ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 [100%]
Chapter 1
หลังเลิกเรียนในวันนี้ของแทยอนแตกต่างกว่าทุกวันเพราะวันนี้เธอต้องไปเอากระเช้าของเยี่ยมไปเยี่ยมน้าที่โรงพยาบาล แตกต่างและพิเศษในเวลาเดียวกัน ในมือทั้งสองข้างหิ้วกระเช้าของบำรุงต่างๆนานา ต่อให้ริมฝีปากจะบ่นขมุบขมิบรำคาญใจแค่ไหน แต่เมื่อเป็นคำสั่งจากแม่เธอแล้วยากที่จะขัด
ต้องทำตามจะดีกว่ามานั่งกางหูฟัง
“ขอโทษค่ะ ห้องพักของคุณอีจีอยู่ที่ไหนคะ?”
“สักครู่น่ะคะ”นางพยาบาลบอกเสียงสุภาพก่อนจะหันไปหาเพื่อนนางพยาบาลคนอื่น “ห้อง 503 ยังไม่ยอมทานยาเลย ไปดูให้หน่อยนะจ้ะ”
แทยอนไม่สนใจนักเธอเพียงเท้าแขนกับเคาเตอร์รอฟังหมายเลขห้อง
“ห้องพักของคุณคิมอีจีอยู่ห้อง505”
โรงพยาบาลคงเป็นสถานที่ขาวบริสุทธิ์ ปลอดภัยเมื่อเห็นสีเขียว แทยอนสอดส่องไปรอบๆขณะเดินหิ้วกระเช้านับไล่ห้องแต่ละห้อง เมื่อพบห้องที่ต้องการเธอเปิดประตูเข้าไปทันที
“คุณอา คิดถึงแทยอนไหมคะ!!”แทยอนทักเสียงอารมณ์ดี แต่ก่อนที่แทยอนจะพูดอะไรต่อกลับต้องรีบปิดปากเงียบ อาจเพราะผู้หญิงอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอกำลังมองมาอย่างไม่พอใจ บางทีเลขสามอาจคล้ายกับเลขห้าจนเธอตาลายเข้าผิดห้อง
“ออกไป
”
“เอ่อ ขอโทษค่ะ”แทยอนกล่าวเสียงสั่นเครือเมื่อถูกไล่อย่างไม่เป็นมิตร มันน่าจะเป็นเรื่องขันมากกว่ามานั่งจ้องเอาเรื่องให้ตายกันไปข้าง แทยอนเจื่อนหน้าลงเล็กน้อยแล้วเดินคอตกออกจากห้อง แต่เมื่อแทยอนออกไปแล้วเธออาจไม่รับรู้อะไรบางอย่าง
“คิก คิก
ตลกจัง” หญิงสาวว่าพลางหัวเราะร่วนเมื่อนึกถึงสีหน้าสำนึกผิดของแทยอน
นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ไม่ได้ราบรื่นนัก แทยอนปั้นหน้าบึ้งขณะวางของเยี่ยมลงบนโต๊ะเล็กภายในห้องพักของน้า อีจีส่งสายตามาให้หลานสาวเป็นปรายๆ
“มาเยี่ยมฉันยิ้มสักนิดก็ไม่มี”
แทยอนหันมายิงฟันให้ก่อนจะหุบลงอย่างรวดเร็ว
“เรียนเป็นไงบ้าง?”อีจีแค่นเสียงถามอย่างสงสัย แทยอนยิ้มประหม่าเล็กน้อย “ก็ไม่ได้ดีเด่อะไรหรอกค่ะ ก็แค่ติดศูนย์คณิตไปทั้งสองตัว และภาษาอังกฤษได้เกรดสอง”
“เธอจะสอบเข้ามหาลัยได้ไหมเนี่ย?”
