ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~ รวมฟิคประกอบมหากาพย์รามายณะและมหาภารตะ ~

    ลำดับตอนที่ #6 : ( Ramayana ) The Fair Champaka

    • อัปเดตล่าสุด 20 ธ.ค. 56


    ( Ramayana ) The Fair Champaka

     

    Pairing : Lakshman / Urmila

     

    Summary : เจ้าชายหนุ่มลักษมัณพบรักครั้งแรกกับราชกุมารี ขนิษฐาแห่งสีดา

     

    ( เชียร์องค์ลักษมัณในฐานะพระรองเป็นการส่วนตัวนะคัฟฟฟ >O< )

     

    ~*~*~*~*~*~*~

     

    อุรมิลา น้องชอบมาลีชนิดใด ” ราชธิดาองค์ใหญ่ของท้าวชนกกำลังบรรจงมาลัย

     

    เพื่อบุรุษหนุ่มที่นางกำลังเลือกในพิธีสยุมพร ดวงเนตรงามยิ่งมฤคีสบกับของพระน้องนาง

     

    ชอบทุกอย่างที่สวยงามเพคะ ” ดรุณีน้อยวัยย่างเข้าสิบห้าปีตอบด้วยน้ำเสียงร่าเริง

     

    นางคือ ราชกุมารีลำดับที่สองแห่งมิถิลานคร และเป็นที่รักยิ่งของสีดา เชษฐภคินี

     

    น้องหญิงจ๊ะ เจ้าคิดว่าพี่สมควรเข้าพิธีสยุมพรแล้ว...”

     

    น้องเสียดาย พี่หญิงสีดากำลังออกเรือนและคงไม่ได้เล่นด้วยกันอีก...”

     

    นิ้วเรียวงามที่ได้รับการแต้มชาดประคองแก้มนวลของพระน้องนาง

     

    เราเป็นสาวแล้วนะ พี่กำลัง...กำลังลุ้นจนดวงใจเต้นสั่นออกมา...เพราะว่าพี่...”

     

    นวลปรางของราชกุมารีแห่งมิถิลาแดงระเรื่อขึ้นจนสังเกตได้

     

    อุรมิลาหัวเราะกิ๊ก “ พี่ชอบเจ้าชายที่พบเมื่อยามสายในอุทยานของเราใช่ไหม ? ”

     

    พี่ไม่รู้ว่า เขาผู้นั้นจะยกคันศรแห่งองค์ศิวะเจ้าขึ้นหรือไม่ กังวลใจจริง...”

     

    มือเล็กบางของผู้เป็นน้องสาวกุมเรียวหัตถ์ของสีดา

     

    ถ้าเขาเป็นคู่สร้างของพี่หญิง น้องเชื่อว่าเขาต้องยกสหัสถามธนูได้แน่ ”

     

    พี่อยากทราบว่าเขาคือใคร เขามาพร้อมกับท่านคุรุเทพ และก็อีกคนหนึ่งดูเหมือนจะ

     

    เป็นน้องชาย คงได้พบกันวันพรุ่งนี้ ”

     

    อุรมิลาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ยาวประทับ ฝีเท้าประดับลูกกระพรวนวิ่งจากไป

     

    น้องหญิงไปไหนล่ะ ? ”

     

    ก็ไปเดินเล่นหามาลีงามตามประสาน้องนั้นแหละ ”....ความจริงเราอยากไปเห็นองค์ราม...

