรู้จักไหม ข้าต้องกินเจ้าดวงอาทิตย์วันนี้
เพราะมันทำให้ข้าต้องถูกพระวิษณุตัดศีรษะจนเหลือแบบนี่งั้ยเล่า ”
“ เจ้าเป็นยักษ์เหรอ น่ากลัวน้อยกว่าที่ข้าคิดนะ ข้าไม่สนเพราะข้าจะกินผลไม้
สีแดงผลนั้น ไปซะเถอะ ”
ยักษ์ราหูไม่เคยถูกเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมดูหมิ่นแบบนี้ จึงโวยวาย
“ หนอยๆ เจ้าลิงจ๋อ ข้าจะลงโทษเจ้า ”
ดวงตาของยักษ์ผู้เหลือแต่ศีรษะจึงเสกเปลวไฟมาใส่มารุตี
แต่เด็กชายกลับใช้คทาฟาดจนยักษ์ราหูเห็นดวงดาวลอยเต็มตา และปลิวไปถึง
วิมานของพระอินทร์
“ ยักษ์เหลือแต่หัวแค่นี้ ทำให้เราเสียเวลา ไปกินผลมะม่วงนั้นดีกว่า ”
แต่มารุตีน้อยก็บินไปหาสุริยเทพต่อไป
^*^*^*^*^*^
“ ฮือๆ ข้าไม่ยอมนะ องค์อินทรา ”
ยักษ์ราหูทูลฟ้องให้ประธานของปวงเทพชั้นสวรรค์
“ เกิดอะไรขึ้น ท่านราหู ”
หัตถ์เรียวผ่องด้วยรัศมีประคองศีรษะของยักษ์กึ่งเทพด้วยความเมตตา
“ ฮือๆ ท่านต้องช่วยข้านะ ท่านปราบเจ้าลูกลิงนั้นได้แน่ๆ ”
องค์อินทร์จึงพยักพักตร์รับ แค่ดำริว่า เด็กน้อยจะมาสู้ข้าได้หรือไร
^*^*^*^*^
มารุตีน้อยกำลังใกล้ถึงพระอาทิตย์แล้ว....
ทันใดนั้น ดวงตากลมโตก็กระทบกับแสงวาบวับจับเป็นประกาย
บุรุษร่างสูงในอาภรณ์สีทองปนขาว หน้าตางามสง่ายิ่ง
ด้านข้างของเขาก็คือ ราหู นั้นเอง
“ ยักษ์ราหูกลับมาทำไมเนี่ย แปร้ๆ ”
“ ข้าต้องถามเจ้ามากกว่าเจ้าหนู เจ้าต้องการอะไรถึงลอยมาบนฟ้า
เจ้าต้องการอะไร ”
“ ข้าจะกินมะม่วงนั้น ” มารุตีตอบ “ แล้วท่านเป็นใครล่ะ คนเฝ้าสวนเหรอ ”
“ เจ้าลิงน้อย เจ้ากำลังพูดกับอินทรา ผู้ปกครองสวรรค์แห่งนี้
พ่อแม่เจ้าเป็นใคร ถึงกล้าปล่อยเจ้ามาเล่นถึงข้างบน ”
“ ข้าชื่อ มารุตี ข้าเป็นลูกของมามาอัญชนา และปิตาเกศรี ราชาวานร อีกอย่างนะ
พวกท่านก็ไม่เคยดุใส่ข้า วางมาดแบบท่านด้วย ”
องค์อินทร์เริ่มโมโหยิ่ง !
“ ข้าไม่ให้เจ้าล่วงล้ำไปยังคันรถของสุริยเทพหรอก ลิงน้อย ”
เมื่อราชาแห่งเทพสวรรค์เสกคทามาหนึ่งแท่งฟาดใส่มารุตี
เด็กชายก็ยังเอาชนะคทาขององค์อินทราได้ซะนี่
“ แปร้ๆ ท่านเจ้าของสวน ท่านใจดีกับข้าไปได้ งั้นข้าจะบินต่อนะ ”
ยักษ์ราหูตะโกนลั่น “ ไอ้เด็กจ๋อ ! ”
องค์อินทร์กลับไวกว่า...พระองค์เสกอสุนีบาตขึ้นมาและฟาดใส่คาง
ของมารุตีทันที จนเด็กชายร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด และตกลงจากท้องฟ้า
นารทฤาษีมาปรามองค์ราชาแห่งเทพ “ อินทรา นั้นเป็นบุตรแห่งวายุนะ ”
“ ห๊า !!! เจ้าลูกจ๋อ นั้นเป็นลูกของพระพายเหรอ ” ราหูยังตวาดไม่เลิก
^*^^*^*^
วายุเทพหรือพระพายนั้นเอง ทนเห็นโอรสตกจากท้องฟ้าไม่ได้จึงแสดงองค์เป็น
บุรุษรูปงามยิ่งมารองรับร่างน้อยทันที “ มารุตีน้อยๆ เป็นอะไรลูก ฟื้นซิ ฟื้น ! ”
เด็กชายก็ยังหมดสติ ผู้เป็นชนกจึงกอดร่างน้อยไว้แนบอุระ
“ อินทรา ! ท่านทำร้ายลูกข้า เขาเป็นยอดฤทัยแห่งข้า ถ้าเขาไม่ฟื้น
ข้าจะหยุดมวลอากาศของโลกใบนี้ ! ”
เทพหนุ่มจุมพิตหน้าผากของมารุตี แล้วเหาะลงมายังถ้ำแห่งหนึ่ง
