ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~ รวมฟิคประกอบมหากาพย์รามายณะและมหาภารตะ ~

    ลำดับตอนที่ #2 : ( Ramayana ) The Golden Plate

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ย. 56


    ( Ramayana ) The Golden Plate

     

    Summary : องค์ภรตและองค์ศัตรุฆน์ทรงระลึกถึงความทรงจำในวัยเยาว์

     

    ก่อนจะทราบว่าพระเชษฐาองค์รามได้รับคำสั่งจากนางไกยเกยีให้ไปอยู่ป่าถึงสิบสี่ปี

     

    ~*~*~*~*~*~

     

    ร่างโปร่งเพรียวและสูงสง่ายิ่งในชุดราชกุมารสีแดงเลือดนกแห่งอโยธยา

     

    กำลังยืนข้างเสาหินอ่อน แรงวายุในยามอรุณกระทบใบหน้าคมคายงามสง่านิ่ง

     

    สงบ ไม่หวั่นต่อสิ่งใดรอบกาย เพียงพระเกศาสีรัตติกาลหยักศกปลิวว่อนเท่านั้น

     

    จนกระทั่งได้สดับเสียงทุ้มใสไพเราะของบุรุษหนุ่มอีกองค์หนึ่ง แววเนตรประกายใส

     

    ภรต ! อีกไม่นาน พี่รามจะได้เป็นยุพราชโดยสมบูรณ์ และครองราชย์ต่อจาก

     

    พระราชบิดาของเรา ”

     

    ดวงเนตรงามสีนิลหันมาสบกับของพระอนุชาองค์สุดท้อง

     

    องค์ภรตและองค์ศัตรุฆน์ต่างสนิทสนมมาแต่เยาว์วัย เช่นเดียวกับ

     

    องค์ราม และแฝดผู้พี่ของศัตรุฆน์ คือ ลักษมัณ นั้นเอง พระอัยกาขององค์ภรต

     

    ทรงชราภาพมากแล้ว จึงทรงขอให้พระราชนัดดามาช่วยรับราชการที่นครไกยเกษ

     

    และข่าวสารที่น่ายินดีก็คือ...องค์ราม พระราชโอรสองค์ใหญ่แห่งท้าวทศรถ

     

    กำลังจะได้เป็นกษัตริย์แห่งอโยธยา นี้คือ ความปรารถนายิ่งของพระบิดาและประชาชน

     

    ทั้งปวง พวกเขาต่างรักองค์ราม พระอนุชาที่เหลือต่างก็ได้รับความรักนั้น...

     

    อา...ศัตรุฆน์ เจ้าถือเศษจานจารึกนามของเรามาหรือ ? ”

     

    พระอนุชายิ้ม และถวายเศษจานสองส่วนที่สลักพระนามของพระองค์

     

    น้องนึกถึงพี่ราม พี่รามผู้มีเมตตากรุณายิ่งกว่าสายธาราทั้งปวงบนโลก

     

    และสว่างไสวดุจสุริยเทพ น้องนึกถึงวันที่เชษฐาใหญ่ของเราประทานให้ซิ ”

     

    องค์ภรตหลับพระเนตรงามนิ่ง เอนวรกายบนระเบียงหินอ่อนแผ่วเบา

     

    พลางกอดชิ้นส่วนของแผ่นจานทองคำ สลักพระนามสีชาดขององค์เองไว้แนบอุระ

     

    เช่นเดียวกับพระอนุชาศัตรุฆน์ ริมพระโอษฐ์งามรำพันในสายลม

     

    ราม...เชษฐาที่รักยิ่งของน้อง...”

     

    ~*~*~*~*~*~

     

    ฮ่ะๆ เย้ๆ ” เสียงของพระกุมารน้อย ฉวีวรรณผ่องดุจสีงาของพญาไอยรา

     

    กำลังวิ่งเล่นไปรอบห้องบรรทม จนชายพระภูษาสีม่วงอ่อนปลิวสะบัด

     

    ศัตรุฆน์ ! ศัตรุฆน์ ! เจ้าควรเข้านอนได้แล้วนะ ”

     

    เจ้าชายภรตที่ยังทรงเยาว์วัยตามไล่จับพระอนุชาด้วยพระพักตร์วิตกยิ่ง

     

    น้องยังไม่ง่วง เพราะว่าคืนนี้จันทราเต็มดวง และก็ได้ฟังพี่รามเล่านิทานสนุกด้วย

     

    น้องจะเล่นจนกว่าจันทราจะลับฟ้าเลย ! ”

     