     

    สีดาจะลุกตาม แต่...น้องสาวจอมซนก็หนีลับสายตาของนางเสียแล้ว

     

    ~*~*~*~*~*~*~

     

    เจ้าชายแห่งอโยธยากำลังเลือกบุปผางามที่ตนตั้งใจเก็บไปถวายพระเชษฐาองค์ราม

     

    ทั้งสองพระองค์ร้อยมาลับบูชาองค์มหาเทพเป็นประจำ ที่สำคัญอุทยานแห่งมิถิลา

     

    ก็อุดมด้วยดอกไม้นานาพรรณงดงามไม่ได้แตกต่างไปจากอโยธยา

     

    ยามนี้ลักษมัณทรงระลึกถึงบ้านขึ้นมา แต่สำหรับเขาแล้ว หน้าที่สำคัญเหนือสิ่งใด

     

    จนเมื่อถึงเขตที่ปลูกต้นจำปากะสีเหลือง ส่งกลิ่นหอมอบอวล

     

    ชายหนุ่มก็ได้สดับเสียงกระพรวนเล็กๆ ที่อยู่ใกล้กับพุ่มไม้

     

    หัตถ์เรียวจึงเสยพุ่มไม้นั้นออกเพื่อหาต้นเสียง จึงพบกับดวงตากลมโตของที่ดูคล้ายกับ

     

    ดวงตาของลูกกวางน้อย และดวงตาคู่นั้นก็ส่องประกายวาบวับ

     

    แย่แล้ว ! ” เจ้าของดวงตาคู่นั้นรีบลุกหนี จนลักษมัณเองเหมือนจะตกใจ

     

    เดี๋ยวก่อนซิ แม่ดรุณี ขอโทษนะ ถ้าข้าทำให้เจ้าตกใจ ”

     

    ดวงตาของลักษมัณสังเกตว่าเจ้าของนี้เป็นสตรีสาวนั้นเอง

     

    นางสวมอาภรณ์สีฟ้าคราม รัดเกล้าสีทองเหนือศีรษะ เรือนเกศาดกดำถักเปีย

     

    ด้วยดอกมะลิขาวสะอาด สายลมพัดกลิ่นหอมละมุนประชิดใกล้กับนาสิก…

     

    ไม่เป็นไรหรอก ”

     

    ดวงหน้าหมดจดหันกลับมา ลักษมัณทรงรู้สึกว่านางมีความงดงามชวนมองทีเดียว

     

    อาจจะไม่ได้ชื่อว่า งามที่สุดดังเช่นพระลักษมีเทวี เพราะนางมีรูปร่างสมส่วน ช่วงไหล่เล็ก

     

    ใบหน้าเรียวอิ่มผุดผาดเป็นสีนวลไม่น่าเรียกว่าเป็นที่เสน่หา หากยังคงความอ่อนโยน

     

    ไว้ด้วยริมโอษฐ์เล็กบาง  เรียวจมูกโด่งประดับด้วยแหวนกระจิริดเท่านั้น

     

    อุรมิลาเห็นบุรุษวัยหนุ่มร่างสูงโปร่ง แข็งแรง และมีอาภรณ์สีทองคำประดับเรียวแขน

     

    นางก็รู้ทันทีว่าเขาต้องเป็นเจ้าชายนครใดนครหนึ่งแน่นอน และต้องชอบการต่อสู้ด้วย

     

    เพราะมีลูกธนูใส่กระบอกสะพายหลังอยู่เต็มขนาดนี้

     

    เขาเป็นกามเทพหรือไร...ผิวเหลืองนวล ใบหน้างามสง่า แม้ว่าขนงเข้มจะขมวดหนักไป

     

    เสียหน่อย ริมฝีปากเรียวได้รูปก็เหมือนคันศรแกร่งในมือนั้นด้วย

     

    สิ่งเดียวที่ดูขัดตาสำหรับนักรบหนุ่มคือ ตะกร้าไม้ที่คล้องในแขนขวานั้นเอง

     

    ดรุณีน้อย เจ้ามาชมมาลีในอุทยานในสวนใช่ไหม ”

     

    อุรมิลากำลังลังเลใจ คนนี้มาพูดว่านางเป็นเด็กหญิง จะยอมได้อย่างไร ?