แทยอนยิ้มแทนที่จะตอบคำถาม นั่นสิ เธอไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน ต่อมหาวิทยาลัยเพื่อจบมาแล้วมีงานทำ เธอไม่ได้สนเรื่องนั้นเลยสักนิด เพียงแต่ใช้ชีวิตไปวันๆโดยไร้ผู้ชี้แนะ แต่ต่อให้มีผู้ชี้แนะเธอคงไม่คิดติดใจอะไร
แทยอนยกกระเป๋าพาดที่บ่าก่อนจะหันไปยิ้มให้อีจี “ขอให้หายไวๆนะคะ”
วันนี้มีคนแปลกหน้าท่าทางพิลึกเข้าห้องผิดดันไปเข้าห้องพักระดับวีไอพีอย่าง ฮวัง มิยอง หรือ ทิฟฟานี่ เข้า ทิฟฟานี่อารมณ์ไม่ดีตั้งแต่เช้าเมื่อเห็นว่าคนแปลกหน้าคนนั้นทำท่าละเมียดละอายใจเธอถึงได้ยิ้มเก้อมีความสุขจนถึงบัดนี้ ทิฟฟานี่ออกจากห้องพักเพื่อเดินพักผ่อนหย่อนใจเป็นการส่วนตัว จะกล่าวให้ถูกต้อง นี่เป็นวิธีเดียวที่เธอจะหลุดพ้นจากบ่วงการแพทย์
ทิฟฟานี่ถือฟรุตสมบัติอันล้ำค่าเพียงชิ้นเดียวของเธอ
หญิงสาวหลีกเลี่ยงการสวมชุดคนป่วยมาเป็นระยะเวลาสี่ปีย่างเข้าปีที่ห้าในไม่อีกกี่วันข้างหน้านี้ ด้วยอายุเพียงสิบสามปีเธอไม่สามารถทนกับสภาวะภายนอกได้ หากอาการป่วยยังดันทุรังทำลายภูมิต้านทานของเธอ อาการป่วยของทิฟฟานี่แตกต่างจากคนป่วยผู้อื่นมากนัก หลายโรคแทรกซ้อนปนเปไปหมด จนมันทำร้ายความฝันของเธอได้ในเพียงพริบตาเดียว
ทิฟฟานี่ฝันอยากเป็นนักร้องเมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้เธอก็ยังฝันถึงเรื่องนี้และร้องไห้อยู่บ่อยครั้ง
มือเล็กแสนจะบอบบางยกเลื่อนขึ้นมากุมหัวใจมันดังตึกตึก ทิฟฟานี่คิดเสมอว่าตนยังหายใจ ยังมีชีวิตอยู่ไม่ควรจะท้อแท้ ... แค่ไอ้โรคลิ้นหัวใจรั่วไม่สาหัสหนักหนา แต่ลิวคีเมีย มะเร็งเม็ดเลือดขาว สิ่งนี้ที่ชอบทำร้ายตัวเธอให้เจ็บปวด
แว่วเสียงฟรุตดังขึ้นอันที่จริงแทยอนไม่สนใจนักตั้งแต่เธอย่างเท้าออกมานอกตัวโรงพยาบาลแต่เมื่อเธอได้ยินเสียงเพลงที่แฝงไปด้วยความนุ่มลึกและฉีกกระฉากกรีดร้องขึ้นราวกับบทเพลงของปีศาจร่ำไห้ แทยอนจึงได้แต่ฉุกใจยืนนิ่งไม่ไหวติ่ง
ใครกันหนอช่างดลใจเป่าฟลุตในเวลานี้ หากแต่เป็นคุณหมออาจไม่ใช่ และนางพยาบาลนั้นคงไม่เลี่ยงงานมาสนใจงานอดิเรก อาจจะเป็นคนไข้ที่นี่ก็เป็นได้ แทยอนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง อาจเพราะเธอนึกเฉลียวใจขึ้นมาบ้างแม้ไม่ใช่เรื่องของเธอเลยสักนิด
แว่วเสียงเพลงขาดช่วงไปอย่างฉับพลัน แทยอนเพียงแต่ก้าวเท้าออกจากโรงพยาบาลก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน
แววตาของทิฟฟานี่เบิกกว้างขึ้นพร้อมกับละฟรุตจากริมฝีปาก มือข้างซ้ายรีบป้องริมฝีปาก “แค่ก...” เธอไอออกมาทรมานเจ็บแสบที่ช่วงท้อง ริมฝีปากซีดแห้งผากกับรอยเลือดที่เปื้อนมุมปาก ทิฟฟานี่จ้องมือที่เปื้อนด้วยเลือดแล้วเจื่อนหน้าลงเหมือนทุกครั้ง
“ทิฟฟานี่!”
