คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : การพบกัน..100% สั้นไปนิด...นึงนะคะ
เฮ้อ!!
งานอะไรหนักหนาเนี่ย!!
หญิงสาวร่างบางพึมพำออกมาอย่างหงุดหงิด เมื่อเห็นกองงานตรงหน้าที่สูงจนเกือบจะเท่าศีรษะอยู่แล้ว ใบหน้านวลส่ายไปมาอย่างหมดเรี่ยวแรง
เอกสารและกองกระดาษบวกกับหนังสือพิมพ์หลายฉบับทำให้คนที่นั่งมองไม่มีกระจิตกระใจจะทำงานเลยสักนิด ทั้งที่อาชีพที่เธอเลือกทำเป็นงานที่รักหนักหนา
นักข่าว!!
ทัตพิชาถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่เท่าไรก็ไม่รู้ เมื่อคิดว่าตัวเองเหนื่อยแสนเหนื่อยกับงานเหลือเกิน ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา หญิงสาวแทบจะไม่ได้ข่มตาหลับอย่างเพียงพอเลยทีเดียว
กริ๊ง!! กริ๊ง!!
เสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะดังขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทำให้คนที่มัวแต่หมกมุ่นกับงานต้องพลอยหัวเสียไปมากกว่าเดิม
“ค่ะ”
“ทัต... เดี๋ยวเข้ามาพบผมหน่อยนะ” กมลเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบแต่ทว่าก็ดูเฉียบขาดและชวนให้เกรงขาม จนทำให้คนฟังไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งสักนิด
ทัตพิชาลุกออกจากโต๊ะทำงานอย่างรวดเร็วเหมือนจะกระตือรือร้น แต่แท้จริงแล้วเจ้าตัวกลัวว่าหัวหน้านั้นจะมีอารมณ์บูดบึ้งมาได้
“หัวหน้าเรียกทัตมีอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาาวถามออกมาทันทีเมื่อเดินก้าวเข้ามาในห้องทำงานนี้
กมลเงยหน้ามองหญิงสาวร่างบางตรงหน้าด้วยความพอใจ หลายครั้งที่เขาเรียกใช้งาน เธอผู้นี้มักจะไม่ทำให้ผิดหวังเสมอ
ชายวัยกลางคนพบหญิงสาวครั้งแรกเมื่อสองปีก่อนแล้ว ใบหน้านวลที่หวานใส และการแต่งตัวที่ทะมัดทะแมงเหมาะกับการเป็นนางแบบมากกว่าการที่จะมาเป็นนักข่าวทำให้กมลไม่มั่นใจในตัวเธอเท่าไร แต่มาวันนี้เขาบอกได้เลยว่า “ไม่ผิดหวัง” กับทัตพิชาเลยจริงๆ
“คุณรู้จัก “ตะวัน” ไหม”
มือหนาเรียวยื่นกระดาษขนาดเท่าโปสการ์ดให้กับหญิงสาวตรงหน้า เพื่อให้เธอได้เห็นคนที่เขากล่าวถึง ซึ่งท่าทางของทัตพิขาก็ดูเรียบสนิทยากที่จะคาดเดา มีเพียงการพยักหน้าเพื่อตอบคำถามเท่านั้น
“ค่ะ ทัตเคยได้ข่าวของเขามา เขาเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงพอควรเลยค่ะ และเขาก็ติดหนึ่งในสิบของหนุ่มนักธุรกิจไฟแรงของไทยด้วย เห็นว่าอีกสองอาทิตย์จะมีการรับรางวัลด้วยนี่คะ ที่โรงแรม...” หญิงสาวอธิบายรายละเอียดออกมาให้กับเจ้านายฟังตามที่เธอได้รู้ได้ยินมา
“สมกับเป็นคุณเลยนะ ทัตพิชา” กมลชื่นชมออกมาจากใจจริง เมื่อได้ยินสิ่งที่หญิงสาวพูดออกมา