     

    ที่นี้...ที่นี้เป็นบ้านของข้า ท่านถือสิทธิ์อย่างไรเข้ามาเล่า แถมถือคันศรไว้อีก

     

    สวนแห่งนี้ไม่ใช่สถานที่ล่าสัตว์นะ ถ้าท่านยิงสกุณาน้อยเพียงตัวเดียว

     

    รับรองท่านต้องได้รับโทษหนักแน่ ”

     

    ลักษมัณไม่ประนีประนอมใครนอกจากเจ้าพี่รามจันทราอยู่แล้ว

     

    คิดจะเถียง...กับผู้หญิงคนนี้นะเหรอ...เสียเวลาจะตาย...

     

    นางกำนัลน้อยเช่นเจ้าถือสิทธิ์อย่างไรมาต่อขานวาจากับข้า ”

     

    มือเล็กของอุรมิลาจึงกำมือทั้งสองข้างไว้แน่น “ ข้าไม่ใช่นางกำนัลเสียหน่อย

     

    ข้าคือ...อุรมิลา ชนากี ราชธิดาองค์รองแห่งพระเจ้าชนกและราชินีสุนัยนา ”

     

    ชายหนุ่มหัวเราะด้วยอารมณ์ร่าเริงเหมือนได้ของขวัญถูกใจ

     

    ท่านขำอะไรล่ะ ? ”

     

    ข้าไม่ยักรู้ว่าราชธิดาสีดา ชนากี จะมีน้องสาวเช่นนี้เลย ข้าหัวเราะผิดด้วยเหรอ ? ”

     

    ถึงพี่หญิงสีดาจะมาจากผอบในรอยไถที่พระบิดานำมาจากนอกเมือง และข้าก็เกิด

     

    หลังนางเพียงหนึ่งปี แต่ข้ากับนางก็รักและสนิทนางมากนะ ท่านทราบไหม ? ”

     

    ดวงตาสีนิลคมกล้าของชายหนุ่มสบกับของอุรมิลาอีกครั้งแบบหยั่งเชิง

     

    กุมารีน้อยคิดว่าทะเลาะกับหนุ่มคนนี้ ไม่คุ้มกับการไปหาบุรุษที่พี่นางสีดา

     

    กำลังอยากพบหรอก ชายคนนี้ถึงจะหล่อเหลาก็ไม่ใช่คนที่เราอยากพบ !

     

    ฝีเท้าบางจึงสาวหนี แต่ก็สู้ความเร็วของบุรุษผิวกายสีนวลนั้นไม่ได้

     

    ท่านอย่ายืนขวาง ข้ากำลังช่วยพี่หญิงของข้าอยู่นะ ” นางทักท้วง

     

    บุรุษหนุ่มถือคันศรยิ้มแป้น “ ลักษมัณ อนุชาแห่งองค์ราม อภัยท่านด้วย ราชกุมารี ”

     

    อุรมิลาตกใจยิ่ง เพราะมารยาทในการต้อนรับครั้งแรกก็ไม่ถูกต้องเสียแล้ว

     

    ท่านเป็นอนุชาของรามแห่งอโยธยา ข้าควรอภัยท่านมากกว่าเพคะ ”

     

    มือเล็กทั้งสองข้างรีบแตะปลายรองบาทสีทองนั้น มือเรียวของลักษมัณกลับเป็น

     

    ฝ่ายรั้งร่างเพรียวบางให้ลุกขึ้น เจ้าหญิงอุรมิลาขยับกายออกจากเกาะกุมของร่างสูง

     

    หม่อมฉันแค่มาเดินเล่นตรงมุมนี้เท่านั้นเพคะ องค์ลักษมัณทรงมีธุระอันใด ”

     

    ทีอย่างนี้เรียบร้อยเลยนะ ราชกุมารีน้อย ข้ากำลังมาเด็ดดอกไม้เพิ่ม

     

    ตามรับสั่งของท่านพี่เท่านั้นเอง เมื่อครู่นี้ เจ้ายังดุข้าไม่หยุดเลย ”

     

    ก็ข้าเห็นท่านถือธนูกับคันศรมานี่ ข้าก็ต้องคิดว่าท่านต้องมายิงนกในสวนแน่เลย ”