ทิฟฟานี่ได้ยินเสียงเรียกชื่อเธอดังแว่วมาจากชานบันไดจึงได้หันไปอย่างสนใจ หมอสาวปริญญาเอกวิ่งถลามาหาเธออย่างรีบเร่ง มือเรียวกอบกุบมือเปื้อนเลือกของทิฟฟานี่ ทิฟฟานี่ลอบมองหน้าของหญิงสาวซึ่งดูตื่นตกใจ
ลี จียอน เป็นหมอประจำตัวทิฟฟานี่ เท่ากับว่าทิฟฟานี่เป็นคนไข้ของเธอ “...อย่าออกมาแบบนี้อีก เข้าใจไหม!!” น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความกล้ำกลืน ทิฟฟานี่ฟังด้วยความรู้สึกใจสั่นก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา ทิฟฟานี่จึงได้แต่กุมมือของคุณหมอสาวไว้แน่น
“ขอโทษค่ะ ลีน่า ฉันขอโทษ”
ลีน่าขมวดคิ้วพลางว่าเสียงอ่อย “ขอโทษทำไม เธอไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย”
“ให้ฉันออกไปจากที่นี่เถอะ... ลีน่า ฉันเบื่อโรงพยาบาลเต็มทนแล้ว!! ขอร้องนะ ถ้าเป็นคุณ คุณต้องช่วยฉันได้แน่ๆ”
คำอ้อนวอนจากผู้หญิงที่อายุเพียงสิบแปดปีบางครั้งทำให้ลีน่ารู้สึกใจอ่อนขึ้นมาทันใด
“พรุ่งนี้ หมอจะพาเธอไปเที่ยว”ลีน่าบอกพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน ทิฟฟานี่บีบมือของลีน่าแน่นกว่าเดิมเป็นการย้ำคำสัญญาที่ลีน่าควรจะพูดย้ำอีกครั้ง “หมอสัญญานะ แต่ตอนนี้เธอต้องกลับไปพักผ่อนเสียก่อน”
“โอะ...”ทิฟฟานี่ร้องออกมาเสียงดังแล้วล้มลงนั่งกับพื้น ลีน่าจ้องทิฟฟานี่โดยที่รู้สึกสงสารก่อนจะโค้งตัวลงมาคุยกับทิฟฟานี่
“อาการที่ขาของเธอยังไม่แข็งแรงนัก”
“ตั้งแต่ห้าปีที่แล้วก็ไม่เห็นว่ามันจะดีขึ้นเลยสักนิด เพราะมันทำให้ฉัน...ฮือๆ”ทิฟฟานี่แผดเสียงบอกอย่างเคียดแค้นแล้วร้องไห้ออกมา ถูกอย่างที่ทิฟฟานี่บอกห้าปีที่แล้วประสบอุบัติเหตุพลาดการแข่งขันรอบสุดท้ายของการเป็นนักร้องมันช่างเป็นความอัปยศที่น่ารังเกียจ