    พี่ราม พี่ราม ”

     

    พระราชกุมารองค์โต วรกายสีน้ำเงินงดงามดุจกลีบบัวนิลุบลทรงอักษรกับนิทานปรัมปรา

     

    มีเจ้าชายน้อยอีกองค์ พักตร์ละม้ายคล้ายองค์ชายน้อยศัตรุฆน์อิงพระเขนย

     

    ทำท่าว่าจะบรรทมก่อนใครแล้ว ถ้าไม่ได้ยินเสียงเรียกขององค์ภรต

     

    อา..น้องลักษมัณ ท่าทางน้องเล็กของเรายังซุกซนเชียว ”

     

    ดวงเนตรดำขลับของเจ้าชายลำดับสองแห่งอโยธยากระพริบขึ้นลง

     

    ศัตรุฆน์ไม่ค่อยฟังน้องเหมือนกัน ปกติเขาฟังแต่พี่ภรต ”

     

    องค์รามสรวลสดใสดังระฆังเงิน “ จริงซิ ภรตจับน้องเล็กของเราให้มานอนเถิดจ๊ะ ”

     

    ราชกุมารลำดับหนึ่งเข้าพระทัยดีว่า น้องคนสุดท้องมักจะซุกซนมากที่สุดเสมอ

     

    เห็นไหม พี่รามบอกให้น้องแล้ว”

     

    น้องเล็กคนนี้ยังไม่อยากนอน ! ”

     

    องค์ภรตเลยขึ้นสุรเสียงดัง “ พี่สัญญากับพระชนนีสุมิตตราไว้แล้วนะ ว่าดูแลน้องให้ดี ”

     

    เมื่อได้ยินนามของพระมารดาแล้ว ฝีเท้าน้อยจึงหยุดวิ่ง

     

    จับน้องเล็กได้แล้ว ! ” แล้วพี่น้องทั้งสี่ก็สรวลยิ้มพร้อมกัน

     

    ดวงเนตรกลมโตไร้เดียงสาของศัตรุฆน์ก็เห็นแผ่นจานใบหนึ่งข้างพระแท่นบรรทม

     

    พี่ราม ! นั้นอะไรเหรอ ? ”

     

    ราชกุมารองค์ใหญ่จึงทรงหยิบแผ่นจานใหญ่นั้นให้เหล่าพระอนุชาทอดพระเนตร

     

    นี้คือจานทองคำสลักนามของเราทั้งสี่ พระบิดาประทานให้พี่เป็นผู้รักษา

     

    เพราะว่าพระองค์รักพวกเรามากทีเดียวนะ ”

     

    ภาชนะที่ทำจากทองคำประดับอัญมณีเลอค่า และมีพระนามของราชกุมาร

     

    ราม เป็น สีเขียวอมคราม ภรต เป็นสีแดงเข้ม ลักษมัณ เป็นสีเหลืองใส และศัตรุฆน์

     

    เป็นสีม่วงอ่อน ...และองค์ศัตรุฆน์น้อยทรงยกจานมาทอดเนตรให้เห็นชัดขึ้น

     

    สวยจัง ! ภรต น้องอยากได้บ้าง ลักษมัณ น้องก็อยากมีบ้าง ”

     

    องค์ชายน้อยลักษมัณถอนพระทัยกับคู่แฝด “ ไม่ได้หรอก ”

     

    ทำไมเหรอ ? ”

     

    จานแผ่นนี้ พระบิดาให้พี่รามเป็นผู้รักษานะ และมีเพียงจานเดียวด้วย ”

     

    องค์ภรตยืนยัน แต่ดวงตากลมโตก็เว้าวอนพระเชษฐาองค์ใหญ่

     

    น้อง...อยาก...”

     

    รอยยิ้มหวานละมุนขององค์รามปรากฏ “ ศัตรุฆน์น้อย อยากได้ พี่ก็ให้นะ ”

     

    ไม่ได้ ! ” องค์ภรตว่า “ จานแผ่นนี้เป็นของพี่รามนะ ถวายคืนเดี๋ยวนี้ ! ”

     

    แต่พี่รามให้น้องแล้ว ”

     

    หัตถ์บางของลักษมัณก็ดึงจานทองคำจากพระอนุชา แต่องค์ศัตรุฆน์ก็รั้งไม่ให้

     

    คืนพี่รามนะ ” และองค์ภรตก็มาถึงขอบจานอีกฝั่งหนึ่งด้วย

     

    คืนพี่ชายรามของเราเดี๋ยวนี้เลย ! ”

     

    น้องไม่คืน ! พี่รามให้น้องแล้วนะ ”

     

    ไม่ถูกต้อง จานนี้เป็นของพระบิดาประทานพี่ราม พี่รามต้องรักษามันไว้ให้ดี

     

    มันเป็นทรัพย์มีค่าของพี่ชายของเรา ไม่ใช่ของเจ้านะ ”

     

    องค์ภรตทรงดุอีก แถมเจ้าชายน้อยลักษมัณก็ดึงจานให้แรงตาม

     

    แรงฉุกยื้อจานของราชกุมารน้อยทั้งสาม จนอุบัติเหตุก็บังเกิด !

