คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : The First Sight ตอนที่ 2
หลังจากที่เด็กหนุ่มได้ส่งร่างบอบบางในชุดกระโปรงสีขาวคืนให้กับแม่นมแวร์นินแล้ว
เขาก็กลับมาหาอาจารย์เคียร์ดัน และพบว่าสตรีพรายเกศาสีทองเข้ม และร่างสูงยิ่ง
สูงกว่าลอร์ดผู้ไว้เคราสีขาวด้วยซ้ำ ทั้งสองฝ่ายต่างกำลังสนทนากันด้วยหัวข้อที่เขาทราบได้ทันที
ว่าต้องเป็นเรื่องจริงจังและเคร่งเครียดเกินกว่าจะให้เด็กน้อยไร้เดียงสาเข้าใจ
“ ข้ากังวลว่าพวกเขาจะกลับมาทวงคืนดวงมณีซิลมาริลอีก ท่านนายเรือ แล้วสงครามนั้นก็จะ
ไม่จบสิ้นโดยง่ายแน่...”
“ อย่าเพิ่งตระหนักใจเกินไป ท่านหญิงโนลดอร์ พวกเขาอาจจะมีกำลังทหารพร้อมสรรพ
แต่ว่า...สงครามการประหารเครือญาติเพิ่งจบสิ้นไป...ข้าเชื่อแน่ว่าพวกเขาต้องไตร่ตรองไว้ก่อน
มิฉะนั้น แผนการที่จะต่อสู้กับจอมมารมอร์กอธจะล้มเหลว ”
“ ข้าเป็นห่วงกิลและเอลวิง...” สิ้นคำนี้ นางก็เห็นเด็กหนุ่มผมสีเข้มอยู่ด้านหน้าของห้องโถง
ดวงตาของเขายังคงแน่วแน่ นางจึงยิ้มให้ “ หนูกิล ข้าอยากพบเจ้าอยู่พอดีเลยจ๊ะ ”
“ ท่านป้ากาลาเดรียล ข้าไม่ได้พบมาตั้งหลายวัน ไม่ทราบว่าท่านไปไหนมาเหรอครับ ? ”
“ ข้าไปสอดแนมมา ” สตรีพรายตอบ “ หากที่รักของข้ายังไม่ได้กลับมาหรอกจ๊ะ
ข้าขับม้ากลับมาก่อน เพราะคิดถึงเจ้าและก็เจ้าหญิงเอลวิง ”
ลอร์ดเคียร์ดันพยักหน้ารับ “ เจ้าไปตามนาง แล้วนางก็ยังไม่มา เพราะอะไรเล่า ”
“ โธ่ ! อาจารย์ นางยังเล็กจะตาย พอข้าไปปลุกนาง นางก็ยังไม่ค่อยจะตื่น แถมยังหนีแม่นมไปร้อง
ไห้อยู่คนเดียว ข้าจึงให้เจ้ากลอสอยู่เป็นเพื่อนเล่นของนางไปแล้ว ”
ท่านหญิงพรายในชุดกระโปรงยาวสีเหลืองอ่อนจึงหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นจากโต๊ะที่นางนั่ง
“ ข้ารบกวนเจ้าอีกครั้งนะ หลานรัก เจ้านำนิทานเล่มนี้ไปให้นางอ่าน ข้าเชื่อว่านางต้องชอบ
และนางจะสบายใจมากขึ้น ”
พรายหนุ่มน้อยยิ้มด้วยความปลื้มปิติ ทำความเคารพต่อผู้ใหญ่ทั้งสองก่อนที่จะออกจากห้อง
~*~*~*~*~*~
...สายลม...สายน้ำ...ท้องฟ้า...
ป่าไม้...ใบหญ้า...และดอกไม้...
ใจข้า...มิอาจคลายลืมเจ้า...
เอลวิงนั่งอยู่บนระเบียงไม้ของบ้านพักที่นางกำลังกอดตุ๊กตาเด็กหญิงที่มีผมสีเดียวกับนางไว้แนบอก
ดวงตากลมโตที่ดูจะคับใบหน้าเล็ก แต่มีพวงแก้มอิ่มยังเหม่อลอยอีกครั้ง...