ฉันไม่อยากให้คุณเห็นฉันในสภาพที่อ่อนแอแบบนี้ ไม่อยากให้คุณต้องมามองฉันด้วยความรู้สึกสงสาร ไม่อยากให้คุณมองฉันว่าฉันเป็นเพียงแค่คนไข้ ทิฟฟานี่ร้องไห้อย่างกลั้นไม่อยู่ มือขวายังคงบีบกำฟลุตแน่นหากเธอมีแรงเยอะมันคงแตกหักเป็นเสี่ยงๆ
“หมอขอโทษนะที่ดูแลเธอไม่ดี หมอให้เธอขี่หลังเอาไหมจนกว่าจะถึงห้องเลย”ลีน่าว่าพลางนั่งหันหลังให้ทิฟฟานี่ทิฟฟานี่ยิ้มบางๆก่อนจะใช้แขนโอบคอของลีน่า เมื่อร่างลอยสูงเหนือพื้น ทิฟฟานี่แนบตัวชิดกับแผ่นหลังของลีน่า หากลีน่ายอมเป็นขาให้เธอตลอดไปมันคงจะดี
แต่มันคงเป็นไปด้วยไม่ได้ดีแน่ ทิฟฟานี่สังเกตเห็นคุณหมอเพื่อนสนิทของลีน่าโบกมือทักก่อนจะเหลียวมามองใบหูที่เริ่มร้อนผ่าวของลีน่า ตราบใดมี่หมอมีคนที่รักอยู่แล้ว ทิฟฟานี่อาจจะเป็นได้แค่คนไข้ตลอดไป สถานภาพที่มีเส้นใยบางๆกั้นอยู่
“วันนี้วันหยุดเธอไม่เห็นต้องไปทำงานเลยนี่นา”ดาน่ากระซิบเสียงหวานขณะนอนกอดรั้งร่างของลีน่าไว้ ลีน่าขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่ว่าอะไรหล่อนแกะมือดาน่าออก
“สัญญาไว้แล้วนี่”
ดาน่าปั้นหน้าบึ้งไม่พอใจ
“ขอโทษนะ”ลีน่าบอกแล้วเดินออกจากห้องแต่ยังไม่ทันที่จะก้าวเท้าออกจากห้องดาน่ากลับเดินมาขวางโดยไม่ยอมแน่นอน “ถ้าเธอออกไป เราเลิกกัน ถ้าเห็นเด็กคนนั้นดีกว่าฉัน”
ฉันกลัวลีน่า กลัวเธอรักเด็กคนนั้นมากกว่าฉัน ดาน่าคิดในใจอย่างหึงหวง
“ทิฟฟานี่เป็นคนไข้ของฉัน ฉันเป็นหมอจะให้ผิดต่อคนไข้ ฉันทำไม่ได้”
“จะเลิกกันใช่ไหม แค่พาไปเที่ยวไปวันอื่นก็ได้นี่ แล้วฉันเป็นอะไร?? คนรัก แฟน ... หรือ คู่นอน”ดาน่าว่าพลางจ้องลีน่าด้วยสายตาขุ่นเคือง สุดท้ายลีน่าก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ต่อสายตาคู่นั้น “ก็ได้ ไม่ไปก็ไม่ไป หายโกรธหรือยัง?”
“กินยาเถอะค่ะ”
“ไม่... หมอล่ะ หมอไปไหน ทำไมวันนี้หมอถึงไม่มาตามนัด”ทิฟฟานี่ถามเสียงโมโหแล้วผลักถาดยาออกห่างจากตน “หมอใจร้าย ไหนหมอบอกว่าหมอจะมาไง!!”