ร่างสูงวางมารุตีน้อยบนแผ่นศิลากว้าง หลังจากนั้นก็ร่ายพระเวท
จนสิ่งมีชีวิตทั้งมนุษย์และสัตว์เริ่มออกการหอบ และพากันหมดสติ
องค์พรหมมาผู้เป็นเจ้า รับรู้ทันทีเพราะพระอินทร์ นารทฤาษีได้มากราบทูลแล้ว
ว่าทำผิดสิ่งใดกับพระพาย
“ เรายินดีช่วย ”
พระพรหมเป็นเจ้าพร้อมคณะเทพปรากฏให้พระพายทอดเนตร
“ นมัสการ พรหมมา พระเป็นเจ้า ”
“ วายุเทพ เราจะดูแลบุตรของเจ้า ”
พระผู้มีสี่พักตร์รับร่างของวานรมาอุ้ม ทรงร่ายพระเวทแค่ไม่กี่อึดใจ
เด็กน้อยกระพริบตาขึ้นลง แปลว่า ได้สติแล้ว
ดวงตาสีนิลเปล่งประกายเหมือนแสงดาราหันมายังเทพหนุ่มในอาภรณ์ขาว
เขาจำได้ดีว่า นี้คือบิดาผู้ให้กำเนิดเขาแท้ๆ...ชนกบังเกิดเกล้า
“ ปิตาจิ ลูกโดนอะไรเหรอ ? ”
พระพายทรงรับร่างน้อยมากอดด้วยความปีติ “ ลูกพ่อ ! ”
“ มารุตี เจ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ”
ลิงน้อยยังทำตาโตใส่อีก
“ นี้คือ องค์พรหมมา บังคมท่านซิ มารุตีน้อย ”
องค์อินทร์จึงรู้สึกเข้าพระทัยเจ้าวานรน้อยนี้ พระองค์จึงกล่าวคำขอโทษ
“ เพราะความผิดของข้า ทำให้คางของเขามีรอยแผลเป็น
เขาจะได้รับนามใหม่ว่า หนุมาน วายุบุตรา ”
เด็กชายอุทานด้วยความดีใจ หลังจากนี้ “ หนุมาน” จะเป็นที่รู้จักของคนทั้งโลก
เมื่อกุมารน้อยหายดี ผู้เป็นบิดาจึงคืนเหล่าเทพแห่งสายลมให้แก่อากาศบนพิภพ
องค์พรหมาและเหล่าเทพก็ประทานพรอันล้วนเป็นมงคลยาวยืดให้แก่หนุมาน
" ปิตาจิ ทำแผลที่คางให้หนูด้วยนะ แล้วก็...จะกลับบ้านแล้ว "
ศีรษะของวานรน้อยซบเรียวอังสาของเทพบุตรร่างสูงจนนิทราไป
วายุเทพคืนร่างน้อยให้แก่พญาวานรเกสรีและนางอัญชนา
" เจ้าไปถูกอะไรที่คางมา ลูกรัก " มารดาถาม
" ถูกสายฟ้าขององค์อินทราจ๊ะ มามา "
นางแทบสลบเมื่อได้ยินประโยคนี้ เกสรีประคองภรรยาพลางถอนหายใจ
วายุเทพจึงทรงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง จากนั้นทรงจุมพิตหน้าผากขาวของลิงน้อยอีกครั้ง
" ดูแลปิตามามาของเจ้าให้ดี พ่อจะพาเจ้าไปเข้าเฝ้าสุริยเทพ "
เจ้าลิงน้อยกระพริบตาปริบๆ เมื่อรู้ความจริงแล้วว่าผลไม้ที่ตนอยากกินคือเทวดาองค์สำคัญ
ของโลกองค์หนึ่ง แต่ว่า...เรากลับเอาพระองค์เข้าปากได้งั้ยเนี่ย ?
เด็กชายจึงมองไปท้องฟ้าอีกครั้ง เทวบุตรในภูษาสีแดงชาดกำลังแย้มยิ้มมาให้นั้นเอง
มารุตีน้อยโบกมือด้วยอาการร่าเริงสดใส ทำความเคารพบิดาบังเกิดเกล้าอีกครั้ง
วายุเทพทรงประทานพรให้สามพ่อแม่ลูก แล้วทรงสลายเป็นสายลมหายไป
~*~*~*~*~*~*~
หนุมานในฉบับรามายณะ เป็นพรจากพระศิวะที่ทรงประทานให้กับสองราชาราชินี
วานรที่ชื่อว่า " เกสรีและอัญชนา " โดยผ่านองค์พระพายหรือวายุเทพ
ลิงน้อยจึงเป็นลูกสองพ่อนี้เอง // ไม่สับสนระหว่าง " ปิตา กับ ปิตาจิ " นะเอ้อ ^^
หนุมานมีชื่อในวัยเด็กว่า " มารุตี " ตั้งตามองค์พระพายนั้นแหละ จึงเป็นลิงที่เหาะได้
คล่องอยู่ตัวเดียว ไปไหนมาไหนคล่องปรื้อออออ !!
มารุตีน้อยคว้าองค์พระอาทิตย์มาครอง เพราะนึกว่าเป็นผลไม้ ^___^
ความคิดเห็น