     

    ลักษมัณยิ้มให้อีกครั้ง “ ข้าไม่ล่าสัตว์เพื่อความสนุกหรอก ให้สังหารพวกรากษสยังจะดีกว่า

     

    เจ้ารู้ไหม พวกนั้นทำลายสำนักของท่านคุรุเทพมากเพียงไหน ถ้าไม่ได้ท่านพี่ราม

     

    ช่วยไว้ ป่านนี้พวกมันคงบุกมาถึงนครมิถิลาแล้วล่ะ ”

     

    อุรมิลานึกหมั่นไส้เจ้าชายแสนอวดดีคนนี้เสียจริง นางจึงเด็ดดอกจำปากะสีเหลืองไปถูก

     

    เรียวแขนขององค์ชายลักษมัณ พลางหัวเราะเสียงใสน่ารัก

     

    อุรมิลา ชนากี ! ” เจ้าชายหนุ่มอุทาน

     

    ฮ่าๆ ข้ารู้ว่าท่านเก่งจริง ลักษมัณแห่งอโยธยา ข้าเชิญให้ท่านเก็บดอกจำปากะ

     

    ไปได้เลยเพคะ ส่วนข้าคงต้องรีบกลับก่อนพี่สีดาจะดุข้าอีก ”

     

    ลักษมัณจึงได้แต่มองร่างเพรียวเล็กนั้นวิ่งไปยังถนนสายเล็กเบื้องหน้าแล้ว

     

    เจ้าชายแห่งอโยธยาจึงเก็บดอกจำปากะนั้นขึ้นมาสูดดม

     

    รับกลิ่นหอมหวาน...อุรมิลา ขนิษฐาของสีดา...ข้าขอภาวนาต่อมหาเทวะ

     

    โปรดบันดาลให้เจ้าพี่รามชนะในการยกสหัสถามธนูด้วยเถิด

     

    ให้ข้าได้พบอุรมิลาอีกครั้งหนึ่งด้วย...น้ำเสียงของนางช่างไพเราะดุจเสียงพิณ

     

    และดวงตาหวานหยดย้อยของนาง...ข้าละเมอจนได้ซิเนี่ย...

     

    มือเรียวจึงวางดอกจำปากะสีเหลืองนวลไว้แนบอุระ...ถ้าพี่รามได้สมรสกับ

     

    ราชกุมารีสีดา เจ้าหญิงองค์นี้ก็คงได้อยู่ใกล้ชิดกับเรา กามเทพและนางรตี

     

    ได้โปรดเมตตาข้าเถิด...เพราะว่าลักษมัณผู้นี้หลงรักสตรีเข้าแล้ว...

     

    ~*~*~*~*~*~

     

    เพื่อนๆที่อ่านรามเกียรติ์อาจจะสงสัยว่า พระลักษมณ์ทรงมีสาวคนรักตอนไหนเนี่ย ?

     

    ในฉบับรามายณะ ลักษมัณได้แต่งงานกับอุรมิลา เจ้าหญิงแห่งมิถิลานะครับ

     

    นางเป็นราชธิดาแท้ๆของท้าวชนกกับราชินีสุนัยนาที่เกิดหลังสีดาเล็กน้อย

     

    สีดาเป็นธิดาบุญธรรมที่ได้มาจากผอบฝังดินตอนท้าวชนกทำพิธีแรกนาขวัญ

     

    นอกจากนี้เจ้าหญิงทั้งสองยังมีลูกพี่ลูกน้องชื่อ มันดาวีและศรุตกีรติที่แต่งงานกับองค์ภรต

     

    และศัตรุฆน์พร้อมกันกับองค์รามด้วย...บรรยากาศโรแมนซ์กว่าของไทยอีกเหอะๆ

     

    ลักษมัณออกจะเป็นบุรุษแสนซึนเดเระ... มาเปลี่ยนให้เป็นหนุ่มหวานๆบ้างก็เข้าท่าดีนะ ^^

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×