“วันนี้คุณหมอลียังไม่ได้มาทำงานเลยค่ะ โทรมาลาตั้งแต่เช้าแล้ว”นางพยาบาลตอบแล้ววางถาดยาลงบนเคาเตอร์ “ทิฟฟานี่เธอมีทำกายภาพบำบัดตอนบ่ายนะ รีบทานยาเถอะค่ะ”
ทิฟฟานี่ไม่หันมามองนางพยาบาลเธอเพียงรอให้หล่อนออกไปเท่านั้น เมื่อเสียงประตูปิดลงทิฟฟานี่รีบหุบหน้าปล่อยโฮอย่างเจ็บปวด ทั้งที่เป็นสัญญาแล้วแท้ๆ เธอกลับเห็นเป็นเพียงการกระทำเพียงปากเปล่า นอกจากลีน่าแล้วทิฟฟานี่ไม่คิดจะเชื่อใจใครอีกต่อไป ตอนนี้เธอไม่อยากจะเชื่อใจลีน่าอีกต่อไปแล้ว
ไม่อยากจะเชื่อใจพระเจ้าด้วยเช่นกัน!
ซวบ! พลั่ก!
“เหวออออออออออออ!!!”แทยอนร้องเสียงหลงเมื่อร่างของเธอถูกยกทุ้มโดยไม่ทันได้ตั้งตัวแผ่นหลังบางกระแทกกับเบาะอย่างแรง “...เจ็บ” แทยอนบ่นขณะเป่าลมออกจากปาก สายตาจับจ้อง ควอน ยูริ กัปตันทีมยูโด ทั้งสวย ทั้งเท่ แล้วยังปราดเปรื่องเทียบกับแทยอนแล้วมันช่างไม่มีอะไรถีบตัวเองขึ้นได้ แม้กระทั่งส่วนสูง
“เหม่ออะไร แทยอน ขืนเป็นแบบนี้ลูกกระจ๊อกมือขวาของฉันคงทำฉันขายหน้า”ยูริว่าเสียงหน่ายแล้วหันไปโบกมือให้กับเจสสิก้าและซอฮยอน
แทยอนรีบลุกขึ้นแม้จะทำได้ยากเย็น
“ใครเป็นลูกกระจ๊อกของเธอ!”แทยอนขึ้นเสียงสูงเบื่อไอ้เพื่อนสนิทที่ชอบทำทีท่าดีกว่าถึงจะเป็นความจริง ... ยูริยกมือขึ้นลูบหัวแทยอนอย่างเอ็นดู
“โอ๋ๆ ที่รักอย่าโกรธเค้าเลยน๊า”
“แหวะ! ที่รักอยู่โน้น ว่าแต่คนไหน?”แทยอนว่าพลางหันมาทำสายตาเจ้าเล่ห์ ว่าสองสาวตรงนั้นคนไหนเป็นตัวจริงแต่ยูริกลับไม่ตอบคำถามเอาแต่ยิ้มกว้าง แทยอนปาดเหงื่อที่ไหลทั่วหน้าผากย้อยมาถึงปลายคาง ยูริกอดอกแน่น
“นี่ วันนี้เป็นอะไร ทำไมทำได้ไม่ดีกว่าครั้งก่อนๆ”
“เหรอ ฉันกลับบ้านก่อนล่ะกัน” แทยอนเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อเพื่อทำการเปลี่ยนชุด ยูริได้แต่ขมวดคิ้วมองตามอย่างเป็นห่วงก่อนจะรีบวิ่งรี่ไปหาเจสสิก้า
ซอฮยอนตรงเข้ากอดยูริอย่างอารมณ์ดี
“อึ๋ย...”ยูริร้องออกมาเสียงตกใจ
“ฉันมารอแทยอนน่ะ ไม่ได้มาหาเธอ”เจสสิก้าพูดดักคออย่างไร้เยื่อใยอันที่จริงเธอเห็นว่ายูริมีใครคอยดูแลอยู่แล้วเธอไม่จำเป็นต้องเข้าไปดูแลอีกคน ยูริพยักหน้าอย่างผิดหวังแล้วก้มหน้าคุยกับซอฮยอน
เจสสิก้ารีบผละถอยเดินออกไปรอหน้าโรงยิมแทนที่จะมาเห็นอะไรบาดจิตบาดใจ
“เจส ยังไม่กลับบ้านเหรอ?”แทยอนทักเสียงใส เจสสิก้าเห็นยูริเดินออกมาพร้อมกับซอฮยอนก็รีบคว้าแขนของแทยอนไปควง “แทยอนกลับบ้านกันเถอะ...”