เจ้าลูกสุนัขที่ชื่อว่าอายกลอสวิ่งเล่นกับลูกบอลสีฟ้าอย่างไร้เดียงสา
จนนางได้ยินเสียงเรียกทักของผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว “ เอลวิงน้อย ”
เด็กหญิงผมดำรู้สึกตกใจอีกครั้ง นางกอดตุ๊กตาไว้แน่นกว่าเดิม และนอนลงบนเสื่อ
“ แม่นมของเจ้าบอกว่า เจ้ากินข้าวได้บ้างแล้ว พี่ดีใจนะจ๊ะ”
“ นั้นเพราะว่าหนูหิวต่างหาก ”
เด็กหนุ่มก็ดีดนิ้วดังเป๊าะ ! “ เจ้าเก่งกว่าพี่นะ รู้ไหมตอนพี่มาอยู่กับท่านอาจารย์เคียร์ดันครั้งแรก
พี่กินข้าวไม่ได้ตั้งสามวัน จนพวกเขานึกว่าพี่จะกินน้ำตาประทังชีวิตแล้วรู้ไหม ? ”
“ แสดงว่าพี่ไม่เก่งน่ะซิ เค้าเก่งกว่า...” เอลวิงน้อยตอบ แต่นางก็ยังนอนนิ่งแบบไร้ความรู้สึก
“ พี่ยังไม่ได้แนะนำตัวเลย เจ้าอยากรู้ไหมว่าพี่ชื่ออะไร ? ”
“ หนูกิล เค้าได่้ยินแว่วๆจากคนแก่หนวดขาวๆ และพี่ก็บอกหนูเองด้วย ”
อีกฝ่ายก็เถียงว่า “ นั้นมันชื่อเล่นต่างหากล่ะ ”
เอลวิงน้อยก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสนใจ จนนางได้เห็น...
“ พี่มีชื่อเต็มๆ ว่า อาร์ตานาโร ฟินเนลลัชนะครับ แต่นั้นเป็นชื่อเก่าที่ใช้ในบ้านเกิด
ตอนนี้มีชื่อว่า เอเรย์นิออน กิล – กาลัด แห่งอาร์แวนิเอนและเกาะบาลาร์ ยินดีที่รู้จักนะฮับ ”
พรายหนุ่มหรือตุ๊กตามือที่อยู่ใกล้ใบหน้าของเอลวิง และดัดน้ำเสียงให้อ่อนลง
เอลฟ์สาวน้อยหัวเราะออกมาด้วยความตื่นเต้น
มือเล็กจึงจับมือของตุ๊กตาแล้วดึงขึ้นดึงลง และยกเจ้าตุ๊กตาของตัวเองเพื่อกล่าวทักทาย
“ หนูชื่อเอลวิง เอเลนนิเอลค่ะ ”
“ วันนี้พี่หนูกิลจะพาหนูไปเดินเล่นที่ชายหาด หนูไปไหม ”
“ หนูไปๆ ”
แล้วเสียงขรึมก็มาแทนที่ “ แต่หนูต้องไม่ร้องไห้แล้วนะ ”
เด็กหญิงตัวน้อยจึงวางตุ๊กตาของนางลงบนตัก “ หนู...หนู...”
“ พี่เข้าใจว่าเจ้าทำใจลำบากมาก หนูน้อย พี่เองก็...เคยเป็นเหมือนกัน...”
แล้วมือเรียวก็ยกมือเล็กขึ้นเบาๆ “ ไปเดินเล่นกับพี่นะจ๊ะ เอลน้อย ”
“ คะ ? ” และเสียงของลูกสุนัขก็ตามมาอีกรอบ
พรายหนุ่มก็กล่าวว่า “ กลอสซี่ ไปวิ่งบนชายหาดที่เจ้าชอบกันเถอะ ”
ร่างเล็กแบบบางของเด็กหญิงวัยสี่ขวบก็อยู่ในชุดคลุมสีเทา แสงแดดที่ร้อนระอุทำให้
นางต้องคลุมฮู้ดไว้ปกปิดดวงหน้าไว้ ทว่ามันก็ไม่อาจบังดวงตาสีเทาใสกลมโตคู่นั้นได้
“ เอลน้อย เจ้าชอบทะเลไหม ? ”
เบื้องหน้าของพวกเขาคือทะเลอันกว้างใหญ่ แสงแดดส่องน้ำระยิบระยับเป็นเป็นประกายดุจ
หยาดเพชรและสะท้อนออกมาเป็นสีรุ้ง มองให้ไกลออกไปเสียหน่อยก็เห็นอะไรๆ ที่เป็นสีขาวๆ
“ นั้นคือ...อะไรคะ ? ” นิ้วเล็กชี้ไปเบื้องหน้า
“ นั้นก็ เรือใบ ท่านอาจารย์เกณฑ์พวกพรายชาวเทเลรีให้ช่วยกันสร้างเรือเพื่อการประมง
และก็...ไปยังแดนนิรันดร์...ก็ยังไม่มีใครได้ไปจริงๆ หรือไม่งั้นก็ไม่ได้กลับมา ”
“ จมลงไปใช่ไหม...ทะเลนั้น...น้ำเยอะมาก...มาก...เอลวิงกลัว...”
