คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ( Ramayana ) Brothers & Pair Paduka
( Ramayana ) Brothers & Pair Paduka
Summary : องค์รามประทานบาทุกาเป็นสิ่งแทนพระองค์ในการ
ครองราชย์ประทานพระอนุชาองค์ใหญ่ “ ภรต ” แล้วทรงระลึกถึงความจงรักภักดี
ที่หาเปรียบได้ยากนัก รวมถึงความรักที่ยิ่งใหญ่กว่าราชบัลลังก์สุริยวงศ์...
~*~*~*~*~*~*~
ดวงเนตรงดงามราวกลีบบัวของเจ้าชายลำดับหนึ่งแห่งอโยธยาก้มลงมองยัง
ร่างโปร่งแข็งแรงของพระอนุชาองค์รอง โอรสแห่งรานีไกยเกยี
น้องชาย...พระองค์ทำให้ภรตต้องร้องไห้อยู่เบื้องบัวบาทของพระองค์
“ เจย์ ศรี ราม เจย์ ศรี ราม ” สายอัสสุชลของภรตก็ตกต้องพระบาทงาม
“ ภรต น้องรักของพี่ ”
พระเชษฐาประคองร่างสูงโปร่งของภรตขึ้นแล้วกอดไว้แนบพระอุระแน่น
พลางจุมพิตนลาฎ เช็ดน้ำตาที่ไหลรินด้วยความรักของพี่ชาย
“ เจ้าโตแล้วนะ ร้องไห้เหมือนกุมารน้อย ไม่อายเลยหรือ ”
องค์ชายภรตกราบทูลว่า “ หม่อมฉันมารับพี่กลับบ้าน กลับอโยธยาพระเจ้าข้า ”
“ พี่กลับไม่ได้ พี่ต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับท่านพ่อของเรา พี่ต้องอยู่ป่าสิบสี่ปี
ภรต และน้องศัตรุฆน์กลับไปดูแลท่านพ่อและท่านแม่ของเรา...”
ประโยคนี้ยิ่งทำให้เจ้าชายลำดับที่สองแห่งอโยธยากันแสงหนักขึ้นอีก
“ มิได้อีกแล้ว เจ้าพี่ราม สายเสียแล้วกระหม่อม ”
เจ้าชายหนุ่มวรกายคล้ำจึงรับสั่งถามอีก “ เกิดอะไรขึ้นกับท่านพ่อของเรา ?
ภรต เกิดอะไรขึ้น ? ”
เมื่อพระองค์ได้สดับความจริงทั้งหมด รามจันทร์ก็ถึงกับล้มลงหมดสติ
เพียงได้ยินเสียงแว่วของสีดาและลักษมัณมาใกล้...
ราม...ราม...เจ้าพี่ราม...เจ้าพี่ราม...
~*~*~*~*~*~*~
หลังเสร็จพิธีศราทธ์คือ นำอาหารและผลไม้อุทิศแด่ราชบิดาผู้ล่วงลับนั้นคือ
พระเจ้าทศรถที่ริมแม่น้ำคงคาแล้ว เจ้าชายทั้งสี่ก็ทรงไม่ได้รับสั่งอะไรมากนัก
จนกระทั่งพระอาจารย์วสิษฐ์หรือท่านคุรุเทพวสิษฐ์ที่เคารพยิ่งของชาวอโยธยา
ได้จัดประชุมหน้าอาศรมซึ่งเป็นที่พักของพระรามขึ้น โดยมีพระมารดาทั้งสาม
มีเพียงรานีไกยเกยีเท่านั้นที่ได้แต่ก้มพักตร์ด้วยความอับอายยิ่ง
นางสำนึกผิดแล้ว...หากมันสายเกินไป...
ดวงเนตรคมกล้าขององค์ภรตจึงหันไปยังพระเชษฐาที่เป็นประธานในการประชุม
“ หม่อมฉันมีความปรารถนาที่จะพาเจ้าพี่ พี่หญิงสีดาและลักษมัณกลับอโยธยา
หม่อมฉันเตรียมเครื่องราชูปโภคมาพร้อมแล้ว เจ้าพี่รามกลับไปครองบัลลังก์
พระองค์เป็นพี่คนโต พระองค์สมควรเป็นกษัตริย์ของเรา ”
องค์รามส่ายพระพักตร์ด้วยความอ่อนโยน “ ไม่ได้หรอก ภรตเอ๋ย พี่ต้องรักษาสัตยา
ที่ได้ไว้กับท่านพ่อแล้ว ท่านพ่อรักษาไว้ให้กับท่านแม่ไกยเกยีของเรา
พี่ไม่อาจตระบัดสัตย์ได้ ”
รานีเกาสัลยาและสุมิตราพยายามเก็บอารมณ์โศกเศร้าของมารดาที่ต้องพลัดพราก
จากบุตรชาย แต่ว่าอีกนางนั้นแหละถึงกับน้ำตาไหลพรากไม่หยุด
“ รามลูกแม่ แม่ผิดไปแล้ว อภัยให้แม่ด้วย...”
พระภรตไม่ยอมกลับไปเหลียวมองพระมารดาบังเกิดเกล้าของพระองค์เลย
พระเชษฐาองค์รามจึงทรงถอนพระทัยเบาๆ
“ มาตาไกยเกยีของลูก ลูกต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับท่านพ่อ มิฉะนั้น พระองค์
จะเสียพระเกียรติยศของความเป็นราชา ราชาคือผู้รักษาสัตยา
ภรต พี่ไม่อาจกลับไปยังอโยธยาได้ น้องต้องรับ...”