เมื่อเห็นสีหน้าตะลึงตกใจของยูริถึงได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แทยอนแสร้งเดินออกไปพร้อมกับเจสสิก้าแล้วนึกหัวเราะกับท่าทีหมาหวงก้างแบบนั้น แทยอนกับเจสสิก้าแยกทางกันเพราะบ้านของแต่ละคนอยู่ห่างออกจากกันมาก แต่เจสสิก้ายังมิวายลืมเตือนแทยอนว่าช่วงนี้พวกแก๊งรถมอเตอไซด์ซิ่งกลับมาอีกแล้วหลังจากข่าวถูกจับกุมได้ซาไประยะเพียงสองเดือน
“เธอตะหาก รีบกลับบ้านเถอะ”แทยอนว่าพลางดันเรื่องเพื่อนตัวดีให้รีบกลับบ้านโดยไม่ต้องเป็นห่วงเธอ
ระหว่างแทยอนเดินกลับบ้าน เสียงหนึ่งที่ทำให้เธอต้องหันควับไปมองคือเสียงกรีดร้องของผู้หญิงคนนึงแทยอนวิ่งเข้าไปหาต้นเสียงก่อนจะเกือบหน้าหงายเมื่อท่อเหล็กถูกเหวี่ยงเข้าใส่อย่างแรง แทยอนก้มตัวลงได้อย่างหวุดหวิด
“ผู้หญิงเหรอเนี่ย คิดว่าใครที่ไหนซะอีก ไม่ต้องลงแรงอะไรมาก”
แทยอนจ้องผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งถูกรวบตัวกอดไว้แน่น “แกปล่อยผู้หญิงสิ! รู้ไหมว่าแถวนี้ตำรวจเยอะ”
“อย่ามาขู่ให้ยาก นังนี่ไม่ยอมไปกับพวกเราดีๆ เลยต้องใช้วิธีลักพาตัวขึ้นรถไปด้วยกันไงจ้ะ น้องสาว”ลูกพี่ของแก๊งรถซิ่งพูดขึ้นแล้วลูบไล้ขาของตัวประกันแสนน่ารัก “ช่วยด้วย-อุบ” ริมฝีปากถูกอุดปิดสนิท แทยอนกำกระเป๋าในมือแน่น
“หรือว่าเธออยากจะไปกับพวกเราด้วย”
“ห่ะ- เดี๋ยว!”แทยอนร้องลั่นเมื่อถูกล็อกแขน
“หน้าตาก็น่ารักไม่เลวนี่นา”คนหนึ่งพูดขึ้นแล้วใช้มือไล้หน้าของแทยอน -
พลั่ก! แทยอนใช้หัวเสยคางเพื่อให้ตัวเองดิ้นหลุดออกจากกับจับกุม พร้อมกับเหวี่ยงกระเป๋าฟาดใส่หน้าพวกที่เหลือที่จะมากระชาก อย่าลืมว่าแทยอนน่ะเป็นนักกีฬายูโดมือขวาของทีม แทยอนคว้าตัวผู้ชายตัวสูงที่กำลังกางแขนรวบตัวเธอมาทุ่มแล้วคว้าท่อนกระบองเหล็กมาฟาดใส่กลางหลังของลูกพี่หัวหน้า
“ระวัง!”
แทยอนได้ยินเสียงร้องเตือนแต่สถานะในตอนนั้นแทยอนไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน
ฉึก!! มีดพกแทงเข้าที่ท้องของหญิงสาวก่อนจะกระชากออกอย่างรวดเร็ว แทยอนใช้มือปิดปากแผลแน่นขณะที่เลือดแดงสดกำลังไหลปริออกมาเรื่อยๆ แล้วทรุดตัวลงนั่งกับพื้น เสียงเร่งเครื่องรถมอเตอไซด์ดังขึ้น รถสามสี่คันทยอยหนีออกจากตรอกซอยแคบ
“พี่แทยอน...พี่แทยอน เป็นอะไรไหมคะ!!!”