     

    เพล้ง ! จานทองคำประดับพระนามร่วงลงสู่พิ้นห้องบรรทมแตกกระจาย

     

    สิ่งล้ำค่าหมดสิ้นแล้ว...องค์ภรตถึงกับพักตร์ซีด

     

    พี่ราม...พี่ราม...น้องขอโทษ ศัตรุฆน์ขอโทษพี่ชายเราเดี๋ยวนี้ ! ”

     

    องค์ชายสุดท้องกันแสงไห้อย่างสำนึกผิด แถมพระเชษฐาฝาแฝดทรงเขกกระหม่อมให้อีก

     

    น้อง...เสียใจ...น้องขอโทษ...ขอโทษนะ...”

     

    แต่เจ้าชายรามจันทรากลับทรงยิ้มอย่างดีพระทัยยิ่ง

     

    ดีออก น้องเรา ”

     

    แต่มันแตกแล้ว จานทองคำนี้จะมีค่าอะไรอีกล่ะ ? ” องค์ภรตถาม

     

    นั้นซิจ๊ะ พี่ราม ” ลักษมัณเสริม

     

    องค์รามทรงลูบกระหม่อมของพระอนุชาองค์เล็กสุด “ ศัตรุฆน์ได้ทำให้จานแตกออก

     

    เป็นสี่ส่วน และนามของเราก็ถูกแบ่งชัดเจนแล้ว นั้นหมายความว่าน้องๆ ต่างได้เป็น

     

    เจ้าของจานทองคำแผ่นนี้ และพี่ก็คงรักษามันไว้ไม่ได้ หากไม่มีน้องๆ ”

     

    หัตถ์งามน่ารักทรงหยิบเศษจานจากพิ้น ประทานให้กับพระอนุชาทั้งสาม

     

    และของพระนามคือ “ ราม ” ทรงทาบไว้กับพระอุระ

     

    น้องๆ ต่างเป็นเจ้าของจานทองคำนี้กับพี่แล้ว ดังนั้น เราจะรักษานครที่รักของเรา

     

    ให้เหมือนกับจานแผ่นนี้ แม้สิ่งใดๆ ในโลกอาจแตกสลาย แต่ว่าความรักของพี่

     

    ยังคงเป็นของน้อง ศัตรุฆน์ ! น้องอย่าร้องไห้อีกนะ เจ้าเป็นผู้ครองจานใบนี้เช่นกัน

     

    รวมถึงลักษมัณกับภรตด้วย อย่าร้องนะ ”

     

    ดัชนีงามเช็ดอัสสุชลใส องค์ชายน้อยศัตรุฆน์จึงทรงแตะพระบาทขององค์ราม

     

    และแตะบนกระหม่อมอีกครั้ง “ น้องขอบพระทัยมาก...น้องรักพี่รามที่สุดเลย”

     

    องค์ชายลำดับหนึ่งแห่งอโยธยาสรวลและทรงดึงร่างน้อยมาจูบพระปราง

     

    พี่ก็รักเจ้านะ ศัตรุฆน์ ”

     

    น้องด้วยคน น้องจะไม่จากพี่รามไปไหน เลย”

     

    องค์ชายน้อยลักษมัณทรงทำตามคู่แฝด แล้วทั้งสองพระองค์ก็สรวลยิ้มในอ้อมกร

     

    ของพระเชษฐาองค์ใหญ่ โดยองค์ภรตทรงหน้าแดงด้วยความยินดี

     

    และกอดเศษจานชิ้นส่วนที่เป็นนามสีชาดพระองค์ไว้แนบอกบาง

     

    ...พระทัยงามและกรุณาจริง...พี่รามของน้อง...”