คราวนี้ พระภรตจึงลุกขึ้นประกาศลั่น
“ ถ้าพระองค์ไม่กลับ น้องจะขออดอาหารตาย อยู่ที่นี้เสีย ”
“ ไม่ได้นะ น้องชาย ” องค์รามปรามด้วยความตกพระทัย
ท่านคุรุเทพจึงออกวาจาผ่านเครายาวสีขาวโพลนบ้าง
“ ราม สิ่งที่ท่านกล่าวไว้เป็นสิ่งถูกต้องแล้ว กษัตริย์ต้องรักษาสัญญา
รักษาความจริง ท่านได้ทำหน้าที่กตัญญูต่อบุพการีนับว่าถูกแล้ว
แต่ว่าอโยธยาจะขาดราชันย์ได้อย่างไร ประชาราษฎร์จะขาดผู้นำได้อย่างไร...
ภรต ท่านเป็นอนุชาที่ดียิ่ง สุริยวงศ์เจริญด้วยนามของท่านแล้ว
เพราะท่านไม่นึกถึงบัลลังก์ไปมากกว่าเชษฐาเลย ต่อจากนี้ นามของท่านทั้งสอง
จะได้รับกล่าวขานนานเท่านาน อา...แต่ว่าหน้าที่ของกษัตริย์ ”
เจ้าชายภรตจึงกลับไปคุกเข่าของพระอาจารย์
“ ท่านคุรุเทพ ข้าไม่ต้องการเป็นราชา ข้ามิได้เลวทราม แต่ว่า...พี่รามเปี่ยมด้วย
คุณธรรม และความดีงามทั้งปวง พี่ชายของข้าควรได้รับราชาภิเษกไม่ใช่หรือ...”
ท่านวสิษฐ์ประคองให้เจ้าชายหนุ่มลุกขึ้น
“ เช่นนั้น องค์ชาย ท่านก็ปกครองด้วยสิ่งอื่นซิ ”
คำเอ่ยนี้ เจ้าชายภรตจึงกลับไปหมอบลงต่อเบื้องบาทของพระเชษฐาอีกครั้ง
เจ้าชายศัตรุฆน์ก็เช่นกัน องค์รามประคองพระอนุชาให้ลุกขึ้น
“ ภรต น้องรักของพี่ ”
“ ถ้าเช่นนั้น หม่อมฉันขอเป็นเพียงผู้สำเร็จราชการของเจ้าพี่ ปกครองอโยธยาในนาม
ของเจ้าพี่ ประชาชนทุกคนจะได้ระลึกว่า พี่ไม่ได้จากไปไหน...”
พระหัตถ์เรียวขององค์รามประคองไหล่ของพระอนุชา
“ เช่นนั้น พี่จะให้สิ่งใดแก่น้อง...”
พระองค์ระลึกครู่หนึ่ง แล้วหันพักตร์ไปยังลักษมัณ
“ หยิบรองเท้าไม้ในอาศรมให้พี่ที ”
เมื่อได้รับมาแล้ว องค์ภรตจึงกล่าวอีกครั้ง “ เจ้าพี่สวมเพียงหนึ่งครั้ง ”
องค์รามปฏิบัติตาม พระอนุชาทรงรับฉลองพระบาทมาวางเหนือพระเศียร
“ รองเท้าไม้ของพระองค์คือมงกุฎของหม่อมฉัน ”
บาทุกาเหนือเศียรเกล้าเกศา
องค์รามาสะอื้นพระทัยหาย
อันว่าความรักน้องพี่ไม่มีคลาย
หรือแตกสลายตามกาลเวลา
องค์รามจึงทรงได้แตะเช็ดน้ำพระเนตรประทานองค์ภรตอีกครั้ง
ส่วนเจ้าชายศัตรุฆน์ก็เดินไปกล่าวอำลาต่อคู่แฝด...ลักษมัณ...
“ พี่ชายของน้อง ”
ผู้เป็นพี่แฝดก็โอบกอดน้องด้วยความรัก เจ้าชายผู้แสนเข้มงวดต่อหน้าที่อย่างลักษมัณ
เพิ่งมาพระทัยอ่อนจนทุกคนในบริเวณอดร่ำไห้ด้วยความโศกาไม่ได้เลย...
หลังจากนั้น พระอนุชาภรตและศัตรุฆน์ พร้อมพระมารดาทั้งสามในชุดหญิงม่าย
ประชาชนที่นำโดยพรานกุขันก็ลาจากสามกษัตราไป องค์รามทอดเนตรจนลับตา...
“ สวามี องค์ราม ” สีดาประคองพระหัตถ์ ทว่าองค์รามกลับดำเนินเข้าในอาศรม
ด้านในที่สถิตพระรูปของพระเป็นเจ้าคือ พรหมา วิษณุ และศิวศังกร
พระองค์ทรงภาวนาแล้ว ภาพของภรตที่นำบาทุกาเหนือเกล้านั้นเวียนวนในพระดำริ
ทำให้องค์รามต้องซบพระพักตร์แลสะอื้นไห้เหมือนกุมารน้อยไร้เดียงสาทีเดียว
“ ท่านพ่อ...ภรต...ภรต...”
~*~*~*~*~*~*~*~*~
เจ้าชายภรตรับบาทุกาแทนการครองราชย์ขององค์รามจันทร์
ความคิดเห็น