นั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่แทยอนได้ยินชัดแต่กลับไร้เรี่ยวแรงในการพูดตอบกลับออกไป กว่าจะรู้ตัวร่างของเธอนั้นได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว
ทิฟฟานี่นั่งอยู่บนรถเข็นเธอจ้องมองร่างที่นอนนิ่งอยู่บนเปลขณะทำการเคลื่อนย้ายเข้าห้องไอซียูอย่างเร่งรีบ คงลำบากหน่อย หมอประจำช่วงดึกน้อยเป็นพิเศษ ยิ่งเป็นวันหยุดแล้วล่ะก็ ... ทิฟฟานี่นึกถึงลีน่าก่อนจะยิ้มเฝื่อน เธอหันไปหาตำรวจสามนายที่ยืนอยู่หน้าห้องไอซียูก่อนจะเบือนหน้าหนีแล้วบังคับรถเข็นกลับไปที่ห้องของเธอ
ยูริพยุงแขนคุณนายคิมมาอย่างระมัดระวัง “แทยอน... แทยอน” น้ำเสียงของผู้เป็นแม่เริ่มสั่นเครือระหว่างรอดูอาการของลูกสาวที่ยังไม่ออกมาจากห้องไอซียู ยูริกัดฟันกรอดด้วยความโกรธแค้นเธอไม่สามารถให้ปากคำกับตำรวจได้นอกจากผู้หญิงที่เป็นเหยื่อกำลังพยายามเล่าเหตุการณ์ให้ฟังน้ำเสียงสั่นเครือ
“มันเป็นใคร!”ยูริถามเสียงดุดันขณะกระชากแขนของผู้หญิงคนนั้นอย่างแรง
“ฉันไม่รู้”
“มันหน้าตายังไงกัน!! ฉันจะไปเด็ดหัวมัน!!”ยูริแทบยั้งอารมณ์โกรธไม่อยู่ที่ต้องมาเห็นเพื่อนได้รับอันตราย แรงบีบข้อแขนเล็กข้างนั้นกลับทวีคูณขึ้นจนตำรวจสองคนต้องมาช่วยดึงยูริออกห่าง
“ขอโทษนะครับ ตอนนี้พวกเรากำลังสอบถามคุณอิมยุนอาให้มากที่สุด คุณอิมยุนอาเชิญทางนี้ครับ”
ก่อนที่ยูริจะพุ่งเข้าไประรัวคำถามกลับหยุดความคิดลงเสียเมื่อประตูห้องไอซียูถูกเปิดออกพร้อมกับร่างท้วมของคุณหมอในชุดกราวด์สีขาวบริสุทธิ์ ยูริจ้องสีเลือดแดงสดซึ่งแปดเปื้อนบริเวณถุงมือแล้วรีบพยุงร่างที่ซวนเซของคุณนายคิมบางทีเธออาจไม่ชอบเลือด
“คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ แต่ร่างกายนั้นอ่อนเพลียมากทีเดียว เพราะสูญเสียเลือดเยอะ หมอขอความร่วมมืออย่าเพิ่งเยี่ยมไข้นะครับ”
คุณนายคิมพยักหน้าพร้อมน้ำตาคลอด้วยความดีใจที่แทยอนปลอดภัยก่อนจะมองร่างแทยอนถูกยกเข็นไปห้องพักสำหรับพักฟื้น ยูริบีบมือของคุณนายคิมเป็นระยะๆ
“แทยอนไม่เป็นไรแล้วล่ะคะ คุณแม่กลับบ้านไปพักผ่อนก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวหนูไปส่งนะคะ”ยูริบอกพลางหันไปมองแทยอนบนเตียงเข็นซึ่งหายไปในลิฟท์
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น