ใบหน้าเล็กซบไหล่ของพรายหนุ่มหนีอีกรอบแล้ว
“ ถ้าเจ้าไม่ดื้อกับพี่...ไม่กลัว...ทะเลจะไม่มีวันทำร้ายเจ้า...พี่สวดมนต์ต่อเทพอุลโมทุกคืน
เชื่อไหม ? พี่เคยจมน้ำไปรอบหนึ่ง แล้วพี่ก็...ว่ายน้ำเป็นตลอดแล้ว ”
สาวน้อยผู้แสนขี้กลัวถามต่อ “ พี่สอนให้หนูว่ายน้ำได้ไหม ? ”
รอยยิ้มบนริมฝีปากบางหยักขอบได้รูปก็ยิ้ม “ ได้อยู่แล้วซิ เอ้อๆ เจ้าลองเดินบนหาดทรายดูซิ ”
“ ทราย...” ดวงตาสีเทามองเบื้องล่าง “ มันไม่เหมือนหญ้าเลย หนูจะเจ็บไหม ? ”
“ เดินดูซิ ไม่เจ็บหรอก ”
“แต่...หนูก็เคยถูกหญ้าบาด และอด๊าต้องมาทำแผลให้ ”
มือใหญ่กว่าก็วางสาวน้อยเจ้าปัญหาลง เมื่อฝีเท้าเล็กสองข้างลงบนพิ้นทราย...
นางก็รู้สึกถึงความนุ่มละมุนของวัตถุที่นางไม่เคยสัมผัสมาก่อน
“ ยอดเลย ! พี่หนูกิล สบายเท้าจัง ”
“ ลองวิ่งดูซิ ลองวิ่ง เอลน้อย ” เด็กหนุ่มกำชับ “ กลอสซี่ไปวิ่งกัน ! ”
ร่างเล็กในชุดสีขาวก็วิ่งด้วยความเร็วเท่าที่ฝีเท้าคู่นี้จะมีแรงวิ่งไว้ สายลมก็ตีฮู้ดของนางออกจาก
ศีรษะ ปลายผมสีดำขลับหยักศกน้อยๆ ตีแผ่ออกตาม และอายกลอสก็วิ่งน้ำหน้าไปก่อนแล้ว
“ กลอสซี่ ! ” เอลวิงน้อยเรียก แต่เจ้าลูกสุนัขก็ยังวิ่งต่อไปเรื่อยๆอีก
“ พี่หนูกิล กลอสซี่ หนีไปแล้ว ”
พรายหนุ่มหัวเราะเบาๆ “ เขาหนีไปตามเพื่อนน่ะซิ เดี๋ยวก็มา ”
“ เพื่อนเหรอ ?...”
“ เด็กผู้ชายอีกคน เขาเป็น...เอ่อ...มนุษย์เอไดน์...เชื้อสายเดียวกับเจ้า ”
เอลวิงน้อยก็เถียงตอบ “ หนูเป็นเอลฟ์ต่างหากล่ะ ถึงจะมีปู่เป็นมนุษย์ก็เถอะ ”
“ เอาน่า...” เอเรย์นิออนลูบศีรษะน้อย และปัดผมออกจากแก้ม “ เจ้าเป็นเอลฟ์
และเจ้าก็เป็นหลานสาวของเจ้าหญิงพรายที่งดงามที่สุดในแผ่นดิน เมื่อเจ้าโตขึ้น
เจ้าต้องสวยมาก สวยไม่แพ้นางแน่ๆเลย ”
“หนูไม่อยากเหมือนย่า...ไม่อยากเหมือน...และไม่อยากตายด้วย ”
ดวงตาสีน้ำเงินอมเทาของเอเรย์นิออนก็แน่นิ่งบ้าง เมื่อเห็นความดื้อรั้นไม่เลิกของสาวน้อย
หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู แต่ว่ามีความทรงจำที่คงจะให้ลืมได้ยากยิ่ง...
เพราะนางคือเจ้าหญิงกำพร้าบิดามารดา และญาติพี่น้อง อาณาจักร...ทุกสิ่งทุกอย่างไปหมดแล้ว...
เสียงกังวานของเด็กชายคนหนึ่งก็เรียก “ เจ้าชายเอเรย์นิออน ! ”
พรายหนุ่มลุกขึ้นโบกมือตอบ “ ข้าอยู่นี้ ”
เอลวิงจึงเห็นอายกลอสวิ่งกลับมา พร้อมกับเด็กชายร่างสันทัด และแสงแดดก็สะท้อน
เส้นผมของเขาเป็นสีของทองคำเปลวประกายระยิบระยับ พร้อมกับรอยยิ้มแป้น
และเด็กชายคนนั้นก็สวมชุดเสื้อและกางเกงสีขาว มีผ้าผูกคอสีน้ำเงินเป็นเกลียว
“ ดัมร็อด ! มาทักทายนางหน่อย แม่เอลน้อย เอลวิงแห่งโดริอัธ ! ”
พรายหนุ่มวัยรุ่นตะโกนเรียกด้วยน้ำเสียงร่าเริงแตกต่างเมื่อครู่นี้
และเป็นครั้งแรกที่เอลวิงจับมือของผู้ใหญ่ที่กำลังจะได้ชื่อว่าเป็น “ พี่ชาย ” ของนาง...
~*~*~*~*~*~
หนูเอลน้อยเริ่มน่ารักขึ้นบ้างแล้ว...^_____^
ความคิดเห็น