“ค่ะ... หัวหน้าเรียกทัตมาเพื่อจะชมทัตแค่นี้เองเหรอคะ” ทัตพิชาย้อนถามกลับไปอย่างตรงไปตรงมา แม้ว่าจะให้ความเคารพ แต่หญิงสาวก็เป็นคนตรงไปตรงมาและไม่ค่อยเกรงกลัวใครเท่าไรนัก
“ใจเย็นๆ นะทัต ผมรู้ว่าคุณงานยุ่งนะ ผมอยากให้คุณไปล้วงลึกเรื่องส่วนตัวของผู้ชายคนนี้หน่อย”
ทัตพิชาถึงกับตาโตเมื่อได้ฟังสิ่งที่เจ้านายพูดออกมา เพราะเท่าที่ทัตพิชาทราบ ตะวันมักจะไม่เปิดเผยเรื่องส่วนตัวให้ใครฟังเลยสักนิด
“หัวหน้าจะให้ทัตไปสัมภาษณ์เรื่องส่วนตัวของเขา ทัตว่าให้ทัตเขียนหนังสือกลับหัวยังง่ายกว่าเลยค่ะ”
กมลหัวเราะขึ้นมา เมื่อฟังน้ำเสียงที่ดูจะเหนื่อยหน่ายใจและไม่ค่อยจะเต็มใจกับสิ่งที่เขามอบหมายให้ทำเท่าไรนัก แต่นั่นแหละ... เธอต้องทำ
“ถ้ามันง่าย คนอื่น หนังสือพิมพ์อื่นก็ทำไปแล้วสิ แต่นี่มันยังไม่มีใครทำได้ไง ผมเลยอยากทำ และผมก็มั่นใจในตัวคุณ” กมลสรุปเอาเองอย่างที่ใจเขาต้องการ โดยไม่สนใจสายตาคัดค้านของหญิงสาวเลยสักนิดเดียว
ทัตพิชาจำใจต้องพยักหน้ายอมรับกับงานใหม่ที่ได้รับ แม้ว่าจะดูเป็นงานที่ตื่นเต้นและท้าทาย แต่ทำไมก็ไม่รู้เจ้าตัวถึงได้มีอาการหวาดหวั่นใจอยู่ข้างในอย่างบอกไม่ถูกเลย
หนังสือนิตยสารหลายเล่มถูกเปิดกางไว้หลายต่อหลายเล่ม แต่ละเล่มล้วนมีแต่หน้าของตะวันทั้งสิ้น มือบางเรียวหยิบอ่านและเปิดดูอย่างละเอียด แต่แล้วก็ไม่มีเลย ไม่มีประวัติของ “ตะวัน” เลยจริง
เขาเป็นบุคคลลี้ลับหรือเป็นบุคคลที่คนอื่นสนใจ แต่ไม่มีใครที่จะขุดคุ้ยหรือมีโอกาสบอกเล่าเรื่องราวของชายหนุ่มผู้นี้เลย
จะรอดไหมนะ...
“สวัสดีค่ะ... ฉันโทรมาจากหนังสือพิมพ์xxxนะคะ ทอยากจะขอนัดสัมภาษณ์คุณตะวันน่ะค่ะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงหวานใสไปยังจุดหมายปลายทาง
เลขาหน้าห้องรับฟังด้วยท่าทางเบื่อหน่าย หลายครั้งต่อหลายครั้งที่มีคนเข้ามาขอพบพูดคุยกับเจ้านายเธอ แต่แล้วกี่คนต่อกี่คนก็ต้องผิดหวังกลับไป
“เอ่อ... คุณตะวันไม่สะดวกให้สัมภาษณ์น่ะค่ะ”
“คุณตะวันจะสะดวกเมื่อไรคะ”
“ฉันไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ไว้ติดต่อมาใหม่นะคะ” เลขาหน้าห้องตัดบทสนทนาอย่างรวดเร็วก่อนที่จะวางสายโทรศัพท์ไป
ทัตพิชาวางสายลงอย่างยอมแพ้ เป็นรอบที่สี่แล้วที่หญิงสาวได้ยกหูโทรศัพท์ไปหาตะวัน มันช่างยากเย็นเหลือเกิน ที่จะได้พูดคุยกับหนุ่มคนนี้
สมคำร่ำลือจริงๆเลยนะ... คุณตะวัน
ทัตพิชายังคงพยายามอยู่อย่างนั้นตลอดทั้งวัน แต่แล้วเจ้าตัวก็ยังคงได้คำตอบแบบเดิม จนทำให้รู้สึกเหนื่อยหน่ายใจบวกกับความรำคาญใจที่ก่อเกิดเพิ่มมากขึ้น
เบื่อแล้วนะ!