     

    ราชโอรสแห่งอโยธยาต่างก็ขึ้นพระแท่นบรรทม พระกรประคองกันและกัน

     

    โดยองค์รามทอดเรียวพาหาให้พระอนุชาทั้งสามหนุน และอีกข้างหนึ่งก็ทรงโอบไว้อย่าง

     

    ปกป้อง องค์ภรตยิ้มให้กับพระหัตถ์บางกลีบนิลุบลที่แตะบนกระหม่อม

     

    แล้วเข้าสู่นิทราบนแท่นบรรทมแสนนุ่มและอบอุ่น...

     

    ~*~*~*~*~*~*~

     

    นั้นคือเวลาในวัยเยาว์ของพวกเราทั้งสี่คน ผ่านไปเร็วดุจยามอรุณรุ่่นสีทอง

     

    สีทองบริสุทธ์สดใสดังจานที่สลักนามของเรานี้

     

    องค์ราม...น้องเข้าใจแล้ว...พี่รักพวกเรามากเพียงใด ถึงพี่จะเป็นที่โปรดปรานของ

     

    พระบิดามากที่สุด แต่ว่าน้องกลับไม่เคยอิจฉาแม้เพียงครั้งเดียวเลย

     

    ความรักขององค์รามยิ่งใหญ่นัก น้องไม่อาจเปรียบเทียบได้ว่าเท่ากับอะไร

     

    แต่น้องศรัทธา...ศรัทธา...พี่ชายจะเป็นกษัตราผู้ยิ่งใหญ่แห่งอโยธยา

     

    เมื่อนั้น น้องก็มีโอกาสรับใช้พี่เยี่ยงพระบิดา และองค์ราชาของเหล่าประชาราษฎร์

     

    น้องเชื่อ...ถ้าพระองค์ครองราชย์แล้วในอนาคตอันใกล้นี้ น้องจะมีความสุขในดวงใจ

     

    เช่นเดียวกับแผ่นดินแห่งอโยธยา มารดาที่เราเคารพรักยิ่งชีวา...

     

    เราทั้งสามคน ภรต โอรสแห่งไกยเกยี ลักษมัณและศัตรุฆน์ โอรสแห่งสุมิตตรา

     

    รับใช้เคียงราชบัลลังก์สุริยวงศ์...โอ...ราม...ราม...

     

    องค์ภรต ! องค์ศัตรุฆน์ ! เร่งเถิด ขบวนรถเทียมอาชาพร้อมแล้วพระเจ้าข้า ”

     

    เจ้าชายแห่งอโยธยาแย้มสรวล พลางจูงพระหัตถ์ให้ขึ้นจากการประทับบนระเบียง

     

    แต่ว่าชิ้นส่วนจานทองคำสองชิ้นต่างร่วงลงสู่พิ้น ราชอนุชาทั้งสองแห่งองค์ราม

     

    ตกพระทัยยิ่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...เกิดอะไรขึ้น...

     

    คำถามเกิดขึ้นในแววเนตรดำสนิทของศัตรุฆน์ เมื่อสบกับของพระเชษฐา

     

    องค์ภรตก็ทรงพระพักตร์ซีด...มันเป็นลางสังหรณ์อะไร ?...

     

    พระองค์ต้องเร่งกลับอโยธยาให้ได้รับคำตอบ...

     

    นั้นคือ...องค์ราม พระพี่นางสีดาและองค์ลักษมัณจากพระองค์ไปสู่พนาไพร...

     

    ~*~*~*~*~*~

     

    จบแล้วครับ พอดีอ่านรามายณะฉบับแปลอยู่เลยต้องปรับพระนามให้ตามหนังสือ

     

    จะได้เข้าบรรยากาศแบบภารตะหน่อย องค์ภรตเนี่ย ไรเตอร์สงสารท่านมากนะ

     

    เพราะว่าต้องได้บัลลังก์มา เพราะว่าพระมารดาไกยเกยีบังคับพระบิดาแท้ๆ

     

    แถมเชิญองค์รามให้ออกไปอยู่ป่า เพื่อให้พระองค์เป็นราชาแทนแบบนี้

     

    ...ทำให้พระองค์โศกพระทัยมากแบบว่าทำเช่นนี้ไม่แฟร์เสียเลย ~

     

    ไม่ว่าอะไรที่เป็นสิทธิอันชอบธรรมขององค์ราม พระภรตก็ไม่ยอมแตะต้อง

     

    จึงเป็นข้อคิดสอนใจว่า แม้เป็นน้องก็ต้องเสียสละตัวเองเพื่อรักษาเกียรติยศของพี่

     

    เพราะมันคือความรักที่ดีงามที่สุดอย่างหนึ่งที่ทำให้ครอบครัวมีความสุขนั้นเอง...

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×