ทัตพิชาตัดสินใจลุกออกจากแแฟฟิศทันที ในเมื่อบอกและนัดกันไม่ได้ผล เธอก็ขอเลือกไปหาถึงที่ทำงานเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นวันนี้เธอคงไม่ได้งานหรือความคืบหน้าอะไรเป็นแน่
อาคารสูงหลายชั้นตั้งกลางใจเมืองและติดริมแม่น้ำ ทัดพิชาจอดรถและเดินลงมาหยุดยืนที่หน้าตึกแห่งนี้ ดวงตากลมโตมองไปยังป้ายขนาดใหญ่ที่บอกรายละเอียดของชั้นสำนักงาน
ชั้นที่ 30 Sun Diamond Co,Ltd.
ทัตพิชาสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกกำลังใจ เธอรู้สึกว่าครั้งนี้จะไม่ใช่งานเหมือนทุกครั้งไป และท่าทางจะมีอุปสรรคไม่น้อยเลย
ร่างบางก้าวเดินไปด้วยความมาดมั่น ผิดกับในใจที่ดูจะหวาดหวั่นและไม่มั่นใจเอาเสียเลย เธอเองก็บอกไม่ได้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
“ฉันมาขอพบคุณตะวันค่ะ” ทัตพิชาเอ่ยขึ้นทันทีด้วยท่าทางเชื่อมั่นและน้ำเสียงที่จริงจัง ด้วยความที่เกรงว่าถ้าเธออ่อนน้อมมากเกินไปจะทำให้หญิงสาวผู้นี้ตอกกลับมาได้ แต่ใบหน้านวลก็ยังคงเจือไปด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ว่างค่ะ คุณตะวันมีธุระทั้งวัน ถ้าวันหลังจะมาขอพบ รบกวนช่วยโทรมานัดก่อนนะคะ” เสียงตอบกลับมาค่อนข้างห้วนและไม่พอใจเท่าไรนัก
“คือฉันโทรมาหลายครั้งแล้ว แต่ว่า... ไม่ว่างเลย”
“ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าไม่ว่างแหละค่ะ ไว้วันหลังแล้วกันค่ะ” พนักงานตัดบทขึ้นทันที โดยที่ไม่ได้เงยหน้ามองทัตพิชาสักวินาทีเดียว
ถ้าไม่เป็นเพราะงาน... ฉันไม่อยากมาหรอกย่ะ
ทัตพิชาบอกกับตัวเองในใจ ใบหน้านวลเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเฉยเมย เธอพยายามเก็บความบูดบึ้งและอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดีไว้ภายในใจอย่างสุดความสามารถ
“ฉัน...ขอเวลาไม่นานหรอกค่ะ”
“แต่คุณตะวันไม่มีเวลาหรอกค่ะ” เลขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ห้วนไม่แพ้กัน
“คุณช่วยดูให้หน่อยได้ไหมคะ... ว่าวันไหนคุณตะวันจะว่าง ฉันจะได้ไม่มารบกวนน่ะค่ะ” ทัตพิชาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ก็ย้ำชัดอย่างตรงไปตรงมา
“ฉันไม่สามารถบอกคุณได้หรอกค่ะ เราต้องดูว่าธุระไหนสำคัญกว่ากัน”
ทัตพิชาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย ทั้งที่เจ้าตัวพยายามทำใจแล้ว เพราะทราบดีว่าตะวันเป็นคนไม่เปิดตัวกับเรื่องราวแบบนี้ และเขาเองจะเป็นคนนัดสัมภาษณ์
ทัตพิาหมดความอดทน หญิงสาวอยากจะตะโกนหรือด่าทอออกไปเพื่อระบายความขุ่นเคืองในใจ แต่เจ้าตัวก็พยายามที่จะไม่ตอบโต้อะไร เลือกที่จะเดินออกมานั่งสงบสติอารมณ์มากกว่า
โครม!!
ทัตพิชาเสียหลักไปและคิดว่าร่างบางนั้นต้องร่วงหล่นลงพื้นแน่นอน แต่แล้วก็มีมือหนาเรียวมารองรับร่างบางเอาไว้อย่างพอดิบพอดี
“เอ่อ... ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกัก เมื่อเห็นว่าตกอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่มผู้ที่ชื่อว่าตะวัน
ความใกล้ชิดแม้ว่าจะไม่ได้มากนัก แต่มันก็ทำให้หญิงสาวถึงกับใบหน้านวลแดงขึ้นมาและเป็นผลทำให้หัวใจเต้นรัวอย่างอัตโนมัติ
“ไม่เป็นไร” เขาเอ่ยเสียงเรียบและดูเหมือนว่าจะเฉยเมยจนกลายเป็นเย็นชา
“ฉันอยากจะขอสัมภาษณ์คุณหน่อยน่ะค่ะ” หญิงสาวพยายามยืนและฝืนตัวเองให้เป็นปกติ และบอกถึงจุดประสงค์ของการมาในครั้งนี้
“นัดกับเลขาผมไว้แล้วกัน” ตะวันปฎิเสธด้วยมารยาทที่ดี แต่เจ้าตัวคงทราบแล้วว่าถ้าทำแบบนี้ เธอจะไม่มีวันได้ข่าวแน่นอน
“ฉันพยายามแล้วนะคะ... แต่ว่าเลขาคุณบอกกับฉันว่าธุระคุณเยอะมาก” หญิงสาวตอบกลับไปตามความเป็นจริง และเจ้าตัวก็อดไม่ได้ที่จะเหน็บแนมด้วยน้ำเสียง
ตะวันนิ่งเงียบไป เขาไม่คิดว่าผู้หญิงตรงหน้าจะกล้าเถียงเขา และดวงตาที่ดื้อดึงทำให้เขาเองต้องแปลกใจ เพราะส่วนใหญ่แล้วแทบจะไม่มีใครกล้าเลย
“ส่วนมากผมนัดใครก็ผ่านทางเลขาทั้งนั้น ผมไม่มีเวลามานั่งจัดคิวหรอก”
“ฉันเข้าใจค่ะ ว่านักธุรกิจอย่างคุณมีงานที่ต้องทำมากมาย แต่ฉันขอเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงในการสัมภาษณ์ถึงเรื่องราวชีวิตของคุณ ฉันว่ามันคงไม่เสียเวลาเท่าไรหรอกค่ะ” ทัตพิชาเสียงเข้มโดยอัตโนมัติเมื่อได้ฟังน้ำเสียงที่เหมือนจะดูถูกของเขา
ดวงตาคมคาเงยขึ้นมองยังใบหน้านวลพร้อมกับกระตุกมุมปากขึ้นมา เขาอาจจะไม่ชอบใจกับการกระทำที่แสนอวดดีของหญิงสาว แต่อีกมุมหนึ่งก็ถูกใจกับความใจกล้าของสาวน้อย
“ได้!! ผมมีเวลาให้คุณครึ่งชั่วโมง คุณนักข่าว วันนี้ทุ่มครึ่ง ที่บ้านผม!!” ตะวันยื่นข้อเสนอไปอย่างท้าทาย
ทัตพิชามีสีหน้าลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง เธอเข้าใจดีว่าตะวันต้องการแกล้งเล่นเท่านั้น ไม่ได้จะเชิญจริงจังแต่อย่างใด แต่คนอย่างทัตพิชาไม่มีทางที่จะเกรงกลัวแน่นอน
“ตกลงค่ะ เราจะพบกันที่บ้านคุณ ตอนทุ่มครึ่ง!!” หญิงสาวตอบตกลงด้วยน้ำเสียงมาดมั่น ก่อนจะหมุนตัวและกลับออกไปจากบริเวณนั้น
ตะวันเลิกคิ้วสูงอย่างคาดไม่ถึง ไม่คิดว่าหญิงสาวบอบบางจะกล้าบ้าบิ่นอะไรเช่นนี้ การบุกไปหาเขาถึงบ้านไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่ว่าใครจะก้าวออกมาได้ง่ายเช่นกัน
คงจะสนุกไม่น้อยเลย!!
ความคิดเห็น